ขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันเข้ามารายงานสด MacWorld 2008 นะครับ คนตอบกันล้นหลามจนขึ้นเป็นข่าวที่มีคอมเมนต์สูงสุดอันดับสองใน Hall of Fame แถม MySQL ล่มไปสองรอบในตอนท้ายๆ (งานหน้า WWDC สงสัยต้องแยกเครื่องแล้วมั้งเนี่ย)
สำหรับคนที่ไม่ได้ถ่างตารอดู Keynote และขี้เกียจไปไล่อ่านในคอมเมนต์ สิ่งที่สตีฟ จ็อบส์ ประกาศมีดังนี้
- Time Capsule = AirPort Base Station + ฮาร์ดดิสก์ขนาด 500GB/1TB เอาไว้ทำแบ็คอัพผ่าน Wi-Fi draft-n
- อัพเกรดซอฟต์แวร์ iPhone ฟรี
- อัพเกรดซอฟต์แวร์ iPod touch โดยเพิ่ม apps อีก 5 ตัวของ iPhone ราคา 20 เหรียญ
- iTunes Movie Rentals เช่าหนังผ่าน iTunes Store โดยหนังดาวน์โหลดมาเก็บได้ 30 วัน ถ้าเริ่มดูแล้วต้องให้จบภายใน 24 ชั่วโมง หนังปกติราคาเรื่องละ 2.99 เหรียญ
- Apple TV Take 2 เป็นซอฟต์แวร์อัพเกรดสำหรับ Apple TV เดิม ต่อตรงเข้ากับทีวีได้โดยไม่ต้องผ่านคอมพิวเตอร์ และเช่าหนังได้ มีหนังแบบ HD ให้เลือก ถ้าซื้อใหม่ลดจากเดิม 299 เหลือ 229 ดอลลาร์
- MacBook Air ตรงตามข่าวลือที่ออกมานาน โน้ตบุ๊คจอ 13" บาง 0.76" หนักประมาณ 1.3 กิโล ไม่มีออปติคอลไดรว์ มีฮาร์ดดิสก์ 80GB (สามารถอัพเกรดเป็น SSD ได้) ราคาเริ่มต้น 1,799 ดอลลาร์
ตอนที่เขียนนี้ ทุกอย่างอยู่บนเว็บไซต์ของแอปเปิลหมดแล้ว เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันเองนะครับ
ที่มา - MacWorld, Ars Technica
Comments
ขอบคุณครับ :)
--
shoppingwebthailand
ถ่างตาอยู่กันจนจบนะครับ ก็คิดว่าน่าประทับใจพอสมควร แต่ส่วนใหญ่เรารู้มาจากข่าวลือ แค่คอยลุ้นว่าจะตรงรึเปล่าเท่านั้น
Time Capsule - ไม่แพงมาก เพราะเก็บได้มหาศาลจริงๆ แถมเป็น wifi station ในตัวด้วย
iPhone , Apple TV , iTunes Rental นี่ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น
พระเอกของงานก็ต้อง MacBook Air เลยครับ เรียกว่าร้องว้าวกันทุกคอมเมนต์เลย เพราะมันบางจริงๆ ขนาดไม่ได้เห็นกับตานะเนี่ย ว่าแต่คิดดีแล้วเหรอที่มี usb 1 port แถมไม่มี DVD drive กับที่เสียบสาย Lan มาให้เนี่ย
Note : แอบเห็นผ่านตาว่า mk บอกถ้า review ออกมาดีจะได้ถอยมานี่ จริงรึเปล่าครับ :)
---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ได้เวลาเปลี่ยนเครื่องพอดีครับ ก็กันเงินตรงนี้เตรียมไว้นานแล้ว ผมได้ educational price ก็ลดมาเยอะเหมือนกัน (เสียดายว่าถ้าอยู่อเมริกาคงได้ถูกกว่านี้อีกเกือบหมี่น)
เผอิญที่หอผมไม่มี Wi-Fi กำลังคิดว่ายอมจ่ายเพิ่มซื้อ draft-n router ด้วย น่าจะคุ้มกว่าซื้อ USB-to-Ethernet แล้วเสียพอร์ต USB ไป
ไหนบอกจะหันไปทาง DELL with Ubuntu ไงครับ (สายข่าวรายงานว่า หุๆๆ)
