กระบวนการพิจารณาคดีแอปเปิล-ซัมซุงเดินทางมาถึงขั้นตอนเกือบสุดท้ายแล้ว หลังการเจรจารอบสุดท้ายล้มเหลว และศาลได้ออกแบบฟอร์มการพิจารณาคดีสำหรับคณะลูกขุน โดยในขั้นตอนสุดท้ายก่อนแถลงคำตัดสิน ศาลได้เปิดโอกาสให้คู่กรณีสองฝ่ายได้แถลงปิดคดี เพื่อสรุปข้อกล่าวหา ข้อโต้แย้ง พยาน ตลอดจนหลักฐานที่นำเสนอมาอีกครั้ง แล้วลูกขุนจะได้นำพิจารณาในขั้นตอนถัดไป
ก่อนเริ่มต้นการแถลงปิดคดี ผู้พิพากษา Lucy Koh ได้อ่านเอกสารคำสั่งข้อกฎหมาย (instruction) แก่ลูกขุนซึ่งเอกสารนี้ความยาวถึง 109 หน้า โดย Koh ขอให้ลูกขุนและผู้เข้ารับฟังการพิจารณาคดีมีสมาธิเนื่องจากมันยาวมาก เนื้อหาในเอกสารได้แยกย่อยหัวข้อการพิจารณาไว้ 84 หัวข้อ ตั้งแต่การละเมิดสิทธิบัตร การลอกเลียนแบบ ไปจนถึงแบบประเมินความเสียหายที่เป็นตัวเงิน โดยหลังการอ่านเอกสารทั้งหมดเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง ผู้พิพากษา Koh ก็ได้สั่งพักการพิจารณาคดีเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน และเข้าสู่ขั้นตอนการแถลงปิดคดีของแต่ละฝ่ายในภาคบ่าย โดยแต่ละฝ่ายมีเวลาในการแถลงปิดคดีไม่เกิน 2 ชั่วโมง
Harold McElhinny ทนายความของแอปเปิลกล่าวนำว่า สตีฟ จ็อบส์ได้เริ่มโครงการพัฒนา iPhone ตั้งแต่ปี 2003 โดยโครงการนี้ถูกเก็บเป็นความลับในระดับสูงสุด ซึ่งช่วงเวลาตั้งแต่ปี 2004 จนถึงปี 2007 ก่อนการเปิดตัว iPhone นั้น โทรศัพท์ของซัมซุงไม่เคยมีหน้าตาใกล้เคียง iPhone เลย
จนกระทั่งสตีฟ จ็อบส์ได้เขย่าโลกใบนี้ด้วยการเปิดตัว iPhone ในปี 2007 ก็ส่งผลให้ผู้ผลิตทั้งอุตสาหกรรมโทรศัพท์เกิดอยากตามรอยสินค้าที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกตัวหนึ่ง ไม่เว้นแม้แต่ซัมซุง
McElhinny ยังอ้างถึงเอกสารภายในของซัมซุงซึ่งกล่าวชื่นชม iPhone ว่าเป็นวิวัฒนาการอีกขั้นของโทรศัพท์ แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายปีตั้งแต่มี iPhone ซัมซุงก็ไม่ประสบความสำเร็จในตลาดสมาร์ทโฟน จึงเกิดเอกสารภายในที่ว่าด้วยวิกฤตการออกแบบ จนฝ่ายออกแบบของซัมซุงถูกกดดันให้ผลิตสมาร์ทโฟนที่มีหน้าตาใกล้เคียง iPhone ออกมา ซึ่งแม้จะมีหลักฐานที่กูเกิลได้เตือนซัมซุงว่า Galaxy S หน้าตาเหมือนกับสินค้าแอปเปิลเกินไป ซัมซุงก็ไม่สนใจ และใช้เวลาแค่เพียง 3 เดือนในการลอกเลียนแบบโทรศัพท์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ซึ่งพยานที่เป็นฝ่ายออกแบบของซัมซุงได้ยอมรับในเรื่องระยะเวลาต่อศาล
ซัมซุงเปิดตัว Galaxy S ในเดือนมิถุนายนปี 2010 ซึ่งมันก็ขายดีมากจนส่วนธุรกิจโทรศัพท์ของซัมซุงพลิกมีกำไรถล่มทลาย แต่แอปเปิลไม่เห็นเช่นนั้นและได้เริ่มกล่าวหาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีเดียวกันว่าซัมซุงเจตนาลอก iPhone อย่างชัดเจน ทนายแอปเปิลยังกล่าวว่าผู้บริหารซัมซุงเพิกเฉยกับเหตุการณ์นี้แค่ไหน ก็ขอให้ดูจากการที่ซัมซุงส่งตัวแทนมาแค่พยานและทนายความเท่านั้น
มาถึงประเด็นการละเมิดสิทธิบัตรการออกแบบ แอปเปิลกล่าวว่า iPhone และ iPad ได้จดสิทธิบัตรการออกแบบหน้าตาไว้ชัดเจน พยานของซัมซุงก็ไม่มีแม้แต่รายเดียวที่บอกว่า "โทรศัพท์ของสองบริษัทนี้หน้าตาไม่เหมือนกัน" ที่หนักกว่าคือทนายซัมซุงพยายามโต้แย้งว่าซัมซุงไม่ได้ลอกเลียนการออกแบบด้วยรายละเอียดหยุมหยิม ที่เกินกว่ามนุษย์ทั่วไปจะใส่ใจ อันที่จริงการบอกว่าลอกหรือไม่ลอกนั้นควรพิจารณาจากภาพใหญ่ของผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่ไปชี้จุดเล็กๆ น้อยๆ แล้วบอกว่าสองสิ่งนี้แตกต่างกัน อย่างเช่นภาพข้างล่างนี้ได้แสดงว่า UI ของซัมซุงพยายามเลียนแบบ iPhone ชัดเจน หลักฐานบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าซัมซุงลอกเลียนไปถึงโทนสีและรูปภาพในไอคอนด้วยซ้ำ
McElhinny บอกว่าซัมซุงพยายามโจมตีแอปเปิลว่าอ้างการใช้สิทธิบัตรที่ครอบคลุมเกินไปและไม่สมเหตุสมผลเป็นการเลี่ยงบาลีทั้งสิ้น เพราะเวลาทำสมาร์ทโฟนขายนั้นไม่มีความจำเป็นว่าหน้าตาต้องออกมาเหมือน iPhone เสมอไป ตัวอย่างเช่น Lumia หรือ Xperia Arc ก็ไม่ต้องจำกัดว่าเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าโค้งมน การออกแบบที่จดสิทธิบัตรทุกข้อก็ไม่ได้มีลักษณะเกินเหตุ ทุกอย่างอยู่ในกรอบกติกาของกฎหมายทั้งสิ้น
มาถึงการลอกเลียนแท็บเล็ต ทนายแอปเปิลได้อ้างข้อมูลจากร้าน Best Buy ว่ามีลูกค้านำ Galaxy Tab มาขอเงินคืนเป็นจำนวนมาก ซึ่งเหตุผลหลักคือพวกเขาคิดว่ามันเหมือน iPad แต่มันไม่ใช่ นอกจากนี้เขายังสรุปไปถึงการละเมิดสิทธิบัตรส่วนการทำงานว่าซัมซุงไม่สามารถแย้งได้เลยว่าตนไม่ได้ลอกเลียนแอปเปิล
สุดท้ายแอปเปิลได้เสนอค่าเสียหายที่ซัมซุงต้องจ่ายเป็นกรณีๆ โดยคิดจากสองส่วนคือจำนวนเครื่องที่ซัมซุงขายได้ และรายได้ที่ซัมซุงได้มาจากการขายโทรศัพท์เหล่านี้ โดยค่าเสียหายสูงสุดอยู่ที่ 2.48 พันล้านดอลลาร์ และต่ำสุด 519 ล้านดอลลาร์
ลำดับถัดไปซัมซุงจะขึ้นแถลงปิดคดี และตัวแทนฝั่งแอปเปิลสามารถโต้แย้งเฉพาะส่วนที่ถูกพาดพิงได้อีกเป็นครั้งสุดท้าย
Charles Verhoeven ทนายความของซัมซุงกล่าวเปิดการแถลงว่า เห็นได้ชัดว่าแอปเปิลเรียกทุกคนมาในศาลเพื่อขอเงิน 2 พันล้านดอลลาร์ โดยอ้างเหตุต่างๆ นานาว่าเราได้ละเมิดสิทธิบัตร แต่แท้จริงคือการสกัดกั้นการแข่งขันในอุตสาหกรรมทุกรูปแบบ และคำตัดสินลูกขุนอาจส่งผลให้การแข่งขันในตลาดเสรีของประเทศนี้เปลี่ยนไปถาวร ซึ่งในโลกอุตสาหกรรมไอทีได้พิสูจน์เป็นเวลานานแล้วว่าการมีตัวเลือกสำหรับลูกค้า การแข่งขันในตลาด สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นผลดีที่ช่วยให้ประเทศพัฒนาได้
เขากล่าวถึงตลาดโทรทัศน์ว่าที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น โทรทัศน์ที่วางขายเป็นแบบจอแบน และมีการออกแบบสไตล์ minimalist กันทั้งสิ้น สิ่งนี้เป็นการออกแบบตามธรรมชาติและวิวัฒนาการของผลิตภัณฑ์เอง ซึ่งโทรศัพท์ก็เช่นกัน ทุกคนต่างผลิตโทรศัพท์ที่สีดำ ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า หน้าจอสัมผัสกันทั้งสิ้น หรือย้อนไปในอดีตที่ BlackBerry มีชื่อเสียง โทรศัพท์ทุกยี่ห้อก็ต้องมีรุ่นคีย์บอร์ด QWERTY มาขายกัน นี่คือการแข่งขันในตลาดเสรี แต่แอปเปิลพยายามยึดความเป็นผู้คิดค้นโทรศัพท์รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าจอสัมผัสสีดำไว้แต่เพียงผู้เดียว
ทนายซัมซุงยังอ้างถึงผลการทดสอบพยานจากฝั่งแอปเปิล ที่ไม่สามารถชี้แจงได้ชัดเจนว่าผู้บริโภคมีความสับสนในการเลือกซื้อโทรศัพท์ของซัมซุงกับแอปเปิลอย่างไร ซึ่งซัมซุงเองได้พิสูจน์แล้วว่าตนมีความหลากหลายในผลิตภัณฑ์อยู่มากแม้จะมี iPhone ออกมาสู่ตลาดก็ตามที ซึ่งหลักฐานที่คล้ายของแอปเปิลพยายามชี้นำให้ลูกขุนสับสน
Verhoeven ยังบอกลูกขุนว่าในเอกสารคำสั่งข้อกฎหมายส่วนของการลอกเลียนการออกแบบ ได้ระบุไว้ว่าถ้าจะสรุปว่าเหมือนกัน ก็ต้องเหมือนกันแม้รายละเอียดเล็กน้อย ซึ่งพยานฝั่งแอปเปิลก็หลบเลี่ยงที่จะอธิบายว่า Galaxy S 4G ที่กล่าวหาว่าลอกเลียนนั้นเหมือน iPhone อย่างไร โดยไม่ยอมพูดถึง 4 ปุ่มในแถวล่าง หรือฝาหลังที่ไม่ได้เรียบเนียนเสมอกันหมดแบบ iPhone
ในส่วนประเด็นการลอกเลียน iPad ทนายซัมซุงได้ยกโมเดลแรกของ iPad ในการออกแบบที่แสดงต่อศาลว่าด้านหลังถูกออกแบบให้เป็นวัสดุเรียบเนียนชิ้นเดียว ขณะที่ Galaxy Tab 10.1 มีงานด้านหลังเป็นสองชิ้นส่วนประกอบกันชัดเจน สิทธิบัตรการออกแบบ iPad ที่แอปเปิลยกมาอ้างก็ระบุว่าผิวภายนอกต้องดูโปร่ง สะท้อนแสง และมันวาว ซึ่ง Galaxy Tab 10.1 ไม่ได้มีลักษณะแบบนั้นเลย นอกจากนี้ Verhoeven ยังแสดงเอกสารภายในของซัมซุงว่าได้เริ่มโครงการออกแบบแท็บเล็ต Galaxy Tab นานแล้วก่อนที่แอปเปิลจะเปิดตัว iPad เสียอีก
มาถึงการออกแบบ UI ซึ่งทนายซัมซุงได้อ้างความเห็นของพยานที่ทำการทดสอบแยกแยกความแตกต่างของไอคอน พบว่าพยานให้ความเห็นว่าไอคอนมีความคล้ายกันแค่เพียงสองโปรแกรมเท่านั้นคือโทรศัพท์และนาฬิกา ซึ่งหน้าตาไอคอนของสองโปรแกรมนี้ถูกปรับเปลี่ยนรูปแบบมาหลายครั้ง และซัมซุงก็พบว่าหน้าตาปัจจุบันนี้ทำให้ผู้ใช้งานเข้าใจความหมายได้ดีที่สุด จึงเลือกใช้มัน
ทนายความซัมซุงยังยกอีเมลของ Eddy Cue ที่บอกว่าแอปเปิลควรทำแท็บเล็ตหน้าจอ 7 นิ้วว่า นี่ก็คือตัวอย่างของการเสนอความคิดเห็นในองค์กรทั่วไป แต่แอปเปิลได้พยายามอ้างอีเมลภายในซัมซุงมากล่าวหา และบอกว่าซัมซุงมีคำสั่งให้ลอก iPhone ซึ่งถ้าหากหลักการนี้ถูกต้อง ก็ต้องถือว่าแอปเปิลเองก็พยายามลอกแท็บเล็ต 7 นิ้วจากซัมซุงเช่นกัน
Verhoeven พูดถึงตัวเลขที่แอปเปิลเรียกเป็นค่าเสียหายว่าน่าขบขัน สูตรคำนวณของแอปเปิลก็ไม่ได้หักค่าใช้จ่ายอื่นของซัมซุงด้วยซ้ำ สุดท้ายแล้วแอปเปิลไม่มีความเหมาะสมที่จะขอค่าเสียหายที่อ้างมาทั้งหมดเลย เพราะแอปเปิลไม่ได้เป็นผู้คิดค้นหน้าจอสัมผัส ตลอดจนไม่ได้คิดค้นสมาร์ทโฟนทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมโค้งเป็นรายแรกด้วยซ้ำ
William Lee ตัวแทนทนายของแอปเปิลได้ยื่นข้อหักล้างครั้งสุดท้าย โดยกล่าวว่าในวงการว่าคดีความนั้นมีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า ถ้าคุณมีความจริง คุณก็ยืนอยู่บนความจริงไป แต่ถ้าไม่มี ก็ใช้วิธีโจมตีพยานหรือทนายฝั่งตรงข้ามไปเรื่อยๆ แทน ซึ่งนั่นคือวิธีที่ซัมซุงใช้ตอนนี้
Lee บอกว่าการแข่งขันนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่คุณต้องแข่งด้วยการสร้างนวัตกรรมขึ้นมาเอง และแอปเปิลทำก็เพื่อปกป้องผลประโยชน์จากสิ่งที่บริษัทได้ลงทุนพัฒนามา หากเราไม่ทำสิ่งนี้ โลกก็จะไม่สามารถระดมคนมาสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้กับโลกได้เหมือนเช่น iPhone อีก
แก้ไข: คณะลูกขุนจะเริ่มประชุมหารือเพื่อออกคำวินิจฉัยตัดสินคดีในคืนวันนี้ ตั้งแต่เวลา 23 นาฬิกาตามเวลาในประเทศไทย เป็นต้นไปครับ
ที่มา: The Verge และ All Things D
Comments
" Lee บอกว่าการแข่งขันนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่คุณต้องแข่งด้วยการสร้างนวัตกรรมขึ้นมาเอง และแอปเปิลทำก็เพื่อปกป้องผลประโยชน์จากสิ่งที่บริษัทได้ลงทุนพัฒนามา หากเราไม่ทำสิ่งนี้ โลกก็จะไม่สามารถระดมคนมาสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้กับโลกได้เหมือนเช่น iPhone อีก "
Great words
เห็นด้วยครับ +1
+1
Apple ชอบคิดว่าคนอื่นมา copy ของตัวเองมาตลอด สมัยก่อนก็บอกว่า microsoft, Dell ก็อบ ตอนนี้ samsung ก็อบ
มันมีส่วนที่เป็นความจริงอยู่น่ะลองหาข้อมูลดู ในโลกเทคโนโลยีมันฟังไม่ขึ้นครับถ้าบอกไม่ลอกกันแม้แต่นิดเดียว
มันสะแด่วแน่คืนนี้
Coder | Designer | Thinker | Blogger
น่าสนใจกว่าบอลโลกรอบตัดสิน
ซ้ายบนนั่น iPhone 3G ชัดๆ! (ฮา)
ด้านหลังไม่เหมือนครับ
ซ้ายบน
ลุ้นสนุก กว่าเชียร์โอลิมปิก ;D
my blog
Icon Phone นี้ดูว่าลอกจริงแต่อย่างอื่นนี้ไม่เหมือนเลย (ออกจะแย่กว่า iPhone อีก)
อยากรู้เหมือนกันว่าถ้า Apple ไม่ทำ iphone ออกมา ต้องใช้เวลากี่ปี samsung ถึงจะทำ "โทรศัพท์รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าจอสัมผัสสีดำ" ออกมา
ในคำแถลงปิดคดีของ SS ก็มีรูป F700 ซึ่งมีลักษณะแบบนั้น และวางขายก่อน iphoneนะครับ
โดยส่วนตัวผมคิดว่า galaxyรุ่นแรก ดูเผินๆมีความคล้ายคลึงกับ 3GS มากจริง แต่การออกแบบลักษณะนี้ ไม่ใช่iphone คิดค้นเป็นเจ้าแรกในโลกนะครับ และแม้ว่ามันจะดูคล้ายคลึง แต่มันก็ไม่เหมือน ผมเชื่อว่าผู้บริโภคแค่หยิบจับมาครั้งแรกก็สามารถแยกแยะได้แล้วว่ามันไม่ใช่iphone ซึ่งกรณีที่ยกมาอย่าง ผู้ซื้อเข้าใจผิดว่าtab ทำงานได้เหมือนipad ก็เป็นคนละเรื่องเดียวกัน เพราะเป็นในแง่ของการใช้งาน แต่ไม่ใช่รูปร่างหน้าตา
ซึ่งการลอกเลียนจนทำให้ลูกค้าเข้าใจผิด ต้องเป็นลักษณะแบบมือถือจีนครับ เช่นiphoneจีนที่copyแทบจะทุกส่วน ดูภายนอกแทบจะเหมือนกันหมด ต่างกันแค่รายละเอียดเล็กน้อย เช่นรูน๊อต หรือfont ที่พิมพ์อักษรเท่านั้น แบบนั้นถึงจะเรียกได้ว่าลอกเลียนของจริง
สุดท้าย ผมคิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่ใช่ประเด็นที่ควรมาฟ้องกัน ไม่เช่นนั้นวงการอื่นๆแบบรถยนต์ เราคงเห็น Mini ฟ้อง suzuki BMW ฟ้อง Honda ในกรณีที่ทำรถบางรุ่นออกมาดูเผินๆคล้ายกันเต็มไปหมดแล้ว (ไม่นับรถจีนที่copyมาโต้งๆเปลี่ยนแค่กระจังหน้านะครับ) ถ้าจะฟ้องควรไปฟ้องกันในเคสของสิทธิบัตรทางเทคโนโลยี การคิดค้น ที่ถือเป็นนวัตกรรมอย่างแท้จริงมากกว่า
เรื่องรถยนต์นี่เราเองก็ไม่รู้ว่าเค้ามีการทำข้อตกลงอะไรเบื้องหลังระหว่างบริษัทหรือเปล่า เช่น กรณี Honda Jazz กับ Benz ที่กล้าทำออกมาคล้ายซะขนาดนั้น
เชื่อว่าไม่มีการตกลงอะไรกัน เพราะเป็นคู่แข่งกันโดยตรงครับ ที่ฟ้องกันไม่ใด้เพราะของราคาแพงแบบนั้น คงไม่มีใครซื้อผิดยี่ห้อแน่
ที่จริง samsung พูดออกมาอย่างหนึ่งว่าลูกค้าไม่สับสนและซื้อผิดแน่ เพราะว่ามือใน usa เป็นถือติดสัญญา และมือถือ samsung ก็มี logo samsung ติดทั้วเครื่อง
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ฟันธง!
