เดือนกันยายนปีที่แล้ว Spotify จะเริ่มบังคับให้ผู้ใช้งานยืนยันพิกัดตำแหน่งสำหรับผู้ใช้ Family Plan เพื่อยืนยันว่าสมาชิกอยู่บ้านเดียวกันจริง ก่อนที่กระแสจะตีกลับและ Spotify ยกเลิกการทดสอบดังกล่าว
ล่าสุดผมได้รับอีเมลการปรับปรุงเงื่อนไขการใช้งานจาก Spotify สำหรับผู้ใช้พรีเมียมที่ใช้งาน Family Plan โดยเนื้อหาระบุว่าหากเปิดบัญชี Family Plan ใหม่ Spotify จะขอยืนยันที่อยู่บ้านผ่าน Google Maps รวมถึงจะมีการขอสุ่มที่ยืนยันที่อยู่บ้านเป็นครั้งคราว หากพบว่าไม่ปฏิบัติตามกฎของ Spotify (สมาชิกต้องอยู่บ้านเดียวกัน) บริษัทจะระงับการให้บริการ Family Plan ทันที
Spotify ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเริ่มบังคับใช้ 12 กันยายนที่ผ่านมา
ที่มา - Spotify Premium Family Terms
Comments
ดีฮะ จะได้ไปใช้เจ้าอื่นแทน
ก็ใช่เจ้าอื่นไปก่อนเลยก็ได้นะครับ ไม่ต้องรอตรวจสอบ
ไม่เป็นไร อีกไม่กี่วันก็หมดละ จะได้ไปใช้ apple music แทน เสียเงินราคาเต็มแต่ฟังได้ไม่ครบทุกเพลง
รู้สึกทั่วโลกนะครับไม่ใช่แค่ในไทย เห็นในทวิตเตอร์ บ่นกันเต็มเลย
ไม่เคยใช้แบบเสียตังค์อ่ะ ใช้ฟรีตลอด โฆษณานิดหน่อยพอรับได้ จริงๆ เวอร์ชั่นบนโทรศัพท์น่าจะปล่อยให้กดเล่นเพลงได้แบบเวอร์ชั่นบนคอมฯ นะ บนโทรศัพท์เลยใช้ joox เอา แต่ joox มันสก๊อยไปหน่อย มักเผลอไปกดโดนเวอร์ชั่นสก้อยร้องคาราโอเกะ ฝันร้ายชัดๆ ส่วนเพลงไหนชอบมากๆ บวกกับปลื้มศิลปินกดซื้อออฟไลน์ผ่าน iTunes Store เอา
ตลกกกกก
ตลกกกกก
จ่ายเต็มอยู่แล้ว เลยเฉย ๆ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
อ้าว ซวยละ เรากลับบ้านอาทิตย์ละ 2 วัน นอกนั้นมาทำงาน ถ้ามันมาสุ่มตรวจตอนไม่ได้กลับบ้านจะโดนยกเลิกหรอ ? แล้วพี่เรา ก็ทำงานไม่เป็นเวลา ไม่ค่อยได้เจอ แล้วถ้าบังเอิญสุ่มตอนที่ต่างคนต่างไม่ได้อยู่บ้านล่ะ งง
ถ้าบ้านอยู่แอสการ์ดต้องทำไง
:-)
"แอสการ์ดไม่ใช่สถานที่ แต่เป็นผู้คน"
เฉียบ !!
ฉาบ !!
กรอกที่อยู่ให้ตรงกันก็จบหรือเปล่าครับ?
เห็นบอกว่าจะมีสุ่มตรวจด้วยครับ ไม่แน่ใจว่าถ้าโดนตรวจช่วงที่ไม่อยู่บริเวณบ้าน มันจะผิดเงื่อนไขหรือป่าว #ยุ่งยากไปอีก
Big Sis: Dear.. I think it's time to move
Lil Sis: Why [Reynolds meme]
Big Sis: Spotify won't allow us to share "Family Plan", unless we live under the same roof.
Lil Sis: I freaking live in Australia.
/****************/
Boyfriend: Babe, I thing you should consider about moving in with me.
