Macthai เว็บเพื่อนบ้านของเรามีบทความร้อน รู้จักกับ Activation Lock ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 7 หายนะสำหรับผู้ลงแอพร้านตู้ (เขียนโดยคุณ nutmos ซึ่งเขียนข่าวที่นี่ด้วยเช่นกัน) ในบทความกล่าวถึงฟีเจอร์ใหม่ของ iOS 7 ที่อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่เพราะเปิดให้เจ้าของ Apple ID ร้านแอพตู้มาควบคุมเครื่อง iPhone/iPad ของผู้ใช้ได้
บทความนี้แนะนำให้ผู้ใช้ iOS หันมาใช้ Apple ID ของตัวเองในการติดตั้งแอพ แต่ก็ได้รับการตอบโต้จากกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่คาดว่าเป็นร้านรับลงแอพตู้อย่างดุเดือด (ติดตามอ่านได้จากคอมเมนต์ในบทความต้นฉบับ)
จุดยืนของ Blognone สนับสนุนซอฟต์แวร์ถูกลิขสิทธิ์มาตั้งแต่ต้น และร่วมสนับสนุน Macthai ในการผลักดันให้ผู้ใช้ iOS ในบ้านเราหันมาติดตั้งแอพด้วยวิธีการมาตรฐานของแอปเปิล นอกจากนี้ผมก็เชื่อว่าสมาชิก Blognone เกือบทั้งหมดก็เลือกจะติดตั้งแอพด้วยวิธีที่ถูกต้องอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ประเด็นเรื่อง "การลงแอพตู้" ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ควรมาคุยกันว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้นและได้ความนิยม เพราะมีผลต่อพัฒนาการของวงการนักพัฒนาแอพในบ้านเราเป็นอย่างมาก
Ask Blognone ตอนนี้จึงมาชวนคุยในประเด็น "แอพตู้" ด้วยคำถามหลักๆ ว่า
Comments
ความเห็นผม ผมคิดว่ามันเกิดจากความผิดๆ เกี่ยวกับการซื้อแอพ,ขาดความรู้ความเข้าใจ และการโฆษณาของร้านค้าบางร้าน
เพราะอาม่า อาเจ๊ก สก๊อย และพวกใช้ตามกระแสอีกหลายแสนคนในไทย(และต่างประเทศอีกเยอะ) ก็ยังไม่รู้จักเลย ว่า apple id คืออะไร.. และมีไว้เพื่ออะไร และน่ากลัวแค่ไหนที่ไปเที่ยวให้ ตู้ ลงแอพ (เกินครึ่งยังคิดว่า ยุคนี้ก็เหมือนยุค pocket pc , nokia symbian ที่อยากได้อะไรก็ให้ร้านลงๆๆ)
ทางเดียวต้องบอก Apple ให้รู้ว่า ลูกค้าไม่ได้ greek ทุกคน ช่วยบอกพวกเขาด้วยว่า มันคืออะไร ผ่าน app หรือ โฆษณาบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้ ให้ user ตื่นกลัวจากการให้คนอื่นรู้ pass ของ id เรา
ทางแก้ที่ผมนึกออกนะ
+4
ร้านที่ผมเคยทำ จะถามลูกค้าว่ามี Apple ID แล้วหรือยัง ถ้ายังก็จะสอนให้แต่ไม่ค่อยจะให้สมัครเมลในร้านแต่บางทีก็ให้ - -' บางครั้งถ้าลูกค้าไม่สดวกตอนนั้นก็จะมีไฟล์ .pdf มีวิธีทีการสมัครและโหลดไฟล์พร้อมส่งเข้า email ลูกค้า หรือบอกให้มาในภายหลังถ้าสดวก
ส่วนร้านอื่นๆ ในเครือเดียวกัน บางทีก็โคกับร้านตู้ ค่ายมือถืออะไรก็แล้วแต่ ขึ้นอยู่คนพนักงานในร้าน และผู้จัดการ
บางทีไม่ต้องโคแต่ค่ายมือถือมาขาย sim ขายโปรในร้านเลยก็มี
ที่ต้องสอนให้เพราะจริงๆ แล้วร้าน iStudo ต้อง present ให้ลูกค้าอย่างน้อยวันละ 5 คนขึ้นไปอะไรทำนองนี้ แล้วก็ให้ลูกค้าประเมิน แต่ทำแบบสอบถามลูกค้าก็เบื่อ สุดท้ายทุกที่ก็เหมือนๆ กัน เอาข้อมูลลูกค้ามากรอกประเมินกันเอง
ปล.ร้านที่ผมส่วนใหญ่ลูกค้าจะกลับมาถึงแม้ของแพงกว่าพวก power xxx หรือรับผ่อนบัตรเครดิตได้ไม่กี่เจ้า เพราะเน้น service mind และต้องตอบได้ทุกคำถามในขณะที่อย่างที่บอก istudio ของบริษัทเดียวกันก็ทำแบบนี้ไม่ได้เหมือนกันทั้งหมดขึ้นอยู่กับผู้จัดการสาขา
ผมคิดว่าคำเดียวสั้น ๆ สำหรับมือใหม่ คือความไม่รู้
ไม่รู้คือไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เพราะกลัวภาษาอังกฤษ และ เห็นว่าเป็น อุปกรณ์ ไฮเทค ให้คนที่รู้ทำให้ดีกว่า ก็พี่งตู้ เพราะคนรอบข้างไม่มีคนช่วยทำให้
ไม่รู้เรื่องความปลอดภัย ของระบบ (กังวลเรื่องการใช้ของบัตรเครดิตซื้อของ) ทั้ง ๆ ที่ไปที่ตู้อันตรายกับข้อมูล และรูปส่วนตัวจำนวนมากที่อาจโดน copy ออกจากเครื่อง
ไม่รู้ว่า app ฟรี และ ถูก มีเยอะ และถูกกว่าไปจ่ายให้ตู้บ่อย ๆ ที่สำคัญคือ โดนผู้ขายเอา จำนวน ของ app เป็นตัวล่อทั้ง ๆ ที่เอาไปก็ไม่ได้ใช้ แม้กระทั่ง เปิดยังไม่เคย ก็มี
การแก้ปัญหา ผมว่า ถ้า apple ทำคู้มือภาษาไทยแจกส่งเสริมความรู้ก็จะทำให้ ปัญหาพวกนี้ลดลงครับ อาจดูว่าเป็นการเพิ่มต้นทุน แต่มันทำให้ รายได้ที่หายไปกับเรื่องพวกนี้กลับมา และลูกค้าก็ได้ประโยชน์ ด้วย
อ่อจริง ผมคิดอยู่ว่าจะมีมั้ยนะ คนที่ไปร้านตู้เพื่อขอแค่ให้ลง
LINE, Facebook, Instagram, Hay Day !!
app ฟรีทั้งนั้น แต่เสียเงินให้เค้า
มีครับ... เคยเจอกับตัว(ที่ร้านที่รับลงนี่แหละ เดินผ่าน) ไอ้ครั้นจะสะกิดบอกเดี๋ยวผมสอนทำให้ก็กลัวว่าเดี๋ยวจะโดนร้านลากไปทุบหัว...
ตอนผมซื้อไอแพดเครื่องหิ้วร้านลงแอปให้ส่วนใหญ่มีแต่แอปฟรีเกือบครึ่งครับ จากครึ่งนั้นเกือบครึ่งอีกเป็นแอปที่ผมไม่ได้ใช้เลย
มีครับ น้องเมียผม
ซื้อแล้วเกรงใจไม่กล้าถาม แล้วไปร้านตู้ที่ mbk ไปซื้อ whatsapp,line อย่างละตัว
ตัวละ 50บาท
เหอๆ พอผมรู้ ผมก็บอกไปว่า รู้เปล่าว่า whatsapp 30บาท และ line หนะฟรี
เหอๆ
ผมว่าจะให้ง่ายสุด พนักงานขายiphone,ipadควรแนะนำการสมัครและการลงappพื้นฐานเลยครับ
เพราะเห็นมีแต่ถามว่าจะสมัคร id มั๊ย สมัครให้เสร็จก็ไปทำต่อเอง จริงๆแค่สอนเปิด app store ลง line ให้ซักตัวก็น่าจะยังดีกว่าปล่อยให้ไปมั่วเอง
แต่ช่องทางนี้บางครั้งพนักงานก็ไม่ซื่อสัตย์ ทำแบบเก็บตังด้วยสำหรับร้านอื่นๆพวก app android แค่ยัดapkแล้วเก็บตัง
เอ่อพนักงาน ที่ขายหนะแหละตัวดี พาไปตู้ dtac central บางนาพาไปตู้ พนักงานยได้ค่าพาไปครึ่งนึงของราคาที่ลูกค้าจ่ายเลยน๊าาา
ผมเพิ่งพาน้องไปซื้อ iPhone5 ที่ AIS มา เค้าก็จะช่วยสมัครแอปเปิ้ลไอดีให้นะครับ แต่น้องผมมันไม่มีอีเมล์ สรุปเลยไปจบที่ตู้ เพราะง่าย
ผมสนับสนุนการไช้ app แท้นะ
แต่พอถามเพื่อน(ซึ่งมันก็เคยลง app แบบถูกต้อง) มันบอกว่า ให้ร้านลงให้ใด้โปรแกรม/เกมส์เยอะ ราคาถูกกว่า ไม่ต้องสมัครบัตรเครดิต ไม่ต้องซื้อ gift card เรื่องสำคัญที่สุดคือคือมันไม่ต้องการจ่ายเลยหรือถ้าจ่ายก็ต้องเอาให้คุ้มที่สุด ซึ่งการลงโปรแกรมตู้ให้เค้าในจุดนั้นใด้
ดังนั้นผมบอกเลย ปัญหานี้มี 2 อย่าง
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
จนตอนนี้ผมก็ยังสงสัยอยู่เลยนะว่าคนที่กลัวภาษาอังกฤษหรืออ่านไม่ค่อยออก ทำไมจึงยังใช้เมนูเป็นภาษาอังกฤษ....อย่าง itune บนคอมนี่ถ้าเลือกเมนูไทยขั้นตอนการสมัครนี่ก็เป็นภาษาไทยทั้งหมดเลย =_=
หรือกลัวควัก iphone ออกมาเป็นเมนูไทยแล้วกลัวดูเป็นคน low กันนะหรือภาษาอังกฤษมันกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิแม้อ่านไม่ออกแต่ถ้าตั้งค่าไว้มันจะช่วยทำให้ตัวเองดูดีสินะ
*สำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้เมนูไทย ในช่วงระยะหลังมานี้การแปลเมนูไทยของโปรแกรมและแอพต่างๆดีกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยครับสามารถเข้าใจได้ง่ายไม่เหมือนโปรแกรมเมนูไทยสมัยก่อนที่ต้องแปลไทยเป็นไทยอีกรอบ (เอ๊ะหรือเขาติดภาพว่าโปรแกรมเมนูไทยมันจะแปลห่วยจนอ่านไม่รู้เรื่องเหมือนเมื่อก่อน)
ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งคือ
ความไม่รู้ คนที่ลงแอพร้านตู้ส่วนใหญ่ไม่รู้ว่า iOS มันคืออะไร ไม่รู้ว่าซื้อเครื่องมาแล้วต้อง
โหลดแอพเพิ่ม คิดว่าซื้อมาแล้วมีแอพให้ใช้ครบครันเลย ไม่รู้ว่าจะโหลดแอพได้ต้อง
สมัคร Apple ID ไม่รู้ว่า Apple ID สมัครยังไง บางคนรู้แค่ว่าอยากใช้ iPhone
แต่ไม่ศึกษาอะไรเลย
ความขี้เกียจ ความมักง่าย นี่แหล่ะเป็นที่มาของความไม่รู้ เป็นนิสัยของคนไทยบางคน
แต่เป็นส่วนใหญ่ มักจะ ขี้เกียจทำ ขี้เกียจอ่าน ขี้เกียจศึกษา ขี้เกียจหาความรู้
ความขี้เกียจนี่แหล่ะ ทำให้เราทำอะไรง่ายๆ บางคนที่มา ลงแอพตู้ แนะนำเขา
ให้สมัคร ID เขาบอกสมัครยาก ขี้เกียจทำ เอาไปให้ร้านลงให้แป๊บเดียว ง่ายกว่า
แต่ความยากจะ ตามมาโดยไม่รู้ตัว
ความกลัว ไม่กล้า มีหลายคนไม่กล้าทำอะไรเครื่องมาก กลัวเครื่องพัง เพราะเครื่อง
ราคาแพง ให้ร้านทำให้ดีกว่า บางคนที่เจอ ซื้อเครื่องที่ iStudio แล้วเอามาลงแอพที่ร้านตู้
เขาบอกว่าเขาไม่ค่อยกล้าถามอะไร นึกไม่ ออกว่าจะถามอะไรพนักงาน กลัวว่าถ้าถามไป
เขาจะหาว่า ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่ฉลาดเลย (มีญาติทำร้านตู้) อีกทั้ง ร้านตู้ค่อนข้าง
เป็นกันเอง มีทั้งกล่อม ทั้งหว่านล้อม สารพัด มีทั้งโปรโมชั่น ชักชวนเพื่อนมาลงแอพ จะมี
ส่วนลดจะให้ โน่น นี่ นั่น มีอีกอย่างคือ ร้านตู้มีป้ายติด รับลงแอพ แท้ ราคาเท่าไหร่
เขียนไว้ชัดเจน สังเกตดีๆ จะเห็นว่า ลูกค้ามักจะอ่านป้ายก่อนที่จะเข้ามาสอบถาม
อุปสรรคที่เห็นชัดหน่อยก็เรื่อง ช่องทางการชำระเงิน ที่ต้องใช้ บัตรเครดิต บัตรเดบิต ที่บางคนยังไม่มีบัตร เครดิต หรือบางคนยังถามว่า บัตร เดบิตก็ได้เหรอ ต้องไปเปิด บัญชี สมัครบัตร อีก โอย ! นิสัยคนไทยส่วนใหญ่ยังมองว่ามันยุ่งยาก มันไม่สะดวก และสามข้อที่กล่าวมาก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของ อุปสรรค ที่ทำให้คนไม่ติดตั้งแอพแบบปกติ ถ้าใครเคยใช้ ซิมเบี้ยน จะรู้ว่ามันง่ายมาก คือการชำระผ่าน operator นี่ง่ายจริง คนไทยชอบเลยแหล่ะ
วิธีการแก้ปัญหาง่ายมากก็ให้พนักงานของตัวแทนจำหน่าย เช่น ร้าน iStudio สอนวิธีการ โหลดแอพ การสมัคร Apple ID และต้องติดป้าย หน้าร้าน ตัวแทนจำหน่ายด้วย ว่า “ท่านที่ซื้อสินค้า Apple ทางร้านมีพนักงานสอนวิธีการโหลดแอพ การสมัคร Apple ID ให้ฟรี” วงเล็บด้านล่างว่า (สำหรับลูกค้ามือใหม่ที่ไม่มี Apple ID) ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ คนที่ซื้อ ไม่ว่าจะเป็น iPhone iPod iPad ก็จะมี ID เป็นของตัวเอง และในเมื่อทุกคนมี ID เอง โหลดได้เอง คงไม่มีใครไปลงแอพร้านตู้ ถึงมีก็ปริมาณลดน้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งนำไปปฏิบัติได้จริงแน่นอนครับ
เพราะเหตุใดคนจำนวนไม่น้อยถึงเลือกใช้วิธีติดตั้ง "แอพตู้" หรือที่เราพูดกันบ่อยๆ ว่า "แอพแท้ไม่ต้องเจล"
- ราคาถูก
- บอกปากต่อปาก
- มีความรู้ด้าน IT น้อย คือใช้เป็นอย่างเดียว
- บัตรเครดิท
อะไรเป็นอุปสรรคขวางกั้นไม่ให้ผู้ใช้ iOS ติดตั้งแอพผ่าน App Store ตามกระบวนการปกติ
- วิธีการจ่ายเงิน ขั้นตอนการผูกบัตรเครดิท
- สนใจใส่ใจว่าเงินจะไปอยู่กับใคร ร้านตู้? ผู้พัฒนาแอพฯ? แค่ฉันใช้ได้ก็พอ
เราจะแก้ไขปัญหาแอพตู้กันได้อย่างไร ที่สมเหตุสมผลและปฏิบัติได้จริง
ยากนะ เหมือนกับ Windows, MP3, หนัง ฯลฯ ยังไงก็เกลื่อน มันต้องปลูกจิตรสำนึกอะ เริ่มจากตัวเรานี่แหละ บอกลูกบอกหลานต่อๆ ไป อาจจะใช้เวลาหน่อยก็เถอะนะ
^
^
that's just my two cents.
