การที่ Lumia 920 ใช้กล้องเทคโนโลยี PureView รุ่นที่สองที่ลดขนาดพิกเซลลงเหลือ 8MP อาจทำให้หลายคนผิดหวัง เพราะเทคโนโลยีรุ่นก่อนหน้าใน Nokia 808 มีจำนวนพิกเซลใหญ่ถึง 41 ล้านพิกเซล
โนเกียจึงออกเอกสาร whitepaper มาอธิบายประเด็นทางเทคนิคครับ จุดต่างสำคัญของ PureView ทั้งสองรุ่นคือเป้าหมายของการออกแบบทีต่างกัน โนเกียบอกว่า PureView รุ่นแรกตั้งใจแก้ปัญหาเรื่องการซูมภาพของกล้องมือถือเป็นหลัก และไม่ได้เน้นเรื่องการถ่ายในสภาพแสงน้อยมากนัก ดังนั้น PureView รุ่นแรกจึงแก้ปัญหาแสงน้อยโดยใช้เทคนิคการ sampling ภาพจากเซ็นเซอร์ขนาด 41MP เพียงอย่างเดียว
หมายเหตุ: ภาพประกอบทั้งหมดที่เป็นของโนเกีย โนเกียระบุว่าถ่ายด้วย Lumia 920 รุ่นต้นแบบครับ
ส่วน PureView รุ่นที่สองนั้นตั้งโจทย์การแก้ปัญหาไปในทิศทางอื่น เป้าหมายหลักของมันมี 2 ข้อคือ
เทคโนโลยีใหม่ใน PureView รุ่นที่สองแบ่งได้เป็นข้อๆ ตามนี้ครับ
Back-Side Illuminated
ขนาดเซ็นเซอร์ของ PureView รุ่นที่สองถูกลดขนาดลงมาที่ 8.7MP แต่เปลี่ยนมาใช้เซ็นเซอร์แบบ BSI (Back-Side Illuminated) ที่รับปริมาณแสงได้มากกว่าเซ็นเซอร์แบบ FSI (Front-Side Illuminated) ที่ใช้กันทั่วไป เนื่องจากเซ็นเซอร์แบบ BSI ย้ายสายไฟและโลหะมาไว้ด้านหลังเซ็นเซอร์ ช่วยเพิ่มปริมาณโฟตอนของแสงให้ตกมาที่พิกเซล (photosensitive diode) มากขึ้น ผลคือภาพบนเม็ดพิกเซลที่คุณภาพดีขึ้นแม้ในสภาพแสงน้อยๆ
PureView รุ่นที่สองยังใช้ aperture ที่ใหญ่ขึ้นเป็น f/2.0 (รุ่นแรกเป็น f/2.4) เซ็นเซอร์ของ PureView ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษจะใหญ่กว่าเซ็นเซอร์กล้องมือถือทั่วไปที่ความละเอียดเดียวกัน (คิดสัดส่วนภาพแบบ 16:9) อยู่ 10%
ตัวอย่างภาพถ่ายในสภาพแสงน้อยด้วย Lumia 920 รุ่นต้นแบบ
ภาพมุมเดียวกันด้วยสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปของคู่แข่ง ไม่ระบุรุ่น
Optical Image Stabilisation
เทคโนโลยีอย่างที่สองคือส่วนของ Optical Image Stabilisation (OIS) ซี่งมีมานานแล้วในกล้องดิจิทัลทั่วไป แต่ไม่ค่อยมีในสมาร์ทโฟนเพราะข้อจำกัดเรื่องขนาด
เทคโนโลยี OIS ทั่วไปในตลาดใช้วิธีตรวจจับการสั่นด้วยไจโรสโคป จากนั้นจะเคลื่อนเลนส์ไปในทิศทางตรงข้ามเพื่อชดเชยการสั่นที่ไม่ได้ตั้งใจ โนเกียแก้ปัญหาเรื่องขนาดของ OIS โดยการแยกส่วนของระบบเลนส์ที่ต้องเคลื่อนตัวชดเชยการสั่น จากระบบทั่วไปที่เคลื่อนเฉพาะเลนส์ชิ้นเดียว มาเป็นการเคลื่อนชุดเลนส์ (optical assembly) ทั้งชุดแทน
ผลของการใช้เทคนิคนี้คือระบบ OIS ของโนเกียสามารถชดเชยการสั่นได้ 500 ครั้งต่อวินาที ถือว่ามากกว่า OIS ทั่วไปในท้องตลาด 50% และมีอัลกอริทึมคอยตรวจจับการสั่นไหวของเลนส์ได้มากกว่า OIS ทั่วไป 5 เท่าตัว
โนเกียบอกว่าคนทั่วไปแล้วสามารถถือกล้องไม่ให้สั่นได้ที่ความเร็วชัตเตอร์ 1/30 วินาที แต่ด้วยเทคนิคของ OIS แบบใหม่นี้ สามารถเพิ่มระยะการถือกล้องไม่ให้สั่นได้สูงเป็น 1/4 วินาที (เพิ่มขึ้น 8 เท่าหรือคิดเป็น 3EV)
OIS แบบใหม่ไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะสภาพแสงน้อยเท่านั้น แต่ยังช่วยในการถ่ายภาพด้วยมือเดียวได้อีกกรณีหนึ่ง ส่วนเลนส์ของ PureView รุ่นที่สองยังเป็นเลนส์ Carl Zeiss เหมือนเดิม
ตัวอย่างภาพจาก Lumia 920 รุ่นต้นแบบ ถ่ายภาพเคลื่อนไหว
Next generation LED flash