ต้อง GooApple ครับ ลอกเต็มๆ
พูดได้ดีครับ ผมว่าถ้าลอกจริงๆ ต้องเป็นมือถือจีน เลยยังงั้นลอกนะ ไอ้นี่ สี่เหลี่ยมๆ มีปุ่ม(ปุ่มสี่เหลี่ยม) ดูยังไงว่าลอกหว่า -*-
+1 ครับ
โดยส่วนตัว รูปทรงภายนอกก็คล้ายๆกันหลายยี่ห้อนะ
แต่ภายในนี่สิมันคล้ายแบบไม่น่าให้อภัย
โดยรวมแล้ว งานเข้าแน่ๆ ซัมซุง
ถ้าไม่นับจอสัมผัสมันก็มีอยู่แล้วนะ อาจจะเพราะสมัยนั้นจอสัมผัสยังราคาแพง
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ก่อนอื่นต้องขอบคุณคุณ arjin ที่แปลข่าวนี้มาได้ดีมาก ผมอ่านแล้วลื่นไหลได้ใจความ ไม่รู้สึกผิดแปลกในคำหรือความหมายในจุดใด ๆ เลย
ส่วนในเนื้อข่าวนี้ผมอ่านแล้วมีความโน้มเอียงไปทาง Apple มากเลยนะเนี่ย แต่ก็ต้องดูกันต่อไปว่าจะออกหัวหรือก้อย แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่รอดแน่ซัมซุงเอ๋ย และถ้าผลออกมาแบบนี้มันจะมีผลกระทบอะไรต่อตลาด Smart Phone แค่ไหนกันนะ
ต้องบอกว่าหลักใหญ่ของคดีนี้คือ Apple ฟ้อง Samsung ว่าลอก ฉะนั้น Apple จะงัดหลักฐานอะไรก็ตามเพื่อให้ลูกขุนเชื่อว่าลอก ขณะที่ Samsung จะแย้งว่าสิ่งที่ Apple อ้างว่าลอกนั้นเป็นเรื่องที่ common เกินกว่าจะเอามาฟ้องกันได้ ฉะนั้นคนหนึ่งจะงัดหลักฐานเชิงรุก อีกคนจะออกแนวโต้แย้งไปเรื่อยๆ ตามที่โดนโจมตี มันเลยดูเหมือน Apple น่าจะได้เปรียบครับ แต่สุดท้ายก็อยู่ที่ลูกขุนมองคดีนี้ไปทางไหน
ปรบมือให้คนแปล
อ่านแล้ว มันส์หยด
ใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดแล้วสินะ...
/me : ปูเสื่อรออ่านข่าว~
ยังครับ ไม่ว่าใครแพ้ก็อุทธรณ์แน่นอน
ผมว่าราคาน่าจะคิดเฉพาะส่วนที่เหมือนกันจริงๆ เท่านั้น แล้วพวกของที่คล้ายกันแบบกว้างๆ เช่น รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ผมว่าไม่น่าคิดนะ ไม่งั้นคงมีฟ้อง เมาส์ ตู้ โต๊ะ ทีวี กระเบื้อง ฯลฯ
เอิ่ม...
Dream high, work hard.
อันนี้ผมว่าเป็นที่ user error ไม่ก็ employee error ละล่ะ... ชื่อหน้ากล่องมันก็เขียนตัวบักเอ้กว่า "iPad" / "Samsung"
เหนื่อยใจจริงๆ~
ว่าลูกค้าไม่ได้หรอกครับ ลูกค้า Apple เวลาซื้อของต้องยืนห่างจากสินค้าอย่างน้อย 5 เมตร อันนี้ทนายของ Apple อ้างต่อศาล จะหยิบจับนี้ไม่มีทาง :P
ข้างบนล้อเล่นน่ะครับ เอาจริง ๆ ผมเคยเรียนอยู่สหรัฐ 5 ปี เดิน Bestbuy ทุกอาทิตย์ แต่ไม่เคยซื้อของ Apple ผิดเลย เพราะ Apple เข้าจะมีพื้นที่ขายของเฉพาะของเขาที่ทำบรรยากาสดูเหมือน Apple Store มีพนักงานใส่เสื้อ Apple คนซื้อมันจงใจซื้อ Samsung อยู่แล้วครับอาการนี้ คือซื้อมาลอง แล้วคิดว่าไม่จำเป็นก็เอาไปคืน ส่วนใหญ่สินค้าใหม่ ๆ จะ Full refund เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า เรื่องขออ้างจะอ้างอะไรก็ได้เช่น ไม่ถูกใจ หนัก ใช้ไม่เป็น พนักงานเค้าก็จะเก็บข้อมูลส่งกลับบริษัท
+1
ผมก็เงิบกับข้อนี้มาก
มันจะมีด้วยเหรอที่ว่า เดินเข้าร้าน แล้วมาชี้ เอานี่อันนึง คนขายไม่พูดอะไรใส่ถุงคิดเงิน คนซื้อไม่ดูกล่องไม่ดูใบเสร็จ แล้วกลับถึงบ้านถึงรู้ว่าซื้อผิด
มันบังเอินโคตรๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆs
เกาหลีขี้ลอก
จบป่ะ
ความเห็น racist นะครับ
ผมเห็นอีกครั้งแบนถาวรนะครับ
lewcpe.com, @wasonliw
คนไทยไปลอกเกาหลีอีกทีนึง
จบป่ะ
edit
แว๊ก เห็นใบเตือนข้างบนเสียวแวบ...เลย
แรงไปจริงๆ
ผมว่าไม่แรงนะถ้ามีเหตุผลมาสนับสนุน
แต่การกระทำแบบข้างบนมันเกรียนเกินไปเท่านั้นเอง
มวยไทย ยังลอกเลย
รับความจริงไม่ได้หรอครับ
แหม่ จะแบนเลยทีเดียว
ไม่ใช่รับไม่ได้ครับ แต่การเหมารวมเชื้อชาติเป็นเรื่องน่ารังเกียจ เพราะคนจำนวนมากเลือกเชื้อชาติที่ตัวเองเกิดไม่ได้
ถูกแบนถาวรนะครับ
lewcpe.com, @wasonliw
เด็กๆพึ่งโตก็อย่างนี้แหละครับ
ใช้ตัวอย่างในทางลบเข้่าโจมตี ไม่รู้จักใช้เหตุผล
+1 สมควรแล้ว คำพูดอคติมาก
เอ่อ ผมว่าเกรียนไปนะ -*- มาแบบดื้อๆ วันหลังหัดมีเหตุผลด้วยนะครับ 555
จบจริงด้วย
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ทำไมภาพไม่ขึ้นละคับ
ส่วนตัวไม่ชอบการจดสิทธิบัตรแบบมองในมุมกว้าง/เหวี่ยงแหแบบที่แอปเปิลทำครับ
แต่บอกตามตรงว่าอยากให้ซัมซุงโดนมากๆ
+1 ทั้งสองบรรทัดเลย
+1
เหมือนกันครับ +1 ตอนแรกเห็นที่เสียบกาแลกซี่แท๊บเพื่อนนึกว่ามันซื้อไอแพดมาเลย
มาซดน้ำแกงกัน
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
สรุปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นหรอคับ อ่านจบแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าสรุปว่า ซัมซุงต้องเสียเงินให้แอปเปิ้ลไหม ??
สรุปผล คืนนี้ 23.00 น. เป็นต้นไป ตามเวลาบ้านเราครับ
ปล.ท้ายข่าวมีบอกไว้
ในฐานะคนใช้ Galaxy S ผมเคยโดนเพื่อนถามว่า iPhone เอ็งใส่เคสอะไร (ผมไม่ได้ใส่เคส)ซึ่งพอผมบอกว่ามันไม่ใช่และส่งให้เทียบกับ 3GS เพื่อนก็บอกว่า เออวะมันไม่ใช่ หลักๆที่สังเกตุได้โดยง่ายคือจอใหญ่กว่า และมีก้นงอนๆออกมา สำหรับโทรศัพท์ผมเข้าข้าง Samsung ถึงมันจะเหมือน iPhone มาก แต่มันก็ไม่ถึงกับลอก
Tablet ด้วย Screen Ratio 16:9 ของ Samsung ผมว่าถ้าเปิดคู่กัน มันน่าจะแยกออกได้ไม่ยากเลย
ถ้าจะละเมิด ก็ Connector ของ Samsung ที่มันเป็น iPhone Connector ชัดๆ
:: DigiKin8 ::
หีบห่อด้วย รวมทั้งสาย usb
มันคือ Standard PDMI ครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/PDMI
หมายถึง Connector ของ Galaxy Tab หรอครับ ? (ผมไม่ทราบ)
:: DigiKin8 ::
ใน wiki เดียวกันไม่เห็นบอกเลยครับว่าซัมซุงใช้พอร์ตนี้ มีแต่ Dell
ซัมซุงใช้พอร์ตตัวเองที่หน้าตาเหมือนพอร์ต 30 pin มากๆ
ของซัมซุงอาจไม่ใช้ PDMI เพียงแต่พอจะ "กล่าวอ้าง" ได้ว่าทำแบบ PDMI ไม่ใช้ Apple
แต่เห็นได้ชัดว่า look and feel มันบ่งบอกนะครับ แค่คำแรกของเพื่อนคุณก็ถามแล้วว่า "iPhone เอ็งใส่เคสอะไร" แสดงว่าเค้าเห็นมือถือในมือคุณเป็น iPhone ไปก่อนที่จะจับซะอีกหนะ
Technology is so fast!
+1
+1
ถ้าขณะที่คุณกำลังฉีกซองยำยำรสต้มยำกุ้งใส่ถ้วยแล้วเพื่อนถามคุณว่ากินมาม่ารสอะไร คุณจะตอบว่า?
