Tags:
Node Thumbnail

หนังสือพิมพ์ The New York Times มีสกู๊ปพิเศษเบื้องหลังการพัฒนาและเปิดตัว iPhone รุ่นแรกเมื่อปี 2007 ว่าทีมงานของแอปเปิลต้องผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะออกมาเป็นสินค้าพลิกโฉมวงการมือถือได้สำเร็จ

  • New York Times สัมภาษณ์ Andy Grignon วิศวกรด้านเครือข่ายไร้สายของแอปเปิลที่เป็นคนดูแลเรื่องการเชื่อมต่อไร้สายทั้งหมดของ iPhone โดยพื้นเพของเขามาจากการแฮ็กเครื่อง Apple Newton ในอดีตเพื่อให้ต่อเครือข่ายไร้สายได้ ผลงานของเขาและเพื่อนทำให้เขาได้ทำงานกับแอปเปิลในส่วนของห้องแล็บ Advanced Technology Group
  • ในปี 2000 Grignon ออกไปเปิดบริษัท Pixo ร่วมกับพนักงานของแอปเปิลคนอื่นๆ ทำระบบปฏิบัติการสำหรับมือถือและอุปกรณ์ขนาดเล็ก ระบบปฏิบัติการตัวนี้ถูกใช้กับ iPod รุ่นแรก ทำให้ Grignon ได้กลับมาทำงานที่แอปเปิลอีกครั้ง
  • พนักงานของแอปเปิลคุ้นเคยกับการสร้างซอฟต์แวร์บนคอมพิวเตอร์ที่มีพลังประมวลผลสูง ไม่มีข้อจำกัดเรื่องแบตเตอรี่ พอต้องมาทำซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์พกพาจึงมีปัญหามากในช่วงแรก
  • ประสบการณ์ของ Grignon จึงมีประโยชน์กับแอปเปิลมากเมื่อโครงการ iPhone เริ่มขึ้นในช่วงปลายปี 2004

    การพัฒนา iPhone

  • แอปเปิลดึงทีมซูเปอร์สตาร์ภายในบริษัทมาสร้าง iPhone ซึ่งทุกคนมั่นใจว่าตัวเองเก่ง แต่เมื่อมาเจอข้อจำกัดและอุปสรรคมากมาย คนจำนวนมากเครียดและลาออกจากบริษัทไประหว่างโครงการหรือหลังจากโครงการเสร็จสิ้น

  • Tony Fadell ผู้บริหารทีม iPod (ปัจจุบันลาออกไปทำบริษัท NEST) เล่าว่าเขาคุ้นเคยกับโครงการที่มีความไม่แน่นอนสูง แต่โครงการ iPhone มีปัจจัยที่ไม่แน่นอนเยอะมากเป็นพิเศษ
  • จ็อบส์เริ่มคิดจะสร้างโทรศัพท์หลังจากเปิดตัว iPod ในปี 2001 ไม่นานนัก แต่เมื่อลองพัฒนาโครงการตามไอเดียก็เจอกับข้อจำกัดทั้งด้านฮาร์ดแวร์ และขีดจำกัดของเครือข่ายโทรศัพท์
  • แอปเปิลเคยคิดจะซื้อโมโตโรลาในปี 2004 แต่พบว่าเป็นการซื้อกิจการที่ใหญ่เกินไปสำหรับตัวเอง
  • ตอนแรกแอปเปิลมีปัญหาเรื่องการเจรจากับโอเปอเรเตอร์ที่มีอำนาจต่อรองสูง แต่โชคดีที่อุตสาหกรรมโทรคมนาคมในสหรัฐเริ่มเปลี่ยนไป แอปเปิลเคยคิดจะเป็น MVNO ของ Sprint แต่สุดท้ายเจรจากับ Cingular (AT&T ในปัจจุบัน) ได้สำเร็จ ก็เลยยกเลิกแผนนี้ไป
  • ระหว่างปี 2005-2006 แอปเปิลสร้าง iPhone รุ่นต้นแบบออกมา 3 แบบ โดยรุ่นต้นแบบตัวแรกเป็น iPod ที่แปะบอร์ดสื่อสารและใช้ click wheel ของ iPod เป็นแป้นโทรศัพท์ กว่าจะมีจอสัมผัสและ OS X ต้องรอถึงต้นแบบรุ่นที่สองในปี 2006
  • iPhone รุ่นต้นแบบตัวที่สองมีหน้าตาคล้ายกับผลิตภัณฑ์ที่วางขายจริง ใช้วัสดุเป็นโลหะโดยการออกแบบของ Ive แต่กลับมีปัญหาเรื่องภาครับสัญญาณ เพราะทีมดีไซเนอร์ไม่เข้าใจการทำงานของการสื่อสารด้วยคลื่นความถี่ และทีมวิศวกรต้องเสียเวลาอธิบายกันอยู่นาน
  • เทคโนโลยีจอสัมผัสแบบ capacitive ถูกคิดขึ้นตั้งแต่ยุค 1960 แต่มันไม่เคยถูกใช้ในสินค้าคอนซูเมอร์เพราะราคาแพงมาก แค่นำมาใช้กับรุ่นต้นแบบก็แพงแล้ว
  • แอปเปิลเริ่มใส่เทคโนโลยีมัลติทัชเข้ามาในแท็บเล็ตได้สำเร็จในปี 2003 เนื่องจากสตีฟ จ็อบส์ ต้องการอุปกรณ์ที่เขาใช้อ่านในห้องน้ำ แต่การพัฒนาหยุดไปในช่วงปี 2004 เพราะทิศทางของบริษัทยังไม่ชัดเจน จนทีมงานบางคนลาออกจากบริษัทไป
  • Tony Fadell เล่าว่าเขานึกภาพออกว่าจะใส่เทคโนโลยีด้านจอเข้ามาในอุปกรณ์ต้นแบบได้อย่างไร แต่ปัญหาคือจะผลิตมันในจำนวนมากๆ ได้อย่างไรเพราะต้องทำงานร่วมกับโรงงานผลิตจอด้วย ซึ่งแอปเปิลลองผิดลองถูกอยู่ 2-3 วิธีกว่าจะประสบความสำเร็จ
  • แอปเปิลไม่มีประสบการณ์ด้านเครือข่ายไร้สายมาก่อน ต้องลองผิดลองถูกสร้างห้องแล็บขึ้นมาเองอยู่นาน ผู้บริหารรายหนึ่งเคยคำนวณว่าแอปเปิลลงทุนมากถึง 150 ล้านดอลลาร์ในการสร้าง iPhone ตัวแรก
  • Jon Rubinstein อดีตผู้บริหารฝ่ายฮาร์ดแวร์ของแอปเปิล (ที่ย้ายไปอยู่ Palm) เสนอให้ทำ iPhone สองขนาดคือขนาดปกติ และขนาดเล็กราคาถูก แต่เมื่อทรัพยากรมีจำกัด ก็ต้องเลือกทำรุ่นปกติรุ่นเดียว

