By: ตะโร่งโต้ง 
on 23 January 2014 - 00:06
Tags:
ทีม Microsoft Research โชว์ผลงานการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์สำหรับการประยุกต์ใช้งานในชีวิตประจำวัน ในรูปแบบของลิฟต์อัจฉริยะที่สามารถพาผู้คนไปยังชั้นที่ต้องการได้ โดยไม่ต้องรอให้ผู้โดยสารกดปุ่มบอกชั้นจุดหมายปลายทาง
Peter Lee หัวหน้าทีม Microsoft Research ให้สัมภาษณ์แก่ Bloomberg และอธิบายถึงการทำงานของลิฟต์อัจฉริยะนี้ว่ามันสามารถรู้ได้ว่าผู้โดยสารแต่ละคนต้องการอาศัยลิฟต์ไปยังชั้นใดของอาคารโดยการประเมินประวัติการใช้งานของแต่ละบุคคลเป็นหลัก บริเวณลิฟต์จะมีกล้องและเซ็นเซอร์สำหรับบันทึกข้อมูลพฤติกรรมการใช้ลิฟต์ของผู้คนเป็นเวลา 3 เดือน ทั้งนี้การบันทึกข้อมูลต่างๆ จะไม่มีฟังก์ชันตรวจจับใบหน้าเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด หลังจากสิ้นสุดระยะเวลา 3 เดือนแห่งการเรียนรู้แล้ว ลิฟต์อัจฉริยะจะสามารถพาผู้คนไปยังชั้นต่างๆ ของตึกได้เองอัตโนมัติโดยไม่ต้องรอการกดปุ่มเพื่อสั่งงาน
Lee กล่าวว่าขณะนี้ทีมของเขาได้มุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์เป็นเรื่องหลัก ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการสร้าง "ผู้ช่วยส่วนตัวเสมือนจริง" อันเป็นโครงการสำคัญของทีม Microsoft Research ในตอนนี้
ที่มา - The Next Web
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
ลิฟท์ => ลิฟต์
หลังจากนั้นสิ้นสุด => หลังจากสิ้นสุด
คำว่า ลิฟท์ ถูกแล้วครับดูตามข่าวเก่า
วิกิพีเดีย
รายชื่อคำในภาษาไทยที่มักเขียนผิด
อยากทราบว่า คำว่า ลิฟท์ กับ ลิฟต์ คำไหนคือคำที่เขียนถูกต้องครับ ขอบคุณครับ
แบบไหนถูกต้องคะ ขึ้นลิฟท์ หรือ ว่า ขึ้นลิฟต์
บอตนี่โหดสลัดมากครับ
เสริมตอกย้ำ
http://www.youtube.com/watch?v=10t2z5ysySY คำไทยในเน็ต ตัว t = ต
ถ้าว่ากันตามหลักการเขียนทับศัพท์ของราชบัณฑิตฯ ข่าวใน Blognone นี่เขียนผิดกระจายเลยละครับ อย่างตัว p ที่เป็นตัวสะกด ต้องเขียนด้วยตัว "ป" ไม่ใช่ "พ" หรือตัว t ก็ต้องเป็นตัว "ต" ไม่ใช่ "ท" (ตัว t จะสะกดด้วย "ท" ก็ต่อเมื่อเป็นพยัญชนะ) แต่เห็นผิดกันเยอะมาก ผมเลยขี้เกียจแย้ง
แย้งได้ครับ ที่นี่เปิดให้แย้งได้ ^^
ตอนแรกกำลังจะเข้ามาเงิบกับลิฟต์
พอเข้ามาเท่านั้นแหละ มาเงิบกับบอท
โหดมากครับ 5555
คาดว่าบรรดาภรรเมียทั้งหลายคงจะตามคุณสามีที่พาเด็กๆ มาได้ง่ายขึ้นสินะครัช
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
จะไม่ให้ไปชั้นอื่นเลยว่างั้นเถอะ
อยากรู้จังไม่ดูหน้าแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเป็นใครจะไปชั้นไหน
นั้นสิครับไม่จับหน้าแล้วจะตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลยังไง
คงได้จากช่วงเรียนรู้แหละครับ เช่น คนที่ใส่รองเท้าแตะเดินเท้าเปล่าก็คงอยากไปสระว่ายน้ำ หรือ คนใส่รองเท้าแบบนี้ ช่วงขาเท่านี้ น้ำหนักเท่านี้ มักจะลงไปซื้อกาแฟตอนกี่โมง
แต่ก็ยังเป็นแค่ตัวช่วยแหละครับ ไม่ได้ 100% เท่าปุ่มกดอยู่แล้ว
"โดยไม่ต้องรอการกดปุ่มเพื่อสั่งงาน" ซึ่งในเนื้อบทความไม่ได้มีคำว่า ไร้ปุ่มกดนะครับ ผมเชื่อว่าคงมีปุ่มอยู่เหมือนเดิมเพียงแต่ระบบจะวิเคราะห์ชั้นให้เพื่อความสะดวก ไม่ต้องกดเองครับ ผมว่าไอเดียเจ๋งดีนะครับ// ขอบคุณสำหรับข่าวครับ
ตอนเรียนรู้จะไปได้ไงถ้าไม่กดลิฟท์
แสดงว่ามีปุ่มอยู่ดี
ลิฟท์บางทีใช้บัตรร่วมถึงกดได้
อาจเรียนรู้จากบัตรระบุตัวตน
ถ้าบังเอิง ไม่มีความจำเป็นต้องไปชั้นนั้นพอดี ทำให้ต้องเสียเวลา เสียพลังงาน อีก เหมือนจะไม่คุ้มเลย
ใครจะไป รู้ว่า ตกลงวันนี้ตอนเวลานี้ คุณจะต้องไปชั้นนี้ 100%
ถ้ามันเดาผิดก็กดให้มันรู้ก็จบ ครับประเด็นคือถ้าคนไม่สนใจว่ามันจะพาไปให้มันก็บ้าแล้วครับ
อืม อยากให้เป็นแบบว่า วิ่งไปรับผู้โดยสารเองโดยไม่ต้องกดดีกว่านะ
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
มันไม่ได้วิ่งครับมันเคลื่อนที่ตามแนวดิ่ง:P
แล้ว? การเคลื่อนที่แนวดิ่งนี้เรียกวิ่งไม่ได้หรอครับ?
