Samsung China เตรียมเปิดตัวเรือธง Galaxy S10 และ Galaxy S10+ สีใหม่สีน้ำเงิน (Smoke Wave Blue) ในประเทศจีน ซึ่งจะมาวางขายร่วมกันกับสีเดิมที่ออกมาก่อนหน้านี้
The post Samsung เตรียมขาย Galaxy S10 / S10+ สีน้ำเงิน (Smoke Wave Blue) ในจีน appeared first on mxphone.
บอร์ดบริหารสายการบินนกแอร์ประกาศแต่งตั้ง “วุฒิภูมิ จุฬางกูร” นั่งเก้าอี้ CEO คนใหม่ มีผลวันที่ 14 มิถุนายน 2562 เป็นต้นไป
ประเวช องอาจสิทธิกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK เปิดเผยว่า
“ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 6/2562 วันที่13 มิถุนายน 2562 มีมติแต่งตั้งนายวุฒิภูมิ จุฬางกูร กรรมการบริษัทฯ เข้าดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริหาร พร้อมแต่งตั้งตนซึ่งเดิมดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทฯ และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เข้าดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหาร มีผลตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2562 เป็นต้นไป
การมีตัวแทนจากผู้ถือหุ้นใหญ่คือ คุณวุฒิภูมิ จุฬางกูร มานั่งเป็นซีอีโอ นับเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับนกแอร์ ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการมากขึ้น และการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นการจัดทัพผู้บริหารที่สะท้อนให้ถึงความพร้อมและความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เป็นไปตามแผนฟื้นกิจการโดยเร็ว เชื่อว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งนักลงทุนและผู้โดยสารไว้วางใจในการใช้บริการของสายการบินนกแอร์”
วุฒิภูมิ จุฬางกูร ผ่านการอบรมบทบาทหน้าที่กรรมการจากสมาคมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) หลักสูตร Director Certification Program (DCP) รุ่น 148/2554 และหลักสูตร Finance for Director (FFD) รุ่นที่ 12/2554
อีกทั้งมีประสบการณ์ด้านการทำงานที่หลากหลายโดยนั่งเป็นกรรมการและผู้บริหาร ทั้งในบริษัทจดทะเบียน และบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หลายแห่งด้วยกัน อาทิ เป็นกรรมการ, กรรมการสรรหาและพิจารณาผลตอบแทน บมจ.ซีเอ็ดยูเคชั่น, กรรมการและกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม บมจ.ไอร่า แคปปิตอล เป็นต้น
ด้านประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นกแอร์ยังคงมุ่งมั่นในการประกอบกิจการ เพื่อเป็นสายการบินของคนไทยที่ตอบรับทุกสไตล์ของการเดินทาง ล่าสุดได้รับมอบใบต่ออายุใบอนุญาตให้ประกอบกิจการการค้าขายในการเดินอากาศแบบประจำ มีกำหนดภายในประเทศและระหว่างประเทศ และแบบไม่ประจำ จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย
“สายการบินนกแอร์ได้รับการต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยเป็นเวลา 10 ปี เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา และวันนี้นกแอร์ได้แต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพื่อสร้างความมั่นคงในการประกอบธุรกิจอย่างยั่งยืน อีกทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้โดยสารและพนักงานนกแอร์ทุกคน” นายประเสริฐกล่าว
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
ล่าสุด MacRumors ได้ไปค้นพบข้อมูลจากฐานข้อมูลของ the Eurasian Economic Commission เผยแอปเปิลได้จดทะเบียนคอมพิวเตอร์พกพารุ่นใหม่ที่ยังไม่เคยจดที่ไหนมาก่อน มาถึง 7 รุ่น ซึ่งได้แก่ A2141, A2147, A2158, A2159, A2179, A2182 และ A2251
ซึ่งคอมพิวเตอร์พกพาที่ระบุในฐานข้อมูลนั้น อาจจะเป็น MacBook หรือ MacBook Air รุ่นใหม่ หรือว่าจะเป็น MacBook Pro รุ่นใหม่ที่มีหน้าจอ 16 นิ้ว ตามข่าวลือก่อนหน้านี้ก็เป็นได้ เพราะเนื่องจากเมื่อเดือนที่ผ่านมาแอปเปิลได้อัปเกรด MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว และ 15 นิ้ว พร้อมกับ iMac รุ่นปี 2019 ไปแบบเงียบ ๆ แล้ว
ถ้าแอปเปิลจะเปิดตัวสินค้าใหม่ แอปเปิลน่าจะเปิดตัวในช่วงเดือนกันยายนที่จะถึงนี้พร้อมกับ iPhone, iPad Pro และ Apple Watch รุ่นใหม่ด้วยเช่นกัน
ที่มา – MacRumors
The post Apple จดทะเบียน MacBook รุ่นใหม่ถึง 7 รุ่นในทวีปยุโรปและเอเชีย appeared first on Macthai.com.
