Windows XP จะสิ้นอายุขัยในวันที่ 8 เมษายน 2014 ซึ่งไมโครซอฟท์จะหยุดออกแพตช์ความปลอดภัยให้ และมีโอกาสสูงมากที่แฮ็กเกอร์จะนำข้อมูลจากแพตช์ของ Windows 7/8 มาดูว่ามีช่องโหว่แบบเดียวกันบน XP หรือไม่ ถ้าเจอก็จะเป็นช่องโหว่ที่ผู้ใช้ XP แทบไม่มีทางเลี่ยง (ข่าวเก่าที่ไมโครซอฟท์เตือนเรื่องนี้)
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและการอัพเกรดระบบไอทีหลายคนก็ลงความเห็นตรงกันว่า ลูกค้าองค์กรยังไม่ตื่นตัวเรื่อง Windows XP เท่าที่ควรเนื่องจากสาเหตุหลายอย่างประกอบกัน เช่น องค์กรไม่นิยมอัพเกรดระบบพีซีครั้งใหญ่ทั้งหมด, องค์กรเริ่มอัพเกรดพีซีช้าลงเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย จากเดิมอัพเกรดทุก 4 ปีก็ยืดเป็น 5-6 ปี
ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ลงความเห็นว่าถ้ายังอยากอยู่กับ XP ก็อาจมีทางเลือกคือตัดการเชื่อมต่อพีซีเหล่านี้จากอินเทอร์เน็ต แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะติดมัลแวร์จากเครือข่ายภายในอยู่ดี และขอให้ไมโครซอฟท์ประกาศเรื่องนี้ให้ชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าองค์กรตื่นตัวกันมากขึ้น
หน่วยงานภาครัฐบางแห่งเริ่มตื่นตัวเรื่องนี้บ้างแล้ว เช่น หน่วยงานด้านการเงินในสหรัฐก็เริ่มเตือนธนาคารแล้วว่า ถ้ายังใช้ XP ต่อไปก็มีความเสี่ยงที่ข้อมูลบัตรเครดิตของลูกค้าจะถูกขโมย
ที่มา - PC Pro
Comments
ถึงเวลาเปลี่ยน ต้องควรเปลี่ยนได้แล้วครับ จะได้ไม่เป็นภาวะในภายหลัง
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
ภาวะ >> ภาระ ครับ
สงสัยรอเปลี่ยน Windows 9 ทีเดียว 555
ประกาศ WIN9 แจกฟรีไปเลย
โดดไปไช้ linux เลยครับ
ไม่ต้อง upgrade hardware
ไม่ต้องซื้อ License (หรือซื้อก็ถูกกว่ากันเยอะ)
ไม่ต้องกังวลลูกน้องเล่นเกมส์ทั้งวัน
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผมว่าไม่น่าจะมี OS ไหนในโลกนี้ที่เอื้ออำนวยต่อการใช้งานภายในองกรณ์มากเท่ากับ Windows แล้วนะคับ
ประเด็นเป็นเรื่องราคาและความปลอดภัยครับ
กับ windows คุณต้องจ่าย license บางครั้งต้อง upgrade hardware พอ up มาแล้วปลอดภัยขึ้น แต่ก็ยังไม่ปลอดภัยจริงอยู่ดี เพราะเป็น os ที่ใด้รับความนิยม เลยเป็นเป้าให้ hack
ส่วน Linux นั้น หลาย Distributions แจกฟรี รองรับ hardware เก่าๆ ใด้ดี และบาง Distributions ก็เน็นความปลอดภัยเป็นหลัก
แน่นอนมีปัจจัยอื่น เช่นการปรับตัว หรือ nsa/back door ซึ่งต้องกลับไปคิดด้วย ในโลกนี้ บ. ที่ไม่สนับสนุนการไช้ Windows แล้วโตใด้ก็มี ตัวอย่างเด่นๆก็ Google ที่บอกชัดเจนว่าไม่แนะนำให้ไช้ windows ในที่ทำงาน เพราะไม่ปลอดภัย
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ไม่มีค่าใช้จ่ายและปลอดภัยจากไวรัสแต่มีปัญหาอย่างอื่นแทนก็ไม่มีใครใช้หรอกคับ
บริษัทอื่นเขาไม่ได้ Geek เหมือน Google นะคับ ที่จะมาเขียนตัวควบคุม Mac ใหม่เพราะของ Apple มันห่วย แต่ของ Windows ทุกอย่างมีให้พร้อม ทั้ง Active Directory ทั้ง Exchange
ลง Samba ไปก็ใด้นิ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
มันติดตรงแอพเก่า ๆ นี่ล่ะครับ
ถ้าเปลี่ยนไปใช้ web app กันหมดแล้วก็คงสบาย ลงเป็น ChromeOS ไปเลยก็ยังได้ :-)
เครือ่ง IBM ที่บ้านยัง XP อยู่เลย :p
Happiness only real when shared.
