ผมคิดว่าสมาชิก Blognone คงไม่มีปัญหากับการแยกแยะความแตกต่างของ Windows 8 รุ่นปกติกับ Windows RT แต่เชื่อว่าปัญหานี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ในอีก 1-3 ปีข้างหน้า (ตามอายุของ Windows 8) อย่างแน่นอน เลยเขียนบทความนี้ขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงต่อไป
เมื่อพูดถึง Windows 8 คนทั่วไปคงเข้าใจกันได้ว่ามันเป็น "ระบบปฏิบัติการสำหรับพีซี" ที่นับรุ่นต่อจาก Windows 7 แต่ถ้าพูดถึง Windows RT คงมีคนสับสนว่าตกลงแล้วมันคืออะไรกันแน่
ถ้าให้อธิบายแบบง่ายๆ Windows RT คือ "Windows 8 รุ่นพิเศษ" ที่ออกแบบมาสำหรับแท็บเล็ตที่ใช้ซีพียูแบบ ARM (แบบเดียวกับที่ใช้ในมือถือและแท็บเล็ตทั่วไป) ซึ่งต่างไปจากซีพียูสถาปัตยกรรม x86 ของอินเทลกับเอเอ็มดี
Windows RT ไม่มีขายเป็นแผ่น เป็นกล่อง หรือผ่านการดาวน์โหลด เพราะมันจะพ่วงมากับฮาร์ดแวร์แท็บเล็ตหรือโน้ตบุ๊กลูกผสมเท่านั้น ดังนั้นเราซื้อระบบปฏิบัติการ iOS ของแอปเปิลไม่ได้ฉันใด เราก็ซื้อ Windows RT แยกจากฮาร์ดแวร์ไม่ได้ฉันนั้น
คำว่า RT ในชื่อ Windows RT ไม่มีความหมายใดๆ โดยไมโครซอฟท์ตั้งล้อไปกับ WinRT ที่เป็นไลบรารีสำหรับพัฒนาโปรแกรมแบบ Metro บน Windows 8 อีกทีหนึ่ง
ระวัง Windows RT ไม่เท่ากับ WinRT ความหมายคนละอย่างกันเลย แอพที่สร้างด้วย WinRT สามารถทำงานได้ทั้งบน Windows RT และ Windows 8 นะครับ
ผมจับภาพหน้าจอนี้มาจากเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์ จะเห็นว่าไมโครซอฟท์เองยังเรียก Windows RT แยกจาก Windows 8 เป็นเหมือนผลิตภัณฑ์สองตัว
ถ้าดูเฉพาะภาพจากหน้าจอ Windows RT จะเหมือนกับ Windows 8 รุ่นปกติ (สำหรับซีพียู x86) ทุกประการ ชนิดว่าไม่สามารถแยกความแตกต่างด้วยสายตาได้เลย
จุดสำคัญที่สุดที่ทำให้ Windows RT ต่างไปจาก Windows 8 รุ่นปกติคือ Windows RT จะไม่สามารถติดตั้งโปรแกรมจาก Windows รุ่นก่อนๆ เช่น Firefox, Chrome, Photoshop, AutoCAD หรือเกมต่างๆ ได้เลย โปรแกรมทุกอย่างจะต้องลงผ่าน Windows Store เหมือนกับแอพมือถือเท่านั้น
ข้อยกเว้น โปรแกรมจาก Windows รุ่นก่อนๆ ที่ใช้กับ Windows RT ได้มีเฉพาะโปรแกรมของไมโครซอฟท์ "บางตัว" ที่มาพร้อมกับ Windows เท่านั้น เช่น Paint, Notepad, Calculator ซึ่งโปรแกรมเหล่านี้ทำงานในโหมดเดสก์ท็อป
นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังแถม Office 2013 RT มาให้กับ Windows RT ด้วย โดยในชุดประกอบด้วยโปรแกรม 4 ตัวคือ Word, Excel, PowerPoint, OneNote เท่านั้น ไม่มี Outlook มาให้นะครับ (ดังนั้นคนที่ใช้ Windows RT ต้องใช้โปรแกรมอีเมลที่แถมมากับ Windows 8 แทน Outlook) - อ่านเพิ่ม โปรแกรม Office 2013 ใน Windows RT ไม่ได้รับสิทธิใช้งานเชิงพาณิชย์
