By: mk 
on 26 October 2012 - 15:36
Tags:
Topics:
ซัมซุงเผยผลประกอบการไตรมาสที่สามของปี 2012 โดยมีกำไรเหนาะๆ 8.12 ล้านล้านวอน หรือ 7.4 พันล้านดอลลาร์ (ราว 2.3 แสนล้านบาท) ถือว่าเพิ่มขึ้นเกือบหนึ่งเท่าตัวจากไตรมาสเดียวกันของปี 2011
กำไร 2 ใน 3 ของซัมซุงมาจากธุรกิจโทรศัพท์มือถือที่ร้อนแรงที่สุดในตอนนี้ ซัมซุงไม่ได้เปิดเผยยอดขายอย่างเป็นทางการ แต่คาดกันว่าซัมซุงขายมือถือในไตรมาสนี้ได้ราว 58 ล้านเครื่อง ซึ่งมากกว่าแอปเปิลที่ขายได้ 26.9 ล้านเครื่อง (ตัวเลขของแอปเปิลยังไม่ได้นับ iPhone 5 ที่เพิ่งวางขายช่วงปลายไตรมาส)
อย่างไรก็ตาม กำไรของธุรกิจชิปกลับลดลง 28% เนื่องจากราคา DRAM ในตลาดโลกลดลง แต่ก็ได้ยอดขายชิป NAND flash มาช่วยชดเชยได้บ้าง
ที่มา - รอยเตอร์ส
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Cloudnone
- AWS มาไทย ย้ายเลยดีไหม อะไรยังมาไม่ครบบ้าง? | Cloudnone Ep. 23
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
Comments
ของเขาดีจริง ๆ
58 ล้านเครื่อง ที่ขายได้นี่ รวม ทั้งหมดใช่มัีย อยากทราบว่าตระกูลแกเเลคซี่นี่ขายได้มากกว่า ไอโฟนรึป่าวคับ
58 ล้านเป็น Smart phone ทั้งหมดครับซึ่งนอกจาก Android (Galaxy) ก็มี wp กับ bada ชึ่งผมคิดว่า...ถือว่าไม่มีก็ใด้ครับ
เฉพาะ กรกฎาคม - กันยายน apple ระบุว่า shipped ไปทั้งหมด 26.9 ล้านเครื่อง (รวมรุ่น) ส่วน Samsung เฉพาะ S3 จะประมาณ 19-20 ล้านเครื่อง
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เห็นว่า S3 ship ไป 15 ล้านเครื่องนี่ครับ ไตรมาส 3
Reuters :
as sales of the Galaxy S III, introduced in late May, powered ahead of the iPhone 5 launch. Samsung is estimated to have shipped 18-20 million S IIIs in July-September.
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เร่งขาย เร่งกระจาย รุ่นไหนคนใช้น้อยก็แถมแพให้ เร่งเร้าให้คนเปลี่ยนรุ่นใหม่เรื่อยๆ มันก็น่าจะรายได้ดีนะ
เอาเข้าจริงผู้ใช้งานทั่วๆ ไปมักไม่มีปัญหาเรื่อง "ต้องเป็นระบบรุ่นล่าสุด" เท่าไหร่ครับ ตัวผมเองและคนรอบๆ ข้างที่ใช้ซัมซุงกัน (ใช้กันตั้งแต่ Mini, Cooper, Y Dous, S Advance, SII, SIII) ส่วนใหญ่ไม่มีใครสนใจเรื่องจะต้องเป็นระบบล่าสุดเท่านั้น ตราบใดที่มันยังใช้งานได้ดี ในกลุ่มผมมีคนเดียวที่บ่น (ใช้ SII) ว่าไม่ได้ ICS ซะที (ในตอนนั้น) พอเอาเข้าจริงสุดท้ายก็หนีไปเล่น Rom นอกซะ
