สภาพการณ์ในตลาดสมาร์ทโฟนปัจจุบันค่อนข้างอิ่มตัว เทคโนโลยีบนสมาร์ทโฟนก็ไม่ได้ใหม่หรือสร้างความฮือฮาจนสร้างแรงกระเพื่อมในตลาดมาหลายปีแล้ว จำนวนยอดขายรวมทั่วโลกก็ค่อยๆ ลดลง ทำให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนตอนนี้อยู่ในสภาพหลังพิงฝาก็ไม่ปาน มีอะไรใหม่ต้องขนออกมาให้ได้มากและเร็วที่สุด ด้วยหวังว่าจะสร้างโมเมนตัมและพื้นที่ด้านการตลาดให้ตัวเอง
Mobile World Congress งานใหญ่ประจำปีสำหรับสมาร์ทโฟนกำลังจะเริ่มในช่วงสิ้นเดือนนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่แต่ละแบรนด์ที่จะขนของใหม่ที่เท่าที่มาโชว์หรือเปิดตัวในงานนี้กัน ซึ่งก็น่าจะพอเป็นตัวชี้วัดภาพรวมของหน้าตาเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนในปีนี้ ซึ่งหลายๆ อย่างเราน่าจะพอได้เห็นกันไปแล้วในปีที่แล้ว แต่ปีนี้จะถูกนำออกสู่ตลาดมากขึ้นและกว้างขวางขึ้น
กล้องที่กลายเป็นหนึ่งในจุดขายหลักของสมาร์ทโฟนถูกพัฒนาจนเรียกได้ว่าถึงขีดสุดที่ฮาร์ดแวร์กล้อง 1 โมดูลจะพัฒนาได้แล้ว ดังนั้นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเลยจำเป็นต้องแตกโมดูลกล้องออกมาเป็น 2 โมดูลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของการถ่ายรูปบนสมาร์ทโฟน รวมถึงเมื่อกล้องแต่ละโมดูลต่างมีจุดเด่นของตัวเอง ก็ย่อมมีประสิทธิภาพมากกว่ารวมอยู่ในโมดูลเดียว
การนำกล้องมาใช้ 2 ตัวบนสมาร์ทโฟนถูกพิสูจน์แล้วว่าช่วยให้การถ่ายรูปดีขึ้นจริงและตลาดยอมรับ ดังนั้นการแตกโมดูลกล้องออกมาเป็น 3, 4 โมดูลหรือมากกว่านั้นก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพื่อเพิ่มลูกเล่นและประสิทธิภาพให้มากยิ่งขึ้น ปีที่แล้วเราจึงเห็นสมาร์ทโฟนระดับกลาง 4 กล้องและ 3 กล้องในระดับท็อป และปีนี้กล้อง 3 ตัวน่าจะกลายเป็นมาตรฐานมากขึ้นที่จะพบได้ตั้งแต่รุ่นท็อปลงมาจนถึงรุ่นกลาง แทนที่กล้องคู่ในปัจจุบัน
หนึ่งในรุ่นที่น่าชัวร์แน่ๆ ว่ามีกล้องหลัง 3 ตัวเป็นอย่างน้อยคือ Galaxy S10, Nokia 9 PureView และ Huawei P30 Pro
การสแกนหน้าแบบ 3 มิติบนสมาร์ทโฟนถูกนำเสนอครั้งแรกด้วย Face ID บน iPhone X เมื่อปี 2017 จนผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ต่างพยายามขายฟีเจอร์นี้ออกมาด้วยเช่นกัน แต่ก็อยู่บนเทคโนโลยีการสแกนแบบ 2 มิติที่มีบนแอนดรอยด์มานานแล้วและปลอดภัยน้อยกว่า
ขณะที่ Huawei และ Xiaomi ก็เข็นการสแกนใบหน้า 3 มิติออกมาเป็น 2 เจ้าแรกบนแอนดรอยด์ด้วย P20 Pro และ Mi8 Explorer Edition ซึ่งทั้งสองเจ้าก็ต้องปรับแต่งตัวแอนดรอยด์ไม่ใช่น้อยเพื่อให้รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่นี้ ซึ่งผู้ผลิตหลายๆ เจ้าก็น่าจะทยอยทำฟีเจอร์นี้ออกมาด้วยเช่นกัน