(ไม่เกี่ยวกับคำถามด้านบนหรอก กด reply ผิดที่ไปหน่อย - -)
บางคนยัง "เข้าใจว่า" iPhone คือชื่อเรียกของ สิ่งของที่เป็นสี่เหลี่ยม เอามือจิ้ม ๆ ได้ด้วยซ้ำ (ประมาณนั้น)
อ๋อไม่ใช่ เรากินยำยำบัมโบ้ รสหมูสับ ;P
แต่มาม่านี่มันเลยเรื่อง look and feel ไปแล้วนะครับ เหมือนแฟ๊บหรือซีร็อกหน่ะครับ แต่มือถือยังไงเราก็เรียกมือถือ คำว่า iphone ยังไม่ถูกใช้แบบนั้นนะ
มันมีคนคิดแบบนั้นจริง ๆ ครับ (ไม่ได้ถูกกำหนดว่าแบบนั้น แต่เค้า "เข้าใจไปเอง" ว่าคือแบบนั้น)
เอาอะไรมาตัดสินครับว่ามันเลยหรือยังไม่เลยเรื่อง look and feel
มาม่ามันกลายเป็น generic name ไปแล้ว แม้คนจะพูดว่ามาม่า แต่ความหมายเค้าคือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไม่ได้หมายถึงยี่ห้อมาม่าจริงๆ ไม่ใช่แบบโทรศัพท์ samsung บางรุ่นที่คนมองแล้วเข้าใจว่าเป็นไอโฟน
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
โทรศัพท์จอใหญ่ๆ สีดำ สี่เหลี่ยมผืนผ้าโค้งมน สไตล์เรียบหรู มันไม่ใช่ generic ของสมาร์ทโฟนสมัยนี้แล้วหรือครับ :P
+1 Apple กำลังพยายามทำให้มันไม่ใช่ ด้วยเหตุผลที่ว่า ลงทุนมากมาย คู่แข่งไม่อยากรับความเสี่ยงด้วยการออกแบบเอง ลูกค้าไม่มีความสามารถแยกออก บลา บลา บลา ฮ่วย q('_' )
ผมว่า illusion เค้าพูดเล่นนะ คุณคิดว่ามันเป็นจริงๆ หรอ โทรศัพท์ที่คุณซื้ออยู่คุณบอกคนขายว่าจะซื้อ iPhone ยี่ห้อ blah blah blah หรือเปล่า เทียบกับเวลาคุณกินไวไว แล้วคนถามว่ากินอะไรคนตอบว่ามาม่า เวลาแม่บอกว่าแฟ้บหมดคนออกไปซื้อบรีสกลับมา เวลาไปซื้อเครื่องถ่ายเอกสารแล้วพูดว่าซื้อเครื่องซีร๊อกยี่ห้อริโก้ พวกนี้ถึงเป็น generic name คือใช้แทนประเภทนั้นจริงๆ เลย
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ครับ สงสัยผมเค้าใจคุณ illusion ผิด นึกว่าคุณ illusion ผู้ถึงลักษณะทั่วไปของ โทรศัพท์ฉลาด เบลอ ทำงานยังไม่ได้นอนเลย
เรื่องการใช้คำว่า ไอโฟน แทน smartphone มันมีเยอะเหมือนกันนะครับเท่าที่เจอมา เพียงแต่ไม่ได้เกิดในวงการคนที่เล่นเนทเยอะๆแบบพวกเราเท่านั้นเอง
โดนซะ
อยากรู้จริงๆเลยว่าใครจะชนะครั้งนี้
もういい
ผมชอบคนแปลครับ แปลได้ดีจัง
ส่วนเรื่องดคี ผมก็โน้มเอียงไปทาง apple นะ แต่ ใจผมดันเชียร์ซัม นิดๆ เพราะที่เค้าพูดก็ถูก ผมเองไม่ต้องการให้อำนาจมันเทไปที่ทางใดทางหนึ่งมากเกินไปอะ เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเมือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีอำนาจมากเกินไปแล้วอะไรจะเกิดขึ้น
น่าคิดครับ
S1 ผมดูยังไงมันก็ไม่เหมือน iphone3g :)
คดีนี้อยากให้แอปเปิลชนะนะ คืนนี้รู้ผลกัน
จะโดนไรก็ช่าง ขอผมถอย Note 10.1 ให้เสร็จก่อน
Educational Technician
อันดับแรกต้องขอขอบคุณผู้แปลนะครับ
สวนเรื่องคดีการลอกเลียนแบบ ผมว่าหน้าตา SS SI กับ iPhone มันคล้ายกันก็จริง
แต่หน้าตาแบบนี้ก็มีอยู่ดาษดื่นทั่วไป LG Optimus Black ก็หน้า้ตาแบบนี้
การเรียง icon ก็มีมานานแล้ว ตั้งแต่สมัย Palm, Pocket PC, feature phone ทั่วๆไป
iPad กับ Galaxy tab นี่เวลาวางขายนั้น iPad วางตั้ง tab วางนอน
สำหรับผม apple ฟ้องร้องแบบเหวี่ยงแหเรื่อง การออกแบบมากไป
ถ้าฟ้องเรื่อง pinch zoom ยังจะชัดเจนกว่า เพราะ iPhone เอามาใช้ก่อนใครเพื่อน
ปัจจุบัน notification bar ของ iPhone ไม่ได้ลอก android รึงัย
จะว่าไป apple ก็เลียนแบบชื่อ iPhone จาก iPaq ของ HP/Compaq นิ
เรื่องเหมือนนี่ผมว่าเค้าคงฟ้องเอาเจ้าใหญ่ก่อน แล้วค่อยตามเก็บเจ้าเล็กทีหลังแหละ (เดาเอา) ส่วนเรื่องใครลอกใคร ถ้าคิดว่าลอกจริงก็ฟ้องเลยครับ แยกกันเป็นประเด็นๆ
และคิดว่าถ้าสบโอกาสก็คงฟ้องครับดูจากข่าวที่ผ่านมาเร็วๆ นี้(จำสับกันนั่นมัน Google แต่จากข่าวอื่นๆ ก็ยังคิดว่า Samsung เองถ้ามีโอกาสก็ฟ้องอยู่ดี) เรื่องนี้มันไม่ใช่ว่าเราลอกเค้า เค้าลอกเราแล้วเจ๊ากัน คุยกันในระดับธุรกิจคงไม่ง่ายขนาดนั้นรายละเอียดคดีค่อนข้างเยอะ ยอมรับว่าถ้าอยากเก็บครบต้องอ่านต้นฉบับเอาครับ ส่วน pinch zoom นี่ก็เป็นหัวข้อหนึ่งที่ Apple ฟ้องครับ รายการนี้ Apple แจงฟ้องเป็นรายการค่อนข้างเยอะครับ
ห๊ะ แล้ว iPod iPad iMac กระทั่ง iCal iMessage iCloud ต้องโดนด้วยสินะ...
#iFlyAway
Dream high, work hard.
คืนนี้ ลุ้นฟังคำตัดสินเสร็จแล้ว ลุ้นทีมเชลซีที่มี SAMSUNG เป็นสปอนเซอร์คาดอกขึ้นเป็นจ่าฝูงต่อ
เรื่องนี้ไม่น่าลุ้นเท่าไหร่ (ผมแฟนเชลซี)
แต่ในยุคนั้น คนที่ผมรู้จัก หลายคนมาก ซื้อ Galaxy เพราะ อยากได้ iphone แต่งบไม่ถึง
d(- - ใช่เลยฮะ
แล้วรู้ตัวรึเปล่าว่าซื้อ Galaxy ไม่ได้ซื้อ iPhone
ถ้ารู้ก็แสดงว่าที่ Apple กล่าวอ้างว่าซื้อผิดนั้นไม่จริง
คิดว่ารู้ครับ
เพราะคนซื้อยังแยกแยะได้ว่า iPhone แพงที่สุด Galaxy ถูกกว่าหน่อย
+1 เห็นเพื่อนใช้ครั้งแรกยังถามเลยว่าไอโฟนเหรอ - - ตอนนั้น S1ยังไม่เข้าไทยอย่างเป็นทางการน่ะ
ผมว่ารุ่นนี้ใกล้เคียงกันสุดๆละ ขนาดเพื่อนผมยังดูผิดเลย - -*
ถ้า iPhone ไม่ดัง ก็อาจจะยังใช้ปุ่มกดกับ Symbian แก่ๆ ก็เป็นได้คับ
อันนี้เหนด้วยครับว่ามันเหมือนกันมากเกินไป
Destination host unreachable!!!
ผมว่าผมแยกออกนะว่าอันไหน iPhone :P
คนที่มีอคติจะบอกว่าเหมือนกันครับ --- 1
และคนที่มีอคติก็จะบอกว่าไม่เหมือนกันครับ --- 2
คนที่ไม่มีอคติเลยจะบอกว่าไม่เหมือนซะทีเดียว --- 3
2 + 3 > 1 Samsung ชนะ!!!
เพราะผมมีอคติอ่ะ :P 555
iPhone4 มันไม่ได้ดูดีเท่า S3 หรอกครับ
Destination host unreachable!!!
+1 ไม่เกี่ยวกับข่าว แต่ช่วงนี้ผมว่า s3 ดูดี และ hi ที่สุด เห็นใครเดินถือ s3 มานี่ต้องมองหน้าเลย (ผมว่า samsung เก่งใช้เวลาไม่นาน ไล่ตาม และแซงไปได้ ในความรู้สึก hi ของโทรศัพท์ ซึ่งทำให้คนมีความรู้สีกแบบนี้ได้เนี่ย ไม่ง่ายเลยนะ) ปล. ไม่รู้ว่าเพราะ iphone4 ถือกันเกร่อหรือเปล่า เลยทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนไป
S3 นี่ดูดีจริงๆเหรอครับ ความเห็นส่วนตัวผมว่ามันเป็นมือถือที่ออกเเบบมาได้แย่ที่สุดในปีนี้เเล้วทั้งข้างหน้าข้างหลัง
เหมือนพยายามจะทำให้มันไม่เหมือนไอโฟน - -"
S3 คือมือถือตัว top ที่ดูแย่ที่สุดครับ สวยแพ้ตัวท็อปทุกตัว ไปเอาเทียบของค่ายตัวเองอย่าง Galaxy Nexus ยังแพ้เลย ไม่ต้องข้ามไปเทียบกับพวก Xperia เลย
มันเป็นความรู้สึกรับรู้ครับ s3 อาจจะไม่สวยอย่างที่คุณบอก แต่ในความรู้สีกผม ช่วงนี้ใครถือ s3 เนี่ยจะดู hi กว่า คนถือ 4s ครับ (ลองสำรวจดูหลาย ๆ คนครับ แต่ผมรู้สึกอย่างนั้น)
เห็นด้วยเลย
เพื่อนๆที่ถือ 4s เริ่มถืออีกเครื่องเป็น S3 ผมเลยเพิ่งรู้ตัวว่า 4s มันเกร่อ แล้ว S3 ก็เริ่มเป็นกระแสตัวท้อปของฝั่งแอนดรอย เลยเป็นตัวเลือกแรกๆ ให้ความรู้สึกคล้ายๆ 4s ทำให้คนถือดู hi กระมัง
วันนี้ แฟนยังไปเดินร้านซัมซุง บอกว่าอยากได้ S3 บอกว่าเบื่อ 4s แล้ว แต่บอกให้มันรอ iPhone5 จะได้ไม่ต้องฝึกใช้ ง่ายดี ขี้เกียจสอน 5 5 5
5555
ผมว่า Sony XP S สวยกว่า s3 นะ
น่าเอาตัว 3G/3GS มาเทียบครับ เหมือนกว่านี้อีก
ไม่เหมือนครับ Samsung สวยกว่า XD
แบบนี้ไม่เรียก copy ก็ duplicate อ่ะครับ
น่าลุ้นมากๆ เป็นไปได้ไหมว่า ลูกขุนอาจจะตัดสินว่า SS ลอกมือถือ แต่ไม่ได้ลอก iPad
ทำไมผมอยากเชียร์ Samsung อะ - -*
Apple : เธอก็อปของชั้นมา ทั้งรูปทรง หน้าตา จนกระทั่งไอคอน app มันทำให้ลูกค้าชั้นเข้าใจผิดหมดนะ
Samsung : เง้อ หน้าตาแบบนี้เค้าก็เคยทำมาก่อนตั้งนานแล้วอะ ไม่ได้ลอกเลียนแบบ 100% เป๊ะ ๆ ซะหน่อยนิ ไอคอนด้วย ทำไมต้องคอยจับผิดอะ ... เออ ใช่ซี้ทีตัวเองล่ะ ทำ iPad 7 นิ้ว มันต่างจากชั้นตรงไหน
William Lee : มีข้อมูลอะไรก็เอามาแย้งไปสิ ทำไมต้องพูดถึง iPad 7 นิ้วด้วย เชอะ!
Samsung : TT~ ฮือ ๆ
อารมณ์ประมาณ ซินเดอเรลล่า (ฮา)
เป็นสถานการณ์ที่ดูน่ารักมาก -*-
Dream high, work hard.
ผมว่าถ้ามองใกล้ๆ S1/S2 ไม่มีอันไหนเหมือน iPhone เลยนะครับ แต่ถ้ามองไกลๆนี่เป๊ะเลย
ผมอยากเชียร์ซัมซุงนะ เรื่องจอสี่เหลี่ยมกะสัมผัส ถามว่าถ้าไม่มี iphone อีกกี่ปีจะใช้มือถือแบบนี้ ผมว่าใช่ครับจริงที่ว่าแอพเปิ้ลทำให้วงการตื่นตัว แต่ไม่ใช่ว่าจะมีสิทธิ์บอกว่าหน้าจอสี่เหลี่ยมสัมผัสเลียนแบบตัวเองเพราะก่อนไอโฟนออกซัมซุงก็มีรูปร่างหน้าตาที่คิดไปได้ว่าพัฒนาไปเป็น galaxy s แต่เรื่อง UI ผมว่าสมควรโดน ตั้งใจเองอะ(เคืองด้วยเพราะ Tuchwiz มันห่วย 555)
เห็นด้วยกับแอปเปิล
แปลเนียนๆ แบบนี้ ต้องเป็นคุณ arjin เท่านั้นครับ :-)
มุมมองผม Samsung อาจจะไม่ลอกจังๆ แต่ปฏิเสธไม่ได้ครับว่า ดีไซน์ของอุปกรณ์หลายชิ้น ได้แรงบันดาลใจมาจาก Apple พอสมควร
คืนนี้ลุ้นกว่า Keynote อีก
ไม่ได้ชอบอะไรซัมซุง แต่ขอเชียร์ซัมซุงครับ
ผมไม่รู้ว่าถ้าผมเชียร์แอปเปิล แล้วโลกนี้จะได้อะไร นอกจากแอปเปิลที่จะได้อยู่ฝ่ายเดียว (สาวกก็ไม่ได้อะไรด้วยเลย จริงไหม นอกจากได้เชียร์เอามันส์)
คำว่าลอก มันต้องตั้งใจให้เหมือนแบบที่มือถือจากจีนบางตัวทำ (แต่อันที่จริง ผมก็มองว่า Galaxy S ดูทำตั้งใจลอกไปเหมือนกัน ถ้าจะเล่นงาน ให้เล่นงานเฉพาะรุ่นนี้ครับ เพราะรุ่นอื่นไม่ได้ดูตั้งใจลอกเลย)
อย่างที่ทนายซัมซุงว่า ถ้าแอปเปิลชนะ มันจะเปลี่ยนโลกไปเลย แค่คล้าย ก็อยู่ไม่ได้แล้ว
โลกเรามันได้รับแรงบรรดาลใจกันและกันมาตลอดแหละครับ และเอามาต่อยอด ตัว iPhone เองกว่าจะเป็นหน้าตาแบบนี้ได้ ฟังค์ชั่นแบบนี้ได้ มันก็ได้รับแรงบรรดาลใจมาจากแหล่งอื่นๆ ตลอดนั่นแหละ แต่กลับคิดว่าตนเป็นเจ้าของความคิดนี้ทั้งหมดทั้งมวลอยู่ฝ่ายเดียว ผมว่าโลกนี้จะอยู่ยากขึ้นครับ
ต่อไปถ้ามีบริษัทเกิดใหม่จะทำรถ คงต้องทำซัก 5 ล้อ ติดไฟท้ายระยิบระยับเจ็ดสี ไม่งั้นจะโดนฟ้อง look and feel จากขาใหญ่เอา
คิดเหมือนกันนะ แต่พวกหัวศิลป์หน่อยเค้าจะมององค์รวม ซึ่งอันนี้แล้วแต่คนจะมอง
คำว่าลอกของคุณอาจจะใช้บรรทัดฐานคนละอย่างกับผมซึ่งแรกเริ่มเดิมที Samsung ตั้งใจลอกแน่ๆ ตอนนี้ผมว่าเราหลงประเด็นไปกันไกล เรื่อง look and feel นี่มันก็วัดกันยาก มันใช้ความรู้สึกซะเป็นส่วนใหญ่ แล้วทีนี้บางคนก็จับไปวัดว่า เออเปลี่ยนตำแหน่งนิดนึง เปลี่ยนรูปร่างนิดนึงแล้วนี่คือไม่ลอกแล้วนะ คนที่อุตส่าห์คิดค้นมาเห็นเข้าก็เซ็งสิครับ ประเด็นมันคือตรงไหน
คือเหมือนกับว่าลอกการบ้านวิชาคณิตศาสตร์พอครูจับได้ก็บอกว่าผมไม่ได้ลอกนะ ดูลายมือดูการเว้นบรรทัดสิไม่เหมือนกันสักหน่อย หรือลอกวิชาศิลปะที่บางความเห็นเคยว่าไว้ที่เอาไอเดียไปแถมยังส่งตัดหน้าอีก เอาง่ายๆ ยกตัวอย่างเช่นครูสั่งให้วาดคนพูดบนเวทีวาดออกมายังไงก็ได้
คนแรกวาดลุงเสื้อคอเต่ากางเกงยีนส์กำลังคุยบนเวทีมีโพเดี้ยม คนที่สองวาดคุณลุงเนิร์ดใส่แว่นตานั่งบนโซฟา คนที่สามแอบเห็นไอเดียคนแรกก็เลยวาดคุณลุงเสื้อคอเต่ากางเกงยีนส์กำลังคุยบนเวทีมีโพเดี้ยมอ่ะเติมแว่นตากลมๆ ลงไปนิดนึง รีบวิ่งเอาไปส่งครู =_=
เหมือนกับที่โดราเอม่อนมีหนวดข้างละสาม คนไทยก็ไปเติมหนวดปลอมเข้าไปข้างละหนวด กลายเป็นโดเรม่อง ไม่ได้ลอกนะจ๊ะ
ซึ่งผมก็เข้าใจนะบ้านเรามักให้ค่างานศิลปะหรือคนที่ทำงานด้านนี้ต่ำอยู่แล้ว เอาตั้งแต่ค่านิยมในอดีตก็เช่นพวกนี้เป็นพวกเต้นกิน ศิลปินไส้แห้ง ฯลฯ เอาไกล้ๆ ตัวมั่ง ถ้าเทียบเงินเดือนโปรแกรมเมอร์กับเว็บดีไซเนอร์ค่าเฉลี่ยดีไซเนอร์จะต่ำกว่าเป็นปกติ และเมื่ออายุงานมากขึ้นช่องว่างของเงินเดือนก็จะต่างกันแบบก้าวกระโดดไปอีก
คืนนี้ก็คงจะได้ลุ้นกันว่าศาลและลูกขุนจะมองเห็นหนวดปลอมที่ Samsung พยายามแอบเติมเข้าไปหรือเปล่า
+1
+1
หลายคนยังแยกไม่ออกระหว่างการได้รับแรงบันดาลใจกับการลอกเลียนแบบว่า 2 สิ่งนี้ต่างกันอย่างไร
หากใครเชี่ยวชาญการคำนวณความน่าจะเป็นจะลองคำนวณเล่น ๆ ดูก็ได้นะครับว่าโอกาสที่คนในตัวอย่างจะบังเอิญสร้างสัตว์ประหลาดที่คล้ายกับ Chimera นั้นมีมากน้อยแค่ไหน การคำนวณโอกาสความบังเอิญของ Samsung ที่บอกว่าไม่ได้ลอก Apple แต่แค่บังเอิญไปได้รับ "แรงบันดาลใจ" ในการเลือกสรรออกแบบชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายนอกในรูปแบบที่คล้ายคลึงกับ Apple ได้รับแค่นั้นเอง
หากการออกแบบทั้งหลายที่ว่ามานี้ Samsung บังเอิญได้รับแรงบันดาลใจจาก prior art หลาย ๆ อย่างจนโทรศัพท์มือถือเรือธงของตัวเองไปคล้ายกับโทรศัพท์มือถืออีกรุ่นหนึ่งของ Apple ที่กำลังฮิตอยู่ในท้องตลาดขณะนั้นได้ ผมว่าทีมงานฝ่ายออกแบบของ Samsung ควรไปซื้อ lotto น่าจะดีคิดว่าน่าจะถูกรางวัลใหญ่ได้ไม่ยาก ;)
นี่ยังไม่พูดถึงเอกสารภายในของ Samsung ที่มีการเปรียบเทียบ feature ของ Samsung Galaxy S กับ iPhone 3G/3GS อย่างละเอียดแถมยังบอกทิ้งท้ายให้ไปแก้ไข feature ส่วนใหญ่ให้มีรูปร่างหน้าตารวมไปถึงลักษณะการทำงานเหมือน iPhone 3G/3GS อีกด้วย
That is the way things are.
