Google Meet เพิ่มความสามารถใหม่ "Switch here" ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถโอนย้ายการประชุมหรือการโทร ระหว่างอุปกรณ์ได้ โดยไม่ต้องวางสายหรือเข้าร่วมประชุมใหม่

กูเกิลยกตัวอย่างกรณีที่สามารถใช้งาน Switch here ได้ เช่นตอนแรก เริ่มต้นเข้าประชุมผ่านโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต แต่เมื่อเดินมาถึงโต๊ะทำงาน ก็ต้องการย้ายมาประชุมอย่างต่อเนื่องผ่านแล็ปท็อป เป็นต้น วิธีการใช้งานคือเมื่อเข้าร่วมการประชุมบนอุปกรณ์ใหม่ จะมีปุ่ม Switch here ปรากฏขึ้น พอกดก็จะย้ายทุกอย่างจากอุปกรณ์แรกมาทันที ทั้งนี้การย้ายอุปกรณ์ไปมาสามารถทำได้ทั้งหมด จะเป็นจากแล็ปท็อป มาที่แอปมือถือก็ได้เช่นกัน

Switch here ใน Google Meet เริ่มทยอยอัปเดตให้กับผู้ใช้งานทุกคนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

Google Meet เพิ่มฟีเจอร์ annotation วาดหรือไฮไลท์หน้าจอขณะประชุมออนไลน์ โดยเปิดให้เพื่อนผู้ร่วมประชุมคนอื่นๆ สามารถเข้ามาร่วมวาดหน้าจอได้ด้วย

วิธีการใช้งานคือเลือกผู้ร่วมประชุมบางรายเป็น co-annotator แล้วจะได้สิทธิเขียนหน้าจอ ฟีเจอร์นี้จะทยอยเปิดให้ผู้ใช้ Google Workspace ทุกคนใช้งานในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ที่มา - Google Workspace

กูเกิลประกาศว่า Google Chat ตอนนี้รองรับการรับส่งข้อความไปกลับ ร่วมกับแพลตฟอร์มแชทอื่นได้แก่ Slack และ Microsoft Teams แล้ว มีผลกับผู้ใช้งาน Workspace ทุกคน จากก่อนหน้านี้เปิดให้ใช้งานผ่านโปรแกรมเบต้าของ Workspace

กูเกิลประกาศฟีเจอร์การรับส่งข้ามแพลตฟอร์มของ Google Chat ตั้งแต่งาน Google Cloud Next ในปีที่แล้ว โดยเป็นความร่วมมือกับ Mio แพลตฟอร์มเชื่อมต่อการทำงานข้ามค่ายระหว่าง Google Workspace กับ Microsoft 365

ทั้งนี้ลูกค้า Workspace ที่ต้องการใช้ฟีเจอร์ดังกล่าว ต้องมีไลเซนส์ของ Mio ด้วย

ที่มา: กูเกิล

ที่งาน Google Cloud Next 2024 ปีนี้ Yulie Kwon Kim รองประธานกูเกิลที่ดูแล Google Workspace ให้สัมภาษณ์ถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ และความปลอดภัยของ Google Workspace ว่ามีการใช้งาน AI อย่างต่อเนื่อง

Kim ระบุว่ากูเกิลลงทุนอย่างหนักและมีประสิทธิภาพ พร้อมกับพูดถึงคู่แข่งอย่างไมโครซอฟท์ที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ (U.S. Department of Homeland Security - DHS) เพิ่งออกรายงานสอบสวนเหตุการณ์ระบบรัฐบาลถูกแฮก (ข่าวเก่า) รายงานระบุว่าเป็นเหตุที่ป้องกันได้ และวัฒนธรรมการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของไมโครซอฟท์ไม่เพียงพอ

นอกเหนือจาก Google Vids แอปสร้างวิดีโอจากเอกสารใน Google Docs และ Google Sheets กูเกิลยังประกาศฟีเจอร์ใหม่พลัง Gemini หลายอย่างสำหรับคนใช้งาน Google Workspace มีรายละเอียดดังนี้