สำหรับลูกค้าทั่วๆ ไปผมว่าแค่อัพเดทแพทช์ปัญหาสำคัญๆ ด้านความปลอดภัย บั๊ก ก็น่าจะเพียงพอแล้วครับ
โดยทั่วไปมันก็มีไม่กี่โปรแกรมที่บังคับให้ต้องใช้รุ่น 4+ ขึ้นไป เช่น โครม แต่โปรแกรมพื้นฐานทั่วไป โปรแกรมโซเชียล มันรองรับอยู่แล้ว
คนที่บ่นเรื่องไม่ได้ระบบล่าสุดส่วนใหญ่ผมว่ามักจะเป็นระดับ Power User ขึ้นไป และถ้าไม่ได้รุ่นล่าสุดจริงๆ กลุ่มนี้มักมีทางออกอื่นๆ แนว "อยากได้ ต้องทำเอง" อยู่แล้ว
สำหรับนิยามคำว่า "ลอยแพ" ของผมคงเป็นพวกรุ่นที่ "สัญญาว่าได้แน่นอน" แต่สุดท้ายกลับลำไม่ให้ พวกนี้ถึงว่าปาหมอนกัน สมควรถูกติ
อย่าง iOS เองคนรู้จักผมบางคนก็ยังพยายามใช้ iOS 5 กันอยู่ เพราะกลุ่มที่อัพเป็น 6 ไปแล้วเจอปัญหาเล่นแอ๊พเด้ง ค้างบ่อยๆ หลายคนเลยเลือกที่จะใช้ iOS 5 กันต่อ ซึ่งผมก็เห็นว่าพวกเขามีความสุขดี
อ้อ ผมยังไม่เคยเห็นคนรู้จักผมคนไหนบ่นเรื่อง Apple Maps ใน iOS 6 เลยแฮะ สงสัยเป็นเรื่องไกกตัวสำหรับพวกเข้าจริงๆ :D ที่เห็นบ่นมากกว่าคือ "ยูทิวป์ตรูไปไหน!!!" มากกกว่า
ประมาณนั้นเลยครับ คนรอบตัวส่วนใหญ่ที่บ่นว่าโดนลอยแพไม่ได้อัพ พอถามว่าคิดว่าอัพแล้วมีอะไรดีขึ้น นอกจากคำว่าลื่นแล้ว ก็ตอบอะไรมากกว่านั้นไม่ได้เลยครับ ส่วนคนที่ตอบได้ สักพักเค้าก็ไปลง Custom ROM เอง 555
เห็นด้วยครับ และอีกอย่างคนที่ผมรู้จักที่เป็น Power User หลายคนพอลง ios6 แล้ว ก็หาทางกลับกันแทบทุกคน
+1
ล่าสุด ไม่ได้หมายความว่าดีที่สุด เสมอไป
+1 เดิมๆ มากับเครื่อง นั่นแหละเหมาะสมสุดครับ
ลูกค้าที่ไม่สนใจจะอัพ ก็ใช้ต่อไป
ลูกค้าที่อยากอัพเดท และหารอมมาลงเองเป็น ก็ใช้ androidไม่มีปัญหา
ลูกค้าที่อยากอัพเดท และไม่อยากลงรอมเอง หรือทำอะไรไม่ค่อยเป็น ก็หนีไป apple หมดแล้ว
คิดว่าปัญหานี้จะส่งผลถึง dev ไหมครับ
Dev อยากใช้ api ของ android 4 ใจจะขาด แต่เขียนแอพแล้วมีคนใช้ได้น้อย ผลคือแอพ android ห่วย ต้องใช้เทคโนโลยีปี 2 ปีที่แล้วในการทำแอพตลอด
2 ปีข้างหน้าไป android 6 นักพัฒนาก็ต้องเกาะแพใช้ android 4 ไป ในขณะที่ iOS ถึงจะใช้ api รุ่นล่าสุด ก็ยังมีคนใช้ได้เกินครึ่งของลูกค้าทั้งหมด
apple ก็มี api ใหม่เรื่อยๆเหมือนกัน และมือถือก็โดนลอยแพทุก 2 ปี
แต่ Android นั้นถึงจะโดนลอยแพไปแล้ว แต่ app ใหม่ๆ ส่วนใหญ่ก็ยังทำงานใด้
นั้นคือข้อแตกต่างครับ
อีกนิดว่าถ้า dev อยากไช้ api ใหม่ก็สามารถทำใด้ เพราะ Android มี Multiple APK สามารถทำ apk ที่ต่างกันเพื่อรองรับ ขนาดจอ, android version และ cpu ที่ไช้งานต่างกันใด้ (cpu แบบ arm, x86 และ MIPS จะไช้ apk ด้วยกันไม่ใด้ถ้าเขียนด้วย ndk)
