รู้จักกับ Suica บน Apple Pay พร้อมวิธีเพิ่มบัตรและการใช้งาน อ่านไว้ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่น

MacThai - 15 June 2019 - 16:00

suica-apple-pay-hero

Apple Pay รองรับในประเทศญี่ปุ่นนานแล้ว และสิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวอย่างเราจะสามารถทดลองใช้ได้นั่นก็คือการใช้บัตร Suica ซึ่งเป็นบัตร IC Card สำหรับการใช้เดินทางลักษณะเดียวกับบัตรแรบบิทหรือบัตร MRT ของไทย

วันนี้ ทีมงาน MacThai จะมาอธิบายเรื่องนี้อย่างละเอียดว่า การเพิ่มบัตรบน Suica ทำอย่างไร มีข้อดีหรือข้อเสียอย่างไร

บัตร Suica

บัตร Suica

รู้จัก Suica

Suica คือบัตรประเภท IC Card สำหรับใช้ในประเทศญี่ปุ่น ใช้ได้ทั้งการโดยสารรถไฟซึ่งเป็นจุดประสงค์หลัก ไปจนถึงการซื้อสินค้าตามร้านสะดวกซื้อ, ซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือจะใช้กับ coin locker ก็ได้ ซึ่ง Suica เป็นบัตรที่ออกโดย JR East และในประเทศญี่ปุ่นมีบัตร IC ประเภทเดียวกับ Suica อีกจำนวนมาก ทั้งในภูมิภาคเดียวกันและต่างภูมิภาค แต่ Suica เป็นบัตรเดียวในกลุ่มนี้ที่ใช้กับ Apple Pay ได้

เนื่องจาก Suica ถูกออกแบบให้เป็นบัตรรถไฟ เบื้องหลังใช้เทคโนโลยี FeliCa ดังนั้นหากใช้ Suica กับเกททางเข้าสถานีรถไฟ ระบบจะอ่านบัตรได้ไวมาก ๆ และที่สำคัญคือการออกบัตรและคืนบัตร IC สำหรับเดินทางจะแยกตามโซน อย่าง Suica จะเป็นโซนที่มี JR East ให้บริการ แต่ตัวบัตรสามารถใช้ข้ามโซนได้ ดังนั้นแม้จะถือ Suica ไปใช้กับโซนอื่น อย่างเช่นคันไซซึ่งเป็นโซนของ JR West ก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ

ข้อควรทราบ คือ JR แต่ละบริษัท แม้จะใช้ชื่อว่า JR เหมือนกัน แต่ในทางการดำเนินกิจการถือเป็น “คนละบริษัท” ซึ่งส่วนมาก JR แต่ละบริษัทจะมี IC ของตัวเอง ไม่มีขายของบริษัทอื่น โดย ​Suica หาซื้อได้จาก JR East เท่านั้น

แผนที่โซนให้บริการของ JR East

แผนที่โซนให้บริการของ JR East

Suica กับ Apple Pay

เมื่อ Suica เริ่มใช้งานกับ Apple Pay นั้นเป็นช่วงที่เปิดตัว iPhone 7 ดังนั้นช่วงแรก Apple จึงกำหนดให้เฉพาะ iPhone 7/7 Plus และ Apple Watch Series 2 ที่วางจำหน่ายในญี่ปุ่นเท่านั้นที่จะรองรับ Suica

แต่รุ่นถัดมา Apple ก็ตัดสินใจรองรับ Suica กับ iPhone และ Apple Watch ที่วางจำหน่ายทั่วโลก ดังนั้น ถ้าใครใช้ iPhone 8/8 Plus/X หรือใหม่กว่า และ Apple Watch Series 3 หรือใหม่กว่า ไม่ว่าจะซื้อจากประเทศไหนก็เพิ่ม Suica เข้าไปใน Apple Pay ได้

apple-pay-japan_big

โดยปกติแล้วการจ่ายเงินด้วยบัตรบน Apple Pay ต้องยืนยันตัวตนก่อนด้วย Touch ID หรือ Face ID แต่บัตรที่ถูกตั้งเป็น Express Transit จะเป็นข้อยกเว้นที่ไม่ต้องสแกน (ซึ่ง Suica สามารถตั้งได้) ดังนั้นเอา iPhone หรือ Apple Watch ที่โหลดบัตร Suica ไว้แล้ว แตะเครื่องที่รับบัตร Suica ได้เหมือนกับบัตรพลาสติกเลย (บางที่อาจจะไม่รับ Suica บนมือถือ ซึ่งจะมีป้ายติดไว้ชัดเจน ตั้งแต่ไปเที่ยวมาผู้เขียนพบเพียง 1 ครั้งเท่านั้นที่ระบุชัดเจนว่าไม่รับ Suica บนมือถือ)

ข้อควรทราบคือ Suica 1 เลขบัตรอยู่บนอุปกรณ์ได้เพียงเครื่องเดียวเท่านั้น ถ้าจะเอาใส่ Apple Watch ก็จะใช้บน iPhone ไม่ได้ ต้องเลือกว่าจะใช้เครื่องไหน แต่ Suica จะผูกกับ Apple ID ด้วย ดังนั้นถ้าเปลี่ยนเครื่อง Apple ID เดิมก็ใช้ Suica ใบเดิมได้ (มีข้อแม้คือต้องลบ Suica จากเครื่องเก่าก่อน)

เพิ่ม Suica ลง Apple Pay

สำหรับวิธีเพิ่ม Suica ลง Apple Pay นั้น จะมีอยู่สองทาง คือ สร้างบัตรใหม่เลย หรือใช้บัตรที่มีอยู่แล้วเพิ่มเข้าไป

วิธีแรก คือการสร้างบัตรใหม่ จะมีข้อจำกัดว่าจะต้องใช้บัตรเครดิตบน Apple Pay สร้างบัตร Suica ขึ้นมา เพราะต้องเติมเงินทันที สำหรับนักท่องเที่ยวไทยที่ไม่มี Apple Pay วิธีนี้ก็คงจะไม่สะดวกนัก ดังนั้นวิธีที่เราจะอธิบายจะเป็นวิธีที่สอง คือการนำ Suica ที่มีอยู่แล้วเพิ่มเข้าไป โดยผู้ใช้สามารถขอออกบัตร Suica ได้ผ่านเครื่องขายตั๋วรถไฟอัตโนมัติในสถานีของ JR East หรือจะสอบถามพนักงานก็ได้ (บริษัทรถไฟอื่นอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่ JR East มีแน่ ๆ)

เริ่มต้นเพิ่มบัตร ข้อแรก ต้องเปลี่ยน Region เป็นประเทศญี่ปุ่นก่อน (ถ้าไม่เปลี่ยน Region อาจเพิ่มบัตรไม่ได้) โดยไปที่ Settings > General > Language & Region > Region และเลือก Japan จากนั้นกลับไปที่หน้า Home ซึ่ง Region นี้สามารถเปลี่ยนกลับได้หลังเพิ่มบัตรเสร็จแล้ว

suica-apple-pay-4

ถัดมา เปิดแอป Wallet จะพบเมนูเพิ่มบัตร กด Add Card จากนั้น Apple จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับ Apple Pay อีกเล็กน้อย ให้กด Continue เพื่อไปหน้าถัดไป

