Blognone เคยรีวิวแฝดพี่อย่าง Motorola RAZR ไปแล้วเมื่อปลายปีก่อน วันนี้ถึงคิวของแฝดน้อง RAZR MAXX ที่สเปกเหมือนกันทุกประการ ยกเว้นการอัดแบตเตอรี่มาเพิ่มอีก 85% (จาก 1780mAh มาเป็น 3300mAh) กันบ้างครับ
RAZR MAXX วางขายในไทยแล้วด้วยราคา 17,900 บาท เนื่องจากว่ามันเหมือนกับ RAZR ตัวเดิมแทบทุกอย่าง (รหัสยังเป็น XT910 เหมือนกัน) ดังนั้นรีวิวชิ้นนี้จะโฟกัสแค่ 2 ประเด็นสำคัญคือแบตเตอรี่ และซอฟต์แวร์ที่ได้อัพเกรดเป็น Android 4.0 เรียบร้อยแล้ว ประเด็นอื่นย้อนไปอ่านในรีวิวของ RAZR กันเองนะครับ
หน้าตาของ RAZR MAXX ด้านหน้าเหมือนกับ RAZR มาก จะมีต่างไปเล็กน้อยก็ตรงขอบของตัวเครื่องและโลโก้ที่เปลี่ยนสีไปเล็กน้อย (ประเภทจากสีเงินเป็นดำหรือจากดำเป็นเงิน ซึ่งแทบไม่รู้สึกอะไร)
เผอิญว่าผมไม่มี RAZR ต้นฉบับมาวางถ่ายรูปเทียบ ก็ดูภาพจากรีวิวเก่ากันเอง
ส่วนด้านหลัง-ข้างของตัวเครื่อง พอมีเรื่องความจุแบตที่เพิ่มเข้ามาทำให้ RAZR MAXX หนาขึ้นพอสมควร รูปทรงของเครื่องเปลี่ยนจากเครื่องแบนๆ ปูดเฉพาะด้านบน กลายมาเป็นทรงแท่งสี่เหลี่ยม candybar ตามปกติ (ส่วนกล้องยังนูนออกมานิดๆ แต่แทบไม่รู้สึก)
ถ้าดูจากสเปกอย่างเป็นทางการแล้ว RAZR MAXX หนา 8.99 มิลลิเมตร ถ้าวัดในแง่ตัวเลขจะถือว่าเพิ่มขึ้นจาก RAZR 7.1 มิลลิเมตรอีกพอตัว แต่ในความเป็นจริงแล้ว RAZR MAXX ก็ไม่ถือเป็นมือถือที่เรียกว่า "หนา" ได้เต็มปาก (เทียบกับ Nexus S ที่ผมใช้อยู่แล้วยังบางกว่า)
นอกจากนี้ การที่มันเพิ่มความหนาเข้ามากลับช่วยแก้ปัญหาของ RAZR ที่บางเกินไปจนหยิบจับไม่สะดวก กลายเป็นว่า RAZR MAXX หยิบได้กระชับมือมากขึ้นกว่าเดิมอีกต่างหาก (มือถือบางๆ มีดีเฉพาะตอนโฆษณามันดูดีเท่านั้นเอง)
วัสดุด้านหลังของ RAZR MAXX ยังเป็นเคฟลาร์เช่นเดิม และใช้ลายแบบเดียวกับ RAZR ซึ่งถ้าเราดูจากทิศทางการออกแบบของ Motorola คาดว่าต่อไปมือถือรุ่นท็อปๆ น่าจะใช้ด้านหลังเป็นเคฟลาร์กันหมด แค่เปลี่ยนลายให้ต่างไปในแต่ละรุ่นเท่านั้น
หน้าจอเป็น Super AMOLED 4.3" 540x960 แบบ PenTile เหมือนเดิม ในการใช้งานทั่วไปไม่มีปัญหา สีสดใส ดูในแสงจ้าได้ดี แต่ถ้าเทียบกับมาตรฐานความละเอียดแบบ HD ของมือถือรุ่นใหม่ๆ อย่าง HTC One X หรือ Galaxy S III ก็ถือว่ายังด้อยอยู่บ้างในแง่ความคมชัดของข้อความ
RAZR ตัวแรกออกวางขายตั้งแต่ปลายปี 2011 พร้อมกับ Android 2.3 แต่เพิ่งจะได้อัพเกรดเป็น Android 4.0 ICS เมื่อเดือนมิถุนายนนี้เอง กรณีของ RAZR MAXX ตัวนี้เลยมาพร้อมกับ ICS ด้วย ซึ่งถือเป็นพัฒนาการที่ดีขึ้นจากรอมตัวเดิมของ Motorola ดังนั้นก็ขอพูดถึงสักหน่อยนะครับ