• Help me write บนแอป Gmail รองรับคำสั่ง prompt ด้วยเสียง ใช้งานได้สำหรับลูกค้า Gemini Enterprise, Gemini Business และ Google One AI Premium
• Google Sheets เพิ่มเทมเพลตขึ้นโครงตารางชุดใหม่ สำหรับลูกค้า Workspace ทุกคน

Google Workspace เพิ่มแอปสร้างวิดีโอในชื่อ Google Vids ที่สามารถขึ้นโครงวิดีโอจากเอกสารเดิม เช่น Google Docs หรือ Google Sheets ทำเป็นบทวิดีโอ แล้วสามารถใช้เสียงพูดจากปัญญาประดิษฐ์เพื่อพากษ์วิดีโอ หรือจะใช้เสียงผู้ใช้เองก็ได้

ตอนนี้ Google Vids ยังเป็นโปรแกรมทดสอบ จะเริ่มเปิดให้ผู้ใช้เปิดใช้งานจาก Workspace Labs เดือนมิถุนายนนี้ โดยบริการนี้เป็นส่วนหนึ่งของฟีเจอร์ Gemini for Workspace ต้องเป็นลูกค้าแพ็กเกจนี้ (ส่วนเสริมขายแยก 20-30 ดอลลาร์ต่อเดือน)

ที่มา - Google Workspace Blog

Google Chat เพิ่มความสามารถที่หลายคนอาจเข้าใจว่ามีให้ใช้นานแล้ว นั่นคือการบันทึกและส่งข้อความเสียง (Voice message) วิธีการใช้งานก็เหมือนแอปแชทอื่นนั่นคือกดปุ่มไมโครโฟน แล้วบันทึกข้อความเสียง ฟังพรีวิว ก่อนส่งหรือลบข้อความเสียงนั้น

อย่างไรก็ตามฟีเจอร์ส่งข้อความเสียงใน Google Chat นี้ยังจำกัดการใช้งาน รองรับเฉพาะลูกค้า Google Workspace แบบจ่ายเงินเท่านั้น (Enterprise Essentials, Enterprise Essentials Plus, Enterprise Standard, Enterprise Plus) และส่งข้อความเสียงได้ผ่านแอปบน iOS หรือ Android เท่านั้น บนเว็บยังไม่รองรับ แต่สามารถฟังข้อความเสียงได้จากทุกแพลตฟอร์ม

Google Drive ประกาศเพิ่มตัวเลือกแสดงผล Dark Mode สำหรับเวอร์ชันบนเว็บแล้ว ซึ่งเป็นบริการของกูเกิลที่เหลือไม่กี่อย่างที่เพิ่งรองรับ Dark Mode นี้

หากผู้ใช้งานได้ตัวเลือกนี้ จะมีข้อความเตือนแสดงขึ้นมา หรือสามารถตรวจสอบดูว่าตั้งค่าได้หรือไม่โดยไปที่ Settings > General > Appearance โดยจะทยอยอัปเดตให้กับผู้ใช้งานทุกคนต่อไป

ที่มา: 9to5Google

กูเกิลประกาศปรับปรุงความสามารถของ Google Drive สองอย่างในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายละเอียดดังนี้

• ระบบเล่นวิดีโอ เปลี่ยนมาใช้ตัวแปลงเป็น DASH ทำให้การเรียกวิดีโอผ่าน Drive เร็วขึ้น และบัฟเฟอร์เมื่อเลื่อนตำแหน่งลื่นไหลขึ้น
• เสิร์ชใน iOS ปรับปรุงโดยเพิ่มแถบฟิลเตอร์ด้านบน เช่น ประเภทไฟล์ คนที่แชร์ อายุของไฟล์ ทำให้สะดวกในการค้นหาไฟล์ที่ต้องการ (Android จะได้เร็ว ๆ นี้)

การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลทั้งลูกค้าบัญชี Google Workspace และ Google Account