ผมคิดว่า ถ้าหาก chimera ทั้งสองตัว มีขนาดตัว น้ำหนัก ใกล้เคียงกัน ถ้าหัวทั้งสามมีรูปทรงรวมถึงการเรียงของลอนขน สีขน เหมือนกัน ทั้งสามคู่
ก็สามารถสรุปได้ว่าคิเมร่าสองตัว มีต้นกำเนิดจาก สิงโต แพะ และงู. ตัวเดียวกัน.
กรณีนี้เราสามารถบ่งชี้ได้ว่า. คนที่สร้างคิเมร่าตัวที่สองไม่นาน ไปขโมย ต้นแบบ ของคิเมร่าตัวแรกมา อาจด้วยวิธีขโมย สิงโต แพะ และงูซึ่งเป็นต้นแบบ หรือด้วยวิธีขโมยชิ้นส่วนศรีษะของคิเมร่าตัวแรกมา ใช้ในการ produce คิเมร่าตัวที่สอง. เนื่องจากหัวทั้งสามมีรูปลักษณะเคียงกันมาก และยังมีอุปนิสัย การตอบสนอง ใกล้เคียงกันอีกด้วย
แต่ถ้าหากคิเมร่าตัวที่สาม. มีขนาดเพียงครึ่งเดียวของคิเมร่าตัวแรก คอแพะไปอยู่บริเวณหลัง หัวของสิงโตมีลอนขน สีขน ไม่เหมือนกับตัวแรก งูที่ส่วนหางเป็นงูหางกระดิ่ง ในขณะที่ตัวแรกเป็นงูขาว.
คิเมร่าคือนิยามของสัตว์ที่มีหัวเป็นสิงโต หัวอีกข้างเป็นแพะ หางเป็นงู เช่นเดียวกับโทรศัพท์มือถือ ที่มีคุณลักษณะถือด้วยมือ และโทรศัพท์ได้ อาจพ่วงด้วยสมาร์ท มาอีกต่อหนึ่ง
แต่ถ้าหากคุณจะนิยามคิเมร่าในที่นี้ว่าเป็นคิเมร่าที่สร้างโดยปราชญ์ A. นิยามย่อมไม่ได้มีแค่ หัวเป็นสิงโต หัวอีกข้างเป็นแพะ และหางเป็นงู แต่จะมีลักษณะของหัวทั้งสาม อุปนิสัย การตอบสนองของหัวทั้งสาม รูปร่าง สายพันธ์ เข้ามาอยู่ในนิยาม. คิเมร่า A ถ้าหากคิเมร่า B เหมือนคิเมร่า A ทั้งลอนขน สีตา รูปร่าง สายพันธ์ อุปนิสัย เราย่อมสรุปได้ว่าคิเมร่า B เกิดจากการใช้ต้นแบบโดยคิเมร่า A
ตัวอย่างไม่เหมือนกับของผมหรือเปล่าครับ ของผมตัวที 2 หัวที่หลังเป็นกวางนะ
ส่วนคําว่าสร้างหมายถึงคิดค้นมาใส่ในตํานานน่ะครับ ไม่ได้หมายความว่าสร้างออกมาเป็นตัวเป็นๆ นัยว่าออกแบบตัวสัตว์ประหลาดในนิยายของตนเองน่ะครับ
ต่่อให้ขนาดลดลงครึ่งหนึ่ง เปลี่ยนทิศหัวที่ 2 และเปลี่ยนสีหางอย่างที่คุณว่า ผมก็คิดว่าตัวที่ 2 เลียนแบบมาอยู่ดีครับเพราะร่างหลักก็ยังเป็นสิงโตเหมือนเดิม สมมติว่าเราจะลองสร้างสัตว์ประหลาดในตํานานไทยสักตัว เอาแค่ง่ายๆ ว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้จะประกอบด้วยสัตว์ 3 ชนิดเรียงตามลําดับจากหัวไปหาง โอกาสที่เราจะเลือกชนิดแรกได้สิงโตคิดเป็น 1/1000 (สมมติว่าโลกมีสัตว์แค่ 1,000 ชนิด) เลือกชนิดที่ 2 อีก 1/999 ชนิดที่ 3 อีก 1/998 แค่นี้ก็รวมกันได้ 1/1000000000 แล้วนะครับ นี่ยังไม่นับว่าทําไมเราต้องเลือกเลข 3 เป็นตัวกําหนดด้วยซํ้า การที่เราจะคิดสัตว์ประหลาดเองจากจินตนาการแล้วออกมาคล้ายกับ Chimera นี่มันยากมากๆ ยากยิ่งกว่าถูก jackpot สลากกินแบ่งรัฐบาลอีก
That is the way things are.
คิดว่าเห็นด้วยครับ ถ้าเราแทนที่นิยามสัตว์ในตำนาน ด้วยโทรศัพท์มือถือ มันจะกว้างยิ่งกว่านิยามคิเมร่าเสียอีก โดยเฉพาะในกรอบเสรีที่คุณจะสร้างอย่างไรก็ได้ให้อยุ่ในนิยามข้างต้น
อุปสรรคแรก ที่เป็นเรื่องบังเอิญได้ออกมาเป็นคิเมร่าเหมือนกัน จากการที่ตัวเลือกมีอยู่อย่างไม่จำกัด ถ้าเทียบระหว่างโอกาสที่จะลอก กับโอกาสที่จะเป็นเรื่องบังเอิญ อย่างแรกย่อมมากกว่าอย่างที่สอง
อุปสรรคที่สอง ก็ตามที่ผมกล่าวมา ถ้าโมเดลของคิเมร่าทั้งสองตัวมีลักษณะใกล้เคียงกัน ทั้งการตอบสนอง (อุปนิสัย) รายละเอียดบางประการเช่น ลอนขน มีลวดลายและขนาดคล้ายกัน จำนวนหัวเท่ากัน ก็จะเป็นอุปสรรคที่ยากกับการแก้ต่างเข้าไปอีก
โดยเฉพาะถ้าคิเมร่าตัวแรกของ A เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และ B เองก็เป็นนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียง อยู่ในเขตเมืองที่เจริญ การใช้คำว่าเหตุบังเอิญย่อมปกปิดเจตนาไม่ได้
ผมว่าใจความสำคัญที่คุณ zerocool กำลังสือก็คือเรื่องของ Original idea นะครับ กว่าเราจะคิดอะไรขึ้นมาได้สักอย่างมันโคตรยาก และต้องผ่านการกลั่นกรองจากความรู้ประสบการณ์ การลองผิดลองถูกเยอะแยะ
เคยมีเรื่องเล่าในวงการออกแบบหลายสิบปีก่อน มีบริษัทใหญ่บริษัทนึงจ้างคนออกแบบให้คิด logo องค์กรให้ นักออกแบบได้รับโจทย์ไปแล้วก็ใช้เวลาคิดมากมาย ทำออกมาหลายแบบ จนถึงวันไปเสนองาน คนที่ว่าจ้างก็เอาแบบมาดูๆ จากนั้นก็โยนภาพภาพนึงให้ลูกน้องแล้วบอกว่า "ของแค่นี้ทำไมคิดไม่ได้ฟะ" หลังจากนั้นคนออกแบบ logo คนนั้นก็ไม่ได้รับการติดต่อให้ไปสรุปงานแต่อย่างใด และองค์กรนั้นก็นำภาพที่ว่านั่นออกมาใช้ในเวลาไม่นานหลังจากนั้น
เริ่มคิดมันยากเสมอครับ คิดออกมาแล้ว คนมาเห็นทีหลังจะมีใครบ้างที่รู้ว่าเส้นตรงนั้น มุมตรงนี้ การเคลื่อนไหวของ GUI มันผ่านการกลั่นกรองมาไม่รู้กี่ครั้ง ผมเคยพิมพ์ลงไปในข่าวเก่าแล้วว่าของแบบนี้ต้องเจอกับตัวสักครั้งแล้วจะซึ้งครับ ไอ้การโดนลอกงานเนี่ย ใครไม่เคยโดนก็อยากให้โดนครับ 555+ รับลองว่าใครได้โดนแล้วโชว์ลอจิกไม่ออกสักราย เพราะไม่ว่าคิดมุมไหนมันก็เอามาจากกรูนี่หว่า
จอ LCD ที่บ้านผมแทบทุกตัวใช้จอซัมซุงทั้งนั้น แต่จะมีแต่เรื่องโทรศัพท์นี่แหล่ะที่ไม่เห็นด้วย ยิ่งได้เห็นเอกสารภายในซัมซุงเรื่องวิกฤติการออกแบบอะไรนั่นไปแล้วยิ่งทำใจให้เชียร์ซัมซุงในเคสนี้ได้ยาก
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B9%88:%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99
บางคนเห็นสัตว์ในตำนานมาเยอะ ก็อาจแยกไม่ออกว่าคิเมร่าต่างจากตัวอื่น "เป็นพิเศษ" อย่างไรน่ะครับ
สุดท้าย สัตว์ผสมตัวที่ 2 เรียกว่า คิเมร่า? หรือ คนที่สนใจว่าคิเมร่าคืออะไรจะเข้าใจว่ามันคือ คิเมร่า?
คนเห็นแมวเดินอยู่เกิดคิดอยากให้มันบินได้โดยคิดว่าอยากให้มันมีปีกต้องมีคนเดียว?
คนเห็นแมลงสาบแล้วคิดว่าถ้ามันตัวใหญ่ยักษ์ขึ้นมาคงน่าเกลียดน่าดูต้องมีคนเดียว?
การที่เค้าจินตนาการว่ามี 3 หัว มันมีที่มาที่ไปหรือเปล่า? แล้วสงสัยไหมว่าทำไมต้องเป็นสิงโต หัวที่งอกมาทำไมต้องเป็นแพะ และหางทำไมต้องเป็นงู? ลองนึกภาพดูว่าคนทั่วไปจะคิดว่า หางน่าจะเป็นหัวหมู หัวม้า หัวลิง? (จะเหมาะไหม?) แล้วถ้ามันไม่อยู่ตรงหาง จะให้ไปอยู่ใต้ท้อง? อยู่ตรงก้น? (จะเหมาะไหม?) อยากจะให้มันดูน่ากลัวต้องมีต้นร่างเป็น แมวขนปุยตัวอ้วน? เป็นกระรอกน้อย? (จะเหมาะไหม?) ฯลฯ
ยังไม่รวมว่า ตัวแรกมันอยู่บนดิน (สัตว์บก) ตัวที่ 2 มันอยู่ในน้ำ (สัตว์น้ำ) คนเห็นมันอยู่ในน้ำแล้วตกใจ เฮ้ย! คิเมร่าลงมาเล่นน้ำ!? (ลองนึกภาพคนลงไปดำน้ำเจอวาฬอยู่ใต้มหาสมุทรแล้วนึกว่าเป็นช้าง เพราะตัวใหญ่เหมือนกัน)
แมวมีปีกในแบบของคุณนี่ปีกเหมือนกับปีกของสัตว์อะไรครับ ปีกนก ปีกค้างคาว ปีกผีเสื้อ ปีกแมลงปอ ?
สมมติว่าคุณเลือกปีกนกแล้วกันนครับ คุณคิดว่าใน 1,000,000 คนจะมีคนที่อยู่ ๆ คิดเอง (ไม่ใช่ไปสอบถามว่าแมวมีปีกดีหรือไม่ แต่ต้องถามว่าเคยคิดอยากให้แมวมีปีกหรือไม่) สักกี่คนครับ ยิ่งไปกว่านั้นตัวอย่างแมวมีปีกค่อนข้างจะวัดผลยากเพราะมีคนบางกลุ่มเคยนำจินตนาการนี้ออกมาเผยแพร่ไปเรียบร้อยแล้ว คนที่เคยอ่าน Fairy Tail อาจจะคิดว่าแมวน่าจะมีปีกง่ายกว่าคนที่ไม่เคยอ่าน และนี่ยังไม่นับว่านอกเหนือจากการคิดเฉย ๆ แล้วต้องนำมาสร้างเป็นตำนานของตัวเองด้วยนะครับหากจะเทียบเคียงกับตัวอย่างของผม
แน่นอนว่าสัตว์ประหลาดจากจินตนาการย่อมต้องมีความเหมาะสมครับ มีเรื่องความสวยงาม ความน่าเกรงขาม ความสมส่วนเข้ามาเกี่ยวข้อง หากหางเป็นหัวหมูหัวลิงอย่างที่คุณว่าคงจะดูตลกพิลึก แต่ในทางกลับกันทำไมต้องมีหางที่เป็นส่วนหัวของสัตว์เหมือนกันด้วยล่ะครับเคยได้ลองคิดบ้างหรือไม่ ? ทำไมไม่เอาหางของแมงป่องมาใส่ ? ทำไมต้องมีแค่ 1 หาง ? มันยังมีทางเลือกอีกมากที่ทำออกมาแล้วจะเหมาะสมครับ ในตัวอย่างที่ผมยกไปเป็นแค่การเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ อันที่จริงถ้านับหมดทุกองค์ประกอบนี่โอกาสคงจะน้อยกว่า 1/1000000000 อีก
That is the way things are.