Android 4.0 เวอร์ชันของ Motorola ถือว่าคล้ายคลึงกับ Android 4.0 เวอร์ชันของกูเกิล (AOSP) มาก ถ้าไม่นับเรื่องของธีมไอคอนที่ต่างออกไปบ้าง ตัว launcher, lockscreen และ app drawer หน้าตาแทบเหมือนกันทุกประการ ชนิดว่าคนที่เคยใช้ ICS มาก่อนแล้วแทบไม่ต้องปรับตัวอะไรเลย
จุดที่ต่างออกไปมีเพียง Android ของ Motorola ไม่ได้ฝังกล่องค้นหาของกูเกิลไว้ในทุก homescreen แบบเดียวกับ AOSP และมีพวก widget พิเศษเพิ่มมาให้เล็กน้อย (เช่น เบอร์คนสนิท หรือ toggle เปิดปิดการทำงานต่างๆ) ช่วยอำนวยความสะดวกได้บ้าง
อันที่ผมว่าทำไม่ดีเลยคือภาพพื้นหลังที่มากับรอมของ Motorola ทำออกมาได้แย่มาก กราฟิกไม่สวยและลายตา น่าจะหาภาพได้ดีกว่านี้สักหน่อย (หรืออย่างน้อยๆ ถ้าคิดไม่ออก แถมภาพจาก AOSP มายังจะดีกว่า)
ฟีเจอร์เด่นๆ ของรอม Motorola รุ่นก่อนที่ตามมาด้วยในรุ่นนี้ได้แก่
รายละเอียดของแอพพวกนี้อ่านในรีวิวของ RAZR ต้นฉบับนะครับ หน้าตาและการใช้งานเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย
ฟีเจอร์ที่ถูกถอดออกไปได้แก่ Task Manager, Data Manager (เปลี่ยนมาใช้ของ ICS แทน) และ Social หรือตัวดูด feed จาก social network ต่างๆ
แอพจากบริษัทอื่นที่แถมมากับรอมได้แก่ Citrix GoToMeeting, Citrix Receiver, Quickoffice และ Bejeweled 2
การใช้งานโดยรวมแล้วถือว่าดีกว่า Gingerbread มาก
มาถึงเรื่องสำคัญ จุดขายเพียงอย่างเดียวของ RAZR MAXX คือแบตเตอรี่สุดอึดนั่นเองครับ ผมลองทดสอบการใช้งานจริงด้วยเงื่อนไขดังนี้
ผมทดสอบแบบนี้อยู่ 4 วัน ได้ผลลัพธ์ออกมาดังนี้
ผ่านไปวันแรก แบตเหลืออยู่ราว 60% (แปรผันตามการใช้งานในวันนั้นๆ ด้วย) พูดง่ายๆ ว่าอยู่ได้เกินวันแน่นอน
แบตจะอยู่ได้นานราววันครึ่ง (คือผ่านการใช้งานตอนกลางวัน 2 วัน) และแบตจะเริ่มแตะระดับ 10-15% ช่วงเย็นถึงค่ำของวันที่สอง (เวลาเปิดหน้าจอรวมประมาณ 5-6 ชั่วโมง)
ถ้ามีแพทเทิร์นการใช้งานคล้ายๆ กับผม ก็แปลว่า เราสามารถชาร์จ MAXX แบบวันเว้นวันได้นั่นเองครับ (สำหรับคนที่ใช้หนักกว่าผมก็อาจจะชาร์จทุกวัน แต่ตอนเย็นๆ ค่ำๆ ของวันแรกก็ไม่ต้องพะวงว่าแบตจะหมด)
สรุปว่า MAXX น่าประทับใจมากในเรื่องแบตเตอรี่ ทำได้ดีสมราคาคุย
RAZR ตัวแรกออกขายตั้งแต่ปลายปี 2011 ซึ่งมาถึงวันนี้ RAZR MAXX ที่สเปกเหมือนกันแทบทุกอย่างยกเว้นแบต ไม่ใช่มือถือตัวท็อปในตลาดอีกแล้ว ซีพียูยังเป็นแค่ดูอัลคอร์ กล้องก็กลางๆ จอยังไม่ถึงระดับ HD หรือแม้แต่ซอฟต์แวร์เองก็เพิ่งได้ ICS ในจังหวะที่ Jelly Bean ออกด้วยซ้ำ