จะดีเหรอครับ มันเปลี่ยนอะไรในเครื่องเองไม่ได้เลยนะ แม้แต่แบตเตอรี่
ezybzy.info blog
ปกติเปลี่ยนอะไรในโน้ตบุ้คด้วยเหรอครับ ตั้งแต่ใช้มาเพิ่งเปลี่ยน HDD ไปเพราะเสีย แถมเอาเข้าศูนย์ด้วย ไม่ได้เปลี่ยนเอง
onedd.net
แรม กับ แบต ครับ
Please go to My site at molecularck.wordpress.com
http://www.digimolek.com
นั่นสิ ลืมไปเลยว่าเพิ่มแรมด้วยทีนึง - -"
onedd.net
HP ผมแงะเองทั้งเครื่องเลยครับ ทั้ง RAM, HDD, DVD แถมประกันไม่หลุดด้วย :P
ผมชอบการนำเสนอมากเลย ที่ใส่ซองจดหมายมา เจ๋งมาก ๆ เลย
usb port ผมว่าอาจใช้พวก hub ช่วยได้ แต่ lan นี่ สงสัยที่โน่น wireless คงมีใช้กันทั่ว เมืองไทยคงใช้สายเหมาะกว่า
--
shoppingwebthailand
Lan นี่เท่าที่เข้าไปดูๆในเวปมีสายต่อพ่วงจาก port USB ต้องซื้อแยกต่างหากครับ 29$
แต่ก็นะ ...ต้องจ่ายเพิ่มอีก
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมมันหนักมากถึง 1.36 Kg ซึ่งถือว่าหนักมากนะครับเมื่อเทียบกับ Sub-Notebook ที่เคยรั้งตำแหน่งดีที่สุดในโลกต่อเนื่องอย่าง Let's Note รุ่น W7 จอ 12.1'+ODD หนัก 1.25 kg หรือ Y7 จอ 14.1'+ODD หนักแค่ 1.5 kg ถ้าเป็น T7 จอ 12.1' ไม่มี OOD เหมือน MBA จะหนักแค่ 1.17 kg เท่านั้นเอง หรือถ้าใครจะบอกว่า Let's Note อัปลักษณ์เกินว่าจะถือไปไหนมาไหน ผมว่า DynaBook SS RX1 ที่เพิ่งยึดตำแหน่งสุดยอด Sub-Notebook ก็บางเบาและดูดีได้สักครึ่งนึงของ MBA RX1 เองก็บางถึง 19.4 mm ไล่กับ MBA เหมือนกันนะครับ แล้วก็ออกแบบโค้งมนเช่นเดียวกันอีกต่างหาก จอ 12.1+0DD แต่หนักแค่ 1.1 kg เท่านั้น
นี้ยังไม่นับเรื่องความแข็งแรงทนทานนะครับ เพราะ Let's Note หรือ SS RX1 ผ่านการทดสอบการตกที่ระดับ 76cm และรับน้ำหนักกดทับได้ถึง 100 Kg ยังไม่นับรวมไปถึงความสามารถในการรับน้ำได้อีกเกือบ 100cc ไม่ต้องพูดถึง Port เชื่อมต่อด้วยนะของญี่ปุ่นให้มาจุใจ แถมมี Dock ต่อเพิ่มได้อีกต่างหาก
โดยส่วนตัวผมไม่เห็นว่าไอ้เจ้า MBA เนี้ยจะ thinovative ตรงไหนเลยสักนิด ผมว่าตอนนี้ยังไม่มีใครทำ Sub-Notebook ได้ดีไปกว่าคนญี่ปุ่น ก็แค่ความสำเร็จเบื้องต้นในการพยายามจะไล่ให้ทันแค่นั้นเอง ตอนเห็นที่แรกลุ้นให้มันหนักต่ำกว่า 1kg ได้ แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ที่ว่าลงทุนทำ Core2 ให้เล็กลง แต่แล้วได้มาแค่เนี้ยผมว่ามันน่าขายหน้าอย่างไรไม่รู้นะ ตัวถังเป็น Aluminium สวยแต่ไม่ต้องห่วงเลยน่าจะบู๊บี้ได้ง่ายๆเพียงนั่งทับหรือตกพื้นเบาๆ ทำให้บางเป็นรูปหยดน้ำเทห์ดีแต่ต้องตัดพอร์ทออกหมดเนี้ยก็มีแต่ Apple เท่านั้นที่กล้าทำ -_-"
อาจจะมีข้อดีกว่าคู่แข่งก็น่าจะตรงที่แบตใช้ได้นานกว่า ??? อันนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานเหมือนที่วัดได้ชัดเจนอยู่ดี [ซึ้งต้องเทียบกับ Performace ของ CPU ด้วย]
