เนื่องในโอกาสบิล เกตส์ลงจากตำแหน่งสิ้นเดือนนี้ เว็บไซต์ Seattle PI ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของเมืองซีแอทเทิล ที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ไมโครซอฟท์ได้ตีพิมพ์บทความชุดเรื่องผลกระทบต่อบิล เกตส์ต่อวงการซอฟต์แวร์ และต่อไมโครซอฟท์เอง
บทความหนึ่งในชุดเป็นอีเมลภายในที่รั่วออกมา เมื่อปี 2003 บิล เกตส์เขียนอีเมลไปบ่น (เรียกให้ถูกคือไปด่า) Jim Allchin หัวหน้าทีมวินโดวส์และลูกน้องระดับสำคัญๆ หลายคน เพราะเขาพบว่าวินโดวส์ใช้งานยาก หลังพยายามดาวน์โหลดและติดตั้ง Movie Maker ลงในพีซีของตัวเอง หัวข้ออีเมลใช้ชื่อว่า "Windows Usability Systematic degradation flame"
ปัญหาที่บิล เกตส์ประสบพบเจอก็เหมือนเราๆ เช่น
- เว็บไซต์ไมโครซอฟท์ช้ามาก
- หาลิงก์ดาวน์โหลดไม่เจอ
- หน้าดาวน์โหลดเต็มไปด้วยขยะ เกตส์ใช้คำว่า "These names make stuff like: C:\Documents and Settings\billg\My Documents\My Pictures seem clear."
- search ก็ไม่เจอ ต้องอีเมลไปถามลูกน้องว่าหน้าดาวน์โหลดอยู่ไหน
- พอเจอหน้าดาวน์โหลด ปรากฎว่ามันบอกให้ใช้ Windows Update แทน
- เปิด Windows Update แล้วต้องดาวน์โหลด critical ก่อน โดนบังคับ ไม่งั้นไปต่อไม่ได้
- ดาวน์โหลดอัพเดตแล้วติดตั้งช้า แถมบังคับรีบูต "Why should I do that? I reboot every night -- why should I reboot at that time?"
- หน้าต่างเซฟไฟล์มีแค่ปุ่ม Open กับ Save ไม่มีคำอธิบาย
- ติดตั้ง Movie Maker เสร็จ เข้าไปดูใน Add/remove ปรากฎว่าไม่มี มีแต่ขยะอื่นๆ
- Later I have listed things like Windows XP Hotfix see Q329048 for more information. What is Q329048? Why are these series of patches listed here?
เกตส์ยืนยันกับ Seattle PI ว่าอีเมลนี้เป็นของจริง และบอกว่าเขาต้องส่งอีเมลแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้ว เพราะว่านี่คืองานของเขาล่ะ
ที่มา - Seattle PI ผ่าน OSNews
Comments
โอ้วววว เหอะ ๆ ต้องตัดเงินเดือน ๆ
© NgOrXz ™ ® แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เก่งที่สุดในโลก
แล้วระหว่างนั้นพี่แก ไปใช้อะไรมา Mac เหรอ
Inloving memory of our child ... So innocent, eyes open wide
ใช้คนอื่น
ปัญหาเหล่านี้แก้ได้ด้วย apt-get ;)
ไร้ปัญหา, ubuntu ไม่ต้องเข้่าเว็บลงโปรแกรม เห็นเขาว่า ASP.net มันเขียนโปรแกรมได้ง่าย แต่ถ้ามันช้าก็ไม่ไหวนะครับเนี่ย ไร้ปัญหา, ubuntu มีคลังโปรแกรมหลายหมื่นตัว
ไร้ปัญหา, ubuntu มี add/remove ดูง่ายมากๆ (แต่รู้สึกว่าจะช้ากว่า synaptic นะครับ)
ไร้ปัญหา, ubuntu เลือก download แพคเกจที่จะอัปเดตได้ (แต่ผมเห็นว่าบังคับโหลด crit นี่น่าจะดีกว่านะครับ ไม่งั้นถ้าโดนเจาะมาเราก็โดนทั้งๆ ที่ user ผิดเองที่ไม่อัปเดต)
ไร้ปัญหา, linux รันโปรแกรมใน memory ดังนั้นไม่ต้อง reboot เมื่อลงโปรแกรม (สังเกตได้ว่าถึงรัน compiz อยู่ แต่เราลบมันทิ้งได้โดยไม่มีปัญหา ขณะที่ window$ ต้องใช้โปรแกรมจำพวก unlocker ช่วย)
ไร้ปัญหา, ubuntu ไม่ลิสท์ updates ไว้(แต่จริงๆ แล้วใน synaptic สามารถเลือกรุ่นที่จะติดตั้งได้นะครับ ดังนั้นถ้าอัปเดตแล้วมีปัญหาก็ revert ได้ แต่ต้องจำรายการแพคเกจให้ได้นะครับ - -")
แล้วWindowsมันมีapt-getซะที่ไหนล่ะครับ สั่งapt-getในUbuntuก็ใช่ว่ามันจะดาวน์โหลดพวกupdate,hotfixของWindowsมาให้นี่นา โอเค ยอมรับว่าผมไม่ขำเลย
Linux Powered!
