ขสมก. ประกาศรับชำระค่าโดยสารผ่าน QR Code โดยเริ่มทดลองมาตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมาบนรถเมล์สาย A1 (ดอนเมือง-หมอชิต 2) และ A2 (ดอนเมือง-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) ทั้งหมด 24 คัน และเตรียมจะเปิดให้ใช้งานจริงวันที่ 24 มิถุนายนนี้ ก่อนจะขยายไปสาย A3 (ดอนเมือง-สวนลุมพินี) และสาย A4 (ดอนเมือง-สนามหลวง) ในวันที่ 1 กรกฎาคม ต่อไป
QR Code ของ ขสมก. เป็น QR Code ประเภทที่กำหนดจำนวนเงินตามค่าโดยสารเอาไว้แล้วที่ 30 บาท สามารถสแกนได้ทั้งบนรถเมล์หรือที่ป้ายห้อยคอพนักงานเก็บค่าโดยสาร ซึ่งรองรับการสแกนจากทุกแอปธนาคารในไทย
ในอนาคต ขสมก. เตรียมจะขยายไปใช้งานในสายอื่น ที่มีการคิดค่าโดยสารตามระยะทางด้วย
ที่มา - The Standard
Comments
บ้านเรา มักมีปัญหา จะ verify ยังไงถึงรู้ว่า เขาจ่ายแล้ว
จ่ายแล้วมีใบเสร็จ(ตั๋ว)ไหลออกมา เก็บตั๋วไว้ มีคนเดินตรวจ?
เอาจริง ๆ มองว่า QR Code มันยังไม่เร็วนะ แล้วยิ่งชั่วโมงเร่งด่วนเลยอยากรู้ว่าขสมก.ทำออกมาแบบไหนให้มันลงตัว
ส่วนตัวเองไม่ได้อยู่กรุงเทพอยู่แล้วคงไม่ได้ใช้ TVT)
คือถ้าเป็น Static QR (ป้ายแขวนคอ) มันจะทำแบบนั้นไม่ได้
ตามหลักมันต้องออก qr ใช้ครั้งเดียว พนักงานยื่นอุปกรณ์ให้ scan แล้วพอ scan แล้วระบบก็จะรู้ได้ว่าจ่ายแล้ว
สมมุติจอดป้าย BTS หมอชิต มีผู้โดยสารขึ้นรถ 20 คน พนักงานต้อง Generate QR Code ใหม่ทีละคน ?
ใช่ครับ ซึ่งถ้าระบบทำเร็วๆ เป็นจอ สแกนปั๊บก็ขึ้นว่าจ่ายแล้ว คนต่อไปก็สแกนต่อได้เลย
แต่ทั่วโลกเขาไม่ทำกันเพราะ QR ส่วนมากไม่เร็ว (กว่าจะวิเคราะห์ภาพ กว่าจะต่อเซิร์ฟเวอร์ เน็ตมือถือกาก ฯลฯ) พวก contactless เร็วกว่ามาก
lewcpe.com, @wasonliw
ต้องเป็นตัวอ่าน qr แบบ line pay สแกนเสร็จก็ผ่านไปได้เลย ระบบไปเรียกเก็บเงินข้างหลัง
linepay นี่กว่าจะเปิดแอป กว่าจะเข้าหน้า line pay
ไม่สามารถเรียกว่า "เร็ว" ได้เลยครับ
lewcpe.com, @wasonliw
Android ทำ Shortcut เข้าถึงหน้า Barcode ได้เลยครับ
ลองไปดูโรงอาหารที่รับ QR ได้ครับช้าทุกที่ กว่าจะเปิด app ใส่ยอดเงินผิดๆถูกๆ กดยืนยันบ้างไม่กดบ้าง
ยิ่งเจอช่วงคนเบียดบนรถเมล์ทีนี้ พกส. ไม่รู้เลยใครทำรายการกันแน่
(กรณีคนใช้ QR กันเยอะ เพราะในโลกความจริง ยังคงใช้เหรียญอยู่ดี)
QR เข้าโรงหนังไม่ช้านะ
ถ้าทำให้เร็วเท่าแตะบัตรเข้าเกต MRT หรือ BTS ไม่ได้ ก็นับว่าช้าหมดครับ
เทคโนโลยีมีแต่เราไม่ใช้ (เพราะ Apple แท้ๆ)
