Center for Public Policy ของมหาวิทยาลัย Brown ได้จัดอันดับด้าน e-Government เป็นประจำทุกปี โดยคิดคะแนนจากการสำรวจเว็บไซต์หน่วยงานภาครัฐว่ามีความพร้อมมากแค่ไหน
ของปี 2006 ห้าประเทศที่คะแนนสูงสุดคือ เกาหลีใต้ 60.3, ไต้หวัน 49.8, สิงคโปร์ 47.5, สหรัฐ 47.4 และ คานาดา 47.3 ซึ่งเกาหลีพุ่งพรวดจากปีก่อน 26.2 คะแนน ข้ามเป็นสิบๆ อันดับขึ้นมาครองแชมป์ได้อย่างสวยงาม (ปีก่อนไต้หวันเป็นแชมป์เก่า)
ส่วนของประเทศไทยปีนี้อยู่ที่ 23.4 คะแนน (ลดลงมาเรื่อยๆ ปี 2004 ได้ 27.6 ส่วนปี 2005 ได้ 24.1) ผมไม่อยากบอกเลยว่า 23.4 คะแนนนี้ น้อยกว่าลาว (28.0) อิรัก (27.0) อัฟกานิสถาน (26.7) หรือแม้แต่พม่า (25.3) เสียอีกนะ น่าเศร้าเนอะ
ก่อนโพสต์ความคิดเห็นอยากให้ดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มมาอ่านวิธีคิดคะแนนและอันดับในภาพก่อนนะครับ ผมไม่ค่อยอยากได้ความเห็นแนวๆ ว่า "นี่แหละหนา ประเทศไทย" แต่อยากได้ "เราจะทำยังไงกันดี" มากกว่า
ที่มา - รายงานฉบับเต็ม (PDF), Thailand Forum
Comments
"เราจะทำยังไงกันดี" :
คงต้องเปลี่ยนนโยบายของ ict กับวิธีการทำงานของระบบราชการไทยทั้งประเทศเลยมั้งครับ เราอุตส่าห์มีกระทรวง ict แต่ไม่เห็นไอ้กระทรวงนี้ไปทำหน้าที่ช่วยงานกระทรวงอื่นด้าน ict มั่งเลย แยกกันอยู่ได้ แทนที่จะช่วยกัน - -'
"นี่แหละหนา ประเทศไทย" :D
จริงๆแล้วทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับ
วิสัยทัศน์ของผู้นำอย่างเดียว
ผมเชื่อว่าลำพัง รมต ICT คงทำอะไรเนื่องนี้มากไม่ได้ มันควรเป็นนโยบายจากตัว นายกรัฐมนตรีโดยตรงมากกว่า
เท่าที่ดู นายก ตอนนี้ไม่ได้กะเข้ามาทำเรื่องเหล่านี้แน่
แต่ก็เป็นปกติของรัฐบาลทหารแหละครับ (ไม่อยากพูดมากกว่านี้เดี๋ยวกลายเป็นการเมือง)
ถ้าเป็นเรื่องของ E-goverment ลำพังพวกเราทำอะไรไม่ได้หรอกครับ นอกจาก ส่ง pdf ฉบับนี้ให้ นายก และ รมต ICT ดู
..โดยความเห็นส่วนตัว รัฐบาลนี้น่าจะให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้เป็น ลำดับสุดท้าย
ดูเหมือนว่าปัญหาจะเกิดจากเกณฑ์การให้คะแนน
1. คุณสมบัติเหล่านี้มีค่าอย่างละ 4 คะแนน publications, databases, audio clips, video clips, foreign language access, not having ads, not having premium fees, not having user fees, disability access, having privacy policies, security policies, allowing digital signatures on transactions, an option to pay via credit cards, email contact information, areas to post comments, option for email updates, option for website personalization และ PDA accessibility 2. บริการอื่นๆ อีกอย่างละ 1 คะแนน ให้ได้มากสุด 28 คะแนน
ด้วยเกณฑ์แบบนี้ประเทศไทยได้ 23.4 คะแนนก็นับว่ามากกว่าที่ผมคาดไว้แล้ว