เค้าคงหมายถึงให้เปลี่ยนมาใช้ linux แทนไง
= ='
+1 ไม่ขำเหมือนกัน
ผมว่าคุณ willwill แกตั้งใจจะสื่อว่า "ถ้า Windows มันห่วยนักก็เปลี่ยนมาใช้ Ubuntu ซะสิ"
ถึงแม้ตอนขึ้นต้นเค้าจะบอกเอาไว้ว่า apt-get แต่ดูในบริบทต่อ ๆ มาเน้นย้ำถึงชื่อ Ubuntu ล้วน ๆ ซึ่งนั่นก็น่าจะบ่งบอกความตั้งใจในการเขียนได้อยู่แล้วนะว่ามันไม่เกี่ยวกับ apt-get แต่เป็นเรื่องของ Linux vs. Windows
ใจเย็นๆ ครับ คุณ zangetsu คุณ willwill เค้าเขียนออกแนวประชดเล็กๆ เท่านั้นครับ
น่าขะเข้าใจวันรุ่นเค้าหน่อยนะครับ T_T
เข้าใจ แต่ไม่ชอบการเขียนแนวประชดประชัน มันไม่ได้ทำให้ภาพลักษณ์ของคนใช้ Linux ดูดีขึ้นหรอกนะเวลามาเขียนลง public แนวนี้น่ะ ผมก็เป็นคนใช้ Linux คนนึงเหมือนกัน
คงเขียนเพื่อความสะใจส่วนตัวนะครับ
อารมณ์คล้ายๆคนคลั่งแมค
ผมชอบความเห็นนี้ครับ แล้วก็ไม่เห็นว่า willwill ต้องการให้คนอื่นขำ แต่เป็นการเปรียบเทียบจุดด้อยใน Windows ให้เห็นว่าใน Ubuntu ไม่มีปัญหาตรงจุดนี้มากกว่าครับ
คุณ willwill นี่มาขำๆใช่มั้ยครับ
ผมจะได้ขำๆไปด้วย เพราะถ้าจริงจังผมแย้งได้ทุกข้อนั้นแหละ
แต่เดี๋ยวมันจะยืดยาวซะเปล่าๆ แล้วก็มาจบว่า ไม่มีอะไรที่ perfect 100% ทั้ง windows และ linux นั้นแหละ
อยาก Perfect ก็ต้อง Mac เลยครับ Linux ยังเป็นมัคทายก Windows เป็นเจ้าอาวาส แต่ Apple นี่เป็นศาสดากันไปเลยทีเดียว...
ไม่ขำนะครับ (อ่านยังไงก็ไม่เห็นขำ)
ผมเขียนขึ้นมาเพื่อจะแสดงว่า Linux เหนือกว่า "อีกค่ายหนึ่ง" ในหลายๆ ด้าน(ไม่ได้บอกว่าทั้งหมด) ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าเรียงกันแล้ว
1. Mac อันนี้ยอมรับครับว่าสุดยอด แต่หลายๆ ตัวที่ Linux เอาไอเดียไปก็ทำออกมาดีกว่า (เช่น Cairo-dock แต่บางตัวก็ไม่ได้ดีกว่า) แต่ที่สุดยอดจริงๆคือ "ราคา" ครับ 2. Linux 3. Windows
radiz's picture
แล้วระหว่างนั้นพี่แก ไปใช้อะไรมา Mac เหรอ
ชอบประโยคนี้ครับ เหอะๆ
ต้องฟัง Dave Ross อ่านข่าวเรื่องนี้พร้อมอ่านจดหมายแบบใส่อารมณ์ให้ฟังเลยครับ .. ฮา
Radio host's dramatic reading of Gates rant
---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
เข้าไม่ได้อะ บอกว่าเป็นเวบอันตราย
Stay Foolish
เหมือนทัศนคติที่อันตรายหรือเปล่า?