และแน่นอนเมื่อ Android Q ออกตัวจริงในปลายปี ปีหน้าผู้ผลิต OEM ก็น่าจะง่ายขึ้นเพราะ Android Q รองรับการสแกนใบหน้า 3 มิติมาให้ในตัวด้วย ขณะที่โซนี ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์กล้องก็มีข่าวกำลังพัฒนาเซ็นเซอร์จับใบหน้า 3 มิติด้วยเช่นกัน
เราเห็นข่าวการพัฒนาหน้าจอพับได้มาหลายปีและปีที่แล้วก็เริ่มเห็นสมาร์ทโฟนพับได้แบบโปรโตไทป์หรือภาพหลุดออกมาแล้ว ดังนั้นปีนี้แบรนด์ไหนสามารถผลิตออกมาได้จริงก่อนก็น่าจะรีบเปิดตัวเพื่ออย่างน้อยแย่งชิงพื้นที่สื่อ การตลาดและการรับรู้จากผู้บริโภคให้ได้ก่อน
อย่างไรก็ตามการนำมาใช้งานจริงของสมาร์ทโฟนพับได้ ส่วนตัวมองว่าน่าจะยังต้องพัฒนาอีกนาน ทั้งจากปัญหาราคาที่น่าจะแพงและขนาดของเครื่องที่หนากว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป
สมาร์ทโฟนพับได้ที่คิดว่าน่าจะเจอแน่ๆ คือของซัมซุง และ Huawei และ Xiaomi
ส่วนตัวผมมองว่าปีนี้ 5G น่าจะยังไม่มา ด้วยเหตุผลเรื่องการจัดสรรคลื่นและการวางโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่รองรับ 5G ก็ยังน้อยอยู่
อย่างไรก็ตามก็ไม่ใช่ว่าเราจะไม่เจอสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G ในปีนี้ หลังจากปีที่แล้วหลายๆ แบรนด์ต่างออกมาเคลมว่าจะเป็นเจ้าแรกที่เปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่คาดเดาว่าได้ว่าเราน่าจะเห็นสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงหรือรุ่นท็อป ที่รองรับ 5G ในปีนี้ แม้โครงช่ายจะยังไม่พร้อมก็ตาม ด้วยเหตุผลด้านการตลาดเป็นสำคัญ
เช่นเดียวกับการรองรับ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ax หรือ Wi-Fi 6 บนสมาร์ทโฟนที่เราก็น่าจะเริ่มออกสู่ตลาด สอดคล้องกับการเริ่มวางจำหน่ายเร้าเตอร์ที่รองรับ Wi-Fi 6 ในปีนี้ แต่สมาร์ทโฟนที่รองรับก็น่าจะยังน้อยและจำกัดเฉพาะรุ่นเรือธงเท่านั้น อาทิ Galaxy S10, LG V50 ThinQ, OnePlus 7, Huawei
ปีที่แล้วแนวทางการออกแบบหน้าจอสมาร์ทโฟนเทไปทางติ่ง (notch) ด้านบนหน้าจอกันเสียเยอะ จากอิทธิพลของ iPhone X (แม้ Essential Phone จะเริ่มก่อนก็ตาม) ขณะเดียวกันก็มีความพยายามหนีออกจากดีไซน์ติ่ง แต่ก็ยังต้องคงกล้องหน้าเอาไว้ บนหน้าจอที่ขอบบางที่สุด ก่อนจะได้ออกมาเป็นดีไซน์หยดน้ำหรือตุ่มลอยอยู่บนหน้าจอแทน
แน่นอนปีนี้ดีไซน์หยดน้ำและตุ่มกล้องที่ลอยอยู่บนหน้าจอน่าจะแพร่หลายมากขึ้น รวมถึงรุ่นที่หน้าจอกินพื้นที่ด้านหน้าเต็มและอาศัยกลไกต่างๆ ซ่อนกล้องหน้าเอาไว้แทนก็น่าจะพบเห็นกันได้มากขึ้้น เพราะการทำหน้าจอเต็มพื้นที่ด้านหน้าไม่เพียงจะได้เรื่องความสวยงามแต่ยังช่วยขยายขนาดหน้าจอบนขนาดตัวเครื่องที่เท่าเดิม ช่วยเพิ่มมูลค่าไปในตัว
สมาร์ทโฟนที่มีข่าวลือเข้าข่ายนี้ก็เช่น Galaxy S10, Huawei P30 Pro, Moto Z4 Play, Honor View20 และ Energizer
Comments
ติ่งหายไปแต่ได้ตุ่มมา
+4.3GHz