ของใหม่อีกอย่างที่คนไม่ค่อยพูดถึงกันนักคือ LED flash รุ่นใหม่ ของใหม่ในรุ่นนี้คือโหมดการยิงแฟลชที่เรียกว่า pulse flash burst หรือการยิงแฟลชสั้นๆ ออกไปครั้งเดียว แต่ไม่สั้นถึงขนาดแฟลช xenon ปกติ ช่วยเพิ่มคุณภาพให้กับภาพถ่ายของวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวได้ด้วย
ภาพถ่ายจาก Lumia 920 ด้วยแฟลชตัวใหม่
ภาพมุมเดียวกันจากมือถือรุ่นท็อปของคู่แข่ง ไม่ระบุรุ่น
Nokia Proprietary Image Processing Technology
ตัวเซ็นเซอร์คงไม่ต่างอะไรจากของเดิมมากนัก แต่ปรับอัลกอริทึมในการแก้ noise ของภาพให้ดีขึ้น และโนเกียก็จับมือกับไมโครซอฟท์ พัฒนา image framework ตัวใหม่สำหรับ Windows Phone 8 เพื่อการนี้อีกด้วย เฟรมเวิร์คตัวใหม่นี้นำอัลกอริทึมการประมวลผลภาพถ่ายของโนเกียมาใช้หลายอย่าง ซึ่งจะส่งผลดีต่อมือถือ WP8 รุ่นอื่นๆ ด้วย
สเปกของ PureView รุ่นที่สอง
ก็อปมาแปะตรงๆ เลยนะครับ
ตัวเอกสารฉบับเต็มอยู่ที่ PureView Technology (PDF)
ที่มา - Nokia Conversations
Comments
ความจริงน่าจะมีรุ่นที่ 3 ที่รวมทั้ง 2 รุ่นมาไว้ด้วยกัน
Coder | Designer | Thinker | Blogger
+1 ผมรอตัวนั้น
มันน่าจะหนาและอ้วนเกินไป เค้าเลยไม่ทำ 55
แข่งคุณภาพกันเยอะๆ จะได้มีการพัฒนาด้านรูรับแสงบนกล้องมือถือซะบ้าง (ไม่ใช่เอะอะยัด LED ให้ 2 ดวง)
แถมไฟคาดหัวให้ครับ
ดูภาพถ่ายตอนกลางคืนนี่มันเทพจริงๆ ฝีมือ + กล้อง DSLR เก่าๆ ของผมยังถ่ายไม่ได้ขนาดนี้เลย T-T
I will change the world, to the better day.
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด~~~~~~~~ เข้ามากรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด~~~~~~~ +๑๒๓๔๕๖๗๘๙ >"<
อ่าวเฮ้ยยย ไรแว้!! T_T?!
"Nokia issues full apology for faked Lumia PureView ad, provides real footage"
http://www.theverge.com/2012/9/5/3295316/nokia-apology-lumia-pureview-ad
ออกมาขอโทษเรื่อง Video โฆษณาเกินจริงครับ
คงต้องรอ Review กันต่อไป
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
อ่านแล้วรู้สึกน่าใช้มาก อยากลองตัวจริงวุ้ยยย จะสมราคาคุยมั้ยเนี่ย
ก็ต้องดูกันละครับว่าเจนนี้จะบูมหรือเปล่า ตลกดีที่เมื่อก่อน Nokia กั๊กเรื่องกล้องซะจนคนหนีไปใช้ยี่ห้ออื่นหมด ตอนนี้มาเน้นเรื่องนี้เป็นจุดขายแทน
พอขายดีขึ้นก็จะกลับมากั๊กและซอยรุ่นถี่ๆขึ้นเหมือนเดิมครับ >.<
รอดูภาพที่ไม่ได้มาจาก Nokia
:: DigiKin8 ::
จริงครับ ภาพพวกนี้ ใช้เพื่อโฆษณาทั้งนั้น ยังเชื่อถือไม่ได้ครับ
รอดูของจริงเช่นกัน
ปล. ถ้าราคาไม่แรงด้วยก็น่าสน ^^
ตอนวันงานมีให้สื่อทดลองถ่ายภาพเทียบกันด้วยครับ
เทียบกับ GS3 (ที่มา)
เทียบกับ 4s (ที่มา)
อ่า ผมกำลังตามๆ อยู่เหมือนกัน
เอาไปเขียนข่าวแล้วนะครับ
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
ผมรู้สึกดีกับ PureView มากเลยนะเนี่ย มีจุดขายที่ดี รู้ว่าสู้ด้าน apps platform ไม่ได้ ก็มาหาจุดขายด้านกล้องแทน
ข่าวต่อไป iPhone5 มาพร้อมกับระบบ "ถ่ายก่อน โฟกัสทีหลัง"
ผู้ที่ทำระบบนี้บอกว่ายังทำไม่เสร็จครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
อ่าว Lytro ขายมานานแล้วนี่
ก็ใช่ครับ แต่เอามาใส่ในมือถือนี่คนละเรื่องเลยนะ ไม่งั้นมือถือคงบวมมากแน่ๆอาจมากกว่า 808 อีก
ไอมือถือรุ่นท๊อปของคู่แข่ง ไม่ระบุรุ่น นี่ นึกได้แค่ตัวเดียวแหะ - -
คุณภาพออกมาฆ่ามือถือติดกล้อง กับกล้องใส่ OS มือถือได้เลยนะนั่น
รูปสุดท้าย ฟ้าสว่างเวอร์ไปเปล่าเนี้ย
อีกหน่อยคง HDR ได้ในตัว
ก็ไม่เว่อนะฟ้าสีเทาอยู่แล้ว เผลอๆน่าจะมี HDR มาให้แล้วด้วย
สองรูปสุดท้าย ผมสดุดกับเงาต้นไม้นะ ...
