Galaxy Note 10 และ Note 10 Plus สิ้นระยะซัพพอร์ตของซัมซุง หลังวางขายในเดือนสิงหาคม 2019 ได้แพตช์ความปลอดภัยนาน 4 ปี (แพตช์สุดท้ายเดือนสิงหาคม 2023)

Galaxy Note 10 ถือเป็นหนึ่งในมือถือรุ่นแรกๆ ของซัมซุงที่ได้อัพเกรด OS ใหญ่ 3 เวอร์ชัน (ตัวแรกคือ Galaxy S10 ที่ออกปีเดียวกัน) โดยมาพร้อม Android 9 และจบด้วย Android 12

หลังจากนั้น ซัมซุงยังขยายระยะเวลาออกแพตช์ความปลอดภัยเป็น 5 ปี โดยเริ่มจาก Galaxy S21 เป็นต้นไป

หลังจากซัมซุงออก One UI 4.0 (Android 12) ให้กับเรือธงประจำปี Galaxy S21 ไล่มาจนถึงมือถือจอพับ Galaxy Z Fold/Flip 3

ตอนนี้มือถือเรือธงของปีก่อนๆ ซึ่งเป็นรุ่นยอดนิยมอย่าง Galaxy S10 และ Note 10 ในบางประเทศก็เริ่มได้อัพเดต One UI 4.0 กันบ้างแล้ว โดยเว็บไซต์ SamMobile รายงานว่าผู้ใช้ S10 ในเยอรมนี กับ Note 10 ในเนเธอร์แลนด์ เริ่มได้อัพเดตแล้ว

หลัง Samsung ปล่อยอัพเดต One UI 3.0 (Android 11) ให้กับ Galaxy Note 20 และ 20 FE ในเดือนธันวาคม เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Galaxy Note 10 ก็เริ่มได้รับอัพเดตเป็น One UI 3.0 ที่มาพร้อม Android 11 แล้วเช่นกัน

โดยผู้ใช้ที่ได้รับเป็นกลุ่มแรก เป็นผู้ใช้ Note 10 ของค่ายมือถือ Verizon คาดว่าผู้ใช้มือถือค่ายอื่น หรือแบบ Unlocked น่าจะได้อัพเดตเช่นกันในไม่ช้า ผู้ใช้ Note 10 Plus ก็น่าจะได้รับอัพเดตในเวลาใกล้เคียง ส่วนผู้ใช้ทั้ง Note 10 และ Note 10 Plus ในบ้านเรา ก็เริ่มได้รับอัพเดตแล้วเช่นกัน

ซัมซุงประกาศพอร์ตฟีเจอร์จากรอม One UI 2.1 ที่ใช้ใน Galaxy S20 กลับมาให้เรือธงของปีที่แล้วคือ Galaxy S10 และ Galaxy Note 10 ใช้งานด้วย

ซัมซุงระบุว่าจะทยอยปล่อยอัพเดตตัวนี้ในเดือนมีนาคมเป็นต้นไป ส่วนเว็บไซต์ SamMobile ระบุว่ามันจะมาพร้อมกับแพตช์รอบเดือนเมษายน 2020 ซึ่งเริ่มออกแล้วในบางประเทศ เช่น เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์

นับตั้งแต่ Galaxy Note รุ่นแรกเปิดตัวในปี 2011 สมาร์ทโฟนซีรีส์ Note ถือเป็น "เรือธงตัวสูงสุด" ของซัมซุงมาโดยตลอด (แพงกว่าหรืออย่างน้อยก็ราคาเท่ากับซีรีส์ S) โดยซัมซุงใช้วิธียึดโยงปากกา S Pen เข้ากับความสามารถในเชิง productivity ที่เหนือกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ และต้องจ่ายแพงเท่านั้นถึงจะมีสิทธิใช้งาน

ซัมซุงเคยออก Note รุ่นถูกมาแล้วหนึ่งครั้งตอน Note 3 Neo ในปี 2014 แต่ก็ไม่ได้ทำอีกเลย เราอาจนับ Galaxy Note FE แต่จริงๆ แล้วมันก็คือการนำ Note 7 ที่ตกรุ่นไปแล้วมาวางขายเพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น