การรักษาความลับ

  • การพัฒนา iPhone เป็นความลับ ห้องทำงานต้องใช้บัตรผ่านถึงเข้าได้ และจ็อบส์สั่งห้ามจ้างพนักงานภายนอกบริษัทมาทำโครงการนี้ แอปเปิลจึงต้องใช้วิธีดึงคนจากทีมต่างๆ ภายในบริษัทเข้ามาทำงานแทน ซึ่งส่งผลกระทบต่อโครงการอื่นๆ ของแอปเปิลไม่น้อย
  • Scott Forstall เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าเวลาเขาดึงคนมาทำซอฟต์แวร์ของ iPhone เขาก็จะบอกพนักงานว่ามีโครงการให้ทำ บอกไม่ได้ว่าคืออะไร แต่ถ้ามาทำแล้วจะสูญเสียเวลาว่างในตอนเย็นและสุดสัปดาห์ไปเลย และจะเป็นการทำงานที่หนักกว่างานทั้งหมดในชีวิตที่เคยทำมา
  • แอปเปิลปกปิดข้อมูลของ iPhone กับทุกคน ตอนที่สั่งชิปชิ้นส่วนจากผู้ผลิตก็บอกว่าจะเอามาใส่ iPod รุ่นใหม่, ลงทุนออกแบบแผนผังวงจรและตัวอย่างผลิตภัณฑ์ปลอม, บางครั้งเวลาเดินทางไปติดต่อบริษัทอื่น พนักงานของแอปเปิลเคยปลอมตัวว่าเป็นคนของ Cingular เพื่อไม่ให้คนสนใจว่าแอปเปิลกำลังทำอะไรอยู่
  • การจำกัดสิทธิให้พนักงานระดับท็อปที่เข้าถึงโครงการ iPhone ได้ ส่งผลต่อขวัญกำลังใจของพนักงานคนอื่นๆ ที่รู้สึกว่าไม่มีโอกาสรู้ข้อมูลของโครงการนี้ นอกจากนี้ พนักงานแต่ละฝ่ายในโครงการ iPhone เองก็ไม่สามารถคุยกันเองได้ ทีมงานซอฟต์แวร์ทดสอบบนอีมูเลเตอร์ ทีมงานฮาร์ดแวร์ทดสอบกับซอฟต์แวร์ปลอมๆ
  • มีเรื่องเล่ากันในแอปเปิลว่าถ้าลองเอาบัตรพนักงานไปแตะประตูเข้าห้องพัฒนา iPhone นอกจากจะเข้าไม่ได้แล้ว ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่จะเรียกยามมาลากตัวคุณออกไปด้วย (ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าจริงหรือไม่)