ที่ผมรู้จักบางคนก็รู้นะว่าไม่ถูก แต่เขาไม่แคร์หรอก เพราะอยากได้แอพแท้มาเป็นบุฟเฟ่ต์เฉยๆ แต่ไม่ต้องเจลอะไรให้ยุ่งยากตัวเองก็เลยเสียสองสามร้อยบาทให้ตรงนั้นไป
☆ noob
☆ noob
☆ ขาดการแนะนำจากพนักงานขาย
ที่เห็นบ่อยๆ น่าจะเป็นถูก กับ ทำไม่เป็น
เพราะเหตุใดคนจำนวนไม่น้อยถึงเลือกใช้วิธีติดตั้ง "แอพตู้" หรือที่เราพูดกันบ่อยๆ ว่า "แอพแท้ไม่ต้องเจล"
อะไรเป็นอุปสรรคขวางกั้นไม่ให้ผู้ใช้ iOS ติดตั้งแอพผ่าน App Store ตามกระบวนการปกติ
เราจะแก้ไขปัญหาแอพตู้กันได้อย่างไร ที่สมเหตุสมผลและปฏิบัติได้จริง
refund บางทีก็ซื้อแอพไป 32 บาท ได้ refund กลับมา 30 บาท บางทีซื้อ 28 ไปบาทได้กลับมา 30 บาท ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนช่วงนั้น แต่คงไม่มีใครแลกเปลี่ยนเงินผ่าน AppStore มั้งครับ 555
ปล. เท่าที่เคยขอ refund มา ได้เงินคืนแต่ก็ยังโหลด app นั้นๆ ได้อยู่ สงสัยเหมือนกันว่ายังไง
เอาจากคนใกล้ๆ ตัวที่ได้เผชิญมานะครับ
1. ง่าย ได้แอปเยอะ(ถึงจะใช้ไม่กี่ตัว) อ่านขั้นตอนเองไม่รู้เรื่อง เข้าใจว่าแอพ"ทุกตัว"ต้องจ่ายเงินซื้อ
2. ไม่มีบัตรเครดิต บางคนที่มีบัตรก็กลัวโดนขโมยข้อมูล
3. แปลคู่มือ + ขั้นตอนการลงเป็นภาษาไทย สั้นๆ ง่ายๆ พร้อมรูปประกอบ
บางคนบอกว่ามันถูกกว่า เพราะบางแอพมันก็หลายร้อย แต่ความเห็นส่วนตัวคือมันไม่อิสระนี่สิ ถ้าต้องการแอพที่ไม่ได้อยู่ในชุด ต้องจ่ายเพิ่มอยู่ดี หรือ แอพที่ให้มาในชุดถึงแพงแค่ไหนแต่ถ้าไม่ได้ใช้ก็เกะกะเปล่าๆ ยอมจ่ายเองดีกว่า หมดเรื่องหมดราว
ส่วนคนแก่ๆก็จะกลัวเรื่องจ่ายตังonline เขาไม่เชื่อ ไม่รู้ ไม่กล้าทำ
ขาดความรู้และความเข้าใจเรื่องแอพ
ไม่มีช่องทางชำระเงินออนไลน์ที่สะดวก
ผมว่า ติดจากค่านิยมเก่าๆของระบบ ซิมเบี้ยน สมัยก่อนก็มีตู้รับลงเยอะแยะ ร้านก็ต้องหาวิธีทำเงิน
Texion Business Solutions
ส่วนหนึ่ง ก็เพราะคนขายแหละครับ ทำให้เกิดความเชื่อความเคยชินแบบผิดๆ กับลูกค้า
ส่วนที่ทำไมคนไม่ติดตั่งแบบปกติ คิดว่าคงเกิดจากคนเหล่านั้นขาดความเข้าใจและบางคนไม่ต้องการจะหาความรู้เพิ่ม และบางทีอาจจะเกิดจาก การสมัคร APPLE ID ที่มีขั้นตอนยุ่งยากรวมถึงต้องใช้บัตรเครดิสในการสมัคร(มีวิธีอื่นแต่ ต้องศึกษาเพิ่มเติม จึ่งยุ่งยากอีก)
การให้ความรู้บ่อยๆอาจช่วยได้บ้างสำหรับคนที่ไม่มีความรู้ แต่สำหรับคนที่ไม่ต้องการทำด้วยตัวเอง apple ควรมีคนช่วยเหลือลูกค้าในส่วนนี้ ประมาณ จีเนียสบาร์ น่าจะพอลดปัญหาได้บ้าง คนมีเงินซื้อมือถือราคาแพงน่าจะซื้อ app แท้ได้แหละ
เพราะเหตุใดคนจำนวนไม่น้อยถึงเลือกใช้วิธีติดตั้ง "แอพตู้" หรือที่เราพูดกันบ่อยๆ ว่า "แอพแท้ไม่ต้องเจล"
- โดนหลอกล่อด้วยจำนวน/ราคา
- กลัวเรื่องจ่ายเงินออนไลน์
- กลัวภาษาอังกฤษ
- แค่ต้องการใช้ iphone/ipad
- รักสะดวกสบาย
- นิสัยส่วนตัว เช่น งก
อะไรเป็นอุปสรรคขวางกั้นไม่ให้ผู้ใช้ iOS ติดตั้งแอพผ่าน App Store ตามกระบวนการปกติ
- วิธีการจ่ายเงิน บางคนไม่มีบัตรเครดิต/เดบิท(ที่ใช้ได้)
- กลัวการทำด้วยตัวเอง
- อคติ เรื่องการเงินออนไลน์
เราจะแก้ไขปัญหาแอพตู้กันได้อย่างไร ที่สมเหตุสมผลและปฏิบัติได้จริง
- แนะนำเรื่องต่างๆ
ที่เจอๆมาก็ตามนี้ครับ
- การ Download บางคนที่บ้านไม่มี Internet หรือไม่ก็ใช้ 3G ช้าหรือติด FUP
(กรณีต้องการ load app มากๆ)
- บางคนอยาก load เกมที่เสียเงิน 10+ เกมส์ ได้ในราคาถูกๆเหมาจ่าย
(เน้นโลภ พื้นที่เหลือเยอะ ลงมันไปให้เต็มความจุ -*-)
- การไม่ศึกษาวิธีการใช้งานเลยยยย อันนี้เน้นสะดวกส่งร้านอย่างเดียว
(ที่ไหนได้ถ้าศึกษาซักนิด ลงเอง ใช้ id ตัวเอง เร็ว อัพเดทได้ สะดวกกว่าเยอะ บางทีถูกกว่าด้วย)
-
เจ้าของร้านตู้น่ารัก ♥...จะว่าไปข้างบนนี่ก็คือจุดขายของร้านตู้ที่เอาไปโฆษณาได้เลยนะเนี่ย
เรื่องรณรงค์แก้ปัญหา
- ผมว่าไซโคลกันบ่อยๆ แนวๆดูถูก (ยี้! ยังไปลงตู้อีกหรอ) เด๋วเขาก็เปลี่ยนกันเองครับ
- สุดท้ายก็ พวกเราชาว IT ก็ช่วยกันให้ความรู้ ให้คำปรึกษา ความเข้าใจกับบุคคลที่เราเจอ
นี่น่าจะช่วยได้เยอะสุดครับ
ปล.ปัจจุบันสำหรับ iOS ผมลงแค่ Pantip Me ก็ครบละไม่คิดจะเสียเงินซื้ออะไรอีกเพราะของฟรีมีมาให้โหลดบ่อยจริงๆ, ส่วน Android ช่วงลดราคาเหลือต่ำสิบบาทผมก็กวาดไปเยอะเหมือนกัน ^^
ส่วนใหญ่ที่ซื้อ ลงแอพวิธีปกติไม่เป็นครับ
มีคนรู้จักเยอะเลยที่ตอนแรก ใช้ไม่เป็น ไม่รู้ทำยังไงและขี้เกียจอ่านวิธีการทำ
เอาไปให้ร้านลงให้จบๆเรื่องไป
ซึ่งมันเกิดจากการที่เค้าไปซื้อร้านตู้แหละครับ
เพราะร้านพวกนี้ส่วนใหญ่จะไม่สอน แต่จะเชียร์ให้เสียเงินลงเลย
แต่กรณีเครื่องศูนย์ เพื่อนผมที่ซื้อกับศูนย์(สีฟ้า)บอกมาว่าที่ศูนย์เค้าจะสอนให้เลย จนกว่าจะทำเป็น
ผู้ใช้ iPhone ที่ผมรู้จัก บางคนไม่เคยเปิดอินเตอร์เน็ตในคอม หรือไม่เคยแตะคอมพ์มาก่อนเลยด้วยซ้ำ
ความรู้จากการใช้ iPhone ของเขา ก็มาจากร้านค้าที่ลงแอพเถื่อนให้นั่นแหละ จริงๆจะโทษเขาก็ลำบาก แต่คนกลุ่มนี้มีจริงๆ ถ้าจะให้ความรู้เขา ก็ต้องให้กันแบบ ตัวต่อตัว ปากต่อปากครับ ถึงจะแก้ปัญหานี้ได้
เอาเพื่อนๆผมที่ลงแอพตู้นะครับ มีเหตุผลเดียว ไม่ใช่ไม่รู้ ไม่ใช่ไม่มีเงินซื้อแอพแท้ ไม่ใช่เล่นไม่เป็น แต่... ขี้เกียจวุ่นวาย ใช้งานได้ ทีเดียวจบครับ เหตุผลประหลาดแต่จริง :D
ขาดการให้ความรู้ครับ
ตอนนี้ รร ผมมีโครงการแจก iPad แก่อาจารย์ (ทำให้เห็นไอแพดเต็ม รร -.-)
เค้าก็จะมีการสอนก่อน ทำให้ได้รับความรู้และใช้เป็นครับ
อาจารย์ผมอายุ 59 โหลดแอปเป็น เล่น hayday เพลิน ตอนนี้กำลังฮิตเลย ว่าง อาจารย์ก็ฟาร์มกัน 555
ล่าสุดคือ อาจารย์ขอให้ช่วยเกี่ยวกับบัตรเครดิตและแอปเปิลไอดี อาจารย์จะซื้อ sticker line
ผมคิดว่าจุดนี้ที่สำคัญคือ ขาดความรู้ครับ จะเห็นได้ว่าหากมีคนให้คำแนะนำ ก็ไม่ยากเกินเรียนรู้ เช่นอาจารย์ผมเป็นต้น
เพราะเหตุใดคนจำนวนไม่น้อยถึงเลือกใช้วิธีติดตั้ง "แอพตู้" หรือที่เราพูดกันบ่อยๆ ว่า "แอพแท้ไม่ต้องเจล"
ตอบ ใกล้ๆตัวผมมี 2 คนครับที่ลงจากตู้ เขาว่าสะดวกดี แอพเยอะดี แต่ผ่านไปไม่นาน เขาก็บ่นว่า ทำไมลงอะไรก็ไม่ได้ เหมือนกับว่าเขาไม่รู้จัก AppleID และพอเขาเห็นผมมี AppleID และ Syn โปรแกรมเข้ากับเครื่องได้ แล้วเขาก็อยากทำแต่เขาทำไม่ได้ทั้งที่มี AppleID เป็นของตัวเองแล้ว เหตุการณ์ใกล้ตัวนี้ บอกผมว่า เขาไม่รู้ AppleID และถึงเขารู้เขาก็ใช้ไม่เป็น เพื่อลดความยุ่งยาก ก็เดินไปที่ร้านเคยลง
อะไรเป็นอุปสรรคขวางกั้นไม่ให้ผู้ใช้ iOS ติดตั้งแอพผ่าน App Store ตามกระบวนการปกติ
ตอบ 2 คนใกล้ตัวผม เคยรู้ว่า เวลาเราจะ BackUp อะไรของเครื่องให้ทำผ่าน iTune แต่ผลคือ เวลาเขาเสียบแล้ว App หายไป พวกเขาเลยไม่ทำอีกเลย ก็บอกได้ว่า เขาไม่รู้เงื่อนไขที่จำเป็นตั้งแต่ซื้อเครื่องครั้งแรกครับ
เราจะแก้ไขปัญหาแอพตู้กันได้อย่างไร ที่สมเหตุสมผลและปฏิบัติได้จริง
ตอบ ผมได้แนะนำว่า ให้เสี่ยงเอา ครั้งเดียว จัดการเครื่องให้เป็น AppleID ตัวเดียวกัน เพราะพอจะบอกจะสอนได้อยู่ แต่เขาก็เสียดายตังค์นะ ลงครั้งเดียว มีปัญหาก็เดินไปหาร้าน Update อะไรให้ได้ด้วย มันสะดวกสำหรับเขา ทั้งที่เน็ตเขามี อยากรู้อะไรเขาก็ทำได้ สำหรับแอพตู้ผมคิดทางออกไม่ได้นอกจาก ให้ความรู้คนที่ซื้อเครื่องครับ เพราะสุดท้ายปัญหาคือ เขาไม่รู้ว่า AppleID เอาไว้ทำอะไร ทำอะไรได้บ้าง ปัญหาจุกจิกที่เขาไม่อยากถามคนอื่น อยากได้ครั้งเดียวจบ
ตามนั้นครับผม
ขอเพิ่มเติมด้วย กรณีคนอื่นๆที่มองมุมที่ ไม่มี Internet ไม่มีข้อมูลอะไรเลย แต่อยากได้ iPhone เอาไว้ใช้เท่ห์ ลงอะไร ทำอะไรก็ไม่เป็น อาจจะเอาไว้เท่ห์โทรเข้าโทรออก นั่นคือ เขาไม่รู้อะไรเลยจริงๆ แต่อยากได้
ทางออก หันมาใช้ Samsung, Nokia ครับ
คำตอบของข้า คือ ประกาศิต
Nokia Samsungก็มีstoreของเขานี่ถ้าใช้สมาร์โฟนนะครับ แล้วมีแอพฟรีและจ่ายเงินครับ
บ้านเราตาสีตาสาทาง IT เยอะนะครับ
หลายคนเลยซื้อของพวกนี้มาใช้เพราะแฟชั่น
เมื่อซื้อมาเพราะแฟชั่นแต่ใช้ไม่เป็น ก็ต้องหาคนที่ใช้เป็นมาช่วย
คนที่อยากช่วยที่ว่าก็ตั้งฐานกันอยู่ตามห้าง เดินเข้าร้านพวกนี้ก็เลยกลายเป็นเรื่องที่ง่าย
มากกว่า ที่จะหาวิธีการ สมัคร Apple ID ที่ต้องใช้เป็น Email อะไรก็ไม่รู้หล่ะดูยุ่งยากจัง
แถมเวลาตอนซื้อยังต้องใช้บัตรเครดิตอีกตะหาก
สรุปก็คือ เงินจ่ายมี แต่ทำไม่เป็น
ผมคิดว่าเคสที่คนจะไปใช้แอพตู้มันมีหลายเคสนะ ที่บ่นๆมาก็ตัวอย่างหนึ่ง
ปัญหาหลักมันคือคำง่ายๆคำเดียว ขี้เกียจ
ทางแก้คือชี้ให้เห็นผลเสียที่จะเกิดกับตัวเค้าเองถ้าขี้เกียจเกินเหตุ แล้วก็บอกวิธีทำว่ามันง่ายๆ ไม่ได้ยากเย็นอะไร
อย่างที่ MacThai ทำก็ถือว่าเป็นทางแก้ที่ดีครับ แต่ว่าถ้าหลายๆคนช่วยกันประโคมมันน่าจะให้ผลในวงกว้างกว่านี้
คนไทยแม่มจนส์ ❤
เอาจริงๆ หลายๆ คนเรื่องจนนี่ไม่น่าเอามาอ้างแม้แต่น้อย
ค่าบริการ 3G รายเดือนที่เอามาแชตๆ กัน เผลอๆ ยังแพงกว่าค่าแอพฯ ที่โหลดกันทั้งเดือนเสียอีก
ขณะที่การสมัคร Apple ID มันก็ไม่ได้ยากไปกว่าสมัคร Hotmail ที่มีกันแทบทุกคน
$0.99 = 30 บาท ถูกกว่าค่าโรงหนังและป๊อปคอร์น ที่หลายๆ คนไปดูกันทุกอาทิตย์
คนไทยติดนิสัยเคยตัวไปแล้วว่าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อะไรๆ ก็ใช้แต่ของเถื่อน คอม โทรศัพท์ เกมส์ Software ทุกอย่างคือของแจกฟรี
เอวัง..
