Google Glass ยังไม่ทันวางขายจริงก็เริ่มเจอปัญหาคนเป็นห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัวแล้ว โดยร้านอาหาร The 5 Point Cafe ในเมืองซีแอทเทิล สหรัฐอเมริกา ประกาศผ่านเฟซบุ๊กของทางร้าน ว่าไม่อนุญาตให้ใช้งาน Google Glass เป็นการล่วงหน้า
For the record, The 5 Point is the first Seattle business to ban in advance Google Glasses. And ass kickings will be encouraged for violators.
เจ้าของร้านให้สัมภาษณ์ว่าลูกค้าของร้านต้องการความเป็นส่วนตัว และไม่อยากถูกบันทึกภาพหรือวิดีโอขึ้นอินเทอร์เน็ตโดยไม่รู้ตัว ส่วนการโพสต์เฟซบุ๊กดังกล่าวพยายามทำให้เป็นเรื่องตลก แต่นโยบายเรื่องความเป็นส่วนตัวก็หมายความแบบนั้นจริงๆ
ตำแหน่งของร้าน The 5 Point Cafe อยู่ใกล้กับสำนักงานใหญ่ของ Amazon ซึ่งมีโอกาสสูงที่พนักงานบางคนอาจใส่แว่น Glass เข้ามาในร้าน
ที่มา - Geek Wire
Comments
น่าคิด..
นั่นสินะ
อืม ... ก็จริง หลาย ๆ คนคงจะไม่อยากให้หน้าตัวเองขึ้นไปอยู่บนเน็ตโดยไม่ได้รับอนุญาติ อย่างเช่นที่ญี่ปุ่นนี้ต้องเบลอกันหนัก ๆ เลยเพื่อป้องกันการถูกฟ้องร้องเรื่องละเมิดความเป็นส่วนตัว
อ้อ ถึงว่า หนังที่ผมดูเซนเยอะเลย..
เบลอตรงหน้าเหรอครับ?
ครับ บางเรื่องเบลอหน้าทั้งรถไฟเลย ยกเว้นนางเอก
ปู๊นนนน ปู๊นนนนนนน
Blog | Twitter
สงสัยหนังเกรด C ถ้าดีๆ เขาก็จ้างตัวประกอบเอา
เห็นควรด้วย ผมเองก็รู้สึกกระอักกระอ่วนเวลาทานอาหารอยู่แล้วโต๊ะข้างๆ ยกกล้อง มือถือ แทบเล็ตมาถ่ายบริเวณในร้าน
ต่อไปเวลาไปกินข้าวข้างนอกพกกระจกฝ้าไปด้วยดีกว่า ใครจะถ่ายก็จะได้ยกมาทำโมเสคหน้าตัวเองเลย
ประเทศไทยก็อาจจะมีอย่างนี้นะครับ
ผมว่ากลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคงเป็นคุณตำรวจทั้งหลายนะครับ
พูดถึงท่านจรวด เห็นช่วงก่อนมีนโยบายเลิกตั้งด่านทั่ว กทม
สงบสุขไปได้ไม่กี่เดือน มาวันนี้ระบาดหนักเลยครับ เดินทางวันเดียวเจอมา 4 ด่านติดแล้ว จากถนนโล่งๆ ก็มากระจุกเป็นที่ๆ (กลางวันแสกๆ ถนน 4 เลนส์ปิดเหลือเลนส์เดียวงี้)
แสดงว่าไม่ได้ตามต่อเนื่อง
พอมีนโยบายเลิกตั้งด่าน อีกอาทิตย์ต่อมาก็ยกเลิกการยกเลิกครับ
ผมเห็นเขามาตั้งตอนถนนโล่ง ๆ เลยไม่ค่อยกระทบ 555
จากคนที่มีบ้านอยู่ซอยข้าง ๆ สน. และเขาก็ชอบมาตั้งด่านตรงหน้าปากซอยบ้าน คงเพราะว่าใกล้สน. เก็บง่ายดี !
