หลายๆ คนที่เคยได้ลองซื้อแพนเค้กหรือขนมโตเกียวตามร้านต่างๆ บางครั้งอาจจะรู้สึกหงุดหงิดเวลาคนขายวาดรูปแพนเค้กไม่ตรงตามที่จินตนาการไว้หรือไม่มีแบบที่ตัวเองอยากได้ ตอนนี้มีโครงการ Kickstarter ที่จะทำให้เราสามารถออกแบบแพนเค้กได้เองแล้วนะครับ
PancakeBot คือเครื่องพิมพ์แพนเค้กที่ออกแบบมาให้เราสามารถตกแต่งหน้าตาของมันได้ตามใจชอบ โดยเริ่มจากอัพโหลดไฟล์รูปภาพเข้าไปในซอฟต์แวร์ แล้ววาดเส้นตามรูปภาพนั้น เมื่อสั่งพิมพ์ เครื่องพิมพ์แพนเค้กจะวาดรูปตามโดยบีบแป้งแพนเค้กลงบนกระทะร้อน โดยจะวาดเรียงลำดับจากเส้นที่เราวาดก่อนไปหลัง ทำให้เส้นแป้งที่เราวาดลงไปก่อนนั้นจะมีสีเข้มกว่าแป้งที่บีบทีหลัง เกิดเป็นลวดลายต่างๆ ออกมานั่นเอง
หลังจากเมื่อช่วงต้นเดือน Pebble Time ได้ทำลายสถิติ โครงการที่ระดมทุนได้สูงที่สุดใน Kickstarter ยอดระดมทุนยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นว่าพุ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัว หลังงาน Spring Forward ที่แอปเปิลเปิดตัว Apple Watch ไปเมื่อ 9 มีนาคมที่ผ่านมา
ในช่วงก่อนงาน Spring Forward จะเริ่ม ยอดระดมทุนต่อชั่วโมงของ Pebble Time อยู่ที่ประมาณ 6,000 ดอลลาร์ และขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 10,000 ดอลลาร์ ในช่วงงานเปิดตัว ก่อนที่จะพุ่งไปอยู่ที่ประมาณ 16,000 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง ภายหลังงานจบ
ก่อนหน้านี้ Pebble ได้เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ Pebble Time ใช้วิธีระดมทุนผ่าน Kickstarter ซึ่งยอดระดมทุนของ Pebble Time ได้ถึง 14,949,656 ดอลลาร์ (ณ เวลาที่เขียนข่าว) ทุบสถิติที่กล่องแช่เย็นอเนกประสงค์ Coolest Cooler ทำได้ 13,285,226 ดอลลาร์
สถิติ Pebble รุ่นแรกทำไว้เมื่อปี 2012 อยู่ที่ 10,266,845 ดอลลาร์ ซึ่ง ณ เวลานั้นก็ทำลายทุกสถิติในเว็บ Kickstarter เช่นกัน
ทั้งนี้ Pebble Time ยังมียอดระดมทุนเพิ่มได้อีก เนื่องจากเหลือระยะเวลาระดมทุนอีก 23 วัน
โลกของแบตเตอรี่สำรองดูเหมือนจะไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากอยู่กับการเพิ่มความจุให้มากขึ้นด้วยการเพิ่มปริมาณลิเทียมไอออน หรือลิเทียมโพลิเมอร์มาพักใหญ่ ก็มีเจ้าหนึ่งออกมาคิดใหม่ทำใหม่ด้วยการบอกลาไฟฟ้า และใช้แก๊สสำหรับเติมพลังงานแทน
เจ้าแบตเตอรี่สำรองที่พูดถึงนี้คือ kraftwerk (แปลว่าโรงไฟฟ้า) ผลงานจากบริษัทสัญชาติเยอรมัน ที่ฉีกการใช้งานแบตเตอรี่สำรองเดิมๆ ด้วยการใช้แก๊ส LPG (แบบที่ใช้เติมรถยนต์ ไฟแช็ก) มาใช้งานกับแบตเตอรี่สำรองแทน โดยเจ้า kraftwerk สร้างพลังงานด้วยเซลล์เชื้อเพลิง (fuel cell) ที่นอกจากจะให้พลังงานได้ระดับเดียวกับแบตเตอรี่สำรองทั่วไปแล้ว ยังใช้เวลาเติมกลับเข้าไปเพียง 3 วินาทีเท่านั้น!