สรุปอีกรอบดังนี้
Windows RT
Windows 8 รุ่นปกติ
ในช่วงแรกๆ จะมีแท็บเล็ตเพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้นที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows RT ส่วนที่เหลือก็ถือว่าเป็น Windows 8 รุ่นปกติ อย่างไรก็ตาม ก่อนซื้อมาใช้ควรตรวจสอบให้ดีก่อนว่าเป็น Windows RT หรือ Windows 8 (ถ้าซีพียูในสเปกเป็นอินเทลหรือเอเอ็มดี แปลว่าไม่ใช่ Windows RT)
รายชื่อแท็บเล็ตที่ใช้ Windows RT เท่าที่เปิดตัว
ดังนั้นใครคิดจะซื้ออุปกรณ์ที่ใช้ Windows 8 ควรตรวจสอบว่าเป็นรุ่น Windows RT หรือไม่ก่อน เพราะจะมีปัญหาลงโปรแกรมเก่าของ Windows ไม่ได้ในภายหลัง อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ที่ใช้ Windows RT มีข้อดีเหนือกว่า Windows 8 รุ่นปกติตรงที่ราคาถูกกว่า เบากว่า กินไฟน้อยกว่า แบตเตอรี่อยู่ได้นานกว่า
นอกจาก Windows RT แล้ว ไมโครซอฟท์ยังมี Windows 8 อีกหลายรุ่นย่อย (edition) ดังนี้
ดังนั้นถ้าเราไม่ใช่ลูกค้าองค์กร เราจะต้องยุ่งกับ Windows 8 ทั้งหมด 3 รุ่นคือ RT, 8 และ 8 Pro ซึ่งมีข้อแตกต่างกันตามตารางข้างล่าง
หมายเหตุเรื่องราคารุ่น Pro
หมายเหตุอื่นๆ
Comments
เข้าใจได้ง่ายดีครับ เชื่อว่าบุคคลทั่วไปเข้ามาอ่าน สามารถเห็นความแตกต่างได้ ขอบคุณครับ
จบ..
อย่าดับฝันคนที่กำลังคิดว่า Windows RT คือ holy grail สิครับ > <"
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ฮา....
รอบตัวผมมีหลายคนที่ไม่ได้ตามข่าว IT มากนักไม่รู้ข้อเท็จจริงนี้เลยด้วยซ้ำ...ต้องมีคนหลงผิดซื้อมาเพราะคิดว่ามันเหมือน PC บ้างแหละผมว่า
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
ความเห็นส่วนตัวสำหรับคอมพิวเตอร์รุ่นเดิมๆที่ไม่ใช่จอสัมผัส การใช้ Windows7 ต่อไปนั้นเป็นทางเลือกที่ดีกว่ามาก
โหมด desktop Windows8 มีอะไรพัฒนาจาก 7 เยอะคับ และลื่นไหลดีกับโน๊ตบุ๊คสเปคต่ำ
จุดที่ผมชอบมากที่สุดคือไม่ต้องง้อโปรแกรม Virtual Disc อย่า Demon Tools หรือ Power ISO อีกแล้ว แค่ดับเบิลคลิกก็พอ
และแน่นอน มันเร็วกว่า Win7 มากๆด้วย
โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่า ที่แตกต่างอย่างชัดเจนคือ Start Menu นอกนั้นก็ไม่มีอะไรเป็นปัญหา
เคยโพสรวมโปรแกรมที่ทำหน้าที่แทน Start Menu เอาไว้.. สำหรับคนที่ยังไม่ทราบก้อลองแวะไปอ่านต่อเพิ่มอีกทีละกัน http://www.blognone.com/node/37305
