OpenAI เปิดตัวความสามารถใหม่ของ ChatGPT เรียกชื่อว่า Deep Research สำหรับการค้นหา วิเคราะห์ รวบรวมข้อมูลในเชิงลึก ที่มาพร้อมผลลัพธ์ซึ่งอธิบายเป็นลำดับขั้นตอน และให้แหล่งอ้างอิงประกอบ
OpenAI บอกว่า Deep Research เหมาะสำหรับคนทำงานที่ต้องอาศัยความรู้เชิงลึกเฉพาะด้าน เช่น การเงิน วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม กฎหมาย ซึ่งวิธีการค้นหาข้อมูลเชิงลึกเดิมนั้นใช้เวลามาก เพราะต้องยืนยันความน่าเชื่อถือข้อมูลอย่างเป็นขั้นตอน นอกจากนี้ Deep Research ยังสามารถประยุกต์ใช้กับการค้นหาเปรียบเทียบข้อมูลสินค้าที่มีรายละเอียดเปรียบเทียบเยอะ เช่น รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า
OpenAI ประกาศปล่อยโมเดล o3-mini ตามที่เคยสัญญาไว้
OpenAI เปิดตัวโมเดลตระกูล o3 มาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024 ถือเป็นเวอร์ชันพัฒนาขึ้นจากโมเดล o1 เดิม (ข้าม o2 ไปด้วยเหตุผลเรื่องเครื่องหมายการค้ากับโอเปอเรเตอร์ O2) มีประสิทธิภาพตอบคำถามด้านคณิตศาสตร์-วิทยาศาสตร์ (STEM) ได้ดีกว่า ตอบเร็วกว่า o1-mini โดยยังคงต้นทุนในการรันระดับเดียวกับ o1-mini
OpenAI เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ChatGPT Gov ซึ่งนำ ChatGPT มาปรับแต่งสำหรับใช้งานกับหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา พร้อมรองรับช่องทางในการใช้งานโมเดลใหม่ของ OpenAI ด้วย
หน่วยงานของรัฐบาลสามารถนำ ChatGPT Gov มารันได้ทั้งบนคลาวด์ของ Microsoft Azure หรือคลาวด์ที่ควบคุมเฉพาะ Azure Government ผ่านบริษัท OpenAI ของ Azure ทำให้หน่วยงานสามารถบริหารจัดการความปลอดภัยและปกป้องข้อมูลได้ตามเงื่อนไขของหน่วยงานนั้น ซึ่งรวมทั้งการจัดการข้อมูลที่ไม่ได้เผยแพร่ต่อสาธารณะด้วย
OpenAI ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้อินเทอร์เฟซ ChatGPT Canvas ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานเขียนโค้ดหรือปรับปรุงการเขียนบทความ รายละเอียดดังนี้
DeepSeek บริษัทปัญญาประดิษฐ์ของจีนที่เพิ่งเปิดตัวโมเดลคิดเป็นขั้นตอน R1 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลายเป็นหัวข้อสนทนาหลักในวงการ AI ถึงความก้าวหน้าครั้งใหญ่ เพราะโมเดลมีขนาดเล็กที่สุด 1.5B แต่ความสามารถหลายด้านสูงกว่า OpenAI o1-mini ขณะที่ต้นทุนในการฝึกฝนโมเดลนั้นต่ำมาก โดยบริษัทบอกว่าใช้เงิน 5.6 ล้านดอลลาร์เท่านั้น
กระแสข่าวที่ออกมาทำให้ DeepSeek ตอนนี้ขึ้นอันดับ 1 แอปยอดนิยมของ App Store ในสหรัฐอเมริกา แซงหน้า ChatGPT ไปเรียบร้อย
