ถึงแม้สงครามฟอร์แมตแผ่นดิสก์จะจบลงไปแล้วเมื่อต้นปี แต่เส้นทางของ Blu-ray ก็ยังไม่สดใสอย่างที่อยากเป็น เนื่องจากต้องเจอกับคู่แข่งอย่างดีวีดี และการดาวน์โหลดภาพยนตร์ผ่านอินเทอร์เน็ตโดยตรง
รายงานของบริษัทวิเคราะห์ Bernstein & Co. ให้ข้อมูลว่ายอดขายของ Blu-ray นั้นช่วยให้ตลาดดีวีดีโตเพิ่มขึ้นเพียง 1% เท่านั้น ปัญหาสำคัญคือราคา ซึ่ง Blu-ray มีราคาเฉลี่ยต่อแผ่นสูงกว่าดีวีดี 11 ดอลลาร์ และราคาเครื่องที่หลัก 400 ดอลลาร์เทียบกับเครื่องเล่นดีวีดี 60 ดอลลาร์ แถมเมื่อเทียบความแตกต่างกับดีวีดีแล้ว Blu-ray ให้ประโยชน์เพิ่มมาไม่เยอะนัก เมื่อเทียบการเปลี่ยนแปลงจากวิดีโอเทปมาเป็นดีวีดี ความละเอียดที่เพิ่มสูงขึ้นจะเห็นผลชัดเจนเฉพาะกับหนังแอคชันเท่านั้น
ฝ่ายผู้สนับสนุน Blu-ray ยังยืนยันว่ายอดขายของ Blu-ray ไปได้ดี ยอดขายของ Blu-ray คิดเป็น 7% ของดีวีดีสำหรับบางสตูดิโอ และบริษัทเหล่านี้หวังว่า Profile 2.0 หรือ BD-Live ที่กำลังจะออก และเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเข้ามา จะช่วยให้ใส่ลูกเล่นลงไปในแผ่นได้หลากหลายมากขึ้น เป็นสิ่งดึงดูดลูกค้าอีกทางหนึ่ง กลยุทธ์อีกอย่างคือการเจาะตลาดเจ้าของ PS3 ซึ่งยังมีอัตราการซื้อแผ่น Blu-ray ภาพยนตร์ต่ำมาก คือเพียง 3 แผ่นต่อปี เมื่อเทียบกับซื้อเกม 8 เกมต่อปี
คู่แข่งอีกด้านที่น่ากลัวคือการดาวน์โหลดภาพยนตร์โดยตรงของทั้งแอปเปิล, อเมซอน และ NetFlix ซึ่งต่อรองกับค่ายหนังจนเปิดให้ดาวน์โหลดวันเดียวกับที่แผ่นดีวีดีวางขาย
ที่มา - Business Week
Comments
ยังไงก็ยังไม่เคยใช้บลูเรย์เลย....คงนานจิงๆละ
...................................................................
http://NiNeMarK.net/
ใช้ ยังไม่ถึงมือเราสะที Apple เค้าจะเปลี่ยนมาใช้เมื่อไหรนะ
ต้องเปลี่ยน TV ใหม่ด้วย ถึงจะเห็นผลชัดเจน
สงสัยจะอีกนานกว่าจะได้ลอง เครื่องมันแพงจริงๆ
แต่จริงๆแล้วพวก software ก็เริ่มจะเกินความจุ dvd แล้วเหมือนกันนะ เห็นจากพวก adobe suite หรือเกมส์ทั้งหลายก็เริ่มใช้หลายแผ่นกันแล้ว
---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
เฮอะๆ ขยับมาเป็น BD มันมี hidden cost อีกบาน TCO มันสูงอ่ะครับ
เริ่มต้น ต้องเปลี่ยนจอภาพเป็น HD ก่อน (แพง)
เครื่องเล่น BD (แพง) แล้วก็ต้องซื้อแผ่นหนัง BD ที่ต้องการ
แล้วจะโดนเด้งที่สอง คือ แผ่น DVD ที่อุตสาห์สะสมไว้ (ซึ่งอาจจะเยอะมากสำหรับหลายๆคน ที่ชอบดูหนัง) กลายเป็นไม่ชัดในบัดดล บนจอ HD ทนดูน่ะได้ แต่มันไม่ชัดใสกิ๊ก กิเลสจะเริ่มจับ ก็ต้องย้อนไปไล่ซื้อเก็บใหม่ในรูปแบบ BD อีก
มันไม่เหมือนเมื่อคราวเปลี่ยนจาก เทป มาเป็น CD หรือแม้จะ DVD ที่จอภาพยังเหมือนเดิม
ยังเอาของเก่ามาดูได้ ชัดเท่าไรเท่านั้น ไม่ต้องไปย้อนซื้อใหม่ว่างั้นเถอะ