แต่โดยส่วนตัวแล้ว.. ต่อให้ไม่มีจอสัมผัส คิดว่าหากใช้คียบอรดรวมกับเมาส์ได้ ใช้ start screen แล้วยังทำงานคล่องกว่าใช้ start menu อยู่ดี แนะให้ลองหัดใช้ start screen ดู นอกจากว่ามันใหญ่เบิ้มแล้ว ทุกอย่างที่ start menu ทำได้นั้นสามารถทำใน start screen ได้เช่นกัน แล้วอีกหน่อย live tile จะช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้นอีกมาก
มันต่าง แต่ไม่ใช่ปัญหาเลยครับ XD
ลืมไป ในเม้นท์ก่อนหน้านี้นี่ จะให้เหมาะคงต้องใช้คำว่า 'pointing device' แทน 'เมาส์' .. เพราะจิงๆ ใช้แบบ trackpad อ่ะ ถึงจอจะใหญ่เบิ้ม แต่ใช้นิ้วตวัดนิดเดียว (ส่วนเมาส์นี่ไม่ค่อยได้ใช้ ถ้าใช้กับ start screen นานๆ นี่อาจเมื่อยได้เหมือนกันมั้ง แต่ปกติตัวเองจะตั้งเมาส์ไว้ไวมาก เท่าที่ได้ลองใช้นิดๆ หน่อยๆ กับอีกเครื่องก้อไม่รุสึกถึงความต่างอยู่ดี ว่าแต่ใครจะใช้พวก launcher นานๆ หรือบ่อยๆ หว่า แค่เข้าไปคุ้ยๆ แล้วพอหาเจอก้อสั่ง open เองนิ)
จะว่าไปแล้ว ส่วนตัวชอบแบบจอใหญ่เบิ้มนี่แหละ เวลาใช้ start menu ในเครื่องคนอื่นแล้วแอบอึดอัด ยุบๆ ย่อๆ คลิกเข้าคลิกออก.. แล้วอีกไม่นาน พอพวก low-precision pointing interface แบบ touchless อย่าง motion capture หรือ eye-tracking เริ่มฮิต เวลาใช้งานคงยิ่งสะดวกขึ้น เพราะใช้ได้ตั้งแต่ device ตัวน้อยนิดไปจนถึงตัวบิ้กเบิ้มอย่างพวก wall display นู่นเลย แถมนอกจากใช้แบบ launcher แล้วก้อยังใช้แบบ dashboard ได้อีกด้วย
มันแค่ iso only นี่สิครับ ในเครื่องผมนี่มีทั้ง iso mds cdi เลย -.-
แต่กับคนที่ใช้ Desktop ที่บางครั้งชอบนั่งเท้าคางแล้วใช้มือขวาเล่นกับเมาส์จะหงุดหงิดนิด ๆ ตรงต้องมาใช้คีย์บอร์ดช่วยในหลายกรณี (ผมว่าใช้เมาส์อย่างเดียวมันยังไม่สะดวก)
ผมว่าเม้าส์หลายปุ่มขายดึเเน่
+1 ขนาดผมเป็นสาวก Microsoft ผมยังแนะนำเลยว่า ถ้าไม่รักจริง อย่าลง Windows 8
รุ่นไว้เสพงาน .. กับสร้างงาน
my blog
เชื่อว่าถึงเวลาจะมีคนซื้อ windows RT ไปโดยไม่รู้ เพราะเห็นว่าถูก แล้วเจอปัญหาลองแอพเก่าๆไม่ได้แน่เลย สุดท้ายจะบ่นว่า "โดนหลอก"
+1
คนทั่วๆ จะโดย Sale หลอกขาย แน่ๆ
เรื่องนี้สำหรับคนทั่วไปอาจจะลำบากหน่อย เพราะทั้ง Tablet Windows 8 และ Windows RT ทั้งสองก็มีหน้าตาเหมือนกัน แล้วทีนี้ผู้ใช้ทั่วไปจะแยก OS ออกได้อย่างไร
ดังนั้นปัญหาแบบนี้ มีแน่ครับ
การรับประกันรับคืนสินค้าของบ้านเราครอบคลุมป่าวหว่า?
รอสอยมือ 2 จากคนที่โดนเซลหลอกดีกว่า 555+
จากการคาดการณ์ RT จะยังไม่มาไทยในปีนี้ (จากข่าวอีกเว็บนึง)
ต้นปีหน้า 8 Pro ก็ออกพอดี คงจะมาไทยพร้อมกันนะ
8 Pro ออกมาแล้วนะครับ ? (ผมก็ใช้อยู่)
หมายถึง Surface สินะ?