อ้าว ไม่ดูองค์รวมว่ามันเป็นปีกเหมือนกัน? ต้องดูลึกขนาดว่าเป็นคนละสายพันธุ์รึเปล่าเลยไหมเหรอครับ? (แล้วดูไกล ๆ หรือมันหุบปีกอยู่จะดูออกไหมนั่น?)
สิ่งที่ทำให้มันบินได้กรณีนี้ก็คือการที่มันมีปีก และถ้าแมวมันมีปีก มันก็คือปีกแมวไม่ใช่หรือครับ?
แล้วที่คุณเอามาเปรียบเทียบกับ "คนที่อยู่ ๆ คิดเอง" มันใช่หรือเปล่าเล่า ก็คนที่คุณว่า "คิดเหมือนกัน" เค้าไม่ใช่ตอบคำถามคนที่ถามเค้า (คนถามคนเดียวกันด้วยซ้ำ) ว่า "จะไปหาแมวหน้าตาแบบไหน หรือทำอะไรได้ มาให้เค้าซื้อ" เหรอครับ? แล้วแต่ละคนเค้าก็เคยเห็น "หมูมีปีก" "หมามีปีก" กันมาแล้วอีกต่างหาก (แต่ยังไม่เคยเห็นแมว และอาจจะยังเคยเห็นแต่ปีกอย่างอื่น) เพราะสัตว์ที่มีปีกพวกนี้ "มันมีอยู่แล้ว"
การเปรียบเทียบแบบนั้นมันก็แนวเดียวกับการที่คุณพยายามจะยกตัวอย่างว่าสัตว์มันมีหลากหลายมากจะเลือกมาให้เหมือนกันได้ไงนั่นแหล่ะ (เพื่อให้ดูว่าโอกาสมันน้อยมาก, ตัวหารเยอะ) แต่จริง ๆ มันมี "ที่มาที่ไป" ที่ทำให้ตัวหารมันลดลงอย่างมากเช่นกัน (มันมีส่วนถูก แต่ก็ไม่ได้เว่อร์ขนาดนั้น)
แล้ว Fairy Tail นี่เป็นเรื่องแรกที่เขียนรูป "แมวมีปีก"?
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่สายพันธู์ครับแต่ดูลักษณะของปีก ผมสามารถแยกแยะระหว่างปีกนกกับปีกค้างคาวได้ในระยะอย่างน้อย 10 เมตรต่อให้มันหุบปีกอยู่ก็ตาม คุณไม่สามารถแยกแยะออกหรือครับ ? คุณคิดว่าปีกนกที่มีขนกับปีกค้างคาวต่างกันเพียงเล็กน้อย ?
ถ้าเป็นปีกแมวแบบ original คิดเองเลยไม่เหมือนของสิ่งมีชีวิตทั้งในโลกจริงและตำนานอื่นเลยก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ ต่อให้คนอื่นคิดปีกออกมาผมว่าก็คงไม่เหมือนของคุณง่าย ๆ แน่นอน (พูดตรง ๆ ผมยังนึกไม่ออกเหมือนกันถ้าแมวมีปีกแล้วไม่คล้ายปีกของสัตว์ที่มีอยู่ตอนนี้มันจะเป็นอย่างไร) ยิ่งถ้าเป็นแบนั้นคุณคิดว่าใน 1,000,000 คนจะมีคนเคยคิดอยากให้แมวมีปีกที่รูปร่างหน้าตาเหมือนปีก original ของคุณกี่คนครับ ?
ส่วนเรื่อง Fairy Tail เป็นเจ้าแรกหรือไม่นี่เป็นประเด็นตรงไหนหรือครับ ? ผมแค่ยกตัวอย่างเพราะผมรู้จักแค่นั้นเองไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นครับ ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเป็นเจ้าแรกหรือไม่สำคัญอย่างไร ผมแค่บอกว่าตัวอย่างของแมวมีปีกมันมีอยู่ในท้องตลาดแล้วแค่นั้นเอง
ย่อหน้าที่ 3 อ่านไม่รู้เรื่องครับ มีการใช้สรรพนามเรียกโดยไม่ได้เกริ่นมาก่อนหลายครั้งจนสับสนไปหมด หมูมีปีก หมามีปีกนี่มีอยู่ในใจความ comment ไหนก่อนหน้าด้วยหรือครับ ? หากคุณเพิ่งสมมติมันขึ้นมาในครั้งนี้ก็ควรเขียนให้กระจ่างด้วยนะครับว่าสถานการณ์คืออะไร หรือใครอ่านแล้วเข้าใจจะขยายความให้ผมก็ยินดีนะครับ
ผมเห็นคุณพยายามตอบคำถามผมหลายอย่าง คุณลองกลับไปตอบคำถามของ comment ตั้งต้นดูบ้างไหมครับว่า "โดราเอม่องที่มีหนวด 4 เส้นลอกเลียนแบบมาจากโดราเอม่อนของญี่ปุ่นหรือไม่"
ผมยืนยันคำเดิมครับว่าความน่าจะเป็นที่จะบังเอิญเหมือนกันมันน้อยกว่านั้นมาก ขนาดผมหยิบมุมมองมายกตัวอย่างไม่ครบโอกาสมันยังน้อยขนาดนั้น ถ้าหยิบมาครบทุกองค์ประกอบรับรองได้เลยว่ามันไม่ได้เหมือนกันง่าย ๆ แน่นอน และในตัวอย่างก่อนหน้าผมสมมติแค่ว่าโลกนี้มีสัตว์แค่ 1,000 ขนิดนะครับยังคำนวณออกมาได้ขนาดนั้น ถ้าเอาเท่่าจำนวนที่มีอยู่จริง ๆ บนโลกทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่และสูญพันธุ์ไปแล้วคุณคิดว่าโอกาสมันจะน้อยแค่ไหน ??
คนที่เข้าใจก็คงเข้าใจแหละครับ คนที่ไม่เข้าใจก็คงไม่เข้าใจอยู่ดี ผมพยายามเขียนอธิบายไปอย่างละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วครับ หากลองสังเกตดูจะพบว่าบางคนก็เข้าใจบางคนก็ไม่เข้าใจ ก็คงจะสามารถอธิบายได้แค่นี้แหละครับ ที่พยายามจะอธิบายก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรตอบแทน หากอธิบายแล้วเหมือนพูดกับก้อนหินที่ไม่มีผลตอบรับก็คงไม่มีประโยชน์
That is the way things are.
1.เรื่องปีกประเด็นที่ผมจะบอกคือ ในมุมมองของคุณที่เราเคยคุยกันมา คุณมองเรื่องดีไซน์ว่าซัมซุงลอกเลียน ถึงแม้จะมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่แตกต่าง หรือรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันบ้าง แต่ดีไซน์ "โดยรวม" เหมือนกัน ผมจึงย้อนถามคุณว่า คุณคิดที่จะกลับไปดู "รายละเอียดปลีกย่อย" แล้วหรือ?
2.ถ้าคุณจะเทียบปีกนก กับ ปีกค้างคาว มันย่อมต่างกันชัดอยู่แล้ว (แล้วลองคิดดูว่าโอกาสคนที่จะคิดว่าเป็นปีกค้างคาวมีกี่เปอร์เซ็นต์) ประเด็นผมคือถ้าจะเทียบด้วยเกณฑ์ของคุณมันเทียบด้วยการที่ "มันมีปีก" จึงบินได้ และบอกว่าในเวลานี้ทำไมคุณจะต้องมามองถึง "สายพันธุ์ที่แตกต่าง" เพื่อเป็นตัวตัดสินว่าลอกไหม? ในเมื่อ S1 ก็ไม่ได้เหมือน iPhone เป๊ะ เหมือนแค่ "ดีไซน์" (ตามที่คุณว่า)
3.ย่อหน้า 3 ผมต้องการบอกให้คุณรู้ว่า ตัวเลขคุณมันเกินจากความเป็นจริงไปมาก (แม้จะมีส่วนถูกอยู่บ้าง) ตัวอย่างตัวเลขที่คุณยกมาเรื่องประเภทสัตว์ ถ้าผมให้คุณนึกถึงสัตว์ที่ดุร้าย คุณจะนึกถึงอะไร? สัตว์ที่ซื่อสัตย์คุณจะนึกถึงอะไร? สัตว์ที่น่ารักคุณจะนึกถึงอะไร? สัตว์ที่มีรูปร่างเรียวยาวเหมือนหางสัตว์คุณจะนึกถึงอะไร? แบบนี้เป็นต้น (ลองบอกข้อใดข้อหนึ่งให้ครบ 1000 ชื่อซิ?) แต่ละหัวข้อมันคือ "ที่มา" ที่ทำให้เค้า "เลือกว่าจะใช้สัตว์อะไร" มันจึงทำให้ตัวหารลดลงอีกมาก ส่วนตัวเลขจำนวนคนผมก็ยกมาจากที่คุณอ้างว่าจะมีสักกี่คนที่ "คิดได้เอง" ผมจึงบอกว่าในกรณีนี้ันไม่ใช่เรื่องอยู่ดี ๆ แล้วอยากจะคิดขึ้นมา เพราะ apple ไม่ได้คิด iPhone มาเพื่อโชว์ว่าตัวเองคิดรูปอะไรได้ใช่ไหมครับ? เค้าทำมาขายครับ! ดังนั้น คนที่ถามโจทย์นี้เค้าคือ "ลูกค้า" ครับ เช่นเดียวกับโทรศัพท์ คุณลองนึกถึงรูปร่างโทรศัพท์ที่คุณจะทำมาขายเอง แล้วลองตอบผมสิครับว่า มันจะมีได้กี่รูปทรง? (ที่ทำแล้วจะขายได้ด้วยนะ) คุณจะทำให้มันเพิ่ม-ลดเสียงได้ ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันคุณต้องทำยังไงบ้าง มันมีกี่ตัวเลือกครับ? ทั้งหมดนั้นเมื่อรวมกันแล้วผมเข้าใจว่ามันทำให้โอกาสที่จะเหมือนทั้งหมดนั้นเพิ่มขึ้นมาก แต่ผมต้องการให้คุณเข้าใจเช่นกันว่า "มันมีที่มาที่ไป"
4.อยากให้ผมตอบเรื่องโดเรม่อน ถ้าคุณเรียกโดเรม่อนชื่อมันก็บอกอยู่แล้วนี่ครับ ผมไม่น่าจะต้องตอบ มันเป็นการเอาต้นฉบับมาแต่งเติม แล้วมันเหมือนกันกับกรณีนี้หรือ?
ข้อ 1 ในการเปลี่ยนของ Samsung ที่คุณบอกว่าไม่เหมือนในจุดเล็กจุดน้อยนั้นคุณพูดถูกต้องแล้วครับ เพียงแต่จุดที่คุณว่ามันไม่เหมือนนั้นมันเล็กน้อยกว่าจุดที่มันเหมือนอย่างที่ไม่น่าจะเรียกว่าบังเอิญได้อย่างมาก เช่น ขอบอลูมิเนียมสีเงินของ Samsung Galaxy S อาจจะต่างจาก iPhone 3G/3GS ในเรื่องขององศา (เล็กน้อย) กับความแน่นของการยึดติด (ใช้กาวคนละยี่ห้อหรือขันน็อตด้วยแรงที่ต่างกัน) เป็นต้น ซึ่งหากจะนำไปเปรียบเทียบกับตัวอย่างแมวมีปีกนั้น มันย่อมเหมือนกับมีปีกเป็นอวัยวะเหมือนกันแต่คนละรูปแบบมากกว่า และหากให้ระบุชัดไปกว่านั้นผมว่านี่เหมือนกับการมีปีกนกสายพันธุ์เดียวกันสีเดียวกันแต่คนละขนาดและทำมุมติดตั้งต่างกันไม่กี่องศาแค่นั้นเองด้วย การที่ผมพูดถึงชนิดของปีกนกนี่เป็นการดูการออกแบบองค์รวมนะครับ ยังไม่ได้เรียกว่าลงละเอียดเลยครับ เป็นสิ่งที่มองปราดเดียวก็เห็นอย่างชัดเจน หากจะต้องลงละเอียดผมคงต้องพูดไปถึงสี ความยาวขน สายพันธุ์แมว จำนวนหนวดแมว ตำแหน่งปีกว่ากลางหลังหรือค่อนไปทางอื่น สีขนปีก ความยาวหาง ทิศทางขนแมว อะไรที่มันละเอียดลึกกว่าแค่ว่าปีก (ที่เป็นอวัยวะเด่นของแมวมีปีกตัวนี้) เป็นรูปร่างลักษณะแบบไหน
ข้อ 2 ผมยืนยันว่าผมเทียบไม่แปลกครับ สิ่งที่เห็นได้ชัดจากตัวอย่างเรื่องแมวมีปีกของคุณคือปีกที่เป็นรูปลักษณ์ภายนอก เหมือนโทรศัพท์มือถือมีขอบเครื่อง ผมบอกว่ามันต้องดูด้วยว่าขอบเครื่องทำมาจากวัสดุอะไร ขนาดเท่าไร สีอะไร คุณกลับบอกว่ามีแค่ขอบเครื่องก็คือมีขอบเครื่องเหมือนกัน ถ้าคุยกันคนละระดับแบบนี้ชาตินี้ก็คงจะคุยกันรู้เรื่องยากครับ
ข้อ 3 ผมได้ตอบตัวอย่างจริง ๆ จากองค์ประกอบของโทรศัพท์มือถือเอาไว้ด้านล่างแล้วนะครับ ลองไปอ่านดูแล้วคำนวณดูความน่าจะเป็นดูเล่น ๆ ก็ได้ครับ ถ้าจะให้ดีลองหยิบแต่ละส่วนที่ผมบอกไปมาเทียบกันระหว่าง iPhone 3G/3GS กับ Samsung Galaxy S และ Nokia Lumia 800 ดูครับ แล้วคุณจะรู้ว่ารูปลักษณ์ของโทรศัพท์มันจะออกมาได้กี่แบบ (เน้นว่ารูปลักษณ์นะครับไม่ใช่รูปทรง ผมไม่เคยเห็นในสำนวนฟ้องของ Apple ว่าฟ้องที่โทรศัพท์มีรูปทรงสี่เหลี่ยมแต่ฟ้องที่รายละเอียดปลีกย่อยมากกว่า เช่น การตัดมุม การทำสีขอบ เป็นต้น) แน่นอนว่าจุดที่เหมือนกันเพราะบังคับจากลักษณะการใช้งานบังคับย่อมมี เช่น ช่องเสียบหูฟัง ช่องเสียบสายชาร์ต ปุ่มปรับเพิ่มลดเสียง เป็นต้น แต่จุดที่ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันแต่กลับมาเหมือนกันนี่มันแปลว่าอะไร ?