Girlfriend: Why [Reynolds meme]
Boyfriend: So we can share "Spotify's Family Plan" ...You know
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ผมบังคับให้เพื่อนทุกคนกรอกที่อยู่เป็นที่บ้านผม 555
ถ้ามาระงับบัญชีก็ดี จะได้ไปใช้ของที่อื่น หลังๆมานี่จัด Playlist ง่อยมาก
ยากไปอีก เจ้าอื่นนี่ขอแค่ Subscription ก็พอ
อันนี้ Sub อย่างเดียวไม่พอ มี filter อีก
ไม่ง้อลูกค้าบ้างเลย 555
จ่ายให้แต่ joox .. เพราะถูกจริตกว่า
ก็ยังดีที่ไม่ต้องส่งสำเนาทะเบียนบ้านไปให้
คงต้องยกเลิกสมาชิกไป
หาก Netflix ทำแบบนี้ ก็คงต้องยกเลิกอีก ^^
แสดงละ ครอบครัวไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลาซะหน่อย (#`Д´)
edit --
ลองดูใน twitter เจอ post หาคนมาแชร์เยอะมาก
ก็เนี่ย ทำตัวแบบนี้กันอะ คนที่ใช้แบบในครอบครัวจริง ๆ เลยโดนไปด้วย (凸ಠ益ಠ)凸
ถ้าลองทำแบบ netflix ที่ต้องใช้ email password เดียวกันสิ ทีนี้ก็จะหาเฉพาะคนที่สนิทด้วยเท่านั้น
ความเห็นแก่ตัวของผู้คนนี่ น่ารังเกียจมาก ๆ
เมื่อไหร่จะปรับเปลี่ยนกันได้สักที o(TヘTo)
Apple Music ถ้า family plan เวลาคนอื่นซื้ออะไรใน App Store ก็หักบัตรเครดิตของหัว แปลว่าต้องมั่นใจกับระดับนึงอะ
ขอที่อยู่เป็นครั้งคราว แบบนี้ลำบากเลยนะเนี่ย........ ต้องไปหากล้วยมากิน
เหมือนไล่ลูกค้าให้ไปใช้เจ้าอื่น
In the house plan
บ้านผมน้องคนนึงเป็นหมออยู่ต่างจังหวัด อีกคนอยู่ต่างประเทศ จะแชร์กันยังไงละนี่
ใช้ Apple Music แทนครับ เวลานี้คงลำบากถ้า Spotify ยังเป็นแบบนี้อยู่
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
ควรเปลี่ยนชื่อจาก Family plan เป็น Same location plan
+199
office Plan
ถ้าเป็นลูกค้าจ่ายตัง ควรให้สิทธิ ที่ดีกว่าลูกค้าฟรีสิ ทำไมเขาทำแบบนี้ละ
ผมว่ามันเกิดจากผู้ใช้งานเอาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์มากกว่า ชื่อก็เน้นคนในครอบครัว แต่บางทีก็ควรมีข้อยกเว้นถ้าสามารถยืนยันได้ว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกันจริงๆ แต่อยู่คนละสถานที่
และต้องเข้าใจว่าเขาต้องทำเพราะมีคนใช้ผิดวัตถุประสงค์จริงๆ คือไม่ใช่คนในครอบครัวใช้งาน อย่างแต่ละความเห็นในนี้เป็นต้น แล้วเกิดปัญหาสูญเสียรายได้ เพลงที่เอามาลงก็ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์และค่าใช้งานเพลงให้คุณฟังไม่อั้นในราคาที่ถูกต่อเดือน ค่าใช้จ่ายมันเยอะนะครับ
ถ้ามี Group Plan สำหรับคนมีเพื่อนแต่อยากใช้ร่วมกันมาแทน คิดราคาต่างกับ Family Plan มันจะมีปัญหาอะไรแบบนี้อีกไหม ถามจริงนะ ถ้ามีออกมาตั้งแต่ตอนเปิดตัวก็ไม่ต้องโดนบ่น+บอยคอตหรอก
ผมว่าซื้อ MP3 รายเพลงใน iTunes ต่อไป แล้วเอามาแชร์เป็น Playlist ให้ไปหาฟังเองน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ไม่สนับสนุนทำสำเนาส่งไปให้คนอื่น เพราะมันผิดกฎหมาย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
คนโกงพลอยทำให้คนที่ไม่ได้โกงลำบากไปด้วย แต่ปัญหามันก็ต้องจัดการล่ะนะ จะปล่อยไว้ก็คงไม่ได้
That is the way things are.
ก็สงสัยมีคนใช้ผิดวัตถุประสงค์เยอะน่ะครับ
ผมว่าด้วยเทคโนโลยี AI และความเชี่ยวชาญของ spotify ทางข้อมูลสถิติ น่าจะมีผลกระทบเฉพาะกลุ่มที่ใช้ผิดวัตถุประสงค์มากกว่าถ้าพิจารณาเรื่องปัจจัยร่วมอื่นประกอบด้วย เช่น เวลา สถานที่ ความถี่ รูปแบบจุดร่วมของ location ชื่อ นามสกุล ฯลฯ ผมว่าเขาไม่น่าจะใช้ location อย่างเดียวหรอก