เลือก Suica และจะแสดงหน้ายอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขของ JR East ให้กด Agree

suica-apple-pay-4

หน้าถัดไป กรอกเลขบัตร Suica สี่หลักสุดท้าย ให้พลิกไปด้านหลัง เลขบัตรจะอยู่ในแถบสีดำ นำด้วย JE ส่วนวันเดือนปีเกิดหากออกบัตรแบบไม่มีชื่อไม่จำเป็นต้องกรอก แต่ถ้าออกบัตรแบบมีชื่อต้องกรอกด้วย (Suica ออกบัตรแบบมีชื่อได้ แต่บัตรทั่วไปที่ออกมักจะไม่มีชื่อ)

IMG_6318

ถัดไปจะเป็นการโหลดบัตร Suica เข้ามาที่ iPhone คือให้เอา iPhone และ Suica แตะกันเหมือนในรูปค้างเอาไว้นิ่ง ๆ Apple Pay จะเริ่มอ่านค่าและโหลดข้อมูลจากบัตรพลาสติก

apple-pay-suica

ถ้าขึ้นหน้านี้มาแล้วก็เรียบร้อย แต่หากเกิด Error อาจต้องเริ่มขั้นตอนใหม่

IMG_6321

เสร็จแล้ว Suica ก็จะขึ้นมาใน Apple Pay ซึ่งมูลค่าที่ปรากฏจะเป็นมูลค่าในบัตร และบัตร Suica พลาสติกนี้จะใช้งานไม่ได้อีกต่อไป เก็บไว้เป็นที่ระลึกได้เลย และรออีกสักพัก มูลค่าในบัตรจะเพิ่มเข้ามาอีก 500 เยนอัตโนมัติ ส่วนนี้คือค่ามัดจำบัตรที่จะได้คืนตอนคืนบัตร Suica แต่เนื่องจากบัตรที่โหลดเข้าไปใน Apple Pay จะคืนไม่ได้อีกแล้ว จึงให้ 500 เยนมาเลย

ใช้ Suica บน Apple Pay

Suica บน Apple Pay จะทำงานเหมือนกับ Suica ที่เป็นบัตรพลาสติก ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายในร้านค้าที่รองรับ IC หรือเดินทางด้วยรถไฟ เอา iPhone แตะก็เหมือนกับบัตรพลาสติกทุกอย่าง โดยข้อสำคัญคือต้องแตะที่ส่วนหัว เพราะชิพจะอยู่ที่ส่วนหัว และ Suica บน Apple Pay ใช้งานแบบออฟไลน์ได้ ดังนั้นแม้คุณจะไม่มีอินเทอร์เน็ต แต่ Suica บนมือถือของคุณก็จะยังคงทำงานได้ตามปกติ โดยจะขอแยกอธิบายเป็นส่วน ๆ ดังนี้

ภาพการใช้ Suica แตะเกทรถไฟฟ้า จากเว็บไซต์ Apple ญี่ปุ่น

ภาพการใช้ Suica แตะเกทรถไฟฟ้า จากเว็บไซต์ Apple ญี่ปุ่น

1. ใช้บัตร Suica เดินทาง

การแตะ Suica ตอนเดินทาง คือขาเข้าเมื่อแตะแล้ว จะเริ่มต้นการเดินทาง มีการแจ้งเตือนว่า Trip in Progress และแสดงยอดเงินที่เหลือในบัตร และเมื่อแตะบัตรออกจะแจ้งเตือนว่าเดินทางจากสถานีอะไรถึงสถานีอะไร ราคาเท่าไร (ถ้าไม่ต่ออินเทอร์เน็ตจะไม่แสดงชื่อสถานี)

ส่วนในกรณีที่เข้าผิดสถานี ต้องการออกทางเดิมและต้องให้พนักงานรถไฟยกเลิก ก็ยื่นมือถือให้เหมือนยื่นบัตรพลาสติก พนักงานก็จะรู้วิธีและดำเนินการยกเลิกให้เอง

apple-pay-japan_inline-02

2. ใช้บัตร Suica ซื้อสินค้า

วิธีง่าย ๆ แค่แตะครั้งเดียวตอนซื้อสินค้า ก็หักเงินแล้ว และตอนหักเงินจะแสดงการแจ้งเตือนด้วยว่าหักเงินไปเท่าไร

suica-apple-pay-2

3. เติมเงิน Suica

Suica บน Apple Pay นั้นสามารถเติมเงินได้หลายวิธี คือการเติมเงินผ่าน Apple Pay ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด โดยวิธีเพิ่มคือกด Add Money แล้วเลือกมูลค่า จากนั้นก็เลือกบัตรเครดิตบน Apple Pay ได้เลย แต่วิธีนี้ต้องมีบัตรเครดิตบน Apple Pay

ถัดไปคือการเติมเงินด้วยเครื่องเติมเงินบัตรอัตโนมัติ เนื่องจาก Suica บน Apple Pay ใช้งานได้เหมือนบัตรทุกอย่าง แต่มีข้อจำกัดคือสอดบัตรเข้าไปในช่องเสียบบัตรของเครื่องเติมเงินไม่ได้ ดังนั้นที่ต้องมองหาคือเครื่องเติมเงินที่อ่านบัตรด้วยการวางบัตร เครื่องเหล่านี้ก็จะมีอยู่ทั่วไปตามสถานี

suica-apple-pay-3

วิธีใช้งานเครื่องนี้คือ ขั้นแรกคือขั้นตอนสำคัญที่สุด เอา iPhone วางไปในช่องสำหรับวาง Suica โดยจะต้องเอาหัวเสียบเข้าไป เพราะว่าชิพ Suica ของ iPhone จะอยู่ในส่วนหัว ดังนั้นไม่จำเป็นต้องวางทั้งเครื่องในช่อง ขอแค่หัวก็พอ

เมื่อวางเสร็จแล้ว เครื่องจะอ่านและพบบัตร Suica เลือกจำนวนเงิน ใส่เงินเข้าไปในเครื่อง รอระบบทำการเติมเงินสักพักไฟก็จะเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีม่วงก็เป็นอันเรียบร้อย หน้าจอจะแสดงว่าสามารถนำบัตรออกได้เลย เพียงเท่านี้ก็เติมเงิน Suica เสร็จแล้ว และ Suica ก็จะแจ้งเตือนว่าเติมเงินที่ไหน, จำนวนเงินเท่าไร และมียอดเงินในบัตรคงเหลือเท่าไร

suica-apple-pay-3

4. ดูกิจกรรมใช้บัตรย้อนหลัง

การดูกิจกรรมการใช้บัตร Suica ด้วย Apple Pay เพียงเข้าไปที่ Wallet ก็จะเห็นบัตร Suica กดเข้าไปก็จะแสดงรายการใช้จ่าย เช่น มีการเติมเงินที่ไหน ใช้จ่ายตอนไหน เดินทางจากที่ไหนไปที่ไหน เป็นต้น ซึ่ง Wallet จะแสดงรายการละเอียดมาก แม้จะมีการอ่านบัตรแต่ไม่ใช้อะไรก็มีบันทึกไว้ด้วย

suica-apple-pay-transactions

จุดที่ควรทราบคือ ถ้าตอนใช้ Suica ไม่ต่ออินเทอร์เน็ต ระบบจะบันทึกแค่ใช้ Suica ทำอะไร (เช่น อ่านค่าจากบัตร, เติมเงิน, เดินทาง, ใช้จ่าย) แต่ถ้าต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างใช้ Suica ทำรายการนั้น ๆ Wallet จะบันทึกด้วยว่า Suica ถูกใช้งานที่ไหน ถ้าเป็นการเดินทางก็จะบันทึกสถานีต้นทางและสถานีปลายทางด้วย