บางทีก็คิดสงสัยนะครับ ว่า ทำไมเราถึงต้องอัพเกรด ทั้งๆที่ลักษณะงานของเราก็ยังเป็นเหมือนเดิมอยู่ละครับ
ผมไปเห็นร้านขายของใหญ่ๆ มีระบบ pos ในดอส ซึ่งมันก็ทำงานได้เหมือนกับ pos ใน windows รุ่นล่าสุด ระบบหลังบ้านก็แทบจะเหมือนกัน ต่างกันแค่หน้าตา แล้วทำไมเรายังต้องอัพเกรดมันอีก
หรืออย่างเช่นการพิมพ์งาน ฟอร์มของมันก็ออกมาเหมือนๆกัน รายงานก็เหมือนๆกัน วิจัย วิทยานิพนธ์ ฯลฯ ก็เหมือนๆกัน แล้วทำไมเรายังต้องอัพเกรดชุดออฟฟิซตามไปด้วย office 2013 มันทำให้หน้าตาชิ้นงานเราแตกต่างไปจากที่พิมพ์ใน office 95 97 มากขนาดไหนเหรอ
บางทีอัพเกรดจนตัน ก็ต้องซื้อคอมใหม่อีก เฮ่อ
ก็ตามนั้นล่ะครับ
การใช้งานของเราเป็นเหมือนปกติอยู่กับที่ทุกวัน แต่พวก malware มันไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ทุกวันด้วยน่ะสิครับ
ในแง่ฟังก์ชันหน้าที่ก็ยังทำงานได้ แต่ปัญหาที่เป็นประเด็นจะเป็นเรื่อง non-functional ในแง่ความปลอดภัยครับ
คิดง่ายๆ โอเอสเหมือนกับบ้านหนึ่งหลัง กรณีรูรั่วคือเสมือนว่าคุณล็อกบ้านด้วยกุญแจรุ่นหนึ่ง คุณใช้ล็อกตัวนี้มาจะยี่สิบปีแล้ว แต่ประเด็นคือ ผ่านมาสิบปี บริษัทผลิตแม่กุญแจเค้าออกรุ่นใหม่ บอกด้วยว่ามีการปรับปรุงให้ดีขึ้นตรงไหน (เค้ารู้กันหมดแล้วว่ากุญแจรุ่นเดิมที่มีนี้มีจุดอ่อนตรงไหน) แต่เนื่องจากคุณไม่ได้เปลี่ยนกุญแจไปใช้ตัวใหม่(อัพเกรด) ทำให้โจรที่ผ่านบ้านคุณสามารถสะเดาะกุญแจรุ่นที่คุณใช้อยู่ได้สบายๆ
ถ้าคุณอยู่บ้านหลังเขา ไม่มีคนแปลกหน้ามาเยี่ยมเลย ก็รอดไป
แต่ถ้าบ้านคุณติดหน้าถนน คนผ่านไปผ่านมาเยอะ รวมถึงคนมาด้อมๆมองๆหน้าบ้าน รวมถึงมีการสั่งซื้อสินค้าให้คนมาส่งหน้าบ้านอยู่บ่อยๆ โอกาสเสี่ยงก็มากเป็นเงาตามตัว
ซอฟท์แวร์ที่ไม่มีบั๊กคือซอฟท์แวร์ที่ยังไม่ได้เขียนครับ แล้วบริษัทก็ต้องการ cash flow จะให้ดูแลชั่วชีวิตก็คงจะไม่ไหว
ถูกต้องแล้วครับ ถ้าไม่ได้ต่อ net หรือต้องเอา file จากที่อื่นมาปล่อยมันก็ไม่จำเป็นต้อง upgrade ระบบเลยซักนิด
แต่ปัญหามันจะมีต่อเมื่อมีอะไรเสีย แล้ว driver มันไม่รองรับเพราะอุปกรณ์มันเก่าเกินไป - -"