ในสมัยเด็ก เราอาจจะคุ้นเคยกับการเล่นตุ๊กตาแล้วพยายามคุยกับตุ๊กตาคนเดียว (ลองจินตนาการตัวละครอย่าง Stewie และตุ๊กตาหมี Rupert ในการ์ตูนชีรีส์ Family Guy) แต่มาตอนนี้ความฝันที่ตุ๊กตาจะคุยกับเราได้จริงๆ คงไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินตัวอีกต่อไปด้วยตุ๊กตาที่มีชื่อว่า Cognitoys
ทีมstartup ไอซ์สติ๊กที่มีคนไทยเข้าร่วม ได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ของไม้แบดมินตันให้ดูดเก็บลูกขนไก่
ได้โดยไม่ต้องก้มเก็บ ซึ้งใช้ระยะเวลาคิดค้นและพัฒนากว่า 5 ปีพร้อมได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลฮ่องกงในการจดสิทธิบัตรทั่วโลก
โดยทีมงานไอซ์สติ๊กให้ชื่อว่า “Badmineton”
ด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่ง่ายและสะดวกของ Badmineton เพียงนำไม้แบตมาดูดลูกขนไก่ที่ตกพื้นโดยไม่ต้องก้มเก็บ ทำให้การเล่นแบตมินตันสะดวกมากขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าลูกขนไก่จะตกแล้วต้องก้มเก็บบ่อยๆ ให้เมื่อย
Soundlazer Snap คือชื่อของโครงการระดมทุนบน Kickstarter เพื่อสร้างลำโพงแบบ parametric ซึ่งเป็นลำโพงที่จำกัดให้มีเฉพาะผู้ที่อยู่ในทิศทางที่กำหนดเท่านั้นที่จะสามารถได้ยินเสียงจากลำโพงนี้
Dexmo คือชื่อของอุปกรณ์ exoskeleton (อุปกรณ์สวมใส่คล้ายเกราะที่มีโครงสร้างสอดรับตามกายวิภาคของร่างกายผู้ใช้) สำหรับสวมใช้งานที่มือ มันสามารถใช้ประโยชน์เพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวมือและนิ้วของผู้ใช้เพื่อนำไปควบคุมมือของหุ่นยนต์ได้ และยังสามารถให้การตอบสนองด้านสัมผัสแก่ผู้ใช้เมื่อมีการใช้งานกับระบบ VR (virtual reality) เพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกถึงสัมผัสของวัตถุในโลก VR นั้นได้
หากใครเคยชมภาพยนตร์ในซีรีส์ Back to the Future คงไม่มีทางลืมอุปกรณ์จากอนาคตอย่าง Hoverboard ที่มีรูปร่างเหมือนสเก็ตบอร์ดไม่มีล้อ แต่สามารถลอยอยู่เหนือพื้นและเคลื่อนที่ไปได้ ที่ผ่านมามีคนพยายามสร้างอุปกรณ์ลักษณะใกล้เคียงกันโดยใช้เทคโนโลยี Hovercraft แต่ไม่ประสบความสำเร็จนัก วันนี้มีคนคิดใหม่ทำใหม่ใช้เทคโนโลยี Maglev สร้างอุปกรณ์ต้นแบบสำเร็จแล้วในชื่อ Hendo Hoverboard ครับ
หลังถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นการหลอกลวงให้คนไประดมทุนครั้งใหญ่ ล่าสุด Kickststarter จัดการยุติโครงการระดมทุนของ Anonabox กล่องเร้าท์เตอร์จิ๋วสำหรับใช้งาน Tor เป็นที่เรียบร้อย ด้วยยอดเงินมากกว่า 585,000 เหรียญ
เพราะโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคสมัยของ Internet of Things ดังนั้นแล้วข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันแทบทุกสิ่งก็สามารถเปลี่ยนเป็นอุปกรณ์ที่แสนฉลาดมาพร้อมระบบควบคุมการทำงานอัตโนมัติได้ทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ขวดเจลดับกลิ่นใต้วงแขน ที่วันนี้มีคนคิดค้นสร้างมันขึ้นมาและกำลังระดมทุนผ่านเว็บ Kickstarter โดยใช้ชื่อผลิตภัณฑ์ว่า ClickStick
Anonabox เราเตอร์ที่บังคับให้ทุกอย่างต้องวิ่งผ่าน Tor ระดมทุนได้แล้วเกือบหกแสนดอลลาร์ภายในเวลาเพียงสี่วัน แต่ตอนนี้กำลังถูกจับตามองว่าเป็นการหลอกลวงครั้งใหญ่
เราท์เตอร์ Anonabox สำหรับการใช้ทุกอย่างผ่าน Tor เพิ่งประกาศโครงการใน KickStarter เมื่อวานนี้โดยตั้งเป้าระดมทุน 7,500 ดอลลาร์ ตอนนี้ผ่านไปเพียงวันกว่าๆ สามารถระดมทุนไปได้แล้วเกือบสองแสนดอลลาร์ ยอดขายกว่าสามพันชุด
Anonabox เป็นเราท์เตอร์ ซีพียู 540MHz แรม 64MB และรัน OpenWRT ความพิเศษของมันคือมันเป็นเราท์เตอร์ที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่าน Tor เท่านั้น ทีมงานระบุว่าการเชื่อมต่อผ่าน Anonabox จะช่วยลดการทำข้อมูลรั่วไหลเพราะผู้ใช้คอนฟิกผิดพลาด, ใช้บริการนอกเบราว์เซอร์ Tor Bundle, หรือบางครั้งก็หยุดใช้ Tor เพราะความยุ่งยาก
เมื่อใช้งานผ่าน Anonabox ผู้ใช้เพียงแต่ต่อเราท์เตอร์เข้ากับเราท์เตอร์ในบ้าน แล้วเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi หรือ LAN ของ Anonabox ก็จะเป็นการใช้งานผ่าน Tor ทันที
เครื่อง PLC เป็นคอมพิวเตอร์ควบคุมสำคัญในโรงงานสมัยใหม่ที่มีกระบวนการควบคุมอัตโนมัติ แต่คอมพิวเตอร์เหล่านี้มักออกแบบให้ทนทานต่อสภาพแวดล้อมโรงงานได้ดี มีเครื่องมือพัฒนาเฉพาะ ราคาจึงมักสูงพอสมควร ล่าสุดบริษัท SG-Tronic ก็พัฒนา PLC จาก Arduino ในชื่อ CONTROLLINO
CONTROLLINO คือบอร์ด Arduino ที่แพ็กลงกล่องพลาสติกแบบราง din พร้อมกับปรับวงจรรับและส่งสัญญาณให้สามารถทนศักย์ไฟฟ้าได้ถึง 24V และมี relay มาในตัว ตัววงจรทนความร้อนได้ถึง 55 องศาเซลเซียส ทนความชื้นสัมพัทธ์ได้ถึง 80% ที่ 31 องศาเซลเซียส
ทาง SG-Tronic จะขอใบรับรอง UL, CE และพัฒนา CONTROLLINO ตามมาตรฐาน EN 61010-1, EN 61010-2, และ IEC 60073
Ampy คืออุปกรณ์สำรองไฟสำหรับชาร์จให้กับแก่อุปกรณ์พกพาที่สามารถเก็บเกี่ยวเอาพลังงานจลน์จากการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้ใช้มาชาร์จประจุใส่ตัวมันเองได้