- publication ช่วงนี้เหมือนจะมีให้โหลดกันเยอะขึ้น นึกไม่ออกก็แนบไฟล์มาเลย โดยเฉพาะเอกสารจัดซื้อจัดจ้าง - database เหมือนจะมีอยู่บ้าง แต่ไม่ค่อยให้เข้าถึง ส่วนใหญ่เราเน้น static นี่นา - audio clip โอ๊ะต้องทำ audio blog ด้วยเหรอ - video clip อ๊ะ video blog อีกต่างหาก แค่เอาข่าวขึ้นเว็บก็นับว่าดีแล้ว สงสัยกรมประชาสัมพันธ์จะงานหนักนะต้องมาอัดเสียงอัดภาพให้กับทุกกระทรวงเนี่ย - foreign language access ข้อนี้... ลำบากสุดๆ ไม่ต้องมองอื่นไกล MICT ยังไม่มีภาษาอังกฤษเลยครับ (หรือว่าผมหาไม่เจอ) แต่ SIPA มีนะแม้ว่าเนื้อหาจะเก่าไป 4 เดือนก็ตาม ข้อนี้ผมไม่ค่อยจะเห็นด้วย ดูเหมือนจะไม่ค่อยยุติธรรมสำหรับประเทศกำลังพัฒนาที่ภาษาราชการไม่ใช่อังกฤษอย่างประเทศไทย แต่ในอีกมุมเกาหลีก็ได้ไปตั้งเยอะ แปลว่าเค้าแปลเยอะรึเปล่า - not having ads อันนี้แปลกๆ ผมไม่แน่ใจว่าเว็บของ MICT ที่มีลิงค์ไปหน่วยงานอื่นที่มีหน้าตาคล้ายๆ ads จะถือเป็น ads รึเปล่า ถ้าใช่ก็โชคร้ายมาก ประเทศไทยชอบแบบนี้ซะด้วย - not having premium fees ข้อนี้สบาย บริการฟรี - not having user fees สบายเหมือนกัน - disability access เอ่อ ข้อนี้โชคร้ายมาก เราไม่เคยสน - having privacy policies มีบ้างเป็นบางที่ - security policies ส่วนใหญ่จะยังไม่สน - allowing digital signatures on transactions มีให้ใช้แต่ไม่ค่อยมีใครใช้ เอหรือว่าไม่มีใครใช้เลย - an option to pay via credit cards งงนิดๆ ก็ของฟรีจะใช้เครดิตทำไม - email contact information ส่วนใหญ่จะมี - areas to post comments ส่วนใหญ่มี แต่ไม่มีใครมาอ่าน - option for email updates น้อยแต่ก็พอจะมี - option for website personalization น้อยเกือบจะไม่มี - PDA accessibility เหมือนจะไม่มี
เท่าที่ดูผลเค้าให้คะแนนประเทศไทย - online services = 0 - publications = 100 - databases = 29 - privacy = 0 - security = 0 - disability = 0 - foreign language = 100 - ads = 0 - user fee = 0 - comments = 14 - updates = 0
ด้านบนๆ เหมือนจะถูก แต่สงสัยตรง foreign language ตกลงเค้าดูเว็บไหนกันแน่ เพราะมีโฆษณา เสียค่าธรรมเนียมและนิ่ง
online services เรามีอยู่บ้างนะ ไม่น่าจะถึงกับศูนย์
นี่แหละบาง ประเทศไทย
^ ^ "บาง" ^^"
ผมคิดว่าบุคลากรที่อยู่ในหน่วยงานภาครัฐยังขาดทักษะแบบมืออาชีพ อาจเพราะได้รับเงินเดือนที่น้อยกว่าเอกชนรึเปล่า ? อย่างเวบ www.dopa.go.th เป็นเวบที่มีข้อมูลที่น่าสนใจอยู่มาก แต่วิธีการออกแบบหรือการนำเสนอ ไม่น่าสนใจเลย
ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นวัฏจักรนี้นะครับ
เว็บถูกออกแบบมาไม่น่าใช้ ทำแบบลวกๆ --> คนรู้สึกเบื่อหน่าย ใช้ยาก หาข้อมูลไม่ได้ตามต้องการ --> คนเลิกใช้ ปริมาณคนใช้ไม่เพิ่มขึ้น --> คนทำไม่มีกำลังใจทำ งบประมาณไม่มีเพราะผู้ใหญ่เห็นว่าไม่คุ้ม เพราะไม่มีคนใช้ --> เว็บถูกออกแบบมาไม่น่าใช้ ทำแบบลวกๆ
ถ้ามันเป็นแบบนี้จริง ผมว่าน่าจะตัดวงจรนี้ได้จากการปล่อยงบประมาณ เพื่อจ้างผู้พัฒนาหรืออะไรอย่างอื่น เพื่อให้ประชาชนรู้สึกว่ามันน่าใช้งานมากกว่านี้
---------- iPAtS
iPAtS
ปัญหาที่ e-Gov เมืองไทยไม่ค่อยรุ่งเนี่ยผมก็ขอมองงี้แล้วกัน
We need to learn to forgive but not forget...