ส่วนตัวคิดว่า Windows RT อาการน่าเป็นห่วง เพราะมันทับไลน์กับ Windows 8 ที่เป็นแท็บเล็ต แม้จะคนละสถาปัตยกรรมก็เถอะ แต่ลูกค้าทั่วไปสับสนแน่นอน
สำหรับใครที่อยากรู้ว่า Windows RT ใช้งานได้ประมาณไหนลองดูคลิปนี้ก็ได้ครับว่าการใช้งานเหมาะกับเราหรือเปล่า
http://www.youtube.com/watch?v=L027ZB0gVCs&feature=g-all-u
เป็นคลิปที่ดีเลยครับ ดูแล้วเข้าใจเลย
มันเป็นอย่างงี้นี้เอง อ่านแล้วเข้าใจง่าย
อ่านง่ายดีครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
สงสัยจะลืม x64 สำหรับเวอร์ 8, 8 pro, 8 ent
ใน x86 ทั้งสามเวอร์ชันมีทั้ง 32bit เเละ 64bit ให้เลือกอยู่เเล้วไม่ใช่หรือครับ
ถ้าเป็น OEM และ SL (Single Language) จะแยกรุ่นกันครับ ต้องเลือกซื้อรุ่นใดรุ่นหนึ่ง (ราคาเท่ากัน) แต่ถ้าเป็น FPP จะมีทั้งสองรุ่นในแพจเก็จเดียวกัน
สรุปรุ่นที่มีขายในไทยแบบกล่อง (จากงานเปิดตัว)
ข้อสังเกตของผมคือมีรุ่นที่เป็น FPP รุ่นเดียวและสำหรับลูกค้าที่ต้องการอัพเกรดช่วงเปิดตัวเท่านั้น ส่วนรุ่นขายปกติในไทยไม่มีแบบ FPP แล้ว แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะมีในภายหลัง หรือมีในประเทศอื่นหรือเปล่านะครับ
ในไทย MS Thai เขาจัดโปรลูกค้าเก่า
สามารถซื้อ Windows 8 Pro ในราคา 1,990 บาท
(ดูได้ในนาทีที่ 20)
งานเปิดตัว Windows8 ที่พันธุ์ทิพย์พลาซ่า ประตูน้ำ
นั่นสิครับ มันไม่ได้ขายแยกไม่ใช่เหรอ (เครื่องใหม่แทบไม่มี X86 แล้วมั้ง)
คอมทุกเครื่องส่วนใหญ่บน ที่เป็น AMD/Intel ก็ยังเป็นสถาปัตยกรรม x86 หมดนะครับ จะมีพวกพกพาที่เป็น ARM
ผมว่าเขาไม่ลืมหรอกครับ แต่ windows 8 เป็น 64 bit ทั่งหมดอยู่แล้ว
มี 32 Bit ด้วยครับ - - ยังไม่ได้เป็น 64 Bit เต็มตัวเหมือน Mac
ไม่ลืมครับ จงใจไม่เขียนถึงเพราะ
บทความอ่านง่ายดีครับ ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณครับ เข้าใจง่ายขึ้นเยอะเลย
ถ้าไม่อ่านบทความนี้ สับสนแน่นอน ถึงอ่านแล้วเข้าใจแล้ว นานไปก็อาจลืมและสับสนอีก เขาน่าจะตั้งชื่อให้มันขาดจากกันมาก ๆ หน่อย จะได้ไม่งง เชื่อว่า แม้แต่ iOS กับ OS X ก็มีคนสับสนอยู่ไม่น้อย
Tablet ที่ใช้ Windows 8 Pro จะขายไม่ออก หรือยอดขายไม่ดีเท่าที่ควร เพราะมันหน้าตาเหมือน Tablet (มันคือ Tablet ในสายตาคนทั่วไป) และคนทั่วไปก็จะมองว่ามันคือ Tablet ซึ่งควรจะถูกกว่าหรือราคาใกล้เคียงกับ iPad ซึ่งเป็น Tablet เดียวที่ทุกคนรู้จักก่อนหน้านี้มากที่สุด แต่ผู้ใช้จะพบว่า อุปกรณ์ที่อยู่ตรงหน้า หน้าตาเหมือน Tablet ก็จริงแต่ราคา 35,000+++ สุดท้ายแล้วจะเลือก iPad ไปแทน ผู้ใช้ทั่วไปจริง ๆ เขาไม่มาทำความเข้าใจหรอกครับว่า RT คืออะไร Windows 8 Pro คืออะไร หลายคนเดินตามร้านเพื่อหาซื้อ Tablet ดูราคาหน้าตาแล้วก็ซื้อเลย Windows 8 Pro Tablet อาจจะกลายร่างเป็นเหมือน