กูเกิล (Google) ประกาศความเป็นผู้นำด้านศูนย์ข้อมูลอนุรักษ์ธรรมชาติ จากการที่กูเกิลใส่ใจกับการประหยัดพลังงานไฟฟ้าที่ถูกใช้โดยศูนย์ข้อมูล และการใช้ทรัพยากรน้ำให้เกิดประสิทธิภาพ ตลอดจนการนำเซิร์ฟเวอร์เก่ากลับมาใช้งานใหม่และนำชิ้นส่วนของเซิร์ฟเวอร์เหล่านั้นไปรีไซเคิล
กูเกิลเปิดเผยตัวเลขอัตราการให้ประสิทธิผลของการใช้พลังงานไฟฟ้า (Power Usage Effectiveness หรือ PUE) * ของศูนย์ข้อมูล 6 แห่งของกูเกิล มีอัตรา PUE เฉลี่ยอยู่ที่ 1.21 และหนึ่งในนั้นให้อัตรา PUE ต่ำที่สุดในโลก นั่นคือ 1.13 ซึ่งศูนย์ข้อมูลโดยส่วนใหญ่นั้นจะให้อัตราของ PUE ตั้งแต่ 2 ขึ้นไป นอกจากนี้ กูเกิลยังออกแบบและพัฒนาศูนย์ข้อมูลเพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้า โดยกูเกิลอ้างว่า ในช่วงเวลาที่เราใช้บริการค้นหาข้อมูลของกูเกิล คอมพิวเตอร์ของเราใช้พลังงานไฟฟ้ามากกว่าพลังงานที่กูเกิลใช้เพื่อประมวลผลให้ได้ผลลัพธ์ของการค้นหานั้นซะอีก นอกจากนี้ การลดการใช้พลังงานไฟฟ้า ทำให้ในแต่ละปี กูเกิลประหยัดทรัพยากรน้ำสำหรับผลิตไฟฟ้าได้เป็นอย่างมาก ** และกูเกิลยังมีกระบวนการรีไซเคิลน้ำที่ใช้แล้ว ไปใช้กับระบบทำความเย็นของศูนย์ข้อมูลอีกด้วย
กูเกิล กล่าวว่า เซิร์ฟเวอร์แต่ละเครื่องของกูเกิลสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าถึง 500 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kilowatt-hour) ต่อปี เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดการใช้ทรัพยากรน้ำได้ถึง 1,000 แกลลอน และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 300 กิโลกรัม อีกทั้งประหยัดเงินค่าไฟได้ถึง 30 เหรียญต่อเครื่องต่อปี
* PUE เป็นมาตรวัดความคุ้มค่าของการใช้พลังงานไฟฟ้าในศูนย์ข้อมูล เป็นอัตราของพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดที่ใช้โดยศูนย์ข้อมูล หารด้วยพลังไฟฟ้าทั้งหมดที่ใช้โดยระบบสารสนเทศในศูนย์ข้อมูล ซึ่งอัตรา PUE มีค่าได้ตั้งแต่ 1 ขึ้นไป ยิ่งศูนย์ข้อมูลให้ค่า PUE เข้าใกล้ 1 มากเท่าไหร่ ยิ่งหมายถึงว่า ศูนย์ข้อมูลแห่งนั้นใช้พลังงานไฟฟ้าคุ้มค่ากับการให้บริการระบบสารสนเทศมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
** น้ำเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการผลิตไฟฟ้า ในสหรัฐอเมริกา การผลิตพลังงานไฟฟ้า 1 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ต้องใช้ปริมาณน้ำ 2 แกลลอนโดยเฉลี่ย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง จัดอันดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ประหยัดไฟ
ที่มา - DATACENTER KNOWLEDGE, Google, และ the green grid (ข้อมูลมาตรวัด PUE และ DCiE ของ Green Grid)
