คนเล่นเกมจะอาจจะตั้งตารอเกมระดับ AAA ที่มีออกมาอยู่เรื่อย ๆ ในแต่ละปี แต่ทว่า Shawn Layden อดีตบอสใหญ่สตูดิโอเกมของ PlayStation ที่ลาออกเมื่อปีที่แล้ว กลับมองว่าโมเดลการทำเกม AAA ของสตูดิโอเกมกลับไม่น่าไม่ยั่งยืนเท่าไหร่นัก
Layden ให้อธิบายว่าต้นทุนการทำเกมมีแต่จะแพงมากขึ้นเรื่อย ๆ และใช้ระยะเวลานานขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละยุคของคอนโซล โดยต้นทุนเฉลี่ยของเกม AAA ปัจจุบันจะอยู่ที่ราว 80 ล้านถึง 150 ล้านเหรียญ ไม่รวมงบการตลาด ขณะที่ระยะเวลาในการผลิตอาจสูงถึง 5 ปี
อย่างไรก็ตามปัจจัยที่เขามองว่าการทำเกม AAA จะไม่ยั่งยืน ไม่ใช่เรื่องของต้นทุน ขนาดทีมหรือระยะเวลา แต่เป็นราคาขายเกมที่แทบไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยและ Layden ก็มองว่าโอกาสที่ราคาขายปลีกจะปรับขึ้นก็ต่ำมาก ๆ เพราะเกมเมอร์น่าจะต่อต้านและอ่อนไหวอยู่ไม่น้อย
Layden ที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้มากว่า 25 ปีบอกว่ามันเป็นหนึ่งในความแปลกประหลาดของวงการเกม ไม่ว่าต้นทุนจะขึ้นไปแค่ไหน แต่ราคาขายดันเท่าเดิมที่ 59.99 เหรียญมาโดยตลอดตั้งแต่เขาเข้าสู่อุตสาหกรรมเกม (ในไทยก็ราว ๆ 1,800 - 2,000 บาท) และหากอุตสาหกรรมยังหาจุดลงตัวระหว่างต้นทุนและราคาขายที่สมดุลไม่ได้ โมเดลการทำเกมแบบนี้ก็จะยากขึ้นเรื่อย ๆ
ที่มา - GameIndustry
Shawn Layden ภาพจาก Wikipedia (เผยแพร่ด้วยสัญญาอนุญาต CC 3.0)
Comments
อาจจะไม่ยั่งยืน แต่จำเป็นต้องมาความต่างนะถ้่าไม่งั้นคนก็ไม่ซื้อเครื่องสิ
เกม AAA คนละเรื่องกับเกมเอ็กคลูซีฟนะครับ
ราคาเกม 1800-2000 บาทก็กำลังดีแล้วนะ เกมญี่ปุ่นบางเกมก็ขึ้นไป 2000 ปลายๆ เกือบ 3000 บาท (เช่น SD gundam) ถ้าแพงกว่านี้ก็ซื้อไม่ไหว เดี๋ยวนี้ถ้าไม่ day one จริงๆ ผมรอลดราคาอย่างเดียวเลย บางเกมซื้อมาก็ดันดองอีก - -')
หนังก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ หนัง AAA ต้นทุนสูงเหมือนกัน ราคาตั๋วก็ไม่เปลี่ยนแปลงเท่าไหร่
แต่มันเปลี่ยนอยู่นี่ครับ ส่วนเกมนี่ 60 USD มา 3 ทศวรรษแล้วครับ
3 ทศวรรษที่แล้วไม่มี dlc
55555555 +1
ต้นทุนทำเกมตอนนั้นก็ถูกกว่าตอนนี้เยอะมากๆ นะครับ แบบว่าขายได้ 100,000 ชุดก็กำไรแล้ว ในขณะที่ต้นทุนเกม ณ ตอนนี้ต้องขายอย่างน้อย 2,500,000 ชุดขึ้นไปถึงจะกำไร (ถ้าคิดตามข่าว) แถมเกมก็มีเยอะกว่าตอนนั้นอีกครับ
แต่ยุคสมัยนี้ความเสี่ยงในการพัฒนาน้อยกว่านะ
มีทั้งการอัพเดต
การ remaster (รวมถึง repack เอากลับมาขายใหม่) หรือ
port ไป platform อื่น ที่ง่ายกว่า
ไม่มีความเสี่ยงว่า console จะไปไม่รุ่ง หรือ เกมมีบั๊ค