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
จะบอกว่าถึง apple ออก iOS เรื่อยๆ และมีคนใช้รุ่นใหม่เกินครึ่งในระยะเวลาแค่เดือนเดียว แต่ก็ยังโดนลอยแพในเวลา 2 ปีใช้แอพใหม่ไม่ได้
ในขณะที่ android ออก os เรื่อยๆ และมีคนใช้ไม่ถึงครึ่งในระยะเวลาปีเดียว ก็ไม่โดยลอยแพเพราะนักพัฒนาต้องติดกับโอเอสเก่านานกว่า 2 ปี กว่าจะเขียนแอพสำหรับใช้ api ใหม่ได้
แอพ android หน้าตามันเลยไม่ใช่ guideline ของ android 4 และห่วยอยู่อย่างนั้นไง
ผมไม่เชื่อนะครับว่าการเขียนแอพตัวเดียวให้รองรับ api หลายชุดในรุ่นเดียวจะให้ผลดีนัก นักพัฒนาไม่มีเวลาใส่ใจ ทำแค่ให้มันใช้ได้เท่านั้นแหละ
เอ่อ "หน้าตามันเลยไม่ใช่ guideline ของ android 4" นี่ไม่เกี่ยวนะครับ
อันนั้นระบบวาด ui มันทำให้เองหมดครับ
ยกเว้นแต่จะเขียนแอพที่ทั้งแอพทำด้วยภาพหมดเหมือน ios แบบนั้นถึงจะมีปัญฆา
ยินดีด้วยนะครับ samsung
ขายปะติกก๊อบแก๊บ กำไรงาม /ฟิ้ว
5555
55555555
5555555
ตรงมาก (เกินไป) พอดีว่าญาติใช้เครื่องที่ทนการปั่นนานที่สุด
Coder | Designer | Thinker | Blogger
หมายถึง will it blend น่ะเหรอ 555
ครับ ญาติยังอวดสรรพคุณนี้อยู่ด้วย 555
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ต้องลอง drop test ด้วยครับ
อันนี้เตือนญาติไปแล้วนะ 555
Coder | Designer | Thinker | Blogger
มันไม่ได้ทน แต่มันปลิวล่องเป็นถุงปะติก 555
คห นี้ ขำอ่ะ ปลิวล่องเป็นถุงปะติก 555
ตอนปั่น iPhone มันเหาะไม่ขึ้นโดยมีดฟันขาดกระจุยก่อนเลย
แต่ S3 มีวิชาตัวเบาที่เหนือกว่าในการเหาะเหินเดินอากาศ มันจึงปลดเกราะออก1ชั้น แล้วมันก็กระโจนวิ่งบนใบมีดได้สักครู่แต่ทนแรงไม่ไหวตกลงมาโดนปั่นกระจายตาม iPhone เพื่อนยากไป T_T
ผมกำลังอ่านอะไรอยู่หรือนี่ = =
เห็นใจ Samsung เรื่องค่าปรับนะ Samsung เป็นอีกค่ายที่ผมยอมรับเลยว่ามันเป็นมือถือ Top ที่ผลักดันวงการอิเล็กทรอนิกส์โมบายซิสเต็มให้เจ้าอื่นทำออกมาแข่ง ผลทำให้วิวัฒนาการพัฒนาไวเกินคาดในช่วง 3 ปีที่ Galaxy S ออกสู่ตลาด ผลตอบแทนดีแล้ว ทำออกมาผลักดันเรื่อยๆนะ :P
ส่วนตัวไม่ได้เป็นลูกค้าซัมซุง แต่ถ้ามองในมุมของผลประกอบการ การวิเคราะห์ตลาด ถือว่าทำได้ดีมากครับ หักคะแนนจากการลอก Apple + คะแนนจากการผลักดันอุตสาหกรรมให้พัฒนาค่อนข้างไว ก็ถือว่าเป็นฮโร่ของคนตังค์น้อย เป็นมารของ Apple ละกัน อิอิ