องค์กรวิจัย Pew Research Center รายงานผลสำรวจว่าวัยรุ่นในอเมริกาอายุ 13-17 ปี ใช้ ChatGPT ช่วยทำการบ้านหรือช่วยงานโรงเรียนมากน้อยแค่ไหน พบว่า 26% บอกว่าใช้ ChatGPT ช่วยทำงานโรงเรียน ผลสำรวจปี 2024 นี้จึงเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปี 2023 ซึ่งอยู่ที่ 13%
อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้อาจบอกได้ว่าวัยรุ่นยังนำ ChatGPT มาใช้กับงานโรงเรียนไม่มากนัก เพราะอีก 74% ก็ไม่ได้นำมาใช้ ซึ่งเรื่องนี้ยังเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันในแวดวงการศึกษา
OpenAI เพิ่มความสามารถใหม่ให้ ChatGPT เรียกว่า Tasks ที่ให้ผู้ใช้งานตั้งการแจ้งเตือน หรือสั่งให้ ChatGPT ทำสิ่งต่าง ๆ แบบกำหนดเวลาได้
ความแตกต่างของ Tasks กับผู้ช่วยตั้งค่าแจ้งเตือนที่มีอยู่แล้วอย่าง Google Assistant หรือ Siri คือการรองรับอินพุทภาษาที่มากกว่า โดย ChatGPT สามารถส่งการแจ้งเตือนได้ทั้งแบบครั้งเดียว หรือการแจ้งเตือนซ้ำเป็นประจำ ขึ้นอยู่กับการกำหนดไว้ นอกจากนี้แชทบอตยังสามารถแนะนำด้วยว่าต้องการตั้งค่าแจ้งเตือนในหัวข้อต่าง ๆ ที่กำลังสนทนาหรือไม่
คำสั่งแจ้งเตือนยังเพิ่มความซับซ้อนในงานได้เช่น ให้ทำรายงานสรุปข่าวสภาพอากาศทุกวันตอน 6 โมงเช้า, ส่งแผนออกกำลังกาย 15 นาที แต่ละวัน เป็นต้น การแจ้งเตือนนี้รองรับทั้งบนเว็บและแอปมือถือ
ตำรวจลาสเวกัสแถลงข่าวผลการสอบสวน เหตุการณ์ที่คนร้ายวางระเบิดรถกระบะไฟฟ้า Tesla Cybertruck หน้าโรงแรม Trump Hotel ซึ่งคนร้ายที่เป็นคนขับรถเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บอีกหลายคน โดยบอกว่าคนร้ายใช้ ChatGPT ช่วยวางแผนก่อเหตุครั้งนี้
Sam Altman โพสต์ข้อความ (หรืออาจเรียกว่าบ่น) ใน X บอกว่าเรื่องที่บ้ามากอย่างหนึ่งคือ OpenAI ให้บริการ Subscription เทียร์บนสุด Pro แบบขาดทุนอยู่ตอนนี้ เพราะว่าคนใช้งานกันมากกว่าที่ประเมินไว้
ปัจจุบันการใช้งาน ChatGPT แบบเสียเงิน มีแพ็คเกจที่ราคาแพงที่สุดคือ ChatGPT Pro ซึ่งคิดราคาเดือนละ 200 ดอลลาร์ แพ็คเกจนี้เพิ่งออกมาให้เลือกใช้งานเมื่อเดือนที่แล้ว สามารถใช้งานโมเดล o1 และ o1-mini แบบไม่จำกัด ส่วน o1 pro mode มีการจำกัดจำนวน
มีรายงานปัญหา ChatGPT และบริการ AI ตัวอื่นของ OpenAI ไม่สามารถใช้งานได้เมื่อคืนนี้ โดยข้อมูลจาก Downdector ระบุว่าเริ่มมีปัญหาตั้งแต่เวลาประมาณ 1:00น. ส่วนสถานะปัจจุบันพบปัญหาน้อยลง