แต่แบตเตอรี่ 3,300 mAh ต้องบอกว่านี่คือ killer feature ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนตัวไหนในท้องตลาดมาเทียบเคียงได้
ผมทดสอบมือถือมาพอสมควร เจอมือถือสเปกแรงมาก็มาก แต่ RAZR MAXX เป็นหนึ่งในมือถือไม่กี่ตัวที่ผมอยากใช้เป็นมือถือเครื่องหลักที่พกติดตัวไปตลอด ด้วยเหตุผลข้อเดียวว่าเราสามารถใช้งานมันได้อย่างไม่ต้องพะวงว่าแบตจะหมด ซึ่งเป็นความรู้สึกที่หายไปนานแล้วตั้งแต่ยุคทองของสมาร์ทโฟนเริ่มต้นขึ้นเมื่อหลายปีก่อน
พก RAZR MAXX ติดตัวแล้วไม่ต้องคิดถึงเรื่องสายชาร์จหรือบูสเตอร์อีกต่อไป สามารถใช้งานมันได้อย่างเต็มที่ตลอดวัน กลับมาบ้านยังเหลือแบตอีกเกินความต้องการ ส่วนในมิติอื่นๆ คือสเปกมันแรงพอตัว (ถึงแม้จะเริ่มเก่า) และการได้อัพเป็น ICS ก็ช่วยให้ประสบการณ์การใช้งานดีกว่าเดิมเยอะมาก
จุดอ่อนที่สำคัญของ RAZR MAXX ในตอนนี้คงเป็นเรื่องราคา 17,900 บาท ที่ต่างจาก RAZR รุ่นแรกที่ลดลงมาเหลือ 12,900 บาทอยู่เยอะ (ทั้งที่ต่างกันแค่ความจุแบต เพราะ ICS ก็ได้เหมือนกันทั้งสองรุ่น) อันนี้คนที่สนใจซื้อก็คงต้องชั่งน้ำหนักกันเอง หรือไม่ก็รอ RAZR MAXX ลดราคาลงมาในอนาคต (ซึ่งเราก็กำลังจะเห็นตัวต่ออย่าง RAZR HD ในเร็วๆ นี้แล้ว)
ผมประทับใจแนวทางการเพิ่มแบตของ RAZR MAXX มาก และหวังว่าจะได้เห็นมือถือแบตอึดๆ แบบนี้จาก Motorola อีกในอนาคตครับ (จริงๆ มันควรเป็นฟีเจอร์มาตรฐานเลยนะ)
รีวิวจากที่อื่นๆ ลองดูของ Droidsans ประกอบการตัดสินใจ
Comments
สุดยิ่ด เทพมาก
Coder | Designer | Thinker | Blogger
จะซื้อผิดไหมเนี่ย
หนาขึ้นนิดหน่อย ดีกว่าบางๆ แล้วแบตน้อยแหะ
iPhone ใหม่น่าเอาอย่างนะ
ราคาต่างเยอะจัง
เครื่องยังอยู่หรือเปล่าครับ > <? รบกวนช่วยลงภาพจาก GSam Battery Monitor หรือ BetterBatteryStats ทีได้ไหมครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
GSam ลงไปแล้วเดี๋ยวรอค่ำๆ เอามาแปะให้นะครับ ส่วน BetterBatteryStats เป็น paid app ผมคงไม่ซื้อครับ
ครับผม ขอบคุณครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ไม่แน่ใจว่าอยากได้ข้อมูลอะไรบ้าง โพสต์ไว้ที่นี่ครับ
ราวๆนั้นแหละครับ ขอบคุณมากครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ลายเคฟล่าเหมือนลายสานพัดเลยอ่ะ
รอ S3 max #ห๊ะ
รอราคาลงมาที่หมื่นต้นๆ ค่อยว่ากัน
อยากให้มือถือมีแบบนี้เยอะๆ ครับหนาหน่อยผมรับได้ ขอแบตอึดๆๆๆๆ
ทรงสวยกว่าเดิมอีก
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ถ้าราคาสัก 16900 ไรงี้น่าสนกว่าเยอะเลย -*- เหมือนมันแพงไปอะ 555
ถ้ามีตังส์คงเอาไปแล้ว T_T
แบตหนา หนักมั๊ยคะ?