เดี๋ยวกูเกิ้ลก็จะออกมาตอบโต้ด้วย Auto Mosaic ใช้เทคโนโลยี Face Detection และ Face Nonrecognition ร่วมกัน
บังคับให้ผู้ใช้ลงทะเบียนหน้าที่ต้องการจดจำไว้ เวลาถ่ายรู้และวีดีโอไปเจอหน้าใครที่ไม่ได้ลงทะเบียนไว้จะถูกเบลออัตโนมัติ
ผมว่าทำไม่ยากนะ เทคโนโลยีเขามีอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือจะได้รับการยอมรับมากแค่ไหน และจะเบลอได้จริง ๆ ซักกี่ %
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ผมว่า Google เขาน่าจะออกเครื่องมือมาแก้ปัญหา อย่างเช่น เมื่อเข้าถึงที่ๆกำหนดไว้กล้อง จะไม่สามารถทำงาน ฯลฯ
อาจจะเข้าท่านะครับ ประมาณว่าเช็คตำแหน่งเราจาก GPS หรืออาจจะมีเซ็นเซอร์ตอนเดินผ่านเข้าร้าน
ผมว่าดีไม่ดีกูเกิลทำมาหากินได้อีก ให้ร้านจ่ายกูเกิลเพื่อซื้อความเป็นส่วนตัว
"ให้ร้านจ่ายกูเกิลเพื่อซื้อความเป็นส่วนตัว" อย่างกับรีดไถ -*-
+1 แบบนี้กูเกิลอาจโดนฟ้องเองได้น่ะ
ร้านเค้าสั่งห้ามไม่ให้ใช้จะง่ายกว่ามัย ทำไมต้องเสียเงิน
ร้านก็จับปรับเงินคนใส่Google Glass ง่ายกว่าเยอะ
จริงๆมองอนาคตทำเงินออกเลย อยากใส่เข้าร้าน
ก็ให้คนใส่เสียเงิน อยากถ่ายอะไรก็ถ่ายไป
เป็นค่าขออนุญาติใส่แว่น หรืออนุญาติถ่ายทำ ไม่ถ่ายก็ต้องเสีย
ถ้าคุณมีน้องสาวหน้าใส หรือญาติหน้าตาดี หรือแม้กระทั่งแฟนคุณเอง แล้วมีร้านเก็บเงินเพิ่มแบบนี้แล้วให้ถ่ายได้ เป็นผม ผมไม่เอาแน่ครับ แล้วถ้าใครถ่ายหรือจับภาพหลุดออกมาได้ ผมฟ้องแน่ อย่างน้อยร้านเนี่ยโดนก่อนอันดับแรก
ผมมีกิ๊กหน้าใส เซงเลย แฟนจับได้แน่แบบนี้
บรรทัดสุดท้าย
Glass -> Google Glass
ข่าวต่อไป: กูเกิลเทคโอเวอร์ The 5 Point Cafe บังคับลูกค้าใส่ Glass เข้าร้าน
ยังไม่ได้ขายก่อ แบนละ จะรอดไหมน้อ Google
สะบายดีคับเพื่อนจากลาว
ครับ สะบาย ดี
ถือเป็นโฆษณาร้านฟรีเลยนะเนี่ย
(-..-)?
OK glass taking photo.
ผมก็ไม่ชอบนะ ถ้าเดินไปตามท้องถนนแล้วเห็นมีคนใส่แว่นนี่เดินอยู่ ผมคงจะรู้สึกประหม่าไม่น้อย ยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงนี่คงระแวงไปใหญ่เลย ผมคิดว่ามันเป็นเทคโนโลยีที่ไม่ควรผลิตเพื่อให้คนทั่วไปใช้แฮะ กฏหมายอาจจะไม่ได้บังคับชัดเจน แต่ผมก็คิดว่ามันไม่เหมาะสมอยู่ดี
ถ้าคนเฉพาะกลุ่มเช่น ทหาร ตำรวจ หรือหน่วยพิเศษ ต่างๆใช้คุณจะยอมรับได้หรือไม่?
คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าคนเหล่านี้ไม่ได้นำไปใช้ในทางไม่ดี?
ผมว่าในจุดนี้มันคล้ายกับอาวุธปืนนะขึ้นอยู่กับผู้ใช้งาน แต่ควรจะมีการตรวจสอบหรือลงทะเบียนบางอย่างด้วย
เอาไปให้ 3 จว. ใต้ใช้เลยดีกว่า ติดกันทุกคนไปเลย
ผมว่าเ เรามาเริ่มจาก โทรศัพท์มือถือกันดีมั้ยครับ แค่โทรศัพท์ก็น่ารำคาญแล้วนะ 555 (ที่น่ารำคาญกว่าคือแท๊บเบล็ต อยากให้ ลุง ๆป้าๆ ทั้งหลายงดใช้แท๊บเบล็ตถ่ายภาพในที่สาธารณะ โดยเฉพาะในคอนเสิร์ทได้มั้ย)
ปล. บางประเทศผิดกฎหมายนะ ถ้าไปถ่ายติดคนอื่นแล้วเขาสามารถฟ้องเรื่อง privacy ได้ด้วย
ในทางกลับกัน ผมว่าร้านนี้แหละที่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของลูกค้า เขาจะใส่อะไรมากินข้าวมันก็เรื่องของเขา ผมจะนั่งกินอาหารไปพลางดูหนังไปพลางโดยไม่ต้องเอามือถือมากางบนโต๊ะไม่ได้หรืออย่างไร (จริงๆ เอามือถือมาเปิดหนังดูตอนกินข้าว น่าจะน่าเกลียดกว่าดูผ่านแว่นอีก) ส่วนเรื่องมีใครถ่ายรูปละเมิดความเป็นส่วนตัวหรืออะไร มันก็เป็นเรื่องของ user และระบบเทคโนโลยีที่ต้องจัดการกันเองต่อไป ไม่ใช่หน้าที่ของร้านที่จะมายุ่ง
แต่นั่นแหละ จริงๆ แล้วไอ้ร้านที่ว่านี่ เกาะกระแสเพื่อโปรโมตตัวเองแค่นั้น (ตามกระแสวิดีโอไวรัล) แค่นั้นเอง $$$
ในทางกลับกัน การใส่ Glass เข้ามาในร้าน ก็เป็นการละเมิด privacy ของร้าน :)
ถ้าไปห้างที่เขาห้ามถ่ายรูป คุณยังจะดึงดันใส่ GG เหรอครับ
กูเกิ้ลไม่ใช่พ่อทุกสถาบันนะครับ
นึกถึงสมัยก่อนแค่ยกกล้องถ่ายรูปในห้าง ก็โดนรปภ.อุ้ม ยึดฟิลม์ ซักประวัติ สมัยนี้มีกล้องทุกคนอยากถ่ายใครก็ห้ามไม่ได้
เดี๋ยวนี้เหลือแค่ห้ามกล้องขนาด DSLR ขึ้นไป (like ก็โดนมั๊ง) กับขาตั้งครับ ส่วน Mirrorless ก็ตีกินเนียนๆสบายๆ
งั้นที่เค้าห้ามรับประทานอาหารบน BTS นี่ก็ละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้อ่ะดิครับ
เรากำลังพูดถึง privacy ของลูกค้านะครับ ไม่ใช่ของร้าน
ทางร้านก็แจ้งให้ทราบก่อนเข้าไปนี่ครับว่าห้าม
จะเรียกละเมิด privacy ของลูกค้าคงไม่ได้มั้งครับ
อีกอย่าง ผมมองว่าร้านเขาก็พยายามรักษา privacy ให้ลูกค้าท่านอื่นๆ ด้วยน่ะครับ
+1 ถ้า Privacy ของคนๆเดียวไปละเมิด Privacy ของบุคคลอื่น ย่อมไม่ถือว่าเป็น Privacy