OpenAI ยืนยันปัญหานี้ตั้งแต่ 2:00น. โดยให้รายละเอียดว่าพบความผิดพลาดเพิ่มสูงขึ้นทั้ง ChatGPT, Sora และ API สถานะล่าสุดเมื่อเวลา 7:00น. Sora และ API กลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว ส่วน ChatGPT กำลังทยอยกลับมาใช้งานได้
ChatGPT มีปัญหากระทบการใช้งานเป็นวงกว้างครั้งที่สองในเดือนนี้ โดยก่อนหน้านี้เกิดขึ้นวันที่ 12 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ iOS 18.2 ออกอัปเดต และรองรับการเชื่อมต่อ ChatGPT ผ่าน Apple Intelligence
OpenAI ปล่อยอัปเดตสำหรับ ChatGPT บน macOS ให้สามารถอ่านเนื้อหาและโต้ตอบในหน้าจอของแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้บนหลายแอปมากขึ้น เช่น Apple Notes, Notion และ Quip นอกจากนี้ ยังรองรับแอปสำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์มากมาย เช่น BBEdit, Android Studio และ AppCode
เดิมทีฟีเจอร์นี้รองรับเฉพาะ iTerm 2, Terminal, TextEdit, VS Code และ Xcode เท่านั้น ตัวอย่างการใช้งาน เช่น สั่งให้ ChatGPT อ่านโค้ดจาก Xcode และขอคำแนะนำในการปรับโค้ดได้จากหน้าแอปทันที ไม่ต้องคัดลอกและสลับไปวางโค้ดในแอป ChatGPT ที่สำคัญคือสามารถอ่านเนื้อหาจากหลายแอปพร้อมกันได้
OpenAI เปิดสายด่วน ChatGPT ในสหรัฐ สามารถโทรเข้าไป 1-800-CHATGPT (ถ้าเปลี่ยนเป็นเบอร์คือ 1-800-242-8478) เพื่อคุยด้วยเสียงกับ ChatGPT ได้ฟรีนาน 15 นาทีต่อเดือน
ผู้ใช้ที่อยู่นอกสหรัฐ สามารถสื่อสารกับ ChatGPT ได้ทาง WhatsApp โดยส่งข้อความไปยังเลขหมายเดียวกัน ในแง่ฟีเจอร์คงไม่ต่างอะไรจากการคุยกับ ChatGPT ผ่านช่องทางอื่นๆ (แอพ-เว็บ) แต่เป็นการเพิ่มช่องทางให้สื่อสารทางโทรศัพท์แบบดั้งเดิม ซึ่งสามารถใช้เบอร์บ้าน (landline) โทรเข้าไปได้เช่นกัน
ฟีเจอร์นี้เป็นหนึ่งในงานแถลงข่าวฟีเจอร์ใหม่ต่อเนื่อง 12 วัน ที่ OpenAI ประกาศเอาไว้
OpenAI ประกาศว่า ChatGPT Search บริการค้นหาข้อมูลพลัง AI เริ่มทยอยเปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้งานฟรีแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลังจากบริการ ChatGPT Search เปิดตัวเป็นทางการกับผู้ใช้งานเสียเงินเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งปรับมาจาก SearchGPT ที่เปิดตัวในตอนแรก
ChatGPT Search สำหรับผู้ใช้งานฟรีจะรองรับทั้งผ่านเว็บไซต์ chatgpt.com และแอปบนมือถือกับเดสก์ท็อป โดยผู้ใช้งานต้องล็อกอินเท่านั้น