ในความเป็นจริงบางที่ยังมี 3.1 อยู่ในส่วนลึกของโรงงาน และฝ่ายการเงินก็อาจจะมี 98 คงเหลืออยู่ประปราย ส่วนอีกกว่า 90% เป็น xp โดยทั้งหมดนี้ไม่มีการ backup ข้อมูลเป็นดิจิตอล(มีแต่กระดาษเป็นลัง) ส่วนถ้าเจ้งเมื่อใหร่เรียก support มาด่า :P
ผมไปทัศนศึกษามาที่สถานีดาวเทียมของ CAT แถวๆ บ้านผม
ตัวควบคุมจานดาวเทียมภาคพื้นดิน เขายังใช้ Windows 95 อยู่เลยครับ
เคยถามทางพนักงานอยู่ว่าทำไมไม่เปลี่ยนเป็นตัว OS ใหม่ เขาบอกว่า "มันไม่รองรับการซอฟต์แวร์ที่เขาใช้งาน"
ความเห็นผมนะ จะเลิกอัพเดตไปก็เท่านั้น เพราะผมสังเกตุว่าทุกองกรณ์ (โดยเฉพาะหน่วยงานราชการไทย ) ไม่มีที่ใหนเลย ที่เปิด Windows Update เอาไว้ แถมบางที่ยังเป็น XP SP2 อยู่เลยด้วยซ้ำ
องค์กร => องค์กร
เผ่น
มองในอีกแง่ บางทีเขาไม่อัพเกรดก็เพราะเขามีระบบหน้าบ้านดีก็ได้นะครับ เช่น มีพวก Firewall, IPS มีการ Classify Packet ในระดับ Layer 2,3,4 มี Access List, มี AD, มี Proxy มีการกำหนดสิทธิ์การเข้าถึง, มี Mac Filter ฯลฯ ดังนั้นการมีคอมเก่าๆ ใช้งานอยู่แต่ใน Intranet Zone รันแค่เฉพาะงาน Batch ซ้ำๆ ประจำวัน บางทีก็ไม่จำเป็นที่จะต้องอัพเกรดก็ได้ครับ อาทิเช่น ธนาคาร :)
ธนาคารกับหน่วยงานด้านการเงินนี่ล่ะตัวดีเลยครับ จะเปลี่ยนอะไรทียากมาก กว่าจะลง hotfix ได้แต่ละตัวแทบจะต้องอ้อนวอนกราบตีน แต่พอมีปัญหาทีหนึ่งก็ ... อ่ะนะ
โปรแกรมบางตัวที่บริษัทยังเทสบน 7 ไม่ผ่านเลย =__='
โปรแกรมบัญชี (สำหรับสอนนักศึกษษ) ที่ที่วิทยาลัยผม ลงกับ Win 7 บ่ได้เลย ฮ่าๆ
ซอฟต์แวร์ทำงานราคาตัวเป็นแสน รองรับแต่ xp เหมือนกันครับ
ตอนนี้ pc ที่ห้องทำงาน ที่บ้าน และ notebook ก็เป็น xp หมด
มีแต่ macbook air นี่แหละที่ยอมลง windows 7 เพื่อรันโปรแกรมเฉพาะทาง...แต่ยังไม่ได้ใ้้ช้จริงจังซักทีเลยยังไม่เจอปัญหา
หน่วยงานของรัฐที่เก็บเงินอันดับ 1 เครื่องที่ใช้รับชำระเงินยังเป็นxp อยู่เลยครับ
คนจ่ายเงินที่เป็นอาแปะแก่ ๆ เค้าไม่เข้าใจหรอกครับ ต้องให้มันล่ม มันเสียหายซะก่อน ถ้าตราบใดที่งานยังทำได้ เค้าไม่สนใจหรอกครับ
ถ้าเป็นระบบราชการกว่าจะเบิกอะไรได้ต้องรอเป็นชาติๆ แนะนำให้เขียนบันทึกข้อความแจ้งหัวหน้างานล่วงหน้าไว้เลย เวลามีปัญหาจะได้รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นตัวถ่วงองค์กร?