Notebook ได้ก็จริงแต่มันไม่ใช่ประเด็นเพราะเขาต้องการ Tablet ไม่ใช่ Notbook เหมือนที่ Apple เคยพูดไว้ ผู้ใช้ต้องการให้อุปกรณ์ของพวกเขานั้นแตกต่างกัน ซึ่งตรงนี้ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ Microsoft คิดโดยสิ้นเชิง โดยทางฝั่ง Microsoft มองว่ามันควรจะเหมือนกัน จึงออกมาเป็น Windows 8 Pro และ Windows RT อย่างที่เห็น สุดท้ายแล้ว ตลาดจะเป็นผู้ตัดสินเอง ว่าแนวความคิดไหนจะอยู่หรือไป
วิเคราะห์ได้ขาดมากครับ! แต่ทำไม OSX กับ iOS มันเหมือนกันเข้าไปทุกทีครับ? จริงๆ ผมว่าไมโครซอฟต์ลอกไอเดีย launchpad OSX ด้วยซ้ำน่ะ
iOS กับ OS X เริ่มแชร์ประสบการณ์การใช้งานบางอย่างเข้าหากันก็จริง แต่สิ่งที่แชร์ร่วมกันนั้น มันส่งเสริมซึ่งกันและกันมากกว่าที่จะทำให้ทั้ง 2 OS ผสมปนกันจนผู้ใช้สับสน เช่น Launchpad ใน OS X ก็คล้ายหน้าตาของ App Drawer ใน iOS หรือ Notification Center ก็เริ่มมีให้เห็นแล้วใน OS X
การนำฟีเจอร์ "บางอย่าง" มาใช้ร่วมกัน ทำให้ประสบการณ์ของผู้ใช้ดีขึ้น แต่สิ่งที่ผมพูดถึงอยู่ คือ การยัดประสบการณ์การใช้งานแบบ Desktop ลงไปใน Tablet อย่างที่ Microsoft ทำอยู่ ลองนึกภาพ Microsoft Surface ที่มีโหมด Desktop ดู ซึ่งใน iPad ก็ไม่ได้มีหน้า Desktop แบบ OS X มิใช่หรือ ? สิ่งนี้ทำให้เกิดลูกผสมระหว่าง Tablet และ Desktop เหมือนรถที่วิ่งได้ บินได้ เป็นเหมือนเป็ดที่ทำได้ทุกอย่างแต่อาจจะไม่ได้ดีสุดยอดทุกอย่าง
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เกิดจากการที่ Microsoft กลัวการ Modification ตัว Windows ของตัวเองอย่างมาก ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวกันกับการที่ Microsoft Courier ไม่ได้เกิด เพราะ Courier เป็น Windows ที่ผ่านการ Modified แล้ว Modern หรือ Metro ก็เหมือนเป็น Application ที่ครอบตัว Windows หรือ Platform เก่าอยู่อีกทีหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ยังคงเป็น Windows Desktop ที่ถูกแต่งหน้าทาปากครอบเอาไว้ด้วย Modern ตรงกันข้ามกับ Apple ที่เลือกจะพัฒนา OS ใหม่ทั้งหมดเพื่อ Tablet (รวมถึง Mobile Device) โดยเฉพาะ
สุดท้ายแล้วต้องดูครับว่าผู้ใช้เลือกแบบไหน iPad นั้นไม่สามารถทำงานได้อย่าง Desktop ก็จริงแต่มันควรที่จะเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะมันคือ Tablet ซึ่งมันควรจะมีความสามารถในฐานะ Tablet อย่างยอดเยี่ยม ไม่ใช่มีความสามารถอย่างละครึ่งแต่ไม่ได้ดีสักอย่าง เหมือนที่ Apple เคยพูดไว้ว่าผู้ใช้ต้องการอุปกรณ์ที่มีความแตกต่างกัน ไม่ใช่เหมือนกัน
บังเอิญว่าผมไม่คล้อยเคลิ้มกับคำพูดของแอปเปิลสักเท่าไหร่ มันดูเป็นคำพูดที่เหมือนพูดไม่หมด และลักลั่นย้อนแย้งในประโยคเดียวกัน เลยอ่านความเห็นคุณยังไงก็ไม่คล้อยตามสักที