การเปิดตัว iPhone

  • ตอนที่สตีฟ จ็อบส์ เปิดตัว iPhone ในเดือนมกราคม 2007 ตอนนั้นตัว iPhone ยังไม่สมบูรณ์มากๆ ทั้งเสถียรภาพของระบบปฏิบัติการที่รันงานได้ไม่เยอะแล้วจะรีบูตเพราะหน่วยความจำเต็ม เล่นวิดีโอได้ไม่เต็มความยาวคลิปเพราะแบตจะหมดก่อน และมีปัญหาการเชื่อมต่อกับสัญญาณเครือข่าย แต่จ็อบส์ก็ยืนยันว่าจะเดโมฟีเจอร์ทั้งหมดแบบสดๆ ไม่บันทึกเทปไว้ก่อน (นาน 90 นาที!) ซึ่งรวมถึงการโทรออกไปสั่งกาแฟ ซึ่งก็ต้องเชื่อมเครือข่ายจริงๆ ด้วย
  • ทีมงานของแอปเปิลจึงต้องเตรียมพร้อมทุกอย่างเพื่อไม่ให้เดโมเจ๊งกลางงาน เช่น มี iPhone หลายเครื่องเตรียมไว้เดโมฟีเจอร์เครื่องละ 2-3 อย่างเท่านั้น, มีลำดับการพรีเซนต์ฟีเจอร์ต่างๆ ที่รู้ล่วงหน้าว่าจะไม่แครช
  • ทีมงานแก้ปัญหาเรื่อง Wi-Fi ที่อาจมีปัญหาในงาน โดยเปลี่ยนความถี่ของเราเตอร์ Wi-Fi และตัว iPhone เองเป็นความถี่พิเศษของญี่ปุ่น เพื่อไม่ให้ชนกับอุปกรณ์ Wi-Fi ที่ใช้ความถี่มาตรฐานของนักข่าวทั้งหลาย
  • AT&T ตั้งสถานีฐาน (cell site) ขนาดเล็กไว้ในงานเพื่อการันตีว่าจะโทรออกได้ และทีมงานใช้วิธี hard code แถบสัญญาณของ iPhone ให้เต็ม 5 ขีดตลอดเวลา โดยไม่ขึ้นกับคุณภาพสัญญาณจริง เพราะกลัวสัญญาณร่วงระหว่างเดโม
  • จ็อบส์ฝึกซ้อมเดโมตลอด 5 วันก่อนงาน ช่วงเตรียมพร้อมมีแต่ปัญหามากมาย โดย Andy Grignon วิศวกรด้านเครือข่ายไร้สายของแอปเปิลเล่าว่าตอนแรกก็รู้สึกพิเศษที่ได้สิทธิไปดูจ็อบส์ซ้อม แต่หลังจากนั้นมีแต่ความเครียด เพราะถ้ามีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นตอนเดโม จ็อบส์จะไม่โทษว่าเป็นความผิดของตัวเองแน่นอน
  • เพื่อรักษาความลับของ iPhone แอปเปิลทุ่มทุนจองพื้นที่ทั้งหมดของศูนย์ประชุม Moscone Center, สร้างห้องปิดสำหรับทดสอบระบบอิเล็กทรอนิกส์, ห้องพักของจ็อบส์, มียามเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง, จ็อบส์เป็นคนตรวจสอบรายชื่อเจ้าหน้าที่ที่สามารถเข้ามาในศูนย์ได้ด้วยตัวเอง, คืนก่อนวันงาน เจ้าหน้าที่สัญญาจ้างทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนคุมไฟหรือคนเฝ้าบูตต้องนอนค้างภายในศูนย์ประชุมเพื่อป้องกันข่าวรั่ว
  • จ็อบส์ยืนยันว่าจะไม่ใช้วิธีถ่ายวิดีโอหน้าจอตอนที่เขากำลังสาธิต iPhone เพราะนิ้วมือของเขาจะบังหน้าจอ ทำให้ผู้ชมที่ดูภาพจากจอไม่ได้รู้สึกว่ากำลังถือ iPhone อยู่ด้วยตัวเอง ทีมงานของแอปเปิลจึงต้องใช้วิธีเพิ่มบอร์ดพิเศษแปะไว้ด้านหลัง iPhone และมีสายต่อไปออกโปรเจคเตอร์ภายนอก
  • ในระหว่างที่จ็อบส์เดโม ทีมงานวิศวกรที่รับผิดชอบในฝ่ายต่างๆ ก็นั่งลุ้นกันสุดตัวที่บริเวณที่นั่งแถวหน้าๆ โดยซื้อวิสกี้มาดื่มระงับความตื่นเต้น เมื่อจ็อบส์เดโมถึงฟีเจอร์ของฝ่ายใด ฝ่ายนั้นจะดื่มวิสกี้หนึ่งช็อต การเดโมออกมาราบรื่นอย่างน่าประหลาดใจ เมื่อจบงาน ทีมงานดื่มวิสกี้ขวดนั้นกันจนหมด และออกไปดื่มต่อที่บาร์เหล้าในเมืองกันตลอดทั้งวัน

ที่มา - New York Times

Get latest news from Blognone

Comments

By: dajazzkitten
AndroidWindows
on 6 October 2013 - 21:05 #637890

อปเปิลเคยคิดจะเป็น MVNO ของ Sprint

MVNO ย่อมาจากอะไรเหรอครับ

By: ppppp_z
AndroidWindows
on 6 October 2013 - 21:17 #637901 Reply to:637890

Mobile Virtual Network Operator เหมือนพวก imobile3GX i-kool บ้านเราหล่ะครับ

By: Zatang
ContributoriPhoneAndroid
on 6 October 2013 - 21:22 #637906 Reply to:637890

Mobile Virtual Network Operator เหมือนกับพวก 365 (ซึ่งหมดสัญญาไปแล้ว?), imobile 3gx, ikool ที่เป็น MVNO ของ TOT ครับ


อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว

By: Sephanov
iPhoneUbuntu
on 6 October 2013 - 21:15 #637892
Sephanov's picture

ผมว่าจุดเปลี่ยนของมันคือวันที่ Jeff Han พรีเซนต์เรื่อง muli touch ในปี 2006 แต่ไม่มีใครสนใจ จนกระทั้งปี 2007 iphone ก็โผล่ออกมา
บทความส่วนนี้น่าสนใจมากครับ เหมือนมีเบื้องลึกเบื้องหลังว่าอาจมีใครใน Apple ไปเห็นเข้า http://pogue.blogs.nytimes.com/2007/03/27/the-multi-touch-screen/?_r=0

By: boatboat001
iPhoneWindows
on 6 October 2013 - 23:41 #637956 Reply to:637892
boatboat001's picture

Apple ได้งานด้าน MultiTouch มาจากการเข้าซื้อ FingerWorks ในปี 2005 ครับ แต่อาจมีการเข้าไปคุยกับคนๆ นี้จริงก็ได้ครับ เพราะเห็นในบนความบอกว่า "He didn’t say that Apple bought his technology, nor that Apple stole it—only that he’d known what had happened, and that there was a lot he wasn’t allowed to say."