ผมว่าถูกต้องแล้วครับ ในการจัดลำดับความสำคัญของเรื่อง e-Goverment ไว้ทีหลัง ในเมื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศยังมีหนี้สินอยู่เลย แต่ อ่ะ อ่ะ การจัดความสำคัญไว้ทีหลัง ไม่ได้หมายความว่าจะทิ้งมันไปเลยนะครับ
ผมคิดว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่งบประมาณ หรือความสามารถด้านไอทีของหน่วยงานราชการหรอกครับ แต่มันอยู่ที่วิสัยทัศน์ (หากประเมินผลเรื่องนี้ ราชการไทยคงตกเหมือนกัน) เพราะ ผมเดาเอานะครับว่า เวบราชการไทยทั้งหลายที่เราเห็นอยู่เนี่ย จ้างเขาทำทั้งนั้น อย่างน้อยก็เวบที่ผมรู้เบื้องหน้าเบื้องหลัง เขาก็มีการจ้างกันจริง ๆ ราคาค่าจ้างไม่ถูกด้วยนะครับ ดังนั้นเรื่องงบประมาณคงตัดไปได้ ความสามารถทางไอทีก็คงตัดไปได้เช่นกัน เพราะบริษัทที่มารับทำ คงต้องเป็นมืออาชีพจริง ๆ
แต่วิสัยทัศน์นี่สิ หากสังเกตดี ๆ เวบราชการไทยมีคุณสมบัติของเวบยุค 90's เยอะมากครับ อย่างที่หลายคนข้างบนได้อธิบายมา static, IE6 only, โฆษณาเยอะ, วางเนื้อหามั่ว ฯลฯ ส่วนหนึ่งก็คงต้องโทษบริษัทที่รับทำ (หากมีการว่าจ้างจริง ๆ) แสดงว่าไม่มืออาชีพอย่างแรง ที่จริงบริษัทพวกนี้นอกจากจะรับทำงานแล้ว ต้องให้คำแนะนำด้วย แต่ส่วนใหญ่คงต้องโทษผู้ว่าจ้าง แสดงว่าคุณไม่ตรวจสอบคุณภาพงานเลยนี่นา คุณไม่เคยศึกษามาเลยนิ ว่าเวบที่ดีต้องเป็นยังไง ซึ่งการศึกษาเรื่องนี้มันไม่ยากเกินไปหรอก อย่ามาอ้างเลยว่า ...