+1
ทั้ง line และของธนาคารช้าหมดครับ
ไม่ได้หมายถึงแอป line pay นะ หมายถึง flow การจ่ายเงิน ถ้าจะให้เร็วขึ้นควรทำแบบนั้น
เพิ่งนึกออก เอางบไปลงกับตู้หยอดเหรียญซะหลายล้าน
แค่กระดาษพิมพ์รูป QR Code กับ App แจ้งการจ่ายเงินของคนขับ(เอาให้หรูเลยคือ จอภาพแสดงQR Code) รวมๆ ค่าเขียนแอปอย่างแพงก็ไม่เกิน10ล้าน ตกเมล์คันนึงใช้งบ 10,000 เศษๆ กับรายเดือนที่อย่างแพงก็พอๆกับระบบเก่า แต่ภาระประมวลผลธุรกรรมอยู่กับ ITMX
ก็เหมือน กับซื้อมีสลิปจากแบงค์ คนขายก็ได้Message
5555555555555555555555555555555555555555
ปล. เอาให้หรูอีกคือ เอาตู้เก่านั้นแหละมาปริ้นตั๋วซะเลย แต่รื้ออกไปแหละดีแล้ว เดียวกลายเป็นที่ทิ้งขยะอีก ต้องมาผลาญงบซ่อมมันอีก
ตู้หยอดเหรียญเงินทอนมันเยอะกว่าครับ
ถ้าทอนให้คนใช้รถเมล์เยอะๆ รับรองว่า รถไฟฟ้าจะโลง คืนความสุขให้ทั้งคนจนคนรวย
และจะได้เห็นภาพคนโหนรถเมล์ปี2530อีกครั้ง
นี่เอาแต่ทอนคนที่คุณก็รู้ว่าใคร . . .
ผมไม่รู้ พอจะใบ้ได้ป่าวครับ?
ปล.ผมมีปัญหากับคำว่าคนที่คุณก็รู้ว่าใครมากเลยครับ เพราะเอาจริงๆ คือผมก็ไม่รู้ว่าใครนี่แหละครับ
ตู้หยอดเหรียญยังไม่ได้จ่ายเงินครับ แล้วทางบริษัทที่ประมูลได้ทำผิดสัญญาด้วย คือไม่สามารถใช้งานได้ตามสัญญา จึงจะทำการแก้ไขสัญญา ปรับลดวงเงินเหลือเพียงแค่เครื่องสแกนบัตรอย่างเดียวครับ
-_- ทำไม่ได้ตามสัญญา มีการแก้สัญญาเฉพาะสิ่งที่ทำได้ด้วย ควรยกเลิกไปเลยดีกว่าไหม
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
ถ้ายกเลิกก็ต้องถอดเครื่องอ่านบัตรออกทั้งหมด, โละระบบหลังบ้านที่ทำไปแล้วออก, ร่าง TOR ใหม่, เปิดรับฟังความคิดเห็น, เปิดประมูล, ทำสัญญา, ติดทั้งใหม่ คือ ทำใหม่ทั้งหมด ผมว่าช้าเกินไปนะครับ
นึกว่าจะออกบัตรแมงมุมที่ผูกกับพร้อมเพย์หรือเติมเงินเข้าไป แล้วให้สแกนตอนขึ้นกับสแกนตอนลง แบบนั้นน่าจะไวกว่าไหม? หรือเอาแบบนี้ http://www.ezlink.com.sg/
สำหรับตอนนี้ก็ผมคิดว่าก็น่าจะเป็นวิธีที่เหมาะที่สุดในทรัพยากรที่เขามีแล้วครับ ปัญหาคือซอฟแวร์ที่รองรับยังมีขั้นตอนที่ยุ่งยากเกินไป ถ้าทำแล้วเกิดปัญหาก็ร้องเรียนไปจะได้ปรับกันให้ไว
ปัญหาของบัตรค่อนข้างเยอะจากส่วนตัวที่มีบัตรเยอะมาก จะไปร้านใหนต้องมีบัตรส่วนลด โชคดีที่บางร้านแค่บอกเบอร์ แต่ก็เป็นการเปิดเผยเบอร์ไปในตัว บัตรเยอะจนเต็มประเป๋า มีเงินไม่เท่าใหล่แต่ที่ตุงๆนี่บัตรทั้งนั้น แค่บัตรเครดิตอย่างเดียวก็เกือบสิบใบ จะจ่ายอะไรก็ต้องดูว่ามีโปรลดอะไรบ้าง บางถอนเงินมาเยอะต้องเอาบัตรออกบัตรหายเสียเวลาไปทำใหม่อีก