Ref
Some iPhone touchscreen roots 'splained by FingerWorks inventors
FingerWorks - Wikipedia

By: Sephanov
iPhoneUbuntu
on 7 October 2013 - 15:01 #638159 Reply to:637956
Sephanov's picture

Apple มี fingerworks จริง แต่ดูแล้วมันไม่น่าใช้ได้กับจอตรงๆครับ มันเกิดมาเพื่อทดแทนเมาส์เฉยๆ แต่สิ่งที่ Jeff han ทำให้ดู มันคือพื้นฐานของ gesture บน multitouch ทุกประการ วันที่ผมดูตา Jeff พรีเซนต์ ผมเองก็หวังว่าน่าจะมีคนต่อยอดเทคโนโลยีนี้บ้าง จนเห็นมันมาลง iphone
ลองดูพรีเซนต์ของเค้าได้ครับ http://www.ted.com/talks/jeff_han_demos_his_breakthrough_touchscreen.html

By: DoraeMew
AndroidSymbianUbuntuWindows
on 6 October 2013 - 23:54 #637961 Reply to:637892

ไม่ไปเห็นเข้าหรอกมั้ง เวลาห่างกันอยู่นะ
"แอปเปิลเริ่มใส่เทคโนโลยีมัลติทัชเข้ามาในแท็บเล็ตได้สำเร็จในปี 2003 เนื่องจากสตีฟ จ็อบส์ ต้องการอุปกรณ์ที่เขาใช้อ่านในห้องน้ำ แต่การพัฒนาหยุดไปในช่วงปี 2004 เพราะทิศทางของบริษัทยังไม่ชัดเจน จนทีมงานบางคนลาออกจากบริษัทไป"

By: ormsin
iPhoneWindows PhoneAndroid
on 6 October 2013 - 21:13 #637898
ormsin's picture

สุดยอดครับ...
-ตอนที่แกเอา ipod มาแปะกับโทรศัพท์คิดว่ามุก สรุปนี่เรื่องจริงเหรอฮะ 555
-ไม่เคยคิดเลยว่าการออกแบบ iphone จะสุดยอดขนาดนี้ ตอนที่เปิดตัว iphone ครั้งแรก ดู present แล้วแบบ เฮ้ย!!!! มีโทรศัพท์แบบนี้บนโลกด้วย
-แกซ่อนความวุ่นวาย ซับซ้อน ของ Product และทีมงาน ออกมาเป็นการนำเสนอสินค้าชิวๆ แบบไม่น่าเชื่อ!
-อยากจะบอกว่าดู Presentation iphone กี่คร้งก็ไม่เบื่อฮะ
-คิดถึงเฮียจ็อบส์

By: paq
AndroidWindows
on 6 October 2013 - 21:16 #637900
paq's picture

อ่านแล้วรู้สึกเหมือน Jobs เป็นผู้กำกับหนังเลยละเอียดทุกวินาที

By: Perl
ContributoriPhoneUbuntu
on 6 October 2013 - 21:20 #637903
Perl's picture

อื้อหือ ตาจ๊อบเก็บทุกรายละเอียดจริงๆ

ปล. Presentation ไหนๆ ของ Jobs ดูแล้วก็ไม่เคยเบื่อ เหมือนมันมีพลังดึงดูดใจอะไรซักอย่าง ที่สำคัญคือมีอารมณ์ขัน

By: crucifier
iPhoneAndroidUbuntu
on 6 October 2013 - 21:20 #637904

ฮาเรื่องวิสกี้ตอนท้ายนี่แหละ

By: SaMzAn
Windows PhoneWindows
on 6 October 2013 - 21:38 #637913 Reply to:637904
SaMzAn's picture

+1

By: bahamutkung
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 6 October 2013 - 22:26 #637935 Reply to:637904
bahamutkung's picture

+40 ดีกรี 555


"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."

By: bankwuttipong
ContributoriPhoneWindows PhoneWindows
on 6 October 2013 - 21:20 #637905
bankwuttipong's picture

รู้สึกเครียดตามพนักงาน


we can build a more peaceful.

By: มายอง
iPhoneAndroidWindows
on 6 October 2013 - 21:26 #637910
มายอง's picture

อ่านบทความนี้แล้วคิดถึง ลุงจ๊อบมากเลยค่ะ เหมือนAppleมีบางสิ่งหายไป

By: chettaphong
iPhoneWindows PhoneAndroidRed Hat
on 6 October 2013 - 21:30 #637911

ใครจะรู้อาจมี Project ที่ apple ซ่อนไว้ยังไม่งัดออกมา เหมือน iPhone ก็ได้ครับ

By: paween_a
Android
on 6 October 2013 - 23:32 #637954 Reply to:637911
paween_a's picture

ผมว่าน่าจะยาก ต้องเป็นคนหัวชนฝาแบบจ๊อปส์เท่านั้นที่จะทำอะไรอย่างนี้

By: redgene
iPhoneAndroid
on 7 October 2013 - 01:02 #637974 Reply to:637954

iWatch? จนบัดนี้ยังไม่เสร็จ ถ้านับ idea เกิดจากผู้ใช้ iPod nano น่าจะสามปีกว่าเข้าไปแล้ว แต่ผมว่านะ ขุนพลชุดเดิม คนสืบทอดอำนาจก็เกิดจาก Jobs มันคงไม่เลวร้ายหรอกมั้ง

By: bozzini
ContributoriPhone
on 7 October 2013 - 01:56 #637995 Reply to:637974

iWatch ไม่ใช่ว่าไม่เสร็จนะครับ ส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องกระบวนการ Software หรือ Hardware คงจะทำเสร็จได้แล้ว ขาดแต่เพียงวัสดุที่จะใช้ผลิต ซึ่ง Apple เองจะใช้กระจกแบบโค้งงอได้ประสิทธิภาพสูง เรียกง่ายๆว่ากระจกงอตัวได้ และสามารถประมวลผลแบบคอมพิวเตอร์ได้ผ่านกระจก (งงมั้ย) คล้ายๆพวกกระจกหนัง Sci-Fi