สรุป

Suica บน Apple Pay สะดวกมาก ตั้งแต่วิธีเพิ่มบัตร, การใช้งานบัตร, ดูย้อนหลัง และอื่น ๆ สิ่งเดียวที่จะไม่สะดวกเหมือนกับการใช้บัตรแข็งคือการเติมเงินที่หากเป็นนักท่องเที่ยวจะต้องเติมเงินด้วยการนำไปใส่ในเครื่องเติมเงินที่รองรับเท่านั้น ซึ่งคนที่อยู่ในญี่ปุ่นอาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากนักเนื่องจากเติมเงินบัตรผ่าน Apple Pay ได้อยู่แล้ว

หากใครมีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นในโซนของ JR East และอยากลองเล่น Suica บน Apple Pay ก็ตรงไปที่ตู้ แล้วกด​ Suica ออกมาลองได้เลย

เรียบเรียงโดย
ทีมงาน MacThai

The post รู้จักกับ Suica บน Apple Pay พร้อมวิธีเพิ่มบัตรและการใช้งาน อ่านไว้ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่น appeared first on Macthai.com.

ศึกษาตลาดโลจิสติก 2 แสนล้านบาทในไทย กับข่าวล่าสุดที่ Flash Express ร่วมทุน Nim Logistics

Brand Inside - 15 June 2019 - 11:05

ในปีนี้ภาพรวมตลาดขนส่งสินค้า และพัสดุในประเทศไทยน่าจะอยู่ที่ 2 แสนล้านบาท ที่มากขนาดนี้เพราะการเติบโตของ E-Commerce และนั่นอาจเป็นที่มาของการร่วมทุนระหว่างหน้าใหม่กับหน้าเก่าในตลาดมากขึ้น

Flash ExpressFlash Express ตลาดที่ขับเคลื่อนด้วย E-Commerce 3.2 ล้านล้านบาท

ก่อนหน้านี้โลจิสติก หรือบริการขนส่งสินค้า และพัสดุในประเทศไทยนั้นถูกขับเคลื่อนโดยธุรกิจค้าปลีก รวมถึงการนำเข้าส่งออกสินค้า แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริการโลจิสติกนั้นไม่ได้ถูกขับเคลื่อนแค่ 2 ธุรกิจข้างต้น แต่ยังรวมถึง E-Commerce หรือการค้าขายออนไลน์ที่ปัจจุบันมีเงินสะพัดถึง 3.2 ล้านล้านบาท

เมื่อเงินสะพัดสูงขนาดนี้ ก็ไม่แปลกที่บริการขนส่งสินค้า และพัสดุจะเติบโตตามไปด้วย เพราะเมื่อซื้อสินค้าออนไลน์ ก็ต้องมีการจัดส่งไปยังผู้รับ เช่น “ไปรษณีย์ไทย” ที่มีรายได้ปี 2560 ราว 28,000 ล้านบาท กับกำไรสุทธิ 4,200 ล้านบาท รวมถึง Kerry Logistic เองก็มีกำไรในปี 2561 เติบโตในประเทศไทยถึง 84%

Kerry Logisticsภาพจาก Kerry Logistics

แต่นั่นเป็นเพียงแค่สองรายใหญ่ในตลาด เพราะปัจจุบันก็มีบริการขนส่งสินค้า และพัสดุรายย่อยเกิดขึ้นมามากมายเพื่อรองรับการเติบโตของ E-Commerce ประกอบกับผู้เล่นดั้งเดิมในตลาดก็ต้องปรับตัวเองเพื่อรองรับการเติบโตนี้เช่นกัน ไม่อย่างนั้นก็จะไม่สามารถแข่งขันในตลาดนี้ได้

การแข่งขันที่ดุเดือด และการควบรวมกันอาจเป็นอีกคำตอบ

อย่างไรก็ตามด้วยการแข่งขันที่ดุเดือด โดยเฉพาะเรื่อง “ราคา” ทำให้ทุกฝ่ายต่างต้องแบกรับต้นทุนเยอะขึ้น ทั้งธุรกิจขนส่งสินค้า และพัสดุนั้นต้องในคน และยานพาหนะจำนวนมาก ก็ทำให้การเข้ามาในตลาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย อย่าง “คมสัน ลี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Flash Express ก็เคยบอกไว้ว่าไม่มีเงินถึง 5,000 ล้านบาทไม่ต้องเข้ามา

Flash Expressคมสัน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Flash Express

“เมื่อตลาดมันเติบโต ใครๆ ก็อยากเข้ามาชิงแชร์ แต่ด้วยธุรกิจบริการขนส่งสินค้า และพัสดุมันไม่เหมือนกับธุรกิจอื่น เพราะถ้าทำทั้งประเทศ และทำออกมาให้ดีจริงๆ ต้องมีเงินทุนกว่า 5,000 ล้านบาท ถ้าน้อยกว่านั้นทำอย่างไรก็แข่งขันไม่ได้ หรือกลายเป็นธุรกิจที่เติบโตลำบาก” คมสัน ลี กล่าว

ด้วยการแข่งขันที่มากขึ้นนี้ การตัดสินใจร่วมทุนกันก็อาจเป็นคำตอบ และนั่นคือที่มาของการร่วมทุนระหว่าง Flash Express กับ Nim Logistic (นิ่มซี่เส็ง โลจิสติกส์) หนึ่งในบริษัทขนส่งสินค้า และพัสดุเก่าแก่ของไทย ตั้งบริษัท Flash Logistic ผ่านความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของหน้าใหม่ รวมกับประสบการณ์ของหน้าเก่าเดินหน้าธุรกิจ

Nim Logisticศูนย์กระจายสินค้าของ Nim Logistic 200 ล้านบาท และอนาคตของบริการขนส่งสินค้า และพัสดุไทย

สำหรับตัวบริษัทใหม่นี้ ทั้งสองบริษัทได้ร่วมลงทุนกว่า 200 ล้านบาท ถือเป็นครั้งแรกๆ ที่บริษัทขนส่งสินค้า และพัสดุหน้าใหม่เดินหน้าธุรกิจร่วมกับผู้เล่นหน้าเก่าในตลาด ซึ่งในอนาคตก็อาจเห็นแบบนี้มากขึ้น เพราะอย่างในประเทศจีนมีบริษัทขนส่งสินค้า และพัสดุแค่หลักร้อยราย แต่ในไทยมีเป็นหมื่นรายทั้งๆ ที่พื้นที่ประเทศเล็กกว่าหลายเท่าตัว

