Tags:
Node Thumbnail

ข้อมูลจากราคาในการซื้อขายของตลาดหุ้นอเมริกาวันนี้ล่าสุด บริษัทกูเกิลมีมูลค่ากิจการตามราคาในตลาด (Market Capitalization) อยู่ที่ 248.2 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ไมโครซอฟท์อยู่ที่ 247.8 พันล้านดอลลาร์ ทำให้กูเกิลมีมูลค่ากิจการสูงกว่าไมโครซอฟท์เป็นครั้งแรก ทั้งนี้กูเกิลเริ่มนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นในปี 2004

อย่างไรก็ตามสถานการณ์นี้อาจเป็นเหตุการณ์ชั่วคราวก็ได้ เพราะเมื่อปีที่แล้วไอบีเอ็มก็มีมูลค่ากิจการสูงกว่าไมโครซอฟท์ได้อยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่ไมโครซอฟท์จะแซงกลับขึ้นไปคืน เพียงแต่ข่าวนี้ก็บ่งชี้ให้เห็นถึงมูลค่าที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องของบริษัทกูเกิลนั่นเองครับ

สำหรับบริษัทด้านเทคโนโลยีที่มีมูลค่ากิจการสูงที่สุดในโลกในตอนนี้ยังเป็นของแอปเปิล ที่มีมูลค่าล่าสุดคือ 632.2 พันล้านดอลลาร์

ที่มา: Business Insider

Get latest news from Blognone

Comments

By: genociderex
AndroidUbuntu
on 1 October 2012 - 22:17 #483962

632.2 พันล้านดอลลาร์

คุณพระช่วย

แบบนี้ ฟอร์เรสท์ กัมพ์ ก็รวยสุดๆอ่าดิ

By: ตะโร่งโต้ง
WriterAndroidWindows
on 1 October 2012 - 22:27 #483967 Reply to:483962
ตะโร่งโต้ง's picture

คุณทำให้ผมสงสัย จนต้องไปค้นจนเจอบทความนี้


ช่างไฟสมัครเล่น (- -")

By: tonkung
Windows Phone
on 1 October 2012 - 22:20 #483963

รอ ms เปิด win8 ก่อนจะได้รู้กันว่ามันจะรุ่งหรือจะล่วงกันแน่

By: atmeid001
Windows
on 1 October 2012 - 22:46 #483971 Reply to:483963

ผมว่าเปิดไปหุ้นมันไม่ขึ้นทันทีหรอก วินโดว์ต้องใช้เวลาซักหน่อยกว่าจะแซงตัวเก่าได้

By: Be1con
ContributorWindows PhoneWindowsIn Love
on 2 October 2012 - 01:30 #484061 Reply to:483963
Be1con's picture

ก็ไม่แน่เสมอไปนะครับ บางทีอาจจะร่วงหนักกว่าเดิมก็ได้


Coder | Designer | Thinker | Blogger

By: tonkung
Windows Phone
on 2 October 2012 - 02:43 #484099 Reply to:484061

ก็นั้นล่ะครับ จะรุ่งหรือจะร่วงกันแน่

By: frozenology
ContributoriPhoneAndroid
on 2 October 2012 - 11:19 #484242 Reply to:483963

ดูแววว่าจะร่วงหนักกว่าเดิม รู้สึกถึงอาถรรพของเลขคู่กับ Microsoft

แถมมีกระแสต้านมาแต่ไกล http://www.facebook.com/photo.php?fbid=474070042623255&set=a.267960063234255.69637.122388891124707&type=1&theater&notif_t=photo_comment


@fb.me/frozenology@

By: Jessy
Red HatUbuntuWindows
on 1 October 2012 - 22:27 #483966

ที่ Apple มันขึ้นไปแบบไม่หยุด ก็คงเพราะที่ผ่านมาไม่มีปันผล รายได้ก็เลยทบต้น ทบดอกเป็นมูลค่าทรัพย์สิน

By: Kazu
iPhoneWindows PhoneAndroidUbuntu
on 1 October 2012 - 22:49 #483973 Reply to:483966

Market Cap นิครับ ราคาหุ้น x จำนวน เพราะงั้นไม่เกี่ยวกับทรัพย์สินอื่น apple ถ้าจำไม่ผิดมีเงินสดหลักแสนก็หลักหมื่นล้าน ซื้อประเทศทางฝั่งโลกที่3ได้ 1-2ประเทศ

By: Zatang
ContributoriPhoneAndroid
on 1 October 2012 - 23:32 #484002 Reply to:483973

มันเกี่ยวเพราะ ราคาหุ้น นี่แหละครับ ราคาหุ้นมาจากผลประกอบการที่คาดว่าจะได้รับในอนาคต เก็บเงินไว้ไม่จ่ายปันผล=เงินสำหรับลงทุนมาก ย่อมคาดหวังผลตอบแทนที่มากกว่า


อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว

By: Jessy
Red HatUbuntuWindows
on 1 October 2012 - 23:48 #484009 Reply to:483973

เงินปันผลก็ไปอยู่ในตัวหุ้นนั่นละครับ เพราะดันมูลค่าตัวเองให้ขึ้นไปเนื่องจากไม่มีปันผล การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ก็เป็นอีกเหตุผลนึงที่คนยังหวังว่ามันยังเติบโตได้ คนก็เลยไม่ขาย พอไม่ขาย ความต้องการซื้อมันยังมีอยู่ มันก็ดันราคาขึ้นไปอีก

แต่ Apple นี่เป็นฟองสบู่ก้อนใหญ่เลยนะครับ เพราะรายได้สูงมาก ดังนั้นความเสี่ยงก็๋สูงมาก เพราะคนซื้อยังคงหาซื้อกันต่อไปดันราคาหุ้นขึ้นไปเรื่อยๆ แต่พอหยุดพัฒนานวตกรรมเมื่อไรตอนนั้นละครับ จะเป็นตัวพิสูจน์ว่าคุณมีค่าพอหรือยังที่จะมีมูลค่าสูงกว่า Microsoft 3 เท่า

สาเหตุที่ Apple ราคาพุ่ง นั่นเพราะเจาะตลาดใหม่ เป็นผู้นำตลาดใหม่ อัตราส่วนอัพราคาขายต่อต้นทุนได้สูงมาก 4-5 เท่า

By: narasak
iPhoneAndroidUbuntu
on 2 October 2012 - 18:14 #484562 Reply to:484009

ถ้าผมถือหุ้นแอปเปิ้ลอยู่
ช่วงนี้คงต้องรีบทยอยขายแล้วครับ
คิดว่าตอนนี้คงอยู่ยอดดอยแล้วล่ะ

By: lingjaidee
ContributoriPhoneAndroid
on 1 October 2012 - 22:50 #483976 Reply to:483966
lingjaidee's picture

ต่อให้ผลกำไรไปทบต้น แต่ก็มีต้นทุนการผลิตต่างๆ ที่เป็นค่าใช้จ่าย และถ้ารู้อยู่แล้วว่าไม่ปันผล คนก็ไม่น่าจะกล้าซื้อนะครับ ยิ่งแบบนี้แสดงว่าถ้าหุ้นไม่แข็งแรงจริง ท่่ามกลางการไม่ปันผล คนก็ไม่กล้าแห่ซื้อเก็งกำไรกันแน่ๆ .. เรื่องนี้ต้องยกให้เลยว่าเค้าเจ๋งจริง. ;)


my blog

By: Jessy
Red HatUbuntuWindows
on 2 October 2012 - 00:37 #484039 Reply to:483976

มีเงินสดในมือเยอะ ก็ทำให้ลดต้นทุนได้นะครับ โดยไม่ต้องไปกู้ยืมเงินที่ไหนมาลงทุน ที่เหลือก็อยู่ที่ว่าจะทำที่มีให้งอกเงยได้แค่ไหนมากกว่า

ต้นทุนการผลิตต่างๆ เป็นค่าใช้จ่าย แต่คุณดูสินค้าที่ขายสิครับ ราคา 4-5 เท่าของต้นทุนหมดนะครับ ขาย 1 ฟรี 4 เครื่อง เท่ากับเพิ่มโอกาสให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 4 เท่าโดยใช้เงินลงทุน 1 เครื่อง

By: Zatang
ContributoriPhoneAndroid
on 2 October 2012 - 09:09 #484139 Reply to:484039

แต่ตามทฤษฎีแล้ว มีเงินกู้ด้วยมูลค่าบริษัทจะสูงกว่านะครับ กรณีที่ยังไม่ได้กู้มาจนเริ่มกู้ยาก เพราะถือว่าต้นทุนเงินทุนของเงินกู้น้อยกว่าส่วนผู้ถือหุ้น เก็บเงินสดไว้ไม่ได้เอาไปใช้ถือว่าสูญเปล่า http://en.wikipedia.org/wiki/Modigliani%E2%80%93Miller_theorem#With_taxes


อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว

By: Nics
iPhoneAndroidWindows
on 1 October 2012 - 23:31 #484000

แต่ถึงตอนนี้ใน 3 เจ้า ผมก็ยังมอง MS มีฐานปึ้กสุด

By: Digitech
Windows
on 1 October 2012 - 23:43 #484011

ขอให้กิจการรุ่งเรืองเด้อ ขอบคุณที่พาลูกค้ามาให้มากมาย อู่ข้าวอู่น้ำของคนทำเว็บ

By: iEkk
AndroidBlackberryWindows
on 2 October 2012 - 00:23 #484028
iEkk's picture

ถ้ายังนำหน้าเรื่องsearch engineอยู่ ต่อไปคงครองโลก

By: Varyster
iPhoneWindows PhoneWindows
on 2 October 2012 - 03:25 #484106

รวมกันยังไม่เท่า apple = ="

By: nottoscale
Windows Phone
on 2 October 2012 - 15:21 #484468

ต้องขยายฐาน OS ของตัวเองให้เมนสตรีมจะดีกว่านี้อีกเยอะ