กระจกดังกล่าวยังคงอยู่ในระหว่างการพัฒนา ซึ่งผู้พัฒนาและถือลิขสิทธิ์คือบริษัท Corning Inc. เป็นบริษัทที่ผลิตกระจกทำสมาร์ทโฟน (ให้ทั้งซัมซุงและ Apple) กระจกที่เราใช้กันอยู่บนหน้าจอสมาร์ทโฟนนี่แหละครับ ซึ่งมีคุณภาพสูง ความแข็งแกร่งสูง และคงทนต่อการใช้งานได้ดีผ่านอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์

กระจกดังกล่าวที่โค้งงอได้ที่ว่า สำหรับทำ iWatch เห็นว่า Corning ยังต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปี เพื่อพัฒนาคุณภาพกระจกที่สมบูรณ์ และพร้อมออกใช้งานจริงๆ

By: the mee
iPhoneAndroidWindows
on 7 October 2013 - 01:03 #637975 Reply to:637911

ถ้าจะมีตัวต้นแบบต้องพัฒนาเสร๊จตั่งแต่ก่อน Jobs แล้วพอถึงตอนนี้ก็เอามาปรับนิดแต่งหน่อยให้เหมาะกะ สถานการณ์ แล้วเอาออกขายได้เลย

By: tech n9ne
iPhone
on 6 October 2013 - 21:54 #637918

ตั้งใจทำขนาดนี้ถ้าใครมาลอกไปหน้าตาเฉย เป็นผมๆก็โกรธนะ

By: iwatt
iPhoneAndroid
on 6 October 2013 - 22:09 #637923

ลุกขึ้นยืน พร้อมปรบมือดังๆ

By: swagen.xivth
iPhoneRed Hat
on 6 October 2013 - 22:13 #637928

อ่านแล้วเครียดตามจริง ๆ

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 6 October 2013 - 22:23 #637934
hisoft's picture

นั่นแหละครับสิ่งที่จ๊อบทำได้ดีสุดๆ และทำให้จ๊อบเด่นกว่าคนที่อาจจะทำได้เท่าๆ กันคือจ๊อบมีโอกาสที่จะได้ทำให้มันเป็นจริง

ต้องการควบคุมทุกรายละเอียดและมีลูกน้องที่ตอบสนองได้นี่สุดๆ แล้ว บอกว่าต้องการให้ Wi-Fi ออกมาแน่นอน แล้วได้ลูกน้องเลือกที่จะเปลี่ยนความถี่ชนิดหาคนมารบกวนได้ยากแบบนั้นนี่ก็ (- -)d

By: modeQ
WriterIn Love
on 6 October 2013 - 22:27 #637936

ขอบคุณ mk ที่แปลบทความดีๆ มาให้อ่านครับ


Writer no.59 เพื่อสังคมแห่งการแบ่งปันความรู้

By: expextoz
In Love
on 6 October 2013 - 22:33 #637940

เข้าใจความรู้สึกตอนเดโม่เลย เหมือนตอนตัวเอง present project จบหน้าห้องแล้วลุ้นว่าโปรแกรมอย่าบึ้มหน้าห้อง

By: jack8855
iPhoneAndroidRed HatSymbian
on 6 October 2013 - 22:46 #637944
jack8855's picture

อ่านบทความแล้ว ลุกไปหยิบไอโฟน 2007 มาลูบๆ แม้มันจะสะดุดปลายนิ้วตรงมุมนิดหน่อยก็เถอะ
ขนลุกจิงๆครับ อยากให้จ๊อบอยู่ดูความสำเร็จในตอนนี้จริงๆ

By: timered
Android
on 6 October 2013 - 23:07 #637947

มันก็คงเครียดละอยู่ดีๆมาทำมือถือแถมยังทัชสกรีนอีก อะไรๆมันเลยใหม่

By: SupAwich
iPhoneAndroid
on 6 October 2013 - 23:14 #637949
SupAwich's picture

กว่าจะสำเร็จขนาดนี้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมามากมายจริงๆ

By: latesleeper
Android
on 6 October 2013 - 23:15 #637950

ลับ ลวง พราง ของจริง :] อ่านแล้วมีความสุขมาก

By: speedmodel
iPhoneAndroidWindows
on 6 October 2013 - 23:19 #637951

บอกตรงเลยว่าอ่านเเล้วรู้สึกประทับใจมาก สุดยอดจริงๆ

สกู๊ปน่าจะยาวกว่านี้ อยากรู้รายละเอียดต่อจริงๆ

By: peeraphat
iPhone
on 7 October 2013 - 02:52 #638005 Reply to:637951

ลองอ่านภาษาอังกฤษต้นฉบับดูครับ จะได้อีกอารมณ์หนึ่ง มีรายละเอียดในการเล่ามากกว่า อาจจะประทับใจมากขึ้น

By: quake_the_rock
iPhoneRed HatUbuntuWindows
on 6 October 2013 - 23:42 #637957
quake_the_rock's picture

อ่านสนุกมากเลยครับ

By: boatboat001
iPhoneWindows
on 6 October 2013 - 23:50 #637959
boatboat001's picture

ขอบคุณสำหรับบทความครับ แปลละเอียดยิบเลย อ่านสนุกมากครับ

By: 0FFiiz
Windows PhoneAndroidWindows
on 6 October 2013 - 23:53 #637960
0FFiiz's picture

ความรู้สึก ว่ากลัวบั๊คโผล่ ตอน Present เข้าใจดีคับ 555555
นั่งเกร็งจิกเข้าอี้

By: Go-Kung
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 7 October 2013 - 00:23 #637966 Reply to:637960

ต้องเล่นให้ปรุโปร่ง แล้วอย่าวิ่งเข้าหาบั๊กครับ 55

By: pluk1412
iPhone
on 7 October 2013 - 00:03 #637964
pluk1412's picture

พอถึงวันนี้พนักงานที่ร่วมโปรเจคคงจะซาบซึ้งไม่น้อยที่งานหนักที่สุดในชีวิตพลิกโฉมประวัติศาสตร์โลก

By: iammeng
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 7 October 2013 - 01:20 #637981 Reply to:637964
iammeng's picture

สุดยอดจริงๆ รวมทีม All Star มาเพื่อสนอง need ท่านศาสดา
เปลี่ยนโลกเลย

By: pizzicato
ContributoriPhoneUbuntu
on 7 October 2013 - 00:19 #637965
pizzicato's picture

ขอบคุณสำหรับบทความนี้ครับ!!