“ในไทยมีบริษัทเล็กๆ ที่มีรถไม่กี่คันอยู่เยอะ ถ้าเรานำพวกเขามาอยู่ในแพลตฟอร์มกลางที่พร้อมกระจายงานขนส่งให้อย่างมีประสิทธิภาพ คล้าย Uber ที่จับความต้องการของผู้โดยสาร กับผู้ขับให้เจอกัน และจุดนั้นเองเราก็จะเติบโตไปด้วยกันกับพวกเขา ซึ่งคาดว่าจะผู้ประกอบการขนส่งมาอยู่กับเรา 4,000-5,000 รายในอีกไม่นาน” คมสัน เสริม

Flash ExpressFlash Express

เมื่อผู้ประกอบการรายย่อยเริ่มลดลงเพราะได้งานมากขึ้น คราวนี้ก็เหลือแค่ผู้ประกอบการรายใหญ่ ทั้งไปรษณีย์ไทย, Kerry Logistic, Flash Express และ DHL ที่ต้องขยายตัวเองให้มากกว่าแค่บริการขนส่งสินค้า และพัสดุ เพราะในโลกของ E-Commerce นั้นยังมีอะไรอีกมากที่พวกเขาสามารถตอบโจทย์ได้

สรุป

พอรายใหญ่ต้องเป็นมากกว่าธุรกิจขนส่งสินค้า และพัสดุ คราวนี้ก็ต้องจับตาธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับ E-Commerce ทั้งบริการชำระเงิน, บริการจัดการคลังสินค้า หรือบริการจัดเตรียมสินค้าที่อยู่ในระดับรายย่อยจะถูกรายใหญ่กลืนกินไปอีกหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ Flash Express น่าจะมีข่าวที่สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการแน่นอน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

MUJI เตรียมปรับลดราคาสินค้า 1,100 รายการ ในเดือนสิงหาคมนี้

Brand Inside - 14 June 2019 - 23:09

MUJI ในประเทศญี่ปุ่นเตรียมปรับลดราคาสินค้าถึง 1,100 รายการ หลังได้ปรับปรุงกระบวนการผลิตต่างๆ ส่งผลให้มีราคาถูกลง มีผล 30 สิงหาคม 2019

หน้าร้าน Muji

MUJI ร้านไลฟ์สไตล์สุดมินิมอลสัญชาติญี่ปุ่นได้ประกาศว่าจะทำการปรับราคาสินค้าลงอีกราวๆ 1,100 ชิ้น ประอบไปด้วยกลุ่มเสื้อผ้า ชุดชั้นใน เครื่องครัว ขนม และเฟอร์นิเจอร์

เหตุผลที่ทำให้ทาง MUJI ปรับลดราคาสินค้าลงนั้น ไม่ได้เกิดจากวิกฤติใดๆ แต่เป็นเพราะทางบริษัทได้ปรับปรุงกระบวนการผลิตใหม่ มีการเลือกพื้นที่ และวัสดุในการผลิตสินค้าใหม่ รวมไปถึงเรื่องของระบบการจัดจำหน่ายที่มีความคล่องตัวมากขึ้น มีผลทำให้ต้นทุนถูกลงนั่นเอง

สำหรับสินค้าที่มีการลดราคานั้น ยกตัวอย่างเช่น เซ็ตถุงเท้า Ashinari Chokkaku Kutsushita มีการปรับราคาลงจาก 890 เยน เป็น 790 เยน ส่วนขนม Pochigashi ลูกอม และคุ้กกี้ต่างๆ ที่มีราคา 100-120 เยน มีการปรับลดให้เหลือ 99 เยน

การปรับลดราคาในครั้งนี้จะมีผลในวันที่ 30 สิงหาคม 2019นี้

เรียกว่าเป็นเรื่องที่น่าประทับใจไม่น้อย แม้จะมีการปรับเรื่องกระบวนการผลิตที่ทำให้ต้นทุนถูกลง แต่ก็ยอมลดราคาสินค้า แทนที่จะขายราคาเท่าเดิมเพื่อให้ได้กำไรมากขึ้น

Source

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

Samsung ครอง “แบรนด์ที่ดีที่สุดในเอเชีย” 8 ปีซ้อน ตอกย้ำ No.1 ด้านนวัตกรรม

MXPhone - 14 June 2019 - 19:25

Samsung ครองตำแหน่ง “แบรนด์ที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชีย” (Asia’s Top1000 Brands) จากผลสำรวจประจำปีทางออนไลน์ของแคมเปญ Campaign Asia-Pacific ร่วมกับ Nielsen

The post Samsung ครอง “แบรนด์ที่ดีที่สุดในเอเชีย” 8 ปีซ้อน ตอกย้ำ No.1 ด้านนวัตกรรม appeared first on mxphone.

รู้จัก MySis เพื่อนให้คำปรึกษาด้านครอบครัวที่ไม่ได้มาเป็นคน แต่คือ Chatbot อัจฉริยะ

Brand Inside - 14 June 2019 - 17:43

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาความรุนแรงในครอบครัวยังเป็นอีกเรื่องที่แก้ไม่ได้ในประเทศไทย แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ ปัญหานี้อาจคลี่คลายลงได้บ้าง ดังนั้นลองมารู้จักกับ MySis หรือ Chatbot อัจฉริยะที่จะมาช่วยเหลือเรื่องนี้กัน

MySisMySis จากหนึ่งในโครงการของ dtac สู่บริการของทุกคน

จุดเริ่มต้นของ MySis นั้นมาจากโครงการโปลิศน้อย เพื่อนหุ่นยนต์เพื่อผู้หญิง 1 ใน 10 โครงการที่ได้รับการสนับสนุนเงินทุนภายใต้โครงการพลิกไทยของ dtac ในช่วงปี 2560-2561 ซึ่งหลังจากนั้น MySis ก็มีการพัฒนามาโดยตลอด และล่าสุดก็เปิดให้บุคคลทั่วไปได้ใช้งานแล้ว

พัชรากรณ์ ปันสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเพ่นดรีม จำกัด ผู้พัฒนา MySis เล่าให้ฟังว่า MySis คือ Chatbot ที่พร้อมเป็นผู้ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ผ่านการวางตัวเป็นพี่สาว และสามารถให้คำปรึกษาได้ตลอด 24 ชม.

mysisพัชรากรณ์ ปันสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเพ่นดรีม จำกัด

“โอเพ่นดรีมต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ในสังคม และเมื่อเราเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี การนำเรื่องนี้มาเป็นอาวุธในการพัฒนาอะไรสักอย่างเพื่อทำให้เรื่องนี้ดีขึ้นมันก็คงดีไม่น้อย และนั่นคือที่มาของ MySis ที่พร้อมช่วยแก้ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวทุกวันทุกเวลา”

จากระบุคำถาม สู่การวิเคราะห์สิ่งที่ผู้ถูกทำรายต้องการให้ช่วย

สำหรับ MySis นั้นปัจจุบันให้บริการบน Facebook Messenger โดยผู้สนใจใช้งานสามารถค้นหา “มายซิส My Sis Bot” ได้ทันที แต่ตัวการใช้งานนั้นผู้ใช้ต้องเลือกคำตอบที่ MySis กำหนด เพื่อ MySis จะได้แนะนำทางออกได้อย่างถูกต้อง แต่ในอนาคตผู้ใช้ MySis สามารถสอบถามด้วยการพิมพ์ข้อความต่างๆ ได้ทันที

ความรุนแรงในครอบครัวความรุนแรงในครอบครัว // ภาพ pixabay.com

อย่างไรก็ตามถึง MySis จะมีการกำหนดคำตอบที่ตอบได้ตายตัว แต่คำตอบเหล่านั้นก็มาจากการรวบรวมจากผู้เชี่ยวชาญว่าจะช่วยให้กำลังใจ และช่วยให้ผ่านพ้น 4 ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวไปได้ เช่นการถูกทำร้าย, การถูกล่วงละเมิดทางเพศ, การตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม และไม่ได้ตั้งใจ

พร้อมให้ความรู้ด้านกฎหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต

ขณะเดียวกัน MySis ยังให้ความรู้ด้านกฎหมายสอดแทรกไปกับคำแนะนำในการใช้ชีวิตด้วย เพราะนอกจากจะเป็นที่ปรึกษาการใช้ชีวิตแล้ว การให้ผู้ประสบปัญหาความรุนแรงในครอบครัวรู้จักข้อกฎหมายต่างๆ ก็น่าจะช่วยเหลือให้เหยื่อเข้าถึงกระบวนการทางยุติธรรมมากกว่าเดิมเช่นกัน

สรุป

MySis ถือเป็นการพัฒนา Chatbot ที่เราๆ เห็นในตลาดว่ามันมีประโยชน์ในโลก E-Commerce ได้มากกว่าที่มันเป็นอยู่ และเชื่อว่าเทคโนโลยีของ MySis จะถูกพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเพื่อนที่ปรึกษาที่ทุกคนไว้ใจได้เมื่อพบเจอกับปัญหาความรุนแรงในครอบครัวแน่นอน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

จีนเปิดกระดานซื้อขายหุ้นเทคโนโลยี เหมือนตลาดหุ้น NASDAQ พร้อมซื้อขาย 2 เดือนข้างหน้า

Brand Inside - 14 June 2019 - 16:53

จีนเปิดกระดานซื้อขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีแล้วในชื่อ SSE STAR Market ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ โดยล่าสุดได้อนุมัติไฟลิ่งไปแล้ว 6 บริษัท

ภาพจาก Shutterstock

หน่วยงานกำกับดูแลทางด้านหลักทรัพย์ หรือ CSRC ของจีน ได้ประกาศเปิดตัวกระดานซื้อขายหลักทรัพย์กลุ่มเทคโนโลยีอย่างเป็นทางการ มีชื่อว่า SSE STAR Market ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ โดยลักษณะของกระดานซื้อขายจะเหมือนกับตลาดหุ้น NASDAQ ของสหรัฐอเมริกา

จุดประสงค์ของการก่อตั้งกระดานซื้อขายหุ้นนั้นเริ่มต้นมาจากแนวความคิดของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในเดือนพฤษจิกายนปีที่ผ่านมาว่าจีนควรจะมีกระดานซื้อขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโดยเฉพาะ เพื่อที่บริษัทเทคโนโลยีในประเทศจีนจะได้ไม่ต้องออกไประดมทุนที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดหุ้นของสหรัฐอเมริกาที่มีบริษัทจีนมักจะออกไประดมทุนมากที่สุด

Yi Huiman ประธานของ CSRC ยังพร้อมยอมรับว่ากระดานซื้อขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนั้นจะแก้ปัญหาของตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ที่ไม่เหมาะกับหุ้นของบริษัทเทคโนโลยี เช่น เรื่องของไฟลิ่ง รายได้ของบริษัท ฯลฯ เขาเองยังยอมรับว่าอาจพบปัญหาเรื่องกฎเกณฑ์บางอย่างที่ยังไม่เข้าที่เข้าทาง แต่ก็พร้อมที่จะแก้ปัญหาทันที นอกจากนี้เขายังได้เตือนว่าราคาหุ้นที่ซื้อขายในกระดานซื้อขายใหม่นี้อาจมีราคาที่ผันผวนสูงมาก และแนะนำให้นักลงทุนอ่านประกาศของบริษัทที่ออกมาด้วย

ปัจจุบันมีบริษัทที่สนใจจะเข้า IPO ในกระดานซื้อขายหุ้นเทคโนโลยีนี้ถึง 123 บริษัท 6 บริษัทได้อนุมัติไฟลิ่งเรียบร้อยแล้ว อีก 12 บริษัทนั้นรอทาง CSRC อนุมัติไฟลิ่งอยู่ โดยถ้าหากมีบริษัทครบถึง 30 บริษัท กระดานซื้อขายนี้ก็พร้อมเปิดให้นักลงทุนเข้ามาซื้อขายหุ้นได้ทันที คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 เดือน

การเปิดกระดานซื้อขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนี้มาพร้อมกับข่าวของ Alibaba ที่เตรียมนำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เรื่องดังกล่าวมาพร้อมกับแรงปะทุของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนที่เพิ่มขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงเดือนที่ผ่านมา

ที่มาChina.org.cn, Caixin Global, Reuters

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

เซ่นข่าวฉาว! Yang Hyun Suk ลาออกจาก Head Producer และตำแหน่งอื่นๆ ใน YG Entertainment

Brand Inside - 14 June 2019 - 16:45

หลัง YG Entertainment เจอกับข่าวฉาวมากมาย ทั้งการค้าประเวณี และเสพยาเสพติดของศิลปินในค่าย รวมถึงการเลี่ยงภาษีของตัวบริษัท ในที่สุด Yang Hyun Suk ผู้ก่อตั้ง YG Entertainment ก็ประกาศลาออกแล้ว

Yang Hyun SukYang Hyun Suk ผู้ก่อตั้ง YG Entertainment สิ่งที่สร้างมากับมือต้องพังทลาย

Yang Hyun Suk คือผู้ก่อตั้ง YG Entertainment ค่ายเพลง K-Pop อันดับ 3 ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และถึงปัจจุบันจะมีศิลปินหน้าใหม่เข้ามาช่วยสร้างความโด่งดังกับค่าย ไม่ว่าจะเป็น BLACKPINK หรือ Winner แต่สุดท้ายแล้วด้วยข่าวฉาวต่างๆ ตั้งแต่ต้นปีก็ทำให้ YG Entertainment เสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก

ทั้งการถูกเปิดเผยว่า Seungri หนึ่งในสมาชิกของวง Big Bang มีส่วนร่วมในการค้าประเวณี, การถูกตรวจสอบว่า Yang Hyun Suk นั้นหลบเลี่ยงการจ่ายภาษี และล่าสุดคือการพบว่า B.I. อดีตสมาชิกของวง iKON มีส่วนยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