กร๊ากกก
แต่จริงๆ ด้วย เว็บไซต์ไมโครซอฟท์นี่หาอะไรไม่ค่อยเจอเลยจริงๆ
ได้ Wii Fit แล้ว เย้!!
We need to learn to forgive but not forget...
ถูกกกก!!! เคยลองเปิดเข้าไปที่หน้า Home แล้วพยายามหาลิงก์ไป Mactopia หาเท่าไรๆ ก็ไม่เจอ!!!
สองข้อนี้โดนมาก เพราะ search ในเว็บ microsoft แล้วมักจะไม่เจอลิงค์ที่ต้องการ
แต่ถ้า search ด้วย google จะเจอลิงค์ตรงๆ เลย
+1
เค้าน่าจะเปลี่ยนไปใช้ engine ของ google ในการค้นหาได้แล้วนะนี่ อิอิ ^^
มิน่า live ถึงได้ล้มไม่เป็นท่า 555
**พอเจอหน้าดาวน์โหลด ปรากฎว่ามันบอกให้ใช้ Windows Update แทน
อย่างเซ็งเลยคับ..
ถ้าคุณบิลล์ เกตส์ อยากจะตอบอะไรคนไทยซักอย่างก็คงบอก
"ถ้าเปลี่ยน Windows เถื่อนของคุณให้เป็นของแท้ทั้งหมด ผมรับประกันได้ว่าปัญหาที่บ่นๆ กันจะเบาบางลงอีกเย้อ~"
อุ่ย เ้ข้าตัว...
แน่ใจเรอะ? ไม่มีความมั่นใจ \(@^_^@)/ M R T O M Y U M
แบบนี้ เกตส์ เป็นนักบริหารเก่งมากจริง ๆ แทนที่จะเข้าแทรกแซง ก็ส่งอีเมลไปบ่น
ในลักษณะผู้ใช้ทั่วไป แต่มีผลกระทบมากกว่าเพราะต้องถูกนำไปเป็นใช้ในการ
พัฒนา และลูกน้องก็ไม่รู้สึกว่าเป็นการล้วงลูกในการออกแบบ แต่เป็นการ bias
ความรู้สึกให้ลูกน้องคิดตาม
ถ้าเก่งขนาดนี้เป็นนักการเมืองได้สบาย
เมื่อวันนี้คนทั่วไปยังใช้วินโดวส์ ผมก็ใช้ต่อไปปปปป
เกี่ยวกันไหมเนี๊ย
BeeRY-x Mobile ดาวน์โหลด เสียงเรียกเข้า ฟรี
นึกว่าผมเป็นคนเดียว 55555
ปัญหาที่เกตว่ามาผมเห็นด้วยทุกอย่างครับ จนถึงทุกวันนี้ปัญหาเหล่านี้ก็ยังไม่หมดไป และผมคิดว่าหลายคนคงมีประสบการณ์คล้าย ๆ กัน
วันก่อนผมใช้เวลาเกือบวันในการลง service pack ของ WinXP เพราะหาลิ้งก์ไม่เจอ (ผมงงว่าทำไม ไม่ทำให้ Windows update แบบอัตโนมัติ) พอเจอก็เป็น SP3 ดาวน์โหลดตั้งนาน พอตอนติดตั้งดันมีปัญหา เลยต้องดาวน์โหลด SP2 อีกรอบ ปรากฏเป็นภาษาอังกฤษ แต่ Windows เป็นเยอรมัน เลยต้องดาวน์โหลดอีกรอบ ทุกครั้งที่ดาวน์โหลด มีปัญหากับการหาลิ้งก์ตลอด เซ็ง ....