การเปลี่ยนมาใช้ Blu-ray แทบจะต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ทั้งหมด
ค่าใช้จ่ายสูงมาก ๆ
ตอนนี้อยากเปลี่ยนจาก DVD 5 เป็น DVD 9 มากกว่า
แผ่น DVD 9 ราคายังสูงอยู่เลย
ราคายังสูง ปล่อยบิทกันเพียบ รออีกสองปี เพราะตอนนี้คนไทยยังต้องใช้ DVD กันอยู่ราคาเครื่อง ไรท์ของ ASUS ก็ยังอยู่ในหลักสูงอยู่ อ่วมแน่ครับผม
macXide กล้าคิดเพื่อโลกของความเป็นจริง - อาหารเสริมนี้ดีจริง ท่านลองกินลูทีน 20MG ดูแล้วโลกจะสว่าง แนะนำของเมสันนะจ๊ะ
วันหนึ่งน่าจะมีคนทำ bitbox + hdd player ที่ไช้ hdd ลูกเดียวกันนะ
^^
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ตอนนี้ก็ใช้ ext.hdd.ย้ายไปต่อเราท์เตอร์ที ต่อเครื่องเล่นที ไปพลางๆ ก่อน :D
---------- iPAtS
iPAtS
เห็นด้วยเรื่อง ถ้าจะใช้ BD ให้คุ้มมันก็ต้องมีทีวีแบบ HD ถ้าไม่งั้นก็เสียเปล่า สู้ DVD ไม่ได้เอา ดังนั้นค่าใช้จ่ายซ่อนเร้นเพิ่มขึ้นมาอีกบาน
เอาเป็นว่าจนกว่าจะมีตังค์ซื้อ LCD แบบ HD ก็ไม่ซื้อ BD :P (PS3 ก็ไม่ซื้อ)
ได้ Wii Fit แล้ว เย้!!
We need to learn to forgive but not forget...
แค่ตอนนี้ผมเอา ไฟล์ VCD (.DAT) ไปเปิดบนจอ LCD ขนาด 22 นิ้ว Wide Screen ผมก็เสียอารมณ์จะแย่แระ เพราะมันเล็กนิดเดียว เปิด DVD พอดูได้หน่อย เนี้ย ถ้า BR ออกมา แล้วเปลี่ยนจอกันเป็นจอใหญ่มากๆ คงถึงเวลาที่เปิด DVD แล้วยังเสียอารมณ์อยู่แน่ๆ เลย อย่างที่บอก มันก้าวกระโดดมากไปหน่อย บางทีก็ปรับตัวไม่ทัน
เห็นด้วยกับการให้ DVD9 ออกมาถูกๆ หน่อย แต่นั้นล่ะ ออกมาถูกเท่าไหร่ คนก็จะไรท์ DVD9 ได้ง่ายขึ้น ชัวร์ๆ
เอ ถ้าแผ่นแท้ DVD9 ถูก ทำไมจะไรท์เยอะขึ้นล่ะ
--
--
ผมก็ยังไม่เปลี่ยนเป็น BR ถ้ายังใช้ TV จอเท่านี้อยู่ เพราะไม่มีประโยชน์อันใดกับภาพที่ชัดขึ้นเลย
คงอีก 5 ปีเป้นอย่างน้อย กว่าราคาทุกอย่างจะสมเหตุสมผล
ถ้าเหลือเครื่องละ $100 ผมว่าน่าจะโอเคนะ
แต่คนไทยดูจะยังชอบ VCD มากกว่าอยู่ดี ไม่เข้าใจ
+พากษ์ไทย
อีกไม่เกิน 150 ปีครับ ... เดี๋ยวก็จะมีอภิมหาจอภาพที่จริงจนกระทั่งแตะขนหู Nicole Kidman ได้เหมือนแตะตัวจริง มีกลิ่นออกมาเหมือนกลิ่นเหงื่อ Will Smith แล้วก็ภาพเหมือนจริงจนเห็นไฝใต้ใบหูของ Robert Redford จอภาพขนาดกว้าง 80 เมตร ยาว 250 เมตร โ้ค้งล้อมรอบตัวในรูปแบบ 250 องศาจนได้ Perspective ภาพเหมือนจริง มองบนล่างซ้ายขวาได้หมด เสียง 199.99 Channels ที่สามารถทำให้ค้างคาวบินตกหลุมอากาศและสุนัขหูแตกได้ ต่อเชื่อมอินเตอร์เน็ต Stream เอาข้อมูลขนาด 1 ล้าน ZB ไ้ด้ใน 1MS
แล้วก็มี DRM แบบเทพครอบทับอีก 44 ชั้นครึ่ง 128 Bit Encryption ด้วยนะครับ
ถึงตอนนั้นแล้ว ... จะเอาอะไรกันอีก ?
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
:: Take minimum, Give Maximum ::