ติ่งหรือตุ่มบนหน้าจอ จะจบไปด้วยกล้อง Pop up หรือ การ slide แบบ Vivo Xiaomi
ซึ่งผมว่ามัน OK ที่สุดแล้ว
ผมไม่โอเคครับ ถ้าจะมาแบบสไลด์ได้ขอติ่งกับตุ่มครับ
มาเป็นตุ่มนี่ผมว่าถ้าทำดีๆ ไม่ใหญ่เกินไปนี่มันก็เหมือนเป็น noti สักแอปนึงเท่านั้นเอง
เเบบ slide กับ POP-UP มันไม่กันน้ำครับ
มันไม่ simple มากพอครับ ผมฟันธงไว้เลยว่าเทคนิคนี้จะไม่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นเมนสตรีมในอุตสาหกรรมมือถือได้อย่างแน่นอน ตอนนี้ก็ทำได้แค่หาที่วางกล้องบนตุ่มบนติ่งไปพลางๆ จนกว่าจะสามารถฝังกล้องไว้ใต้จอได้
Smartphone ยอดขายลดลงอย่างต่อเนื่อง ถือเป็น Fact นะเจ้าคะ ไม่เหมือนก่อนหน้านี้ที่ติ่งต่างมารุมฟัดเจ้อย่างบ้าครั่งไม่ยอมรับข้อมูลตรงนี้ เจ้ล่ะได้แต่ขรรมอย่างสะใจ โฮ๊ะๆๆๆๆๆ
จริงครับ ข่าวล่าสุดในไทยลดลงตั้ง 52.2%
เอ้ย ไม่ใช่สิ 13.6%
https://www.blognone.com/node/108132
ครั่ง > คลั่ง
ไม่เอาติ่งตุ่ม Slide PopUp ทั้งนั้น มันจะไม่เต็มจอก็ได้ ขอให้จอมีอัตราส่วนที่ดีตามยุคสมัย
เครื่องจะยาวขึ้นนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร ถ้ามีที่ว่างเหลือก็ใส่แบตเตอรี่ก็ได้
รู้สึกแปลกที่มือถือแสดงภาพได้ไม่ครบกลับแพงซะงั้น
นั่นสิครับ ผมละเกลียดติ่งตั้งแต่ iPhone X ออกแล้ว (เอาจริงๆ ยี้ตั้งแต่ Essential phone ด้วย) และก็ไม่เคยชอบจอติ่งเลยจนถึงทุกวันนี้ อยากได้หน้าจอแบบเต็มๆ จอเป็นจอ ไม่มีอะไรมาบดบังมากกว่า (รู้สึกโกรธ Apple มากที่เป็นคนนำเทรนด์จอติ่งแบบนี้มาจนระบาดไปทั่วโลก)
และอึ้งที่ค่ายจีนดันทะลึ่งทำติ่งตาม iPhone X กันหมด แถมขายดีซะด้วย ผมคงชอบสวนทางกับคนส่วนใหญ่เอง แต่โชคดีที่มือถือจีนยังทำให้ปิดติ่งได้อยู่ ก็ยังพอรับได้ถ้าซักวันมือถือในท้องตลาดกลายเป็นแบบนี้หมด
ส่วนมือถือพวกกล้อง popup หรือ slide ผมว่าไม่เวิร์คเท่าไหร่ในระยะยาว แถมใช้ไม่สะดวกเท่ากล้องที่ fixed กับตัวเครื่องด้วย (แรกๆ อาจจะสนุกดี แต่หลังๆ จะไม่ค่อยกล้าใช้บ่อยเพราะกล้วมันพัง)
เอาจริงๆ ผมกลับชอบแนวทาง infinity display แบบซัมซุงตัวปัจจุบันมากกว่า โดยเฉพาะพวก S8 S9 Note 8 Note 9 นี่คือสวยแพงมาก คือมันไม่จำเป็นต้องทำจอให้เต็มตัวเครื่อง คือขอจอเป็นจอเต็มๆ มีเหลือขอบบนล่างบ้างก็ได้ กล้องไมค์อะไรก็อยู่ตรงนี้แหละดีแล้ว ยิ่งสมมาตรด้านบนล่างแบบที่ซัมซุงทำคือถูกจริตผมมาก อย่างมือถือจีนนี่แทบไม่มีรุ่นไหนสมมาตรเลย ด้านบนไร้ขอบแต่มีติ่ง ข้างล่างมีขอบนิดนึงนี่ เห็นแล้วหงุดหงิดกับการออกแบบ 55 เอาจริงๆ iPhone X จะสวยและสมมาตรที่สุดแล้วถ้าไม่มีติ่งด้านบนอยู่
แต่สุดท้ายซัมซุงก็เอากับเค้าบ้าง แถมอาการหนักกว่าเดิมคือมีตุ่มอีก เห็นแล้วขัดใจมาก แถมตุ่มกลางจอขนาดนั้นไม่รู้จะปิดติ่งแบบมือถือจีนได้บังไง อยากจะร้องไห้กับเทรนด์มือถือสมัยนี้จริงๆ
มาอยู่กับ Sony ไหมครัฟ ?