ตอนนี้ผมว่า เรื่องการติดตั้งซอพท์แวร์ apt-get มันไปไกลกว่าระบบซอพท์แวร์ + update management ของวินโดวส์มากแล้ว และเรื่อง Usability ต่าง ๆ Desktop Environment ของ Linux ก็ค่อย ๆ แซง Windows ไปอย่างช้า ๆ ปัญหาหลักของ Linux ก็เรื่องฮาร์ทแวร์นี่แหละ ซึ่งก็ดีกว่าแต่ก่อนมากแล้ว
BioLawCom.De
เข้ามาขำ ปัจจุบันหน้า download ก็ยังหายากอยู่เหมือนเดิม
หลังจากที่อ่านจบ ผมก็ลองเช้า microsoft.com เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงครับ
เว็บไซต์ไมโครซอฟท์ช้ามาก
ปัจจุบันมันก็ยังคงช้าอยู่ สงสัยเหมือนกันว่าขนาดเจ้านายเขียนเมลไปบ่นแล้วทำไมไม่มีอะไรดีขึ้น
หาลิงก์ดาวน์โหลดไม่เจอ
อันนี้หาเจออยู่ครับ แต่ทันทีที่เข้าไปก็เจอป๊อปอัพชักชวนให้ลอง Silverlight ตลอดเวลา รู้สึกรำคาญนิดๆ
หน้าดาวน์โหลดเต็มไปด้วยขยะ เกตส์ใช้คำว่า “These names make stuff like: C:\Documents and Settings\billg\My Documents\My Pictures seem clear.”
search ก็ไม่เจอ ต้องอีเมลไปถามลูกน้องว่าหน้าดาวน์โหลดอยู่ไหน
อันนี้ขอรวมๆละกัน ผมว่าระบบ Search ของเว็บไมโครซอฟต์มันก๊งๆนะ ที่บอกว่าก๊งๆก็เพราะตอนทดลองเสิร์ชหา Live Messenger มันก็ขึ้นมาให้อยู่ แต่ดันเป้นเวอร์ชั่น 8.1 ซะงั้น ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือผิดพลาดโดยสุจริต?
อ้อ นอกจากนี้ยังลองพิมพ์ผิดจาก Live messenger เป็น Live mseenger ไปครั้งนึงด้วย ซึ่งเว็บไมโครซอฟต์ก็ตอบอย่างซื่อตรงว่าไม่เจอ ในขณะที่ถ้าเราพิมพ์แบบนี้ไปในกูเกิ้ล มันจะมีลิงค์ถามทันทีว่าเราหมายถึง Live Messenger ใช่หรือไม่ อันนี้คงเป็นความผิดของผมเองที่คิดว่า Search engine ในเว็บไมโครซอฟต์จะฉลาดเหมือนกูเกิ้ล
พอเจอหน้าดาวน์โหลด ปรากฎว่ามันบอกให้ใช้ Windows Update แทน
อันนี้ไม่เจอแฮะ
เปิด Windows Update แล้วต้องดาวน์โหลด critical ก่อน โดนบังคับ ไม่งั้นไปต่อไม่ได้
อันนี้เป็นใน Windows XP ครับ เห็นแล้วก็เซ็ง
ดาวน์โหลดอัพเดตแล้วติดตั้งช้า แถมบังคับรีบูต “Why should I do that? I reboot every night — why should I reboot at that time?”
ใช่เลย อันนี้เป็นทั้ง XP และ Vista โดนเต็มๆ
เน้นตัวใหญ่ไปไหมครับ :)
เป็นไปได้ว่าที่แกเลิกไม่ใช่เพราะต้องการไปทำการกุศลหรอก คงเป็นเพราะเซ็งลูกน้องมันไม่ได้ดังใจ บอกยากบอกเย็นดื้อด้าน ด่ายังไงงานก็ออกมาเหมือนเดิม แกเลยเซ็งไปอยู่บ้านเลี้ยงหลานดีกว่า
DEV Team คงจุกไปมาก ต้องเข้าใจว่าพักหลังเค้ากดดันมาก มันหลายๆเรื่องรวมกัน ทำให้ pd ของ ms แย่ไปเรื่อยๆ
แมคไซด์ โปรไฟล์, เรื่องราว it state 44
รู้แต่ว่าเจอCritical Updateเป็นต้องอัพมันไว้ก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวHPลดช้า อ่อ คนละเรื่องเรอะ
เรื่องช้าไม่ช้า ผมไม่สนใจ รู้แต่ว่าเน็ตแรงครับ :P
Linux Powered!
