ผลการศึกษาจากนักวิจัยประจำมหาวิทยาลัยสองแห่งจากเยอรมนี พบว่าสิ่งที่เราได้อัพโหลดขึ้นไปบนเครือข่ายสังคมออนไลน์สามารถทำให้คนอื่นอิจฉาได้จริง จากการศึกษานี้พบว่า 1 ใน 3 ของคนที่เข้าไปเล่น Facebook รู้สึกพอใจในชีวิตตัวเองน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่โพสต์อะไรมากมายแต่อ่านอย่างเดียว
การกระทำที่กระตุ้นต่อมอิจฉาคนอื่นได้ดีที่สุดอันดับ 1 บน Facebook ได้แก่การแชร์รูปภาพตอนไปเที่ยว รองลงมาคือปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้รายอื่นบน Facebook เช่นจำนวน Likes ที่มาก การตอบสนองเช่นจำนวนคอมเมนท์บนโพสต์หรือรูปภาพ หรือแม้กระทั่งคำอวยพรในวันเกิด
ส่วนสิ่งอื่น ๆ ที่ทำให้คนอิจฉารองลงมาจากนี้ ได้แก่ การแสดงให้เห็นถึงครอบครัวที่มีความสุข ที่ทำให้คนอายุ 30 กว่า ๆ อิจฉา ส่วนรูปร่างสัดส่วนของร่างกายที่น่าดึงดูดใจ ส่วนใหญ่แล้วมีผลกับผู้หญิงมาก
การศึกษานี้ยังพบว่าคนส่วนใหญ่สนองความอิจฉาของตนเองด้วยการโพสต์ "ความสุข" "ความเจ๋ง" หรือ "ผลงานที่น่าชื่นชม" ของตัวเอง ว่าง่าย ๆ คือทำให้ตัวเองดูดีขึ้น โดยส่วนใหญ่ ผู้ชายมักจะพูดถึงผลงานของตัวเอง แต่ผู้หญิงจะใช้วิธีโพสต์รูปภาพของตัวเอง หรือไม่ก็การใช้ชีวิตของตัวเอง
Hanna Krasnova นักวิจัยจาก Institute of Information Systems แห่งมหาวิทยาลัย Humboldt ได้บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่าผู้ใช้ที่รู้สึกอิจฉาบางคน จะเริ่มถอยห่างจาก Facebook หรือในที่สุดก็เลิกใช้มันเลย
ที่มา - C|net
Comments
ไม่รู้สึกอะไรเลยฮะ -_-
ตรงกันข้ามอยากผลักดันตัวเองให้มากกว่านี้
แน่นอนอยู่แล้วละ เพราะชีวิตจริงไม่มีจำนวน Like มาบอกว่า ทำแบบนี้จะได้กี่ไลค์
ได้แสดงแนวคิด/จุดยืน และได้ feedback ผมokกับมันนะ ในโลกความเป็นจริงโอกาสที่จะได้ทำแบบนี้น้อยเหลือเกิน
ผมเป็นคนนึงที่อิฉา และเลิกเล่นไปแล้วครับ
ผมไม่อิจฉาแต่เลิกเล่นเพราะเบื่อพวกอวด พวก up ทั้งวัน จนรก feed
ผมเลิกเล่นและ delete account facebook เพราะรำคาญ suggestion page การเมือง
ผนเป็นคนนึงที่อิจฉา และน้ำหนักขึ้นไม่หยุดหย่อนเพราะรูปของกินใน FB !!