แต่ที่แน่ๆเนี้ย 62,000 กินไอ้เจ้า Let's Note หรือ RX1 ขาด เพราะสองตัวนั้นน่ะต้องจ่ายแพงกว่าอีกเยอะเลย
อย่างนี้ถ้าได้ไปญี่ปุ่นช่วงเดือนมีนาหิ้วกลับมาสักตัวดีกว่า ดีกว่า MBP ที่เกินความต้องการไปมาก และจะยังไงก็ยังรัก Apple
มันก็จริงนะครับ ไม่มี optical drive ด้วย vaio g series ทำน้ำหนักได้ 1.0kg แต่ไม่บางเท่า อาจจะแล้วแต่ lifestyle ของแต่ละคนมั้ง
เรื่องบางไม่บางเนี้ย ความลับมันอยู่ที่การไม่ต้องฝังแบตลงไปครับ เบอร์สองของ Apple เคยบอกไว้ตอนมีคนมา่ถามว่าทำไม iPhone เปลี่ยนแบตไม่ได้ เค้าบอกไว้ว่าการทำให้เปิดใส่ Batt ได้เนี้ยเปนสา่เหตุทำให้ตัวเครื่องหนาขึ้น ดังนั้นจะเห็นได้ว่า Apple ยัดทุกอย่างลงไปหมดในตัวหมดเลยทำให้มันบางได้ แต่ถ้าถามว่าบางแล้วดียังไง ตอบได้ว่าดีครับเพราะบางที่สุดในโลกมันโม้ได้ครับ Apple ทำเบาที่สุดไม่ได้เพราะ Apple ตั้งธงไว้ที่จอ 13" ลดน้ำหนักยังไงก็ไม่ต่ำกว่าคนอื่นหรอกเพราะเค้า 10-12" กันเท่านั้น จะโม้ว่าเบาที่สุดในขนาด 13" ก็กระไรอยู่ Apple เลยต้องหาทางออกให้ตัวเองโดยทำให้มันบาง บางแล้ว Sexy กว่าคนอื่นเยอะเลย นั้นแหละครับ Style ใคร Style มัน
T7 12.1" ไม่มี ODD หนัก 1.17kg
แล้ว MBA 13.3" ไม่มี ODD หนัก 1.36kg นี่แปลกเหรอเนี่ย? ขนาดก็ใหญ่กว่านิ -*-
ที่อยากรู้คือแบตฯกี่เซลล์มากกว่า ผมคิดว่ามีผลกับน้ำหนักเครื่องพอสมควรเลยนะ เครื่องอาจหนักเพราะเซลล์เยอะก็ได้
ผมาแค่อยากจะบอกว่า Panasonic ทำเครื่องน้ำหนักขนาดไล่เลี่ยกันนี้ได้มาเป็นปีแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลก น่าตื่นเต้นอะไีรมากมาย ไม่ Innovation เท่าไหร่ขนาดประมาณเนี้ยทำมาได้เป็นปีกันแล้ว ส่วนเรื่องแบตนั้นผมเห็นด้วยครับ แล้วก็ติดใจอยู่้เหมือนกัน เพราะพวกตัวเล็กของญี่ปุ่นนั้นจะใช้ Chip รุ่นที่เป็น Utra low voltage แต่ Apple ขอให้ Intel ไปแก้ Core 2 duo รุ่นปรกติมาให้เล็กลงทำให้สามารถยัดเข้าไปได้ แต่มันก็ยังน่าจะกินไฟเท่าเดิมเพราะเปลี่ยนแค่ Package ของ CPU ไม่ได้เปลี่ยน Core ดังนั้น MBA อาจจะต้องกินไฟมากกว่า แบตก็เลยต้องใหญ่ขึ้นผมก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้น แต่ในทางกลับกัน Apple ก็ปกปิด Spec ของ Batt พอสมควร ซึ่งก็น่าสงสัยอยู่เพราะถ้าใช้่ Batt ตัวใหญ่ใน Let's Note ก็จะเพิ่มอีก 0.12 Kg ทีเดียว
แต่ว่าอย่างไรเสีย Dynabook SS/RX1 หรือ Sony Type G ก็เบากว่า MBA แน่อยู่แล้ว 12นิ้ว + OOD/ไม่มี OOD ก็หนักราว 1 Kg เพิ่มจอจากขึ้นไปอีกนิ้วกว่าๆ ยังไงก็ไม่น่าจะเกิน 1.36 Kg แต่ถ้าต้องเพิ่ม Batt ด้วยก็ไม่แน่อันนี้