OpenAI ประกาศเพิ่มความสามารถใหม่ที่ผู้ใช้งาน ChatGPT จำนวนมากรอคอยเพราะมีให้ใช้ใน Claude ระยะหนึ่งแล้วนั่นคือ "Projects" คุณสมบัติจัดการแชท และข้อมูลที่เกี่ยวข้องเป็นชุด ๆ เพื่อให้การเรียกใช้งาน ChatGPT ในแต่ละหัวข้อต่อเนื่องและสะดวกมากขึ้น
เมื่อเริ่มเรียกใช้งาน Projects ChatGPT จะให้กำหนดหัวข้อ รายการแชทที่เกี่ยวข้อง และไฟล์อัปโหลดที่เกี่ยวข้อง ผู้ใช้งานสามารถกำหนดสีโฟลเดอร์เพื่อให้สะดวกในการค้นหาย้อนหลัง และเรียกใช้เป็นพื้นฐานเมื่อต้องการแชทในหัวข้อนั้นต่อ ทำให้ไม่ต้องเริ่มใหม่ทุกครั้ง
OpenAI เพิ่มความสามารถใหม่ให้ ChatGPT โดยโหมดสนทนาเสียง Advanced Voice Mode รองรับอินพุทวิดีโอแบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเปิดกล้อง แล้ว ChatGPT สามารถเรียนรู้ อธิบาย ตอบคำถาม เกี่ยวกับสิ่งที่เห็นตรงหน้าได้
นอกจากกล้องในสมาร์ทโฟนแล้ว ChatGPT Advanced Voice Mode ยังสามารถรับอินพุทจากการแชร์หน้าจออุปกรณ์ในตอนนั้น เพื่อถามคำถามได้ ซึ่งสามารถนำมาใช้งานเช่น ให้ช่วยแก้โจทย์คณิตศาสตร์ ที่ป้อนอินพุทแบบเดิมได้ยาก และสามารถเขียนเพิ่มตามคำแนะนำโต้ตอบไปมาได้ดีกว่า
สถานการณ์ระบบของ OpenAI ล่มเช้านี้ ที่กระทบทั้ง ChatGPT, Sora และ API เชื่อมต่อกับบริการอื่น ล่าสุด OpenAI รายงานสถานะเมื่อเวลา 10:53น. ว่าทุกระบบเริ่มกลับมาใช้งานได้ตามปกติเป็นส่วนใหญ่แล้ว ทำให้รวมเวลาที่ระบบมีปัญหาเกือบ 5 ชั่วโมง
ตอนนี้ OpenAI ยังไม่ได้ชี้แจงสาเหตุของปัญหา แต่คาดเดาว่าอาจเกี่ยวข้องกับที่ ChatGPT เริ่มรองรับ Apple Intelligence ในอัปเดต iOS 18.2 ที่ออกมาวันนี้ด้วย
Sam Altman ซีอีโอ OpenAI โพสต์ข้อความเป็นมุกใน X ว่าตอนนี้ระบบกลับมาใช้งานได้แล้ว ซึ่งตอนแรกเขาเกือบไปเป็นคนตอบคำถามแทน ChatGPT เองด้วย
OpenAI ยืนยันปัญหาของบริการหลักทั้ง ChatGPT, Sora และ API ของนักพัฒนา ไม่สามารถใช้งาน ตั้งแต่เวลา 6:17น. ตามเวลาในไทย
ข้อมูลจาก Downdetector ยืนยันปัญหานี้เช่นกันในช่วงเวลาประมาณ 6:10น. และยังคงมีปัญหาอยู่
อัปเดตล่าสุดของ OpenAI ในเวลา 7:24น. บอกว่าระบุสาเหตุของปัญหาได้แล้ว และกำลังแก้ไขให้เป็นปกติโดยเร็วที่สุด
ในวันนี้ OpenAI ได้ประกาศของใหม่ตามแคมเปญ 12 วัน 12 อย่าง นั่นคือ Apple Intelligence รองรับการเชื่อมต่อกับ ChatGPT ได้แล้ว จึงถือเป็นการเปิดตัวแบบยิ่งใหญ่จริง
แอปเปิลประกาศออกอัปเดตซอฟต์แวร์ iOS 18.2 สำหรับ iPhone, iPadOS 18.2 สำหรับ iPad และ macOS Sequoia 15.2 สำหรับ Mac โดยมีของใหม่ที่สำคัญคือความสามารถปัญญาประดิษฐ์ Apple Intelligence ที่มากขึ้นดังนี้