อย่างน้อยก็ยังยอมรับข้อผิดพลาดของตัวเองนะครับ ไม่หน้าด้านแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น..:P
อืม ตรงจริงๆ แต่หลายอย่างใน Windows XP ผมว่ามันก็ใช้ได้นะ รู้สึกมันกลายเป็นเอกลักษณ์ของไมโครซอร์ฟไปแล้ว (ผมสงสัยอย่าง ทำไมต้องทำตัวใหญ่เน้นข้อความกันด้วยหว่า เห็นบางครั้งแล้วก็รำคาญต้องอ่านข้ามๆ ไปอย่างรวดเร็ว)
เรื่องต้อง Restart เครื่องหลัง Update เสร็จนี่เห็นด้วยเลยว่าน่ารำคาญมากๆ พอยืนยันว่าจะ Restart Later ซักพักก็เด้งขึ้นมาถามอีก ... ในเมื่อกดปุ่ม Restart Later แล้ว OS ก็ยังทำงานได้ปกติแล้วจะมาบังคับให้ Restart ทำไมกัน แค่แจ้งครั้งเดียวก็พอว่าควรบูตเครื่องเพื่อให้เครื่องมัน Update สมบูรณ์ก็พอ
มันก็เป็นกันทุก OS อยู่แล้วครับ
Ford AntiTrust’s Blog | PHP Hoffman Framework
ผมว่าไม่นะ ต่างกันโดยสิ้นเชิงกับ Ubuntu เลยครับ อย่าง Ubuntu เนี่ยมันก็แค่แสดง Icon เล็กๆ ไว้ที่มุมขวาบนว่า Restart Required แต่กลับกัน Windows มันดันเด้งหน้าต่างขึ้นมาเลยถามว่า Restart Now หรือ Restart Later หลังจากที่เลือก Restart Later ไปได้ซักพัก มันก็จะเด้งขึ้นมาถามเหมือนเดิมอีก ถ้าตอบว่า Later เดี๋ยวมันก็จะถามใหม่เรื่อยๆ เป็นระยะๆ
คือการ notify ให้ user ทำการ restart ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดครับ และจริง ๆ แล้วก่อนกด update ก็ต้องเตรียมตัวไว้ก่อนอยู่แล้วเป็นปกติครับ และผมว่าสมควรจะทำความเข้าใจด้วยซ้ำว่าถ้าคุณ update อะไรสักอย่างที่ระบบได้บอกว่า restart ก็สมควรทำเดี่ยวนั้นด้วยซ้ำ restart ใช้เวลาไม่น่าเกิน 5-10 นาที ครับ เพื่อแลกกับความเสถียรภาพมากขึ้น และตอน Windows แจ้งให้กด update ก็ไม่มี notify อะไรนอกจาก pop-up ด้วยซ้ายแลก ๆ ซึ่งปิดได้ และไม่กวนใจเหมือนตอนคุณ update ไปแล้ว อย่างเครื่องผมมีแต่ icon รูปโล่สีเหลืองเท่านั้นถ้ายังไม่ update ก็ไม่ต้องไปคลิ้กมันขึ้นมา แล้วทำตาม wizard เพื่อ update ก็จบ มันก็ไม่เด้งมาให้รำคาญแล้วครับ
Ford AntiTrust’s Blog | PHP Hoffman Framework
นั่นในกรณีใช้คนเดียว แต่สมมติเป็น Server ความสามารถการตัดสินใจในการ Restart ก็จะลดลง
ส่วนหนึ่งไม่แน่ใจว่า Restart เสร็จแล้วจะกลับมาได้เหมือนเดิมรึเปล่า อาจจะไปยาว ไม่ใช่แค่ 5-10 นาที บางทีก็ไปตลอดกาลนั่นเลยทีเดียว
หลายอย่างไม่จำเป็นต้อง Restart ก็ใช้งานได้อย่างที่ข้างบนว่าจริงๆ แต่ด้วยความคิดแบบมักง่าย ก็ไหนๆ Update แล้วก็ Restart ไปเถอะ เผื่อไว้ ถึงจะไม่จำเป็นก็ทำ...ทำๆ ไปเถอะ...