ถ้าใช้งานในมหาวิทยาลัยจะ work มั๊ยนะ เพราะตารางเรียนอะไรมันก็ตายตัวอยู่แล้ว วันนี้เวลานี้ มีเรียนที่ชั้นนี้ แล้วคนใช้ส่วนมากก็นักศึกษาอยู่แล้ว ซึ่งเค้าก็มาเรียนตามตารางเวลานั่นแหล่ะ
ถ้าแผนกช่างรับธุรการสาว ๆ มาใหม่ แผนก IT จะมีโอกาสแว๊บไปจีบได้มั้ยอะ
ผมว่า AI แบบนี้มันสิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็นนะครับเนี่ย
คิดยังไงก็ไม่คุ้ม จะให้ ลิฟต์ (บรรจงพิมพ์สุดๆ) ไปดักรอคนที่คาดว่าจะขึ้นที่ชั้นนั้นๆเวลาๆนั้นๆเลย ก็เสียพลังงานไปแล้ว แล้วถ้าเค้ายังไม่มา หรือมีคนชั้นอื่นกดก่อน พลังงานที่เสียไปเพื่อไปรอก็เสียเปล่า
หรือ ถ้านาย A จะขึ้นจากชั้น 1 ไปชั้น 10 การกดเอง กับ การเดาว่าจะไปชั้น 10 ก็ไม่ประหยัดพลังงานต่างกันเลย
ผมยังไม่เห็นเลยว่ามันใช้ประโยชน์ได้ยังไง
อยากให้ช่วยไปทำ รถเมล์อัจฉริยะ มากกว่า ที่จะมาตอนที่เราไปยืนรอพอดี มี AI เรียนรู้ว่าป้ายนั้นป้ายนี้คนจะมายืนรอกันตอนไหน ขึ้นจากไหนไปลงไหน ไม่ต้องมีกระเป๋ารถเมล์ถาม ขึ้นรถก็คำนวนค่าเดินทางเลย 555
ปล.ใน blognone มี AI ตรวจคำผิดระดับเทพให้ดูด้วยนะ สามารถตอบคำถามและคำที่พิมพ์ผิดได้เป็น link อิอิ
ให้ความรู้สึกเหมือน Bumblebee ที่พูดไม่ได้ตอบออกมาเป็นเสียงวิทยุ แต่อันนี้ตอบเป็น link แทน
ผมก็ว่าแบบนั้น แหละครับ
+1024
เอาจริง ๆ ผมว่าทำเป็นระบบสั่งงานด้วยเสียงจะ ok กว่าป่ะ ใครอยู่มุมไหนก็บอกได้ ลดการใช้งานเสียงในลิฟท์ด้วย (บอกผิดสั่ง cancel)
+1 ผมก็ว่าใช้เสียงสั่งง่ายกว่า เพราะนึกจากสภาพความเป็นจริง คนทุกคนบางทีก็ไม่ได้เข้าไปกดลิฟต์ด้วยตัวเองกันอยู่แล้ว พอเข้าลิฟต์ได้ ก็มักจะบอกคนที่อยู่ใกล้ปุ่มกดให้กดชั้นให้ ดังนั้นแค่ลิฟต์มีระบบรับคำสั่ง (ชั้นที่จะออก) ด้วยเสียง คนเข้าก็แค่พูด ลิฟต์ก็เอาไปประมวลผล ง่ายๆ ไม่ต้องเก็บข้อมูล แล้ว "เดา" ให้วุ่นวาย ผมว่าเคสนี้คิดอะไรให้ยากไปจริงๆ ครับ ยังไม่เห็นประโยชน์ที่คุ้มค่า นอกจากจะทำออกมาให้ดู WOW ไปงั้นๆ
ป.ล. อย่าลืมพูดชั้นที่จอดเป็นฟีเจอร์หลักด้วยนะครับ เผื่อสำหรับคนพิการด้วย :d
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
บริษัท xoxo ในไทยพัฒนา "เมียอัจฉริยะ" ไม่ต้องโทรถามก็รู้ว่าต้องไปตามสามีที่ไหน
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ต่อไปนี้ ลิฟจะหยุดชั้นที่ไม่ต้องการมากขึ้นไปอีก แล้วคนก็จะมองหน้ากันเหมือนมองหาคนตด (ลิฟมันจอดชั้นนี้เพราะใครวะ)
ผมเดาว่า พอมีผู้โดยสารขึ้นลิฟต์แล้วจอแป้นกดจะโชว์ชั้นที่ผู้โดยสารจะไปนะครับ ถ้าลิฟต์โชว์ผิดชั้น ผู้โดยสารก็ควรกดชั้นที่จะไปเอง