Apple Intelligence ยังเพิ่มภาษาที่รองรับ จากเดิมต้องเป็นภาษาอังกฤษแบบสหรัฐอเมริกา โดยเพิ่มเติมภาษาอังกฤษท้องถิ่นของ ออสเตรเลีย, แคนาดา, ไอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, แอฟริกา และสหราชอาณาจักร
OpenAI ประกาศว่า Canvas อินเทอร์เฟซสำหรับการใช้งาน ChatGPT ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยเฉพาะกับการให้ ChatGPT ช่วยเขียนบทความหรือแก้ไขโค้ด เปิดให้ผู้ใช้งานทุกคนรวมทั้งแบบฟรีใช้งานได้แล้ว จากก่อนหน้านี้จำกัดเฉพาะลูกค้าเสียเงิน
Canvas ใน ChatGPT เปิดให้ใช้งานผ่านเว็บไซต์บนโมเดล GPT-4o ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องเลือกโมเดลที่ต้องการแบบเวอร์ชันที่ทดสอบก่อนหน้านี้ และรองรับการเรียกใช้โมเดล GPTs ที่คัสตอมได้ด้วย
ในการสาธิต ChatGPT ได้รองรับการจัดการโค้ดได้ดีขึ้น เช่น เมื่อผู้ใช้งานคัดลอกวางโค้ด Python ในกล่องแชท ระบบจะเรียก Canvas ขึ้นมาให้อัตโนมัติเนื่องจากเหมาะกับการใช้งานจัดการโค้ด ที่แก้ไขเป็นจุดที่สนใจมากกว่า
OpenAI เปิดตัวโมเดล o1 ตัวจริง พร้อมกับเพิ่ม o1 pro mode ที่เปิดให้โมเดลค่อยๆ คิดเป็นเวลานานก่อนจะตอบคำถาม แนวทางนี้ทำให้ o1 สามารถทำคะแนนทดสอบชุดทดสอบยากมากๆ เช่น AIME 2024 ที่เป็นโจทย์คณิตศาสตร์ระดับการแข่งขัน, การเขียนโปรแกรม, หรือคำถามวิทยาศาสตร์ระดับปริญญาเอกได้สูงขึ้นมาก ที่สำคัญคือความนิ่งของโมเดลที่จะตอบคำถามได้ถูกต้องทุกครั้ง ไม่ใช่ถูกแค่ครั้งใดครึ่งหนึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ตัวอย่างผลทดสอบเขียนโปรแกรม Codeforces เดิม o1-preview เคยทำคะแนนได้ 62% แต่หากรันซ้ำ 4 รอบโดยบังคับว่าต้องตอบถูกทั้งสี่รอบจะเหลือคะแนนเพียง 26% เท่านั้น ขณะที่ o1 ลดลงจาก 89% เหลือ 64% และ o1 pro mode ลดลงจาก 90% เหลือ 75% แสดงให้เห็นว่า pro mode คำคะแนนได้ดีและเสถียรกว่า
Fortune รายงานข้อมูลจากแหล่งข่าวใน Meta บอกว่าถึงแม้ Meta จะมีโมเดล AI แบบโอเพนซอร์ส Llama ที่พยายามผลักดันอยู่ แต่เครื่องมือช่วยเขียนโค้ดที่ใช้ภายในบริษัทชื่อ Metamate ก็เสริมการทำงานด้วยโมเดล AI จากหลายค่ายซึ่งรวมทั้ง GPT-4 ของ OpenAI และ Llama ของ Meta เอง
รายงานบอกว่า Metamate เป็นเครื่องมือช่วยเขียนโค้ดคล้าย GitHub CoPilot ที่สามารถส่งคำถามและใช้ AI ช่วยหาคำตอบ ซึ่ง Metamate จะเลือกจากทั้ง Llama หรือ GPT-4