สิ่งที่ผมคิดว่าพวกเราพอทำกันได้คือ สร้างชุมชนรีวิวเวบครับ
คือตั้งโจทย์เป็นเวบไซท์หนึ่งเวบ แล้วให้สมาชิกเข้ามาวิจารณ์กัน แล้วให้คะแนน บวกกับคำแนะนำในการปรับปรุง แล้วต้องมีขั้นตอนทีเชื่อถือได้ เสร็จแล้วก็ออก Certificate ให้เวบที่โดนรีวิว
ผมว่าน่าจะเป็นการกำหนดทิศทางเวบบ้านเราที่สะเปะสะปะอยู่ได้ดีทีเดียว เพราะตอนนี้ blognone เองก็มีอิทธิพลในวงการไอทีบ้านเราไม่น้อย
เป็นไปได้นะครับ ที่คนทำเวบราชการไทย ชอบเข้าเวบพอร์ทัลดัง ๆ ในบ้านเรา หากสังเกตดี ๆ เวบสองประเภทนี้มันคล้าย ๆ กันนะครับ
BioLawCom.De
bow: สร้างชุมชนรีวิวเว็บ (เว็บมีไม้ไต่คู้นะครับ)
ผมว่าเข้าท่ามากเลยครับ ตอนนี้มีเรื่องซึ่งเว็บไซต์ ยัด malware ลงบนเครื่องของผู้ใช้ ซึ่งอันตราย
กาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ณ ประเทศ ของเล่น ในที่ ๆเรียกว่า กลม มีคำสั่งให้ เจ้าหน้าที่สร้าง แว๊บบบบ เจ้าหน้าที่คนแรก เป็น แว๊บบบบ ตีไซ ออกแบบ แว๊บบบบได้สวยงามตามสมัย ต่อมา เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวออกไป ล่าเงินเดือนหมื่นกว่า อ๋อ ลืมบอกไปว่าค่าจ้าง เจ้าหน้าที่คนแรกเป็นขี้ข้าชั่วคราว มีอัตราทั่วประเทศของเล่น เจ๊กพันหอกล้อยซามซิบ ต่อมา เจ้าหน้าที่คนที่สอง เข้ามาในอัตรา พงักงันราดชะกาล มีอัตราค่าจ้างแล้วแต่ กลมไหน จะให้เท่าไหร่ แต่ก็มากกว่าคนแรก คำสั่งใ้ห้ดูแล แว๊บบบบ แต่ด้วยตัวเอง ไม่อยากจะทำอะไรให้วุ่นวาย ก็ใช้ อีดิด ทำ หน้าตาที่สวยงามถูกต้อง เปิดได้ทุก สกุลรุณชาติบาวเซอร์ กลับสถุนเข้าทุกวัน จนมี บรุษหนุ่มรูปงามอาสา รัีบใช้ชาติ ได้เข้ามาที่กลม ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่คนที่สอง ว่า ตอนนี้แว๊บบบบ มันสถุนเต็มที จะช่วยทำให้มันถูกสกุลเีสียหน่อย เอาไหม แต่ปรากฏดังฟ้าผ่าหน้าแล้งว่า มึงทำเองดิ เอาไปทำทั้งหมดนะ
มีแต่คนอยากเป็น webmaster (admin) แต่ไม่มีใครอยากเป็น content master
ถ้าเว็บราชการทุกแห่งลง Drupal, Joomla หรือ CMS เราอาจจะได้คะแนน 60 ขึ้น
เท่าที่ผมดูนะ รัฐบาลที่ดูจะจริงจังกับเรื่อง IT มากที่สุดก็ตอนคุณ Tuk เข้ามานี่แหล่ะ ... ไม่เคยเห็นไปรษณีย์ ประปา ไฟฟ้า หรือส่วนราชการอื่นๆมีระบบแบบนี้เลย ... รึไม่จริง ?
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
--msmart ที่ีแน่ๆ ที่ผ่านมาไปรษณีย์มีกำไรครับ หลังจากที่เห็นขาดทุนมาตลอด
ผมชอบไอเดียนี้นะ และผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่น่าทำมาก โดยเฉพาะในบ้านเราที่เว็บส่วนมากยังขาดความเอาใจใส่ในเรื่อง Usability กันอยู่มาก เน้นดีไซน์ให้สวยๆ ลูกเล่นตระการตากันไว้ก่อน (เปล่า ผมไม่ได้พูดถึงเว็บโรงหนังหรือเว็บกระทรวงใดใด...)
ปัญหาใหญ่มันอยู่ที่ว่า ตามนิสัยคนไทย เขาจะยอมรับฟังกันด้วยเหตุและผลหรือ?
ตราบใดที่หน่วยงานทั้งหลายยังอยากทำตัวให้เป็นเว็บข่าวด่วน ข่าวสด มันก็คงไม่ดีกว่าเดิมซักเท่าไหร่มั้งครับ...