ในที่สุดแผนการเก็บเงินรายปีของ WhatsApp ก็ใกล้เริ่มต้นแล้ว โดยในอัพเดตล่าสุดได้เพิ่มข้อความระบุว่า WhatsApp จะเปิดให้ใช้งานฟรีเป็นเวลาหนึ่งปี หลังจากนั้นจะเริ่มเก็บเงินรายปี ปีละ 0.99 เหรียญ
แนวทางนี้ WhatsApp เคยพูดถึงมาหลายครั้งแล้ว แต่ผู้ที่ใช้งานมาครบหนึ่งปี (ตามที่ WhatsApp บอกว่าใช้ฟรีได้เท่านั้น) ก็ยังได้รับการต่ออายุอยู่ร่ำไป จนมาครั้งนี้ที่ประกาศอย่างเป็นทางการ พร้อมกับปรับเป็นแอพฟรีบน iOS เหมือนกับบน Android
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่มีผลใดๆ กับผู้ใช้เดิมบน iOS แต่อย่างใดครับ
ที่มา - TechCrunch
Comments
นโยบาย ฆ่าตัวเอง
ไม่ฆ่าตัวเองหรอกครับ
ลองคิดดูอย่างประเทศที่ whatsapp เป็นเจ้าตลาดอยู่ ถ้าจะให้คนเปลี่ยนไปใช้โปรแกรมอื่นก็คงยากอยู่
もういい
แล้วไม่ลองคิดถึงประเทศอื่นละครับ จากที่ลังเล ใช้หลายแอพอยู่ ต่อไปก็ เปลี่ยนมาใช้แอพอื่นหมด :D
ถ้าคุณหมายถึง คนที่ใช้อยู่ แล้วไม่คิดเปลี่ยนใจ สมมุติว่าเราจะเรียกคนเหล่านั้นว่าลูกค้าเก่า
และ สมมุติว่ามีคนอีกกลุ่มหนึ่งคือ ลูกค้าใหม่ ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจเลือก โดยที่การจ่ายเงิน
ก็เป็นอีกเหตุผลให้คนตัดสินใจ ว่าจะเลือกอะไร และเทียบกับความสามารถของแอพ
ถ้า whatapp เก็บรายปี แต่ไม่ได้เพิ่มความสามารถ ก็เท่ากับว่า ลูกค้าใหม่ ก็จะเลือกน้อยลง
ดังนั้น ถ้าเราสรุปได้ว่า การตั้งราคานี้ เป็นการ ลดการขยายฐานลูกค้าใหม่
และเก็บผลประโยชน์จากลูกค้าเก่าให้มากขึ้นกว่าปรกติ
แน่นอนว่า แนวโน้มลูกค้าเก่า ก็จะมีแต่ ทรง กับ ทรุด ไม่มีเพิ่ม ลูกค้าเก่าถึงจะซื้อ mobile ใหม่ แต่ก็ยังผูกกับ account เก่า
ดังนั้นถึงเขาจะมี mobile พร้อมกันสามเครื่อง ก็ไม่ได้หมายความว่า whatapp จะได้ 3 เท่าของการขาย
แล้วนโยบายนี้ ไม่เป็นการฆ่าตัวตายตรงไหนครับ
สังเกตุไหมครับ นโยบายในการขยายฐานลูกค้า ยกตัวอย่างเช่น ร้านอาหารจังค์ฟูด
ก็คือ ลด แลก แจก แถม
แต่การจ่ายเพิ่ม จ่ายต่อเนื่อง นี่ไม่ถือเป็นการขยายฐานลูกค้านะครับ
ผมถือว่าการเก็บรายปี เป็นข่าวร้าย
แต่ผมยังไม่เห็นข่าวดี เราอาจะต้องรอข่าวดี เช่น จ่ายแล้วเราจะได้อะไร
มันอาจทำให้เราเข้าใจว่ากขึ้น ว่ามันคุ้มค่าหรือไม่
แต่ถ้าจ่ายแล้วได้เท่าเดิมผมคนนึงที่ว่าไม่คุ้มค่า