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
สงสัยจะใช้ไฟสตูกันเลยทีเดียว
ไม่หรอก เขาใช้สปอตไลท์ส่อง แล้วถ่ายด้วยสมาร์ทโฟนคู่แข่งอย่าง HTC Legend (เอ้า ก็สมาร์ทโฟนไหมล่ะ 555)
Edit : เขาว่ารุ่นท๊อป งั้นเปลี่ยนเป็น Desire ... มันเคยเป็นตัวท๊อปเมื่อสามสี่ปีที่แล้วน่ะนะ
ไม่หรอกพวกตึกคงไช้การเล่นกัน iso, eV & noise reduction เอาเช่นเคย
แต่เงาที่อยู่ผิดมุมเนี่ย เหมือนมี light source อื่น ว่าง่ายๆคือมีการจัดแสง ... นะ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
+1 เหมือนถ่ายด้วย nokia มีการจัดแสงให้ แต่พอใช้กล้องอื่นให้เปิดแฟลชถ่ายด้วนๆเลย
เอาอีกแล้ว ปลอมภาพหลอกคนดู ยังไงก็โกง (คนก็ยังเชื่อ)
หรือเป็นฟีเจอร์ต่อกับ wireless flash ได้เลย 5 5 5
http://www.theverge.com/2012/9/7/3299784/nokia-lumia-920-pureview-camera-hi-res-photos?utm_source=feedburner&utm_medium=feed&utm_campaign=Feed%3A+WinRumors+%28WinRumors%29&utm_content=FaceBook นี่คือคำตอบของข้อสงสัยนี้ครับว่าจัดแสงหรือเปล่า :)
ที่จริงถ้าใช้เทคนิคที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง ก็ควรจะเปลี่ยนชื่อด้วย เพราะมันสร้างความสับสน
อย่าง PureView รุ่นแรกใช้เซนเซอร์ขนาดใหญ่ มีจำนวนพิกเซลมาก (41MP) เพื่อเพิ่มจำนวนข้อมูลในการทำ resampling ทำให้ได้ภาพที่ได้คุณภาพดีถึงแม้จะมีการซูมแบบดิจิตอลก็ตาม
แต่ในรุ่นนี้กลับไปใช้เซนเซอรืแบบปรกติ แต่เพิ่มคุณภาพที่ส่วน Optic แทน (ด้วย BSI, OIC และแฟลช) ทำให้ปัญหาเดิม ๆ จากการทำ resampling ที่เกิดขึ้นตอนทำดิจิตอลซูมน่าจะกลับมาแทน คราวนี้ถึงจะมีการปรับปรุงอัลกิริทึ่มในการทำ resampling แต่ผมก็ยังคิดว่าคุณภาพของภาพที่มีการซูมน่าจะแย่กว่า PureView รุ่นแรก นะ
ถ้าเกิดว่าโนเกียทำ มือถือ PureView รุ่นใหม่ ก็คงเอาทั้งสองอย่างมาใส่เลยล่ะมั้ง แล้วจะเรียกว่าอะไรดี ? PureView Advance ? :P
MicrosoftNokia PureView Professional Edition :PAchievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
+1 ตอนแรกบอก Pureview = over-sampling ตอนนี้ยัดนู่นยัดนี่มา
สรุป ต้องรอ Full Edition สินะ
มันก็เหมือน retina display ล่ะครับ
แง~~~~~
http://www.theverge.com/2012/9/5/3295316/nokia-apology-lumia-pureview-ad
อยากเห็นรูปที่ถ่ายกับ Pureview รุ่นแรก
ปล. แอบช้ำใจเล็กน้อย เรื่อง Algorithm
เจ๋งดีฮะ แต่อยากได้ Generation 1 มากกว่าเพราะถ่ายแต่กลางวัน ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์จากแสงน้อยหรือว่าแฟลชมากนัก
น่าสนใจ รอดูรีวิวเทียบกับรุ่นอื่นๆ เต็มๆ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมอ่านแล้ว เห้ยขนาดนี้เลยหรอว่ะ บางคนที่บ่นเรื่องกล้องนี่เข้ามาอ่านเอกสารอธิบายน่าจะพอใจนะครับ