เมื่อช่วงปีใหม่ ซัมซุงเปิดตัว Galaxy S10 Lite และ Note 10 Lite เรือธงรุ่นลดสเปกเพื่อให้ราคาถูกลงมา วันนี้ซัมซุงประกาศราคาและวันวางจำหน่ายมือถือทั้งสองรุ่นในไทยแล้ว

• Galaxy S10 Lite วางขาย 31 มกราคม 2563 ราคา 18,900 บาท
• Galaxy Note 10 Lite วางขาย 7 กุมภาพันธ์ 2563 ราคา 17,990 บาท

จุดเด่นของ Galaxy Note 10 Lite คือปากกา S Pen ที่มีฟีเจอร์เหมือน Note 10 รุ่นใหญ่ (ปากกามี Bluetooth ใช้เป็นรีโมทได้) รวมถึงมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรที่รุ่นใหญ่ไม่มี

ลือและหลุดกันหนักหน่วง ในที่สุดก็เปิดตัวแล้วกับ Galaxy S10 Lite และ Note 10 Lite ทั้งคู่หน้าจอเท่ากันที่ 6.7 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด FHD+ แบบ Infinity-O เจาะรูกล้องหน้าเดี่ยว ไร้ขอบ

S10 Lite ใช้ชิปเซ็ตไม่ระบุรุ่นขนาด 7nm 8 แกน เป็นคลัสเตอร์ความถี่ 2.8 GHz + 2.4 GHz + 1.7 GHz แรม 6GB/8GB กล้องหลัง 3 ตัวเป็นเลนส์มาโคร 5 ล้านพิกเซล f/2.4, เลนส์ไวด์ 48 ล้านพิกเซล Super Stead OIS f/2.0 และอัลตร้าไวด์ 12 ล้านพิกเซล f/2.2 กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล f/2.2 แบตเตอรี่ 4,500mAh ความจุ 128GB รัน Android 10 มีสี Prism White, Prism Black และ Prism Blue

ถัดจาก Galaxy S10 ที่เริ่มได้อัพเดต One UI 2.0 เป็น Android 10 ในช่วงปลายเดือนที่แล้ว ล่าสุดผู้ใช้ Galaxy Note 10 ในบางประเทศก็เริ่มได้อัพเดต Android 10 เช่นกัน

รหัสรุ่นของเฟิร์มแวร์ที่ได้รับคือ N97*FXXU1BSL7 โดยผู้ใช้ในเยอรมนีได้อัพเดตกันเป็นประเทศแรกเช่นเดิม

ก่อนหน้านี้ ซัมซุงเคยประกาศแผนการอัพเดต Android 10 โดยระบุว่า Note 10 จะได้อัพเดตในเดือนมกราคม 2020

ฟีเจอร์หนึ่งของ Galaxy Note 10 คือการสตรีมเกมจากพีซี (ในบ้าน) ไปเล่นบนมือถือ ซัมซุงเรียกมันว่า PlayGalaxy Link และบอกว่าจะเปิดให้ใช้งานในภายหลัง

เวลาผ่านมานานหลายเดือน (นานกว่าที่สัญญาไว้) ในที่สุดซัมซุงก็ออก PlayGalaxy Link รุ่น Beta มาให้ตามสัญญา (ได้ทั้งบน Note 10/S10) แต่ก็ยังจำกัดการใช้งานเฉพาะในบางประเทศ ซึ่งยังไม่มีไทย

วิธีการใช้งานคือต้องติดตั้งแอพ PlayGalaxy Link ทั้งฝั่งพีซีและฝั่งมือถือ จากนั้นเพิ่มเกมที่อยู่ในพีซีของเราเข้าในไลบรารีของ PlayGalaxy Link แล้วสตรีมเกมไปเล่นบนมือถือได้ทันที (รองรับทั้งการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi และ 4G/5G)

ในงานแถลงข่าว Galaxy Note 10 ซัมซุงเชิญ Satya Nadella ขึ้นมาร่วมแถลงข่าวบนเวที และประกาศความร่วมมือกับไมโครซอฟท์อย่างแนบแน่น โดยเฉพาะฟีเจอร์ Link to Windows ที่ใส่มาเป็นมาตรฐานของ Note 10 เลย