MSN Messenger ฟรีและ (เคย) นิยมมากยังตายเลยครับ
ว่ากันตรง ๆ ผมว่ามันตายเพราะไม่ยอมทำแอพดี ๆ ลง smartphone นะครับ
ตายเพราะ Microsoft เองนั่นแหละครับผมว่า มีของดีๆอยู่ในมือไม่เคยจะเห็นค่า ทำอะไรก็อืดอาด
WhatsApp ก็ต้องระวังตัวเรื่องการผูกติดอยู่กับเครื่องเดียวด้วยแหละครับ
ส่วนตัวผมชอบ Skype, Hangout กับ FB Messenger มากตรงที่มันใช้ที่เครื่องไหนก็ได้ แต่ติดที่เพื่อนส่วนใหญ่ยังถนัดใช้แต่ WhatsApp กับ Line ก็เลยยังใช้ WA กับ Line มากสุด
ไม่ออกอะไรใหม่ก็เหมือนฆ่าตัวตายเหมือนกัน
ตั้งแต่ fb มี sticker ก็ไม่ได้ใช้ไลน์อีกเลย
แต่ก่อนผมชอบ whatapps นะเพราะผมใช้บีๆ
แล้วคุยกับเพื่อนได้ แล้วเครื่องไม่ค้างด้วย
คนที่ใช้ หรือรู้จักบีๆ คงมีความคิดว่า มือถือไรเนี่ย แพงแต่ห่วย
ไม่คิดจะทำ feature เจ๋งๆมาให้น่าเก็บเงินละคร๊าบ
เค้าก็เจ๋งพอจะเป็นแอพแชทยอดผู้ใช้อันดับหนึ่งนะครับ ให้เลือกว่าจะใช้อะไรคุยเป็นผมผมเลือก Whatsapp มากกว่า
เสียที่ว่าเลือกไม่ได้ :p
แต่เดี๋ยวนี้ความนิยมตก ถึงดีกว่าไลน์ แต่ไม่ม่คนคุยด้วยก็แย่นะครับ ผมว่ามันควรมี business model ที่ดีกว่านี้สำหรับแอพแนวนี้ เพราะต้องการ user มากๆ ยังไงควรฟรีไว้ก่อน
ฟรีไว้ก่อนนี่เค้าไม่มีรายได้เลยนะครับ LINE นี่ขายทั้งสติกเกอร์ เหรียญเกม Official Account ฯลฯ ซึ่งผมไม่ได้ต้องการเจอหนึ่งในสามอย่างนั้นเลย
เสียดายที่คนอื่นต้องการ
ผมก็ชอบ whatsapp มากกว่าเหมือนกัน
ผมมองว่า Subscription มันไม่เหมาะกับ App แบบนี้ เพราะคนมีทางเลือกที่ฟรีอยู่เยอะ และมันต้องการสร้าง User ให้เยอะที่สุด ถ้าไม่ฟรีแล้ว ข้อดีอื่นๆ ก็ถูกมองข้ามได้ครับ
ปล. ไม่ชอบ Line เหมือนกัน ถ้าไม่จำเป็นก็ใช้ตัวอื่นคุยแทน น่ารำคาญมากผมว่า
ผมก็ชอบสไตล์ WhatsApp มากกว่าครับ ไม่ต้องมีอะไรมากมาย คุยได้ คุยดี เร็ว เสถียร
เดี๋ยวก็มี Voice over IP แล้วนะครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ผมไมืเข้าใจว่าทำไมแอคเคานท์ผมไม่หมดอายุสักที พอใกล้ๆ หมดก็จะมีเมลมาบอกว่า ต่ออายุให้แล้วนะ (ซึ่งไม่เคยเสียตังค์ค่าต่ออายุสักบาท - -*)
Dream high, work hard.
เพราะเป็นในไทยรึเปล่าครับ? เค้าอาจจะไม่มีสัญญากับผู้ให้บริการ
ที่ผ่านมาเป็น Beta สินะ
ฟรีทั้งดาวน์โหลด ฟรีค่าบริการตลอดชีพ Windows Phone Win!!