ส่วนเรื่องสัตว์ที่มีรูปร่างยาวจนเป็นหางได้มีไม่มากครับถ้านับตามชนิด แต่ถ้านับตาม species นี่ผมว่ามันเยอะแยะมากมายเลย แต่ประเด็นสำคัญที่ผมได้ยกตัวอย่างไปแล้วมันยิ่งกว่านั้นอีกไม่ใช่หรือครับ ที่บอกว่าทำไมคนคิดคนที่ 2 ต้องเอาสัตว์ทั้งตัวมาทำเป็นหาง ทำไมไม่เอาแค่หางของสัตว์อื่น ๆ มาทำเป็นหาง เช่น หางแมงป่อง เหล็กไนผึ้ง หรือทั้ง 2 อย่างผสมกัน เป็นต้น ทำไมต้องเอาสัตว์ทั้งตัวมาเป็นหาง ทำไมต้องมีหางเดียว ทำไมต้องมีหาง หากลองนับเรื่องพวกนี้ไปด้วยคุณไม่คิดว่าโอกาสที่มันจะเหมือนโดยบังเอิญจะยิ่งน้อยหรือครับ ? ยิ่งไปกว่านั้นหากคุณยกตัวอย่างว่าสัตว์ที่มีรูปร่างเหมือนหางมีน้อยจึงทำให้การสมมติของผมเกินจริงไป ทำไมไม่พูดถึงกรณีที่ผมสมมติน้อยกว่าความเป็นจริงบ้างล่ะครับ เช่น การเลือกร่างหลักเป็นสิงโตจากบรรดาสัตว์ทั้งหมดที่มีอยู่บนโลก คุณคิดว่ามันจะมีแค่ 1,000 ชนิดอย่างนั้นหรือ ? การเลือกหัวที่ 2 เป็นแพะมาติดที่กลางหลังคุณคิดว่าสัตว์ที่มีหัวบนโลกนี้จะมีแค่ 1,000 ชนิดอย่างนั้นหรือ ? เป็นต้น
ผมว่าการที่ผมตอบไปหลายเรื่องแต่หยิบมาตอบกลับเพียงเรื่องหนึ่งดูเหมือนจะเป็นการพยายามเลี่ยงบาลีเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางของตัวเองแต่เพียงอย่างเดียวนะครับ ใจความหลักของสิ่งที่เราคุยกันมันคือโอกาสมันน้อยจริงหรือไม่ แต่คุณกลับหยิบประเด็นย่อยเล็กที่สุดเพียงอย่างเดียวมาชี้นำกรณีศึกษาอื่น ๆ ทั้งหมดโดยพูดไม่ครบอีกด้วย (เน้นนะครับ ทำไมต้องมีหาง ทำไมต้องมีหางเดียว ทำไมหางต้องเป็นสัตว์ทั้งตัว ทำไมหางไม่เกิดจากการนำหางหรือส่วนอื่นมาผสมกัน มันยังมีอีกมากแต่นี่กลับพูดแต่ประเด็นที่ว่าหางมันต้องเป็นสัตว์)
ข้อ 4 นี่แหละครับประเด็น ... คุณมองออกว่าโดราเอม่องลอกเลียนแบบโดราเอม่อนเพราะแค่เอาของต้นฉบับมาเติมหนวด ทีนี้ถ้านอกจากเติมหนวดแล้วยังเติมขนตา เปลี่ยนสีผิว เติมร่องนิ้วมือ เปลี่ยนสีกระเป๋าหน้าทอง เพิ่มความยาวหาง เพิ่มจำนวนกระดิ่งที่ปลอกคอ เปลี่ยนสีปลอกคอ ที่เหลือทุกอย่างเหมือนเดิม ... คุณจะยังคงมองออกหรือไม่ว่าโดราเอม่อง Aฉบับปรับแต่งตัวนี้ลอกเลียนแบบมาจากโดราเอม่อน
ผมขอพูดความรู้สึกตามตรงนะครับ การพูดโต้ตอบกับคุณนี่ผมไม่ได้ข้อคิดแง่คิดใด ๆ เลยเหมือนกับเป็นผมพยายามอธิบายสิ่งที่คุณไม่เข้าใจแต่หลายคนเข้าใจอยู่ฝ่ายเดียว คำถามก็มักจะวนเวียนประเด็นไม่คงที่อยู่ตลอดเหมือนกับอ่านแล้วไม่เข้าใจประเด็น ผมจึงเริ่มรู้สึกเหนื่อยหน่ายแล้วครับ
ผมพยายามอธิบายเต็มที่แล้วคนที่เข้าใจย่อมเข้าใจครับ ใน class เรียนชั้นปีหนึ่ง ๆ ย่อมมีทั้งคนที่สอบวิชา calculus หรือ discrete math ผ่านและตก คนที่ตกก็พยายามสอบซ่อม แต่หากซ่อมอย่างไรก็ยังไม่ผ่านก็คงจะต้องเลือกถอนวิชา หรือไปหาทางผ่านด้วยวิธีการอื่นแทนล่ะครับ ฉันใดก็ฉันนั้น
That is the way things are.
ก็อปโปรแกรมเพื่อน เปลี่ยน Interface เปลี่ยนชื่อตัวแปร ส่งอาจารย์
ผมรู้นะ พวกคุณก็เคยทำ 5555
เคยก็อปโปรแกรมกันทั้งกลุ่ม เปลี่ยนชื่อฟังชั่น เปลี่ยนชื่อตัวแปร โดนอาจารย์ใช้โปรแกรมตรวจสอบโค้ด ติด i กันทั้งกลุ่มยกเว้นผมรอดคนเดียว ไม่รู้ไปเขียนบั๊กอะไรเพิ่มให้โปรแกรมตรวจสอบไม่เจอ ^^
ถ้าเชียร์แอปเปิล ผมมองว่าโลกนี้ไม่ควรมีบริษัทที่ประพฤติตนแบบซัมซุงหรือซิงกาครับ ผมไม่ชอบวิธีการแบบนี้เลย
ถ้าไม่นับส่วนที่สองบริษัทนี้ขยันปั๊มสินค้าฟีลเดียวกับสินค้าของคนอื่นออกมา ผมถือว่าเป็นบริษัทที่โอเคเลยครับ
ผมมองว่าการแข่งขันแบบที่โซนี่ทำ มันยังดูเหมาะสมกว่า
ไม่ได้เป็นคนคุณธรรมจ๋านะครับ แต่เล่นแบบนี้มันไร้ศีลธรรมจริงๆ
รักโซนี่ <3
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
+1
แต่ผมก็ชอบซัมซุงที่เน้นลดต้นทุนทำให้ราคาสินค้าไฮเทคหลายตัวในตลาดลดราคาเร็วมาก แต่ไม่ชอบ PR ของบริษัทนี้ในเมืองไทยเลย ซึ่งไม่รู้ต่างประเทศเค้า PR กันแบบนี้หรือเปล่า
รอบนี้ผลจะออกมายังไงก็ตาม ต้มมาม่านั่งห่างๆ คอยดูผลลัพธ์อย่างเดียว
+1 ครับ สินค้า Apple ส่วนใหญ่ไม่ตอบสนองความต้องการผมเลย ผมไม่ชอบแค่รูปร่างสวยแล้วทำอะไรไม่ค่อยได้แบบนั้น (เพราะผมไม่เจลน่ะ iPad ไม่เจล SG Note ไม่รูท ทำเป็นแต่ไม่ทำ) ผมขอไม่ลื่นมาก แต่ทำอะไรได้หลาย ๆ อย่างหน่อย แล้วเรื่องมาบังคับให้ใช้ iTune นี้เกลียดมาก (iPad ไม่เคยต่อ iTune ใช้ GoFlex Satellite) แล้วเรื่องดูถูกลูกค้านี้อย่าให้พูดเลย
Apple อาจทำตามกฏหมาย อาจเคยผลิตนวัตกรรม แต่เจตนาครั้งนี้มันดูไม่จริงใจ มันดูเหมือนจงใจทำลายคู่แข่งมาก
มุมของผมคือ ซัมซุงพยายามดึง look & feel ไประดับนึงเลยนะ Galaxy S และ Ace พยายามทำมาคล้ายไอโฟนมาก(เพื่อนทผมที่ใช้ HTC Desire เป็นคนพูดเองเลย) คล้ายๆด้านบนคือ การลอกไม่ใช่ว่าต้องเหมือนเป๊ะ ซึ่งระยะเวลาสั้นๆ 3 เดือนนั้นก็คงชัดว่าคงใส่ไอเดียอะไรลงไปเองได้ไม่มาก ทำได้แค่ตบๆให้เกิดความต่างเล็กๆ และที่สำคัญที่สุด ผมว่าศาลตัดสินออกมาจริงๆไม่หนักหรอกครับ ซัมซุงน่าจะโดนบ้างเบาๆให้จำแค่นั้นพอครับ
ส่วนแอปเปิล ผมไม่มองว่าเขาเป็นตัวปัญหาอะไรนะนอกจากเรื่องฟ้องคนเยอะไป เพราะดูเหมือนเขาไม่ได้ตั้งใจทำการค้าแบบที่จะครอบตลาดเลย ซึ่งดูเป็นเรื่องดี การตั้งราคาที่บางครั้งดูสวนทิศตลาด บางอย่างกำไรมาก บางอย่างกำไรน้อย ก็แสดงให้เห็นว่าเขาประเมินราคาที่คุณค่าของสินค้า ดั้งนั้นการทำแบบนี้ทำให้แบรนด์อื่นๆสามารถลุกขึ้นมาสู้ได้เรื่อยๆ เพราะไม่ว่ายังไงแอปเปิลก็ไม่ใช้ความได้เปรียบเรื่องต้นทุนมาทุ่มตลาดฆ่ารายเล็กแน่
เรื่องหน้าตาก็เหมือนที่ทุกคนพูดกัน Sony ออกแบบมาได้ ทำไม่ซัมซุงจะทำไม่ได้? ก็แค่ไม่คิดจะทำ ก็แค่คิดว่าสุดท้ายจะไม่มีอะไรใหญ่โต ถ้าครั้งนี้ซัมซุงแพ้ ต่อไปซัมซุงก็น่าจะให้ความสำคัญกับการออกแบบมากขึ้น ไม่ใช่แบบทุกวันนี้ที่พยายามปั้นเรื่องจากอากาศ เช่นเสียงน้ำส้ม หรือว่า ความปราณีต 33000 ชั่วโมงของอัลตร้าบุ๊คซัมซุงนะครับ (ทำอะไรปราณีต 3 ปีครึ่งเต็มๆ มีสองอย่างคือโม้ขึ้นมา ไม่งั้นก็ใช้เวลาได้เปลืองมาก = =)
ในเรื่อง gui นี่ ไมโครซอฟท์ก็ทำให้เห็นแล้วว่า มันไม่จำเป็นต้องไปตาม apple
ส่วนเรื่องดีไซน์เนี่ย แต่ปฏิเสธไม่ได้หรอก ว่าไม่ได้รับแรงบันดาลใจจาก apple เลย
ส่วนตัวชอบที่จะเห็นบริษัทที่คิดนวัตกรรมได้แตกต่างกับที่มีอยู่แบบที่ไมโครซอฟท์ทำเมโทร มากกว่าจะเห็นเหมือนๆ กันซ้ำๆ ซากๆ วนเวียนแค่นี้
+1
+1
+1
+1
+1
+1
+1
+1
" การแข่งขันนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่คุณต้องแข่งด้วยการสร้างนวัตกรรมขึ้นมาเอง และแอปเปิลทำก็เพื่อปกป้องผลประโยชน์จากสิ่งที่บริษัทได้ลงทุนพัฒนามา หากเราไม่ทำสิ่งนี้ โลกก็จะไม่สามารถระดมคนมาสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้กับโลกได้เหมือนเช่น iPhone อีก "
ทำเหมือนว่านวัตกรรมที่มีอยู่ใน iPhone Apple คิดเองหมด ก็เห็นเอาของคนนู้นคนนี้มาบ้าง คิดเองบ้าง
ไม่มีบริษัท IT ไหนบนโลกคิดอะไรเองทุกอย่างหรอก ทุกอย่างคือการ"ต่อยอด"
Samsung เองก็ทำเหมือนหลายอย่างอยู่ แต่ก็ไม่ใช่เอาทุกอย่างมา เค้าก็มีนวัตกรรมของเค้าที่ใส่มา
ความสำเร็จของ Samsung มาจาก Apple ส่วนหนึ่ง แต่ถ้าของมันไม่ได้มีส่วนดีมันก็ขายไม่ได้หรอก
+1
นั่นสินะ พวกมือถือจีนที่เหมือน iphone เป๊ะขายไม่เห็นจะดีมาก
ความสำเร็จของ samsung mobile เกิดขึ้นหลังจากสร้างมือถือที่คล้ายๆไอโฟนออกขาย
ต้องดูคำนี้ก่อนว่าคุณรู้สึกแบบไหนกับคำนี้ ถ้าหากคุณว่าไม่คล้าย สิ่งที่คุณพิมพ์มาทั้งหมด ผมว่ามันเปนความจริง
Apple ไม่ได้คิดเอง แต่ก็ไม่ได้ไปเอามาฟรีๆ อย่าง multi touch ก็ซื้อมา
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เห็นหลายคนถามว่าทำไมไม่ไปฟ้องบริษัทจีน ผมว่าที่แอปเปิลไม่ไปฟ้องบริษัทจีนคงเพราะอยากเชือดไก่ให้ลิงดูก่อนมากกว่า อีกอย่างการจะฟ้องร้องในจีนให้ชนะผมว่ามันดูยากมากนะ เท่าที่อ่านข่าวมา
ส่วนตัวเชียร์ให้ซัมซุงสร้างแนวทางของตัวเองให้โลกเห็นไปเลยว่า ของฉันเจ๋งกว่า
ไอโฟนมันห่วยนักก็อย่าไปทำให้มันออกมาคล้ายเลย ถ้ายังทำมาให้ความรู้สึกแบบไอโฟน มันจะดูเหมือนว่าซัมซุงยังไม่แน่ใจในแนวทางของตัวเองนะ
อยากให้ซัมซุงขยาดแอปเปิล แบบ ยี้...ชั้นไม่ทำเหมือนไอโฟนหรอก
จริงๆแล้วก็สงสารแอปเปิลนะ 1หนึ่งค่าย1โอเอส ต้องต่อสู้กับผู้ผลิตมือถือหลายค่าย1โอเอส
เหมือนโดนรุม 55555
แต่ยอมรับว่าแกร่งมากที่ยังอยู่ได้
รายได้จากการฟ้องอาจไม่คุ้มเสียครับ
ถึงจะคิดว่า Samsung เลียนแบบ แต่คดีนี้ผมเชียร์ Samsung แฮะ
เพราะรู้สึกว่า Apple จะโมเมไปหน่อย หยิบทุกอย่างมาบอกว่า ข้าคือผู้สรรค์สร้างทุกสรรพสิ่ง - -/
hTC Only จบมะ!!
ผมละสงสัยว่าถ้าโดนเรื่อง GUI นี่ google จะติดร่างแหไปด้วยหรือเปล่า (เผื่อ samsung บอกว่าไม่ได้ทำ GUI เองทั้งหมด เค้าไปเอา andriod ไปมาโมต่อต่างหาก) แต่ส่วนตัวคิดว่า samsung คงไม่อยากหาศัตรูเพิ่ม
ที่ถามเพราะอยากรู้ว่าจริงๆแล้ว samsung สามารถบอกได้แบบนั้นหรือเปล่า
ส่วนตัวคิดว่า samsung น่าจะมีแรงบัลดาลใจาก apple บ้าง แต่เวลาจะทำอะไรสักอย่างมันก็ต้องการแรงบัลดาลใจนะ และก็ไม่คิดว่า apple จะทำ iPhone ออกมาโดยที่ไม่มีแรงบัลดาลใจจากอย่างอื่นเลย
ส่วน apple เองก็ดูเหมือนจะเห็นแก่ตัว ถ้าสำเร็จก็เหมือนเชือดไก่ให้ลิงดู มันดูจะเอิ่มม.. เหมือนทำทุกทางเผื่อผลประโยชน์ของบริษัท (เน้นว่าทำทุกอย่างจริงๆ แต่บริษัทก็สร้างขึ้นมาเพื่อทำกำไรอ่ะนะ) ถ้าส่งเสริมให้ Brand ตัวเองแข็งแกร่งเหมือน Nokia สมัยก่อนก็คงจะดีไม่น้อย เพราะสมัยนั้นหน้าตามือถือมันก็คล้ายกันนะ และยังใช้ symbian เหมือนกันด้วย Nokia ก็ยังอยู่ได้สบายๆ (ไม่ได้บอกว่า Nokia คิดทุกอย่างนะ แต่คิดว่าไม่เห็นจะมีการฟ้องร้องเรื่องลอกไม่ลอก ส่วน symbian ก็ไม่เป็นประเด็นเพราะเจ้าอื่นคงใช้กันอย่างถูกต้องอยู่แล้ว ก็ขนาด software แทบจะเหมือนกันขนาดนั้นคนก็ยังเลือก Nokia)
คิดแล้วเหนื่อย --' ไม่ได้เชียร์ใคร แต่ไม่อยากให้เกิดการผูกขาด
มีรายงานสดทางเวบใหนบ้างครับ ? คดีจบราวๆกี่โมงเวลาไทย ครับ
โดนแบน 555+
"IT TOOK APPLE FIVE YEARS TO CREATE THIS REVOLUTION, AND SAMSUNG TOOK THREE MONTHS TO COPY IT. THAT'S TRUTH, AND THAT'S SIMPLE, CLEAR, AND UNDISPUTED."