แบตเตอรี่พกพาสำหรับใช้เพื่อชาร์จไฟให้อุปกรณ์อย่างสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตนั้นมีอยู่เต็มท้องตลาดไปหมดในขณะนี้ แต่มี Power Practical ผู้ผลิตแบตเตอรี่รายหนึ่ง (รายเดียวกันที่ผลิตหม้อปรุงอาหารที่ชาร์จไฟแบตเตอรี่ได้ด้วย) กล้าผลักดันสินค้าของตัวเองขึ้นเป็นโครงการระดมทุนบน Kickstarter โดยชูจุดเด่นเรื่องการชาร์จไฟเติมประจุได้อย่างรวดเร็ว ชื่อของแบตเตอรี่นี้คือ Pronto
หลายคนที่ต้องนั่งทำงานติดโต๊ะเป็นเวลานานๆ คงเจอปัญหาปวดหลังซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากท่านั่งที่ไม่เหมาะสม เทคนิคที่แต่ละคนนำมาใช้แก้ปัญหาก็มีแตกต่างกันไป บ้างก็เลือกหาเก้าอี้นั่งตัวใหม่ บ้างก็หาหมอนหรือเบาะมาหนุนหลังเสริมเป็นการพิเศษ แต่ Darma คิดมองไกลกว่านั้น พวกเขาเลือกที่จะสร้างเบาะรองนั่งแบบพิเศษที่จะคอยตรวจจับท่านั่งของผู้ใช้และแจ้งเตือนได้หากนั่งในท่าที่ไม่เหมาะสม หรือนั่งนานเกินไป
ในขณะที่หลายคนแถวนี้อาจมีปัญหาทำงานหนักจนแทบไม่มีเวลานอน กลับยังมีคนอีกไม่น้อยที่เจอปัญหาตรงกันข้ามเพราะนอนไม่ค่อยจะหลับ ซึ่งคนกลุ่มหลังก็มักจะต้องพึ่งยานอนหลับเป็นตัวช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อนยามค่ำคืน ทว่าวันนี้มีทางเลือกใหม่ด้วยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์แบบสวมใส่ได้ หมวกนิทรา Sleep Shepherd ได้ถือกำเนิดมาช่วยแก้ปัญหานี้แล้ว
Sleep Shepherd คือหมวกบีนนี่ (จะเรียกว่าเป็นหมวกไหมพรมก็ไม่เชิง เพราะแม้จะทรงเดียวกันแต่ Sleep Shepherd ก็ไม่ได้ทำมาจากไหมพรม) ที่จะช่วยกล่อมผู้สวมใส่ให้หลับและตื่นได้ในเวลาที่เหมาะสม การทำงานของมันอาศัยเซ็นเซอร์ภายในหลายตัวร่วมกับตัวส่งสัญญาณไปที่สมอง
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์แบบสวมใส่ที่เน้นการใช้ประโยชน์เพื่อตรวจสอบสภาพความฟิตและข้อมูลทางสุขภาพของผู้ใช้นั้นมีอยู่มากมายในท้องตลาดขณะนี้ แต่จะมีสักกี่ชิ้นที่ไม่เพียงตรวจวัดค่าข้อมูลต่างๆ ของร่างกายผู้ใช้ หากแต่สามารถให้คำแนะนำได้ด้วยว่าผู้สวมใส่มันควรทำอย่างไรเพื่อเพิ่มความฟิต MShorts คือหนึ่งในนั้น มันคือกางเกงกีฬาที่จะช่วยแนะนำผู้ใช้ว่าควรออกกำลังหนักแค่ไหน
ปัญหาที่พบบ่อยจากการระดมทุนแบบ crowdfunding คือเจ้าของโครงการระดมทุนไปแล้วไม่สามารถดำเนินการได้ตามที่สัญญาไว้ (ข่าวเก่า อัยการสหรัฐสั่งฟ้องบริษัทที่ระดมทุน Kickstarter แล้วไม่ทำตามสัญญา)
ในขณะที่มีทีมผู้พัฒนาจากแคนาดากำลังระดมทุนสร้าง AirVR กล้องสำหรับมองภาพ VR จากจอ iPad mini ผ่านทาง Kickstarter ก็บังเอิญว่ายังมีอีกโครงการหนึ่งของนักพัฒนาจากแคนาดาที่กำลังเปิดรับเงินสนับสนุนผ่าน Kickstarter เพื่อสร้างกล้อง VR อยู่เช่นเดียวกัน โดยใช้ชื่อผลิตภัณฑ์ว่า Totem