อาจจะมีเหตุผลว่า "ต่อให้ไม่เก็บเงิน รายได้ก็ไม่ลดลงไปเท่าไหร่" ก็เป็นได้
แต่ WP ของผมมีวันหมดอายุนะครับ (ถึงแม้จะต่อไปเรื่อยๆ)
+1
Coder | Designer | Thinker | Blogger
อ้าว ผมนึกว่าเหมือนกันหมด หน้าแตกเลย (O_o)
ของผมก็มีหมดอายุครับ แต่จ่ายก่อนหมดอยู่เรื่อยๆ แต่หลังๆมานี่ปุ่มจ่ายเงินมันหายไปไหนไม่รู้
บนด๋อยของผมอยู่ๆก็เป็น Lifetime โดยไม่รู้ตัวเหมือนกันครับ
น่ายินดีกว่านั้นคือ มันเด้งบ่อยกว่าไลน์ (อาจเป็นเพราะไม่ได้คุยกับสาวๆ เลย T_T)
ปล.เอาจริงๆ เขาอาจจะวัดความศรัทธาก็ได้นะครับ ผ่านในระดับนึงก็แจก Lifetime
ห๊ะ วิธีคัดเลือกแบบนั้นเลยเหรอครับ - -"
ใช่ครับ สังเกตได้จากการเน้นความจริงใจโดยการแสดง last seen แทนการขึ้น read
แสดงให้เห็นชัดเจนว่า Whatsapp ใช้ความศรัทธาในการใช้งาน
#ซุย XD
มายืนยันครับว่า Windows Phone8 ใช้งานได้แบบ LifeTime เหมือนกัน
(ไม่ได้แคปหน้าจอมา เพราะขี้เกียจ) ^^" 555
ของผมมีหมดอายุอ่ะ หมดปี 2014
ของผม Windows Phone 7 ครับ :D
iPhone ของผมก็ขึ้น Lifetime
กดโหลดมาตอนมันปล่อยฟรีเมื่อหลายปีก่อน
ไอโฟนผมก็ขึ้นไลฟ์ไทม์เหมือนกันนะ พึ่งโหลดฟรีเมื่อวานด้วย ตกลงใครอ่ะ ที่ต้องเสียเงินรายปี
ผม Android เพิ่งได้ Lifetime เมื่อวานนี้เลยครับ ตอนแรกนึกว่าแจกทุกคนซะอีก ขึ้นเป็นข้อความมาว่าคุณได้รับอัพเกรดเป็น lifetime อะไรประมาณนี้
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เฉพาะผู้ใช้ใหม่หรอ งงจัง
ติดที่เพื่อนๆ ไม่ใช่กัน ผมว่ามัน เบาๆ ดี
สำหรับผู้ใช้คนไทย
WhatsApp คงจบเท่านี้แหละ
1 เดือนที่ผ่านมา whatsapp ผม ดัง 0 ครั้ง
ผมว่า feature มันน้อยไปหน่อย read status ยังไม่มีเลย อย่าว่าแต่สติ๊กเกอร์
read status มีนะครับ
ยืนยันอีกเสียงจากแอนดรอยด์เมด้าครับ
เอ ของผมไม่มีแฮะ
Windows Phone มีแค่เครื่องหมายถูกแบบสองชั้นอ่ะครับ ชั้นแรกคือข้อความเราส่งถึง server ของ Whatsapp ส่วนชั้นที่สองคือข้อความส่งจาก server ถึง client ของผู้รับ ถ้าเด้งที่เครื่องฝั่งนู้นแล้วก็ไม่มีอะไรบอกต่อจากนั้นแล้ว
ผมว่ามันเหมือน SMS ดีครับ ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวมากเกินไป ในอีกขณะก็สร้างความมั่นใจได้ว่าระบบส่งข้อความถึงหรือเปล่า
เรื่องละเมิดฯ มันมี last seen นะครับ โหดกว่า read นะผมว่า
หมายถึงอันนี้เหรอคับ ผมว่าไม่น่ามีนะ แค่บอกว่า ส่งข้อความไปแล้วเฉยๆ
http://www.whatsapp.com/faq/general/20951546
ผมเข้าใจมาตลอดว่ามันคือ read status นะเนี่ย ขอบคุณครับ
เอะ มันมีด้วยหรือครับ? รู้แค่ติกนึงคือถึงเซิร์ฟเวอร์แล้ว อีกติ๊กนึงคือถึงปลายทางแล้ว (ตามนี้)
Dream high, work hard.