คืออยากให้ลองคิดดูกลุ่มที่ใช้ iDevice รวมถึง Mac ซึ่งหากเชื่อให้คำที่แอปเปิลพูดไว้อย่างที่คุณบอก มันก็มีส่วนถูก คือ อุปกรณ์ของ iDevice แตกต่างกัน แต่สิ่งที่ทำให้กลุ่มผู้ใช้แอปเปิลยังเกาะกลุ่มไม่ออกลัทธิคือ ecosystem ที่สามารถใช้งานร่วมกันอย่างดี (พูดอีกแบบคือ มันคือ "ความเหมือน" ในกลุ่มสินค้าแอปเปิลด้วยกัน)
ทางไมโครซอฟต์เองก็มีอุปกรณ์ที่แตกต่างกันมากมาย ดีบ้าง แป๊กบ้าง ที่ภายหลังเห็นแนวคิดของแอปเปิดรุ่ง ก็อยากที่จะทำบ้าง โดยเริ่มต้นด้วยการสร้าง "ความเหมือน" ขึ้นมาในทุกอุปกรณ์ ที่ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้สึกแตกต่างกันมาก จากนั้นก็ปรับปรุง ecosystem ของตัวเองใหม่ให้มันไปในทิศทางเดียวกัน (ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟต์มีบริการซ้ำซ้อนกันมาก หลายๆ ตัวถูกยุบรวมกันในภายหลัง)
การเทียบตัวสินค้าในเวลานี้หากจะเทียบกับต้องจับคู่ที่เหมาะสมกันหน่อย อยาก iPad มันก็คงต้องจับคู่กับ Surface ไม่ใช่ Surface Pro ไม่ใช่เอาไปเทียบกับกลุ่ม Hybrid ที่ใช้ Windows 8/Pro เพราะกลุ่มนี้เป็นกลุ่มใหม่ที่อยู่ระหว่าง Desktop แบบเดิม (เมาส์คลิกๆๆๆๆๆ) กับ Tablet แบบใหม่ (นิ้วไถๆๆๆๆๆ)
ส่วน Desktop ที่มี Live Tiles มาให้ ก็ยังขอดูกันยาวๆ ยุคหนึ่งไมโครซอฟต์สร้างปุ่ม Start ขึ้นมาจนยิ่งใหญ่ Charm bar ก็อาจเป็นตำนานใหม่ของระบบปฏิบัติการ Desktop ในยุคหน้าก็ได้ (หรือไม่ก็แป๊ก แต่ถึงแป๊กก็คิดว่ายังไม่ยอมเอาปุ่ม Start คืนมาให้อีกแล้ว)
กลุ่ม Hybrid ผมไม่กล้าฟันธงว่ามันจะรุ่งหรือจะแป๊ก เนื่องจากมันเป็นกลุ่มสินค้าแบบใหม่ที่อยู่ระหว่างสินค้าสองอย่าง และขอจบประโยคสนทนาด้วยคำพูดเท่ๆ ของใครบางคนว่า "ผู้ใช้ไม่รู้ความต้องการของตัวเองหรอก จนกว่าจะได้เห็นมัน"
Courier ไม่ใช่ Windows นะครับ และที่มันไม่เกิดเพราะมันไม่ใช่ Windows นั่นล่ะครับ
เพราะมันผ่านมาโมมาอย่างมากจนไม่เหลือเค้าเดิมของ Windows น่ะสิครับ มันถึงไม่ได้เกิด ที่สำคัญ Courier ไม่มี Office ซึ่งเป็นไม้เด็ดของ Microsoft จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม Microsoft Surface จึงออกมาในลักษณะของ Windows ที่ถูกโมน้อยที่สุด โดยการสร้าง Modern ครอบเอาไว้ และมี Traditional Desktop Enviroment ที่ไม่เหมาะแก่การใช้นิ้วจิ้มหลงเหลืออยู่ และมี Office มาให้ด้วย
Courier เป็น Windows CE 6 รุ่นพิเศษ ครับ และด้วยเหตุนี้มันถึงไม่มี Office (Windows กับ Windows CE เป็นคนละตัวกันนะครับ และ Courier ก็ไม่ได้เอา Windows มาโม มีข่าวลือว่ามันใช้ Windows 7 แต่ไม่ใช่)
และ Courier ไม่ได้ถูกตลาดปฏิเสธ แต่เป็นบิล เกตส์ เพราะมันใช้ร่วมกับระบบต่างๆ ของไมโครซอฟต์เองไม่ได้ครับ
ส่วน Surface ไม่มี Desktop View ครับ ตัวที่มี Desktop View คือ Surface Pro ครับ