Vrvana คือชื่อของบริษัทผู้อยู่เบื้องหลังการสร้าง Totem ซึ่งเป็นกล้อง VR ที่มีฟีเจอร์พิเศษตรงที่มันมีช่องให้ผู้ใช้มองผ่านออกไปเห็นภาพของโลกจริงได้ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องถอดอุปกรณ์ออกเมื่อต้องการจะละจากเกมหรือความบันเทิงแบบ VR มาทำกิจธุระหรือพูดคุยสื่อสารกับคนและสิ่งแวดล้อมบนโลกจริงที่อยู่หลังกล้อง
เราเคยเห็นกล้องสำหรับมองภาพในระบบ VR จากหน้าจอสมาร์ทโฟนมาแล้ว คราวนี้จึงมีคนคิดทำกล้องสำหรับมองภาพ VR จากหน้าจอแท็บเล็ตอย่าง iPad mini กันบ้าง ชื่อของมันคือ AirVR
AirVR เป็นผลงานการพัฒนาของ Metatecture ซึ่งเป็นทีมพัฒนาจากประเทศแคนาดา มันเป็นอุปกรณ์สำหรับสวมใส่ศีรษะที่มีช่องสำหรับใส่ iPad mini และมีช่องเลนส์เพื่อมองภาพ VR จากหน้าจอของอุปกรณ์ iOS นั้น โดยขณะนี้ Metatecture กำลังระดมทุนผ่าน Kickstarter (เป้าหมายคือ 20,000 ดอลลาร์แคนาดา หรือประมาณ 590,000 บาท) เพื่อโอกาสในการทำ AirVR เป็นผลิตภัณฑ์ออกวางขายจริง
เมื่อปีที่แล้วมีโครงการหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการระดมทุนผ่าน Kickstarter อย่างสวยงาม มันคือกล้องไว้ส่องดูภาพ 3 มิติจากหน้าจอ iPhone ที่มีชื่อว่า Poppy ซึ่งมาถึงวันนี้มันพร้อมส่งถึงมือผู้ที่สั่งจองและเปิดรับคำสั่งซื้อทั่วไปแล้ว
ในยุคที่สิ่งของรอบตัวทยอยกลายเป็นส่วนหนึ่งของโลก Internet of Things คงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะมีใครสักคนคิดประดิษฐ์แผ่นรองพื้นรองเท้าที่เราจะสามารถควบคุมสั่งงานให้มันทำหน้าที่ปรับอุณหภูมิในรองเท้าให้เหมาะสมโดยการใช้แอพในสมาร์ทโฟน และนั่นคือคำอธิบายงานโครงการระดมทุนผ่าน Kickstarter ที่มีชื่อว่า Digitsole
หน้าตาของ Digitsole นั้นก็แทบไม่ต่างจากแผ่นรองพื้นรองเท้าที่เห็นกันทั่วไปในท้องตลาด มันได้รับการออกแบบเพื่อให้สวมใส่สบายและช่วยกระจายแรงกดที่กระทำต่อฝ่าเท้าซึ่งถือเป็นคุณสมบัติที่แผ่นรองพื้นรองเท้าดีๆ ควรจะมี
หากยังจำกันได้ เมื่อช่วงปี 2009 มีบริษัทหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า Modbook ซึ่งรับจ้างแปลง Macbook Pro ของลูกค้า ให้กลายเป็นแท็บเล็ต (ข่าวเก่า) อีกทีหนึ่ง ซึ่งในเวลานั้นโครงการได้รับความสนใจมาก เสร็จแล้วก็เงียบหายไป
วันนี้ Modbook ประกาศโครงการ Modbook Pro X โดยมีเป้าหมายที่จะแปลง Macbook Pro รุ่น 15 นิ้ว ที่มาพร้อมกับหน้าจอแบบ Retina Display ให้กลายร่างเป็นแท็บเล็ต ซึ่งด้านหลังมีปุ่มสำหรับกดใช้งานเรียกคำสั่งต่างๆ ได้ (เรียกว่า Eyes-Free Keybars) โดยสามารถเชื่อมต่อเข้ากับแท่นที่มีทั้งสไตลัสและแป้นพิมพ์ได้ด้วย