ช่วงกลางปีนี้ตลาดหุ้นไทยมีเงินต่างชาติไหลเข้าอย่างต่อเนื่องจากดัชนีหุ้น MSCI เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย รวมถึงไทย
แต่ทำไมปีนี้หลายค่ายนักวิเคราะห์มองว่าดัชนีหุ้นไทยจะไปไม่ถึง 1,700 จุด
ฝ่ายวิจัย บล.เอเชียพลัส (ASP) บอกว่า ทางบริษัทฯ ปรับคาดการณ์ดัชนีหุ้นไทยปี 2019 ลดลงมาอยู่ที่ 1,699 จุด จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 1,705 จุด จากสมมุติฐาน Market Earning Yield Gap อยู่ที่ 4.28%
ขณะเดียวกันคาดการณ์ว่ากำไรตลาดปี 2019 ปรับลดเหลือ 1.03 ล้านล้านบาท ลดลง 2.25% จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ที่ 1.06 ล้านล้านบาท สาเหตุที่กำไรจะลดลงมาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับลง โดยกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 103.32 บาทต่อหุ้น เติบโต 5.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (ปรับลดลงจากก่อนหน้าที่ระดับ 106.58 บาท)
ปัจจุบันเมื่อเทียบ Valuation ของหุ้นไทยกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย พบว่า ความน่าสนใจในหุ้นไทยลดลงเพราะ Expected PE (ราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ) หุ้นไทยอยู่ที่ 16.2 เท่า ถือว่าแพงกว่าตลาดหุ้นจีน PE อยู่ที่ 11.2 เท่า, อินโดนีเซีย 15.5 เท่า
ในขณะเดียวกันแนวโน้มการเติบโตตลาดหุ้นไทย (EPS Growth) อยู่ที่ 5.6% ซึ่งเติบโตน้อยกว่าหลายประเทศในเอเชีย เช่น อินเดียโต 17.3%, ฟิลิปปินส์ โต 9.3%, อินโดนีเซีย โต 8.3%, และจีน โต 6.9%
ดังนั้นเมื่อหุ้นไทยน่าสนใจน้อยกว่าประเทศอื่นๆ อาจทำให้เงินทุนต่างชาติ (Fund Flow) ที่เคยเข้ามาซื้อในตลาดหุ้นไทยชะลอลง ทำให้โอกาส Upside ของตลาดหุ้นไทยจำกัดไปด้วย
สำหรับนักลงทุนต้องใช้กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” คือเลือกหุ้นรายตัว โดยเฉพาะหุ้นที่มี Valuation โดดเด่นกว่าตลาดฯ
ASP แนะนำหุ้น RS-SCC รับผลดีครึ่งปีหลังปีนี้ตลาดหุ้นยังมีความเสี่ยงและความผันผวนอีกมาก ทั้งปัจจัยต่างประเทศอย่าง Trade war รวมถึงความไม่แน่นอนการเมืองไทย ดังนั้นถ้าอยากลงทุนให้ชนะตลาด อาจต้องใช้เวลาและลงทุนระยะยาว
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
Alibaba ได้ยื่นเอกสารแบบลับให้กับตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะซื้อขายหุ้นได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้
สำนักข่าวต่างประเทศทั้ง Bloomberg และ Reuters ได้รายงานว่า Alibaba ยักษ์ใหญ่ E-commerce ในประเทศจีน ได้ยื่นไฟลิ่งแบบลับเพื่อขอเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่อกงแล้ว โดยแหล่งข่าวของ 2 สื่อใหญ่ ได้คาดว่าจะซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงได้ในช่วงไตรมาส 3
คาดว่า Alibaba จะระดมทุนเพิ่มจากตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงสูงสุดอีกประมาณ 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 623,600 ล้านบาท โดยเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใช้สู้ศึก Delivery ระหว่าง Ele.me ซึ่ง Alibaba เป็นผู้ถือหุ้น กับ Meituan Dianping ซึ่งมี Tencent เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ถ้าหากมูลค่าการระดมทุนของ Alibaba ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเป็นไปตามมูลค่าที่ได้กล่าวมา จะกลายเป็นการระดมทุนใหญ่ที่สุดอันดับที่ 2 ของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง รองจากเมื่อ AIA เคย IPO ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อปี 2010 ซึ่งสามารถระดมทุนไปได้ 20,400 ล้านเหรียญสหรัฐ
ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงได้ร่างกฎเกณฑ์ใหม่เรื่องของการสามารถมีหุ้นได้หลายคลาส เช่น คลาส A สามารถมีสิทธิ์โหวต 1 เสียง และ คลาส B สามารถมีสิทธิ์โหวต 10 เสียง ทำให้ผู้ก่อตั้งสามารถมีสิทธิ์ในการควบคุมทิศทางบริษัทมากขึ้น โดยมีหุ้นที่ใช้กฎนี้ในการ IPO ไปแล้วเช่น Xiaomi ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ รวมไปถึง Meituan Dianping บริการส่งอาหารรายใหญ่ของจีน ทำให้ Alibaba ตัดสินใจที่จะซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเป็นตลาดที่ 2
ข้อดีสำคัญอีกเรื่องถ้าหาก Alibaba ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงคือนักลงทุนชาวจีนสามารถซื้อขายหุ้นของ Alibaba ได้ง่ายขึ้นผ่าน Shanghai-Hong Kong Stock Connect ซึ่งปัจจุบันปริมาณการซื้อขายผ่านการเชื่อมต่อของทั้ง 2 ตลาดเพิ่มมากขึ้นโดยตลอด
ในช่วงที่ผ่านมา หุ้นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นของจีนเองอย่าง Xiaomi หรือแม้แต่หุ้นบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐอย่าง Uber หรือ Lyft ที่ IPO ไปแล้วราคาตกลงนั้นอาจทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลถ้าหาก Alibaba ต้องระดมทุนขนาดใหญ่อีกรอบ ซึ่งอย่างไรก็ดีเม็ดเงินที่จะระดมทุนนั้นยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้
สำหรับการนำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง Alibaba ใช้วาณิธนกิจคือ CICC จากประเทศจีน และ Credit Suisse เป็นที่ปรึกษาทางการเงินหลัก
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
Burger King จับกระแสซีรีส์ดัง Stranger Things ที่จะออนแอร์ซีซั่น 3 ในเดือนกรกฎาคมนี้ ด้วยเมนู Upside-Down Whoppers พร้อมปรับแพ็คเกจจิ้งย้อนกลับไปยุค 80
ใกล้ที่จะถึงเวลาออนแอร์เต็มที่แล้วสำหรับซีรีส์ Stranger Things ที่เป็น Original Content ของทาง Netflix ที่ได้กำหนดฤกษ์ฉายในวันที่ 4 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ ในช่วงนี้ก็ได้เห็นหลายแบรนด์ออกแคมเปญการตลาดที่จับกระแสซีรีส์มากมาย
ล่าสุด Burger King ก็ขอร่วมขบวนนี้ด้วย เป็นการออกเมนู “Upside-Down Whopper” ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเพียง Whopper ปกติ แต่เป็นการเสิร์ฟแบบกลับหัวกลับหางเท่านั้นเอง
นอกจากเมนู Upside-Down Whopper ยังมีการปรับแพ็คเกจจิ้งให้เหมือนย้อนกลับไปยุค 80 อีกครั้ง เรียกว่าเป็นแพ็คเกจจิ้งสุดคลาสิคของ Burger King เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะช่วยสร้างความดึงดูดได้อย่างดี
ถ้าใครที่เป็นแฟนของ Stranger Things คงจะรู้จักคำว่า Upside-Down เป็นอย่างดี เป็นเหมือนโลกกลับด้านของเหล่ามอนส์เตอร์ในเรื่อง กลายเป็นจุดเด่นของเรื่องที่หยิบเอามาทำเป็นเมนูนั่นเอง
เมนูพิเศษนี้จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2019 ในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ไม่มีการวางทั่วประเทศ มีจำหน่ายเฉพาะในบางสาขา และบางเมืองเท่านั้น เช่น Miami, Houston, Boston, Atlanta, Dallas, Philadelphia, Chicago, San Francisco, New York และ Los Angeles
สาขาในเมืองเหล่านี้จะมีซองซอสมะเขือเทศแบบ Limited Edition และเสื้อยืดที่เป็นคอลเล็กชั่น Stranger Things ด้วย
อีกหนึ่งความน่าสนใจของการออกเมนูใหม่ครั้งนี้ของ Burger King ก็คือ ผู้เล่นร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดต่างๆ ต้องออกโปรโมชั่น หรือกลยุทธ์ที่ดึงดูดใจผู้บริโภคอย่างหนัก
เพราะตอนนี้การแข่งขันในตลาดสูงมาก ผู้บริโภคไม่มี Loyalty ต่อแบรนด์ แต่ละร้านจึงต้องสรรหาวิธีแปลกใหม่ในการทำตลาด มีทั้งโปรโมชั่น และเมนูใหม่
Burger King ก็หวังว่าเมนู Upside-Down Whopper จะช่วยสร้างแรงดึงดูดได้เช่นกัน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
นอกจากรถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นสิ่งที่ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ต้องเร่งพัฒนา ตัวรถยนต์ไร้คนขับก็จำเป็นไม่แพ้กัน จึงไม่แปลกที่ Hyundai หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่เป็น 10 อันดับแรกของโลก ต้องจริงจังกับเรื่องนี้เช่นกัน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับนั้นไม่ง่ายเลยสำหรับค่ายผู้ผลิตรถยนต์กลุ่มดั้งเดิม เพราะไม่ว่าจะค่ายไหนก็ต้องหันหาพาร์ทเนอร์ทางเทคโนโลยีนี้เสียหมด และเมื่อเดือนม.ค. 2561 กลุ่ม Hyundai ก็เป็นผู้ผลิตรถยนต์อีกรายที่พาร์ทเนอร์กับ Aurora บริษัท Startup ด้านรถยนต์ไร้คนขับที่ก่อตั้งเมื่อเดือนม.ค. 2560
รายละเอียดของการพาร์ทเนอร์ครั้งนั้นคือ Aurora จะนำอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์, ตัวซอฟท์แวร์ และอื่นๆ ไปติดตั้งในรถยนต์ไฟฟ้าแบบ Fuel-Cell (FCEV) รุ่น NEXO ของ Hyundai ทั้งยังทดลองเทคโนโลยีนี้กับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ของ Hyundai และ Kia (หนึ่งในแบรนด์ของกลุ่ม Hyundai) ด้วย
แต่เพื่อเพิ่มความจริงจังกว่านั้น Hyundai จึงประกาศลงทุนใน Aurora แม้จะไม่ได้เปิดเผยตัวเลขออกมา แต่ก็มีการคาดการณ์ว่า Hyundai น่าจะลงทุนใน Aurora ด้วยมูลค่าราว 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 940 ล้านบาท) โดยการลงทุนนี้เกิดขึ้นจากหลัง Aurora ระดมทุนระดับ Series B จำนวน 530 ล้านดอลลาร์ (ราว 16,000 ล้านบาท)
หากนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทเมื่อ 2 ปีก่อน ปัจจุบัน Aurora ระดมทุนไปได้กว่า 700 ล้านดอลลาร์ (ราว 21,000 ล้านบาท) ส่วนการลงทุนระหว่าง Hyundai กับ Aurora จะทำให้ทั้งสองบริษัททำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับระดับ 4 ได้ตามเป้าหมายของ Aurora
สำหรับเทคโนโลยีถยนต์ไร้คนขับระดับ 4 หมายถึงรถยนต์ไร้คนขับที่สามารถขับขี่ในสถานการณ์ปกติได้ ถือเป็นขั้นสุดท้ายก่อนไปที่ระดับ 5 หรือรถยนต์ไร้คนขับที่ขับขี่ได้ทุกสถานการณ์ ซึ่ง Aurora ก็ตั้งเป้าพัฒนาไปถึงจุดนั้นเช่นกัน แต่ก็ต้องดูว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้กับ Hyundai ในการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับระดับ 4 ภายในปี 2564 จะทันหรือไม่
สรุปการเดินหน้าของ Hyundai ครั้งนี้ก็น่าจะทำให้การพัฒนารถยนต์ไร้คนขับทำได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นอย่างแน่นอน แต่ด้วย Aurora นั้นเป็นพาร์ทเนอร์กับหลายค่ายผู้ผลิตรถยนต์ เช่น Fiat Chrysler ก็ทำให้ความแตกต่างระหว่างเทคโนโลยีอาจไม่ต่างกันนัก และจะนำความแตกต่างเรื่องเทคโนโลยีมาชูเป็นจุดขายได้ยาก