ทั้งหมดมันคือค่าใช้จ่ายเพิ่มเข้ามาครับ ผมว่าค่ายเกมไม่ค่อยอยากทำพอร์ต หรืออยากทำรีมาสเตอร์สักเท่าไหร่ (เห็นได้จากว่าส่วนใหญ่จะจ้างสตูดิโอภายนอกทำ) เพราะว่าอยากจะเอาคนไปทำโปรเจคใหม่ที่มีแนวโน้มจะสร้างรายได้ได้ดีกว่า
การขายของเก่า คนซื้อก็น้อยลง (เพราะหลายคนมีเกมอยู่แล้ว) ขายราคาได้ต่ำลง (เพราะถูกมองว่าเป็นเกมเก่า ทั้ง ๆ ที่หลาย ๆ ครั้งแทบจะเป็นการทำใหม่หมด) บางทีทำแล้วก็ไม่คุ้ม
ผมว่าที่ทำกันจริง ๆ บางทีขาดทุน แต่ทำเพราะเหมือนเป็นการทำการตลาดให้ภาคต่อหรือเกมใหม่ของค่ายมากกว่าครับ
ส่วนเรื่องการอัพเดตนี่ผมมองว่า คือสโคปของเกมสมัยนี้มันใหญ่กว่าเดิมมาก ปัญหาก็เลยเยอะขึ้น บางทีก็จับในช่วง development ไม่ได้ ก็ดันมาเจอใน production ก็ค่อยมาตามแก้ทีหลัง ที่แย่หน่อยคือการแก้บั๊กไม่ได้สร้างรายได้เข้าบริษัทด้วย (ต่างกับพวกซอฟต์แวร์ enterprise ที่สามารถขายซัพพอร์ตได้ ขายการแก้บั๊กได้นี่ล่ะ)
30 ปีที่แล้ว ผมว่าตั๋วหนังไม่ใช่ราคานี้นะ
เอาแค่ 17-20 ปีก่อนนี่ ตั๋วหนัง 70 - 100 นะ เท่าที่จำได้
อันนี้จริง เห็นด้วยเลย
ถ้าราคาเท่าเดิม แต่จำนวนขายเพิ่ม ก็ยังไปต่อได้
แต่ การที่เศรษฐกิจที่ไม่ดี + รสนิยมเด็กรุ่นใหม่ที่เล่น pc/console น้อยลง
ทำให้สถานการณ์ยากขึ้นเรื่อยๆจริงๆ
ถึงปากจะบ่นเรื่องราคาแต่ลดอย่างไว บางเกมออกมาได้ 2 เดือนกว่าๆ ก็รีบลดราคาแล้ว
ตั้งแต่เริ่มเล่นเกม ราคาเกมก็เท่านี้มาตลอด ส่วนนึงที่มองว่า ขึ้นราคายาก
เพราะว่าตั้งราคาขายแพงมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกแล้ว ถ้าตอนนั้น ขายเกมละ 500 เกมละ 1000 มันก็ขึ้นราคามาได้เรื่อยๆ แหละ
3 ปี 5 ปี ขึ้นทีละ 100 200
นี่เริ่มต้นมาก็ 2-3 พันแล้ว จะมาขึ้นอีก ก็ยากละ ต้องหาวิธีเพิ่มรายได้ทางอื่นเอา แบบที่ลูกค้า ไม่ยี้ และต่อต้านมากด้วยนะ
ลูกค้าก็ไม่ได้บังคับคนขายให้ทำ AAA ไม่ใช่หรอ เกมทุนต่ำขายดีมีตั้งหลายเกม พ่อค้าก้ไปคิดเองดิว่า ทำเกมแนวไหนถึงจะคุ้ม ผมว่าราคานี้ มันพอดีทั่วโลกละนะ สมมุติขึ้นไปอีก ประเทศจนๆแบบไทย ซวยเบย
คุณกล้าทำเกม AAA เองก็ต้องรับความเสี่ยงเองว่าจะต้องขายได้และได้กำไร การทำของขายมันก็เป็นความเสี่ยงอยู่แล้วนิว่าจะขายได้มากน้อยแค่ไหน ไม่เกี่ยวหรอกว่าจะเกม AAA หรือ B อยู่ในวงการาตั้ง 25ปี น่าจะรู้อะไรๆ ดีนะ ไม่ว่าเกม AAA จะตั้งราคาแพงกว่าเดิมจาก $60 เป็น $70-90 ถ้าเกมมันดี มันน่าซื้อ เกมเมอร์ก็ซื้อมาเล่นอยู่
เหมือนเกมกากเกมนึง ตัวเกมลดแล้วลดอีก แต่พอร่วมๆ ค่า dlc ก็ไปเป็นหมื่นล่ะ -*- เกมก็เก่า ยังขยันออก dlc อีก .... บ่นไปก็ซื้ออยู่ดี
The Dream hacker..