ก็อาจจะอิจฉา เลยพลักดันความสามารถของตัวเองให้คนอื่นอิจฉามั่ง 555
แต่ที่น่ากลัวคือ บางคนอยากให้คนอื่นอิจฉาด้วยสร้างตัวเองเป็นอีกคนขึ้นมานี่แหละ
'-_- ไม่มีใครเจอแรงบันดาลใจจากการรับรู้เรื่องราวบน FB มั่งเหรอ
ผมได้แรงบันดาลใจจากการใช้งาน FB ครับ ผมเลือกกด like ใน page ที่เกี่ยวกับการออกกำลังกาย พวก Work-Out ต่างๆ
พวกนี้จะโชว์ผลที่ได้จากการออกกำลัง สุขภาพที่ดีขึ้น รูปร่างที่ดีขึ้น แบบก่อนและหลัง ผมพร้อมที่จะเปลี่ยนตัวเองและผมสามารถ benchmark กับคนเหล่านี้ได้(หลังๆภรรยาผมก็ชอบออกกำลังด้วยกันอีกต่างหาก) เพราะรอบตัวผมไม่มีใครชอบออกกำลังกายกันเลย เห็น up รูปกันแต่ไปกินเหล้ากันที่ไหน กันยี่ห้ออะไร เมาแค่ไหน จ่ายเงินไปเท่าไหร่ ซึ่งผมมองว่าถ้า FB ให้ได้แค่นี้ผมก็เลิกเล่นเหมือนกัน
กลายเป็นว่าหลังๆผมใช้งาน FB ในรูปแบบของการติดตาม page ที่มีเรื่องที่เราสนใจ และมีคนชอบเหมือนเรามากกว่า
สรุปว่าเป็นการสร้างภาพ หลอกลวง กันเยอะซินะ
ผมว่าผมเป็น 1 ในนั้นนะครับ
แฟนเล่นแต่เฟสบุ๊คขนาดนั่งอยู่ด้วยกัน T^T
+1
โลกออนไลน์ครับ มันก็กลับมาว่า จะเอาอะไรจากโลกออนไลน์ ส่วนตัวผมเฉยๆน่ะครับ เพราะโดยส่วนใหญ่ไม่มีใคร เอาเรื่องแย่ๆของตัวเองมาโพสต์หรอกครับ
ตามนั้น "ไม่มีใครเอาเรื่องแย่ๆของตัวเองมาโพสต์หรอกครับ"
สาวๆโพสท์ท่าถ่ายรูป แปะลง fb แล้วใส่ caption ว่า "รูปนี้อ้วนจัง"
:D
ถ้าเราบอกว่า "เห็นด้วย" อะไรจะเกิดขึ้นเหรอครับ
เป็นความอาร์ทอย่างหนึ่ง โพสท์จำพวก "อ้วนจัง" "บวมจัง" "หน้าโทรมมั่กๆ" "ดิสสด อายจริงๆ" ล้วนแต่ต้องการอวดความเป๊ะและรอให้คนชมทั้งนั้น = ="
ไม่ได้โพสท์เพราะมันแย่อย่างนั้นจริงๆ
"พบว่าความสิ่งที่เราได้อัพโหลด"
แถวๆ นี้น่าจะพิมพ์ผิดนะฮะ
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
ผมมีไว้ keep in touch กับเพื่อนเก่าๆ ที่ไม่ได้เจอตัวจริงนานหลายปีเท่านั้น เพราะระบบ FB ทำให้เราคัดกรองเนื้อหาที่สนใจลำบาก บางทีเจอเพื่อน พี่แกด่าการเมืองแรงๆ พอเราแย้งไปแบบจะคุยจริงจัง พี่แกก็บอกไม่อยากรับฟัง กรูอยากจะบ่นด่าแรงๆเท่านั้น ไม่สนใจข้อโต้แย้งทั้งนั้น จนเราต้องunsubscribe ไปเกลี้ยงเลย จะลบเพื่อนเลยก็เกรงใจเพราะเคยรู้จักกัน หรือยังต้องร่วมงานกันบ้าง
เหลือแต่ที่post เรื่องไร้สาระ ไว้อ่านเล่นๆ แต่สุดท้ายคือ FB มีไว้สำหรับเรื่องไร้สาระเป็นหลักมากกว่า รวมถึงการโอ้อวดปนfake กันในหมู่เพื่อนร่วมงาน ไปเที่ยวไหน ซื้ออะไร ที่เที่ยวหรูๆของแพงกันทั้งนั้น ที่บอกว่าโอ้อวดเพราะมันมักจะไม่ใช่lifestyle ปกติของตัวจริงที่เห็นจริงๆน่ะซี
อีกอย่างจะพูดจะเขียนอะไรมากก็กลัวพวกล่าแม่มด เพราะใช้ชื่อจริงเพื่อติดต่อกับเพื่อนเก่า สุดท้ายตั้งprivacy only friend กันหมด(แต่ก็ยังมีช่องโหว่ เพราะถ้ามีเพื่อนเรามาpostโต้ตอบ เพื่อนของเพื่อนก็เห็นได้อยู่ดี)
อ้อแต่ไว้ตามfan pageข่าวสารของสิ่งที่เราสนใจก็เป็นประโยชน์อีกเรื่องนะ เพราะบางทีเขาบอกข่าวในFBก่อนลงในเวบหลักอีก
บน Facebook ผมลบเพื่อนออกหมด เหลือไว้แค่ Follow จากหน้า Page หรือกลุ่มที่สนใจเท่านั้น ส่วนเพื่อนถ้าอยากจะคุยก็โทรมาหรือแอด Google+ มาคุยกัน เพราะ Google+ มันคุมเรื่องโพสต์รกๆ ได้ดีกว่า Facebook อิอิ
สนามหญ้าหน้าบ้านคนอื่น
จะสวยกว่าสนามหญ้าหน้าบ้านเราเสมอ
เพราะเรามองเห็นมันแค่จากไกลๆ และไม่ต้องไปดูแลมัน
+1
เรื่องสะสมไลค์มากๆเนี่ย ผมรับไม่ได้กับเพจที่เอารูปคนอื่นที่ "ไม่เป็นมงคล" มาลงเพื่อขอไลค์ เช่น เอารูปศพมา แล้วโพสต์ขอไลค์ให้ผู้วายชนม์ หรือเอารูปเด็กพิการด้วยโรคประหลาด แล้วบอกว่าช่วยไลค์เป็นกำลังใจให้น้องหน่อย
คนในรูปเหล่านั้นได้อะไรจากการกดไลค์? และถ้าคนรู้จักเขา หรือพ่อแม่ ญาติพี่น้องของคนในรูปเหล่านั้นมาพบเห็นเข้า เขาจะรู้สึกอย่างไร? บุคคลในรูปไม่ได้รับรู้อะไรเลย ที่ร้ายกาจกว่านั้นคือ บางเพจอ้างว่า การกดไลค์หรือแชร์ จะเป็นการช่วยบริจาคให้คนในรูป แต่ไม่เคยมีการเปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ เงินมาจากไหน ให้ใครชื่ออะไร ให้ที่ไหน ให้เมื่อไหร่ เท่าที่ทราบ การบริจาคผ่านทางโซเชียลมีเดีย มีเพียง แอชตัน คุชเชอร์ ที่บริจาคหลังจากชนะการแข่งปั่นจำนวน Follower twitter (หากท่านใดทราบมากกว่านั้น รบกวนช่วยบอกด้วยครับ)
คนบางคนอาจจะรู้สึกดีที่มีไลค์เยอะๆ แต่การเอารูปคนอื่นมาใช้แบบนี้มันน่าทุเรศครับ เวลาเจอผมก็จะช่วยกดให้ทุกครั้ง แต่กดแจ้งลบนะครับ.