ตัวที่ใหม่จริง ๆ น่าจะแค่ตัว LED Flash ที่ทำงานใกล้เคียงกับ Xenon Flash มากขึ้น (แต่ผมจับความไม่ได้ว่ามันช่วยยังไง ? คือดูจากภาพแล้วน่าจะมาจากตัวกันสั่น + BSI มากกว่า) แต่น่าจะลดความน่ารำคาญของการเปิดแฟลชบนมือถือได้มากทีเดียว (มั้ง 55)
OIS เป็นเรื่องใหม่สำหรับมือถือ ... อย่างน้อยผมก็หาไม่เจอว่าใครเคยทำมาก่อนนะครับ แต่ว่าจริง ๆ ก็คือการเอา IS บนกล้องตัวใหญ่มาย่อขนาดลงมา เห็นเขาเอาไปเทียบกับ SLR ด้วย (ซึ่ง IS บนเลนส์เนี่ยน่าจะเป็น ... Nikon VR กับ Canon IS นะ ส่วน Sony OSS เป็น IS บนตัวเซนเซอร์)
BSI มีใช้อยู่ในสมาร์ตโฟนปัจจุบัน อย่าง iPhone 4 แล้วก็บรรดาสมาร์ตโฟนที่ใช้ Sony Exmor R ที่จริงผมว่าเจ้า PureView ตัวนี้อาจจะใช้ Exmor R ก็ได้ แค่เดานะครับ 55
Edit: พูดเรื่องกันสั่น จะว่าไป ถ้ามือถือสมาร์ทโฟนมีการจับการเคลื่อนไหวขณะที่ถ่ายรูป แล้วเอาภาพที่ได้มา process ด้วยข้อมูลการเคลื่อนไหวตรงนี้ ก็น่าจะทำให้ภาพดีขึ้นประมาณนึงนะ ... อาจจะมีทำอยู่แล้วก็ได้
iPhone 4S มี Video stabilization ครับ เข้าใจว่าน่าจะเป็น software
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ก็คงทำงาน ๆ คล้าย ๆ ที่ผมว่าล่ะมั้งครับ (ใช้ข้อมูลการเคลื่อนไหวจาก Motion Sensor) หรือไม่ก็ใช้การคำนวนเทียบเอาว่าภาพมันมีการเคลื่อนไหวหรือเปล่า (เทียบจากเฟรมแต่ละเฟรมมั้ง ไม่รู้สิ)
ทีต่างกัน => ที่ต่างกัน
อยากได้กล้องแบบนี้แหละ แต่เป็น jelly bean และแบตอึด ๆ
อันนี้เริ่มเป็น "กล้องโทรได้" มากกว่าจะเป็นมือถือแล้วแหละมั้ง เยี่ยมครับ หาจุดขายจนได้
เหอะ ๆ อยากได้อะรัยที่เป็นโนเกีย
กะว่าถ้าทำมือถือแล้วเจ๊งอีก คงเปลี่ยนไปทำกล้องขายแทน
คงได้ขายแต่ระบบเครือข่ายกันล่ะทีนี้ ถ้าเจ๊งอีก แต่..คงไม่หรอก
เซนเซอร์ BSI ใน iPhone ใช้มาตั้งแต่ iPhone 4 แล้ว ตอนนี้กล้องมือถือหลายตัวก็ใช้ ตรงนี้ไม่น่าชูได้มากนัก ต้องดูเรื่อง OIS กับซอฟต์แวร์จริงๆ
ภาพที่ถ่ายมีแฟลช เงามันแปลกๆ เหมือนไปผิดทิศ
ผมก็คาใจมานานแล้วเหมือนกันว่ามันยังไงกันแน่ มันเหมือนจัดแสงซ้ายขวาของตัวแบบ แล้วแฟลช burst นี่มันทำงานยังไงผมก็ไม่แน่ใจ คงต้องดูรายละเอียดใน EXIF ประกอบเอา อาจจะเปิดหน้ากล้องทิ้งไว้นานๆ บวกกับแฟลช บวกกับแสงจากสภาพแวดล้อมเลยออกมาเป็นอย่างนั้น
ผมก็ว่าโม้เกินจริงนะ รูปบนมีแหล่งกำเนิดแสงจากด้านหน้า ดูจากเงาที่ต้นแขน และหญ้าที่พื้น ส่วนรูปล่างแสงออกจากมุมที่ถ่าย
เสียศรัทธาไปพอสมควรเลยแฮะ
จริง ๆ ถ้ากล้องเจ๋งจริงมันมีสิทธิ์ออกมาเป็นแบบนั้นได้นะครับ กรณีเปิดแฟลชแรงแสงอื่นมันจะหายหมด (ซึ่งแฟลชโทรศัพท์ไม่น่าแรงขนาดนั้น) แล้วถ้ากล้องรับแสงในที่มืดได้ดีจริงมันก็ใช้แฟลชเบาหน่อยแล้วจะเห็นแสงเดิม ๆ ซึ่งอาจเป็นไฟในสวนที่อยู่ไกลหน่อยหรือแสงจันทร์
ทั้งสองกรณีที่ว่ามา น่าจะต้องกล้องอย่างดีหรือ DSLR ล่ะครับ - -" คงต้องรอรีวิวจากคนนอกแล้วล่ะ
สภาพแสงแบบรูปรองสุดท้ายนี่ต่อให้เป็น DSLR แต่ถ้าไม่ใช่ Full Frame รุ่นใหม่ๆยังเหนื่อยเลยครับ