Comments
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
หน่วยในการวัดการใช้ไฟหรือความสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า คือ วัตต์-ชั่วโมง (watt-hour) หรือใช้คำว่าหน่วยหรือยูนิต (unit) แทนกิโลวัตต์-ชั่วโมง (kilowatt-hour หรือ kWh)
การคำนวณค่าวัตต์-ชั่วโมงแบบง่ายๆ เช่น ถ้าคอมพิวเตอร์ของเรากินไฟ 300 วัตต์ หากเปิดใช้งานไป 4 ชั่วโมง ก็คิดเป็น 300 วัตต์ x 4 ชั่วโมง = 1,200 วัตต์-ชั่วโมง หรือ 1.2 กิโลวัตต์-ชั่วโมง
การคำนวณค่า PUE อย่างที่กล่าวไว้ในข่าว
PUE = ไฟฟ้าที่ใช้โดยศูนย์ข้อมูล (Total Facility Power ขอเรียกว่า T) / ไฟฟ้าที่ใช้กับระบบสารสนเทศ (IT Equipment Power ขอเรียกว่า E)
T เป็นความสิ้นเปลืองพลังไฟฟ้าทั้งหมดของศูนย์ข้อมูลเพียงอย่างเดียว หากทั้งอาคารมีการใช้ไฟฟ้าในหลายๆส่วน เราจะต้องตัดค่าสิ้นเปลืองไฟเฉพาะที่ใช้กับศูนย์ข้อมูลออกมา และบางแห่งเขาก็ติดมาตรวัดไฟให้เฉพาะศูนย์ข้อมูลเลย ซึ่งไฟฟ้าที่ใช้โดยศูนย์ข้อมูลจะรวมอุปกรณ์ไฟฟ้าที่กินไฟทั้งหมด เช่น เซิร์ฟเวอร์, อุปกรณ์สำรองข้อมูล, อุปกรณ์เครือข่าย, เครื่อง KVM, อุปกรณ์สำรองไฟฟ้าหรือ UPS, ระบบทำความเย็นอย่างเครื่องปรับอากาศ, และหลอดไฟ เป็นต้น
E เน้นเฉพาะที่เป็นระบบสารสนเทศที่ตั้งอยู่ในศูนย์ข้อมูล อันประกอบไปด้วยเซิร์ฟเวอร์, อุปกรณ์จัดเก็บและสำรองข้อมูล, และอุปกรณ์เครือข่าย
ค่า PUE จะทำให้เราทราบว่า เราใช้ไฟฟ้าไปกับการให้บริการระบบสารสนเทศให้เกิดประสิทธิผลหรือไม่ หรือใช้ไฟฟ้าได้คุ้มค่ากับการลงทุนไปกับการกินไฟของระบบสารสนเทศมากแค่ไหน ถ้าหากค่า PUE เท่ากับ 1 (หรือ T = E) แปลว่า ศูนย์ข้อมูลนี้ใช้ไฟฟ้าไปกับระบบสารสนเทศเกิดประสิทธิผลเต็มที่ 100% แต่แน่นอนมันเป็นไปได้ยากมากๆ เพราะศูนย์ข้อมูลมีระบบทำความเย็นและอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างอื่นที่นอกเหนือจากระบบสารสนเทศที่คอยกินไฟอยู่ ดังนั้น ถ้าเราเลือกอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือคอมพิวเตอร์ที่กินไฟต่ำ ไปจนถึงใช้ระบบทำความเย็นที่มีประสิทธิภาพและกินไฟต่ำ ก็เป็นผลให้ค่า T ลดลงมาได้ หากค่า T กับ E ใกล้เคียงกันมาก ก็จะทำให้ PUE เข้าใกล้ 1 แต่ถ้าหาก PUE มีค่าไกลไปกว่า 1 เช่น เราทุ่มไปกับระบบทำความเย็นที่กินไฟเกินไป เป็นต้น นั่นหมายถึงเราใช้ไฟฟ้าไม่คุ้มกับระบบสารสนเทศแล้ว อย่างเช่น ถ้า PUE = 2 ก็หมายถึง พลังงานไฟฟ้าของส่วนอื่นๆ (เช่น เครื่องปรับอากาศ) = พลังงานไฟฟ้าที่ใช้กับระบบสารสนเทศ เป็นต้น