ผมเคยจริงจังกับ facebook แบบต้องอ่าน feed ให้ได้หมดทุกวันไม่งั้นไม่สบายใจ(ผมกรอง Show in news feed อย่างดี)
แต่แล้วก็พบว่าวันนึงเสียเวลาไปเยอะมาก จนต้องเอา bookmark ไปซ่อนไว้ลึกๆ ในมือถือก็ด้วยเอาไอคอนไปไว้หน้าอื่นลึกๆ ทำให้ทุกวันนี้มีเวลาในชีวิตเยอะขึ้นมาก
ว่าแต่แอพบนมือถือเดี๋ยวนี้มันดูไม่ได้แล้วว่าเพื่อนเรา check in อยู่ไหนบ้าง แย่มาก มีคนเข้าไปถามกันเยอะแต่ fb บอกจะมี notification มาให้เอง ห่วยเลย
ผลดีก็มี ผลเสียก็เยอะเหมือนกันนะครับ โดยเฉพาะเรื่องที่เข้ามากระทบกับจิตใจ
ผมอิจฉาครับ
อิจฉาเพื่อนไมมันว่างงานกันจังวู้ยยย!! อัพสเตตัสได้ตลอดดด
^
^
that's just my two cents.
อ่าว นึกว่าเป็นแค่เฉพาะในดัดจริตแลนด์ ?? นี่เป็นกันทั่วโลกเลยเหรอเนี่ยยยย สมคำพี่โน๊ตแล้วครับว่า "facebook มีไว้อวด!"
อิจฉาและแค้นมากขึ้น 300% เมื่อโพสนั้นเป็นรูปอาหารครับ!!
หลังๆนี้ผมเห็นว่ามันพยายามกรองมากขึ้นแล้วนะ แหล่งไหนที่เราไม่ค่อยได้ไปจิ้มมันก็โชว์น้อยลงนะครับ
ผมวิเคราะห์ว่า
"คน 1 ใน 3 ขี้อิจฉาและไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่" ถามว่าถ้าไม่ใช่ใน FB แต่เป็นที่อื่นๆ คนพวกนี้จะอิจฉาน้อยลงรึเปล่า? ผมคิดว่าไม่น้อยลง
FB เป็นที่สำหรับฆ่าพวกขี้อิจฉาอย่างแท้จริง
มองอีกมุม 2/3 ไม่ได้พอใจชีวิตตัวเองน้อยลงนะครับ ... มีผลสำรวจบอกว่ามีเพิ่มขึ้นไม๊ครับ กี่ %
ดีอย่าง เสียหลายอย่าง ผมเล่น fb แค่ดูแล fan page อัพเดทข่าวจาก page
แต่เห็นคนเพื่อนอัพได้ตลอดทุกๆๆๆๆวัน ไม่รู้ว่างมาจากไหนกัน =.= เด่วนี้ผมหันไปเสพ twitter แทนและ
fb ก็เริ่มเล่นน้อยลง
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
แล้วอีก 2 ใน 3 ที่เหลือนี่คือพอใจในชีวิตตัวเองมากขึ้นหรือเปล่าหว่า
ผมจะใช้งานปกติคุยกับเพื่อนๆ เก่าๆที่เรียบจบแล้วแยกย้าย ผมว่า Facebook ทำให้ผมได้เจอกับเพื่อนเก่าๆของผมนะ แล้วก็ไม่ลำราญอะไรเลยเพราะในเฟสผมก็มีแต่เพื่อนๆที่อัพสถานะกันรู้จักทุกคน