ผมดูแล้วก็เข้าใจอย่างนี้นะ คือเปิดหน้ากล้องนานแล้วมี OIS ช่วย เก็บแสงได้ทั้งซีน, แฟลช LED มันก็ไม่ได้แรงมากขนาดจะยิงได้ไกลอะไร รวมทั้งเงาจากไฟ ambient ก็คงลบได้ไม่หมด เมื่อเอาทั้งหมดมารวมกัน บวกกับ image processor ตัวใหม่ ซึ่งอาจจะคำนวณ HDR ได้ด้วย (ซึ่งดูจากภาพแล้ว ผมค่อนข้างเชื่อว่ามันเป็น HDR) ภาพที่ได้ออกมา ผมว่ามันไม่เกินความจริงเลยฮะ กล้องคอมแพคธรรมดาๆ ก็ทำได้ ไม่ต้องไปถึง DSLR อาจต้องอาศัยซอฟแวร์ช่วยหน่อย แต่ก็ไม่เกินกำลังฮาร์ดแวร์แน่นอนครับ
iPAtS
ก็จริงนะครับ กล้องเดี๋ยวนี้ฉลาดขึ้นเยอะแม้แต่คอมแพค เมื่อก่อนโหมดออโต้นี่มันช่าง !@#$%
ส่วนตัวคิดว่าภาพถ่ายจาก Lumia 920 ด้วยแฟลชตัวใหม่ ภาพสุดท้ายยังดูหลอกๆ ซึ่งอาจจะถ่ายจาก Lumia 920 แต่มีการยิงแสงจากแฟลชอื่นเข้าช่วย (สังเกตจากเงาของต้นไม้และแสงจากผิวนางแบบ) อย่างนี้เหมือนจะโกงหน่อยๆหรือเปล่าครับ
ผมว่าไม่ได้โกงครับ...
Nokia อาจจะถ่ายด้วย pureview จริง แต่มีการชดเชยแสงที่ได้คุณภาพมากกว่า... เราจึงมองเห็นภาพที่ใกล้เคียงกับที่ตามองเห็นมากที่สุด
แต่ในกรณีที่ถ่ายด้วยแฟลชธรรมดาทั่วไปของกล้องมือถือ ถ้าคุณเคยถ่ายภาพด้วยมือถือ คุณจะเข้าใจครับ...
การเปิดแฟลชจะทำให้ฉากหลัง "มืด" โดยจริงๆ แล้วมันไม่ได้มืดครับ มันก็เลยออกมาเป็นภาพแบบที่เห็น
ก็จริงครับที่การเปิดแฟลชจะทำให้ฉากหลัง "มืด" แต่ผมสงสัยว่าการถ่ายด้วยอุปกรณ์สองชนิด โดยตัวแรกเป็น Lumia 920 ที่มีการใช้อุปกรณ์อย่างอื่นช่วยในการจัดแสงให้สวยงามโดยดูจาก texture ของต้นไม้กับเงา และแสงที่กระทบผิวนางแบบซึ่งน่าจะมากกว่า 2 แหล่งด้วยซ้ำ กับอุปกรณ์อีกชนิดที่ใช้เพียง built-in flash ทำให้ภาพดูแบบ ไร้มิติ แถมความสว่างยังไปกลบแสงด้านหลังทำให้ภาพมิดอีก เลยรู้สึกไม่ค่อยยุติธรรม ผมเข้าใจว่าที่จะการ promote Next generation LED flash ก็ควรใช้ Next generation LED flash เท่านั้น หรือถ้าใช้ตัวช่วยก็ควรใช้ในการเปรียบเทียบทั้งคู่นะครับ ไม่อย่างนั้นแล้วเราจะเปรียบเทียบภาพที่ถ่ายโดยใช้ Next generation LED flash ได้อย่างไร
มันมีแหล่งกำเนิดแสงเหมือนกันล่ะครับ แค่แสงมันมีไม่มาก กล้องตัวอื่นมันเลยรับมามืด แล้วทีนี้เราตบแฟลชไปแหล่งกำเนิดแสงอันอื่นจึงหายไป
ส่วน Lumia 920 มันรับสภาวะแสงน้อยๆ ได้ดี ตบแฟลชไปนิดเดียวแหล่งกำหนิดแสงอันอื่นจึงไม่หายไปครับ
เข้าใจล่ะครับ ถ้าอ้างอิงจากคลิปนี้ ภาพที่ถ่ายเค้าบอกว่า no flash นะครับ แต่ผมคงเข้าใจเอาเองว่า Next generation LED flash คือการคำนวณแสงเฉลี่ยของภาพก่อนที่จะตบแฟลชในระดับที่เหมาะสม คล้ายๆ HTC Smart Flash มั้งครับ
งง เหมือนกัน light source ของรูปสุดท้ายเหมือนมีไฟแยกช่วยเลย -*-
ระหว่าง PureView กับ Exmor RS ตัวไหนจะน่าใช้กว่ากันนะ
ทำไมอ่านที่ http://conversations.nokia.com/2012/09/05/taking-pureview-to-the-next-level แล้วมันบอกว่า