อ้างอิง // Techcrunch, ภาพ Hyundai
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
ทรู ดิจิทัล พาร์ค (True Digital Park) ประกาศความพร้อมก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมดิจิทัลแห่งแรกในไทยและใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รุกปั้นยูนิคอร์นช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “One Roof, All Possibilities – ที่เดียว ทุกความเป็นไปได้”
Global Innovation Index: GII ซึ่งจัดทำโดย Cornell SC Johnson College of Business และ INSEAD WIPO ได้เปิดเผยผลการประเมินผลดัชนีนวัตกรรมโลกว่า ประเทศไทยมีความพร้อมเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลแห่งใหม่ของภูมิภาค ซึ่งประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 44 ในปี 2561 มีอันดับที่ดีขึ้น 7 อันดับ
มีความโดดเด่นเป็นพิเศษด้านความก้าวหน้าของตลาด (Market Sophistication) ผลลัพธ์จากองค์ความรู้และเทคโนโลยี (Knowledge and technology outputs) และอัตราส่วนประสิทธิภาพด้านนวัตกรรม (Innovation Efficiency Ratio) อีกทั้งยังเป็นหนึ่งใน 20 ประเทศในกลุ่มนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จ (Innovation Achievers) อีกด้วย
อย่างไรก็ดี ประเทศไทยยังมีสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม ดังนั้น ทรู ดิจิทัล พาร์ค จึงมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศสมบูรณ์แบบสำหรับสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการด้านดิจิทัล เพื่อร่วมสนับสนุนและเสริมศักยภาพของประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ทรู ดิจิทัล พาร์ค ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 101 สถานีบีทีเอสปุณณวิถี พร้อมเปิดให้บริการครบทุกพื้นที่ในเฟสแรก แล้ววันนี้ โดยแบ่งพื้นที่ให้บริการ 3 ส่วนหลัก คือ
ฐนสรณ์ ใจดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค บอกว่า สถิตของผู้เข้าทำงานที่ WorkSpace สะท้อนถึงความเป็นระบบนิเวศสมบรูณ์ แบบเพื่อสตาร์ทอัพอย่างแท้จริง โดยปัจจุบันมีกลุ่มผู้ใช้งานจากหลากหลายประเภทธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์, โซเชียลแพลตฟอร์ม, EnterprisePlatform, อี-คอมเมิร์ซ, หุ่นยนต์ รวมถึงธุรกิจเทคต่างๆ อาทิ ฟินเทค, ทราเวลเทค, มาร์เก็ตติ้งเทค, พร็อพเทค (PropTech) และ AgriTech เป็นต้น
สำหรับสถิติด้านประชากรเป็นชายร้อยละ 57 และหญิงร้อยละ 43 โดยสาขาการทำงานของผู้ที่อยู่ใน True Digital Park ส่วนใหญ่จะเป็นสาขาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและดิจิทัล ซึ่งมีมากกว่า 60% ของคนทั้งหมด แบ่งตามสาขาการทำงานได้ดังนี้ กลุ่มวิศวกร ไอที เทคโนโลยี และนวัตกรรม ร้อยละ 40, งานสนับสนุนทางเทคนิค ร้อยละ 15, ด้านการตลาดดิจิทัล ร้อยละ 6, ด้านบริหารและพัฒนาธุรกิจ ร้อยละ 25 และงานสนับสนุนด้านอื่นๆ เช่น บัญชี, บุคคล ร้อยละ 14
Work Space ประกอบด้วยพื้นที่ 4 โซน ดังนี้
Work Space ของทรู ดิจิทัล พาร์ค ให้ได้มากกว่าที่นั่งทำงานแบบเดิมๆ โดยสมาชิกทรู ดิจิทัล พาร์ค จะมีที่นั่งทำงานสไตล์ Open Space เลือกได้มากกว่า 400 ที่นั่ง ทุกที่เชื่อมต่อสู่โลกดิจิทัลได้ผ่านอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 1 Gbps และเครือข่าย WiFi ที่ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก
นอกจากนี้ ยังมีบริการสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น VC Clinics และเพิ่มโอกาสการลงทุนให้แก่สตาร์ทอัพ, บริการให้คำปรึกษาและสนับสนุนการขอสมาร์ทวีซ่าสำหรับสตาร์ทอัพและชาวต่างชาติที่มาทำงานในประเทศไทย, บริการที่ปรึกษาธุรกิจ กฎหมาย บริการสนับสนุนอื่นๆ และสิทธิพิเศษด้านภาษี รวมทั้งยังมีการเชื่อมโยงกับสถาบันการศึกษาเพื่อเพิ่มโอกาสให้นักศึกษาสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและองค์ความรู้ เพื่อสร้าง Tech Talent ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดบุคลากรด้านดิจิทัล เป็นต้น
นอกจากจะนั่งทำงานในพื้นที่ Work Space แล้ว สมาชิกทรู ดิจิทัล พาร์ค ยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันแบบ Cashless Society สุดล้ำ ได้ที่ Lifestyle Space ไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์ที่โดดเด่นด้วยการผสมผสานพื้นที่ค้าปลีกเข้ากับธรรมชาติและเทคโนโลยี มีโซนที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่จัดสรรเวลาในการทำงานและใช้ชีวิตด้วยตัวเองอย่างอิสระ เชื่อมต่อทุกกิจกรรมของชีวิต เพื่อการใช้ชีวิตประจำวันและการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับคนเมือง
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
เมื่อบริษัทที่ฐานะการเงินดีจะนำเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ ดังนั้นเมื่อบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีปัญหาเลยเป็นหน้าที่ SET ที่ขึ้นเครื่องหมายต่างๆ เพื่อเตือนนักลงทุน
แต่เมื่อตลาดหลักทรัพย์จะเปิดซื้อขายหุ้นที่ถูกติดป้ายเครื่องหมาย SP (ห้ามซื้อขายชั่วคราว) มาดูกันว่ามีบริษัทไหนอาจเข้าข่าย “เปิด” ขายชั่วคราวบ้าง?