Desktop View แบบนี้เปล่าครับ
Microsoft Surface review
พกไปทำงาน Phone & Tablet & Notebook ก็จะเหลือ Phone & Tablet
ผมมองว่าในระยะยาวแนวคิด MS เป็นแนวทางที่ถูกต้องครับ เพียงแต่ตอนนี้เทคโนโลยีอาจยังไม่ไปถึงจุดนั้น ผมมองว่าสิ่งที่ MS คิดเอาไว้เรื่องปรับโครงสร้าง App และการเชื่อมบริการต่างๆเอาไว้ด้วยกันเพื่อให้นักพัฒนาง่ายต่อการพัฒนาเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วครับ เพราะหากเริ่ม Windows 8 ช้า พอถึงตอนที่เทคโนโลยีไปถึงจุดที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ MS ก็อาจจะปล่อย Windows 9 ออกมาได้ทันท่วงที เนื่องจากเมื่อถึงตอนนั้นแม้ Windows Store จะไม่ทำให้ MS ได้เปรียบแต่ก็จะไม่เสียเปรียบคู่แข่งมากเกินไป
ส่วนในเรื่องแนวคิด Windows นั้นไม่ว่าจะเปลี่ยนเลขสุดท้ายเป็นตัวอะไร แต่ผมคิดว่าสิ่งที่ MS ต้องการจริงๆคือการปรับปรุงโครงสร้างการทำงานบน Windows เสียใหม่ และเมื่อถึงตอนนั้น ตอนที่เทคโนโลยีไปถึงจุดที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ MS ก็จะกลับมาได้ด้วยอานิสงส์ของการปรับปรุงสิ่งที่เป็นพื้นฐานในครั้งนี้ ซึ่งจริงๆผมมองว่านี่ไม่ใช่อานิสงส์แต่เป็นสิ่งที่ MS มีมาช้านานนั้นคือจมูกไว แม้จะเดินช้าแต่ไม่เคยหยุดเดิน
ปล. วิเคราะห์จากเหตุปัจจัยพื้นฐานที่ปรากฎออกมาเฉยๆนะครับ มาดูกันว่าจริงหรือไม่จริง ^ ^
อยากยุบเหลือ tablet ตัวเดียวด้วยซ้ำ
มือถือมันพกสะดวก แต่จอ/คียบอรดมันมีขนาดจิ๊ดนึงเวลาใช้แอบคิดว่าไม่ค่อยสะดวก ยกเว้นแค่เรื่องที่มือถือใช้มือเดียวได้ แต่รวมๆ แล้วพอมี tablet นี่แทบไม่ได้แตะมือถืออีกเลย.. ส่วนเวลาจะโทรนี่ใช้ผ่าน handfree เอา จะได้ดูจอได้ด้วย (แล้วถ้ามีตังค อาจหาพวก second mini-display อย่างพวก smart watch มาลองอีกที)
ส่วน notebook นี่ ตอนนี้กำลังพยายามตั้งระบบดีๆ ซักระบบนึง จากนั้นค่อยใช้เครื่องในระบบนั้นผ่านการ remote เข้าไปแทน.. เท่าที่ลองๆ คิดว่ากินแบตน้อยกว่า แถมทำอะไรๆ ได้มากกว่า/เสถียรกว่า กังวลเรื่องพัง/หายน้อยกว่า
แต่คงต้องลองดูอีกซักพัก พึ่งใช้แบบนี้มาไม่กี่เดือน.. รวมๆ แล้วไม่ค่อยติดขัดอะไรจนถึงขั้นหงุดหงิด แลกกับแบกน้อย/จ่ายน้อย หาแค่ tablet ดีๆ มาแบกซักตัวพอ ซึ่งถ้าแอพมัน cross ไปมาได้ยิ่งดี เพราะสามารถแว้บสลับไปใช้ device ประเภทอื่นบางครั้งบางคราวได้เลย หาก cross ไม่ได้ เวลาสลับคงต้องลุ้นว่าจะต่องานกันได้มั้ย
ถ้าจะซื้อ Pro สำหรับผม คือมันทำงานได้จริงๆ ทั้งพก ทั้งชิวๆ ได้แบบ Tablet ทั้วๆ ไปทำได้ หรือแม้แต่จะทำงานหนักหน่วง
เรื่องราคามันห่างกันชัดเจน คนซื้อจะรู้เองละครับ
การใช้งานก็ใช้เครื่องเดียวจบ ยิ่งตัว Pro ด้วยยิ่งจบ สะดวก สามารถทำงานกับโปรแกรมดั้งเดิมได้ทันทีด้วย
พก iPad เครื่องหนึง กับ notebook อันหนึง ก็ต้องพกคู่กันถ้าจะเอาไว้ทำงาน หรือเล่นเบาๆ