ส่วนเรื่องช้าก็เข้าใจ แต่ทุกอย่างบนโลกมันก็ไม่สามารถได้ดั่งใจไปหมดหลอก อยากไปเร็วก็ขึ้นรถไฟฟ้า ถ้าไม่รีบก็ไปรถไฟ ถ้ามีให้เลือกทั้ง2 แต่ในความเป็นจริงก็เห็นๆกันอยู่ โลกความเป็นจริงปัจจัยมันเยอะ ถ้าบอกว่าอะไรเร็วที่สุดแล้วทุกคนจะใช้บริการมันคงไม่ใช่ยังมีอีกหลายปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยว
ถ้าเทคโนโลยี NFC RFID มีเหมือนกล้องมือถือตอนนี้เขาคงเลือก RFID มากกว่า QR Code เพราะถ้าออกบัตรตอนนี้ก็ต้องมีระบบลงทะเบียน มีค่าบัตร เครื่องอ่าน เหมือนรถไฟฟ้า และ คิดว่างบประมาณคงไม่มาก จึงเลือกเทคโนโลยี่นี้ที่ต้นทุนน้อยและมีระบบที่รองรับอยู่แล้ว และคิดและหวังว่า RFID คงเป็นระบบทางเลือกต่อไปที่เขาจะพัฒนา ก็มองว่าตอนนี้แค่จุดเริ่มต้น เพราะเปลี่ยนอ่าน QR code เป็น RFID คงไม่ยากเกินไป
ขสมกเอาอีกละ
ชอบไปเอาความเห็นนักคิดนักพัฒนานักวิชาการนักคอมฯนักนั่นโน่นนี่มาทำโครงการ
เคยถามผู้โดยสารตัวจริงที่โหนรถเมล์บ้างไหมว่าเขาสะดวกหรือเปล่า
ได้ยืนบนบันไดก็บุญคุณท่วมหัวละ
แทนที่จะเอาระบบทาบบัตรที่ยกเลิกไปมาปรับปรุงให้ใช้งานได้ กับระบบหยอดเหรียญให้ใช้งานได้เร็ว หรือใช้งานบัตรรายเดือน รายสัปดาห์ เติมเงิน หรือจำกัดรอบการใช้งาน และเพิ่มตู้ออกบัตรตามป้ายรถเมล์ใหญ่ๆ คนใช้งานเยอะ ยังจะดีกว่า ดันเอามาถมกับของแบบนี้อีกแล้ว เดี๋ยวก็โดนยกเลิกอีก เสียดายภาษีที่จ่ายไปจริงๆ เบื่อครับ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ระบบ E-Ticket ยังไม่ได้ยกเลิกนะครับระบบเสถียรแล้ว (ตามจำนวนรถที่ทดสอบ) และกำลังติดตั้งให้ครบ ส่วน Cash Box กำลังยกเลิกสัญญาซึ่งไม่ต้องจ่ายเงินในส่วนนี้ (ข่าวที่ออกๆ ด่าไปแล้วว่าเสียเงินค่าโง่เป็นพันล้านนี่จะแก้ข่าวให้เขาไหม) อ้างอิง ขสมก.ยกเลิก Cash box ตัดค่าเช่า70% เร่ง E-Ticket ต.ค.บัตรคนจนใช้ได้
ส่วนตัวผมว่าดีแล้วที่เริ่มทดสอบกับรถจำนวนจำกัด ถ้าไม่ได้เรื่องจะได้ส่งผลกระทบเยอะ
เมื่อ 23 พ.ค. ผมเห็น QR code นี้แล้วครับ แต่ติดอยู่สูงไปหน่อย ใกล้จะถึงเพดานแล้ว (ดูรูป) เลยลองถามกระเป๋ารถเมล์ดู พบว่าเค้าน่าจะยังไม่ค่อยเข้าใจวิธีใช้งานครับ และผมสังเกตว่าไม่มีใครจ่ายด้วยพร้อมเพย์เลย วันนั้นผมก็เลยจ่ายเงินสดไปเช่นกัน 555
ผมสแกน QR code นี้เก็บไว้นะครับ ถ้าเอามาเผยแพร่จะผิดรึเปล่าครับ?