เมื่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมเปิดซื้อขายหลักทรัพย์ชั่วคราว 1 เดือนในช่วงวันที่ 1-31 ก.ค. 2562 สำหรับหลักทรัพย์ที่ถูกหยุดพักการซื้อขาย (SP) ต่อเนื่องนานเกินกว่า 3 เดือน
จากการรวมรวบข้อมูลเบื้องต้นคาดว่าจะมีราว 25 บริษัทที่เข้าข่ายแบ่งเป็น 2 กลุ่ม 1. กลุ่มแรกไม่ส่งงบการเงินเกินกำหนดระยะเวลานาน ได้แก่
และกลุ่มที่สอง กรณีฐานะการเงินไม่เป็นไปตามเกณฑ์ ได้แก่
ที่มา SET, กรุงเทพธุรกิจ, มติชน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
สภาพการเมืองในเกาะฮ่องกง ทำให้ชาวฮ่องกงบางส่วนตัดสินใจที่จะอพยพกลับไปที่แคนาดา นอกจากนี้ยังคาดว่าวัยรุ่นก็จะย้ายไปศึกษาต่อในแคนาดามากขึ้นด้วย
หนังสือพิมพ์ South China Morning Post ได้รายงานว่าอาจมีชาวฮ่องกงที่มีสัญชาติแคนาดาอาจอพยพกลับไปในประเทศแคนาดาอีกรอบ หรือเรียกว่า Double Reverse Migrant ถึงหลักพันคน ปัจจุบันมีชาวฮ่องกงที่มีสัญชาติแคนาดาอยู่ในฮ่องกงอยู่ประมาณ 3 แสนคน
ผู้อพยพเหล่านี้เป็นชาวฮ่องกงแต่อพยพไปที่แคนาดา เนื่องจากกลัวว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะกลับมายึดฮ่องกงกลับไปในช่วงปี 1989 ถึง 1990 และอาศัยอยู่จนมีสัญชาติแคนาดา แต่เนื่องด้วยเศรษฐกิจฮ่องกงและจีนเติบโตอย่างรวดเร็วจึงอพยพกลับมาฮ่องกงประมาณช่วง 1998-1999 เพื่อมองหาโอกาสใหม่ๆ
ปัญหาส่วนหนึ่งจากเรื่องการเมืองDaniel Hiebert ซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย British Columbia ด้านภูมิศาสตร์ กล่าวว่า เนื่องจากในช่วงยุค 1990 แคนาดามีผู้อพยพมาจากฮ่องกงเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่มีอายุราวๆ 40 ถึง 50 ปี แต่แคนาดาเองถึงจะเป็นประเทศที่ดี แต่ก็มีโอกาสทางธุรกิจน้อยกว่าที่ฮ่องกง แต่ปัจจุบันคนเหล่านี้อายุมากแล้วจึงเป็นเวลาที่เหมาะสมทางทฤษฏีในการย้ายกลับแคนาดาอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ในช่วงที่มีการประท้วงในฮ่องกงในปี 2014 หรือที่เรารู้จักในชื่อว่า “ม็อบร่มเหลือง” กระแสการอพยพไปอยู่ประเทศอื่นๆ ก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน Jenny Liu ซึ่งเป็นชาวฮ่องกงที่มีสัญชาติแคนาดาจากการอพยพในช่วงปี 1990 ได้กล่าวว่าฮ่องกงเปลี่ยนไปมากโดยเฉพาะการเมือง ทำให้เธอตัดสินใจย้ายกลับแคนาดาถาวร
ขณะที่ Kennedy Chi-pan Wong อดีตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย British Columbia ที่ทำวิจัยเกี่ยวกับการอพยพของชาวฮ่องกง ให้มุมมองว่า “เบื้องหลังที่ทำให้ชาวฮ่องกงอาจย้ายกลับแคนาดา เนื่องจากไม่ต้องการให้ปัญหาทางการเมืองของฮ่องกงมากระทบกับชีวิตประจำวัน ไม่ใช่ว่าชาวฮ่องกงไม่ชอบพรรคคอมมิวนิสต์ หรือแม้แต่ไม่ชอบจีน”
สำหรับเมืองที่ชาวฮ่องกงอยู่อาศัยมากที่สุดในแคนาดาคือเมือง Vancouver ข้อมูลจากรัฐบาลแคนาดาในปี 2016 นั้นมีชาวฮ่องกงอาศัยถึง 74,120 คน โดยในอดีตเมืองนี้ยังเป็นเมืองที่ชาวฮ่องกงอพยพมาเยอะสุดในช่วงปี 1990 อีกด้วย
แม้ว่าปัจจุบันการอพยพไปอยู่แคนาดาจะยากกว่าเดิม แต่นักกฎหมายที่เชี่ยวชาญในด้านการอพยพในแคนาดาได้กล่าวกับหนังสือพิมพ์ The Star ว่าหลังจากนี้น่าจะมีการย้ายมาอาศัยในแคนาดาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากวัยรุ่นที่ต้องการมาศึกษาต่อ หลังจากการเมืองในฮ่องกงมีสภาพอย่างที่เห็น
ที่มา – The Star, South China Morning Post
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
IKEA ประกาศเป็นพันธมิตรร่วมกับแบรนด์ GREYHOUND ในการดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ เตรียมวางขายทุกสโตร์ทั่วโลกในเดือนสิงหาคม 2020
กลยุทธ์การ Collaboration กลายเป็นสิ่งสำคัญกับทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกันในธุรกิจเดียวกัน หรือข้ามธุรกิจ ล้วนให้เกิดสิ่งแปลกใหม่ สร้างความน่าตื่นเต้นให้ตลาด
แบรนด์ IKEA ห้างเฟอร์นิเจอร์ยักษ์ใหญ่สัญชาติสวีเดนเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีแคมเปญแปลกใหม่ออกมาอยู่เสมอ ทั้งในระดับโลคอล และระดับโกลบอล รวมไปถึงการดีไซน์สินค้าใหม่อยู่ตลอดเวลา
ล่าสุด IKEA ได้ประกาศความร่วมมือในการ Collaboration กับ GREYHOUND ORIGINAL แบรนด์แฟชั่นสัญชาติไทย ถือว่าเป็นการร่วมมือกับดีไซเนอร์จากแบรนด์อาเซียนเป็นครั้งแรก หลังจากที่เคยร่วมงานกับดีไซเนอร์ทั้งในอเมริกาใต้ อินเดีย และแอฟริกามาแล้ว
ความร่วมมือนี้แบรนด์สินค้าแฟชั่นจะต้องมาดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ในคอลเล็กชั่น SAMMANKOPPLA/ซัมมันคอปล่า ซึ่งแปลว่าความเชื่อมโยง หรือเชื่อมต่อ เตรียมวางจำหน่ายในสโตร์ IKEA ทั่วโลกปี 2020