ที่มา: กูเกิล

กูเกิลประกาศนำโมเดล Gemini เข้ามาใช้งานในแอพชุด Google Workspace ได้แก่ Gmail, Docs, Sheets, Slides, Meet

ในแง่ฟีเจอร์ไม่ต่างอะไรจากฟีเจอร์กลุ่ม Duet AI ใน Workspace ที่เคยเปิดตัวมาก่อน แต่คราวนี้คือรีแบรนด์มาใช้ชื่อ Gemini และอัพเกรดมาใช้โมเดลเวอร์ชันใหม่ที่ทรงพลังกว่าเดิม

การใช้งาน Gemini ใน Google Workspace จำเป็นต้องซื้อแพ็กเกจ Google One AI Premium ราคา 19.99 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งจะได้สิทธิใช้งาน Gemini Advanced ที่เป็นโมเดล Ultra 1.0 ด้วย

Dylan Roussel นักแกะฟีเจอร์ใหม่ Android โพสต์ข้อมูลที่เขาพบในบัญชี X เกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่ที่เตรียมประกาศของ Gemini สำหรับลูกค้า Google Workspace เพื่อนำ Gemini มาใช้ภายในองค์กร ที่ต้องการความสามารถปกป้องข้อมูลเพิ่มเติม

แผนที่กูเกิลเปิดให้สมัครได้แก่ Gemini Business และ Gemini Enterprise สามารถใช้งานโมเดล Gemini Ultra 1.0 โดยกูเกิลจะไม่นำข้อมูลในการสนทนาไปใช้ในการเทรน AI รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษสำหรับลูกค้าใน 150 ประเทศ ทั้งนี้รายละเอียดและราคาต้องรอประกาศทางการอีกครั้ง

กูเกิลประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้ Google Docs, Slides, Sheets บนแท็บเล็ตแอนดรอยด์ นั่นคือเพิ่ม formatting sidebar เข้ามารองรับพื้นที่จอแท็บเล็ต ช่วยลดจำนวนการแตะหน้าจอเพื่อปรับฟอร์แมตเอกสารลง เมื่อเทียบกับการใช้ toolbar แบบเดิม (ยังสามารถใช้งานได้ทั้งสองแบบตามชอบ โดยกดที่ปุ่มตัว A ใน toolbar) ฟีเจอร์นี้เริ่มปล่อยให้ใช้งานแล้ว และจะเปิดใช้ในวงกว้างวันที่ 6 มีนาคม 2024

กูเกิลประกาศเพิ่มโหมด Companion สำหรับผู้ใช้ Google Meet บนแอปมือถือ iOS และ Android แล้ว จากก่อนหน้านี้โหมดใช้งานดังกล่าวมีเฉพาะบนเว็บเดสก์ท็อป และ Nest Hub Max

Companion Mode เป็นการใช้งาน Google Meet แบบจอที่สอง สำหรับการประชุมในห้องใหญ่ ซึ่งมีการเชื่อมต่อเสียง-วิดีโอกับอุปกรณ์ในห้องอยู่แล้ว แต่ผู้ร่วมประชุมต้องการเข้าร่วมแบบหน้าจอส่วนตัวเพิ่มต่างหาก ซึ่งช่วยเพิ่มโฟกัสและควบคุมการประชุมได้โดยตรงจากบัญชีของตนเอง

ฟีเจอร์นี้มีเฉพาะลูกค้า Google Workspace โดยต้องอัพเดตแอป iOS และ Android เป็นเวอร์ชันปัจจุบัน

Google Meet ประกาศเพิ่มฟีเจอร์เล็ก ๆ แต่ช่วยให้การจัดการภาพรวมการประชุมออนไลน์ดีขึ้น โดย Host และ Co-host สามารถกดปักหมุด (Pin) หน้าจอผู้ร่วมประชุม ได้สูงสุด 3 คน ทำให้หน้าจอของผู้พูดคนสำคัญในการประชุม แสดงค้างอยู่ตลอดเวลา มีผลกับผู้ร่วมประชุมทุกคน