ล่าสุดความร่วมมือขยับไปอีกขั้น โดยซัมซุงเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้รอม One UI 2.0 เวอร์ชัน Beta (ที่เป็น Android 10) บน Note 10 ให้ผู้ใช้สามารถซิงก์ภาพจาก Gallery ไปไว้บน OneDrive ได้โดยตรง

สัปดาห์ก่อน Samsung Galaxy S10, Galaxy Note 10 มีบั๊กปลดล็อคหน้าจอเมื่อติดฟิล์มกันรอยและทาง Samsung จะออกแพทช์แก้ปัญหามาให้ ตอนนี้ Samsung อัพเดตแพทช์ดังกล่าวในเกาหลีใต้แล้วก่อนเปิดให้ทั่วโลกภายหลัง

ทาง Samsung ได้ย้ำว่าเมื่ออัพเดตแพทช์นี้เสร็จแล้ว ขอให้ถอดฟิล์มกันรอยทิ้ง, ลบลายนิ้วมือที่เคยสแกนไว้ในเครื่องทั้งหมดออกแล้วสแกนใหม่เพื่อความปลอดภัย

ที่มา : Android Central

ไม่นานหลังมีประเด็นว่า Galaxy S10 พบบั๊กอ่านลายนิ้วมือถ้าใช้ฟิล์มกันรอย ทำให้ใครปลดล็อกก็ได้

ล่าสุดซัมซุงแถลงเรื่องนี้แล้ว โดยยืนยันว่า S10 และ Note 10 ทุกรุ่นได้รับผลกระทบนี้ พร้อมทั้งแนะนำให้ลอกฟิล์มที่มีปัญหาออกไปก่อน ลบข้อมูลลายนิ้วมือเดิมแล้วค่อยบันทึกลายนิ้วมือใหม่

ซัมซุงแนะนำให้เลี่ยงการใช้ฟิล์มไปก่อนจนกว่าจะมีการปล่อยแพทช์อัพเดต ซึ่งคาดว่าจะมาอย่างเร็วในสัปดาห์หน้า

ที่มา - ซัมซุง

ถือเป็นข่าวดีของผู้ใช้งาน Samsung Galaxy S10 ที่จะได้อัพเดตฟีเจอร์เด่นบางส่วนของ Note 10 ด้วย คือ DeX บน PC, Link to Windows และฟีเจอร์กล้องต่างๆ ในรอบการอัพเดตแพทช์เดือนกันยายนนี้

ซัมซุงออกโฆษณาตัวใหม่ ต้อนรับการมาของ iPhone 11 โดยคราวนี้เป็นโฆษณา Galaxy Note 10 เพื่อชูจุดขาย Live Focus ที่ iPhone ยังไม่มี

เนื้อหาโฆษณาเป็นช่วงการถ่ายภาพวิดีโอคู่รัก ที่ฝ่ายชายกำลังขอฝ่ายหญิงแต่งงาน คนหนึ่งใช้ iPhone (รุ่นอะไรไม่ชัดเจน) ขณะที่อีกคนใช้ Galaxy Note 10 แล้วปรับโหมด Live Focus เพื่อสร้างฉากหลังเป็นโบเก้ ทำให้ภาพดูสวยงามมากขึ้น (ดูตัวอย่างการใช้งานได้จากรีวิวของ Blognone)

ข้อความในโฆษณาบอกว่า "Missing a little… je ne sais quoi?" (ขาดอะไรไปสักอย่างที่ไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไรใช่ไหม) จากนั้นก็ชวนให้เปลี่ยนมาใช้ Galaxy Note 10 แล้วคุณจะตกหลุมรักใน Live Focus

Blognone รีวิวตัวมือถือ Samsung Galaxy Note 10 และ Note 10+ ไปแล้ว เป็นการรีวิวการใช้งานในภาพรวม กล้อง การจับถือ ความสามารถปากกา S Pen ซึ่งยังมีอีกสองฟีเจอร์สำคัญใน Note 10 ที่ Blognone ตั้งใจจะเขียนแยกอีกชิ้นคือ Link to Windows กับ DeX ที่ต่างก็เป็นฟีเจอร์ที่สามารถเชื่อมมือถือเข้ากับคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่ได้ บทความนี้จะชี้ให้เห็นว่า การใช้งานทั้งสองฟีเจอร์แตกต่างกันตรงไหนบ้าง โดยผู้รีวิวจะใช้ตัว Galaxy Note 10+ เป็นหลัก