ปล.ทีไปสัมนา ดูงาน อนุมัติไวโคตรๆ
จริงเหรอ ผมเห็นว่าเครื่องในหน่วยงานราชการก็ upgrade ใหม่พอควรนะครับ XP นี่ไม่น่าจะมีแล้ว
มาดูแถวๆตจว.ดูนะครับ ยังเหมือนเดิมอยู่
ที่บ่นๆคือ Server ครับ พออะไหล่พอถึงอายุของมันก็ทำเรื่องขอเบิก กว่าจะได้ก็พังเรียบวุธไปละ เพื่อนผมบ่นให้ฟังแทบจะทุกคนเพราะหัวหน้าที่ด่าๆก็ไม่อยากจะรับผิดชอบอยู่แล้ว (แต่ผมไม่โดนแถมเพราะทำเอกชน เบิกอะไรทีก็ไหลเป็นน้ำเลย)
ถ้าเป็นเครื่องที่ซื้อใหม่ในรอบ 3-4 ปี ก็คงเป็น windows 7 ล่ะครับ
แต่หน่วยงานที่ัยังไ่ม่ได้เปลี่ยนคอมฯใหม่ ส่วนใหญ่เป็น windows xp ทั้งนั้น
ยากครับ ค่าใช้จ่ายเยอะมาก เครื่องใหม่+โอเอส ปาเข้าไปเกือบสามหมื่น ในบริษัทมีสัก 100 เครื่องก็เป็นเงินถึง 3 ล้านบาท ไหนจะแอพเฉพาะกิจอีกเยอะแยะ และการปรับตัวจาก xp ไป 7/8 ของผู้ใช้ที่ไม่เป็นคอมฯ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
ที่บริษัทผม Celeron รุ่นแรก, Pentium III/4, Athlon XP แรม 256/512 ยังใช้กันมากถึง 80%
เจ้านายเขาไม่สนใจหรอกว่าปัญหาจะหนักหนาสาหัสขนาดไหน เพราะนั่นเป็นหน้าที่ของไอทีที่จะต้องแก้ไข
ถูกต้องตามนั้น ทางออกคือค่อยๆ ถยอยเปลี่ยนเครื่องไปครับ แล้วก็ค่อยๆ แนะนำ user ไป แต่ส่วนใหญ่ user คนไหนได้เครื่องใหม่กว่าได้ os ใหม่กว่าความอิจฉาบังเกิดครับ หึหึ แถมด้วยมาบอก IT Sup ว่า น้องๆ พี่อยากได้เครื่องหใม่บ้างอ่ะ เห็นเพื่อนพี่มันใช้ล่ะอยากเปลี่ยนแล้ว
จริงๆ การเปลี่ยน os ไม่ใช่เรื่องยากหรอกครับถ้าผู้บริหาร เจ้าของใส่ใจด้าน IT ให้มากขึ้นเพื่อแข่งขันในงานธุรกิจในวงการที่ตัวเองทำอยู่ แต่บ้านเรา... ยากส์ เพราะไม่ค่อยเห็นความสำคัญตรงนี้ซะส่วนใหญ่นะ น้อยมากที่ผู้ประกอบการไทยจะเห็นความสำคัญด้านไอที สนใจโน้น ผลกำไร ขาดทุน บลาๆๆๆ งานด้านการตลาดบลาๆๆๆ กลัวขายของไม่ได้ แต่ถ้ามองย้อนไปที่คู่ค้าเขาไปไกลกว่าในหลายด้านก็ชักจะอยู่ไม่ได้ครับ มันก็ต้องอัพเกรดลงทุนด้านไอที แต่บ้านเราก็อีกน่ะแหละ ชอบเอาเมียมาบริหาร แล้ว เจ้าของผู้ชาย md ก็โรคกลัวเมียอีก จะอนุมัติอะไรต้องผ่านเมีย เมียไม่รู้เรื่องไอที คุยโครยากส์ อ๊ากที่บ่นๆ มานี่ผมเจออยู่นะ T_T เศร้า แต่โทษทีเมีย MD เจ้แกใช้ Windows 8 Orz!