YG Entertainmentรายชื่อศิลปินในสังกัดของ YG Entertainment

จากเหตุการณ์เหล่านี้ทำให้ Yang Hyun Suk ถูกกดดันจากสาธารณะให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกมาอย่างต่อเนื่อง และที่สุดแล้ววันนั้นก็มาถึง เพราะล่าสุด Yang Hyun Suk ได้แจ้งในวันนี้ (14 มิ.ย. 2562) บนหน้าเว็บไซต์ของ YG Entertainment ว่า ได้ลาออกจากทุกตำแหน่งใน YG Entertainment แล้ว

“ผมก่อตั้ง YG Entertainment มา 23 ปี หรือเรียกว่าใช้ชีวิตครึ่งหนึ่งไปกับมัน ซึ่งผมมีความสุขมากกับการช่วยพัฒนาผลงานเพลง และตัวศิลปิน แต่สุดท้ายแล้วผมก็ตัดสินใจลาออกจาก YG Entertainment และหวังว่าการโจมตีไปยังตัวค่ายเพลง, ศิลปิน และแฟนๆ จากข่าวเหล่านี้จะหายไป” Yang Hyun Suk แจ้งไว้ในคำแถลงการณ์

YG Entertainmentราคาหุ้นของ YG Entertainment ในวันที่ 14 มิ.ย. 2562

สำหรับราคาหุ้นของ YG Entertainment นั้นปิดตลาดในวันที่ 14 มิ.ย. 2562 ที่ 29,200 วอน (ราว 770 บาท) ลดลง 5.6% โดยตัวหุ้นของ YG Entertainment นั้นปรับตัวลดลงมาตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย. 2562 ส่วนมูลค่ากิจการอยู่ที่ 5.36 แสนล้านวอน (ราว 14,000 ล้านบาท)

สรุป

ที่สุดแล้ว Yang Hyun Suk ก็ต้องประกาศลาออกจาก YG Entertainment เพราะด้วยข่าวฉาวมากมายที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ทำให้เขาต้องแสดงความรับผิดชอบ ดังนั้นคงต้องติดตามกันต่อไปว่า YG Entertainment ที่ไม่มี Yang Hyun Suk จะมีหน้าตาออกมาเป็นอย่างไร

อ้างอิง // All K Pop, ภาพจาก YG Entertainment

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

กระทิงแดงรุกหนักอาเซียน นำร่องเปิด “เรดบลู พลัส” สูตรไร้น้ำตาลในสิงคโปร์

Brand Inside - 14 June 2019 - 16:29

กระทิงแดงโดยกลุ่มธุรกิจ TCP เดินหน้าบุกตลาดอาเซียน ทุ่มงบ 3,000 ล้านบาท เจาะตลาดสิงคโปร์ด้วยเรดบลู พลัสสูตรไร้น้ำตาล ปั้นรายได้แตะ 60,000 ล้านภายใน 3 ปี

ทุ่ม 3,000 ล้าน ลงทุนในอาเซียน

ลุยหนักในการสร้างแบรนด์จนแข็งแกร่งในโซนยุโรปแล้ว ถึงเวลาที่กระทิงแดงจะกลับมารุกหนักในการทำตลาดที่บ้านเกิดแถบอาเซียน หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปีนี้ได้ใช้งบลงทุน 3,000 ล้านบาท ในการลงทุนครั้งใหญ่ในหลายประเทศ

โดยที่มีการลงทุนทั้งเรื่องสินค้า การตลาด และทีมงาน มีการฟอร์มทีมงาน Global Marketing และทีมการตลาดประจำประเทศต่างๆ รวมกว่า 100 คนเพื่อดูแลการตลาดของกระทิงแดงทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งทีมงานในแต่ละประเทศต้องปรับเปลี่ยนทิศทางการทำงานให้เข้ากับพฤติกรรมการบริโภควัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์ความเป็นอยู่ของผู้บริโภคและบริบทในประเทศนั้นๆ

กระทิงแดงใช้จุดแข็งด้วยการเป็นแบรนด์ที่มีสินค้าในพอร์ทโฟลิโอหลากหลายมากที่สุดถึง 10 ผลิตภัณฑ์ โดยทุกผลิตภัณฑ์ถูกพัฒนามาจากการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทุกเซ็กเม้นท์

มีเป้าหมายในการก้าวขึ้นเป็น Top 2 ของผู้นำตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานทุกประเทศทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งเป้ามีรายได้ 60,000 ล้านบาทภายใน 3 ปี หรือมีการเติบโต 2 เท่า

ศุภชัย จุนเกียรติ ผู้อำนวยการสายงานการตลาดโกลเบิล กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า

“กระทิงแดง มีส่วนแบ่งการตลาด 40% ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  และติดอันดับ 1 ใน 3 ในตลาดเครื่องดื่มให้พลังงานของทุกประเทศที่ได้เข้าไปบุกตลาด สำหรับกลุ่มธุรกิจ TCP จะบุกตลาดและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระทิงแดงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในปี 2562 คาดว่าจะมียอดขายโดยรวมสูงขึ้นจากปี 2561 ถึง 15%”

ลุยตลาดสิงคโปร์ด้วยสูตรพรีเมี่ยม

ศุภชัย เสริมว่า กระทิงแดงได้เห็นถึงศักยภาพของตลาดกลุ่มอาเซียนที่มีการเติบโตสูง โดยเฉพาะประเทศสิงคโปร์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจในระดับนานาชาติ ประกอบกับผู้บริโภคเริ่มหันมาใส่ใจเรื่องการควบคุมการบริโภคน้ำตาล               

กระทิงแดงจึงนำร่องเปิดตัวเครื่องดื่มให้พลังงาน “เรดบูล พลัส” ในสิงคโปร์เป็นประเทศแรกเป็นเครื่องดื่มให้พลังงานสูตรพรีเมี่ยมปราศจากน้ำตาลมาพร้อมกับแพ็คเกจจิ้งในรูปแบบสลิมแคน

เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ และภาพลักษณ์ โดยจะเริ่มจำหน่ายในปลายเดือนมิถุนายนที่ประเทศสิงคโปร์ และตั้งเป้าจะขยายสู่ตลาดในประเทศอื่นๆ ต่อไป

เปิดกระทิงแดง เอ็กซ์ตร้าแพ็คเกจจิ้งใหม่ในไทย

สำหรับตลาดในประเทศไทยปี 2562 นี้ ได้เปิดตัว “กระทิงแดง เอ็กซ์ตร้า” สูตรใหม่ พร้อมแพ็คเกจจิ้งรูปแบบใหม่ ถือเป็นการพลิกโฉมแบรนด์ใหม่ เน้นจับกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่นักศึกษา จนถึงคนทำงานทั่วไป อายุระหว่าง 18 – 35 ปี

โดยการพลิกโฉมครั้งนี้มาจากการศึกษาพฤติกรรม และความต้องการของผู้บริโภคในตลาดที่ให้ความสำคัญในเรื่องรสชาติ และบรรจุภัณฑ์ส่งผลให้แบรนด์กระทิงแดงดูทันสมัยมากขึ้นเหมาะกับคนรุ่นใหม่

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

ถูกทำร้าย ไม่รู้จะปรึกษาใคร! ลองคุยกับ My Sis แชทบอทเพื่อนผู้ประสบปัญหาความรุนแรงในครอบครัว

MXPhone - 14 June 2019 - 15:31

โอเพ่นดรีม เปิดตัว My Sis บริการแชทบอทให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับผู้ประสบปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ชูจุดเด่น ใช้ง่าย เข้าใจง่าย เห็นทางออก

The post ถูกทำร้าย ไม่รู้จะปรึกษาใคร! ลองคุยกับ My Sis แชทบอทเพื่อนผู้ประสบปัญหาความรุนแรงในครอบครัว appeared first on mxphone.