ความเห็นส่วนตัวนะครับ โนเกียกะหลอกคนดูครับ รอเครื่องจริงให้มันออกมาก่อน แล้วเอามาถ่ายด้วยขาตั้งกล้อง แข่งกับยี่ห้ออื่นๆเลยครับ แบบนี้มันพยายามยัดเยียดให้ดูเหมือนเทคโนโลยีตัวเองเหนื่อกว่าคู่แข่งมาก ดูรูปคู่สุดท้ายได้เลยครับ.
กระแสจะตีกลัีบไหม ? เพราะตอนแรกนึกว่าเอาเทคโนโลยีมากจาก PureView 808 มาเต็มๆ ประกฏเหมือนเป็นรุ่นใหม่ซึ่งย่อขนาดลง แล้วยิ่งใช้เทคนิคการโฆษณาอีก รูปแรกยอมรับว่าของเขาดีจริง แต่พอมาดูรูปคู่สุดท้ายนิ จงใจทำขึ้นมามากจนผิดสังเกต ตอนแรกตื่นเต้นมาก อ่านๆไปชักยังไงๆ
จริงๆ ก็มี Slow Speed Shutter sync Flash กับ ระบบกันสั่นให้ อะนะ เลยภาพรับแสงได้เยอะขึ้น
รูปคู่สุดท้าย รูปของโนเกียน่าจะเกิดจากที่ flash ออกมาในระยะเวลาสั้นมากๆ แต่เปิดหน้ากล้องไว้นาน ทำให้ทั้งสว่างทั้งตัวแบบ และด้านหลังครับ (คล้ายๆ slow sync mode) ส่วนรูปจากมือถือเจ้าอื่น คงเกิดจากกล้องถ่ายแล้ว flash ออกมาในระยะเวลาที่นานเมื่อเทียบกับเวลาเปิดหน้ากล้อง ทำให้ตัวแบบสว่าง แต่ฉากหลังมืดครับ ลองอ่าน
http://www.kenrockwell.com/tech/syncspeed.htm ประกอบอาจจะช่วยให้เข้าใจง่ายกว่าผมอธิบายครับ 55
ไม่รู้เชื่อได้แค่ไหนมีรูปให้เห็นรูปเดียว จากที่เห็นถ้า setting เหมือนกันจริง lumia 920 ก็กิน iphone 4s ขาด
http://www.pocket-lint.com/news/47361/nokia-lumia-920-vs-iphone-4s-cameras
รุ่นท็อปของคู่แข่ง >> ผมอยากรู้จริง ๆ ว่าโนเกียเห็นใครเป็นคู่แข่ง ;q
น่าจะช้ำซวง
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ส่วนรูปคู่แรกนี่ ภาพของ Nokia ถ่ายได้แสงพอดีครับ ซึ่งเกิดจากรูรับแสงที่กว้าง ร่วมกับระยะเวลาเปิดหน้ากล้องที่นานมากขึ้น ทำให้แสงเข้าได้มากขึ้น ซึ่งถ้าเป็น auto mode นี่ถือว่าระบบวัดแสงทำได้ดีมากครับ (แต่เดาว่าคงไม่ใช่ auto คงปรับแต่ละอย่างเองมากกว่า) ส่วนรูปจากมือถือเจ้าอื่นนี่ ถ่ายติดไปทางมืดค่อนข้างมากครับ ซึ่งน่าจะเกิดจากเปิด auto mode ถ่ายเลย + บังคับไม่ให้เปิด flash ซึ่งปกติกล้องมือถือมันจะเปิดหน้ากล้องได้ไม่นานมาก แสงเลยเข้าได้น้อย กล้องเลยเร่ง ISO ขึ้น แต่ก็เร่งได้ไม่มากอยู่ดี ภาพก็เลยมือกับมี Noise มากครับ
ควรจะตัดสินจากการดู review มากกว่านะครับ
อ่านแล้วตะหงิดๆหลายอย่างเลย
รูปที่โชว์ว่าถ่ายภาพเคลื่อนไหวประกอบคำอธิบายโหมด OIS นี่ไม่ได้แสดงถึงความสามารถของ OIS เลยครับ
ผมไม่มีความรู้เรื่องกล้องนะครับ แต่เห็นอันนี้ นาทีที่ 1:30+ เห็นมีถ่ายภาพด้วย
ไม่รู้เรื่องเดียวกันหรือเปล่า
http://www.youtube.com/watch?v=JKWRI9RoxN0&feature=player_embedded
ในคลิปเป็นการสั่นจากมือที่ถือกล้อง (บวกกับมีการเคลื่อนไหวที่ไม่เร็วคือคนเดินช้าๆเอื่อยๆ)
กรณีนี้ OIS ช่วยได้จริงครับ
ถ้าเคลื่อนไหวเร็วๆแบบคนกระโดดในรูปตัวอย่าง ถ้าเปลี่ยนจากกระโดดตอนกลางวันเป็นตอนเย็นโพล้เพล้หรือค่ำ OIS ไม่ช่วยอะไรแน่ๆครับ
+1 ผมยืนยันเม้นท์นี้ให้ครับ เว้นแต่ว่าคนที่ถ่ายก็กระโดดพร้อมกันด้วย :p
เห็นเอวขาวๆ แล้วมือสั่นครับ
เข้าใจยัง!!