จุดเริ่มต้นของโปรเจ็คต์นี้ ได้เริ่มพูดคุยกันตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งทาง IKEA เป็นคนเริ่มจีบ GREYHOUND ด้วยการส่งอีเมลว่ามีความสนใจที่จะร่วมงานด้วย เมื่อทั้ง 2 ตกลงศึกษาดูใจกัน ก็ทีมงานของ GREYHOUND ก็เริ่มเดินทางไปยังสวีเดนบ้านเกิดของ IKEA เพื่อศึกษาข้อมูลต่างๆ
จนมาถึงปัจจุบันได้มีการสรุปคอนเซ็ปต์ มีสินค้าตัวอย่างซึ่งกำลังอยู่ในช่วงของการผลิต พร้อมจำหน่ายในปีหน้า ที่สำคัญคือเป็นการจำหน่ายในทุกสโตร์ของ IKEA ทั่วโลก เป็นสเกลที่ใหญ่มาก
ลาเซีย เชอร์ล็อก รองผู้บริหารฝ่ายธุรกิจค้าปลีก อิเกีย ไทย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ กล่าวว่า
“เป็นครั้งแรกที่ทำงานร่วมกับแบรนด์อาเซียน ในฐานะที่ IKEA อยู่ในเมืองไทยมา 8 ปี ได้เห็นเห็นการเติบโตของแบรนด์ GREYHOUND จากแบรนด์แฟชั่นขยายตัวสู่ธุรกิจอื่น เช่น คาเฟ่ และปัจจุบันก็ก้าวขึ้นเป็นผู้นำแบรนด์ไลฟ์สไตล์”
ต้องตอบโจทย์การอยู่อาศัยในพื้นที่จำกัดด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การอยู่อาศัยของผู้คนก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เห็นได้ทั่วโลก การอาศัยในครอบครัวที่เล็กลง อยู่คอนโดมากขึ้น นั่แสดงว่าผู้บริโภคมีพื้นที่จำกัดมากขึ้น จากเดิมที่นิยมอยู่เป็นครอบครัวใหญ่
การดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆ ฟังก์ชั่นเยอะๆ อาจจะไม่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่เท่าที่ควร โจทย์ของ IKEA ในยุคนี้จึงเน้นไปที่การใช้ชีวิตในพื้นที่จำกัด
ลาเซีย เสริมว่า ปกติดีไซเนอร์ที่ออกแบบเฟอร์นิเจอร์จะมีการออกไปหาแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต ในโปรเจ็คต์นี้เป็นครั้งแรกที่ทำงานร่วมกับดีไซเนอร์อาเซียนเพราะต้องการหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ หาไอเดียในการตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่มีพื้นที่จำกัด GREYHOUND มีดีไซน์ตอบโจทย์นั้น มีการใช้วัสดุอย่างกลมกลืน
รวมถึง IKEA ให้ความสำคัญ และสนใจในความหลากหลายของวัฒนธรรม ตลอดจนมุมมองการใช้ชีวิตในบ้านซึ่งแตกต่างกันไปทั่วโลก การได้ร่วมงานกับดีไซเนอร์ใหม่ๆ เพื่อมองหาแนวคิดที่สดใหม่ในการนำเสนอสินค้าตกแต่งบ้านที่รองรับการใช้งานหลากหลายหรือมัลติฟังก์ชัน เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ในเมืองในบ้านที่มีพื้นที่จำกัด
คอนเซ็ปต์ “สบาย สบาย” ใส่วัฒนธรรมความเป็นไทยทางด้าน ภาณุ อิงคะวัต ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์กลุ่มบริษัทเกรฮาวด์ บอกว่า
“ด้วยคาแรคเตอร์ของ GREYHOUND คือ Basic with a twist คือซนนิดๆ ชอบหยิบอะไรมาบิดให้มันสนุก สร้างสรรค์ แต่ยังคลุมเรื่องสี ขาวๆ ดำๆ เทาๆ มีความ Street Urban หยิบเอาของที่คลาสสิคมาเปลี่ยนให้ร่วมสมัย ผสมกับความเป็น IKEA ที่มีความเรียบ โมเดิร์น แต่ทำให้ชีวิตสะดวกสบาย”
ภาณุเล่าต่อว่า คอนเซ็ปต์ของการดีไซน์คอลเล็กชั่นนี้ จริงๆ ไม่ได้ถนัดดีไซน์เฟอร์นิเจอร์เท่าไหร่ แต่ก็เป็นความท้าทายพยายามหาอะไรใหม่ๆ เป็นเรื่องการแก้ปัญหาของคนยุคใหม่ที่ใช้ชีวิตในเมือง มีพื้นที่จำกัดมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ นักธุรกิจรุ่นใหม่ โจทย์คือจะแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างไร จึงหยิบเรื่องมัลติฟังก์ชั่น และใส่ความเป็นอาเซียน ใส่ความเป็นไทยเข้าไป
คอลเล็กชั่นนี้จึงออกมาเป็นไอเดีย Sabai Sabai สื่อถึงวิถีชีวิตคนไทยในหลากหลายบริบท คนไทยรักความสบาย ชอบอยู่พื้นราบ ชอบกลิ้งเกลือก ใช้ชีวิตอยู่กับพื้น ทำให้พื้นที่เล็กๆ มีความหมายมากขึ้น ไม่ว่าจะใช้ทานข้าว ดูทีวี นอน เป็นความสบายๆ ในแบบคนไทย
และเมืองไทย มีวัฒนธรรมที่ผสมหลายสิ่งหลายอย่าง น่าค้นหา และคนไทยปรับตัวได้กับทุกสถานการณ์ เปลี่ยนของที่เก่ามาซ่อมแซมได้ เป็นความถนัดของคนไทย ทุกคนสามารถเป็น Creative Director ได้
โดยมีสินค้ารวม 25 รายการ เช่น พรมจากพลาสติกรีไซเคิลที่กลับใช้ได้ทั้งสองด้าน, โต๊ะและชั้นวางของที่ได้แรงบันดาลใจจากนั่งร้านก่อสร้าง, โคม ‘Container’ LED ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความช่างคิดพลิกแพลงของคนไทยที่เปลี่ยนของหมดค่าให้มีชีวิตขึ้นมาใหม่, อุปกรณ์เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร, หมอนอิงทรงสามเหลี่ยมของไทย และอื่นๆ อีกมากมาย
ความท้าทายของการดีไซน์จึงอยู่ที่การผสมผสานการออกแบบแฟชั่นที่แสดงออกถึงตัวตน เข้ากับวัฒนธรรมแนวสตรีทได้ และยังสามารถนำวัสดุต่างๆ มาหมุนเวียนใช้ใหม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์ใช้สอยและผลงานดีไซน์ใหม่ๆ ได้อย่างสร้างสรรค์และเป็นธรรมชาติ อย่างพรมพลาสติกก็ทำมาจากหลอดพลาสติกรีไซเคิล ซึ่ง IKEA ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
สรุปถือเป็นดีลที่สร้างความตื่นเต้นในตลาดไม่น้อย เพราะเป็นการโคแบรนด์กับแบรนด์แฟชั่นโลคอลสัญชาติไทย แต่เป็นการทำตลาดไปทั่วโลก ดีไซน์ยังเป็นแรงบันดาลใจจากวิถีชีวิตคนไทย จะช่วยเผยแพร่วัฒนธรรมไทยได้มากขึ้นไปอีก