เดิม Google Meet นั้นสามารถ Pin หน้าจอผู้ร่วมประชุมได้ แต่มีผลเฉพาะผู้ใช้งานคนนั้น ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ Host สามารถกำหนดค่าได้เลยสำหรับทุกคน ทั้งนี้ผู้ร่วมประชุมก็สามารถถอนหมุด (Unpin) ได้เองเช่นกัน

ฟีเจอร์นี้มีผลสำหรับลูกค้า Google Workspace ทุกคน

ที่มา: กูเกิล

Google Meet เพิ่ม 3 ฟีเจอร์ เพื่อให้วิดีโอคอลของผู้ใช้งาน ถูกปรับแต่งอย่างละเอียดให้นำเสนอออกมาในแบบที่ต้องการ

คุณสมบัติแรกคือการรวมเอฟเฟกต์หลายอย่างมาใช้ในวิดีโอเดียว ได้แก่ การปรับแต่งพื้นหลัง, การใส่ฟิลเตอร์ หรือลูกเล่นตกแต่งต่าง ๆ และตัวปรับแสง-คุณภาพวิดีโอ ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้งานทั้งเวอร์ชันเว็บ และแอปสมาร์ทโฟน

อีกสองคุณสมบัติเปิดให้เฉพาะลูกค้า Google Workspace Enterprise ที่ซื้อส่วนเสริม Duet AI ได้แก่ ระบบให้แสงแบบสตูดิโอ ซึ่งสามารถปรับระดับแสงและตำแหน่งได้ กับระบบเสียงสตูดิโอ ช่วยปรับปรุงเสียงที่คุณภาพไม่ดี ให้เสียงชัดเจนมากขึ้น

กูเกิลประกาศปรับปรุงฟีเจอร์ มีผลกับทั้ง Google Docs, Sheets, Slides และ Drawings โดยปุ่ม Share ได้เพิ่ม dropdown แทรกเข้ามา ให้ตรวจสอบหรือทำงานต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น เช่น แสดงรายการ access request ที่รออนุมัติ และเรียกปุ่ม Copy Link ได้เลยจากเมนูนี้

ฟีเจอร์นี้จะได้อัพเดตทั้งลูกค้า Google Workspace และผู้ใช้งานบัญชีกูเกิลทุกคน

กูเกิลยังเพิ่มอีกฟีเจอร์ของการแชร์ใน Google Drive โดยเมื่อแชร์ไฟล์ที่เป็นวิดีโอ จะมีตัวเลือกเพิ่มเติมคือการแชร์แบบระบุตำแหน่งเวลาของวิดีโอนั้น อัพเดตนี้ได้ทั้งลูกค้า Google Workspace และผู้ใช้งานบัญชีกูเกิลทุกคนเช่นกัน

ที่มา: 9to5Google

กูเกิลชี้แจงสาเหตุของปัญหา Gmail ที่ผู้ใช้งานพบปัญหาอีเมลถูกส่งออกไปล่าช้า ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นสองครั้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยครั้งแรกเกิดในวันที่ 30 พฤศจิกายน 23:30น. - 1 ธันวาคม 4:15น. ตามเวลาในไทย และครั้งที่สองเกิดวันที่ 2 ธันวาคม เวลา 1:52น. - 3:30น. จึงอาจไม่เห็นผลกระทบกับผู้ใช้ในไทยในวงกว้าง

สาเหตุของปัญหาเกิดจากระบบที่ใช้จัดการข้อความหลัก มีรูปแบบทราฟิกของอีเมลเข้ามาที่ไม่ปกติ ส่งผลให้การใช้งานทรัพยากรของระบบเพิ่มขึ้นสูงจนอีเมลถูกส่งออกไปล่าช้า ซึ่งแนวทางแก้ไขเบื้องต้นคือการขยายทรัพยากรในโซนที่ได้รับผลกระทบให้เพียงพอ นอกจากนี้ยังเพิ่มลิมิตเพื่อป้องกันทราฟิกที่ผิดปกติเข้ามาจนกินทรัพยากรด้วย