น่าจะทำแบบจีน คือสแกน qr คนทั่วไป แล้วเรียกเก็บเงินทีหลัง แบบ line pay แบบนี้จะเร็วกว่ามาก แต่ถ้าต้องสแกนแล้วถ่ายเงินแบบแอปธนาคารทุกวันนี้นะ ไม่อยากจะคิดตอนคนขึ้นเยอะๆ
คือ ขสมก ไปดูงานที่ประเทศใกล้ๆก็ได้ครับ นั่งเครื่องบินสองชั่วโมงถึงอย่างสิงค์โปร์เค้าเนี่ยครับ บัตรแตะ NFC แบบ offline คนไม่ถึงหนึ่งวินาทีจ่ายครบจบแล้ว บังคับขึ้นประตูหน้า แต่ละลงประตูไหนก็ได้ ถ้าดันลืมแตะบัตรขาลง โดนจ่ายเหมือนลงสุดสาย
QR code กว่าจะควัก กว่าจะถ่าย แถมถ้ารถสั่น ถ่ายเบลอ ถ่ายใหม่อีก จะประคองสองมือก็กลัวล้มคว่ำ (แล้วถ้าล้มไปใครจะไปเอาเรื่องกับใครครับ ระหว่าง เอกชนที่เสนอโครงการ ขสมกที่อนุมัติโครงการ หรือ ต้องโทษตัวเองที่ดันมาใช้บริการ) ยังไม่นับถ้าไปเจอผู้ให้บริการที่ไม่ค่อยปรับปรุงเรื่องช่องสัญญาณ ไม่ค่อยวางโครงข่ายครอบคลุม ไปเจอจุดอับสัญญาณ จังหวะนั้นก็หมุนไปสิ
คือคนเสนอก็ว่าไม่ค่อยจะคิดแล้ว ถามจริงๆ คนอนุมัตินี่เค้าขึ้นรถเมล์ช่วงเวลาเป็นปลากระป๋องบ้างไหมครับ นึกสภาพโหนรถเมล์ คว้ากล้องขึ้นมาถ่าย คิดสิครับ คิดสิครับ นั้นเงินภาษีกันทั้งนั้นนะครับ
QR คงใช้ได้แค่กับรถเมล์บางสาย อย่างตระกูล A คือสนามบินไปที่ต่างๆ ป้ายจอดแวะน้อย แต่อย่ามาใช้กับรถเมล์ที่คนขึ้นเยอะๆ เลยละกัน
ถ้าาจะทำสงสัยต้องเปลี่ยนโครงสร้างตัวรถเมล์ด้วยล่ะครับ
ผมว่าขสมก.ป่วยเรื่องการจัดลำดับความสำคัญ
ทุกวันนี้คนรอรถเมล์10,15นาทีโดยไม่รู้เลยว่ารถที่ตัวเองจะไปนั้นจะมาถึงเมื่อไร
ขสมก.หน้าจะโฟกัสตรงจุดนี้ก่อน(ติดgpsทำแอพลงมือถือทำระบบรายการพฤติกรรมของคนขับลงในแอพด้วยเลยก็ได้)
แต่ดันไปดิ้นรนอยากทำe-ticket
แนะนำให้ลองใช้ Via bus ดูครับ
บอกเวลาเป๊ะได้เลยหรอครับ อาจไม่ถึงกับตรงมาก แต่ไม่เกิน 2-3 นาที
ไม่ต้องแปะก็ได้ครับ
