องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ชี้ หนุ่มสาวทั่วโลกอาจสูญเสียภาวะการได้ยินจากการใช้หูฟังบนอุปกรณ์ต่างๆ ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้มีอายุระหว่าง 12 ถึง 35 ปีหรือ 1.1 พันล้านคนทั่วโลกตกอยู่ในความเสี่ยง ใช้หูฟังเปิดเพลงดังเกินไปติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยตอนนี้มีประชากรโลกราว 5% หรือ 466 ล้านคนที่สูญเสียการได้ยินไปแล้ว และในกลุ่มนี้มีเด็ก เยาวชนถึง 34 ล้านราย
WHO ระบุว่า การฟังเสียงดัง 85 เดซิเบลติดต่อกันนานๆ นั้นไม่ปลอดภัย และถ้าฟังเสียงดังถึง 100 เดซิเบล แค่ 15 นาทีก็ไม่ปลอดภัยแล้ว
WHO บอกว่านอกจากผุ้ปกครองจะช่วยตักเตือนได้แล้ว ผู้ผลิตอุปกรณ์ก็ควรติดตั้งซอฟต์แวร์แจ้งเตือนหากผู้ใช้ฟังเสียงดังจนเป็นอันตราย ในขณะที่มือถือมีฟีเจอร์นี้แล้ว แต่ก็ควรมีมาตรฐานกลางเพื่อความปลอดภัยไว้
ภาพจาก Shutterstock
ที่มา - Japan Today
Comments
ประชากรโลกราว 5% หรือ 466 คน
ขอบคุณค่ะ
ผุ้ปกครอง => ผู้ปกครอง
เห็นด้วยอย่างรุนแรง เกลียดเสียงดัง และเกลียดคนเปิดเพลงเผื่อแผ่ไม่ว่าจะช่วงเวลาใดก็ตาม....
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
นั่งรถเมล์ รถไฟฟ้าเจอบ่อย เปิดเพลงทีคนนั่งข้างๆ ได้ยินเสียงดังเลย อยากจะรู้จริงๆ ว่าฟังกันไปได้ไง
เตือนเลยครับ ขอร้องกันได้ว่าเพลงดังมากจนรบกวนเรา ส่วนผมนี่คงโดนเกลียดเป็นปกติไปแล้ว แต่ยอมโดนเกลียดดีกว่านั่งหงุดหงิดตลอดการเดินทางครับ ที่สำคัญบางคนเค้าไม่รู้ด้วยว่ามันดังจริงๆ (ย้ำว่าบางคน)
ผมอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องอ่ะ
ปล. ต้องทำใจก่อนนะครับ เราขอเค้าได้ แต่เราบังคับเค้าไม่ได้
ห๊ะ ...อะไรนะ
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ตอนนี้มีประชากรโลกราว 5% หรือ 466 ล้านคนที่สูญเสียการได้ยิน
ท่าทางจะอ่านเยอะเกิน จนสูญเสียการอ่าน ฮ่าๆๆๆ
ปัญหาคือคนที่เปิดเสียงดังเพราะมีปัญหาการได้ยินจริงๆนี่แหละ
ตัวอย่างก็ คุณแม่ผม นี่เองเลย เวลาที่ท่านคุยโทรศัพท์ ถ้าไม่เปิดspeakerเสียงดังๆ นี่ท่านจะไม่ได้ยินเลย
ฟังเพลงกันเยอะจริง ๆ นะคนรุ่นใหม่ ใส่หูฟังกันเป็นเรื่องธรรมดามาก ๆ น่าระวังเหมือนกันครับ
That is the way things are.
จริงครับ ยี่สิบปีก่อน ตอนไม่มีตังซื้อหูฟังนี่ผมนอนอยู่หลังบ้าน มีคนตะโกนเรียกหน้าบ้านนี่ผมได้ยินชัดเลยนะ ผ่านจากจุดนั้นมายี่สิบปีพอมีเงินซื้อหูฟัง กซื้อมาใส่ ใส่แล้วมีคนตะโกนเรียก กดอิ๊งอ่องนานเป็นนาทีๆ นี่ผมไม่ได้ยินเลยฮะ แย่ลงไปเยอะเลย
เป็นเพราะอายุที่เพิ่มขึ้นรึเปล่าครับ ตายายผมไม่เคยใช้หูฟัง แต่หูก็ไม่ค่อยได้ยินอะไรนะครับ ต้องตะโกนดังๆ
วางหูฟังลงก่อนครับ
ขึ้นรถไฟฟ้า ห่าง 5 เมตรยังได้ยินเลย ว่าฟังเพลงอะไร แบบนี้หูไม่น่าเหลือ
http://www.industrialnoisecontrol.com/comparative-noise-examples.htm
70 db ก็ว่าดังแล้วนะ เท่ากับเครื่องดูดฝุ่น
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
อยากให้เด็กๆ ที่ชอบฟังเพลงแบบเปิดเสียงดังๆ นี่ รู้ว่าหูเสื่อมแล้วเสื่อมเลยไม่ฟื้นคืน
แถมราคาเครื่องช่วยฟังนี่แพงจับใจจริงๆ นะครับ
เริ่มจาก รณรงค์ให้นักท่องเที่ยวจีนพูดเสียงเบาลง พูดค่อย ๆ ก็ได้ถ้าพูดไม่ได้ก็ไม่ต้องพูด
เรื่องที่พูดไม่ยาก ไม่ต้องให้มากก็น่าจะได้ //มีต่อมั้ย 555
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
พูดประนีประนอมค่อยๆ ตะล่อมก็ไม่มีเรื่อง
รักนะคะคนดีของฉัน
แต่หากว่าพูดไม่รู้เรื่อง อะไรคงจะยาก
ไม่รู้เทออจาคิดอย่างรัยยยย อยากให้ใจเทอน้านนตรงกานนน
ไปเล่นตรงโน้นนะ ฮ่าๆๆๆ
เคยนั่งเครื่องบินเจอคนจีนพูดดัง ผมก็บอก "shhhhhh..." เขาก็เงียบนะ
ฟังจากลำโพง ก็ยังได้ฟิลกว่าอยู่ดี
ที่น่ากลัวคือ
ฟังดังๆ -> หูเสื่อม -> รู้สึกเสียงเบาลง -> เพิ่มความดัง
วนไปเรื่อยๆ ซักปี2ปี รู้ตัวอีกทีหูพังแล้ว
ผมเป็นคนขี้หนวกหูเลยใส่หูฟังเพื่อกลบเสียงรอบข้าง แล้วเปิดเสียงอ่อยๆแทนเลยไม่มีปัญหาเรื่องนี้
แต่รุ่นพี่สมัยเรียนหูเสื่อมไปเยอะ ฟังแบบว่าได้ยินเสียงหูฟังดังจนผมยืนอยู่ห่างๆก็ยังได้ยินชัดแจ๋วเลย