มีread statusก่อน line จะเกิดซะอีกครับ
1ติ๊กคือข้อความถึง server
2ติ๊กคือปลายทางรับแล้ว ถ้าapp มัน active อยู่ก็จะเห็นเป็น2ติ๊กเพราะคิดว่าuserอ่านแล้ว
ถ้าไม่active มันก็จะแค่1ติ๊กไม่ใช่หรอ
ถึงเครื่องก็ 2 เลยครับ ไม่เกี่ยวกับว่าอ่านไม่อ่าน
+1 ตามเวบ Whatapps เลยครับ ติ๊กที่ 2 แปลว่าส่งถึงเครื่องแล้ว ไม่ได้แปลว่าอ่านแล้วครับ
ไม่รู้จะ Reply ใครดี เลย Reply ตัวเอง
สรุปว่านั่นแหละครับ มันไม่มี - -* คือมันเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในตัว แต่ผมชอบแบบมี Read status มากกว่า แบบ Whatsapp มันเหมือน SMS มากไปน่ะครับ
Whatsapp ผมหลอนมาก ไม่มีคนทักมาเลย
วันนี้ผมเพิ่งขึ้นข้อความว่าได้ปรับเป็น Lifetime เองนะนี่ หรือเก็บแต่กับผู้ใช้ใหม่ (Android)
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เอาออกจากเครื่องไปแล้ว รำคาญคนคุยด้วยก็ไม่มี ยังเด้งมาให้อัพเดทๆอยู่ได้ - -
Platform อื่นเขาเก็บตังรายปีกันมานานแล้ว มีแต่ iOS ที่ซื้อขาด การเปลี่ยนครั้งนี้ก็แค่เปลี่ยนให้เหมือน Platform อื่นเท่านั้นเอง ผมว่ายุติธรรมดีนะ -.-
กลับกัน อยู่ยุโรป Whatsapp ดังวันละยี่สิบกว่าครั้ง
Line ผ่านมาหลายวันแล้วยังไม่ดังเลย =_=
ไม่ใช้
น้ำตาจะไหลได้life timeเหมือนกัน device iPhone5/6.1.4
สายไปนะ มาเรียกเก็บตอนที่ตัวเองกำลังดร็อปๆ
ดร็อปเฉพาะฝั่งเอเชียนะผมว่า เพราะผมไปทำงานที่อเมริกาหลายเดือน มีไปยุโรปบ้าง ขอบอกเลยว่าคนใช้ Whatsapp เยอะมากเลยครับ ถามเขาว่ารู้จัก Line มั้ย ก็มีพอควรเลยว่าไม่รู้จัก
ถ้าไปเกาหลีก็นี่เลย kaokaotalk (เดี๋ยวๆ ไม่เกี่ยว)
หมายความว่ายังไงครับที่ไม่มีผลกับผู้ใช้เดิม?
แปลว่าใช้ฟรีเหมือนเดิมมั้ยครับ?
ปีละ 30 บาท ก็จ่ายเขาไปเหอะ ค่าโทรศัพทืเดือนละ 5-6 ร้อยยังจ่ายได้
สติกเกอร์ไลน์สามสิบบาทใช้ได้จนกว่าจะปิดบริการยังไม่ยอมจ่ายกันเลยนะครับ
1.99 น่าจะ หกสิบบาท นะครับ
ของผมบนแอนดรอยก็ขึ้น lifetime?
มันไม่ถูกใจชาวเอเชีย ซึ่งเป็นทวีปที่ชอบ customize ความน่ารักคิขุ มากกว่าการงานจริงๆจังๆ
แล้ว LINE มันใช้งานจริงๆ จังๆ ไม่ได้ตรงไหนครับ?