ที่ผมบอกนั้นก็คือแนวทางการ update เป็นปกติที่ผมใช้ทั้งส่วนตัว และบริษัทเก่าเลยครับ อย่างที่บอกไปแล้วว่าระบบ Windows มันมีการตั้งค่าไว้ว่าจะให้ auto-update แบบไหน โดยผมตั้งคือให้มัน download มาแล้ว notify ให้ผมกดปุ่ม update เอง โดยถ้าไม่กด update เองมันก็ไม่ทำการ update เป็นลักษณะ end user confirm ครับ ซึ่งถ้ากด update ไปแล้วก็เป็นอย่างที่บอกแหละครับ มันก็เด้งขึ้นมาตลอด เพราะการ update มันไปเขียนทับไฟล์ที่ระบบโหลดและทำงานอยู่ ถ้ามีการ reload service ที่มีการ update อาจจะเกิดการ conflict ขึ้นได้ครับ จำเป็นต้อง restart ให้เร็วที่สุด
โดยถ้าในด้าน Server คือถ้าจะ update path สิ่งที่ต้องทำก่อนเลยคือทำเอกสารจากการเข้าไปอ่านเอกสารตามหมายเลข KB ของ Microsoft ก่อนเลยครับว่ามัน update อะไร และมีผลกระทบอะไรบ้างครับ โดยต้องมีการ approve จาก Supervisor อีกชั้นนึงอยู่แล้ว โดยก่อน restart ระบบต้องทำการแจ้ง dev หรือ end user อย่างน้อย 12 - 24 ชั่วโมงครับ เป็นปกติ นอกเสียจาก critical security path ที่ต้องทำภายในเวลา 1-6 ชั่วโมงแล้วแต่ผลกระทบครับ ซึ่งปกติ การ update path บางครั้งทำบน Virtual PC ก่อนก็มีในบางครั้งที่มีผลกระทบมาก ๆ ถ้า smooth ก็จะทำกับระบบจริงครับ เช่น Windows XP SP3 ของเครื่อง end user หรือ Windows 2003 SP ต่าง ๆ เป็นต้น
อย่างที่ผมเจอบางวันนี่ update กัน 3-5 ตัวก้ทำเอกสารและ approve กันหน้ามืดแล้วครับ แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำงานด้าน System แล้ว ;P สบายหน่อย งานหนักคนละแบบ
ยิ่งถ้า update path ของ DBMS อย่าง MySQL นี่ยิ่งหนักครับ ทำ approve กันสนุกครับ ต้อง backup data ไว้ก่อน แถมหาเครื่อง slave run ทำงานขนานก่อนอย่างน้อย 12 - 24 ชั่วโมงแล้วค่อย update หรือ fixed ระบบ
Ford AntiTrust’s Blog | PHP Hoffman Framework
แต่ก่อนเคยเจอ.. อัพเกรดแล้วไปไม่รอด ... roll back กันสนุกสนาน (ไม่ใช่แผนกผมนะ อิอิ)
---------- iPAtS
iPAtS
ก็เห็นด้วยนะครับบางส่วน แต่ผมไม่เห็นด้วยอย่างหนึ่งคือ หากการ Update บางอย่างที่ต้องการการ Restart เนื่ย ผมคิดว่าการทำงานส่วนที่จะไปเขียนทับไฟล์ที่ระบบโหลดและทำงานอยู่ มันควรจะถูกทำงานหลังจากที่ผู้ใช้ทำการ Restart เครื่องใหม่มากกว่า ไม่ควรเขียนทับในขณะที่ผู้ใช้ใช้งานอยู่ เพราะในเมื่อเราทราบกันอยู่แล้วว่าหากทำเช่นนั้น มันจะมีความเสี่ยงที่จะเกิด Conflict ขึ้นตามที่คุณ Ford บอก แล้วอะไรคือเหตุผลที่จะทำการเขียนไฟล์ทับตอนนั้นเลยทั้งๆ ที่มันมีความเสี่ยงดังกล่าว? ถ้าจะบอกว่าต้องการให้ผู้ใช้ได้ใช้งานสิ่งที่ Update ใหม่ล่าสุดเลยตอนนั้นก็แสดงว่าคุณให้ผู้ใช้แบกรับความเสี่ยงไปซึ่งไม่สมควรทำอย่างยิ่ง กลับกันคือคุณควรที่จะบอกกับผู้ใช้มากกว่าว่า มีสิ่งใดบ้างที่ยังไม่ถูก Update เพราะต้องรอการ Restart
สรุปคือ การที่ Windows มัน Pop-up ขึ้นมาให้เลือกว่า Restart Now หรือ Restart Later ตลอดเวลาหลัง Update เนี่ย