เพราะเหตุใดคนจำนวนไม่น้อยถึงเลือกใช้วิธีติดตั้ง "แอพตู้" หรือที่เราพูดกันบ่อยๆ ว่า "แอพแท้ไม่ต้องเจล"
ตอบ ง่าย ขี้เกียจเรียนรู้
อันนี้ตอบแบบคนทั่วไปที่ไม่มีบัตรใช้งาน
เหตุผลง่ายๆเลยครับ เปิดมาถึง App Store บังคับให้กรอกเลขบัตรเครดิต คือคนมีบัตรเครดิตเนี่ยไม่ได้เยอะอย่างที่คิดนะ แล้วคนที่มีแล้วกล้ากรอกลงอะไรออนไลน์นี่ยิ่งน้อยใหญ่
ผมรู้นะว่ามีวิธี bypass ไอ้ตรงที่ให้กรอกเลขบัตร แต่มันยุ่งยากพอสมควร เทียบกับการเดินไปลงที่ตู้สำหรับคนทั่วไปแล้วมันง่ายกว่าเยอะเลย แค่นี้ก็ทำให้หลายคนหันไปหาร้านตู้ ใช้แล้วเหมือนคิดกับดักเลิกก็ไม่ได้
เหตุผลคือ คนไม่ยอมรับเทคโนโลยีใหม่ คิดว่าเป็นเรื่องยาก วุ่นวาย จ่ายเงินให้คนทำให้สบายใจกว่าครับ แถมแอพเสียเงินยังมีปัญหาเรื่องต้องใช้บัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตบางชนิดที่ใช้ได้ ซึ่งวุ่นวาย gift card ก็แพงเว่อร์อีก
วิธีแก้ น่าจะแก้ตรงเรื่องวิธีจ่ายเงินให้ง่ายขึ้น เติมเงินที่ร้าน istudio อะไรก็ว่าไป หลังจากนั้นเรื่องความเชื่อใจให้ร้านทำให้ มันเป็นเรื่องส่วนบุคคลแล้วล่ะครับ
ปัจจัยเรื่องบัครเครดิตไม่น่าจะเกี่ยวกันครับ เพราะเราสามารถสมัคร Apple ID ได้แบบไม่ต้องมีบัตรก็ได้ วิธีการก็หาได้ไม่ยากเลยครับ สำหรับผมคิดว่าที่มีหลายๆ คนไปใช้บริการแอพตู้ เพราะเขาไม่รู้หรือไม่ก็ไม่อยากเสียเวลาเรียนรู้นะครับ
ไม่ต้องใช้อะไรเลย ความรู้ อุปกรณ์ บัตร บลาๆ ขอแค่มีเงินสดตรงนั้น = พอ
สะดวก และ เร็ว
ถูก(มองเผินๆ เหมือนจะถูกแต่จริงๆ อาจจะไม่คุ้ม) อยากใช้ แต่ไม่อยากจ่ายเท่าไหร่
สื่อการสอนยังเข้าไม่ถึงเท่าที่ควร
ค่านิยมโบราณๆ ในหลายๆเรื่อง แถมส่วนใหญ่ติดมักง่าย สนแต่ตัวเอง ติดนิสัยคตโกงมาตั้งแต่เรื่อง Software คอมแล้ว (ขนาดเขาทำให้ทำง่ายๆ มันยังไม่ยอมซื้อกันเลย)
จะว่าคนพวกนั้นอย่างเดียวไม่ได้ เพราะ apple หละหลวมเองด้วย
สุดท้ายแล้วคนที่ต้องแก้ไขวงจรอุบาทนี้ต้องเป็น Apple เอง เราๆก็ทำได้แค่รณรงค์ อย่างมากที่สุดได้แค่คว่ำบาตรร้านเหล่านั้นไป
สุดท้าย Dev น่าสงสารสุดๆ
ไม่อยากเรียกว่าคนพวกนี้ติดนิสัยมักง่าย มักถูก ผมเชื่อว่าถึงแม้จะมีวิธีการซื้อโดยไม่ใช้บัตรเครดิต คนเหล่านี้ก็จะยังคงใช้บริการตู้อยู่นั่นเอง มันเป็นมาตั้งแต่ยุคพีซี โนตบุ๊ค แล้ว มันเป็นนิสัยที่ติดตัว ส่วนใหญ่ที่ผมคุยด้วยเขารู้นะว่าซอฟท์แวร์มีราคา แต่อยากได้เยอะ อยากได้ถูก และสะดวก เรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์เขาไม่สนใจหรอก
ส่วนตัวผมเชื่อว่าคนเราชอบดูถูกตัวเองครับ (โดยเฉพาะชาติแถบเอเชีย)
คืออย่างแรกจะคิดเลยว่าเราไม่มีความรู้ แต่ผู้อื่น (โดยเฉพาะผู้ขาย) จะมีความรู้มากกว่า
ดังนั้นจึงตามมาด้วยเหตุผลที่สองคือ ขี้เกียจเรียนรู้เพิ่ม ซึ่งส่งผลให้ไปจบที่ร้านตู้
ส่วนเรื่องความงกผมว่ามันเป็นเรื่องรองลงไปอีกนะ เหมือนเป็นของแถมที่ได้มานอกเหนือจากความสบายที่ไม่ต้องทำอะไร
ปล. อีกเหตุผลผมว่าเพราะคนไทยหลายๆคนอ่อนอังกฤษหรือแม้กระทั่งยาวไปไม่อ่านครับ
เพราะมีท่านผู้แสวงบุญเจ้าลัทธิ Mega นาม คิม ดอทคอม ได้ประกาศต่อชาวโลกว่า "ความรู้เป็นของมนุษยชาติ ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง" 5555+
ปัญหาจริงสำหรับคนไม่รู้นะครับ คือกลัวพัง อุปกรณ์ทุกอย่างอะครับ เสียตัง 2 หมื่นกว่า คุณอยากอาจหาญที่มันพังคามือไม่ ไม่โรคจิตหรือรวยจริงไม่ทำหรอก มันแพง ทำไมอะก็ต้องพึ่งพาบริการแอพตู้ซึ่งแอปเปิ้ลก็ไม่ได้จริงจังที่จะดูแลลูกค้าเรื่องนี้มันเลยเยอะ เหมือนลงโปรแกรมวินโดส 150 - 500 แหละครับ
แล้วทำไมไม่ศึกษา คำตอบง่ายๆคือ เสียตังแล้วเสียเวลากับมันอีก สำหรับบางคนมันเสียเวลาเป็นเดือนๆครับ แล้วก็ลืม ผมเจอมาเยอะ แล้วใครจะมาเสียเวลาขนาดนั้น เสียตังอีกเล็กน้อยก็ได้ใช้แอพตู้ก็เลยเป็นคำตอบ
วิธีแก้เกมสู้กับแอพตู้หรอหรอ ง่ายๆ OSทำให้มันง่ายสำหรับทุกคน(ซึ่งมันยากนะ555+) ไม่งั้นก็แอพตู้ต่อไปไม่มีทางกำจัดได้ครับ
ผมมองว่าขาดความเข้าใจด้วยครับเพราะคนไทยติดอะไรที่มันไม่ต้องทำเองซะเยอะให้ร้านจัดการใช้รอแปบเดี๋ยวเสร็จถ้ามาทำเองงมไปครึ่งวัยงะบางคนทั้งๆที่มันไม่ได้ยากอะไรเลยของแค่ว่าต้องลองเองแปบเดี๋ยวก็เป็นแล้วผมเองแรกๆก็ว่ายากนะพอใช้ๆไปเริ่มเข้าใจจริงๆแล้วง่ายมากมาย
เรื่องเสียตังเนี้ยเคยคิดไมว่าถ้าไปให้ร้านลงเนี้ยผมเห็นมันมีตั้งแต่ 300-2000 เลยนะแต่ไม่ได้ถามรายละเอียดมากเพราะปกติโหลดเองเสียตังเองอยู่แล้ว 300-2000 เนี้ยผมโหลดเสียตังได้ 4-5 เดือนเลยนะเพราะปกติก็ประมาณ 200-500 แล้วแต่
คนยังเข้าในผิดๆเยอะว่าโหลดได้หนเดียวโหลดใหม่ app เดิมเสียตังใหม่มีจริงๆนะครับเจอมากันตัวหลายคนแล้ว
ยังเข้าใจว่าไปร้านมันก็ขอแท้เหมือนกันแหละทั้งๆที่ลงไปลึกๆแล้วก็ยังผิดลิขสิทธิ์อยู่ดี
ปล. การไปโหลดร้านไงๆมันก็ไม่ดป็นของตัวเองอยู่ดีก็ต้องกลับไปหาร้านอีกงะ (หรือป่าวอันนี้ไม่ค่อยแน่ใจถ้าจะอัพเ App เนี้ย)
ดีใจที่ประเด็นหลักอย่างการไม่สนับสนุนให้คนลงแอพร้านตู้ถูกจุดขึ้นมา มากกว่าการไปดราม่ากับตรรกะแปลกๆ ของบางร้าน ต้องขอบคุณ Blognone ด้วยครับที่เสนอประเด็นขึ้นมา
ตอบในมุมคนทำเว็บคือเสริมการให้ความรู้ ตอบในมุมคนในวงการจะพยายามเสนอเรื่องขาย iTunes Gift Card กับทางแอปเปิลไทยดูครับ, จะลองเสนอกับค่ายที่ขาย iPhone เรื่องชวนลูกค้าสมัคร Apple ID ไม่รู้ว่าช่วยได้มากน้อยแค่ไหนแต่ก็น่าลอง
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ตรงนี้ ผมว่าคงเป็นเพราะ "สอนไปเค้าก็ไม่ได้อะไรเพิ่ม แค่ทำให้ Apple มีรายได้มากขึ้น" เท่านั้น แถมเค้าต้องเทรนคนอีก สู้ขาย ๆ ๆ ๆ เอากำไรอย่างเดียวดีกว่า
เหมือนจะเคยเจอดราม่า iStudio รับสมัคร Apple ID คิดค่าบริการเป็นพันเลย
"ตอบในมุมคนทำเว็บคือเสริมการให้ความรู้ ตอบในมุมคนในวงการจะพยายามเสนอเรื่องขาย iTunes Gift Card กับทางแอปเปิลไทยดูครับ,"
มันต้องมีคนที่ใจรักและอยากทำสื่อ สอนครับ ไม่ก็ทำเป็นละครสะท้อนให้ดูเลยว่า ลง app ร้านตูแย่ยังไง
กับซื้อผ่าน apps store เองปลอดภัยกว่ายังไง เอาง่ายๆ ดูของ M$ ทำสื่อ software ผีตอนนี้ได้เลย - -* ดูแล้วหลอนอยู่ครับ
แต่เสริมด้วย e-Learning ไปด้วยน่าจะดี
การทำสื่อ = การผลักดัน
คำถาม > ใครจะทำ !
อันนี้ผมว่าแล้วแต่ที่ครับ บางที่ก็จะสอนตั้งแต่แกะกล่องเปิดเครื่องเลย เพราะเป็นเรื่องค่อนข้างสำคัญครับ แต่บางที่ก็ขายอย่างเดียวเพราะลูกค้าไม่ต้องการหรือเสียเวลาอย่างที่ว่าจริงๆ ครับ -_-"
Dream high, work hard.
ผมเคยเสนอค่ายมือถือรวมถึง iStudio ให้สอนการลงแอพ และสมัคร
Apple ID ตั้งแต่ลูกค้าซื้อเครื่อง แต่ดูเหมือนเขาจะเห็นว่ามัน "เสียเวลา" ประเด็นนี้เลยหายไป
ถูกต้องที่สุดครับ เห็นด้วยอย่างยิ่ง
เห็นด้วยกับ "Gift Card" Idea ครับ
ทำให้ ร้านค้ามีกำไรจากส่วนต่าง และ ได้สอนการ สร้าง id, การลง App ให้ลูกค้า และ เรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ไปพร้อมๆ กัน
(ตั้งราคาให้ถูกกว่า ค่าลง app ตู้นะครับ)
งงมานาน ว่าทำไม ธนาคารกสิกรไทยยังมองไม่เห็นความต้องการตรงนี้ซะที
แค่ธนาคารไปร่วมโครงการกับ store ออกบันเดิ้ลซื้อ iphone / ipad แถม account กสิกรเดบิตพร้อมเงินในบัญชี $10 ให้โหลดแอปฟรี
ก็จะกลายเป็น tutorial ไฟฟ์บังคับ โดยอัตโนมัติ
ปรกติผู้ใช้ต้องเรียนรู้ทั้ง
วิธีไปเปิดบัญชีเดบิตของกสิกร - รอ approve e banking เป็นอาทิตย์ - กลับมาสมัคร AppleID - มองหาว่าตัวเลขอันใหนคือเลขบัตร ebank -เรียนรู้วิธีลิงค์บัญชีเดบิตกับ AppleID
แค่ตัดขั้นตอน ที่วุ่นวายลง ออก bundle ebank+iDevices จบ
แบบนี้ก็ดีเหมือนกันครับ แต่ไม่รู้ว่าทาง Apple เค้าจะเล่นด้วยมั้ยนะครับ มี case แบบนี้จากต่างประเทศมั้ยน้อ
เพราะคิดว่า "คนที่ซื้อของแพง ทั้งๆ ที่มีของถูกให้ซื้อ" เป็นคนโง่
ข้อ 1-2 หลายๆท่านตอบไปหมดละ
วิธีแก้ไขนี่ ผมคิดว่าเราน่าจะมีคดีตัวอย่าง จับร้านตู้ข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์สัก 2-3 คดี ผมว่าคงดีขึ้น ไม่ได้หมายความว่ามันจะหมดไปนะ แต่เป็นการแก้ให้ภาพมันออกมาว่า ที่ทำอยู่เนี่ยมันผิดกฎหมายนะ จะได้ไม่หน้าด้านเมือนที่ออกมาแถเหมือนในดราม่าต้นทาง
เพราะปัจจุบันไม่มีใครไปจับเหมือนกรณีเกมเถื่อน windows เถื่อน หรือ เพลงเถื่อน ภาพที่คนทั่วไปเห็นมันเลยเหมือนกับที่ทำๆอยู่มันทำได้ ใครๆเค้าก็ทำกัน ไม่ผิดอะไรนี่ ไม่เห็นมีใครมาจับเลย
อันนี้ผมยังไม่ได้คำนึงวิธีการทางกฎหมายนะครับ
ถ้าเจ้าของลิขสิทธิ์ไม่มาชี้เป้า ก็จับไม่ได้มั้งครับ เท่าที่จำได้
ที่แปลกใจคือ apple เองก็ไม่ลงมาทำอะไรเหมือนกัน
ก็แบน apple id ที่ไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไม id ตัวเองถึงถูกใช้ในเครื่องจำนวนมากก็พอแล้ว
อ่านแล้วคิดอย่างนึงว่าระหว่างปลุกกระแส developers ให้เรียกร้องการแบน ID กับ ปลุกกระแสให้คนไม่ลงร้านตู้ อันไหนง่ายกว่ากัน
อย่างแรกง่ายกว่า เพราะเป็นผู้เสียประโยชน์ (ทั้งคู่ แอปเปิล+นักพัฒนา) และถ้าทำจะมีผลกับทุกเครื่อง
ส่วนอย่างหลังยากกว่า เพราะได้ประโยชน์ (ทั้งคู่ ผู้ขาย+ผู้ซื้อ) คนขายได้เงิน คนซื้อได้ 160 แอพเทพราคาถูกๆ :|
คือ Apple ยอมเสียผลประโยชน์จากค่า app 30% ไปเพื่อ ... เพื่ออะไรหว่า ?