วิสกี้หนึ่งชอตในตำนาน


positivity

By: addib2010
iPhoneAndroid
on 7 October 2013 - 00:37 #637970

ขอบคุณมากครับ บทความสนุกดี ตอนเดโมเปิดตัวว่ากดดันแล้ว แต่หลังจากซดวิสกี้เสร็จยังต้องมาเร่งพัฒนาให้ทันวางขายได้จริงๆ น่าจะกดดันต่อเนื่องและยาวนาน

By: nessuchan
iPhoneAndroidWindows
on 7 October 2013 - 01:05 #637976
nessuchan's picture

อ่านแล้วรู้สึกว่า 5s กับ 5c นี่ จ๊อปส์คงอยากลุกจากโลงขึ้นมาบีบคอลูกน้องทุกคน ปล่อยข่าวหลุดออกมาได้ไง

ความรู้สึกที่สอง ภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของโทรศัพท์รุ่นประวัติศาสตร์ของโลก มันผ่านอะไรมาเยอะจริง ๆ กว่าจะมาถึงมือผมได้ 23000 ตอนนั้นไม่แพงเลย แต่ตอนนี้ 23000 ทำไมรู้สึกว่าแพงจัง

Post from chrome on LG Nexus 4

By: Krit04
iPhoneWindows
on 7 October 2013 - 01:11 #637978
Krit04's picture

อ่านแล้วอึ้ง ประทับใจในความละเอียดและพยายาม สุดยอดจริง ๆ ท่านศาสดา :)

By: graphic72 on 7 October 2013 - 01:16 #637979
graphic72's picture

ขอบคุณสำหรับบทความครับ อ่านสนุกมาก

By: Kittichok
Contributor
on 7 October 2013 - 01:22 #637982

อ่านแล้วได้อารมณ์ชมภาพยนตร์ตังแต่เริ่มต้นงจนจบเรื่องเลย ลุ้นเครียดร่วมกับพนักงานแอปเปิ้ล

By: gandtha on 7 October 2013 - 01:57 #637996
gandtha's picture

ซัมซุงว่าไง ดราม่ากว่ารึเปล่า?

By: WWII
iPhoneAndroid
on 7 October 2013 - 02:18 #638001
WWII's picture

WiFi เปลี่ยนไปใช้ Ch.14 หรือเปล่านะ? คิดเยอะเผื่อล่วงหน้าทุกรายละเอียดจริงๆ อ่านแล้วเครียดแทนพนักงานเหมือนกัน

By: nhongcm77 on 7 October 2013 - 02:29 #638003

เป็นข่าวแรกที่ผมอ่านอย่างละเมียด และดูวิดีโอตั้งแต้ต้นจนจบ

By: Aoun
AndroidWindows
on 7 October 2013 - 08:34 #638023

ขออภัยถึงเป็นอดีตไปแล้วแต่การนำเสนอแบบในงานผมก็ว่าไม่ต่างจากการโกงคะะแนนของSSในตอนนี้หรอก (คหสต)

By: chettaphong
iPhoneWindows PhoneAndroidRed Hat
on 7 October 2013 - 09:16 #638026 Reply to:638023

ผมเห็นว่าต่างครับ เพราะ เครื่องที่ขายออกมาทำได้ตามที่ นำเสนอทุกประการ
และที่เค้าทำทั้งหมดนั้นเพื่อเลี่ยง bug ที่ยังแก้ไม่เสน็จเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากในวงการ IT
ส่วนที่ samsung over clock ผล benchmark มันใช้งานในชีวิตจริงไม่ได้ นอกจาก program benchmark

By: jibbies
iPhone
on 7 October 2013 - 09:28 #638035 Reply to:638026

+1

By: anekkij
Android
on 7 October 2013 - 09:49 #638042 Reply to:638026

+1

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 7 October 2013 - 09:51 #638044 Reply to:638023
PaPaSEK's picture

ต้องแยก

finished product ออกจาก demonstration ของเครื่องต้นแบบด้วยครับ

By: tekkasit
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 7 October 2013 - 10:29 #638053 Reply to:638023
tekkasit's picture

เค้าแค่เอาผลิตภัณฑ์รุ่นอัลฟ่า/เบต้ามาเปิดตัวให้โลกและคู่แข่งรู้ครับ ถือว่าเป็นการชิงความได้เปรียบดึงเอาความสนใจของคนทั้งโลกในเวลานั้น ให้มาจับจ้องที่ iPhone รุ่นแรกที่จะวางจำหน่ายในอีกหกเดือนถัดมา

ที่สำคัญเมื่อเครื่องถึงมือลูกค้า เครื่องก็ทำงานได้ดีตามที่สัญญาไว้ทุกประการ

By: schanon
Android
on 7 October 2013 - 10:11 #638049
schanon's picture

พอ Jobs เสียชีวิต ทุกอย่างก็หลุดรั่วออกมาหมด จนไม่เหลือความตื่นเต้นแล้ว

By: Noppon
iPhoneWindows
on 7 October 2013 - 10:43 #638059

อ่านจบแล้ว เลยลองไปหาวิดีโอการเปิดตัว iPhone ดู

Steve Jobs introduces Original iPhone - Macworld SF (2007)
http://www.youtube.com/watch?v=t2MOwQ089eQ