* ถ้าด้วยเหตุผลว่ากลัวว่าไฟล์ที่ถูกเขียนทับไปจะเกิด conflict หากขืนทำงานต่อไป - ผมว่าฟังไม่ขึ้นเท่าไหร่ เพราะไฟล์พวกนั้นควรจะถูกเขียนหลัง Restart เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงใดๆ
* ถ้าในเมื่อเลือกที่จะเขียนทับไฟล์ ณ ตอนนั้นเลย แล้วก็ให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะ Restart เลยหรือไม่ - อะไรคือเหตุผลที่จะต้อง Pop-up ขึ้นมาถามตลอดเวลาทั้งๆ ที่ผมยืนยันว่าจะแบกรับความเสี่ยงที่จะเกิด conflict นั้นและเลือก Restart Later ไปแล้ว
ปกติที่ขึ้นให้ restart คือมันจะ replace ไฟล์ตอนการบูทครั้งต่อไปไม่ใช่หรือครับ
ผมคิดว่าไฟล์บางส่วนที่คิดว่า Update ณ ตอนนั้นได้เลยโดยไม่มีปัญหา ก็สามารถถูกเขียนทับได้เลยนะ แต่ส่วนที่ถูกเขียนทับแล้วอาจมีปัญหาเกิดขึ้นมันควรจะทำงานหลัง restart หน่ะครับ คำถามที่ฝากไว้คือ เหตุผลอะไรที่จะต้องให้คอย Pop-up ให้เราเลือก Restart Now / Later ตลอดเวลาทั้งๆ ที่เราเลือกแล้วว่าจะ Restart Later - มัน critical ขนาดนั้นเลยหรอที่จะต้อง restart ตอนนั้น ถ้าใช่แสดงว่าคุณทำการเขียนไฟล์ในขณะที่ผมใช้งานอยู่หล่ะสิเนี่ย - แล้วในเมื่อคุณเห็นว่ามันเกิดความเสี่ยง ทำไมไม่ update ทีหลังหลังจาก restart หล่ะ - ถ้าให้ผู้ใช้เลือกแล้วว่าจะเสี่ยงใช้งานต่อมั้ย แล้วทำไมต้องถามซ้ำๆ ในเมื่อตอบไปแล้วว่า "ใช่" (Restart Later)
ผมก็รำคาญเหมือนกันแฮะเวลาขึ้นให้ Re บ่อยๆทั้งๆที่กด Later ไปแล้ว
ของ windows ไม่ค่อยรำคาญ แต่ของ Firefox โคตรน่าเบื่อ Update extension ทีต้อง restart
มันน่าจะมีวิธีบ้างนะ
อื้มใช่ รู้สึกเหมือนกันว่าน่าจะมีวิธีแก้เรื่องนี้ได้บ้าง
มันเป็นฟีเจอร์น่ะครับ ...55
คือจริงๆมันเป็นเรื่องของ backend คงต้องรอให้เค้าวางรูปแบบใหม่ครับ น่ากลัวจะต้องรอไปถึง Firefox4+ Mozilla 2
รอในรุ่นถัดไปครับ ผู้พัฒนารู้ปัญหานี้อยู่แล้ว อดใจรอหน่อยแล้วจะดีเอง
...ดีกว่าอดใจรอ Windows ให้มันดีกว่านี้ เพราะรู้สึกจะยังห่างไกล ไปใช้แมคดีกว่า
รวมฟรีแวร์: dFreeware
อันนี้กำลังหาแนวร่วมอยู่: ThaiiPhoneDev
แมคมันระบบปิด windows มันระบบที่ใช้ได้กับทุกเครื่อง
ทำได้ ตอนนี้ก็ใช้ Extension พวก Extension Developer สั่ง Reload Extension อีกที
เคยลุกไปฉี่แล้วไม่ได้กด Restart Later มันจัดการ restart ให้เองเฉย
กด restart later บ่อยๆ พอเผลอหน่อยมัน restart ให้เสร็จสับเลย
ยังดีที่รู้ตัว จะได้นำมาพัฒนาต่อไป แต่จริงๆแล้วเจออะไรน่ารำคาญที่เว็บ MS เค้าก็มีให้แจ้งนะครับ เค้าจะได้รับไปแก้ไขต่อไป :)
อาหารหมาตัวเองก็ต้องกินเอง
pittaya.com
pittaya.com
เผื่อใครไม่รู้
มากินอาหารหมาของตัวเองกันเถอะ
มะเร็งจะถามหาเอานะครับ
เพราะได้ข่าวว่าอาหารหมาเค้าใช้น้ำมันใช้แล้วมาทำ
เดี๋ยวนี้หมาก็เป็นมะเร็งกันเยอะเหมือนกัน
เหมือนที่คุณเกตส์เคยโดนแขวะว่าแล้วบ้านแกไม่ได้ใช้เครื่อง Mac ออกแบบเรอะ หรือไม่ก็ อันตรายนะ ที่แกใช้ Windows NT ควบคุมระบบอัจฉริยะภายในบ้าน...