ถึงเบื้องหน้าจะน่ารักคิขุ แต่เบื้องหลัง LINE เดี๋ยวนี้ก็เสถียรขึ้นมากแล้วนะครับ เรียกว่าไม่มีปัญหาเลยดีกว่า
ตอนนี้บอกตรงว่าถ้าให้เลือกระหว่าง LINE กับ whatsapp ผมเลือก LINE ดีกว่า ..whatsapp ดูตัน ย่ำอยู่กับที่ ดูไม่มีพัฒนาการ (คงคิดว่าดีเป็นที่นิยมอยู่แล้วเลยไม่ทำอะไร) ในขณะที่ LINE มันดูน่าใช้และดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่อัพเกรด
ขอให้ Block ทุกเกมที่ส่งมาได้ก่อนนะ ขี้เกียจโหลดมาทุกเกมเพื่อบล็อคอ่ะครับ
พูดมานี่เห็นภาพ gtalk, hangout ตอนนี้เลย
อยากให้ line มันฉลาดด้วยว่าไอ้ invite หรือส่งอะไรที่อ้างอิงเกมส์ของline
ถ้าไม่มีในเครื่องก็ "อย่าโง่ส่งมาเข้าเครื่อง"
lineดีขึ้นมั๊ย ใช่ดีขึ้นแต่ไม่ชอบอยู่ดี เครื่องสเปคต่ำรู้สึกเลยว่าเปิดช้ากว่า
ไปดูrunning service จะมีไปทำไม 2ส่วน แค่appเดียวก็ซดแรมไปมากกว่าชาวบ้านเค้าอีก
ครึ่งปีที่แล้วคุยlineกับเพื่อน คุยกันงงๆ ข้อความไปถึงคนละลำดับ ส่งหลังไปก่อน ส่งก่อนไปหลัง ยิ่งไปกว่านั้นข้อความของเดือนก่อนเพิ่งจะโผล่มาตอนที่งงๆกันนี่แหละ
พูดแบบโอตาคุก็คือมีจิตวิญญาณโมเอะอยู่ในสายเลือด XD
ไม่เข้าใจคนที่บอกว่า LINE ใช้งานจริงจังไม่ได้
ถ้าดูเฉพาะในแง่การใช้งาน
สิ่งที่ Whatsapp มีแต่ LINE ไม่มี
- ปิด Notification เฉพาะกลุ่มแบบเจาะจงเวลา
- Broadcast message
สิ่งที่ LINE มี Whatsapp ไม่มี
- Voice call
- ส่งรูปทีละหลาย ๆ รูป
- ถ้าจะย้อนดูว่าใครเป็นคนส่งรูปมาใน group chat ต้องไปไล่ scroll up ย้อนดูเท่านั้น ส่วนใน LINE สามารถกดดูจากเมนูได้เลย
- เล่นบน tablet ได้โดยไม่ต้อง root หรือ jailbreak
- เล่นบนคอมได้
- Add คนอื่นได้โดยไม่ต้องให้เบอร์โทรศัพท์กับเขา
- ส่ง doodles, handwriting ได้โดยใช้ app เสริม Line Brush อันนี้สะดวกมากสำหรับผม เวลาคุยงาน
- มี Group Message Board ไว้สำหรับทิ้งข้อความสำคัญ ๆ ให้ทุกคนกลับมาย้อนอ่านได้ง่าย ๆ
จากทั้งหมดที่ว่ามาผมว่า LINE มันสะดวกกว่านะครับ
ส่วนเรื่องปลีกย่อยอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับ "การงานจริงๆจังๆ" เช่น
- สติ๊กเกอร์ : มันขึ้นกับคนใช้ ใครไม่ชอบก็ไม่ต้องใช้ คนที่เขาใช้ก็แสดงว่าเขาชอบ ถ้าเราจะไปบอกว่ามันไม่ดีด้วยเหตุผลเพราะว่า คนอื่นชอบ แต่เราไม่ชอบ มันแปลก ๆ นะครับ
- game invitation : ผมก็รำคาญ แต่มันก็เหมือนใน facebook นะครับ จะไปโทษว่ามีคนส่ง invite มา แล้ว facebook หรือคนทำ app เป็นคนผิดมันก็แปลก ๆ
มันผิดที่คนส่งครับ ปกติผมไม่ได้ไปแอดคนส่งเดช เพราะฉะนั้นเวลาใครส่งคำชวนเกมมา ผมก็แค่บอกไปว่าผมไม่ชอบ ไม่ต้องส่งมา เขาก็เลิกส่งนะครับ ใครงี่เง่าคุยไม่รู้เรื่อง ยังจะส่งมาต่อ ผมก็บลอคเลย ส่วนปัญหาเรื่อง คนไม่รู้จักส่งมา ผมก็ไปปิดไม่ให้คนไม่รู้จักแอดมา หลังจากนั้นก็หมดปัญหาครับ