ช่วงเปิดตัว iPhone ตั้งแต่นาทีที่ 21 ไป ดูแล้วสนุกสนานมากครับ เพิ่งเคยดู 555

By: Guidenogo
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 7 October 2013 - 10:37 #638060

Hard Code สัญญาณ iPhone 5 ขีด ไม่ถือว่า "โกง" เหรอครับ

By: hydrojen
iPhoneRed HatWindows
on 7 October 2013 - 10:48 #638066 Reply to:638060
hydrojen's picture

Demo ที่ไหนไม่ Hard Code บ้างครับ
อย่างน้อย ตอนขายก็ไม่ ....... แบบ.....
และที่สำคัญ ตอนขายมันก็ทำได้จริง ไม่เหมือนใครเน้อ......

By: YF-01
AndroidUbuntu
on 7 October 2013 - 11:23 #638077 Reply to:638066

ไปแก้ตอนขายจริงก็มีครับ

death grip ในตำนานไง

By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 7 October 2013 - 10:55 #638069
panurat2000's picture
  • iPhone รุ่นต้นแบบตัวที่สองมีหน้าตาคล้ายกับผลิตภัณฑ์ที่ว่างขายจริง

ที่ว่างขายจริง => ที่วางขายจริง

  • จ็อบส์ยืนยันว่าจะไม่ใช่วิธีถ่ายวิดีโอหน้าจอตอนที่เขากำลังสาธิต iPhone เพราะนิ้วมือของเขาจะบังหน้าจอ

จะไม่ใช่วิธีถ่ายวิดีโอ => จะไม่ใช้วิธีถ่ายวิดีโอ

By: sunVSmoon
Windows
on 7 October 2013 - 10:59 #638072

อ่านเพลินมาก...ขอบคุณครับ ^_^

ปล.
"•iPhone รุ่นต้นแบบตัวที่สองมีหน้าตาคล้ายกับผลิตภัณฑ์ที่ว่างขายจริง" --> "วางขายจริง"

By: IonRa
iPhone
on 7 October 2013 - 11:09 #638074

แค่อ่านก็ฟิลแล้วครับ

By: iStyle
ContributoriPhoneAndroidSymbian
on 7 October 2013 - 11:09 #638075
iStyle's picture

จ็อบส์ยืนยันว่าจะไม่ใช่วิธีถ่ายวิดีโอ

ไม่ใช้


May the Force Close be with you. || @nuttyi

By: iStyle
ContributoriPhoneAndroidSymbian
on 7 October 2013 - 11:11 #638076
iStyle's picture

ทึ่งอันนี้ "ซอฟต์แวร์ทดสอบบนอีมูเลเตอร์ ทีมงานฮาร์ดแวร์ทดสอบกับซอฟต์แวร์ปลอมๆ"


May the Force Close be with you. || @nuttyi

By: konga143
iPhoneAndroid
on 7 October 2013 - 12:14 #638094
konga143's picture

อ่านจบแล้ว iPhone classic ที่หัวเตียงสั่นขึ้นมาทันที

ตอนนี้ผมตั้งเป็นนาฬิกาปลุกที่หัวเตียง ถือเป็นของชิ้นนึงที่ควรค่ากับการเก็บรัษาไว้จริงๆ

By: tekkasit
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 7 October 2013 - 16:05 #638174 Reply to:638161
tekkasit's picture

Monster kill!

หรือว่าเป็นผู้ได้รับผลกระทบด้วย?

/me เผ่น

By: iStyle
ContributoriPhoneAndroidSymbian
on 7 October 2013 - 15:55 #638176 Reply to:638161
iStyle's picture

ขยันขุดมาก - -


May the Force Close be with you. || @nuttyi

By: redgene
iPhoneAndroid
on 7 October 2013 - 15:57 #638177 Reply to:638161

เป็นหลักฐานอีกชิ้นนึงที่บอกได้ว่า ไม่ว่าจอบส์อยู่หรือตาย Apple ก็ยังสามารถสร้างบั้กให้เหล่าสาวกได้เสมอ

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 7 October 2013 - 16:06 #638180 Reply to:638161
PaPaSEK's picture

สมกับฉายา bot จริงๆ ครับ ความทรงจำระดับ petabyte จริงๆ

By: champjss
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 7 October 2013 - 16:12 #638181 Reply to:638161
champjss's picture

นอกจากบอทจะตรวจคำผิดได้แล้วยังแนะนำข่าวที่เกี่ยวข้องได้ด้วย!

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 7 October 2013 - 20:19 #638282 Reply to:638181
hisoft's picture

ผมเริ่มเชื่อว่าเป็นโครงการพัฒนา AI ของ BN จริงๆ แล้วสิ - -"

Hi, panurat2000. Write lastest news about smartphone.

ทำได้เมื่อไหร่ writer กับ contributor ตกงานกันถ้วนหน้าทันที

By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 7 October 2013 - 23:04 #638339 Reply to:638282
panurat2000's picture

lastest news ?

By: tanersirakorn
ContributorAndroidUbuntuIn Love
on 8 October 2013 - 11:54 #638563 Reply to:638339
tanersirakorn's picture

You sir, deserves a spellchecker badge.