ผมก็อยากให้ Apple ทำได้ดีน่ะครับ เพราะตามพวก Sub-Notebook มานานแล้ว เห็นหน้ามันครั้งแรก พอเห็นตัวเลข 3 ปอนด์แล้วก็เลยผิดหวังยังไงไม่รู้ ไม่ใช่ว่าเบาไม่พอแต่ไม่แน่ใจว่าก้าวหน้าขึ้นกว่าค่ายญี่ปุ่นจริงหรือก็เท่านั้น ฝรั่งอาจจะไม่ถือเรื่องหนักแค่นี้ก็ถือว่าเบามากแล้วสำหรับเขา และยอมแลกกับ Batt ที่ใหญ่ขึ้น + จอที่ใหญ่ขึ้น + เร็วขึ้น และอีกเรื่องที่ว่า Apple ควรจะตามญี่ปุ่นให้ทันก็น่าจะเรื่องความทนทานมากกว่า เพราะเค้าก้าวหน้าไปมาก ถ้าเคยใช้เครื่องเล็กจะรู้ว่ามันบอบบางมาก พวก Type T โบราณ หรือ Fujitsu ตัวเก่าๆนั้นเปราะเหลือเชื่อเลยนะครับ
ยังไงก็ลองคำนวณดูเล่นๆนะครับ
T7 12.1” ไม่มี ODD หนัก 1.17kg
W7 จอ 12.1’+ODD หนัก 1.25 kg
แสดงว่า Drive น่าจะหนักสัก 0.08 kg
W7 จอ 12.1’+ODD หนัก 1.25 kg
Y7 จอ 14.1’+ODD หนัก 1.51 kg
จอต่างกัน 2 นิ้ว = 0.26 Kg หรือคือ 0.13kg ต่อนิ้ว
เริ่มจาก T7 12.1" ขยายจอออกไปอีก 1.2 นิ้ว = 0.156Kg
ดังนั้นถ้าเป็น LetNote จอ 13.3 นิ้วน่าจะหนัก อยู่ที่ 1.33Kg
ที่เขียนมานี้เป็นแค่ข้อสังเกตไม่ได้คิดจะไปลบหลู่ Apple นะครับ
Fujitsu P7010 ตัวเล็กๆ สามปีแย้วยังปกติดีอยู่เลย ^^
เรื่องน้ำหนัก ODD นี่ไม่เบาขนาด 80 กรัมหรอกมั้ง? อย่างพวก Fujitsu แงะเอา ODD ออกแล้วใส่ weight saver เข้าไปแทน ลดได้ประมาณ 200-300 กรัม มั้ง...ถ้าจำไม่ผิดนะ
แฟนผมเคยทำ Fujitsu P อะไรสักอย่างเนี้ยแหละ เสียค้าบูตในงาน ICT Expo ครั้งแรกเลยครับ แบบว่าลองเปิดปิดฝาดูแล้วตัวเครื่องก็ยกลอยขึ้นตามมานึกภาพออกไหมครับ แบบว่าไม่ระวังตัวเครื่องกระแทกโต๊ะดังปัง แล้วเงียบไปเลยดับสนิท บูตไม่ขึ้นอีกเลย เจ้่าของบูตบอกว่าไม่เป็นไรหรอกครับ ส่ง Claim ได้ไม่มีปัญหา ตั้งแต่นั้นมาแฟนผมไม่เล่น Notebook ตามงานคอมอีกเลย -_-"
เรื่องน้ำหนักก็แค่คำนวณเล่น แต่ ODD ของ Panasonic เป็นแบบเปิดฝาบน ซึ่งเค้าอาจว่าลดน้ำหนักได้เยอะ
เอิ้กกกก กระแทกดังปังนี่ Harddisk กลับบ้านเก่าแล้วมั้งนั่น ^^"
ส่วนเรื่อง ODD ของพานาโซนิคนี่ก็จริงแฮะ ลืมไปเลยว่าเป็นแบบเปิดฝากลมๆ ก็ท่าจะลดน้ำหนักได้หลายอยู่เหมือนกันนิ
เดิม Apple TV ก็เสียบทีวีได้โดยตรงอยู่แล้วครับ ที่ปรับปรุงเพิ่มขึ้นมาก็คือใช้งานพวกซื้อขาย download ได้ภายในตัวมันเองเลย ไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการซื้อแล้ว sync หนังมาลงเหมือนก่อนแล้ว
ก็คือเหมือนกับ iTunes ใน iPod touch , iPhone ที่สามารถซื้อจากในตัวเครื่องได้เลยครับ
iRadio : สถานีวิทยุออนไลน์เต็มรูปแบบ
รอให้มัน อัพเกรด เป็น Macbook Pro Air ก่อนแล้วซื้อ
Please go to My site at molecularck.wordpress.com
http://www.digimolek.com
ได้เวลาถอย macbook pro ตัวใหม่แล้ว โอม จงลง จงลง (ราคา)
สวัสดีครับ
รอ Macbook Air วางขาย
แล้วหวังลึกๆว่า Macbook รุ่นเก่าจะถูกลงเร็วๆ...