- LINE ข้อความก่อนมาหลัง ข้อความหลังมาก่อน : ตอนผมใช้ Whatsapp ก็เคยเป็นนะครับ
- LINE เปิดช้า : ต่างกันไม่ถึงครึ่งวินาที ถ้าไม่ไปนั่งจับเวลามัน มันก็ไม่ใช่ความต่างที่รู้สึกได้นะครับ
- LINE หนักเครื่อง : เมื่อก่อนผมก็ใช้ Android ราคาถูก เวลาผมไม่ใช้แอปไหนผมก็ปิดนะครับ ส่วนตอนระหว่างที่เปิดใช้งาน ผมก็ไม่รู้สึกว่ามันหน่วงหรือช้าอะไร
- Whatsapp มี last seen : ผมไม่เห็นมันจะใช้ประโยชน์อะไรได้ นอกจากไว้สำหรับบางคนเอาไว้ใช้จับผิดอะไรบางอย่างจากคนอื่นครับ
+1 ชอบครับ เทียบตรงๆ พร้อมยกเหตุผล
เรื่อสติ๊กเกอร์เนี่ย ไม่ชอบก็ไม่ต้องใช้ก็ได้นะ
ถ้าหลายๆท่านบอกว่าไม่ได้ใช้ แต่คู่สนทนาของท่านใช้เลยรำคาญ
กลับกัน ถ้าท่านบอกให้ไปใช้ WhatApps คู่สนทนาของท่าน
ก็จะบอกไม่ชอบ เพราะใช้สติ๊กเกอร์ไม่ได้เหมือนกัน = ='
เรื่อง Invite เกม ผมเห็นด้วยกับท่านมาก
เค้าชวนเล่น ท่านไม่เล่น ไม่ชอบให้ชวน ท่านก็บอกไปสิครับ
มันไม่ใช่เป็นระบบ Auto Spam ของ Line เลยซักนิด เป็นผู้เล่นส่งเอง
ผมก็มีบางเกมเพื่อนชวนเยอะ ก็บอกไม่เล่น โทษที ไม่ต้องส่ง
แต่ถ้าจะคุยไรก็ทักมาได้ แต่เกมเราไม่เล่น ไรเงี้ยะ
อยากให้ Line auto download รูปแบบ WhatsApp ได้ซะที แล้วถ้ามีทางเลือกปิด function social, games ได้จะเยี่ยมที่สุด
มันใช้งานไม่ได้ตั้งแต่ที่ไม่ยอม retry ข้อความแล้วล่ะครับ
เสถียรดีมาก ช่วยเพิ่ม pc version เหมือน app อื่นๆได้มั้ย
ปล. ไม่คิดจะรุกคืบอะไร ตลาดแถวนี้เลยเหรอ ????
ผมก็ชอบ whatsapo มากกว่านะครับ ส่วนตัวผมว่า server มันรวดเร็วดี ไม่เอ๋อ แต่ติดตรงที่เดี๋ยวนี้คนหนีไปใช้ Line หมด เลยต้องเล่น line ตาม
เห็นบนๆ คุยกันเรื่อง Line vs Whatsapp
เลยอยากแชร์ว่า โดยส่วนตัว ทั้งสองแอปนี้ เอาไว้คุยเล่นๆ ขำๆ ไม่เป็นการเป็นงาน ไม่จริงจัง (เพราะ noti มันขึ้นถี่เกิน เลยไม่เช็คไปเลย รำคาญ), ส่วนใหญ่ ถ้าไว้คุยธุระจริงๆ ใช้ Skype (เพราะคุยต่อบนคอมได้, group call บนคอมสะดวกดี) / iMessage (เพราะมี sms fallback และคุยต่อบนคอมได้) คือรู้สึกว่า พอใช้หลายๆ device แล้ว ทั้ง Line/Whatsapp มันไม่เวิร์คเลยครับ
iPAtS
Line ก็คุยต่อบนคอมได้ครับ :)
แต่ Skype ดีตรงใช้บน PC, iPad, โทรศัพท์ ฯลฯ ไอดีเดียวกันพร้อมกันได้นะ Line ได้แค่ โทรศัพ 1 เครื่อง + PC
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
แต่ Skype ต้องออนไลน์ก่อน ข้อความถึงจะเด้งนะครับ LINE รับโนติได้ตลอด
บน iPad ผมก็เห็นมันเด้งเรื่อยๆ นะครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