ห๊ะ
ป๊ะป๋าเสกเป็นคนถ่ายนี่เอง
เข้าใจครับ - -"
ส่วน pulse flash burst
ดูแล้วมันเหมือนกับการใช้แฟลชแบบ Slow-sync + Rear Shutter พอควรเลย
คือแบคกราวน์ไม่มืด เพราะ SLow-sync หน้ากล้องเปิดนานทำให้เก็บ Ambient light ได้เยอะ แล้วพอช่วงสุดท้ายของการเปิดชัตเตอร์ กล้องค่อย fill-in แสงแฟลชเข้าไปน้อยๆ เพื่อเพิ่มแสงที่ตัวแบบให้สว่างขึ้นนิดหน่อย
อาจจะใช่ก็ได้ครับ แต่พอมาอยู่ในโทรศัพท์ ณ ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นของใหม่ล่ะครับ
ภาพที่ถ่ายกับต้นไม้ ทำไมมันมีเงาต้นไม้พาดไปอีกทางนึงด้วยอ่ะคับ
อันนี้ต้องรอดูครับว่าจัดฉากจริงหรือเปล่า แต่อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่ามันเป็นไปได้ ตามนี้
ปกติเวลาผมถ่ายคือไม่เปิดแฟลชเลยแล้วเปิดหน้ากล้องค้าง หรือปรับแฟลชเบาสุด อาจจะต้องเอาผ้าบังไว้ด้วยอีกนิดหน่อยด้วยซ้ำ ผมเลยบอกว่าโทรศัพท์มันไม่น่าจะทำได้ขนาดนั้น ถ้าจริงก็ว้าวล่ะครับ
ยังไม่อยากฟันธง ขี้เกียจดริฟท์สุดตัว - -" แต่ใจก็เชียร์ล่ะครับ
รูปสุดท้าย ดูยังไงก็ไฟสองดวงครับ
ซ้ายเปิดเงาต้นไม้ ขวาเปิดเงาแบบ
ไฟจากกล้องดวงเดียวไม่มีทางให้เงาแบบนี้ได้ครับ สังเกตุขาซ้ายของแบบนะครับ ทำไมมีเงา ถ้าใช้ Flash จากกล้องจริงๆ จุดนั้นไม่น่ามีเงาได้ นอกจากไฟด้านขวา ทำมุมราวๆ 45 องศากับตัวแบบ ถึงทำให้เกิดเงาของขาขวา บนขาซ้ายได้
ปล. ผมทำงานกับกล้องกับไฟสตูมาเกือบสิบปีแล้วครับ ถ้าไฟ LED ดวงเดียวจากโทรศัพท์ทำได้แบบนี้ ผมยอมขายไฟสตูทิ้งจริงๆด้วย
เป็น flash จาก 920 จริงๆ ครับ
แต่เป็น flash จาก 920 อีก 10 ตัวรวด!!