จะบอกว่าเพราะว่าบ้านเราไม่มี apple ก็คงไม่ใช่ ผมเดาว่าปัญหาเดียวกันที่ประเทศอื่นอย่างจีนก็น่าจะมีเหมือนกัน
หมายเหตุ: น้องผมใช้ iPhone 5 และกำลังจะซื้อ iTunes Gift Card มาลงเกมครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เพราะเหตุใดคนจำนวนไม่น้อยถึงเลือกใช้วิธีติดตั้ง "แอพตู้" หรือที่เราพูดกันบ่อยๆ ว่า "แอพแท้ไม่ต้องเจล"
- ง่าย สำเร็จรูป ไม่ต้องสมัคร apple id ให้วุ่นวาย ได้ Premium Apps หลายตัวแบบฟรีๆ
อะไรเป็นอุปสรรคขวางกั้นไม่ให้ผู้ใช้ iOS ติดตั้งแอพผ่าน App Store ตามกระบวนการปกติ
- ภาษาอังกฤษ ความขี้เกียจ ไม่รู้ประโยชน์ของการมี apple id เป็นของตัวเอง บางคนอาจมีความรู้ แต่ไม่อยากเสียเงินซื้อ Premium Apps
เราจะแก้ไขปัญหาแอพตู้กันได้อย่างไร ที่สมเหตุสมผลและปฏิบัติได้จริง
- บอกข้อดีของการมี apple id ของตัวเอง ชูประเด็นความง่ายและความสะดวกที่มากกว่าเมื่ิอติดตั้งด้วยตัวเอง ความปลอดภัย ปลูกฝังจิตสำนึก แอปแต่ละตัวไม่กี่บาท กินข้าวมื้อเดียวก็เกินแล้ว ต้องมีการ contribute นักพัฒนา ชูประเด็นเรื่องถ้าไม่มีการสนับสนุน แอปดีๆก็จะตายจากไป เหลือแต่แอปห่วยๆ คุณต้องการอย่างนั้นไหมหละ?
สรุปคือ ผู้ใช้ iOS จำนวนไม่น้อยในบ้านเรา ขาดความรู้ ขี้เกียจ และชอบอะไรง่าย ๆ อย่างนั้นรึเปล่าครับ
ถ้าสรุปแบบนี้ ก็รวมผู้ใช้แอนดรอยด์ด้วยเถอะครับ
เปลี่ยนเป็น ผู้ใช้ซอฟต์แวร์ ละกันครับ
^
^
that's just my two cents.
เรื่องแอพตู้น่าจะมีลูกค้าเป็นผู้ใช้ใหม่เสียส่วนใหญ่ เพราะชักจูงง่าย ไม่รู้อะไร ปล่อยให้ร้านเค้าสอนแนะนำนู่นนี่ก็ทำตามไปหมด ทางตู้แนะนำอะไรก็เชื่อหมด ทั้งที่ๆ แอพที่ใช้จริงๆ ก็มีแต่แอพฟรีอยู่แล้ว
สิ่งที่ปิดกั้นการลงแอพเอง ผมว่าหลักๆเลยก็คือ การสมัคร Apple ID ที่ผู้ใช้ใหม่จะติดขัดเรื่องเลขบัตรเครดิตที่ไม่มี หรือรู้สึกว่าเสี่ยง สมัยก่อนผมไม่เคยใช้ iOS เลย และต้องพาแฟนไปซื้อ iPhone4 ที่ iStudio โชคดีที่ เค้าสอนวิธีสมัคร ID ให้ที่ร้านด้วยเลย บอกว่ามีวิธีสมัครไม่ต้องใช้บัตรเครดิต แต่วันนั้นมีปัญหาสมัครให้ไม่ได้ กลับบ้านก็เลยไปนั่งทำต่อเองจนเสร็จโดยพ่วงกับบัตรเครดิตของแฟน ถ้าวันนั้น iStudio ไม่ได้สอนก่อน แล้วเดินไปติดฟิล์มที่ตู้ คงได้รับคำแนะนำที่ผิดๆ แทน สรุปก็คือถ้าร้านต้นทางแนะนำเรื่องการสมัคร ID และวิธีโหลด App Free ต่างๆ เช่น Facebook, Line, IG ผู้ใช้คนใหม่ก็จะเข้าทางสว่างก่อนที่จะไปทางมืดได้
ถ้าจะแก้ไขโดยที่ไม่กระทบกับตัวแทนจำหน่ายต่างๆ มากนัก ก็น่าจะมีการทำเอกสารแนะนำการใช้งานตัวเครื่องด้านต่างๆ ทั้งการใช้งานเบื้องต้น การรับประกันตัวเครื่อง ซึ่งรวมทั้งวิธีการโหลดแอพ และใช้งานต่างๆ แค่ผู้ขายแนะนำเกริ่นนำไว้ซักเล้กน้อย ก็น่าจะชี้ทางสว่างให้ผู้ใช้มือใหม่ได้ดีกว่า ข้อเสียคืออาจจะทำให้ตัวแทนจำหน่ายเสียค่าใช้จ่ายคู่มือเพิ่มขึ้น แต่ก็ลดปัญหาต่างๆ ทั้งผู้ใช้และตัวแทนจำหน่ายได้มากขึ้นเช่นกัน
1.สะดวก
2.ไม่ต้องคิด
3.ได้ทุกอย่างที่อยากได้
4.ง่ายสุด ๆ ต่อคนมีเงินและไม่อยากศึกษาอะไรเพิ่มจะเล่นอย่างเดิยว
5. คนไทยชอบปริมาณมากกว่าคุณภาพ เคยถามหลายครั้งว่า ทำไมซื้อ vcd ไม่เอา dvd เพราะว่าได้ 2 แผ่น!
และ ก็ซื้อ DVD รวม 1 แผ่นได้ lord of the ring ครบ set + HOBBIT อีกต่างหาก
ไม่มีบัตร, มีก็ไม่ไว้ใจ, หรือจะให้สมัครแบบไม่ต้องใช้บัตรก็ทำไม่เป็น
โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ใช้เพราะแฟชัน ไม่ได้สนใจเพราะเทคโนโลยีอะไร ถ้ามันยากนักก็จ่ายสองร้อยจบ
ไม่เห็นด้วยกับแอพตู้ แต่นั่นก็หมายความว่าระบบมีช่องโหว่ที่ต้องแก้ไขควบคู่ไปกับการรณรงค์ให้ลงแอพที่ถูกต้อง ไม่ใช่มาหวังเอากับจริยธรรมของผู้ใช้(แบบพี่ไทย)อย่างเดียว
ไม่รู้ว่าเหมือนหรือเปล่า แต่นึกถึงการรณรงค์ให้ใช้หมึกแท้ของ HP
ปล. ตัวเองไม่มี แต่คนในบ้านรวมแล้วมีอยู่ 5 ชิ้น ไม่มีใครมี apple id เลย
เคยเปิดร้านตู้ ครับ
บอกได้สั้นๆๆ เลยครับ " ลูกค้าเค้ามาซื้อบริการครับ "
แล้วคุณขายบริการด้วยการอธิบายว่าตัวไหนที่ฟรีให้ใช้apple idของลูกค้าแล้วคุณเป็นคนกดinstallให้เพื่อเป็นการบริการจริงๆ รึเปล่า
หรือลงแต่apple idร้าน พอมีupdateตัวฟรี ลูกค้าก็ต้องดิ้นรนให้ร้านลง
เอาตามจริง อย่าเลี่ยงบาลี
น่าจะใช่ครับ เค้ามาจ้างคุณให้ไปขโมยของให้เค้าไงล่ะ
• ไม่รู้ถึงข้อเสียของการลงแอพตู้ คิดว่าถูกๆ ลงไปเลย ง่ายดี แต่ปัญหาจริงๆจะมีอีกมากมาย
เพราะเหตุใดคนจำนวนไม่น้อยถึงเลือกใช้วิธีติดตั้ง "แอพตู้" หรือที่เราพูดกันบ่อยๆ ว่า "แอพแท้ไม่ต้องเจล"
- เพราะคนไทยเคยชินกับความมักง่าย เอาง่ายเข้าว่าไม่สนใจเรียนรู้ครับ รวมทั้งไม่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของตัวเองเท่าไหร่ (แต่ไปกลัวเรื่องที่เกี่ยวกับเงินจนเกินเหตุ กลัวธุรกรรมออนไลน์ etc.)
อะไรเป็นอุปสรรคขวางกั้นไม่ให้ผู้ใช้ iOS ติดตั้งแอพผ่าน App Store ตามกระบวนการปกติ
- ค่านิยมมักง่าย และไม่เข้าใจเรื่องลิขสิทธิ์ครับ
เราจะแก้ไขปัญหาแอพตู้กันได้อย่างไร ที่สมเหตุสมผลและปฏิบัติได้จริง
- ถ้าเราทำให้คนไทยมีความอยากเรียนรู้เพิ่มขึ้นไม่ได้ ก็ต้องทำให้การเรียนรู้ง่ายขึ้นมากๆ มีคนคอยสอนทีละขั้น รวมทั้งยกเคสตัวอย่างถึงความเสียหายจากการโดนล้วงข้อมูลส่วนตัว (ที่ไม่ใช่เกี่ยวกับเงิน) ให้คนกลัวกันมากขึ้นครับ
ผมว่าส่วนหนึ่งเพราะคนไม่อ่านคู่มือด้วยแหละ หรือไม่มีความคิดที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เอาเข้าจริงๆคู่มือของสมาร์ทโฟนมันลงไม่ระเอียดด้วย ถึงส่วน app store ด้วยแหล่ะ
-เพราะเหตุใดคนจำนวนไม่น้อยถึงเลือกใช้วิธีติดตั้ง "แอพตู้" หรือที่เราพูดกันบ่อยๆ ว่า "แอพแท้ไม่ต้องเจล"
-อะไรเป็นอุปสรรคขวางกั้นไม่ให้ผู้ใช้ iOS ติดตั้งแอพผ่าน App Store ตามกระบวนการปกติ
-เราจะแก้ไขปัญหาแอพตู้กันได้อย่างไร ที่สมเหตุสมผลและปฏิบัติได้จริง
เท่าที่ถามเพื่อนมา.. คือไม่มีบัตรเครดิตครับ.. จะให้ทำอะไรยุ่งยากก็ลำบากเกินไป.. แต่ก็มีเพื่อนหลายคน ที่ไม่มีบัตร ใช้วิธีโทรมาให้กิฟให้ แลกข้าวแลกไอติม ก็ว่ากันไป..
และผมรู้สึกว่า คนส่วนใหญ่น่าจะกลัวว่าถ้าทำเองมันอาจจะมีปัญหา และการจะมานั่งหาวิธ๊ในอินเตอร์เน็ตเพื่อแก้ไข เป็นเรื่องที่ยากลำบากเกินไป (อันนี้ผมไม่มีข้อเท็จจริงนะครับ แค่มาจากความคาดเดา)
ง่าย ราคาถูก และอาจถูกหลอก เห็นด้วยที่appleต้องออกมาให้ความรู้เสียที เพราะสุดท้ายappleก็เสียรายได้จากนี้เยอะนะครับ ถ้าลงทุนหน่อย คงมีรายได้เพิ่ม
ผมว่าอันดับแรกเลย คือไม่ลองศึกษาก่อนว่าทำอะไรยังไง
ยกตัวอย่างง่าย ๆ คนรู้จักกันนี่แหละลงเพลงผ่าน itune ยังไม่เป็นเลย
การซื้อแอพมันก็วุ้นวายจริง ๆ นั้นแหละต้องมีบัตรมีโน้นมีนี่ สู้ไปตู้ควักตังจ่ายง่ายกว่า
ต่อมากลุ่มพวกใช้ตามแฟชั้น ผมว่าพวกนี้คงเยอะน่าดู
อีกกลุ่มคือ ไม่คิดที่จะซื้อใช้อยู่แล้ว จากในกลุ่มเพื่อน ใช้แท้อยุ่ 3 คนจาก 10 แต่อีก 7 มันมีความสามารถ
รอท่าน Jd มาแถลง
ปล. ผมก็ไม่ได้ผูกกับบัตรเครดิทนะ แต่ผูกกับ K-Bank แทน มันไม่ได้แพงอะไร ซื้อแล้วแถมฟรีอัพเดทตลอดอายุการใช้งาน
ถ้าได้ผู้ประกอบการมาแถ-ลงการที่นี่สักหน่อย ก็อยากอ่านเหมือนกันครับ
^
^
that's just my two cents.