ผมพูดถึง privacy ของลูกค้าท่านอื่นนั่นแหละครับ ขอโทษที่พิมพ์ไม่เคลียร์ครับ
สรุปคือผมไม่เห็นด้วยกับคอมเมนต์แรกที่ผม reply ครับ
ดูหนังไม่ไหวมั้งนะ Google glass มันเป็นจอนิดเดียว
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ประเด็นคือ Google Glass มันเป็นเครื่องมือที่ทำได้มากกว่าถ่ายรูปหรือวิดีโอครับ (ยังไม่นับว่าถ้าต่อไปมันออกเวอร์ชั่นแว่นสายตาออกมาแล้ว จะทำยังไง?) การห้ามใส่ GGG เข้าร้าน มันก็เหมือนห้ามเอามือถือเข้าห้างนั่นแหละครับ คุณรู้ได้ยังไงว่าเขาจะเอามือถือมาถ่ายรูปสินค้าของคุณ? มันเป็น assumption ที่โบราณไปหน่อยครับ เพราะร้านข้าวร้านกาแฟ มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน มันไม่ใช่สถานที่ super private เหมือนหาดนู้ดหรือ strip club
ลองคิดประโยชน์อื่นๆ ของ GGG ดู เราอาจใช้อ่านหนังสือ นิตยสาร แบบมี augmented reality หรือ computer assisted interaction สำหรับหนังสือเรียนหรือชีตออฟฟิศก็ได้ หรืออาจใช้กล้องนับจำนวนคำและ calory ของอาหารที่กินก็ได้ (ถ่ายรูปแล้ว recognize ชื่ออาหารเลย หรือนับการตัก) อาจใช้แปลภาษาเมนู ใช้เปิดดิกแบบ real-time assistant นึกภาพเวลาคุณไปต่างเมืองแล้วคุยกับบ๋อยไม่รู้เรื่อง คุณพูดภาษาไทย (สมมติ) แล้วมันขึ้นคำแปลให้อัตโนมัติในแว่น ชีวิตจะโคตรสะดวกแค่ไหน
ศักยภาพของ device ตัวนี้มันมีมาก และต่อไปอาจจะมีทุกหนทุกแห่งเหมือน handheld device ตอนนี้ก็ได้ ประเด็นคือ อย่าเพิ่ง paranoid กันให้มาก ค่อยๆ แก้ปัญหากันเป็นเปลาะๆ ไป
แต่ก็นั่นแหละ disruptive tech มันก็ต้องเจออะไรอย่างนี้เป็นธรรมดา
ผมว่าประเด็นอาจจะเป็นตรงที่มันถ่ายรูป/วิดีโอเมื่อไหร่ก็ได้ โดยที่คนอื่นไม่รู้เนี่ยแหละครับ แล้วก็ไม่ได้มห่วงแค่ privacy ของร้าน แต่ร้านคงห่วง privacy ของลูกค้าด้วยมากกว่า (อารมณ์เหมือนมีกล้องแอบถ่ายติดตัวตลอดเวลานั่นแะครับ)
ผมรู้ว่าคุณชอบเทคโนโลยีของ Google ตัวนี้มาก แต่บางจุดมัยก็คงดูก้าวก่ายชีวิตคนที่ไม่เกี่ยวข้องไปด้วย ร้านนี้เลยออกมาห้ามไว้ก่อน มองง่ายๆ คืออย่างน้อยคือพวก Social Network นี่ยังต้องสมัครเพื่อยอมให้คนอื่นมาก้าวก่าย แต่ถ้าคุณโดนพูดถึงใน Social Network คุณก็โดนอยู่ดี...
Dream high, work hard.