Google Forms ประกาศอัพเดตการใช้งาน โดยสามารถจำกัดการเข้าถึงแบบฟอร์มระบุรายคนได้แล้ว

ก่อนหน้านี้ Google Forms สามารถตั้งค่าจำกัดการเข้าถึงได้เพียง 2 แบบคือ (1) ภายในผู้ใช้งานที่อยู่ในโดเมนเดียวกันหรือโดเมนที่เชื่อถือ หรือ (2) ตั้งค่าเป็นแบบสาธารณะเลย สำหรับทุกคนที่มีลิงก์สามารถเข้าถึงได้ทั้งหมด

กูเกิลอธิบายว่าการจำกัดการเข้าถึงแบบใหม่ สามารถระบุได้ทั้งระดับบุคคล กลุ่ม ในแบบเดียวกับที่ผู้ใช้งานสามารถจำกัดการเข้าถึงไฟล์ใน Google Docs, Sheets, Slides หรือ Sites บน Google Drive นั่นเอง

สถานะของ Google Forms ใหม่นี้ยังเป็นเบต้า โดยจะเปิดให้ใช้งานได้ทั้งกับลูกค้า Google Workspace และผู้ใช้งาน Google Account

กูเกิลอัพเดตขั้นตอนสำหรับผู้ใช้ Google Drive ที่พบปัญหาไฟล์หาย จากการใช้โปรแกรม Google Drive for desktop เวอร์ชัน 84.0.0.0 - 84.0.4.0 เพื่อกู้ไฟล์ที่หายไปกลับคืนมา

รายละเอียดการกู้ไฟล์นั้นทำได้ทั้งใช้โปรแกรมหรือใช้ command line โดยการใช้โปรแกรมนั้น ให้ดาวน์โหลด Drive for desktop เวอร์ชันล่าสุด 85.0.13.0 หรือใหม่กว่า แล้วรันเครื่องมือกู้ไฟล์ โดยคลิกไอคอน Drive ในแถบเมนู กด Shift ค้าง เพื่อให้ปุ่ม Settings ปรากฏ และเลือก Recover from backups เพื่อเริ่มการกู้ไฟล์ที่หายไป

แอป Google Drive บนมือถือมีคุณสมบัติรองรับการสแกนเอกสาร แล้วแปลงไฟล์ภาพนั้นเป็น PDF มานานแล้ว แต่จำกัดเฉพาะผู้ใช้ Android แต่ล่าสุดกูเกิลนำคุณสมบัตินี้ใส่เข้ามาให้ผู้ใช้ iOS แล้ว

การใช้งานก็เหมือนแอปสแกนเอกสารที่คนใช้ iOS คงชินในแอปอื่นไปนานแล้ว โดยไปที่ปุ่ม + แล้วเลือก Scan จากนั้นสแกนเก็บเป็นเอกสาร เลือกครอปตำแหน่งหากต้องการ และจัดเก็บไฟล์ ซึ่งแอปก็จะแนะนำชื่อไฟล์ให้พร้อมกับการบันทึกเป็นแบบ PDF

กูเกิลยังประกาศเพิ่มความสามารถการสแกนเอกสารสำหรับแอปบน Android เพิ่มเติม โดยปรับตำแหน่งจับภาพอัตโนมัติ ให้ได้คุณภาพการสแกนที่ดีขึ้น รองรับการนำเข้าภาพจากอัลบั้ม และทำงานเร็วขึ้นเมื่อต้องสแกนเอกสารถัดไป

Google Meet เพิ่มความสามารถใหม่ จากเดิมในการประชุมหากเราต้องการพูดจะมีปุ่มยกมือ (Hand raise) แต่คราวนี้เราสามารถยกมือจริง ๆ แล้ว Google Meet ก็รับรู้ว่ายกมือในระบบได้ด้วย