Blog | Twitter

By: iammeng
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 8 October 2013 - 10:37 #638471 Reply to:638282
iammeng's picture

latest news

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 8 October 2013 - 11:45 #638546 Reply to:638282
PaPaSEK's picture

เอาแล้วครับ ไม่ได้ตรวจเฉพาะภาษาไทยแล้วครับ

grammar nazi at her finest

By: addib2010
iPhoneAndroid
on 7 October 2013 - 16:23 #638183 Reply to:638161

ฟาร์มอยู่นาน กลับมา Kill รัวๆ เลย :P

By: sunback
Contributor
on 7 October 2013 - 17:56 #638229 Reply to:638161
sunback's picture

นี่มัน บรรณารักษ์ดิจิทัลในตำนาน!

By: popconpor
Windows PhoneAndroidWindows
on 8 October 2013 - 11:16 #638506 Reply to:638161

botน้อย

By: Sven
In Love
on 7 October 2013 - 13:02 #638120
Sven's picture

อิจฉาคนมี iphone 1 อยากได้มาแขวนเป็นตะกรุด

By: hisoft
ContributorWindows PhoneWindows
on 7 October 2013 - 13:44 #638134 Reply to:638120
hisoft's picture

+1 เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกอยากได้มาเก็บไว้บ้าง - -"

By: redgene
iPhoneAndroid
on 7 October 2013 - 14:16 #638148 Reply to:638120

สิบปีข้างหน้าอาจได้ราคาดีนะครับ ตามร้านขายของเก่า

By: khajochi
WriteriPhoneIn Love
on 7 October 2013 - 13:53 #638138
khajochi's picture
By: gd_ab
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 7 October 2013 - 15:14 #638163
gd_ab's picture

อ่านแล้วได้อารมณ์ดีครับ เครียดไปด้วยเลย

By: varshard
AndroidWindows
on 7 October 2013 - 16:32 #638187

ดู Job จะเก่งเรื่องการบริหารโครงการและบังคับให้มันสำเร็จให้ได้มาก
แต่งานแกก็ดูออกมา"เสร็จ"จริงๆเลย

ชอบ comment ใน New York Times บอกว่าพนักงานทำงานเพราะเป็นโรค Stockholm Syndrome

By: Bluetus
iPhone
on 7 October 2013 - 16:58 #638197
Bluetus's picture

T T

By: kadeep
AndroidUbuntuWindows
on 7 October 2013 - 17:06 #638201
kadeep's picture

1 2 3 เอ้า กราบ

By: Cipher
AndroidWindows
on 7 October 2013 - 18:40 #638243

ขอบคุณสำหรับข่าวนะครับ บอกตรงๆ ว่าเพิ่งตามไปดูการเปิดตัวไอโฟนเป็นครั้งแรก (แบบเต็ม) รู้สึกประทับใจมากๆ คือแบบว่าต้องทำตัวเองให้ย้อนไปในอดีต และก็ต้องคิดว่าตอนนั้นมันไม่มีอะไรบ้าง ดูตอนนี้ก็ยังอินมากๆ
- สาวสตาร์บัคที่รับโทรศัพท์จ๊อบตอนนี้เขารู้ตัวหรือยังครับว่าได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ไปแล้ว
- เห็นความร่วมมือระหว่างแอปเปิลกับกูเกิลแล้วประทับใจ อยากเห็นแบบนั้นอีกกับผลิตภัณฑ์ที่จะเปลี่ยนโลกในอนาคต แต่คงไม่มีทางแล้วใช่มั้ย
- ซีอีโอคนอื่นที่ขึ้นไปเป็นแขกบนเวที ทักษะการพูดห่างกับจ๊อบมาก ยิ่งซีอีโอซิงกูลายิ่งแล้วใหญ่ ถือโน้ตไปด้วยเลย (กรุณาอย่าโยงเข้าการเมือง!)
- มีแป้กตรงสไลด์ไม่เปลี่ยนด้วย แต่จ๊อบดึงคนดูโดยเล่าเรื่องตลกซะงั้น
- ตอนโชว์แอพสต๊อกนี่ีมีแต่หุ้นของแอปเปิลที่เขียวอยู่บริษัทเดียว เหมือนจะสื่อว่าเปิดตัวไอโฟนทำให้บริษัทมีแนวโน้มที่สดใส
- อยากให้ smart watch ที่จะผลิดโดยแอปเปิลเป็นสินค้าที่เปลี่ยนแปลงทุกสินค้าในตลาดเหมือนอย่างไอโฟนเคยทำไว้
- รู้สึกว่า Blognone เคยทำแบบสำรวจประมาณว่าสินค้าอะไรที่เป็นนวัตกรรมมากสุด และเคยตอบว่าไอโฟน และตอนนี้ก็ยังคิดแบบนั้น ทั้งๆ ที่ไม่เคยใช้เองเลยสักรุ่น

By: PaPaSEK
ContributorAndroidWindowsIn Love
on 8 October 2013 - 11:46 #638552 Reply to:638283
PaPaSEK's picture

น่ารักซะด้วย

By: por311
iPhoneAndroid
on 7 October 2013 - 18:43 #638247

อยากอ่านประวัติ Samsung Galaxy S บ้างจุง ^ ^

By: Cipher
AndroidWindows
on 7 October 2013 - 19:06 #638255 Reply to:638247

ผมกำลังถือให้งานอยู่จนถึงตอนนี้เลยนะครับ พร้อมกับ 4.2.2 stable จาก CyanogenMod

By: kenoneo
iPhone
on 7 October 2013 - 23:28 #638346
kenoneo's picture

ขอบคุณมากๆเลยฮะ

By: gosol
AndroidWindows
on 8 October 2013 - 10:01 #638440
gosol's picture

ทำไมคล้ายๆกัน http://www.macthai.com/2013/10/07/the-story-behind-the-original-iphone/?utm_source=twitterfeed&utm_medium=twitter