ข้างบนมีแถครับ งานบริการ
เหอๆ
มาตอบสั้นๆว่ามี demand ก็มี supply
แต่ผมไม่ได้เป็นผู้ประกอบการนะ
เพราะเหตุใดคนจำนวนไม่น้อยถึงเลือกใช้วิธีติดตั้ง "แอพตู้" หรือที่เราพูดกันบ่อยๆ ว่า "แอพแท้ไม่ต้องเจล"
อะไรเป็นอุปสรรคขวางกั้นไม่ให้ผู้ใช้ iOS ติดตั้งแอพผ่าน App Store ตามกระบวนการปกติ
เงินที่จับจ่ายอย่างสะดวก เลยไม่คิดจะทำเอง
เข้าใจว่า ทำยาก แต่ไม่เคยคิดลองทำ
หลายๆ คน คิดว่า ไอโฟน เป็นค่านิยม แต่ก็ไม่ศึกษา จึงกลายเป็นค่านิยมที่ไม่สมบูรณ์ (ใช้ไอโฟน ไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายไปด้วยซ้ำ)
เราจะแก้ไขปัญหาแอพตู้กันได้อย่างไร ที่สมเหตุสมผลและปฏิบัติได้จริง
ถ้าเป็นคนเปิดกว้าง ยินยอมศึกษา ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร
แต่ถ้าไม่ยอมศึกษาอะไรเลย ก็คงต้อง รับผลของการตัดสินใจของตัวเองไป
ไม่อยากที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่มากกว่า คนไทยติดของก็อบ ผิดกฎหมายจนเคยตัว
เท่าที่เจอมา
1. เป็นคนมีเงิน แต่ไม่รู้จักแม้กระทั่ง user และ password ขนาด facebook ยังจำของตัวเองไม่ได้
2. ดีขึ้นมาหน่อย แต่ยังไม่เข้าใจว่าจะสมัคร Apple ID ไปทำอะไร ขี้เกียจจำ password เพราะยุ่งยาก ต้องมีทั้งตัวอักษรใหญ่ เล็ก และตัวเลข (พวกนี้มันตั้ง pass เป็นตัวเลขอย่างเดียว)
3. พวกมักง่าย ชอบแบบบุฟเฟ่นิยม อะไรก็ได้ เยอะไว้ก่อน
ยังมีคนจำนวนมากยังเข้าใจผิดว่าซื้อแอพไปแล้วพอลบทิ้งหรือล้างเครื่องจะต้องเสียตังค์ซื้ออีกรอบไม่รู้ว่ามันผูกกับบัญชีสามารถโหลดกี่ครั้งก็ได้ เลยคิดว่าแอพตู้คุ้มกว่า
ผมคิดว่าถ้ามีช่องทางเช่นพวก gift card ขายตามห้าง หรือทั่วๆไปที่หาซื้อได้ง่าย น่าจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องไม่มีบัตรเครดิตได้สำหรับคนบางส่วนที่พอมีความรู้ในการทำ
ญาติผู้ใหญ่หลายๆคนใช้ ipad แต่อ่านภาษาอังกฤษไม่ออก บัตรเครดิตไม่มี ถ้าไม่มีหลานๆทำให้ก็ไม่กล้าทำ ครั้นบางครอบครัวเด็กๆทำเป็นแต่ก็ไม่มีบัตรเครดิต
ผมคนนึงที่เคยลงแอปตู้ให้พ่อผมใช้ แต่สุดท้ายใช้จริงไม่กี่ตัว เลยล้างทิ้งเพราะติดปัญหา password ของร้าน แล้วลงใหม่ซื้อใช้เป็นตัวๆไปสบายใจกว่า
ที่เจอในชีวิตจริงคือ ไม่รู้ และไม่สนใจเรื่องพวกนี้ มันไร้สาระแถมเสียเวลาที่จะเรียนรู้ เอาเวลาไปทำมาหากินทำอะไรที่เป็นประโยชน์ดีกว่าจะมาเสียเวลาศึกษาของพวกนี้ จ่ายเงินแล้วมันเล่นได้คือจบ
เพราะเหตุใดคนจำนวนไม่น้อยถึงเลือกใช้วิธีติดตั้ง "แอพตู้" หรือที่เราพูดกันบ่อยๆ ว่า "แอพแท้ไม่ต้องเจล"
- ลงไม่เป็น งง จะให้สมัคร AppleID ใส่บัตรเครดิตอะไรไม่รุ งงแดก.. แฟนผมก็เป็น ผมลงให้ทุกอย่าง สอนแล้วก็ยังทำไม่เป็น เรื่องง่ายๆ ของสายคอม ให้คนนอกสายมาทำ บางทีมันเหมือนแดนสนธยาคับ
อะไรเป็นอุปสรรคขวางกั้นไม่ให้ผู้ใช้ iOS ติดตั้งแอพผ่าน App Store ตามกระบวนการปกติ
- ตามข้อแรก.. "งง" "แดนสนธยา"
เราจะแก้ไขปัญหาแอพตู้กันได้อย่างไร ที่สมเหตุสมผลและปฏิบัติได้จริง
- ช่วยกันให้ความรู้ สอนให้มากที่สุด และหวังว่า เค้าจะทำเป็นเองซักวัน.. พ่อผม แม่ผม ผมก็สอนแล้วบอกท่านว่า.. ทำอะไรก็ทำไป.. ยังไงมันก็ไม่พัง (แค่เอาที่ผูกบัตรเครดิตออกก่อน 555+)
คุณพ่อกับพี่สาวผม ผมตั้งทุกอย่างไว้ให้ (แต่ให้พิมพ์รหัสผ่านเอง) หลังจากนั้นบอกไว้แค่ว่า พิมพ์ชื่อแอพในช่องค้นหา หาเจอ กดลง ใส่รหัส รอดตัวครับ :D
บอกเหมือนผมเลยครับ 555 แต่ผมเสริมไว้ว่า ถ้าจำให้ได้ว่าทำอะไรลงไปบ้างก็ดี ถ้ามีปัญหาจะได้แก้ถูก
ผมรู้สึกว่า หลายคนปิดกันการรับรู้ครับ บางที เราก็ ตั้งใจสอนนะ แต่คนฟังนี้ ไม่คิดจะเปิดรับเลย
ไม่รู้ ยังไง งง ทำให้หน่อย เล่นเอา บางทีก็เบื่อที่จะสอนกันเลยทีเดียว
ผมเคยตอนใช้ใหม่ เขาลงมาให้ก็เล่นๆไป อยู่มาวันหนึ่ง เอาต่อคอมตนเอง แอพหายหมดเลย งง เลยจะไปลงที่ร้านตู้ ตอนมาใหม่ ๆ(iPad 1) ร้านเขาบอกจะเจลเครื่อง แค่นั้น
ล่ะ หันหลังกลับ ไปนั่งโหลดแอพฟรี กับไปเปิดบัญชี เปิดบัตรเดบิตเลย ปัจจุบันก็อุดหนุนแต่แอพใน Store หมดไปเยอะ แต่อย่างน้อยให้เงินไปถึง Dev ทั้งหลาย
ก็ยังดีครับ เขาจะได้สร้างอะไรมาให้เราได้ใช้ ได้เล่นอีกต่อไป
เพราะเหตุใดคนจำนวนไม่น้อยถึงเลือกใช้วิธีติดตั้ง "แอพตู้" หรือที่เราพูดกันบ่อยๆ ว่า "แอพแท้ไม่ต้องเจล"
- ความขี้เกียจ ไม่รู้ ไม่เข้าใจ ทำไง ทำไม่เป็น (ไม่อยากใช้คำว่าโง่(ในเรื่องนี้))
- ไม่ฉลาด แล้วอวดฉลาด คิดว่าตัวเองซื้อถูกกว่า
อะไรเป็นอุปสรรคขวางกั้นไม่ให้ผู้ใช้ iOS ติดตั้งแอพผ่าน App Store ตามกระบวนการปกติ
- ขาดความรู้การศึกษาข้อมูลก่อนซื้อ + การประชาสัมพันธ์ของผู้ขาย
- ส่วนมากเกิดกับคนที่ไม่ได้ทำงานวงการ it บางคนทำในวงการนี้ ไม่รู้เรื่องก็มี ยิ่งทำให้ % คนที่ไม่รู้มีมากขึ้น
เราจะแก้ไขปัญหาแอพตู้กันได้อย่างไร ที่สมเหตุสมผลและปฏิบัติได้จริง
- แก้ 2 ข้อบนได้ ข้อนี้ ไม่น่าจะเกิดขึ้นครับ
ผมว่าเรื่องขี้เกียจนี้น่าจะตัดไปได้นะ เพราะการเดินทางไปที่ร้าน มันใช้พลังงานมากกว่านอนกดซื้อกดโหลดที่บ้านเยอะมากๆๆ
ออกไปร้าน ได้ไปเที่ยวห้างด้วยนะเออ อยู่บ้านหมกมุ่นอยู่หน้าคอม เครียด ผมว่าสาวๆไม่ชอบแน่ๆ
ต่างกันครับ อย่างหลายๆคนเวลาเห็นตัวอักษรเยอะๆจะขี้เกียจอ่าน ขี้เกียจศึกษา ขี้เกียจทำความเข้าใจ
แต่การหิ้วเครื่องไปให้ร้านทำนี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ครับ ยังไงก็จะออกจากบ้านไปเที่ยวห้างอยู่แล้ว อะไรแบบนี้
ตอบสั้น ๆ ว่าคนไม่รู้เค้าก็ไม่รู้จริง ๆ ครับ และไม่พร้อมที่จะเรียนรู้ด้วยไม่ว่ากรณีใด ๆ และไม่ต้องการอะไรมากกว่าแค่ให้ใช้ได้ .. และง่าย ง่ายที่สุด ไม่เสียเวลา ไม่อยากรู้ ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น เยอะครับ ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่
+1 ครับ
ปล ความเห็นข้างล่างตอบสั้นกว่า :P
สั้นๆ
โง่และขี้เกียจ
ผมไม่มองว่าโง่นะ ผมมองว่า "แค่ไม่รู้" เท่านั้นเอง
IMHO,
สงสัยครับ แล้วถ้าคนที่อายุต่ำกว่า 18 ที่ไม่มีบัตรอะไรเลยเกียวกับทางการเงินละฮะ?! เขาจะชี้อ apps ยังไง..
ทำผ่านหน้าจออย่างเดียว ผมก็ทำแบบนี้หล่ะ ซื้อทั้ง App และก็สินค้า ตปท
ถ้าประเทศอื่น ก็ไปทำบัตร ไม่ก็ซื้อบัตรเติมเงินครับ
ถ้าประเทศเรา คงต้องอ้อนเอาบัตรเสริม ไม่ก็ไปทำบัตรเดบิตสักเจ้าที่มันใช้ซื้อแอพได้
ต่ำกว่า 18 ถ้ามีเงินซื้อ iOS Device แต่ไม่มีเงินซื้อแอปแท้ก็แปลกนะครับ ทำบัตรเดบิตก็ได้ ส่วนเด็กที่ยังทำบัตรไม่ได้เลย ก็ยังควรที่จะให้สิทธิ์การซื้อแอปอยู่กับพ่อแม่นะครับมันมีทางออกที่ดีกว่าแอปตู้เสมอครับ
ผมเสนอทางออกอีกทางครับ แนะนำให้ใช้ iTunes Gift Card แทนครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
iTunes Gift Card ไม่มีขายในไทยครับ ไม่พูดถึงพวกหิ้วมาขายหรือซื้อจาก eBay นะ ถ้าทำได้ขนาดนั้นผมว่าสมัครพวก K-cyberbank ยังง่ายกว่าเลย
ติดตั้งเอง เลือกเฉาะ App ที่จำเป็นหรือ Game ที่จำเป็น มันถูกกว่าไปลงร้าน และปราศจากความเสี่ยงจาก Apple ID ของร้านที่ติดมากับ App นั้นๆ ด้วย
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
-ใช้ไม่เป็น ทำอะไรไม่เป็นซักอย่าง มีแต่เงินซื้ออย่างเดียว
-คิดว่า "แอพแท้" แต่ความจริงแล้ว มัน... ก็ไม่เชิง
-ถูก
ผมไม่สนับสนุนอย่างมากในเรื่องนี้ ผมเห็นแล้วอนาถเพราะแทนที่ developer จะได้รับเงินในการทำแอพออกา แต่กลับกลายเป็น มีแต่ร้านตู้ได้เงินกันมากมาย โดยที่ลงทุนครั้งเดียวไม่เยอะ แต่ได้เงินตลอด มันเป็นการหาประโยชน์ที่น่าเกลียดมาก ผมเห็นว่า Apple ควรจะให้ แสดงยืนยันความเป็นเจ้าของเครื่องแบบที่ iOS 7 เนี่ยแหละ เหมาะสมแล้ว ความจริงต้องพยายามทำทุกอย่างให้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ
บางคนที่เคยคุยด้วย เค้าบอกก็แค่ว่าขี้เกียจ ยุ่งยาก ไปตู้แป๊บเดียวก็เสร็จ หรือบางคนก็บอกว่ามันถูกกว่าครับ
สมัคร Apple ID แบบไม่ใช้บัตรเครดิตยากครับ อันนี้ผมว่าค่อนข้างสำคัญเลย เห็นว่าหลายๆ คนเวลาสมัคร ถ้ายังไม่เจอแอพที่อยากซื้อจริงๆ ก็จะเลี่ยงการใส่ข้อมูลบัตรอยู่แล้ว
อันดับแรก คงต้องบอกให้ร้านตู้เข้าใจสักหน่อยเรื่องลิขสิทธิ์ของซอฟต์แวร์ที่เราๆ ท่านๆ อุตส่าห์สร้างสรรค์ขึ้นครับ... ถ้ายังเป็นแบบสังคมไทยที่ผมมองว่า "ไม่ค่อยเห็นความสำคัญ" ของเรื่องนี้ มันก็คงไปต่อยากอ่ะครับ
อันดับที่สอง ก็เป็นคราวผู้บริโภคครับ สอนเรื่องวิธีการใช้งาน Apple ID, AppStore ให้ดีๆ หน่อย เข้าใจกันง่ายๆ ก็ใช้ได้แล้วล่ะครับ
Dream high, work hard.
คนไทยส่วนใหญ่ไม่ยอมอ่าน ไม่ว่าจะยากหรือง่าย มีอะไรขึ้นมา ไม่ว่าจะเขียนว่าอย่างไร ไทยหรืออังกฤษ ไม่กดยอมรับ ก็ยกเลิก แล้วก็บ่นว่ามันทำไม่ได้
ตอนแรกผมตั้งใจจะไปลง app จากร้านเหมือนกัน แต่เจ้าของร้านคิดเงิน 900และต้องทิ้งเครื่องไว้ที่ร้าน คืนนึง ผมก็เลยไม่เอา
ถ้านับรวมๆ ก็ซื้อ ไปประมาณ 3000 นะครับเน้นช่วงลดราคา
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
เพราะเหตุใดคนจำนวนไม่น้อยถึงเลือกใช้วิธีติดตั้ง "แอพตู้" หรือที่เราพูดกันบ่อยๆ ว่า "แอพแท้ไม่ต้องเจล"
- คนไทย ไม่ชอบอะไรที่ต้องทำเอง ชอบมีคนมาคอย Service ให้ตลอด เช่น ซื้อคอมประกอบ ก็จะชอบให้ร้าน เลือกของให้ ลง Windows(เถื่อน) มาให้ และไปต่อเครื่องให้ถึงที่เลย มีหน้าที่เพียงจ่ายเงิน ใช้เครื่อง และบอกร้านว่าจะใช้งานอะไร(แบบว่า เงินซื้อได้ทุกอย่าง)
- คนไทย ไม่เคยชินกับธุรกรรมการเงินผ่านอินเตอร์เน็ต ก็เพราะไม่ชอบทำอะไรเองเช่นกัน
- และสุดท้าย ร้านตู้ ชอบไปซื้อเครื่องจากศูนย์มาจนหมด และเอามาขายต่อในราคาที่สูงกว่า พอคนมาซื้อที่ร้าน ก็อาจจะให้ร้าน Sync แอปมาให้ด้วยเลย พร้อมตั้งค่าเครื่องทุกอย่าง
- คนไทย ชอบทำอะไรตามกันทุกอย่าง
- มีแต่เงิน กับความรู้เก่าๆ ไม่สนใจเรียนรู้อะไรใหม่ๆ อะไรไม่รู้ ก็จะไปหารานทำให้ แล้วก็ "จ่ายเงิน" เป็นอันจบ
อะไรเป็นอุปสรรคขวางกั้นไม่ให้ผู้ใช้ iOS ติดตั้งแอพผ่าน App Store ตามกระบวนการปกติ
- กลัวที่จะเอาเลขบัตรเครดิตไปใส่บนอินเตอร์เน็ต
- กลัวภาษาอังกฤษ
- บางคนไม่ได้มี iOS Device ไว้เพื่อใช้งานแบบ Smartphone มีไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองถูกมองว่าเป็นคนตกยุค
- บางคนมองว่า "แอป แอปนึงราคาตั้ง 30 บาท โหลดมาก็ไม่เห็นจะมีอะไร" (มองไม่เห็นค่าของแอปที่โหลด และมองว่าแพง)
เราจะแก้ไขปัญหาแอพตู้กันได้อย่างไร ที่สมเหตุสมผลและปฏิบัติได้จริง
ผมคิดว่า ทางออกของปัญหานี้มีหลายวิธี
1. ในเมื่อร้าน ชอบเอาแอปที่ซื้อ มาขาย ดังนั้น ก็ควรจะมีระบบการซื้อแอปเพื่อขายต่อโดยเฉพาะ โดยการตั้งราคาแอปแบบสำหรับลงได้ไม่จำกัดเครื่อง เพื่อขายต่อโดยเฉพาะ รวมทั้งเปิดให้มีการสร้าง Account สำหรับผู้ขาย โดยมี Password สำหรับอัพเดตแอป และ Password สำหรับซื้อแอปเพิ่ม แยกจากกัน และจะต้องจำกัดจำนวนเครื่องที่สามารถติดตั้งแอปที่ซื้อมาแบบปกติ อาจจะเป็นการ Authorize เครื่องก่อนใช้งานครั้งแรก และจำกัดจำนวนเครื่องที่สามารถ Authorize ได้
2. สร้างระบบ App Store แบบ Prepaid(ไม่ใช่ Gift Card)
3. สร้างระบบ App Store แบบ Postpaid โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต แต่เก็บเงินแบบเดียวกับโทรศัพท์มือถือ ค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ คือมีบิลมาให้จ่าย
4. ทำให้การซื้อแอป มีการซื้อแบบ Trial ที่ชัดเจน เช่น ทดลองได้ 7 วัน จากนั้น หากยังไม่กดซื้อ แอปจะเล่นไม่ได้เลย
อีกอย่างคือชอบจ่ายเงินแล้วได้ไม่จำกัด เหมือนที่ชอบกินบุฟเฟต์ และชอบโปรเน็ตชื่อว่าไม่จำกัดแต่ติด FUP ตั้งแต่ใช้ไปไม่มากนั่นแหละครับ