ศัตรูของศัตรูคือมิตร! สี จิ้นผิงประกาศสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับอิหร่าน

Brand Inside - 14 June 2019 - 14:54

จีนประกาศสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับอิหร่าน หลังเหตุการณ์โจมตีเรือบรรทุกน้ำมันบนอ่าวโอมาน ซึ่งสหรัฐอเมริกากล่าวหาว่าอิหร่านเป็นผู้กระทำ

Presidnet Xi Jinping Meets Visiting Armenian President Serzh SargsyanChinese President Xi Jinping (L) meets Armenian President Serzh Sargsyan (R) at the Great Hall of the People on March 25, 2015 in Beijing, China. (Photo by Feng Li – Pool/Getty Images) จีน x อิหร่าน

สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนกล่าวกับ ฮัสซัน โรฮานี ประธานาธิบดีของอิหร่านในระหว่างการประชุมองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ในบิชเคก ประเทศคีร์กีซสถาน โดยระบุว่า “จีนจะประกาศการพัฒนาความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับอิหร่าน โดยไม่ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตาม”

ความน่าสนใจของเรื่องนี้คือ จีนประกาศสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับอิหร่าน ให้หลังเพียง 1 วันเท่านั้นหลังเหตุการณ์โจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำบนอ่าวโอมาน ซึ่งสหรัฐอเมริกากล่าวหาว่าอิหร่านเป็นผู้กระทำ แต่รัฐบาลอิหร่านได้ปฏิเสธถึงกรณีดังกล่าวแล้ว

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ความเคลื่อนไหวของสี จิ้นผิง คือการประกาศสร้างความสัมพันธ์จีน-รัสเซียเพื่อเข้าสู่ยุคใหม่ โดยผู้นำจีนบอกว่า “ทั้ง 2 ประเทศกำลังสานสัมพันธ์ขั้นสูงสุด”

ที่มา – Reuters

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

เผย Galaxy Note10 เปิดตัวช่วงปลาย ส.ค. ส่วน iPhone 11 มาปลาย ก.ย.

MXPhone - 14 June 2019 - 14:46

เผยปฏิทินแผนการตลาดของ Verizon ผู้ให้บริการด้านเครือข่ายของสหรัฐฯ ซึ่งระบุว่า Samsung Galaxy Note10 จะมาในเดือนสิงหาคมนี้

The post เผย Galaxy Note10 เปิดตัวช่วงปลาย ส.ค. ส่วน iPhone 11 มาปลาย ก.ย. appeared first on mxphone.

ตัวแทนจำหน่าย HUAWEI การันตี! ใช้แอปยอดนิยมไม่ได้ ยินดีคืนเงินเต็มจำนวน

MXPhone - 14 June 2019 - 14:45

ตัวแทนจำหน่าย HUAWEI ประกาศคืนเงินเต็มจำนวนหากพบปัญหาการใช้งานแอปยอดนิยม โดยรับประกันผู้ที่ซื้อระหว่างวันที่ 12 มิ.ย. – 1 ก.ย. 62 เป็นระยะเวลา 2 ปี

The post ตัวแทนจำหน่าย HUAWEI การันตี! ใช้แอปยอดนิยมไม่ได้ ยินดีคืนเงินเต็มจำนวน appeared first on mxphone.

ลือหนัก!! Huawei เตรียมเปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่ ต.ค.นี้ แต่ไม่ใช้ใน Mate 30

MXPhone - 14 June 2019 - 14:27

แหล่งข่าวในจีนเผย Huawei พร้อมที่จะเปิดตัวโปรดักซ์ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการใหม่ HongMeng OS (คาดว่าจะใช้ชื่อว่า Ark OS สำหรับเจาะตลาดโลก) ในเดือนตุลาคมนี้

The post ลือหนัก!! Huawei เตรียมเปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่ ต.ค.นี้ แต่ไม่ใช้ใน Mate 30 appeared first on mxphone.

? ญี่ปุ่นใช้รถไฟความเร็วสูงขนส่ง “อาหารทะเล” จากท่าเรือไปโตเกียวเพียง 8 ชั่วโมง เดิม 2 วัน

Brand Inside - 14 June 2019 - 14:10
  • ใครจะนึกว่า อาหารทะเลที่ชาวประมงญี่ปุ่นจับได้ตอนเช้า จะส่งถึงมือผู้บริโภคภายในวันเดียว
  • เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงแล้วในญี่ปุ่น และต้องขอบคุณรถไฟความเร็วสูง Shinkansen ?
  • ที่สำคัญ อาหารทะเลที่ส่งภายในวันเดียว ยังคงความ “Super Fresh” ของสินค้า ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าที่ยอดเยี่ยม ? ??
TOKYO, JAPAN – MAY 02: Shinkansen bullet trains are stopped at Tokyo Train Station on May 02, 2016 in Tokyo, Japan.  (Photo by Carl Court/Getty Images) ขนส่งอาหารทะเลแบบ “Super Express Fresh” เกิดขึ้นจริง เพราะรถไฟความเร็วสูง

รถไฟชินคันเซ็น (Shinkansen) ในญี่ปุ่นซึ่งบริหารงานโดย JR East ในปัจจุบัน ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการขนส่งอาหารทะเล โดยขนส่งจากท่าเรือนีงาตะ (Niigata) ไปยังโตเกียวภายใน 8 ชั่วโมง จากแต่เดิมที่ต้องใช้เวลาถึง 2 วันในการขนส่ง

Tohru Yamamoto ซีอีโอของ Foodison ผู้ค้าส่งอาหารทะเลรายใหญ่ในญี่ปุ่น บอกว่า “ผมต้องการให้ผู้บริโภครู้สึกตื่นตาตื่นใจ เมื่อได้รู้ว่าอาหารทะเลที่วางอยู่ตรงหน้าในร้าน คืออาหารทะเลที่จับมาเมื่อเช้าของวันนั้น”

สิ่งที่น่าสนใจของเรื่องนี้นอกจากการขนส่งอาหารทะเลด้วยเวลาอันรวดเร็วแล้ว คือ ” มูลค่า” ของสินค้า เพราะการขนส่งด้วยระยะเวลาอันรวดเร็วทำให้สินค้ายังสดใหม่มากๆ ศัพท์ในวงการคือ “Super Express Fresh”

ถ้าไปดูอาหารทะเลที่ขายในซุปเปอร์มาร์เก็ต ยกตัวอย่างเช่น กุ้งที่ขนส่งแบบเดิม (เทียบเท่าเรือ ขนส่งมาตลาดโดยใช้รถบรรทุก) ราคากุ้งสดจะอยู่ที่ 600 เยน (ประมาณ 170 บาท) ในขณะที่กุ้งสดที่ขนส่งโดยรถไฟความเร็วสูงขายในราคา 1,600 เยน (ประมาณ 460 บาท) หรือคิดง่ายๆ มูลค่าสินค้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า