โดย Google Meet จะใช้วิธีจับท่าทางในกล้องที่เปิดอยู่ว่ามีการยกมือเกิดขึ้นที่หน้าจอ ทั้งนี้เงื่อนไขคือกล้องต้องเปิด (อันนี้แน่นอน) ขณะเดียวกันมุมกล้องต้องเห็นชัดเจนว่ามือยกขึ้นมาห่างจากใบหน้าและลำตัว ระบบตรวจจับนี้จะไม่ทำงานหากคนนั้นกำลังเป็นผู้พูดอยู่แล้ว

ฟีเจอร์นี้ปิดการทำงานเป็นค่าเริ่มต้น สามารถเปิดใช้งานได้โดยไปที่ More options > Reactions > Hand Raise Gesture และมีให้เฉพาะลูกค้า Google Workspace

Google Chat แอพแชทฝั่งองค์กรของกูเกิลมีอัพเดตใหม่ การเปลี่ยนแปลงสำคัญคือเปลี่ยนโลโก้จากสีเขียวล้วน มาเป็นโลโก้แบบ 4 สีให้เข้าชุดกับแอพตัวอื่นของ Google Workspace โดยจะมีผลในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ข่าวสั้น กูเกิลเพิ่มของใหม่ให้ Google Slides ผู้ใช้งานสามารถใส่ GIF และสติกเกอร์ในเอกสารนำเสนอได้แล้ว ซึ่งกูเกิลบอกว่า GIF และสติกเกอร์นี้ ช่วยเพิ่มการรับรู้ พลัง และความสร้างสรรค์ให้กับงานนำเสนอกับผู้ชม

การเพิ่ม GIF หรือสติกเกอร์ทำได้โดยไปที่ Insert > Image เลือก GIFs and stickers แล้วใส่คำค้นหาที่ต้องการ

ฟีเจอร์นี้มีให้ใช้งานทั้งลูกค้า Google Workspace และบัญชี Google ส่วนบุคคล

Google Meet เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ On-the-Go สำหรับการใช้งานผ่านมือถือ เพื่อให้มีหน้าตาใช้งานที่ง่ายและเหมาะกับสถานการณ์ตอนนั้น

คุณสมบัติก็ตามชื่อ โหมดการทำงาน On-the-Go จะถูกเรียกเปิดใช้เมื่อตรวจพบการเคลื่อนที่ เช่น เดิน ขับรถ หรือโดยสารรถสาธารณะ โดยขึ้นข้อความว่า Google Meet กำลังเข้าสู่โหมด On-the-Go ที่ปุ่มจะลดเหลือที่จำเป็นและมีขนาดใหญ่ขึ้น (Mute, Unmute, Hand Raise, เลือก Audio Device) ส่วนหน้าตาห้องประชุมจะปิดการแสดงวิดีโอมีเฉพาะเสียง เหลือเพียงหัวข้อประชุม จำนวนผู้เข้าประชุม และคนที่กำลังพูดอยู่

ผู้ใช้งานยังสามารถเลือกการแสดงผลเพิ่มเติม เช่น ให้แสดงไฟล์ที่กำลังนำเสนออยู่ได้ หรือเลือกออกจากโหมด On-the-Go นี้เลย ก็ทำได้เช่นกัน

Google Meet ประกาศเพิ่มฟังก์ชัน ซึ่งกูเกิลบอกว่ามีการร้องขอให้เพิ่มเป็นจำนวนมากจากผู้ใช้งาน นั่นคือโหมดปรับใบหน้าให้ดูดีขึ้น (Portrait Touch-up)

โหมดการใช้งานมีสองระดับคือ Subtle ระบุว่าเป็นการปรับเพียงเล็กน้อย และ Smoothing ที่มีการปรับสภาพใบหน้ามากกว่า กูเกิลอธิบายว่าหลายครั้งเราต้องวิดีโอคอลในสภาพที่อาจจะดูเหนื่อยล้าเกินไป เช่น เพิ่งออกมาจากฟิตเนส เพิ่งหายป่วย หรือเพิ่งกลับจากเดินทางไกล ฟีเจอร์นี้จึงเข้ามาช่วยเพิ่มความมั่นใจและสบายใจกับผู้ใช้งานนั่นเอง