จริงครับ คนไทยชอบอะไรแบบง่ายๆ เหมือนอย่างที่บอกมา ก็คือ Buffet กินไปเถอะ ไม่ต้องสนใจว่าจะเท่าไหร่ หรือ โปรเน็ตไม่จำกัด แต่มี FUP ก็คือ ง่ายๆ ใช้ไปเถอะ ไม่ต้องกลัวค่าเน็ตแพง (ผมเคยโดนค่าโหลดเพลงจากทรูมูฟ เบอร์ 5555 โหลดฟรีค่าเพลง แต่เน็ต GPRS คิด 0.12฿/KB แล้วเพลง 1 เพลง ขนาดสัก mp3 1MB โดนไปร้อยนึงครับ หลังจากนั้นมาซื้อ Unlimit ตลอดครับ ไม่ต้องห่วงค่าเน็ต) อีกอย่างที่เห็นชัดเจนคือ เวลาโดนตำรวจจับตอนไม่ได้คาด Seat Belt ก็ เอาง่ายไว้ก่อน จ่ายตังค์ แล้วจบ
ร้านแอพเถื่อน อ่านเรื่องของผมให้จบ ถ้าขี้เกียจ ก็อย่ามาเกรียน
***ภายในอาทิตย์เดียว ผมได้ช่วยให้คนที่เจลเบรกกลับใจได้ รวม 11 คน ****
***ผมเชื่อว่า ผมจะทำเงินจากการวาดรูปได้นับหมื่นๆ จากการซื้อแอพแท้ 2 ตัว ในราคาตัวละ $5 - $9****
ผมจะช่วยแก้ไข ความเชื่อและวัฒนธรรมผิดๆ เกี่ยวกับการลงแอพตู้ ผมจะรณรงค์ให้คนไทยทั้งประเทศได้รู้ว่า
การเจลเบรกยุคนี้ มันเป็นการเอาตัวเองเข้าไปติดคุก / และเปิดประตูรับความเสี่ยงข้อมูลรั่วไหล
ทั้งๆที่ผมเป็นคนไทยรุ่นแรกๆ ที่หิ้วไอโฟนที่วางขายสัปดาห์ที่ห้า ของ apple store
ซื้อจาก แคลิฟอร์เนีย
ผมเจลเบรก เฉพาะให้มันใช้ซิมในไทยได้ และให้มันลงแอพได้ ในช่วงกำเนิดไอโฟนรุ่นแรก
เพราะยุคนั้น ยังไม่มี iTune App store
แต่เมื่อตอนนี้มันมี app store ให้ลง...app เวอร์ชั่นล่าสุดได้ทันที
facebook ล่าสุด
instagram ล่าสุด
twitter ล่าสุด
Hayday ล่าสุด
แอพฟรีทุกตัว อัพเดทได้ทันทีสำหรับคนที่มี apple id
แบบนี้พวกร้านตู้ ตามเทคแคร์ดูแลลูกค้าถึงบ้านเหรอ หรือ ต้องให้เค้าถ่อสังขารกลับมาหาที่ร้านคุณ
ผมวาดรูปขายได้เงินเยอะ จาก app ที่ผมซื้อผ่าน apple id
เพราะผมใช้ procreate / autodesk sketchbook pro ตัวแท้หมด
เพราะมันอัพเดทภู่กัน ดินสอ ปากกา จานสี เอฟเฟ็กซ์ หรือลูกเล่นที่ช่วยให้วาดได้เร็วขึ้น
อัพเดทได้ตามใจปรารถนาไม่เคยถูกขัดขวางการอัพเดท อันเนื่องมาจากติดขัดเรืองรหัสผ่านของพวกร้านตู้
เหมือนที่หลายคนกำลังเจอกันอยู่
ผมเชื่อว่า ผมจะทำเงินจากการวาดรูปได้นับหมื่นๆ จากการซื้อแอพแท้ 2 ตัว ในราคาตัวละ $5 - $9
ผมเห็นใจคนไกล้ตัว วันดี คืนดี เมื่อแอพต้นสังกัดเค้ามีการแอพเดทแอพกัน
พวกที่ เจลเบรก หรือ พวก App ร้านตู้ ได้แต่มองตาละห้อย เพราะ
line ตรูก็เก่า
facebook ก็เก่า
twitter ก็เก่า
อัพไม่ผ่าน เพราะติดรหัสของร้านตู้
คนที่ต่อต้านการลงแอพแท้ โดยเสียดสีว่า เอ็งก็เคยใช้ของเถื่อน อย่าทำตัวเป็นพระเอก
ผมว่า คนพวกนี้ มันไม่เข้าใจประเด็นอย่างถ่องแท้ ขอร้องเลย อย่าหลุดประเด็นดีกว่า
แอพเถื่อน แอพตู้ที่พูดถึงกันอยู่ มันคือตัวปัญหาหลัก ของการใช้ไอโฟนได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
เพราะแอพพวกนี้ พอจะอัพเดทแล้ว มันดันไปติดรหัสผ่านของทางร้าน
ปล. ผมใช้วินโดว์ไม่แท้ / แต่ผมไม่ได้ขายงานใดๆที่ผลิตจากวินโดวส์เถือนตัวนี้
อีกประการเนื่องจากผมใช้แมคเป็นหลัก
ก็อยากให้พวกท่านที่หากินกับแอพตู้ทั้งหลายใจร่มๆ ครับ ทำความเข้าใจนิดนึงว่า
คนที่ลงแอพ facebook ฟรี จาก app store เค้าอัพเดทได้ตลอดเวลา
อัพได้ทันทีเพราะมี apple id
แต่แหม่ เฟสบุ้คตู้ ทวิตเตอร์ตู้ ติดรหัสผ่านของทางร้านอยู่นั่นแหละ อัพกันไม่ได้เลย
เค้ามองพวกเราตาละห้อย อัพกันเรียบร้อยแล้ว
ผมได้ช่วยเหลือคนไกล้ตัวผม เข้าใจไปแล้วหลายคน ซึ่งเค้าผ่านการลงแอพเถื่อนมา
แล้วเค้าก็ยอมรับความจริง ว่าเพิ่งจะมารู้คุณค่าของการสมัคร apple id ในตอนหลัง
เพียงในไม่กี่วัน เห็นใช้ไอโฟนเครืองเดิม แต่ได้มุมมองใหม่ๆ กันเลย
ใช้ apple id กันอย่างยิ้มแย้ม และพร้อมจะหันหลังให้แอพเถื่อนกันทุกคน
เค้าพูดกันอย่างนี้ครับ
"แอพจ่ายเงิน แต่ได้มาฟรี สุดท้ายแล้ว แม่ง ใช้จริงไม่กี่ตัว โดยเพาะเกมที่ความจุ 1 -2 Gb ลบหมด
ส่วนแอพแท้ที่เราซื้อ ตอนนี้ แม้ว่าอีก 2 นาทีต่อมาจะลบออก มันก็ยังเป็นแอพแท้ ที่อยู่ในสังกัด apple id ของเรา
ลบไปแล้ว เอากลับมาลงใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ โดยไม่ต้องเสียเงินซ้ำสอง
แอพแท้ ที่เคยซื้อ หากลบไปแล้ว ของแท้ จะเก็บอยู่ในเมนู app ที่เคยซื้อ --> App Store > Updates > Purchased
ส่วน iPad ที่อยากลงแอพตรงกันกับ iPhone เช่น Hayday ไอดีเดิมจาก Game center
ให้เข้าที่ App Store > Updates > Purchased > Not on This iPad
เจ้าของร้านแอพตู้คนใหนที่ว่าเจ๋งจริง พวกนี้อาจสำคัญต้วผิดไปมาก
ถ้าไปเขียนแอพขายเองได้เงินเป็นกอบเป็นกำ (โดยไม่ถูกร้านเถื่อนแย่งฐานลูกค้า)
แล้วผมจะยอมรับว่าเจ๋งจริง
ใครที่บอกว่าเทพเรือง ระบบ iPhone app จริง
มาเจอกับผมสิ ผมจะถามว่าพวกคุณเคยเจอเรื่องราวแบบผมมั้ย
ภายในอาทิตย์เดียว ผมได้ช่วยให้คนที่เจลเบรกกลับใจได้ รวม 11 คน
เผลอ ๆ ใน 11 คนนั้น อาจเป็นลูกค้าร้านเถื่อนอย่างพวกคุณก็ได้
ถ้าพวกคุณคิดว่า ร้านตู้ ช่วยพวกเขาได้เยอะจริง แล้ว 11 คนนี้ จะมาหาผมทำใมครับ
เค้ามาหาผม เพื่อเอาอีเมลร้านคุณออก แล้วให้ผมล้างเครื่อง รวมทั้งสอนการสมัคร apple id แบบฟรีให้
เพราะผมได้บอกกับเขาว่า วันข้างหน้าถ้าจะซื้อ iPad หรือ iPod touch เพิ่มเติมละก็
แอพที่เคยซื้อ ใน iPhone มันไปโผลใน iPad และ iPod ด้วย
ซื้อทีเดียว คนในบ้านที่เหลือได้ใช้ด้วย ครอบครัวเดียวกัน รหัสผ่านเดียวกันได้
พอเค้าได้ทำความเข้าใจอย่างนี้
ต่อมาเค้าก็เอาไปคุยต่อกันปากต่อปาก
กระทั่งเวลานี้ ผมได้กลายเป็นที่ปรึกษาเฉพาะทางไปแล้ว
ในฐานะที่ผมเป็นแฟนแมคมานาน ใช้แมคบุ้ครุ่นแรก ที่เพิ่งเปิดตัว ซื้อจากร้าน Mac cafe ซอยอารีย์เมื่อหลายปีมาแล้ว
ผมอ้างได้ว่า ผมชำนาญเรื่องการใช้ เรืองการป้องกันปัญหายิบย่อย แต่ไม่เก่งเรื่องซ่อม
ผมให้การสนับสนุนในการเรื่องนี้ โดยไม่รับผลประโยชน์ใดๆ ผ่านทางไลน์ และเฟสบุ้คเพจมาระยะนึงแล้ว
เพราะผมได้อานิสงส์ ยิ่งสอน เราก็ยิ่งชำนาญอยู่แล้ว
ถ้าจะรับ ก็จะรับก็แต่ สตาร์บัคส์ที่เค้าซื้อเลี้ยง แต่ไม่รับเงินอย่างเด็ดขาด เขาบอกว่าไม่ต้องเกรงใจน่า
ผมบอกเขาว่า คุณแค่ถูกเกลี้ยกล่อมในฐานะลูกค้าร้านเถื่อน ผมแค่ชี้ทางสว่างให้ ผมรับเงินไม่ลงหรอก
ผมยังมีประเด็นที่ไม่สามารถเปิดเผยในที่สาธารณะได้ เกี่ยวกับคนที่ ไม่ยอมใช้ apple id ของตัวเอง
แต่ดันไปลงแอพเถื่อนจาก แอพตู้ จึงเกิดปัญหาเรื่อง iPhoto / iclound / note app /
แอพเหล่านี้ถูกใช้เป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ ขโมยรูปส่วนต้ว วีดีโอส่วนตัว และ
คัดลอกข้อมูลใน note ของลูกค้า ไปหาประโยชน์
โดยมิจฉาชีพบางคนที่เปิดบริการลงแอพเถื่อน แบบไม่ซื่อ (ใครไม่ทำ ก็แล้วไป แต่ใครทำอยู่ ผมรู้ทัน)
ท่านที่อยากรู้ประสิทธิภาพของการมี apple id ก็คุยกับผมได้ ในเพจ fb.me/iphonethep
ฝากไลค์ ฝากแชร์ ช่วยส่งข่าวสารไปถึงพวกเขา ให้มาคุยกับผม และชาว macthai blognone
เบื้องต้นก็มาคุยกันเรื่อง find my iphone / icloud / หรือ แม้แต่ การ Buy Gift เพื่อ
ส่งแอพแท้ ให้คนที่ตัวเองรัก / อย่าปล่อยให้คนที่ตัวเองรัก จมอยู่กับปัญหาเดิมๆ เช่นรหัสผ่าน และ อีเมล ของร้านเถื่อน
รวมทั้ง รูปบนไอโฟนทุกรูป ของคนรัก อาจตกไปอยู่ในมือมิจฉาชีพ
ผมขอขอบคุณนักพัฒนาแอพชาวไทยทุกท่าน จากใจจริงของผมเลย นับถือในความพยายามขั้นสูง
เพราะ Objectice-C ถือว่ายังใหม่มากสำหรับคนไทย ผมยกนิ้วให้สำหรับคนที่เขียนได้ ขายได้
แม้พวกท่านทำมาหากินของท่านตามวิสัยของท่านเอง
แต่แอพที่ท่านได้พัฒนาทั้งฟรี และขายนั้น
ก็ช่วยให้ผู้ใช้ได้ทำมาหากินด้วยอีกทางหนึ่ง เช่น shopspot หรือ wongnai และ app อื่นๆที่อาจกล่าวได้ไม่หมด
ขอประกาศตัว เป็นแนวร่วม macthai blognone เพื่อส่งเสริมให้ชาวไอโฟน ให้หันมาใช้ apple id ของตัวเอง
ที่ใหนมีดราม่า เรื่อง พวกร้านเถื่อน มาด่าคนที่ซื้อแอพแท้ แวะมาบอกที่เพจผมได้ ผมยินดีไปช่วยแชร์ข้อมูลที่ถูกต้อง
และอย่านอกประเด็นครับ โปรแกรมเถื่อน ใครๆก็ใช้กัน
แต่หากคุณคนใดมาเถียงว่า คนซื้อแอพแท้ คือพวกโง่ ผมว่า คุณโชว์โง่ขั้นสาหัสเสียแล้ว
โง่คนเดียวไม่พอ ยังสะเออะ เกลี้ยกล่อมลูกค้าให้โง่ตาม
หวังว่า ค่านิยมผิดๆ จะหมดจากสังคมไทยในเร็ววัน
** เรื่องนี้รีบเขียน พิมพ์ผิด ตก ตรงใหน แจ้งด้วยครับ จะได้แก้***
ตรงไหนเป็น URL เว็บก็ใส่เป็น Link หน่อยก็ดีครับ ถ้าไม่ได้ตั้งใจอ่านจริงๆ จะไม่เห็น URL เว็บเลยครับ
ครับผม
นี่ครับ มือใหม่ สอบถามเรื่อง apple id กันที่นี่ได้
แจ้งความเชื่อผิดๆ มาทางเพจนี้ครับ แล้วผมจะไปช่วยทำความเข้าใจให้ถูกต้อง
+1 โอ้ว ท่านนี้ร้อนแรงบุงเบย
+1
ขยันพิมพ์นะครับ ผมก็ขยันอ่าน เห็นด้วยครับ
ชอบครับ ขอปรบมือ(ในใจ)ให้เลย
1.เพราะผู้บริโภคขาดความรู้จริงๆ บางคนก็แค่อยากได้iDeviceตามๆคนอื่นหรือตามกระแส
ผมเคยเจอเพื่อนเหมือนกันที่ใช้iDeviceแล้วดันไม่รู้จักAppleID(ได้ไงฟระ?)#FACEPALM
2.อุปสรรค คนบางคนอาจไม่มีบัตรเครดิตโดยเฉพาะกลุ่มวัยเด็กหรือวัยรุ่นที่ต่างก็พกiDeviceกัน
แถมบ้านเราไม่มี iTunesGiftCardขาย ส่วนในผู้ใหญ่วัยทำงาน
บางคนอาจไม่กล้าเสี่ยงที่จะใส่บัตรเครดิตลงไป กลัวจะเกิดปัญหาตามมาหรือไม่มีความรู้เกี่ยวกับด้านนี้จริงๆ
3.การแก้ไขปัญหาก็คงต้องขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เองนั่นคือผู้ใช้ตระหนักในเรื่องลิขสิทธิ์หรือไม่
และมีความเข้าใจในเรื่องการซื้อขายมากน้อยแค่ไหน
ผมเห็นหลายเว็บ ให้บริการ แนะนำการสมัครไอดีแบบฟรี ใครมีไอดีแบบฟรีแล้ว ถ้าอยากซื้อของแท้บางตัวที่จำเป็น ร้านเหล่านี้ก็เป็นตัวแทนซื้อให้ โดยทำการซื้อแอพให้ผ่านระบบ Gift box ส่งไปยัง apple id ปลายทางของลูกค้า ซึ่งลูกค้าก็โอนเงิน แล้วก็รอรับ "แอพแท้" ในอีเมลตัวเอง
ร้านแบบนี้ ผมว่า ยังประเสิรฐกว่า การลงแอพตู้ หนำซ้ำ แอพตู้นอกจากค้ากำไรเกินควรแล้ว ยังไปดราม่า ด่ากราด ว่าคนอื่นเขาไม่รู้จริง
ผมว่า เจ้าของร้านแอพตู้ ถ้ารู้จริง ควรเลือกใช้วิธี สอนเค้าสมัคร apple id ที่หน้าร้าน แล้วถ้าอันใหนลูกค้าคิดว่าจำเป็นต้องซื้อ เจ้าของร้าน ก็ซื้อแล้วส่ง ไปยัง apple id ปลายทาง ตามระบบ ไม่ใช่ซ่อนความลับเรื่องการสมัครฟรีได้ เอาไว้แล้วขายแอพเถื่อน ถ้าหวังดีกับลูกค้า ก็สอนเค้าสมัคร apple id ซะตรงนั้นเลยสิครับ
ถ้าแบบนี้ ไม่ผิดเงื่อนไข ไม่ละเมิด แฟร์ๆ กัน จะคิดค่าแรงก็ย่อมได้
แต่ประเภทซื้อแอพโดย id ตัวเอง แล้วไปขายต่อให้คนอื่น ไปยัดไอดีตัวเองลงไปในเครื่องชาวบ้าน แบบนี้ ต้องประณาม
1.คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้วิธีลงแอพที่ถูกต้องครับ
2.ไม่มีบัตรเครดิต
3.ขี้เกียจ
วิธีแก้:ผมคิดว่าเราควรให้ความรู้ว่าวิธีลงแอพที่ถูกต้องทำอย่างไร หรือ จัดอบรมก็ได้ครับ
ขี้เกียจไปอบรมครับ - รู้สึกวุ่นวาย - อบรมเรื่องไอที เข้าไปก็ฟังไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จะไปทำไม
เห็นด้วยครับ ผมว่าการตั้งกระทู้สอนหรือเขียนบล็อกสอนดูจะย่อยง่ายกว่า
ผมคิดว่า ต้องคิดครับ เขียนวิธีไป คนไทยจะอ่านหรือเปล่า จัดอบรมไป คนไทยจะไปสักกี่คน ผมคิดว่าควรจะสอนวิธีการลงแอป+เพลง และสมัคร App Store Free Account ให้กับทุกคนที่ซื้อเครื่ิองจากศูนย์ตั้งแต่วันที่ซื้อเครื่องเลยครับ
ผมเชื่อว่าคนที่สามารถสมัครอีเมล์เองได้ จะสามารถสมัคร Apple ID เองได้นะครับ แต่ที่ลงแอพตู้ส่วนใหญ่จะขี้เกียจสมัครอีเมล์ และขี้เกียจหาเลข VISA มาใส่ใน Apple ID ด้วยเหมือนกัน รวมไปถึงยังไม่เคยลงเพลงผ่าน iTunes เองสักครั้ง (พอทำให้ดูก็ร้องอ๋อ แล้วก็ทำได้เลย)
เอาไว้เรามาจัดทัวร์ สมาคมนักพัฒนาซอฟท์แวร์ไทย เอาใบปลิวไปแจกตามห้างมาบุญครองทุกวันเสาร์อาทิตย์กันดูมั้ยครับ 555
อาจจะโดนมาเฟียหิ้วได้เหมือนกันแฮะ อาชีพประเภทขายของพวกนี้มีมาเฟียหนุนอยู่เยอะอยู่เหมือนกัน
แจกใบปลิวรณรงค์ไม่ลง app ร้านตู้ แจกให้ร้านตู้!!