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
ข่าวชาวสวนปาล์มไทยวิกฤติกเกิดขึ้นมาสักพักแล้ว เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาราคาปาล์มตกต่ำในรอบหลายสิบปี
ล่าสุด วิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ทางกรมได้หารือกับห้างสรรพสินค้าและห้างค้าปลีกสมัยให้ ยุติการนำน้ำมันปาล์มบรรจุขวดสำหรับการบริโภคมาจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย หรือพูดง่ายๆ คือ ลดราคาน้ำมันปาล์ม ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา
จากข้อมูลระบุว่า ราคาขายปกติของน้ำมันปาล์มในห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าปลีกตกอยู่ที่ประมาณ 34-36 บาท แต่หากเกิดการทำโปรโมชั่นขึ้นมา ราคาน้ำมันปาล์มจะตกไปอยู่ที่ประมาณขวดละ 24-25 บาท
ทางภาครัฐโดยกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์จึงมองว่า “หากห้างสรรพสินค้าขายน้ำมันปาล์มขวดในราคาที่ต่ำเนื่อง จะยิ่งกดดันให้ราคาผลปาล์มสดและน้ำมันปาล์มดิบลดลงอีก ทำให้เกษตรกรเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะขายผลผลิตได้ในราคาไม่คุ้มต้นทุน”
ดังนั้น นับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ทางกรมจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปสำรวจราคาขายน้ำมันปาล์มขวดตามห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีกแล้ว ซึ่งหากพบว่าใครที่ไม่ให้ความร่วมมือ จะถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า พ.ศ.2562 ฐานขายสินค้าขาดทุนต่อเนื่อง และจะส่งให้คณะกรรมการแข่งขันทางการค้าพิจารณาต่อไป
นี่คือสิ่งที่ต้องติดตาม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป คว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 3 ฤดูกาล 2019/20 – 2021/22 แบบออลไรท์หรือลิขสิทธิ์ครบถ้วนแบบเบ็ดเสร็จเต็มรูปแบบ จากพรีเมียร์ลีกอังกฤษโดยตรง ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านคอนเทนต์ระดับโลก ผ่านการสื่อสารครบวงจรและครบทุกแพลตฟอร์ม ทั้งบนทีวี และออนไลน์ โดยในแพลตฟอร์มทีวี ทรูวิชั่นส์ได้รับการยืนยันเป็นเพย์ทีวีเพียงรายเดียวในประเทศไทยที่ถ่ายทอดสดครบ 380 แมทช์ ตลอดฤดูกาล ดูแบบเต็มอิ่มต่อเนื่องรวม 3 ฤดูกาลนับจากนี้
โดย นายพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านคอนเทนต์ และมีเดีย บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า “ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป ได้พยายามอย่างต่อเนื่องในการเจรจาเพื่อให้ได้ลิขสิทธิ์ พรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาล 2019/20 – 2021/22 เพื่อตอบสนองความต้องการของแฟนบอลให้ได้เต็มอิ่มครบทุกอรรถรสกับฟุตบอลถ้วยอันดับ 1 ของโลกอย่างพรีเมียร์ลีกอังกฤษ
เรามีความยินดีที่การเจรจาครั้งนี้บรรลุผลสำเร็จ โดยทรูวิชั่นส์จะเป็นผู้ให้บริการเพย์ทีวีเพียงรายเดียวของไทยที่ได้รับลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกครบถ้วนแบบเบ็ดเสร็จเต็มรูปแบบ ทั้งการถ่ายทอดสด รีรัน และ ไฮไลท์ ครบทั้ง 380 แมตช์ โดยได้เตรียมเปิดตัว 6 ช่องเพื่อรองรับฟุตบอลรายการใหญ่ที่สุดของโลก ที่จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 10 ส.ค. นี้
พร้อมกันนั้นเรายังได้รับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดผ่านทางออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ ได้ครบทุกแพลตฟอร์ม โดยสมาชิกที่ใช้บริการในกลุ่มทรู เช่น ทรูวิชั่นส์ ทรูมูฟเอช ทรูออนไลน์ และทรูไอดี จะได้รับชมพรีเมียร์ลีกอังกฤษได้เต็มอรรถรสเช่นกัน โดยรูปแบบและวิธีการรวมถึงโปรโมชั่นพิเศษในการร่วมรับชมสำหรับทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่จะประกาศให้ทราบต่อไป
เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแฟนบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษชาวไทย จะได้ร่วมลุ้น ชม และเชียร์ทีมโปรด ผ่านทุกแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดในเมืองไทยจากกลุ่มทรู ด้วยความสนุกสนานและสะใจแบบต่อเนื่องไปตลอด 3 ฤดูกาลหลังจากนี้ เตรียมพบกับการรับชมพรีเมียร์ลีกที่สนุกครบทุกรูปแบบ ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ได้มากกว่าแน่นอน เริ่มเปิดฤดูกาลใหม่ 2019/20 วันที่ 10 สิงหาคมนี้”
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1242, ทรูช้อป, ทรูพาร์ทเนอร์ทั่วประเทศ
The post ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป คว้าลิขสิทธิ์ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ชมต่อเนื่อง 3 ฤดูกาล ครบ 380 แมตช์ appeared first on Macthai.com.