กำลังดูดน้ำสำลักสุดตัว เพราะอ่านประโยคนี้
ผมฮาตกเก้าอี้เลยเนี่ย ฮ่าๆๆๆ
แค่บังเอิญรถวิ่งผ่านมาเลยมีแสงเพิ่มพอดี 555
บ๊ะ ชอบเม้นท์นี้จัง
เชียร์โนเกียนะ แต่รูปนี้ผมเห็นด้วยเลยว่าไม่ใช่แค่แฟลชแน่ๆ
ใช้ Flash ก็ยังมีเงาได้นะถ้าแหล่งกำเนิดแสงสว่างกว่า Flash ที่ปล่อยออกมาแล้วเปิดกล้องค้างนานหน่อย แต่แหล่งกำเนิดแสงเกิน 2 แน่นอน ไม่รู้ว่าถ่ายที่ไหนมีโคมไฟไหมเพราะดูคล้ายๆสวนสาธารณะ ถ้าไม่มีโคมไฟนี่คงใช้ไฟช่วยแน่ๆ
เรื่องเงา ดูจากขาขวานะครับ โดนไฟเต็มๆ ในขณะที่ขาซ้ายมืดมาก ทั้งๆที่ห่างออกไปแค่ไม่กี่เซ็น ถ้าไฟมาจากทิศของกล้อง ยังไงขาซ้ายก็ต้องสว่างกว่านี้ครับ
วิเคราะห์จากเงาสะท้อนจากร้องเท้าขวาของแบบนะครับ ผมมั่นใจว่าไฟร่มหรือ Soft Box แน่ๆ
รูปอื่นผมไม่ Comment นะครับ เพราะมันเป็นไปได้ แต่คิดว่า Nokia ก็น่าจะมีลูกเล่นอะไรในรูปอื่นๆแน่ๆ
แต่รูปสุดท้ายที่นี่มันชัดมากๆว่า Nokia แหกตาลูกค้าแน่นอนครับ
ดูทิศทางกับมุมแสงแล้วแหล่งกำเนิดแสงขวานี่ระดับเดียวกับตัวแบบค่อนข้างแน่
แหล่งกำเนิดแสงซ้ายก็น่าจะระดับเดียวกันหรือต่ำกว่าหน่อย และอยู่ในระยะที่ใกล้มาก
ผมคิดว่าไม่น่าใช่โคมไฟครับ
คิดแบบเข้าข้าง โนเกียสุดๆ เลยนะครับ คือ เขาจัดแสงให้โนเกีย แล้วก็ถ่าย slow speed shutter ฮ่าๆ ส่วนอีกเจ้าสั่ง Force เปิด Flash ที่ speed สูงๆ
ผมเดาว่า (เดานะครับ) แฟลชจากกล้องทำหน้าที่ช่วยโฟกัสเท่านั้น ภาพที่เห็นมาจากสภาพแสงบริเวณนั้น การที่มันสว่างเพราะอะไรเดาไม่ออก เหมือนกับที่เดาไม่ออกว่า ถ่ายแจกันในช่องกำแพงมันสว่างได้ยังไง pureview น่าจะมีเทคโนโลยี่เฉพาะของเขา ซึ่งน่าทึ่งมาก
ถ้าเปลี่ยนจาก Nokia Lumia 920 เป็น Nikon D4 หรือ Canon 1D X ผมให้ผ่านเลยครับ :-P
คือเอาจริงๆจากสายตาคนทำงานที่เกี่ยวข้องกับไฟแบบผม ผมว่า Nokia แหกตาคนดูครับ
ผมก็คิดงั้นแหละ แฟลชบ้าไร โอเว่อร์แบบเห็น ๆ -*- สว่างโล่ง นี่แฟลช หรือ สปอตไลท์วะนี่
ล่าสุดพาทีมงานจาก The Verge ไปทดสอบ
แสงประหลาดๆพวกนั้นกลายเป็นว่ามาจากโคมไฟของเซ็นทรัลปาร์คเอง
ต้องบอกทั้งหมดด้วยครับว่า พี่แกตั้งขา แล้วเปิดชัตเตอร์ 1 วินาที
มี Instagram เมื่อไร ขายดีขึ้น 10 เท่า
Educational Technician
ซื้อมือถือที่มีกล้องดีๆ มาใส่ฟิลเตอร์เบลอๆมัวๆ แล้วจะซื้อมาทำไมล่ะครับ
Like เลย ฮ่าๆ
+10 - -"
55555555555+
555 +1 ครับ
ผมว่ารอดูรีวิวของจริงก็จบครับ ไอ้ภาพโฆษณาเกินจริงมันมีเยอะแยะครับ
แต่เท่าที่ดูยังงัยก็น่าจะดีกว่าหลายๆ เจ้านะครับ แต่ไม่รู้เรื่องสีภาพที่ถ่าย
ก่ะจอภาพจะออกมาแบบไหนของจริง ส่วนผมปัจจุบันใช้ iPhone4 อยู่
ถูกใจก่ะสีภาพอยู่ถ้า Nokia ทำได้ดีก็อาจจะเปลี่ยนใจไปใช้
จบเรื่องโดยการเอา มือถือรุ่นท็อปตัวต่างๆในมือเรา พอในไทยเปิดตัวก็เดินไปทดสอบกันสดๆเลย ทีนี้จะได้รู้กันว่าแน่หรือไม่
แต่ก็ต้องยอมรับเค้าแล้วแหละว่าในบรรดามือถือทุกตัวบนโลกที่ติดกล้อง ไอ่เจ้าตัวนี้คงเจ๋งสุด
อย่าลืม 808 อีกตัวนะคร้าบ XD
จากคลิปนี้ http://www.youtube.com/watch?v=sRMaVNf3zOQ&feature=relmfu
ที่ 0:50 เค้าบอกว่าไม่ได้ใช้ Flash รึเปล่าครับ ไม่แน่ใจ