"ขี้เกียจ" ครับ ง่ายๆ เพื่อนผมทั้งนั้น ซื้อปุ๊บเดินเข้าร้านตู้ปั๊บ ถามว่าทำไมไม่ลงเอง มันบอกว่า "ไม่เอาอ่ะ ขี้เกียจทำ ยุ่งยาก ใช้เป็นอย่างเดียว ได้แอปเยอะดี" -___-
สรุปสั้นๆ ด้วยคำว่า "มักง่าย" น่าจะเหมาะสมครับ
คำนี้ได้ใจผมที่สุดตั้งแต่อ่านมาเลย ท่าทางใจสองเราจะตรงกันสักทีนะครับ
ขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นสักขีพยาธิในงานมงคลของเราทั้งสองด้วยครับ
ตือ ตือ ตือ ตือ... ตือ ตื้อ ตือ ดือ... ตือ ตือ ตือ ตื้อ ตือ ตือ ตือ ตือ ตือ ตือ
//เพลงงานแต่ง
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ดีใจที่ได้กันนะครับ ♥
ฮาฮา
ยินดีด้วยครับ หากันจนเจอ นะครับ
ต้องขอบคุณ ท่าน เจดี ด้วยที่สร้างโอกาสนี้ขึ้นมา
ท่านเจดีเป็นผู้มีพระคุณเลยครับงานนี้
แต่ถ้าท่านเจดีไม่โผล่มาแล้วไม่มีงานนี้ จะเป็นพระคุณยิ่งกว่านี้ครับ!!!
─ = ≡ Σ ( ( ( つ •̀ ω •́ ) つ ─=≡Σ((( つ•̀ω•́)つ
เป๊ะอะ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ส่วนมากคนชอบของฟรีครับ ความโภลเป็นบ่อเกิดแห่งการเสียทรัพย์ บทเรียนหลายครั้งมีให้เห็น ในฐานะคนไอทีที่ทำ blog หรือเพจใน facebook เราควรสร้างความรู้และความเข้าใจให้กับคนที่ยังไม่รู้หรือมีึวามเข้าน้อยในการสร้างบัญชีการใช้งานไม่ใช่แต่เฉพาะ iOS เท่านั้น แต่ยัง Google Account, Microsoft Account เรื่องง่าย ๆ สำหรับเรา อาจจะเป็นเรื่องยากของคนทั่วไป ขอฝากเพื่อนไว้ด้วยนะครับ
ถ้า Apple จำกัดจำนวน iDevice ที่ลงต่อหนึ่งไอดี ซัก 10-20 Device น่าจะป้องกันการหาประโยชน์จากการรับลง App ได้ในระดับนึง และไม่น่าจะมีผลกระทบกับผู้ใช้ทั่วไปเท่าไหร่เพราะคนๆ หนึ่งไม่น่าจะมี iDevice เยอะขนาดนี้ และยังสามารถลง App ให้ญาติหรือคนรู้จักได้เหมือนเดิม
ถ้ามันง่ายพอ มันก็ไม่ต้องไปพึ่งใครครับ
สำหรับประเทศที่คนไม่ได้มีบัตรเครดิตกันทุกคน กว่าจะเชื่อมต่อทุกอย่างจนสามารถจ่ายเงินซื้อแอพใน store ได้ "ง่าย" อย่างที่มันควรจะเป็น บางทีก็ยากเย็นเหลือเกิน ผมใช้แอนดรอยด์และอยู่กับแอพฯ เถื่อนอยู่นานมาก จนกระทั่งเริ่มมีเหตุให้ต้องรับ-ส่งเงินข้ามประเทศ ถึงได้มาเจอวิธีพาวงบัญชี-จ่ายเงินซื้อแอพ - ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้แพง ลดราคาก็บ่อย สมัยเกม java, Symbian ก็ราคาแถว ๆ นี้+ค่า Data สุดแพงสมัยก่อน ดีไม่ดีตอนนี้จะถูกกว่า
รวมค่าแอพฯ ในบิลค่าบริการ, หักเงินทันทีกรณี prepaid, ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องช่วยกันให้ข้อมูล, ร้านแอพฯตู้ ปรับธุรกิจตัวเองไปเป็นโมเดลอื่นที่ไม่รังแกเอาเปรียบคนทำงานคนอื่น(มันมีแหละครับ อุตส่าห์คิดวิธีโกงแบบนี้ขึ้นมาได้ เอาสมองก้อนเดิมแหละ คิดอะไรดี ๆ แทน) เราน่าจะผ่านเรื่องนี้ไปได้ทุกคนครับ
ผมก็ไม่เห็นว่าต่างประเทศเค้าจะมีปัญหากันนะครับ ของพวกนี้ทำครั้งเดียว
จริงๆ แล้วถ้าพูดถึงภาพรวมของการใช้ของเถื่อน เอาง่ายๆ แค่ Windows, MS Office สองตัวนี้อยู่คู่คนไทยมาเกิน 10 ปีแน่นอน ซึ่งมันซื้อง่ายมากๆ จ่ายเป็นเงินสดก็ได้ แต่ผมก็เห็นว่าคนส่วนมากไม่ซื้อนะ ก็เห็นว่าใช้ของเถื่อนกันเป็นปกติ
แต่ผมว่าแนวคิดที่บอกมาก็น่าสนใจครับ ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้ามันง่ายขนาดที่บอก แล้วคนใช้ของแท้จะเพิ่มขึ้นรึเปล่า
แต่ผมไม่รู้ว่าจะมี operator เจ้าไหนอยากลองด้วยรึเปล่าน่ะสิ (ที่ค่อนข้างแน่ใจคือแอปเปิลคงไม่ยอมหั่นรายได้ของตัวเองไปให้ operator เป็นแน่)
ให้เทียบตรง ๆ กับ Windows, Offic (บวก Photoshop ด้วยก็ได้ สามสิ่งที่ก็อปเกลื่อนที่สุดในโลกา)ผมว่าไม่น่าได้ครับ อันนั้นมี gap ความห่างราคาของจริง-ของก็อป ที่ต้องจ่ายอยู่เยอะมาก แต่การจ่ายเงินซื้อแอพฯ ผมว่าราคามันรับได้ในทุกทุมนะครับ จ่ายครั้งเดียวเป็นเจ้าของตลอดไปซะด้วย(เออ เป็น tagline ที่น่าโปรโมทเนาะ)
เอาจริง ๆ การเดินไปหาร้านแอพฯตู้ ก็เป็นการ "จ่ายเงินเล็กน้อยเพื่อแลกกับความสะดวกสะบาย" นั่นเอง ไม่ได้ต่างจากการซื้อแอพฯ จริงเลย ขาดความเข้าใจ ขาดมุมมองที่สอดคล้องความเป็นจริงมากกว่า
เห็นด้วยเลยครับ ผมเองก็อยากรู้นะ ว่าถ้าจ่ายเงินโคตรง่ายแล้วท่านๆ ทั้งหลายจะยังมักง่ายอยู่มั้ย
ผมเชื่อว่าคนจะใช้แอพแท้มากขึ้นนะครับ
ถ้า "มักง่าย" แปลตรงตัวว่า "ชอบง่าย ๆ" ผมก็คนมักง่ายคนนึงล่ะครับ ใครจะไม่ชอบ ^^
คืออยู่ดี ๆ ไม่มีใครอยากปล้นใครขโมยใครนะผมว่า ยิ่งเงินแค่สามสิบหกสิบบาทด้วยเนี่ย เพียงแต่ไอ้การ "ลงแอพตู้" มันถูกฉาบน้ำตาลจนคนไม่รู้สึกว่ากำลังทำเรื่องเลวร้ายอยู่ ตรงนี้ก็ต้องพยายามให้ความรู้กันไปครับ ซึ่งมันจะไม่ง่ายแน่ ๆ มันจะเหมือนสอนเด็กดื้อ ๆ คนนึง ว่าไอ้ที่เขาทำเขาเชื่ออยู่มันผิด เขาจะเถียง จะเดินหนี จะไม่ฟัง จะเกรียนจนเราอยากด่าว่ามันโง่ดัง ๆ แล้วเดินหนีไป - แต่เราต้องไม่ทำ ต้องอดทนสอน อดทนพูดคุย จนกว่าเขาจะเข้าใจ
แหม่ เขียนแล้วอิน ลูกชายเพิ่งเริ่มดื้อ ^^
ผมเคยทะเลาะ กับแฟน เพราะเรื่อง ที่ไปบอกว่า มันไม่ดี เดียวสอนให้ เค้าก็ไม่ยอม จะเอาลงแอพตู้ให้ได้ ก็ไม่รู้จะทำไง ก็ปล่อยไปตามกรรม
ซื้อ apps แล้วจ่ายเงินกับ operator นั้นก็ดีครับสะดวกดี แต่ก็ได้แค่สะดวก จบ...
ผมคิดว่ามันยังไม่มีประโยชน์เท่าการที่คนไทยซื้อของ online ได้และซื้อเป็น ... ถ้าขั้นตอนทำบัตร debit credit มันทำได้ง่ายๆกว่านี้ ลงทะเบียนอะไรใดๆให้มันง่ายๆกว่านี้ (เช่น ใช้แค่บัตรปปช + ลายนิ้วมือ สมัครได้ทุกอย่าง) และปรับพฤติกรรมคนไทยในเรื่องของการซื้อของ online ให้ดีขึ้น (ปลูกฝังค่านิยมมาตั้งแต่อายุน้อยยิ่งดีครับ) ผมว่าดูจะมีประโยชน์กว่า เพราะยังไงมันได้ซื้ออย่างอื่นผ่าน internet ได้ด้วย ไม่ใช่แค่เฉพาะ apps ซึ่งวิธีนี้ัก็ยังจะส่งผลให้ตลาด e-commerce ในไทยคึกคักขึ้นแน่ๆ win ทุกฝ่ายครับ
สำหรับผม ผมว่าหนึ่งปัญหาคืออยากได้ รุ่น try แบบเต็มออฟชั่นอาจจะจำกัดวัน เป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆยิ่งถ้าเป็นแอพแพงๆหน่อยตั้งแต่ 3$ ขึ้นไป เคยลงร้านตู้ครั้งนึงเพื่อจะลอง สองสามแอพ นี้หละฮะ
ผมไม่เห็นด้วยกับ App ตู้เป็นอย่างยิ่งครับ ผมว่าการแก้ไขอาจจะต้องเริ่มจากการทำ WorkShop ให้คนเข้าใจว่าการทำ Apple ID มันง่ายมากๆ ครับ โดยการจะเริ่มต้นจากการจัดกิจกรรม WorkShop จาก Operation ต่างๆ รวมถึง Reseller ที่จำหน่าย iOS Devices มาสอนการสร้าง ID และ Dowload Application แท้จาก App Store แต่จากที่เคยเห็นในข่าวถึง Reseller บางรายถึงขั้นเก็บค่าใช้จ่ายในการสมัคร Apple ID ทำให้ Users คิดว่ายากครับ
ตอนสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นยึดประเทศ ใครขโมยของทหารญี่ปุ่นโดนจับทรมานเอาน้ำมันกรอกปาก น่ากลัวฉิบหาย พี่ไทยก็ไม่วาย ตั้งกลุ่ม "ไทยถีบ" คอยถีบขโมยของบนคาร์โก้รถไฟญี่ปุ่น
แล้วนักพัฒนาซอฟท์แวร์ไทยเป็นใครมาจากไหน หวังจะไปแก้นิสัยผู้บริโภคไทยใน พ.ศ. นี้
ไหนๆ ก็เกิดเป็นคนไทย ก็ใช้ทักษะพิเศษ "ความลื่น" ของเรา ปรับตัวเอาตัวรอดในวงการซอฟต์แวร์ดีกว่า ถ้ารักจะเอาดีด้านขายแอ็พกินในไทย ทำอย่างไรดี?
อย่าขาย paid app แบบ self-contain เด็ดขาด เพราะร้านตู้ซื้อทีเดียว แจกทั้งหมู่บ้าน
ถ้าขาย paid app ก็อย่าหวังเอารายได้จากตลาดไทยมาคำนวณ
ถ้าเป็นแอ็พทุนต่ำ ให้ขายโฆษณาแทน (ซึ่งรายได้จริงๆ ก็ไม่พอยาไส้เท่าไหร่ ยกเว้นโฆษณาแบบขายเอง)
ถ้าเป็นแอ็พทุนสูง แล้วต้องขายในไทย ให้แปลงโมเดล หาทางขาย subscription หรือ content ด้วย in-app-purchase ให้ได้
4.1 อย่าทำ virtual goods แบบขายขาด ให้ผูกกับ backend ตลอด
4.2 เมื่อผูก backend ไว้แล้ว ถ้าเป็นสินค้า non-consumable แต่ละครั้งที่มีการ download จากเซิฟเวอร์ ให้บันทึก user id (google, facebook, etc.) และ device's vendor UID ไว้ตลอด
4.3 ถ้าหมายเลย receipt ไหนมีการ re-download ซ้ำๆ เยอะผิดปกติ ก็แบนไปเลย แอ๊พฟรี แต่ไม่มีคอนเทนท์ให้จ้ะ
5 . ถ้ากลุ่มลูกค้าไม่มีบัตรเครดิตซื้อสินค้าในแอ็พ ให้เปิด html page ข้างนอก ทำสโตร์ขึ้นมา ขายด้วยโอนเงินหรืออะไรก็แล้วแต่ แล้วเอารหัสมา redeem ในแอ็พได้ แต่ต้องอย่าลืมทำ in-app-purchase คู่ไปด้วย ไม่งั้นแอปเปิลไม่ยอม (และอย่าใช้ virtual currency เดี๋ยวจะโดนเหมือน Line)
6 . ?