Financial Times รายงานว่า Sarah Friar ซีเอฟโอของ OpenAI บอกว่าบริษัทกำลังพิจารณาว่าจะแทรกโฆษณาในบริการแชทบอต ChatGPT หรือไม่ เพื่อให้ครอบคลุมต้นทุนค่าใช้จ่าย สำหรับผู้ใช้งานแบบฟรี จากที่ปัจจุบันโมเดลของ ChatGPT คือแบบฟรีจะมีข้อจำกัดหลายอย่าง ถ้าอยากได้ความสามารถเต็มให้จ่ายเงิน
อย่างไรก็ตามนั่นยังเป็นแค่ไอเดียเท่านั้น เพราะ Friar บอกว่า OpenAI ยังไม่มีแผนพัฒนาการแสดงผลโฆษณาในตอนนี้ โดยเฉพาะประเด็นสำคัญคือหากต้องมีโฆษณาจริง ควรแสดงในตำแหน่งใดของแอป
The Independent รายงานว่า ผู้ใช้งานบางคนพบว่า ไม่สามารถทำให้ ChatGPT เขียนชื่อบางชื่อได้ เช่น David Mayer เมื่อป้อนคำสั่งไป ChatGPT จะตอบกลับว่า “ไม่สามารถให้คำตอบได้”
มีผู้ใช้หลายคนพยายามหว่านล้อมให้ ChatGPT พูดถึงชื่อดังกล่าวด้วยหลายวิธี เช่น ให้เขียนชื่อที่ย่อด้วย DM แต่ออกเสียงคล้าย David Layer ไปจนถึงเปลี่ยนชื่อผู้ใช้เป็น David Mayer แล้วให้ ChatGPT บอกชื่อผู้ใช้ แต่ไม่มีวิธีไหนสำเร็จ
ล่าสุด Blognone ได้ลองทดสอบบ้าง และพบว่าตอนนี้ ChatGPT พูดถึงชื่อนี้ได้แล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายชื่อตามที่ The Independent รายงาน เช่น David Faber, Brian Hoods, Jonathan Turley และ Jonathan Zittrain ที่ ChatGPT ยังพูดถึงไม่ได้
OpenAI ประกาศว่าความสามารถในการสนทนาเสียงของ ChatGPT หรือ Advanced Voice Mode ตอนนี้ขยายมารองรับการใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์แล้ว จากก่อนหน้านี้ใช้งานได้เฉพาะผ่านแอปมือถือเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม Advanced Voice Mode ยังจำกัดให้เฉพาะผู้ใช้งาน ChatGPT แบบเสียเงินเท่านั้น ส่วนผู้ใช้งานแบบฟรีนั้น Kevin Weil หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ OpenAI บอกว่าจะได้ใช้งานในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ที่มา: Tom's Guide
กูเกิลและ OpenAI ผลัดกันชิงอันดับหนึ่งบนการจัดอันดับ Chatbot Arena ของ LMSys โดยสัปดาห์ที่ผ่านมานับเป็นช่วงที่แข่งกันดุเดือดเป็นพิเศษเพราะเอาชนะสลับกันหลายรอบในสัปดาห์เดียว
การแข่งขันรอบนี้เริ่มจากกูเกิลปล่อย API เวอร์ชั่นพิเศษ Gemini-Exp-1114 ที่เปิดให้ใช้งานเฉพาะใน AI Studio เท่านั้น โมเดลเวอร์ชั่นนี้เอาชนะโมเดลราคาแพงของ OpenAI อย่าง o1-preview และ o1-mini ไปได้ แต่หลังจากนั้น OpenAI ก็ปล่อยโมเดล ChatGPT-4o-latest เวอร์ชั่น 20 พฤศจิกายนออกมา เอาชนะ Gemini กลับไปได้อีกครั้ง แต่ชนะได้เพียงวันเดียวกูเกิลก็ปล่อย Gemini-Exp-1121 ออกมาอีกรอบ และทำคะแนนเอาชนะ ChatGPT-4o ตัวล่าสุดไปได้อีกครั้ง