ถ้าไปพก Win 8 Pro เลย มันจบในตัวเองเลย ส่วน RT คงได้เรื่อง Office ที่เต็มๆ (คงต้องรอดู App Metro ว่าจะมีมาสนองการใช้งานได้เร็วแค่ไหน)
จะบอกว่าจะซื้อผิดเพราะ ว่าหน้าตาเหมือนกัน อย่างที่ซื้อ ipad กับ galaxy tab อย่างนี้หรอครับ ผมเห็นคนเราเวลาจะซื้ออะไรเค้าก็จะถามคนรู้จัก หรือ คนที่ไว้ใจได้ก่อนหรือพาไปซื้อด้วย กลุ่มคนอย่างนี้ก็มีเยอะเหมือนกันน่ะครับ ส่วนเรื่องว่าจะแยกหรือจะรวมกัน ผมอยากได้รวมกันครับพกหลายเครื่องเหมือนคนบ้าครับ โทรสับ tablet notebook = =" เวลาจะ remote ทีเอา tablet Remote ก็ลำบากต้องเอา notebook มา Remote เหมือนเดิมรวมๆกันได้และดีครับ ผมชอบ
พังทีเอาไปซ่อมก็ชะงักไปทั้งหมด Surface ใช้งานเดี่ยวๆ จริงๆ ผมว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ มันก็ต้องเกาะกับอะไรสักอย่างเพื่อให้ทำงานได้ลื่นไหล ผมว่ามันก็มีข้อดีข้อเสียของทั้งสองแบบ
ผมมองคนละแบบ เพราะประเด็นสำคัญเลยของคนที่ซื้อ Tablet Windows 8 Pro ต้องการใช้งานแทน Notebook มากกว่า Tablet คนละตลาดกันเลยครับ กลุ่นคนที่ตั้งใจซื้อ Tablet ถึงแม้จะไม่ได้ทำการบ้านมาก่อนเจอราคา 35,000 เข้าไปผมว่าเค้าก็คงไม่ซื้อครับ
ผมว่ามันโอเคนะ ถ้าซื้อให้แม่แค่เล่นเน็ต เช็คเมล rt มันก็ดูเพียงพอกับราคา
แต่ถ้าต้องทำงานด้วยก็เล่น pro ที่มันทำอะไรได้เยอะ อย่างที่วินโดว์ควรเป็น
ปัญหาเดียวคือ คนซื้อต้องเลือกเป็น กับคนขายต้องขายเป็น
น่าจะรวม Windows RT กับ Windows Phone 8 เลยนะ
คล้ายๆ iOS กับ OS X
Windows Phone 8 ก็ต่อยอดมาจาก RT อีกรอบครับ นี่คือเหตุผลหลักที่ Windows Phone 7 อัพเกรดไป 8 ไม่ได้
แกนระบบ เปลี่ยนจาก WinCE เป็น WinNT ส่วนตัวแอพเปลี่ยนจาก Silverlight เป็น WinRT ครับ
ทำงานนอกสถานที่ใช้ iPad กลับบ้านใช้ desktop ผมตัดโน้ตบุ๊กออกไปเลย 555
จริงๆแล้วผมก็อยากได้อย่างนั้นเหมือนกันครับแต่ Tablet ทุกตัวตอนนี้เขียนโปรแกรมไม่ได้น่ะสิครับ
+1 มันคือเหตุผลที่ผมยังไม่คิดจะซื้อ Tablet
Tablet กับโทรศัพท์มีปัญหาอย่างนึง คือมันต่อสายแลนได้ไม่สะดวกครับ
งานผมส่วนนึง เวลาเกิดปัญหาขึ้น ยังต้องจับ สายแลน ต่ออยุ่ไม่งั้นทำงานต่อไม่ได้
ตรงจุดนี้เคยคิดเหมือนกันว่าพก Wireless ซักตัวเป็นไง เสียบเข้า Wireless แล้วก็ใช้ต่อ เดี๋ยวนี้ตัวเล็กๆ ก็มีขาย
แต่ก็นะ ไม่ได้ทำ
บางทีขี จยย ไปทำงานแบก NB ไปทั้งเครื่อง ไปถึงที่จริงๆ กด โทรศัพท์ไม่กี่ทีเสร็จแล้ว - -;
ชัดเจน
ขอถามซักสองข้อครับ เกี่ยวกับ Windows RT
1.แอพที่ไม่ใช่ WinRT รันไม่ได้ครับ คนละสถาปัตยกรรม ส่วนแอพที่เป็น .NET นี่ผมไม่ทราบครับ
2.ผมก็รอฟังคำตอบจาก MS เหมือนกัน
IE ใน Windows 8 กับ Windows RT ตัวเดียวกันไหมครับ?
อันเดียวกันครับ มี 2 โหมด
Coder | Designer | Thinker | Blogger