ประโยคนี้โดนมาก
ถ้า apple ชนะ ต่อไป เครื่องที่มีรูปร่างสี่เหลี่ยมมนๆจอใหญ่ๆ touchscreen มีปุ่มกดด้านล่างเครื่องจะนับว่ามี look and feel เหมือน iphone รึเปล่า?
ผมเห็นใจทั้งสองฝ่ายนะครับ โดยส่วนตัวแล้วชอบสินค้าของทั้งสองฝั่งและใช้ทั้งสองฝั่ง
จริงอยู่ที่มีตัวเลือกมากๆมีการแข่งขันกันของผู้ผลิตสูง ผลประโยชน์จะตกที่ผู้บริโภคอย่างเราๆ ได้มีมือถือตกรุ่นเร็วๆดีๆและราคาถูกๆไว้ใช้ แต่ผมก็อดเห็นใจผู้ที่คิดค้นหรือออกแบบไม่ได้ ถึง Apple จะไม่ได้เป็นคนคิดค้นเองทั้งหมด แต่การออกแบบนำมารวบรวมและบอกวิธีการใช้(หรือแฟนบอยเรียกว่าวัฒนธรรม) มันก็น่าเห็นใจที่กว่าจะคิดค้นหรือวิจัยหาผลสรุปที่ดีและเหมาะสมออกมาได้ต้องใช้เวลานาน แต่การต่อยอดนำไปใช้ทำได้เร็วกว่ามาก(อาจจะไม่ได้คัดลอกแต่พอดูเป็นแนวๆแล้วปรับปรุง)
หากสังคมถูกผูกขาด ตัวเลือกมีน้อย จะเป็นสังคมเสรีได้อย่างไร
แต่หากสังคมมุ่งแต่ต่อยอด ต้นใหม่ๆก็คงจะเกิดได้น้อย หรือหมดกำลังใจกันไป
สรุปแล้วไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ผมก็ดีใจและเสียใจกับทั้งสองฝ่าย
ผมกับเห็นต่างน่ะ บริษัทที่บุกเบิกทำสิ่งใดก็มักจะสามารถเก็บกินผลประโยชน์ได้มากกว่าผู้อื่นเสมอ ส่วนพวกที่แตกหน่อออกมาก็เป็นผู้ขยายตลาดให้เติบโตเบิกบาน ถ้าผู้บุกเบิกยังพัฒนาต่อไปเรื่อย ก็ยิ่งได้รับผลประโยชน์มากขึ้นเรื่อย แต่ถ้าหยุดพัฒนา หรือมีต้นใหม่ที่แข็งแรงกว่าเกิดขึ้นมาข้าง ๆ กัน ต้นนั้นถึงจะเหี่ยวเฉาลง
ก็เหมือนต้น Apple ที่ฆ่าต้น Nokia และต้น Apple ก็รวยมหาศาล มากกว่าเจ้าอื่นที่เป็นเพีนงกิ่งที่แตกแขนง ผมว่านี้เป็นความจริงที่ทุกคนก็เห็นกันอยู่
แต่สิ่งที่ Apple พยายามทำคือ ตัดกิ่งต่าง ๆ ออก ด้วยคิดว่าพวกนี้เป็นกาฝาก เข้ามาแย่งผลประโยชน์ฝ่ายเดียว ทั้งที่กิ่งอย่าง Samsung ก็เปิดตลาด Tablet 7 นิ้ว และ 8 นิ้ว 8 นิ้วขายไม่ค่อยดีก็เฉาไป 7 นิ้วขายดี Google ก็ลงมาเล่นด้วย Apple ก็กำลังจะลงมาเล่นด้วย นี้มันไม่ใช่เพราะกิ่งต่าง ๆ ที่มันขยายออกไปเหรอ ทำให้ตลาดกว้างขึ้น แล้วทำไม Apple ไม่คิดถึงตรงนี้บ้าง ว่าจริง ๆ มันก็มีการถ้อยทีถ้อยอาศัยกันอยู่ Apple กับอยากโตคนเดีนว ปิดโอกาสการขยายตัวของตลาดให้กว้างขึ้น เหมือน Apple พยายามให้ผู้ใช้ได้คิดได้เลือกเอง ทำให้ผมคิดว่า Apple ดูถูกผู้ใช้มากไป คนทุกคนรู้ว่าอันไหนเป็นสินค้าที่ทำมาจากเจ้าไหนอยู่แล้ว มันหายากน่ะที่คนจะไม่รู้อะไรเลยแล้วจะจ่ายเงินสองหมื่นบาท ไม่ใช่แค่รวยอย่างเดีนว ต้องเป็นอย่างทนายของ Apple อ้างต่อศาลด้วย ซึ่งมันก็น่าจะมีแค่ 1% ที่รวยแล้วอืมได้ขนาดนั้น (ตอนแรกก็ดูดี ตอนหลังเริ่มมีอคติมาแทรกอีกแล้ว ขอโทษแฟน Apple แล้วกัน ห้ามใจไม่อยู่)
สรุปการแข่งขันเสรีดีกว่าเยอะครับ ถ้าใครจะนำเสนอความไม่ดีของการแข่งขัน หรืออนาคตที่มืดมนของการลอกกันอย่างเดียว จะยินดีมาก เพราะผมคิดไม่ออก มองเห็นด้านนี้ด้านเดีนวจริง ๆ ('A')
คุณ darkfaty ทำธุรกิจอะไรมาบ้างรึปล่าวครับ
อืม เรื่องส่วนตัวไม่ขอตอบน่ะครับ มันไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่คุยน่ะครับ หรือความเห็นของผมมันดูจิตนาการมากไปหรือเปล่าครับถึงถามอย่างนั้น
Edit จริงอยากให้คุณ Wayne อธิบายแนวคิดมาเลยน่าจะดีกว่าน่ะครับ พอดีเป็นผู้ใช้ธรรมดา ตอบรัวไม่ได้ ยอมเสียเวลาพิมพ์สักนิดเถอะครับ จะได้คุยกันง่าย ๆ เพราะคำถามสั้น ๆ ของคุณมันชวนสงสัยว่าดูแคลนความเห็นคนอื่นอยู่หรือเปล่า
แสดงความเห็นให้คนอื่นเห็นด้วยเค้าจะได้ช่วยแก้ให้คุณได้ เหมือนผมก็ได้ความคิดหลาย ๆ อย่างเพิ่มขึ้น
บางทีสิ่งที่เราคิดว่าถูกมันก็ไม่ถูกไปตลอด 220 ปีก่อนอาจจะไม่มีปัญหา แต่พอสองสิ่งมาบรรจบกันพอดีก็อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ อย่างเรื่อง CSR หรือ CG ก็พึ่งเป็นที่นิยมไม่นานนี้ ถ้าเอาไปบวกกับเรื่องสิทธิบัตรก็อาจสร้างแนวคิดใหม่ได้ ทุกสิ่งมันเป็นข้อตกลงเพื่อแบ่งผลประโยชน์กันอยู่แล้ว ไม่ใช่พิธีพ่อมดหมอผีที่ไหนที่ต้องทำเหมือนเดิมเป็กไม่งั้นเสกคาถาไม่ออก (ตัวอย่างไม่ค่อยเข้ากับเรื่องเท่าไหร่) คุยกันสนุก ๆ ดีกว่าน่ะครับ
ปล. ที่คุณให้อ่านมันข่าวเก่านี้ครับ ให้อ่านอีกทีทำไมเหรอครับ?
ถ้าคุณตามอ่านก็จะเจอสิ่งที่เค้ากลัวกันอยู่นั่นแหละครับ คือไม่มีใครกล้าคิดกล้าแหวกแนวลงทุนวิจัยทำอะไรใหม่ๆ ถ้ามันไม่มีอะไรคุ้มครองเลย เรื่องที่ว่าคนวิจัยใช้เวลาห้าปีกับโปรเจ็คนี้แต่ซัมซุงใช้เวลาสามเดือนสำหรับทำตามฟังแล้วมันก็ชวนหดหู่เหมือนกัน ที่แอปเปิ้ลฟ้องผมว่ามันก็เป็นผลต่อเนื่องมาจากตอนที่จ็อบส์ยังอยู่ ซึ่งก็รู้ๆ กันว่าจ็อบส์เองอีโก้จัดขนาดไหน ผมว่าตอนนี้ศูนย์รวมอำนวจมันกระจายออกไปมากกว่าเดิม การเจรจาต่างๆ น่าจะง่ายขึ้น ก็ต้องรอดูว่าหลังจากการตัดสินแล้วจะเป็นไปในทิศทางไหน แต่ที่ผมเดาคือเค้าก็ต้องพยายามรักษาผลประโยชน์ให้มากที่สุด
การแข่งขันเสรีคืออะไร? ผมว่าตอนนี้มันก็เสรีอยู่แล้วไม่มีใครห้ามให้ค้นคิดนวัตกรรมใหม่ๆ ครับ เพียงแต่บางคนนึกว่าเสรีคือจะทำอะไรก็ได้ ซึ๋งบังเอิญมันล้ำเส้นไป
ผมอยากแนะนำให้หลายๆคน ทนอ่านสามลิงค์นี้ให้ครบ
http://live.theverge.com/apple-closing-arguments-apple-vs-samsung-trial/
http://live.theverge.com/apple-vs-samsung-apple-closing-argument/
http://live.theverge.com/samsung-closing-arguments-apple-vs-samsung-trial/
หรืออย่างน้อยคือฉบับย่อ
http://www.theverge.com/2012/8/21/3254424/apple-samsung-trial-closing-arguments
ผมรู้สึกว่าหลายคนยังคุยกันเหมือนด้วยข้อมูลก่อนขึ้นศาลครั้งแรกกันอยู่ ทั้งที่คดีดำเนินมาจวนรู้ผลแล้ว
http://www.forcounsel.com/productDetails_c.asp?productid=1473U
เกร็ดที่ควรทราบ : อเมริกามีการใช้กฎหมาย สิทธิบัตรมา 220 ปี
ถ้าพูดกันตรงๆ SS ก็มีแรงบรรดาลใจจาก Iphone ที่เป็นมือถือขายดีของยุค หรือตั่งใจออกแบบให้ดูดีเหมือน Iphone แต่ตรงนี้หลายๆคนเรียกว่าลอกรวมทั้งผมเองด้วยแต่ถ้ามองเส่นทางแห่งเวลา ถ้ามี Notebook รุ่นแรกของโลกออกแบบมา มีจอพับได้ ชื่อ msi ขายดีมากแล้ว ss dell ibm ก็ออกแบบ Notebook มีจอพับได้ ทำขายมาทีหลัง ทุกคนเห็นแวบแรกก็ต้องนึกว่า นี่คือ msi เพราะจากที่รู้ว่า Notebook จอพับได้มีแต่ msi เท่านั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป ทุกๆคนก็จะเริ่มเห็นสิ่งที่แตกต่างในแต่ละรุ่นและก็เริ่มรู้ว่ามันไม่ใช่ msi มันไม่ใช่ iphone มันไม่ใช่ ios เส่นทางของการเดินทางแห่งเทคโนโลยีก็แข่งขันกันต่อไป แม้แต่มือถือแบรนแรก เองก็เหมือนกัน หรือ smartphone รุ่นแรกๆ แต่ละยุคแต่ละสมัยก็จะมีแนวทางในการออกแบบที่ต่างกัน ตามเทคโนโลยีสมัยนั้น การออกแบบเองมันมีข้อจำกัดของมันอยู่ในตัว แนวคิดอาจจะมีมานานแล้วแต่เทคโนโลยีไม่ถึง ถ้าสุมมุตมองกลับกันดูรุ่น F700 ของ ss เป็นตัวอย่าง ถ้ามันขายดีจนคนรู้จักกันทั่วโลก และ apple เป็นแค่บริษัทธรรมดาไม่ดังมากแล้วออก Iphone รุ่นแรก เมื่อคุณซื้อมาเดินผ่านเพื่อนคุณก็คงพูกว่า "F700 ของนายใช้ Case อะไร" แน่นอน
ไม่ว่าจะยุกใหนคนคิดค้นได้เริ่มก่อน ได้เปรียบอยู่แล้ว และถ้าคิดว่าถูกละเมิดก็ตกลงราคาที่เป็นธรรม ลักษณะแบบนี้เราก็เห็นมานานแล้ว และ ก็ยังไม่มียุคใหนที่เทคโนโลยีหยุดพัฒา ถ้า apple ตกลงราคาแบบเป็น ธรรมหน่อยแบบ MS ก็คงจะไม่มีปัญหาแบบนี้ เพราะกำไรจริงๆ ss เองก็ไม่ได้เอากำไรมากมาย จากการแข่งขันในตลาด Android กำไร 3000 เก็บค่าลิขสิท 1200 เป็นคุณจะยอมหรือ
ผมว่ากลับมามองในพื้นฐานของความเป็นจริงดีกว่า ถ้าสมมติมันก็สมมติไปได้เรื่อยไม่รู้จบ ที่ไอโฟนมันเกิดขึ้นมาได้เพราะมันแตกต่างจากมือถือในยุคเดียวกันมากๆ ครับ ส่วน Samsung ดันใช้กลยุทธ์ Me too เน้นเดินรอยตามความสำเร็จคนอื่นง่ายดี
ผมยังมองเลยว่าในเรื่องนวัตกรรมเนี่ย Samsung ในยุคก่อนไอโฟนก็มีออกมามากมายหวือหวามากๆ มีจุดเด่นเฉพาะของแต่ละรุ่นไป ผมก็ไม่รู้ว่าปรัชญาเหล่านั้นหายไปไหนหมด
เวลาตัดสินคงต้องดูรายละเอียดเป็นหลัก Samsung ไช้ lg parada อ้าง prior art ว่าง่ายๆคือ มือถือ/แทบเลต รูปร่างเหมือนๆ iphone ขายอยู่แล้ว สิทธบัตรไม่ควรคลุ้มครอง
ด้าน tablet ก็เช่นกัน
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
+1 ชอบรูปล่าง คงต้องรอให้ศาลท่านเป็นผู้ตัดสิน :)
รอดูผลตอนเช้าครับ
พูดถูกและ พูดได้ดีครับ ^^
SAMSUNG ชนะ 4-2 :P
สุดยอดมากๆ พลิกกลับมาชนะได้
ผลมารึยังอยากรู้ๆ
อ่านคคห.หลายท่านแล้วยังกังขาในประเด็น ลอก หรือแรงบันดาลใจ
เห็นบางท่านบอกการทำแบบให้look &feel เหมือนกันคือการลอก แล้วการเหมือนแค่เป็นส่วนๆเป็นการลอกด้วยไหม?