การเปลี่ยนแปลงสำคัญอย่างหนึ่งของ Galaxy Note 10 คือตัดช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ออกไป ซึ่งซัมซุงก็เลือกวิธีตอบสนองลูกค้าด้วยการแถมหูฟัง USB Type-C ของ AKG มาให้ในกล่อง แต่กลับไม่ได้แถมหัวแปลง USB Type-C เป็น 3.5 มม. มาให้ด้วย นั่นแปลว่าลูกค้าที่มีหูฟังเดิมอยู่แล้วจำเป็นต้องซื้อหัวแปลงเพิ่มเอง

ตัวแทนของซัมซุงชี้แจงเรื่องนี้กับ Business Insider ว่าซัมซุงตั้งใจแถมหูฟัง AKG ที่มีคุณภาพสูงและมีราคาแพงกว่า (มูลค่าประมาณ 100 ดอลลาร์) ให้ลูกค้าเลย แทนที่จะให้เป็นตัวแปลงที่มีราคาขายราว 15 ดอลลาร์ เพื่อให้กับหูฟังเดิมอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ตัวแทนของซัมซุงไม่ได้อธิบายว่าทำไมถึงไม่แถมอุปกรณ์เสริมมาทั้ง 2 อย่าง

Samsung Galaxy Note 10 และ Note 10+ เริ่มวางขายแล้ว ซึ่ง Blognone มีโอกาสลองใช้งานเครื่องด้วยเช่นกัน จึงเขียนรีวิวฉบับเต็ม (เพิ่มเติมจากที่เคยเขียนข่าวเปิดตัว และรีวิวสั้นเรื่องความสามารถของปากกา) เผื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อของหลายๆ คน

DxOMark ออกผลคะแนนรีวิวกล้องของ Samsung Galaxy Note 10+ มือถือเรือธงตัวล่าสุดของซัมซุง (รุ่นที่รีวิวเป็นรุ่น 5G แต่กล้องก็เท่ากับรุ่น Note 10+ ปกติ)

ผลคือ Galaxy Note 10+ ได้คะแนนกล้องหลัง 113 คะแนน เฉือนเอาชนะแชมป์เก่า Huawei P30 Pro และรุ่นพี่ Galaxy S10 5G ที่ได้ 112 คะแนนเท่ากัน

ส่วนคะแนนกล้องหน้าของ Note 10+ คือ 99 คะแนน เหนือกว่า S10 5G ที่ทำได้ 97 คะแนน และ Huawei P30 Pro ที่ทำไว้ 89 คะแนน

แว่น Samsung Gear VR (ที่ซัมซุงร่วมมือกับ Facebook/Oculus) กำลังกลายเป็นสินค้าที่ถูกลืม ตามกระแส VR ที่จุดไม่ติดและซบเซาไปตามกาลเวลา

ซัมซุงออกฮาร์ดแวร์ Gear VR เวอร์ชันสุดท้ายในเดือนกันยายน 2017 (พร้อม Note 8) โดยมือถือรุ่นถัดๆ มาของซัมซุงอย่าง S9, Note 9, S10 ยังสามารถใช้กับแว่น Gear VR รุ่นนี้ได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงคราวของ Galaxy Note 10 ซัมซุงก็ประกาศชัดเจนว่าไม่สามารถใช้ร่วมกับ Gear VR ได้อีกแล้ว และเมื่อบวกกับการที่ซัมซุงไม่ได้ออก Gear VR รุ่นใหม่มาเลยในรอบ 2 ปีนี้ อนาคตของ Gear VR ก็น่าจะจบลงเช่นกัน

Samsung Galaxy Note10 เปิดตัวและเปิดราคาไทยไปเรียบร้อยแล้ว ในบทความนี้ Blognone จะเจาะเฉพาะฟีเจอร์ปากกา S Pen และลองใช้ให้ดูว่าใช้งานอย่างไรและมีอะไรใหม่บ้าง