ไม่เถียงหรอกครับว่าอนาคตมันอาจเป็นแบบนั้น เพราะเทคโนโลยีมันก้าวหน้าขึ้นทุกวัน แต่ปัญหาคือมันยังไปไม่ถึงตรงนั้นไงครับ
ผมไม่รู้ว่าคุณอายุเท่าไหร่ แต่ถ้าเกิดทันสมัยเข้าห้ามโน่นห้ามนี่คูรคงจะเข้าใจ เช่น ห้าง มหาวิทยาลัย ฯลฯ เคยห้ามถ่ายรูป ไม่ว่าจะกล้องโปรหรือปัญญาอ่อนหรือฟิล์ม พอเทคโนโลยีมาถึงจุดหนึ่ง จุดซึ่งทุกคนปฏิเสธไม่ได้ว่าคน 90% พกมือถือที่มีกล้องอยู่ด้วย เขาก็เลิกห้าม (นัยว่ามันห้ามไม่ได้) ตอนนี้ก็ห้ามแต่ตัวใหญ่ ๆ พวก DSLR พวกที่ดู ๆ แล้วมาถ่ายกันจริงจังเอามาก ๆ พกอุปกรณ์มาเต็มไรงี้
ใครจะไปรู้ อีกหน่อยเทคโนโลยีกล้องมือถือมันเทพมาก ๆ และทุกคนก็มีมันอยู่กับตัว เขาก็คงจะให้ถ่ายรูปได้ทุกแบบไปเลยก็ได้
ผมเลยกลับมองตรงข้ามกับคุณว่าอย่าเพิ่งคาดหวังกันให้มาก ตัวจริงยังไม่ออกมาแพร่หลาย แอพก็ยังไม่มีให้เห้นกันมากนัก คุณกลับคาดหวังว่ามันจะเทพอะไรซะขนาดนั้นแล้ว ผมมองว่าแอพเทพมันยังไม่พร้อม ที่มันพร้อมอยู่เห็น ๆ ตอนนี้คือมันถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอได้ มันก็ทำให้คนทั่วไปมุ่งเป้าไปเรื่องนั้นก็ไม่เห็นจะแปลก ณ ตอนนี้คนทั่วไปมองว่า GGG คือ "กล้องที่พร้อมถ่ายตลอดเวลา โดยที่คนถ่ายไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ" ก็แค่นั้นครับ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
การถ่ายรูปน่ะมันไม่มีปัญหาหรอก ถ้าไม่ได้ไปติดคนอื่นๆ ที่เค้าไม่อยากเข้าในเฟรมของรูปเรา เพราะรูปหรือวิดีโอที่เราบันทึกไปแล้วอาจเอาไปโพส-แชร์ต่อนั้น มันอาจมีปัญหาในภายหลังได้ ซึ่งมันไปละเมิดสิทธิ์คนอื่นเค้าอยู่ครับ
ซึ่งเรื่อง Google Glass ที่โดนแบนก็เพราะเหตุนี้แหละ เพราะถ้ามันถ่ายรูปหรือบันทึกวิดีโอไม่ได้ มันคงไม่มีปัญหาหรอก แต่มันมีปัญหาเพราะมันทำได้ และนั้นแหละคือสิ่ง “อาจ” ถูกนำไปใช้ในการละเมิดสิทธิ์คนอื่นได้ง่ายมากๆ
ปกติในห้างก็ไม่ให้ถ่ายวิดีโออยู่แล้ว ทำไงอะครับ
ในขณะที่ผมนั่งรอคิวอยู่
แต่ก็นั่นแหละมันบังเอิญเยอะเกินไปสักหน่อย แต่ใช่ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นสักหน่อย
Jusci - Google Plus - Twitter
ห้ามมือถือด้วยเถอะครับ กำลังนั้งกินข้าวโต๊ะข้างๆถ่ายรูปจะกินทีนี้ต้องระวังๆจะอ้าปากทานข้าวเต็มๆคำก็ไม่ได้ ยิ่งเจอร้านมืดๆหน่อยนี้มีเปิดแฟลชใส่ด้วย
สักวันกล้องมันจะติดอยู่กับทุกคนแหละครับ เชื่อเถอะ
แต่ตอนนี้ผมขอเบรคไว้ก่อน ยังไม่อยากเป็นดาราจำเป็น - -