เพราะถ้าตัดเป็นส่วนๆ ก็ต้องบอกว่าiphone ตัดมาจากโทรศัพท์และpdaยุคก่อนหลายรุ่น ไม่ว่าจะมองแยกเป็นรูปทรง ปุ่มตรงกลาง หรือจอสัมผัส มันมีสินค้าชิ้นอื่นที่วางขายก่อนอยู่ตั้งหลายปี เพียงแต่เอามารวมๆกันแล้วปรับรูปแบบใหม่เท่านั้น ไม่ใช่การออกแบบที่แหวกแนวแตกต่างไป ชนิดไม่เคยมีคนอื่นทำมาก่อน (อยากให้ลองนึกถึง nokia รูปร่างประหลาดยุคนึง ที่ทำฐานกลมๆบ้าง โค้งๆบ้างอันนั้นแหละ ไม่เคยมีใครทำมาก่อนของจริง)
ในทางกลับกัน galaxyที่บอกว่าlook&feel คล้ายiphone แต่ถ้าเจาะดูเป็นส่วนๆก็ไม่ได้เหมือนหมด แถมบางส่วนก็เป็นการออกแบบของบ.ตัวเอง มาก่อนapple ด้วยซ้ำ แต่apple นำมาใช้ทีหลัง(เช่นเรื่องF700) เห็นบางคนชอบยกเรื่องปุ่มตรงกลางปุ่มเดียว จะบอกว่าipaqเขาทำตั้งแต่ปี2000ต้นๆนู่นแล้ว
เห็นบางท่านเคยบอก ถ้าคิดว่าappleลอกคนอื่น ก็ให้คนอื่นนั้นมาฟ้องสิ มันก็ใช่ แต่แปลกใจที่เหมือนเราพยายามปกป้องสิทธิ์ของapple แต่ไม่พยายามพูดข้อเท็จจริงว่า การออกแบบบางส่วนของapple มันก็เอามาจากเจ้าอื่นๆเช่นกัน
ประเด็นการออกแบบทางเทคโนโลยี มันมีข้อแตกต่างจากการออกแบบทางศิลปะ ที่ทางศิลปะจะใช้การรับชม look &feel เพียงอย่างเดียว(เพราะเราใช้ตาดูเพื่อรับชม) การใช้compositionที่คล้าย มันก็ทำให้รู้สึกว่าเหมือนกันได้ แต่ทางเทคโนโลยีมันมีข้อประกอบอื่นๆอีกมาก ที่จะทำให้ผู้ใช้ รู้สึกถึงความแตกต่าง
อย่างรถที่ยกตัวอย่าง มันไม่ใช่แค่เรื่องของราคา(เพราะgalaxy มันก็ราคาต่างจากiphoneนะ) ยกตัวอย่างตรงๆ suzuki swift ถ้าเห็นเงาแวบๆ มันคล้ายรถmini มาก แต่ถ้าหยุดพิจารณาอีกไม่กี่วินาที จะพบว่ามันก็แตกต่างกันมากเช่นกัน ตรงนี้แหละที่ผมคิดว่าเราจะใช้แค่ look &feel ซึ่งเป็นการสัมผัสเพียงผิวเผิน(เช่นดูรูปแวบเดียว)มาตัดสินว่าลอกได้หรือไม่?
อย่างที่บอกไป ผมไม่เชื่อว่าจะมีใครซื้อมือถือ galaxy โดยเข้าใจผิดว่ามันคือiphone ซึ่งตรงนี้แหละน่าจะเป็นประเด็นสำคัญที่สุด
ตามความเห็นผมนะครับ ลักษณะผลิตภันฑ์ของ Apple คือจับเอาสิ่งที่มีอยู่ก่อนหน้าแล้วนำมาปรับปรุง ประสานเพื่อให้เกิดประสบการณ์ที่แตกต่างและคิดว่าดีที่สุดในช่วงเทคโนโลยีนั้นๆ จนกลายเป็นของใหม่ ลองนึกถึงประสบการณ์การใช้งานสไตลัสสมัยก่อนที่ไอโฟนจะมาก็จะรู้ว่ามันเลวร้ายขนาดไหน เล็งแล้วเล็งอีกก็จิ้มไม่โดนสักที
แล้วเรื่องบอกว่าให้ฟ้องนี่ผมว่ามันก็ถูกแล้วนะ ไม่ได้จะจงใจเชียร์แอปเปิลมากเท่าไหร่แต่ก็ดูตามเนื้อผ้า(ที่ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นอย่างนั้น) ถ้ารู้สึกว่าโดนละเมิดก็ไล่ฟ้องเอาเป็นหน้าที่ของเจ้าของผลิตภัณฑ์ มันก็ถูกแล้วนี่ครับ เค้าฟ้องก็เพราะมีเหตุผลของเค้าซี่งผมก็เชียร์ในเหตุผลนี้ เพียงแต่การกระทำของแอปเปิลมันอาจจะดูรุนแรงแต่สุดท้ายก็คงขึ้นอยู่กับศาลว่าจะตัดสินออกมายังไงซึ่งราคาที่ต้องจ่ายผมว่าต่ำกว่าที่เรียกร้องแน่นอน แต่ยังไงก็ยังอยากให้ Samsung โดนซะบ้างจะได้เปลี่ยนแนวความคิดเลิกเดินตามรอยเท้าคนอื่นเสียที ผลิตภันฑ์อื่นๆ ที่ดีไซน์ออกมาได้ลงตัวมากก็มีเยอะแยะเช่น กล้องหรือพวกทีวีต่างๆ ทำไมไม่ยึดแนวทางนั้นก็ไม่รู้
ในฐานะที่ผมเป็นคนหนึ่งที่บอกตลอดว่า Samsung Galaxy S ลอกเลียนแบบ iPhone 3G/3GS ผมขออธิบายทีละประเด็นแล้วกันนะครับ
หากเรามององค์ประกอบการออกแบบของโทรศัพท์เป็นส่วน ๆ เช่น รูปทรงด้านหน้า สีด้านหน้า รูปทรงด้านหลัง สีด้านหลัง ขอบเครื่อง มุม สีขอบ จำนวนปุ่มด้านหน้า สีปุ่ม ลักษณะปุ่ม วัสดุปุ่มกด วัสดุด้านหน้า วัสดุด้านหลัง วัสดุขอบเครื่อง ขอบหน้าจอ สีขอบหน้าจอ วัสดุขอบหน้าจอ รูปทรงช่องฟังเสียง ความยาวช่องฟังเสียง ตำแหน่งกล้องหน้า ตำแหน่งปุ่มเปิดปิด ตำแหน่งช่องเสียบสายชาร์ต ตำแหน่งช่องเสียบหูฟัง เป็นต้น แน่นอนว่าในแต่ละชิ้นส่วนรูปร่างที่นำมาประกอบเป็น iPhone 3G/3GS คงมีคนคิดค้นขึ้นมาก่อนแล้วกระจัดกระจายอยู่ตามโทรศัพท์หลากหลายรุ่น บางส่วนอยู่กับรุ่นหนึ่ง บางส่วนก็อยู่กับอีกรุ่นหนึ่ง
สมมติว่าองค์ประกอบด้านรูปลักษณ์ทั้งหมดที่ว่ามานั้น Apple หยิบยืมลอกเลียนมาจากโทรศัพท์เจ้าอื่นอย่างละรุ่น นับจากจำนวนรุ่นโทรศัพท์มือถือที่เคยมีมาก่อน ๆ ทั้งหมด คุณคิดว่าคนที่สามารถเลือกเฟ้นองค์ประกอบต่าง ๆ ที่คนเคยทำมาเอาไว้อยู่แล้วมาจัดรวมเรียบเรียงปรับแต่งขัดเกลาให้ออกมาเป็นมือถือเครื่องใหม่ที่ใช้งานง่ายลงตัว (ดูจากความนิยมของยอดขายเป็นตัวชี้วัดแล้วกันนะครับ ผมคงไม่มีหลักฐานอื่น) มีความยากง่ายแค่ไหน ? และหากลองคิดถึงความน่าจะเป็นที่มือถือในท้องตลาดอีกรุ่นหนึ่งที่ออกมาภายหลังในระยะเวลาที่ห่างกันไม่นานจะมีลักษณะภายนอกคล้ายกับ iPhone 3G/3GS ในหลาย ๆ องค์ประกอบอย่างบังเอิญ โดยอ้างว่าเกิดจากการคิดออกแบบเอง เลือกเฟ้นองค์ประกอบต่าง ๆ มาจากโทรศัพท์มือถือก่อน ๆ หน้าเช่นเดียวกัน คิดว่ามีโอกาสความน่าจะเป็นมากน้อยแค่ไหนครับ ?
ถ้าคุณสังเกตใน comment ของผมก่อนหน้าไม่ว่าจะครั้งไหนที่พูดเรื่องนี้ผมจะไม่เคยนับสิ่งที่เป็นพื้นฐานเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบนะครับ เช่น รูปทรงโดยรวมเป็นสี่เหลี่ยม การใช้จอสัมผัส เป็นต้น สิ่งที่ผมมักเน้นย้ำตลอดคือรายละเอียดเล็ก ๆ น้อยที่มาผสมกันจนเป็นอัตลักษณ์ต่างหาก และที่สำคัญผมไม่เคยเห็นในคำฟ้องเรื่อง look and feel เลยว่า Apple ฟ้อง Samsung ข้อหาใช้จอสัมผัส ออกแบบโทรศัพท์มือถือทรงสี่เหลี่ยม แต่ไม่รู้ทำไมผมเห็นคนหลายคนชอบพูดคำนี้ออกมา
ส่วนเรื่องรถยนต์แม้เราจะเห็นการลอกเลียนแบบอย่างชัด ๆ ในรถยนต์บางรุ่นของญี่ปุ่นที่ไปคล้ายคลึงกับรถบางรุ่นของยุโรป เราเห็นเขาไม่ฟ้องเราก็เลยสรุปกันเองว่าเขามีมารยาททางสังคม มองว่าเป็นวัฎจักรการออกแบบที่ความนิยมในช่วงเวลานี้คล้ายคลึงกัน อันที่จริงผมไม่เห็นด้วยนะ ผมว่าคนที่ด่วนสรุปแบบนั้นค่อนข้างคิดไปเองพอสมควร และเท่าที่ผมเห็นตอนนี้ผมเห็นมีแค่ 2 รุ่นที่คล้ายกันจริง ๆ ที่เหลือผมเห็นว่าเหมือนกันแค่บางส่วน
การที่รถยุโรปไม่ฟ้องรถญี่ปุ่นในกรณีนี้ หากมองอย่างง่าย ๆ ก็อาจจะมีสาเหตุมาจากหลายประการ
สุดท้ายในความคิดของผมนะครับ ต่อให้ไม่มีลูกค้าแม้แต่คนเดียวที่ซื้อ Galaxy S ด้วยความเข้าใจผิดว่ามันคือ iPhone 3G/3GS ผมก็ยังคิดว่าการลอกเลียนแบบเป็นความผิดอยู่ดีครับ เพราะมีผลกระทบในด้านอื่น ๆ อีกอยู่ดี เช่น brand perception เป็นต้น
That is the way things are.
จริงๆ ผมก็เห็นด้วยว่าซัมซุงลอกนะ (เฉพาะรุ่น S1 กับ Ace/Cooper)
แต่ยังสงสัยว่า Apple เสียหายอย่างไร brand perception เค้าเสียอย่างไรหรือครับ รบกวนช่วยอธิบายหน่อย คือผมมองว่า brand perception เค้าน่าจะดีขึ้น เพราะมีภาพของความเป็นผู้นำตลาดน่ะครับ
ขออนุญาตยกตัวอย่างเปรียบเทียบเพื่อให้เข้าใจอารมณ์ชัดเจนขึ้นนะครับ
เหมือนผมมีเสื้อ T-Shirt COMME Des GARCONS ของแท้อยู่มูลค่า 4,000 บาท (ที่มีลายเป็นหัวใจมีลูกตาประมาณนั้นน่ะครับ) ต่อมาเสื้อยืดลายแบบนี้ฮิตมากในเมืองไทยจนมีคน copy มาขายคนใส่กันมากมาย จากเดิมที่ผมเป็นผู้ใช้ผลิตภัณฑ์เคยชอบใส่เพราะเสื้อตัวนี้บ่งบอกฐานะทางสังคมของผมได้และไม่เหมือนใคร ผมก็คงจะเลิกใส่เพราะไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็มีแต่คนใส่เหมือนกันเต็มไปหมด
สุดท้ายพอผู้บริโภคอย่างผมหยุดซื้อ ร้านค้าก็ต้องได้รับผลกระทบด้วยอยู่แล้วเพราะว่าคงขายไม่ได้ตามไปด้วย brand ที่เคยมีจุดเด่นอยู่ที่ความแปลก unique ก็กลายเป็นของโหลที่ใคร ๆ ก็มี เสื้อยืดลายต่อไปของ COMME Des GARCONS ผมก็อาจจะไม่สนใจอีกต่อไปแล้วก็ได้ เพราะยี่ห้อนี้เสียจุดเด่นที่ผมต้องการไปแล้วอะไรประมาณนั้น
บอกก่อนว่านี่เป็นเพียงตัวอย่างเปรียบเทียบด้านหนึ่งนะครับ เรายังสามารถมอง brand perception ในแบบอื่น ๆ ได้อีก เช่น คุณบอกว่ามันให้ภาพของผู้นำตลาด แต่อีกคนอาจจะมองว่าการปล่อยให้คนอื่นเลียนแบบเป็นการแสดงความอ่อนแอของบริษัทตัวเองออกมาเพราะไม่สามารถจัดการกับปัญหาก็เป็นได้ เป็นต้น
That is the way things are.
งานนี้คนชนะแน่ๆ คือทนาย
เท่าที่ตามอ่านมา ไม่เจอว่าแอปเปิ้ลใช้หรืออ้างถึง หลักฐานนี้ เลยแฮะ
น่าแปลกใจจริงๆ
หรือจริงๆแล้วมีอ้างไปแล้วแต่ผมพลาดบางข่าวไปหว่า
Apple เป็นคนนําหลักฐานชิ้นนี้มาแสดงต่อศาลเองครับ เพียงแต่ที่นี่ไม่มีคนเขียนข่าวนี้เท่านั้นเอง
ผมค่อนข้างแปลกใจเหมือนกันว่าทําไมที่นี่ไม่มีข่าวนี้ทั้งๆ ที่เรียกได้ว่าเป็นหมัดเด็ดของ Apple เลยทีเดียว คิดว่าช่วงนั้นบรรดา contributor กับ writer อาจจะไม่ว่างมั๊งครับ
That is the way things are.
ผมเปิดไปดูแล้วก็ยิ่งเข้าใจตรงกันข้ามกับคุณเข้าไปใหญ่ เพราะมันทำให้ผมเห็นจุดแตกต่างของทั้ง 2 ค่ายเพิ่มขึ้นอีก 126 จุด!
edit: ตอนแรกผมเข้าใจผิดไปเอง - -
ส่วนผมอ่านแล้วผมมองว่า SS พยายามปรับจุดแตกต่าง 126 จุดใหม่โดยมี Apple เป็นต้นแบบแฮะ -_-?
"ถ้าคุณเป็นคนนึงที่คิด UI ของ iPhone แล้วอยู่มาวันนึงทราบว่ามีเอกสารฉบับนี้เกิดขึ้นในบริษัทคู่แข่ง สิ่งที่คุณคิดคือ?"
เอาน่า มันเป็นเทรนด์ ช่างมัน
โอ้ว เราเป็นคนสร้าง standard ใหม่ให้วงการมือถือเรอะเนี่ย ภูมิใจมากๆ
*^%%&@#@#$@#
ลองคิดแบบไม่อคติ ตอบแบบไม่เอาหล่อ ลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา น่าจะมีคำตอบให้ตัวเองได้ไม่ยากนะครับ
ฟ้อง ฟ้อง ฟ้องงง!! เอาให้มันล้มละลาย ตายไปจากดลกนี้ อย่าให้เหลือ ต่อให้ผมต้องใช้เงินทั้งหมดที่มีอยู่ซื้อระเบิดนิวเคลียร์ ผมก็ยอมมจะได้บึ้มมมมัน /// ตูมมมมมมมมมมมมมมมม! ...หะห๊ะ เกิดไรขึ้นหรอ หลับต่อ
คือถ้าเขามาทำแบบนี้กับเราแล้วเขาดันขายดีกว่าเราเนี่ยก็...
Dream high, work hard.
ต้องสังเกตดีๆครับ แล้วจะพบอะไรบางอย่าง ^^