ซัมซุงเปิดราคา Galaxy Note 10 และ Galaxy Note 10+ ในไทยแล้ว โดย Note 10 แรม 8GB ความจุ 256GB ราคา 32,900 บาท มีสี Aura Glow, Aura Black และ Aura Pink

ส่วน Note 10+ แรม 12GB ความจุ 256GB ราคา 37,900 บาทและรุ่นความจุ 512GB ราคา 40,900 บาท มีสี Aura Glow, Aura Black และ Aura White โดยซัมซุงระบุด้วยว่าเปิดพรีออเดอร์กับ 3 ค่ายมือถือพร้อมโปร (ยังไม่มีรายละเอียด) ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 15,900 บาทเท่านั้น และผู้ที่จอง Note 10 จะได้รับ Galaxy Bud ฟรี ส่วนผู้ที่จอง Note 10+ รุ่น 256GB สามารถอัพเป็น 512GB ได้ฟรีเช่นกัน

แขกรับเชิญสำคัญในงานแถลงข่าว Galaxy Note 10 เมื่อคืนนี้คือ Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ ที่ขึ้นมาประกาศความร่วมมือระหว่างไมโครซอฟท์และซัมซุง

ทั้งสองบริษัทมีความร่วมมือกันอยู่แล้ว (ซัมซุงพรีโหลดแอพไมโครซอฟท์, ไมโครซอฟท์ขายมือถือซัมซุง) ประกาศความร่วมมือนี้ขยายผลของความสัมพันธ์เดิม

ซัมซุงเปิดตัว Galaxy Note 10 โดยแบ่งเป็นสองขนาด Note 10 และ Note 10+ เป็นครั้งแรก จับตลาดผู้ที่ต้องการโทรศัพท์ปากกาแต่ไม่ชอบที่ Note รุ่นเดิมๆ มีขนาดใหญ่เกินไป

สเปคของ Note 10 มีดังนี้

เว็บไซต์ Droid-Life รายงานราคาหลุดของ Galaxy Note 10 ว่าจะเริ่มต้นอยู่ที่ 949 เหรียญหรือประมาณ 29,000 บาท ขณะที่ Galaxy Note 10+ จะเริ่มที่ 1,099 เหรียญหรือราว 33,000 บาท ซึ่งคาดว่าราคาไทยไม่น่าจะต่างจากนี้มาก และหากรวมส่วนลดและดีลต่างๆ ราคาเครื่องก็ดูน่าจะถูกลงไปอีก

ขณะที่รายละเอียดสเปคที่หลุดออกมา ตัว Galaxy Note 10 หน้าจออยู่ที่ 6.3 นิ้ว รุ่น + อยู่ที่ 6.8 นิ้ว เป็น Infinity Display มีกล้องหน้าตรงกลาง แบตอยู่ที่ 3,400 mAh และ 4,300 mAh รองรับชาร์จเร็วที่ใช้เวลาไม่กี่นาทีสามารถใช้ได้หลายชั่วโมง

ใกล้วันเปิดตัว Galaxy Note 10 วันที่ 7 สิงหาคม เข้ามาเรื่อยๆ ก็มีข้อมูลและภาพหลุดออกมาเรื่อยๆ ตามปกติ

ภาพหลุดรอบนี้มาจากเว็บจีน MySmartPrice เป็นภาพเรนเดอร์ของ Galaxy Note 10 ที่เปลี่ยนมาใช้ดีไซน์กล้องหน้าเจาะรู (punch hole) แต่จัดอยู่ตรงกลาง, กล้องหลังสามตัว จัดชิดมุมซ้ายบน (ปกติกล้องหลังซัมซุงอยู่ตรงกลาง) มีภาพหลุดออกมา 2 สีคือเงินและดำ โดยรุ่น Note 10+ มีขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นกว่า Note 10 รุ่นปกติ และรุ่น Note 10+ มีกล้อง depth sensor เพิ่มเข้ามา

ก่อนหน้านี้มีข่าวหลุดว่า Galaxy Note 10 จะตั้งราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์ และ Note 10+ ตั้งราคา 1,149 ดอลลาร์