ซื้อเล่นเองหรือกวางน้อยบังคับซื้อครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
GTA???
Train Simulator แน่ๆ
+1 ชัวร์
The Sims มั้ง
รอดูเกมใหม่บน PS5 ตั้งราคา $100 :-)
ส่วนตัวคิดว่า การมาของเกมอินดี้ยุคเริ่มต้น ที่ขายกันราคาแบบไม่ได้กะทำมาหากิน ขายเอามันส์อย่างเดียว เป็นสาเหตุที่ทำให้ดันราคา AAA ได้ยากขึ้นไปอีก (เพราะมีตัวเลือกที่ถึงจะคุณภาพต่ำกว่ามากแต่ราคาก็ต่ำกว่ามากๆๆ เป็นโมเดล disrupt อันนึงที่พวกบ.สตาร์ทอัพสมัยนี้บางเจ้าใช้เหมือนกัน)
เอาจริง ๆ ก็ทำให้ราคาในกลุ่มอินดี้เองตั้งสูงมากไม่ได้เช่นกัน เพราะโดนเกณฑ์ตั้งราคาที่ต่ำมาก ๆ ในสมัยก่อนกดเอาไว้ (เกมอินดี้หลาย ๆ เกมมีคุณภาพพอจะตั้งราคาได้ $30 สบาย ๆ แต่ดันเลือกจะขายที่ $10 อะไรแบบนี้)
แต่เกมนี่ เรื่องราคามันเกิดจากว่า มัน over-supply ตัวเลือกเยอะ ผู้บริโภคมีเท่าเดิม ทำให้ตั้งราคาสูงมากไม่ได้ครับ
ผมว่า model exclusive แบบ sony มันจะค่อยๆตายไปหลายๆเกมในงานเปิดตัว PS5 ก็เป็น time exclusive เกม exclusive PS4 ก็เรื่มเอามา port ขายบน PC ในขณะที่ xbox ขายเกมทุกที่ที่ขายได้(ยกเว้นเครื่องเกมของ sony) ไม่เลือกลูกค้าสุดท้ายใครชื้อก็กำไร xbox อยู่ดี
แต่เอาจริง ๆ ผมว่า ที่ยังขายในราคานี้กันได้อยู่เพราะว่ามันมีตลาดอุบัติใหม่ อย่างไทยแลนด์ และอื่น ๆ ในภูมิภาค SEA
แต่ก็สงสัยเหมือนกันว่า ถ้าต้นทุนยังสูงขึ้นไม่หยุดแบบนี้นี่ จะยันที่ราคานี้ไปได้อีกนานแค่ไหนกัน :)
ปล. จริง ๆ ต้นทุนบางส่วนก็ลดลงนะครับ แต่ต้นทุนที่แพงที่สุดคือค่าแรงนี่ล่ะ นี่ขนาดว่าค่าแรงในสายเกมนี่ต่ำที่สุดในบรรดา IT ด้วยกันแล้วนะ ...
แต่ก็ขายได้กำไรอยู่นี่นา
หรือว่ามีเกม AAA หลายเกมที่ทำ บ.ขาดทุน เค้าถึงบอกว่าไม่เวิร์ค