TENAA ซึ่งเป็นหน่วยงานควบคุม และดูแลกิจการโทรคมนาคมในประเทศจีนได้ปล่อยชุดภาพยืนยันสเปคของ Huawei nova 5i ก่อนจะมีงานเปิดตัวในเร็วๆนี้
The post TENAA ปล่อยภาพยืนยัน Huawei nova 5i มีกล้องหลัง 4 ตัว appeared first on mxphone.
เผย Samsung Galaxy S10 สามารถทำยอดขายช่วง 3 เดือนแรกในประเทศเนเธอร์แลนด์ได้มากกว่าแสนเครื่อง ซึ่งมากกว่ารอบของ Galaxy S9 ถึง 31%
The post เผย Samsung Galaxy S10 ทำยอดขายในเนเธอร์แลนด์ได้ดีกว่า S9 ถึง 31% appeared first on mxphone.
ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะล่าสุด The Verge ได้ออกมารายงานว่า iPhone ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 13 ที่แอปเปิลพึ่งเปิดตัวไปในงาน WWDC 2019 ที่ผ่านมา ตอนนี้สามารถสแกนบัตรประชาชนของญี่ปุ่นเพื่ออ่านข้อมูลได้ใน ผ่านทาง NFC ได้แล้ว
ปัจจุบันแอปเปิลได้อนุญาตให้แอป Third-party อื่น ๆ สามารถเข้าถึงชิป NFC ใน iPhone, iPad และ Apple Watch มากขึ้น ซึ่งทำให้นักพัฒนาสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ
ซึ่งในปัจจุบันบัตรประชาชนของญี่ปุ่นได้ฝังชิป NFC ไว้ในบัตร และรัฐบาลญี่ปุ่นได้พัฒนาแอปขึ้นมาให้สามารถเก็บข้อมูลไว้ใน iPhone ที่ใช้ iOS 13 ขึ้นไปได้แล้ว และยังสามารถเก็บไว้ในสมาร์ทโฟน Android ได้อีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะประชากรในญี่ปุ่นมีการใช้ iPhone จำนวนมาก เช่น การติดต่อสถานที่ราชการ การยืนยันตัวตนเวลาไปเสียภาษี เป็นต้น
จริงอยู่ที่แอปเปิลเปิดให้นักพัฒนาเข้าถึงชิป NFC ได้ แต่แอปเปิลก็ยังคงจำกัดสิทธิ์ให้แอปสามารถอ่านข้อมูลจากแท็ก NFC ได้เท่านั้น ไม่เหมือน Apple Pay ของแอปเปิลที่สามารถรับและส่งข้อมูลได้พร้อม ๆ กัน ยิ่งไปกว่านั้นแอปที่ต้องการใช้ NFC นั้นจะต้องส่งให้แอปเปิลตรวจสอบอย่างเข้มงวดและจะพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป
ที่มา – 9to5Mac
The post iPhone ที่ใช้ iOS 13 สามารถใช้อ่านข้อมูลในบัตรประชาชนของญี่ปุ่น ผ่าน NFC ได้แล้ว appeared first on Macthai.com.
HUAWEI ประกาศให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเริ่มอัปเกรดเป็น EMUI 9.1 ทำให้สมรรถนะความลื่นไหลให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยี GPU Turbo 3.0
The post HUAWEI ประกาศให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเริ่มทยอยอัปเกรดเป็น EMUI 9.1 appeared first on mxphone.
เบาะแสใหม่เผยแท็บเลตเกรดเรือธง Samsung Galaxy Tab S5 จะมาพร้อมปากกาสไตลัส S Pen และน่าจะเปิดตัวในกรอบเวลาเดียวกันกับ Galaxy Note10 หรือในช่วงเดือนสิงหาคมนี้
The post Samsung Galaxy Tab S5 จะเปิดตัว ส.ค.นี้ มาพร้อมปากกาและชิป SD855 appeared first on mxphone.
ถ้าเปิดดูจากสถิติ ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในจีนปี 2018 ถือว่าสูงที่สุดในโลก ประมาณ 1.2 ล้านคัน แต่ถ้าพูดให้ชัดกว่านั้นคือ หากนับเพียงยอดขายของจีนเพียงแค่ประเทศเดียวในโลก ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในปีที่ผ่านมาก็สูงกว่าทุกประเทศในโลกรวมกันเสียอีก (อ่านประเด็นนี้ได้ที่ อนาคตรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่จีน ยอดขายปี 2018 แค่จีนประเทศเดียว มากกว่าทุกที่ในโลกรวมกัน)
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในจีนตกลงเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากรัฐบาลจีนลดการสนับสนุน เพราะต้องการให้ตลาดเติบโตด้วยตัวเองมากขึ้น มีรายงานว่ารัฐบาลจีนจะลดการกระตุ้นให้เกิดการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจากเดิมที่สนับสนุนอยู่ 6 หมื่นล้านดอลลาร์จะลดลงมาเหลือประมาณครึ่งหนึ่งเท่านั้น
นี่เป็นก้าวที่ต้องจับตามองของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจีน เพราะเมื่อรัฐบาลเริ่มลดการสนับสนุน แน่นอนว่าผู้ประสบภัยคนแรกก็คือค่ายรถยนต์ที่น่าจะมียอดขายตกลงไปอีกสักระยะ
ที่มา – Quartz
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา
Samsung สานต่อความสำเร็จของตระกูล Galaxy A และ M โดยที่ล่าสุดมีการเปิดตัว Galaxy M40 ที่มีจอ Infinity-O, กล้องหลัง 3 ตัว และชิปเซต Snapdragon 675
The post เปิดตัว Galaxy M40 จอ Infinity-O ขนาด 6.3 นิ้ว ชิป SD675 และมีกล้อง 3 ตัว appeared first on mxphone.