Kohsija
คงยากเพราะดูเหมือนมันจะมาคนละไลน์ผลิตกันเลย
Please go to My site at molecularck.wordpress.com
http://www.digimolek.com
แต่อยากได้ super drive ของ Macbook Air แฮะ
Please go to My site at molecularck.wordpress.com
http://www.digimolek.com
เป็นเหตุผลที่ดีในการซื้อ MacBook (ต่ำ) + SuperDrive เพื่อถนอม Drive เครื่อง แลกกับประสิทธิภาพคนละเรื่องเลย
ezybzy.info blog
ผมว่าราคาเกือบๆ 6 หมื่นนี่ เอามาซื้อ MBP + SuperDrive ดีกว่าครับ (ตอนนี้มี MBP แล้ว เก็บตังค์รอซื้อ SuperDrive ของแมคพอ) อีกอย่างผมอยากรู้ว่า เจ้า Time Capsule นี้สามารถเอามาทำ Ext.HD ได้ไหมครับ (ชื่ออย่างกับออกมาจาก Capsule Corp.) เลย
Please go to My site at molecularck.wordpress.com
http://www.digimolek.com
ใส่น้ำแล้ว บรุ้งง!!!
onedd.net
External Harddisk แบบต่อผ่าน USB คงจะไม่ได้
แต่อ่านในเวบแอปเปิลแล้วบอกว่าเครื่องที่ใช้ Tiger, XP, Vista สามารถใช้ Time Capsule เป็นที่ wireless harddrive ผ่าน WiFi (แบบนี้จะเรียกว่าเป็น External Harddisk ได้ไหมเนี่ย :P )
น่าจะได้ครับ ไม่ได้มันน่าเกลียดเปิดไปมั้ง (แต่เอ๊ะ แอปเปิลก็ชอบทำให้มันทำได้น้อยกว่าที่เครื่องจะทำได้ประจำนี่ เช่น iPhone)
@TonsTweetings
Macbook Air น่าจะเล็กกว่านี้หน่อย จอซักแค่ 10 นิ้วก็พอ
แต่ราคาระดับนี้ ผมว่า Vaio TZ ยังน่าเล่นกว่าเลยนะนั่น (มี ODD ให้ด้วย)
แค่ CPU ต่ำกว่าเท่านั้นเอง
10" ไม่พอครับ.. เชื่อผมเถอะ.. อะไรๆ ก็เล็กไปหมด..
หนังเรื่องละ 299 $ (ประมาณพันกว่าบาท ) เลยหรอเนี่ย
นึกว่าซื้อหนังที่ดาวน์โหลดผ่านเนตจะถูกกว่าแบบซื้อทั้งกล่องซะอีก
คุณภาพเดียวกับหนังแผ่นรึเปล่าครับ
Please go to My site at molecularck.wordpress.com
http://www.digimolek.com
299 น่าจะเป็นราคาเดิมของตัวเครื่องนะครับ ================================ ว่างจัดๆก็แวะมาได้ http://badzboy.10thingsabout.com
2.99 เหรียญครับ - -"
แต่ถ้าซื้อปกติก็ประมาณ 9.99-14.99 เหรีียญนะ
Apple TV น่าจะไปซื้อลิขสิทธิ์ wiimote ของปู่นินมาใช้นะ