ผมว่าแบบนี้น่าจะบอกได้ว่าทำบางคนยังชอบแอบตู้อยู่
Ask อันนี้มันก็มีที่มาจากบทความที่เป็นต้นเรื่องของดราม่ากันนั้นนั่นแหละครับ
น่าสมเพชครับ โกง dev กิน ยังจะมีหน้าว่าคนที่เขารณรงค์อีก
เค้าไม่อยากเป็น geek ก็เลยไม่เรียนรู้เพราะมีคนเป็น geek น้อย
เห็นใคร ๆ ก็ใช้ iPhone แล้วก็เห็นใคร ๆ ก็ใช้แอพตู้ อะไรเทรนดี้พี่ไทยก็จะเฮโลตามกันไป
เป็นเพราะการศึกษาไทยสอนให้ทำตาม ๆ กันครับ น้อยคนนักที่จะฝืนทำอะไรที่แตกต่างได้ ก็โดนล้างสมองตั้งแต่เด็กแล้วนี้ครับ
หลักๆเลย ชอบความสะดวกสบายครับ
เห็นด้วยครับว่าอันนี้เป็นหนึ่งในเหตผลหลัก
เท่าที่ผมเจอมีสองพวกคือ ลงแอพเป็นกับไม่เป็น พวกไม่เป็นนี่แหละไปขอให้ร้านช่วย แล้วได้รับคำแนะนำแบบนั้น
ขนาดจะเอาสติ๊กเกอร์ LINE ตู้ยังมีขายเลยครับ ผมมองว่า in app purchase นี่แหละน่าจะรอดมากที่สุดในไทย :P
อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ คนส่วนใหญ่ซื้อของแล้วอยากได้ของแถมด้วยครับ ซึ่งเวลาซื้อมือถือนอกจากได้รุ่นมือถือที่ต้องการแล้ว ของแถมเผลอๆ นี่คือองค์ประกอบหลักๆในการตัดสินใจซื้อเสียด้วย
ผมเจอบ่อยมากประเภทซื้อร้านนี้ดีกว่า ลดราคาเคส แถมฟิล์ม ลงแอพให้ฟรีอีก ประมาณนี้ครับ ร้านตู้ไหนให้ Service เยอะกว่าก็เลือกซื้อร้านนั้น
อย่าว่าแต่มือถือเลยครับ แค่ซื้อ MicroSD Card ยังแถมลงเพลง แอพ โน่นนี่เลยครับ
ถ้าผู้ซื้อทราบถึงข้อเสียหรือมีความรู้ในเรื่องเหล่านี้บ้าง ผมว่ามันคือการแก้ไขปัญหาที่ถูกจุดครับ
มีเพื่อนผมอ้างว่าแอปมันแพง ไม่มีเงินซื้อ แต่มีเงินซื้อไอโฟนผมเลยเรียกมันว่า พวกรายได้ต่ำ แต่รสนิยมสูง
+5 เหมือนพี่ที่ทำงาน แอพแพงไม่มีตังค์ซื้อ ซื้อเครื่องมาตั้งแพงยังต้องมาซื้อแอพอีกทำไม
อะไรที่ได้ฟรีได้ คนไทยก็จะเอาฟรีครับ ตัวเครื่อง iphone ถ้าเอามาฟรีได้ ก็คงจะไม่ซื้อกัน ไม่งั้นคงไม่ตั้งตาส่งรหัสใต้ฝากันขนาดนี้ ส่วน Software มันเหมือนจะเอามาฟรีได้ และไม่คิดว่าเจ้าของเขาจะเดือดร้อนอะไร ก๊อบปี้คือทำซ้ำ 1เป็น 2ไม่เหมือนขโมย 1 เป็น 0 นะ ก็คิดซะว่า 500 จ่ายให้กับผู้ให้บริการโหลด แต่ก็ไม่ได้คิดว่าเงินที่เสียนั้นเป็นค่า Software แต่อย่างใด ซึ่งมันรวมไปทุกระบบล่ะครับ
ผมว่าจริง ๆ น่าจะมีอีกคำถามนะครับ นั่นคือ
จริงๆที่เหมาะน่าจะเป็นแบบหลัง แบบเจ้าของร้านตู้พาเจ้าของเครื่องสมัครและสอนลง App + เน็ตตอนโหลดแรงๆ
จะคิดค่าสอนเท่าไหร่ก็จัดไปเลย คนถามอยากถามอะไรก็จัดไป
สอนนี้ตัดเหลือแค่ search ชื่อแอพแล้วกดลงเลยนะครับ ยาวกว่านั้นเค้าจะไม่ฟัง - -"
ขนาดตัดจนสั้นแล้วบางทียังไม่เริ่มยังโดนปฏิเสธนำมาก่อนเลย
ปัญหาไม่มีความรู้ไม่นานก็หายไปครับ เพราะ user จะถึงจุดอิ่มตัว จะเป็น user หน้าเก่า ซึ่งก็จะเข้าใจความหมายของ ID แต่จะติดตรงขี้เกียจศึกษาต่อ และความเคยชินที่อาศัยอยู่บนประเทศ บุฟเฟ่ คิดว่าได้เยอะที่สุดคือคุ้มที่สุด
วิธีแก้ไข ไม่มี ครับ!
มีครับ แก้ที่คนคุมกฎ
ผมโทษเรื่องที่ผู้รักษากฎหมายไม่ค่อยรักษากฎหมายเนื่องจากสังคมเราเป็นแบบนี้ผู้รักษากฎหมายเลยเป็นแบบนั้นให้เป็นความผิดของผู้รักษากฎหมายเสมอมา (เหมือนเป็น loop deadlock แต่เลือกว่าใครผิด)
^__^ หมายถึงนิสัยครับ 555
ผมว่าถ้าคนคุมกฎบีบบังคับให้เราทำถูกไปเรื่อย ๆ นิสัยมันก็ติดมาไม่มากก็น้อยล่ะครับ
แต่คงนานมาก ๆ ล่ะนะ
คนส่วนใหญ่เขาสมัคร บริการอะไรที่มันมีความวุ่นวายมากไม่ได้หรอกครับ เอาแค่ให้พ่อผมแชร์ไวไฟ จากมือถือแอนดรอย ผมบอกพ่อจะร้อยรอบอยู่แล้ว ส่วนเพื่อนผมนี่ แค่พับจอโน๊ตบุ๊กไม่ให้ดับให้ผมเซ็ตให้ เจอไม่รู้กี่รอบ แต่จะไปว่าเขาก็ไม่ได้นะคนมันทำไม่ได้ก็ทำไม่ได้จริงอะ
จริงๆแล้ว Apple ต้องมีจุดให้บริการ สมัคร Apple ID(พร้อมจดรหัสผ่านแนบใส่กล่องให้ไปด้วยเพราะคนส่วนใหญ่จะลืม) แล้วก็จัดการ Internet bank ให้เสร็จนะตรงนั้นเลย ถ้าคนนั้นไม่มี บัตรเครดิตแล้วต้องการจะให้แอปเสียตัง
อีกวิธีที่คิดออก
ทำ vdo ใส่ในเครื่องเลยครับ เป็นไฟล์สาธิตการสมัครและโหลด
ฟังภาษาอังกฤษไม่ออก / ยาวไปไม่อ่าน / เสียงดังไม่ฟัง / ไม่ชอบคนสอน / ไฝใหญ่เกิน / VDO ไม่ HD
อ๊ากกกก
VDO ไม่ HD => ไม่ดู
VDO ใช่ HD => ต้องลบก่อน จะไปลงแอพตู้ ที่ไม่พอ
ผมเข้าใจว่าประเด็นมันอยู่ที่เค้าลงแอพตู้ตั้งแต่ซื้อเครื่องเสร็จ ยังไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น
จริงๆ ถ้าเกิดไม่เป็นอะไรเลย และคิดจะลง App ตู้ ผมคิดว่า อย่างน้อยควรรู้เกี่ยวกับ Function Find My iPhone นะครับ
ไม่งั้นสมัยนี้โดน Lock เครื่อง หรือโดนติดตามตัวยุ่งเลย ยิ่งสาวๆ น่ารักที่เอาไปลง App ตู้ บางทีเค้าอาจจะลง Find My iPhone id เค้าไว้ก็ได้นะครับ ระวังๆ กันด้วย
ถ้าจะหาอะไรจูงใจศูนย์ดังให้ชวนลูกค้าสมัคร Apple ID อาจใช้ระบบ referrer (คล้ายๆ dropbox) เช่นถ้าร้านค้าสามารถชวนลูกค้าทำการ activate เครื่องใหม่ของร้านนั้นๆ ด้วย Apple ID ที่สมัครผ่าน referrer ของร้านค้านั้นๆ จะได้ค่า incentive เครื่องละ $0.5 ถ้า ID ที่สมัครนั้นผูกบัตรเคดิตด้วยจะได้ $1 ถ้า ID นั้นทำการซื้อแอพเสียเงินก็รับไปอีก $0.5 ต่อ ID (เฉพาะการซื้อแอพแรกเท่านั้น) เป็นต้น
กระทู้ระบายความในใจไหมนี่ยาวจริงๆ
คนไทยผมว่าส่วนใหญ่ ต่อให้มีความรู้ มีเงิน แต่ก็ยังซื้อและใช้ Smart phone ในแบบ Feature phone อยู่ด้วยหลายปัจจัยทางสังคม หลายคนเก่งใช้Social เป็นหมดแต่ไม่เคยอ่าน ไม่เคยมี id หรือแม้กระทั่ง mail (อาจมีแต่ไม่เคยใช้จริงจัง)
-- สรุป -- ปัญหาเกิดจากไม่เปิดสมองและขี้เกียจ อยากใช้แต่ไม่รู้จักตัวเองพร้อมพอที่ว่าใช้มันอย่างที่ควร
**ปล. ผมใช้มือถือ SS Galaxy mini ,iPad mini wifi ,Tab 8.9 สมัครด้วยตัวเองทุกอย่าง **
เหนด้วยหลายๆเลยครับ ฮ่าๆ
ไม่ใช่ทุกคนจะมีเครดิตการ์ดนะครับ ผมคนนึงที่ไม่เคยคิดจะทำ ต้องยืมของน้องสาวสมัคร apple id
ปล. ไม่ได้สนับสนุน software เถื่อนนะครับ แต่ไม่สนับสนุนเครดิตการ์ดมากกว่า
-สมัคร k-Cyber Banking ธ.กสิกรไทย แทนบัตรเครดิตได้
-สมัครบัตรบีเฟิร์ส ธ.กรุงเทพ แทนบัตรเครดิตได้
ยินดีช่วยซื้อให้ ในกรณีที่ใครใช้ apple id แบบ None credit card
-ถ้าไม่ชอบใช้บัตร แต่อยากซื้อแอพ บอกมาได้
เดี๋ยวจะซื้อให้ ถุกต้องตามระบบ Gift box ไม่เอากำไร ไม่เอาอะไรทั้งนั้น แต่อยากช่วย
จะได้รู้กันไปว่า มันง่าย แต่โอนค่าแอพมาด้วยนะ
ติดต่อทางทวิตเตอร์ inbox @iphonethep
อย่ากลัวคำว่า มันจะง่ายมากถ้าแค่ลงมือทำจริงๆ
ก็เพราะมันมีขั้นตอนยุ่งยากไงครับ คนจำนวนหนึ่งเลยหนีไปใช้บริการแอพตู้
ยังไม่เข้าใจว่ามีเหตุผลอะไรที่บังคับให้กรอกเลขบัตร กับขี้เกียจขายกิฟการ์ด
"ยังไม่เข้าใจว่ามีเหตุผลอะไรที่บังคับให้กรอกเลขบัตร"
แสดงว่ายังไม่เข้าใจว่า กรอกแบบไม่มีบัตรก็ได้ แต่ขั้นตอนกันสมัคร ต้องกดเลือกแอพฟรีก่อน
เคยอ่านวิธีการแบบไม่ใส่เลขบัตรแล้ว ขั้นตอนซับซ้อนยุ่งยาก ซ่อนเงื่อนมากๆ ครับ
ทำได้น่ะใช่ครับ แต่ทำไมต้องบังคับให้กดเลือกแอพฟรีก่อนล่ะครับ คุณตอบคำถามข้อนี้ได้มั้ย?
ผมรู้จักหลายคนที่หนีไปลงแอพตู้เพราะหาวิธีสมัครแบบไม่มีบัตรไม่เจอครับ
อ่านมาเปนร้อยความเห็นส่วนมากก็วนแค่เรื่องความไม่รู้ ขี้เกียจ ประหยัดตัง =_=~
วิธีแก้ ร้านที่ขายน่าจะมีบริการสอนโหลดแอพ+รับโหลดแอพ ไปด้วยเลยในขั้นตอนเดียว
สอนยังไงผมว่าก็เท่านั้นนะเพราะคนที่มีเงินซื้อส่วนนึงคือคนใช้ทั่วไปที่ไม่ต้องการเรียนรู้อะไรใหม่แล้ววไม่ชอบยุ่งยากเอาเวลาไปทำงานของตัวเองดีกว่า ส่วนตัวคือคนที่บ้านเองคือมีเงินซื้อและใช้เพราะเห็นว่าใช้งานง่ายแค่นั้น เป็นคนรุ่นเก่าคือกลัวอะไรที่เป็นการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินในระบบคอมพิวเตอร์ เช่น เลขบัตรเครดิต ชื่อจริง นามสกุลจริง ที่อยู่จริง ทุกอย่างที่ระบุว่าตัวตนเป็นใคร ก็จะไม่อยากยุ่งด้วย แค่มีเงินซื้ออะ เอามาทีเดียวจบไม่ต้องมายุ่งอะไรกับเค้ามาก มองแค่คือโทรศัพท์ และมีโปรแกรมที่จะใช้อยู่ในเครื่องก็พอละ
หลายสาเหตุครับ ตั้งแต่ ไม่รู้จัก ประมาณว่าซื้อไอโฟนแต่ไม่รู้จัก iOS เช่น
พวกซื้ออวด บ้าตามกระแส พวกใช้ตามที่เขาให้ใช้
, หัวโบราณ คนประเภทนี้จตะติดนิสัยจากสมัยที่มือถือแบบฟีเจอร์โฟนยังครองโลก เวลาจะลงเพลงต่างๆจะให้ร้านช่วยลงให้ จะเพลงแนวไหนก็ลงมาเถอะ ราคาเซ็ตละกี่บาทก็ว่ากันไป ( บางคนโดนไวรัสเล่นงานทางร้านก็ไม่รับผิดชอบ )
, ขี้เกียจ อันนี้ประเด็นหลักๆเลย(ตอนผมใช้ไอโฟนแรกๆก็ขี้เกียจนะ หุหุ )
,ซื้อเครื่อง เอาแค่เครื่อง อันนี้หลายๆคนอาจจะเป็นกัน เวลาซื้อเครื่องจะไม่ค่อยอ่านคู่มือ ซื้อมาก็เกาะถาดซิม ใส่ซิม สอดใส่กลับ เปิดเครื่อง ติดฟิล์มใส่เคส อวด บลาๆ ถ้าคนที่ชำนาญการแล้วอาจจะไม่เป็นไรเท่าไหร่ แต่ถ้าคนที่ไม่เคยซื้อมาก่อน หรือไม่มีความรู้เรื่องไอโฟนหรตือระบบต่างๆเลยก็อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไม่รู้วิธีการใช้แบบถูกต้อง
, เน็ตร์ไม่มี อันนี้อาจจะส่วนน้อยหน่อย เพราะไอโฟนอย่างทีืทราบนะครับว่าเน็ตร์เหมือนเป็นพลังงานหล่อเลี้ยงการทำงานของเครื่อง เวลาโหลดแอพหรืออะไรต่างๆก็ต้องใช้เน็ตร์อยู่แล้ว ถ้าไม่มีก็หมดสิทธิ์
, คนแก่ อันนี้อาจจะส่วนน้อยเหมือนกัน โดยเฉพาะในกลุ่มของคนอายุวัยเกษียณหรือวัย 50 ปลายๆไปแล้วแต่มีไอโฟนใช้ แต่ว่าไม่รู้วิธีโหลดแอพ พอถามลูกหลาน บางคนก็ดีจริงๆบอกให้ไปลงแอพตู้ตามร้านเอาสิลุง ราคาถูก ได้เยอะด้วย =_= และอื่นๆอีกมากมายเลย โดยสรุปแล้วก็ได้ 2 อย่างคือ " ไม่รู้ และ ไม่เห็น "