อย่างเจ้าGNote ที่ใช้อยู่ แบต 2500 น้ำหนักก็พอสมควร
แบตเยอะๆแบบนี้แหละเจ๋งจริง
ผมเอามาเป็นปัจจัยหลักเวลาเลือกซื้อ Smartphone เลย แล้ว Spec ขอแค่ไม่หนีกันน่าเกลียดก็พอ
รอราคาลด เหลือสัก 14900 กำลังดี
ปล. หน้าจอมันแป้นมากกกก + กล้องห่วยได้ใจ
ตัวนี้ผมใช้อยู่ ชาร์จสัปดาห์ละครั้ง
ขอบมันใหญ่เกิน (บน ล่าง ซ้าย ขวา)
มันเลยทำให้เครื่องใหญ่ขึ้น (ไม่ใช่หนานะ)
ลองเทียบกับ s2 ที่ใช้อยู่
MAXX มันดูใหญ่ที่ขอบเกิน ไม่สวยเลย
รีวิวซะจนผมอยากจะเปลี่ยนโทรศัพท์เดี๋ยวนี้เลยเพราะส่วนใหญ่ผมจะใช้โทรศัพท์แชร์เน็ตให้มือถือ ทำให้แบตหมดค่อนข้างเร็ว
ฉีกตลาดมาทำแนวใช้งานได้นานๆแบบนี้ น่าสนใจมาก
อยากให้ทุกยี่ห้อมีรุ่นแบตถึงแบบนี้บ้าง...
Dream high, work hard.
ถ้ามาราคาแบบนี้ ผมไปซื้อที่ชาร์ทพกพา หรือแบตอีกก้อน(รุ่นที่เปิดฝาได้) ดีกว่าครับ
ราคาแพงกว่ารุ่น RAZR ปกติ 5,000 บาท
ถ้าจะซื้อใช้ ผมยอมซื้อ RAZR แล้วชาร์จบ่อยๆ ดีกว่า
แบตทนสู้ 3310 ได้มั้ยครับ
ที่ราคาแพงน่าจะเพราะแบตเตอรี่นะครับ
มันใหญ่ขึ้น จุมากขึ้นกว่าเดิม ตั้งเยอะขนาดนั้น
อันที่จริงแล้วสินค้าแบตเตอรี้ เป็นสินค้าควบคุม เพราะเป็นสินค้าที่สร้างมลพิษสูง
ผมเคยสั่งซื้อแบตเตอรี่ของ Sony VAIO เจอราคาเข้าไปนี่แทบร้องให้เลยครับ เกือบ 10,000 บาท
แต่ถ้ามันมาพร้อมอุปกรณ์ เช่นมาพร้อมกล้อง มาพร้อมคอมพิวเตอร์ จะไม่ถือว่าเป็นสินค้าควบคุมครับ
ผมว่า รุ่นผมแพงแล้วนะ 5XXX เจอของท่านแพงกว่าอีก =_=
อึดจริงๆ ยังมีรุ่นอื่นอีกไหมที่ใช้งานจริงๆ ไม่ได้แค่รอรับสายอย่างเดียวได้เกิน 12 ชั่วโมงบ้าง
ตอนนี้ Motorola RAZR MAXX 14,500 บาท
ลงมาแล้วๆ