ขอแบบอารมณ์ดูรถในgrabก็พอ
บอกรถที่ไกล้เราที่สุดอะไรประมาณนี้
ระยะทางเป๊ะครับ
แต่เวลาขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรครับ
เห็นว่ามีรถกี่คันอยู่ตรงไหนได้หมด ตรงแบบที่ผมต้องการแล้วครับ เรื่องกี่นาทีผมไม่หวังว่าจะมีใครทำได้กับสภาพจราจรแบบนี้อยู่แล้ว
แอพนี้ดีจริง
น่าจะทำแบบขึ้น-ลงทางเดียวนะ แล้วให้ทุกคนแตะบัตรตรงข้างคนขับ ส่วนด้านหลัง หรือตรงกลางให้คนลง โดยแตะบัตรอีกรอบ เพื่อคืนเงิน ถ้าใครไม่แตะก็จ่ายเต็มไป
ส่วนใครจะขึ้นด้านหลังเพื่อหลีกหนีการจ่าย ก็ให้พนักงานช่วยดูก็ได้ หรือถ้ามีวิธีอื่นก็น่าจะดีกว่านี้
ปล่อยคนขึ้นมาก่อน แล้วเอา static QR Code ของรถคันนั้น (เผื่อโดนปลอม แยกคันเลยจะได้ทำบัญชีง่าย) ติดไว้ทุกเสา หรือหลังเบาะทุกเบาะ แล้วกระเป๋าเก็บเงินคนจ่ายสด ใครจ่าย QR Code ก็ Scan ตามเสาตามเบาะไป ออกเป็น E-Ticket ไว้เรียกตรวจ คนไหนกระเป๋า หรือนายตรวจมาตรวจไม่แน่ใจก็ขอดู Ticket ที่่ออกบนมือถือ ถ้ากลัวปลอมก็ออก App อีกตัวสำหรับ Verify น่าจะพอช่วยแก้ปัญหาตอนขึ้นรถได้ แต่ปัญหาต่อไปคือ ตอนสแกนนั่นแหล่ะ กำลังสแกนรถเบรคกระทันหันมือถือตกแตกลำบากชีวิตกันอีก
แค่ขึ้นปุ๊บ ยังไม่ทันนั่ง ก็แทบเกาะราวไม่ทัน
ไม่รู้จะรีบออกรถไปไหน
จะให้มายืนกดมือถือสแกน qr ?
ไอ้จอทีวีแทนที่จะแสดงแผนที่ จุดตำแหน่ง หรือสถานที่ที่รถผ่าน
เอามาแสดง,อวดโอ้ตัวเองแบบมึนๆ
คือมันไร้สาระ เวลาคุยกับกระเป๋าสอบถาม ก็ทำท่าทีรำคาญใส่
นี่ เห็นคนใช้บัตรสวัสดิการ ไปทำหน้าเหยียดใส่เค้าอีก
ควันรถก็ดมเข้าไป ไม่คิดแก้
ห่วยแตก
สงสัยเพียงว่า กระเป๋าจะ verify ยังไงว่าจ่ายเงินแล้ว
มีวิธีป้องกันการโกงยังไง
Track ได้เลยว่าคนไหนเดินทางตรงไหนบ้าง
NFC เร็วกว่าไหม
ตอนนี้ VISA, Mastercard บังคับให้ออกบัตร NFC ทั้งหมดเร็วๆนี้