ถึงที่สุดแล้ว การขนส่งสินค้าเกษตรด้วยรถไฟความเร็วสูงยังมีประโยชน์มากกว่านั้น เพราะในระยะยาวจะช่วยลดการใช้แรงงานในภาคการขนส่ง และยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (carbon footprint) ในระหว่างการขนส่งได้มากกว่าการขนส่งรูปแบบเก่าอีกด้วย

ที่มา – Nikkei Asian Review

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

Toyota เตรียมติดตั้งระบบดับเครื่อง และใส่เกียร์ P อัตโนมัติเมื่อรถยนต์หยุดนิ่งเป็นเวลานาน

Brand Inside - 14 June 2019 - 13:59

ถึงจะเดินหน้ารถยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับเต็มที่ แต่ Toyota ก็ยังไม่ลืมพัฒนาระบบความปลอดภัยของการใช้งานรถยนต์ และนั่นคือที่มาของระบบดับเครื่อง กับใส่เกียร์ P อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่งเป็นเวลานาน

ToyotaToyota ความปลอดภัยคือเรื่องสำคัญของการใช้รถ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีความปลอดภัยคืออีกปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์ เพราะอุบัติเหตุจากการขับขี่นั้นอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ และเพื่อป้องกันเรื่องนี้ Toyota ก็เร่งพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อมาป้องกันไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้น หรือลดอัตราเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด

และล่าสุด Toyota ก็ออกมายืนยัน 2 เทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่ที่ประกอบด้วย การดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถยนต์ไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันการลืมดับเครื่องยนต์ โดยเฉพาะในรถยนต์ Hybrid ที่ใช้ปุ่มในการสตาร์ท เพราะความเงียบของเครื่องยนต์ Hybrid ทำให้ผู้ขับบางคนคิดว่าดับเครื่องแล้ว และเดินออกจากรถไป

ส่วนอีกเทคโนโลยีคือ ระบบเข้าเกียร์ P หรือเปิดใช้งานเบรกมืออัตโนมัติเมื่อรถยนต์หยุดนิ่งเป็นเวลานานเช่นกัน เพราะด้วยเหตุผลที่เครื่องยนต์ Hybrid นั้นค่อนข้างเงียบ ทำให้อาจเกิดโอกาสลืมใส่เกียร์ P แล้วรถไหลโดยไม่ได้ตั้งใจจนอาจเกิดอุบัติเหตุกับผู้ขับขี่ หรือคนอื่นๆ ได้ง่าย

ทั้งนี้เทคโนโลยีดับเครื่องอัตโนมัตินั้นจะติดตั้งในรถยนต์โมเดล 2020 เกือบทั้งหมด ส่วนระบบเข้าเกียร์ P และดีงเบรกมืออัตโนมัตินั้นยังไม่ได้กำหนดไว้ชัดเจน เพราะตัวเทคโนโลยีนี้ต้องอาศัยระบบเกียร์ และเบรกมือไฟฟ้าเพื่อสั่งการรถยนต์ให้ทำตามที่ Toyota ต้องการได้

สรุป

ต้องจับตาดูว่ารถยนต์รุ่นใดบ้างจะได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีนี้ แต่หากมองกลับมาที่ประเทศไทยแล้ว การบังคับใส่เกียร์ P เวลาจอดอาจไม่ใช่เรื่องที่ทำได้เต็มรูปแบบ เพราะด้วยการจอดซ้อนคัน หรือข้างทางที่ถนนแคบๆ แล้วล่ะก็ การใส่เกียร์ P อาจไม่ตอบโจทย์นัก

อ้างอิง // CNET

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

Huawei หยอดทีเซอร์ใหม่ nova 5 ก่อนเปิดตัว 21 มิ.ย.นี้

MXPhone - 14 June 2019 - 12:54

Huawei กำลังจะมีงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับกลางตัวใหม่ nova 5 series ในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ และล่าสุดก็ได้มีการปล่อยคลิปทีเซอร์ใหม่ออกมา

The post Huawei หยอดทีเซอร์ใหม่ nova 5 ก่อนเปิดตัว 21 มิ.ย.นี้ appeared first on mxphone.

KaiOS เพิ่มฟีเจอร์ใหม่จากโรงงาน พร้อมขยายตลาดเพิ่มในปีนี้

MXPhone - 14 June 2019 - 12:22

KaiOS เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่จากโรงงาน พร้อมเป้าหมายที่จะเข้าถึงผู้ใช้หลายพันล้านคนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ด้วยการขยายตลาดประเทศในแถบแอฟริกา ตะวันออกกลาง

The post KaiOS เพิ่มฟีเจอร์ใหม่จากโรงงาน พร้อมขยายตลาดเพิ่มในปีนี้ appeared first on mxphone.

HUAWEI Y5 2019 วางจำหน่ายแล้วอย่างเป็นทางการ เพียง 3,799 บาทเท่านั้น!

MXPhone - 14 June 2019 - 11:46

HUAWEI Y5 2019 สมาร์ทโฟนน้องเล็ก สเปคสุดคุ้ม จัดหนักจัดเต็มทั้งจอ กล้อง รวมถึงฟังก์ชั่นต่าง ๆ เพียบ ในราคาเพียง 3,799 บาท พร้อมวางจำหน่าย 14 มิ.ย. เป็นต้นไป

The post HUAWEI Y5 2019 วางจำหน่ายแล้วอย่างเป็นทางการ เพียง 3,799 บาทเท่านั้น! appeared first on mxphone.

Xiaomi Mi 9T เตรียมลุยตลาดเอเชียในวันที่ 20 มิถุนายนนี้ เริ่มที่ มาเลเซีย

MXPhone - 14 June 2019 - 11:32

Xiaomi Mi 9T เวอร์ชั่นรีแบรนด์ของ Redmi K20 ล็อคคิวพร้อมลุยตลาดเอเชียในสัปดาห์หน้า โดยจะมีงานเปิดตัวที่มาเลเซีย ในวันที่ 20 มิถุนายนนี้

The post Xiaomi Mi 9T เตรียมลุยตลาดเอเชียในวันที่ 20 มิถุนายนนี้ เริ่มที่ มาเลเซีย appeared first on mxphone.

vivo คอนเฟิร์ม Z1 Pro มีกล้องหลังสามตัวและจอเจาะรู พร้อมขายในอินเดีย

MXPhone - 14 June 2019 - 11:10

vivo ยืนยัน Z1 Pro จะมีการเปิดตัวที่ประเทศอินเดียในเร็วๆนี้ พร้อมคอนเฟิร์มว่ารุ่นนี้หน้าจอเจาะรู (Punch hole) ติดตั้งกล้องหลังสามตัว และสแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง

The post vivo คอนเฟิร์ม Z1 Pro มีกล้องหลังสามตัวและจอเจาะรู พร้อมขายในอินเดีย appeared first on mxphone.

Pages