สำหรับเกตส์ แค่ใช้ Vista กับ Office ก็นับว่ากินอาหารหมาของตัวเองแล้วครับ พวกแขวะก็เกินไป ต่อให้เกตส์ใช้ BootCamp กับ Vista ก็ยังนับว่ากินอาหารหมาเหมือนกัน
แล้วสมมติถ้าใช้ Virtual PC นี่กินอาหารหมามั๊ยเนี่ย ไม่แน่นะท่านอาจจะเอาไปลง Windows XP บน Vista หรือไม่ก็ Ubuntu ประชดชีวิตมันซะเลย....
Virtual PC ก็ของ MS นิครับ
กินอาหารหมาไม่เห็นแปลกตรงไหน ทำเองกินเอง
ถ้าไม่กินสิแปลก ทำเองแล้วตัวเองยังไม่กิน แล้วใครที่ไหนจะกินกันล่ะ เอิ้กๆ :P
กินทุกวัน... อร่อย... ก็ของมันดีอ่ะนะ :p
---------- iPAtS
iPAtS
เดี๋ยวนี้เว็บ Microsoft ก็ดีขึ้นนะครับ Email ฉบับนี้มันเป็นของปี 2003 ซึ่งมันก็ 5 ปีมาแล้ว บางอย่างมันก็เปลี่ยนไป เช่น เดี๋ยวนี้มันไม่มีพวก update ต่างๆปรากฏใน Add/Remove Programs แล้ว
แต่ restart บ่อยๆนี่บางทีก็ดีนะครับ เหตุผล
http://www.seasandsong.com/
มันเลือกได้ตะหากว่าจะให้แสดง updates ในรายการ Add/Remove หรือไม่
อ่านข่าวนี้แล้ว ทำให้นึกถึงข่าว จดหมายเปิดผนึกถึงไมโครซอฟท์และผู้จำหน่ายโน้ตบุ๊กในเมืองไทย ที่กล่าวถึงจดหมายของคุณซาจาลแฮะ
สิ่งหนึ่งที่น่าชื่นชมในตัวของอดีต CEO และผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์คนนี้ก็คือการยอมรับความจริงครับ
และตัวเกตเองก็คงเห็นแล้วว่าไมโครซอฟท์อุ้ยอ้ายเกินไปแล้ว การจะแก้ไขหรือปรับปรุงอะไรบางอย่างดูจะเป็นสิ่งที่ลำบากสำหรับไมโครซอฟท์ในเวลานี้
อันที่จริงไมโครซอฟท์มีศักยภาพมาก แต่ยัง "ขาด" ผู้นำที่ดี ซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์อุดมไปด้วยฟีเจอร์ (และปัญหาในจำนวนที่มากพอกันกับฟีเจอร์) แต่ทำงานช้าและไม่เสถียร นอกจากนั้นความเข้ากันได้ยังต่ำอีกด้วย
เกตแกคงกลุ้มใจละครับ ที่ตัวเองก็ไม่สามารถควบคุมหรือเปลี่ยนแปลงบริษัทได้อีกแล้ว คงต้องได้แต่หวังว่าจะมีใครสักคนมาเปลี่ยนแปลงตรงนี้ เพราะหากปล่อยต่อไปเรื่อย ๆ สักวันบริษัทนี้ก็จะกลายเป็นอดีต
สงสัยต้องรอศาสดาไปเทคโอเวอร์ซะแล้ว... (ฮา...)
รวมฟรีแวร์: dFreeware
อันนี้กำลังหาแนวร่วมอยู่: ThaiiPhoneDev
แต่สมัยปี 2003 เขาก็ยังทำงานอยู่นี่นา?
PoomK
ทำได้แต่คุมไม่ได้ไงครับ เด็กมันดื้อออออ (ฮา...)
รวมฟรีแวร์: dFreeware
อันนี้กำลังหาแนวร่วมอยู่: ThaiiPhoneDev
เค้าถึงจ้าง Ray Ozzie ไงครับ
ส่วนมากเวลาผมจะหาอะไรจาก Microsoft ผมจะใช้ Google เสิร์ชเอาครับ เจอตรง ๆ เป้ง ๆ (แต่ก็ไม่ได้ต้องการอะไรจากเวบ Microsoft มานานแล้ว รับผลบุญจากการอัพเดทผ่าน Windows Update อย่างเดียว)
ตัว Software Download ในเว็บ Microsoft ตัวใหม่ที่เป็น beta อยู่ก็ ok ดีนะ
Ford AntiTrust’s Blog | PHP Hoffman Framework
คล้ายๆ..บ่นแก้เกี้ยว