บางเจ้า ที่ผลิตสินค้าดีๆ ทนทาน บริการเยี่ยม ราคาสมคุณภาพ แต่บริษัทไม่โต(แค่พออยู่ได้) ก็เยอะแยะไป
ลูกค้าซัมเซงอาจจะนั่งแพบ่นกันไป ด่ากันไป แต่เชื่อสิ ตราบใดที่ตลาดมันยังไม่เต็ม ลูกค้าหน้าก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (หักพวกที่บ๊ายบายกันไปแล้วก็ยังเพิ่มอ่ะ ผมว่า) เพราะราคา มันเป็นกลยุทธ์หลักที่ใช้กันมาตลอด และมันก็ยังจะใช้ได้ไปเรื่อยๆ
..: เรื่อยไป
มันคือสินค้าของคนที่ไม่ยอมติดคุกกระจก อิอิ
ผมชอบ sony, hTC มากกว่าแต่ทำไมสู้แซมซังไม่ได้ก็ไม่รู้
ซัมซุงใช้วิธียัดๆ ทุกอย่างมา ในราคาถูกกว่าเจ้าอื่น
แถมถล่มด้วยการขายแบบโคตรแมสฯ จึงทำให้มีของแต่งเยอะมากๆ
ของเขาดีจริง อยากใช้ Samsung อยู่ แต่ดีไซน์ยังไม่จี๊ดเท่าไหร่ แต่ช่วงหลังๆก็ดีขึ้นเรื่อยๆ รอดู Galaxy S IV ครับ
ยินดึง ยินดีอะไรเล่า ขโมยสมองคนอื่นมาชัดๆๆ คิดเองเป็นมั่งเปล่า รอก็อปอย่างเดียว
อนาคต แอปเปิ้ล คิดสินค้าชิ้นใหม่ออกมา เดี๋ยวชัมซวย ก็รอก็อปไอ้เดีย ขโมยสมองของแอปเปิ้ล เชื่อดิคอยดู
การออกแบบยังไม่ดี OS หน่วง หวังว่า WP8 น่าจะดีขึ้น
WP มันลื่นตั้งแต่ 7 แล้วครับ
สงสัยจะไม่เคลียร์ ผมหมายถึงหุ่น ถ้าซัมซุงเปลี่ยนมาเน้นที่ WP8 การออกแบบ UI ก็จะดีขึ้นเร็วขึ้น งงไหมครับ
ผมใช้ S1 ยังเจ็บจนถึงบัดเดี่ยวนี้ ไม่มีเงินซื้อเครื่องใหม่ - -" ลง Custom Rom แล้วแต่ก็ไม่วายอยากกลับไปใช้รอมศูนย์ก็ดันเน่าอีก เหอะๆเซ็ง
ว้าว ที่อเทริกา คนใช้ ซัมซุงเยอะมากๆๆครับ แต่ยังไง ไอโฟนก้อเยอะกว่าอยู่ดี
สุดท้าย Apple ก็เหลือแต่คำขี้โม้.. 55
ต้มน้ำร้อน ปูเสื่อ... 555
Educational Technician
เป็นไรมากป้ะนิ ดีใจขนาดนั้นเลย???
ถ้าโลกนี้ ไม่มีไอโพนในปี 2007 ปัจจุปัน ก็จะไม่มี glaxy s ถ้าโลกนี้ไม่มี ipad ปัจจุปัน ก็จะไม่มี glaxy tap
ไม่เสมอไปครับ อย่ามองว่าทุกสิ่งมันต้องขึ้นอยู่กับเจ้าใดเจ้าหนึ่งสิครับ ไอโฟนสร้างบนพื้นฐานจอทัสกรีนที่มีอยู่แล้ว และไอแพดสร้างบนพื้นฐานต้นแบบ tablet pc ที่มีอยู่แล้ว
รอดูว่า Samsung จะทำให้ Apple วิ่งตามเกมส์ตัวเองถนัดได้หรือเปล่า ถ้า Apple วิ่งตามเกมส์ Samsung โมเมนตัมคงเปลี่ยนถาวร
แต่ถ้า Apple รู้จุดแข็ง และจุดยืน ที่ Steve ทิ้งเป็นมรดก ไว้ให้ ก็น่าจะสูสีอีกหลายปี
สิ่งแรกที่ Steve เข้ามาใน Apple ครั้งที่ 2 คือ โละ line การผลิตที่ไม่ทำกำไรทิ้ง เหลือรุ่นให้น้อยที่สุด ... เพื่อโฟกัสในผลิตภัณฑ์ที่มีผลต่ออนาคต