ผมว่าพวกบรรดาจอไร้ติ่งนี่ ตัว Note 9 ทำได้ดีที่สุดแล้วนะ
เห็นคนถือเครื่องจริงแล้วสวยมากๆเอาซะด้วย
เห็นด้วยครับ วันก่อนผมเห็น"คน"ถือ Note9 สวยจริงๆ
เดี๋ยวครับ
ไม่เชื่อครับ ขอภาพหลักฐาน
ผมก็ชอบประมาณนี้แหละครับ เลยจัด Nokia 7+ ไป
หลังจากนี้ คงต้องมอง Sony ละมั้ง
ตอนนี้ก็ได้แต่มองแล้วครับ ศูนย์ไทยไม่เอาเข้ามาแล้ว ถ้าอยากได้ต้องวัดดวงกับเครื่องหิ้ว
แม้ว่ายุคนี้หลายคนบอกว่า ไม่มีนวัตกรรมบน iPhone หลังจาก สตีฟจากไป แต่ไม่จริงเสมอไป เพราะ Face ID คือนวัตกรรมอย่างหนึ่ง ที่สามารถสแกนหน้าได้แบบ 3D และแอนดรอยด์ก็ทำตาม และอิทธิพลของแอปเปิลที่ทำกล้องมากกว่า 1 ตัว แม้จะมีหลายเจ้าทำมาก่อน แต่ถ้าแอปเปิ้ลยังไม่เริ่มคงไม่แพร่หลายขนาดนี้
รวมถึงหูฟังไร้สาย และ USB C แบบมาตรฐานบน MacBook จนกลายาเป็นมาตรฐานบน Laptop
ส่วน 5G เร็วสุดก็ปีหน้า
Face ID Android ทำมาก่อนแล้ว Apple เอามาพัฒนาให้เป็น3D
กล้องมากกว่า 1 ตัว Android ก็ทำมาก่อน
คำว่านวตกรรมหรือ Innovation มันต้องใช้กับคนที่ริเริ่มครับ ไม่ใช่คนที่ C&D
บอกว่าเอามาพัฒนาผมว่าไม่น่าใช่นะครับ สแกนหน้าแบบอาศัยกล้องหน้าอย่างเดียว กับการสแกนหน้าที่อาศัยเซ็นเซอร์เฉพาะตัวมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยนะ
ผมว่าอันนี้ซื้อมานะ 555
Face ID บนแอนดรอยด์ที่ใช้รูปถ่ายสแกนได้หรอครับแล้วบอกว่าเป็นนวัตกรรมจน แอปเปิ้ลเอามาพัฒนา ผมว่าไม่ใช่นะ
ส่วนกล้องมากกว่า 1 ตัวไม่มีบรรทัดไหนบอกว่าแอปเปิ้ลเริ่มก่อนนะ ผมเขียนชัดเจนนะ แอนดรอยด์เริ่มก่อน แต่แอปเปิ้ลเอามาทำจนสร้างเป็นกระแสได้
เอาจริงทุกวันนี้ ไอที่เห็นสแกนหน้า สแกนตา
Face id น่ะเห็นด้วยแต่กล้องหลายตัวนี่ไม่ใช่แน่นอน น่าจะ huawei เปิดมากกว่า แต่ถ้าสาวกจะหลอกตัวเองเพื่อความฟินก็ตามสบายครับ
Huawei เปิดนี่ไม่ทราบหมายถึงอะไรนะครับ? เผื่อผมเขียนอะไรผิด
เค้าก็ไม่ได้บอกนี่ครับว่าใคร(แอปเปิ้ล) เป็นเจ้าแรก นี่ก็ง้างมาซะเต็มที่เลย เค้าพูดถึงโดยรวม ๆ ครับว่ากล้องเดี่ยวมันตันแล้วผู้ผลิตต่าง ๆ เลยต้องทำกล้องที่ 2-3
ตอนนี้ก็ได้แต่งงๆ ครับไม่รู้ว่าใครที่หลอกใครหรือใครกำลังหลอกตัวเองอยู่ ?
ไม่ชอบสแกนหน้า ชอบสแกนนิัวมากกว่า แต่ถ้ามีทั้งคู่ก็ดี
เลือก Mix 3 เพราะไม่มีติ่ง และไม่มีตุ่ม จบนะ