กำหนด X = พลังงานไฟฟ้าส่วนอื่นๆ ดังนั้น PUE = (E + X) / E เพราะ T = E + X
ถ้า PUE = 2 ; (E+ X) / E = 2 ดังนั้น X = E
สมการส่วนนี้ PUE = (E + X) / E ช่วยให้การออกแบบศูนย์ข้อมูลอนุรักษ์ธรรมชาติเห็นภาพได้ง่ายขึ้น (อีกนิด)
สุดท้ายนี้ขอปิดท้ายว่า
JavaBoom (Boom is not Java, but Java was boom)
http://javaboom.wordpress.com
My Blog
แนวคิดดีมากเลยครับ
โห ขอเอาไปใ้ช้บ้างนะคะ ช่วงนี้บริษัทกำลังทำเรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รักษ์น้ำ อะไรแบบนี้ กำลังงงอยู่พอดีเชียวว่า เราจะเอามาเกี่ยวกันได้ยังงัย ขอบคุณนะคะ ^_^
บลอกของ natty
บลอกของ natty
น่าสนใจดีครับ แต่ข่าวยาวไปนิดนึง น่าจะแบ่งเป็นสองหน้านะครับ หน้าแรกจะได้ไม่ยาวจนเกินไป
---
Khajochi Blog : It's not a Bug ... It's a Feature
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ได้ครับ จัดให้ตามคำขอครับ
JavaBoom (Boom is not Java, but Java was boom)
http://javaboom.wordpress.com
My Blog
หนึ่งในกลยุทธ์ CSR
อ่อ ผมเพิ่งรู้จักคำย่อว่า CSR หรือ Corporate Social Responsibility ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมจะเอาคำนี้ไปใช้ในโอกาสต่างๆบ้าง
JavaBoom (Boom is not Java, but Java was boom)
http://javaboom.wordpress.com
My Blog
CSR ก็คือ การประชาสัมพันธ์บริษัทในรูปแบบหนึ่ง โดย CSR จะมีความแตกต่างจากการประชาสัมพันธ์โดยทั่วไป คือ มีระบบระเบียบมากกว่า เป็นการสร้างภาพชนิดหนึ่ง องค์กรหรือบริษัทใหญ่ๆ กำลังนิยมทำกันเป็นอย่างมากโดยเฉพาะประเทศไทยโดยที่เห็นได้ชัดเลยก็คือของบริษัทน้ำมันรายใหญ่รายหนึ่งของไทย ที่เป็น Talk of the town อย่างมาก
และตอนนี้ภาครัฐของไทยกำลังสนใจในเรื่อง CSR มาก เรียกว่าตื่นตัวก็ว่าได้ครับ ถึงกับจัดทำร่างประกาศกรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อที่จะบังคับเป็นกฏหมายเลยที่เดียว
อ่านร่างได้ที่นี้ครับ
แต่ตอนนี้รู้สึกว่าจะบังคับใช้แล้วนะถ้าผมได้ยินมาไม่ผิด
ถ้าลงตรงนี้เลยได้หรือปล่าวครับ ถ้าไม่ได้ยังไงก็ลบไปเลยก็ได้นะครับ
ขอบคุณครับ
ที่คุณ evo_toon กล่าวว่า "สร้างภาพ" เป็นคำพูดที่น่าคิดครับ เป็นความหมายเชิง + หรือ - หรือพร้อมๆกันก็ได้ น่าคิดๆ
JavaBoom (Boom is not Java, but Java was boom)
http://javaboom.wordpress.com
My Blog