LINE ก็ต้องออนไลน์ก่อนเหมือนกันนั่นแหละครับ ปิดเครื่องก็ไม่เด้งเหมือนกัน
line หลังๆมาเริ่ม รําคาญสติ๊กเกอร์
เอาเข้าจริงๆนะผมว่า
ถ้า Line เพิ่ม Option 2 อันนี้
มันจะแก้ปัญหาคน Anti Line ได้มั๊ย
เพราะเท่าที่ผมอ่านมา คนป่วยกับ 2 เรื่องนี้มากที่สุด
ในแง่ของเรื่อง Feature ต่างๆ Line ก็ไม่ได้ด้อยกว่า
จะมีก็เรื่อง Server ที่อาจจะไม่นิ่งเท่า เพราะอาจจะมาจาก Feature ที่เยอะด้วยทำให้ต้องรองรับหลายส่วน
ตามนี้ครับ
ได้ครับ สองตัวนั้นหนักหนาพอสมควร
แต่ยังมีเรื่องเซอร์เวอร์ไม่เสถียรเท่ากับแอพช้าพอสมควรอยู่ด้วย
ผมว่า 2 Option นี้ โยนภาระให้ Client ได้นะ
เซิฟเวอร์ก็ทำงานไปเหมือนเดิมแหละ เช่น
Enable Sticker - App Line ส่วน Client ถ้าได้รับก็ไม่ต้องแสดง Sticker (ปล่อยผ่าน)
และส่งข้อความกลับว่า "ผู้รับปิดการใช้งาน Sticker" โดยอาจ Custom ข้อความได้แล้วแต่คน
ซึ่ง Server จะรับภาระเพิ่มเท่ากับ 1 ข้อความที่ Return เท่านั้นเอง
Enable Game Message - App line ส่วน Client ก็ไม่แสดงไปเฉยๆ พอจบ
อาจ Filter เกมได้แค่นั้น Server ไม่ต้องรับภาระอะไรเพิ่มเลย
ผมว่า Client มันน่าจะแยกประเภทข้อความได้นะ ว่าอันไหนเป็น Sticker, Game
เพราะรูปแบบการแสดงผลก็ต่างจากข้อความปกติชัดเจน
Sticker ก็ไม่เหมือนอัพรูปปกติ
Game ก็เป็น Message Box เฉพาะตัว
เรื่องไม่รับ sticker นั่นต้องปิดตั้งแต่เซอร์เวอร์ครับ ให้คนคุยด้วยกดแล้วมันแจ้งเลยว่าปลายทางปิดการใช้งาน sticker ไม่งั้น server จะยิ่งต้องรับภาระหนักขึ้นอีกด้วยการส่งข้อความตอบกลับว่าปิดการใช้งาน sticker เหมือนกับที่เราเคยส่งรูปหรือส่งสั่นจอทาง MSN แล้วมันเด้งเลยว่าปลายทางไม่รองรับ
ส่วนเรื่องข้อความเกมและแอพ ผมก็ต้องการแค่นั้นแหละครับ แต่เค้าคงไม่ทำเพราะต้องการให้คนรู้จักตัวแอพเสริมให้มากที่สุด การต้องลงแอพเสริมก่อนถึงจะกดปิดได้ถือว่ายอดเยี่ยมมากในแง่กึ่งบังคับให้ผู้ใช้ได้ลองแอพเสริมนั้น ๆ (แต่ขอโทษครับ Windows Phone ไม่มีแอพเสริม จะลองก็ไม่ได้ จะปิดก็ไม่ได้ มันเลวร้ายมาก)
ดังนั้นสรุปตามที่ท่านว่าเลยครับ client มันแยกแยะได้ครับ เค้าแค่ไม่ต้องการทำเท่านั้นเอง
เห็นด้วยครับ
ที่ไม่ทำคงเพราะ กึ่งๆบังคับโปรโมทตัว App แหละ เหตุผลด้านการตลาด
ส่วนเรื่อง Sticker เนี่ย เป็นเรื่องนิสัยการ Chat ของแต่ละคนจริงๆ
บางคนผมคุยด้วยก็แทบไม่เล่น Sticker เลย
ผมนี่แหละเล่นบ่อย ไม่รู้เค้าเบื่อป่าว(ซื้อเยอะด้วย 555+)
มันพูดยากนะครับ ระหว่าง ไม่มีให้ใช้เลย(WhatApps) กับ มีแต่ไม่ใช้ก็ได้(Line)
บางคนก็ชอบแบบแรกอะนะ = ='
ตอนใช้ BB เจ้า WhatsApp คืออัศวินขี่ม้าขาวเลย ช่วยให้ผมสามารถเต๊าะสาวๆข้าว platform ได้ อู้ววว