หลังโซนี่เลือกเดินคนละแนวทางกับไมโครซอฟท์ที่ออก Xbox 2 เวอร์ชัน 2 สเปคในราคาแตกต่างกันด้วย PlayStation 5 ที่เหมือนกัน 2 รุ่น แต่ต่างกันแค่แผ่นใส่ดิสก์ในราคาที่ต่างกัน 100 เหรียญ (499 และ 399 เหรียญ)
Michael Pachter นักวิเคราะห์จาก Wedbush Securities มองว่าไพ่นี้ของโซนี่ถือว่าพลาดโดยเฉพาะจากแง่มุมการทำธุรกิจ เพราะต้นทุนของ PlayStation น่าจะอยู่ที่ 450 เหรียญเข้าไปแล้ว ซึ่งรุ่นที่มีแผ่นที่ 499 เหรียญอาจจะแค่คุ้นทุนเมื่อดึงกำไรจากการขายเกม แต่สำหรับ Digital Edition ที่ขาดทุนไป 50 เหรียญ Pachter มองว่าเกมเมอร์ไม่มีทางซื้อเกมเอ็กคลูซีฟ (ที่กำไรแผ่นละราว 6 เหรียญ) มากพอที่จะทำให้ Digital Edition ทำกำไรได้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Pachter มองว่าคนส่วนใหญ่จะซื้อเวอร์ชันมีแผ่นมากกว่าเพราะมีตัวเลือกมากกว่า โดยเฉพาะการแบ่งแผ่นเพื่อนเล่นหรือขายต่อ เขาบอกด้วยว่าแม้ตอนนี้จะคาดการณ์ยอดขายทั้ง 2 เวอร์ชันยากก็ตามเพราะถูกพรีออเดอร์ไปเกลี้ยงสต๊อค แต่ในระยะยาว Digital Edition น่าจะขายได้น้อยลงและถูกผลิตน้อยลง
ก่อนหน้านี้ ซีอีโอของ SIE ยืนยันว่าโซนี่กำหนดราคา PS5 มาตั้งแต่ต้นปีแล้ว ตั้งใจให้ไม่ต่างจาก PS4
ที่มา - Gaming Bolt
Comments
ส่วนตัวคิดว่า โซนี่ไม่ได้คิดราคาผิดพลาดหรอกนะ การขายเกมใน PlayStation Store กำไรย่อมมากกว่าขายเป็นแผ่นอยู่ละ และการที่ขายตัว Digital Edition มาเนี่ย โซนี่สามารถคืนทุนผ่านการขายบน PlayStation Store ได้อยู่แล้ว ไม่น่าจะส่งผลอะไรมาก
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ที่ใด้ยินมา กำไรอยู่ที่ 30% แถมเจ็นหน้าอาจจะขยับราคาแผ่นขึ้นเป็น $70 กำไรไม่ไช่เกมส์ละ $6 แน่ๆ ครับ
ที่ออกมาเป็น $6 น่าจะเป็นส่วนต่างกำไรของ แผ่น - ดิจิตอล มากกว่า
$60 * 0.7 * 0.3 = 12.6
$60 * 0.3 = 18
... ซึ่งคิดว่า จริงๆ sony คืนทุนใด้แน่ เพราะคนที่ซื้อเครื่องตอนแรกๆ มักจะซื้อเกมส์เยอะ + มีเวลา 6 ปี + กำไรอื่น เช่นค่า psn
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
จริง ๆ มันมีเรื่องส่วนแบ่งค่าเช่าพื้นที่ขายสินค้าในร้านด้วยนะครับที่ต้องคิดบวกเพิ่มไปอีก margin ยังไงดิจิทัลย่อมได้เยอะกว่าทำแผ่นออกขายครับ
สรุปง่าย ๆ คือ ถ้าขายแบบ physical มันจะมีทั้งส่วนแบ่งที่แบ่งกับร้านค้า, ต้นทุนแผ่น กล่อง และใบปะหน้าบลูเรย์ และค่าใช้จ่ายแฝงอื่น ๆ อีก ส่วน digital จะมีแค่ค่าส่วนแบ่งกับทาง PlayStation Store
นี่ยังไม่นับประเด็นเรื่องขายแผ่นมือสองอีกนะ ยังไง ROI ของแบบดิจิทัลก็ได้แบบเหนาะ ๆ เลย
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เรื่องต้นทุนทำแผ่น วางขายหน้าร้าน น่าจะเฉพาะเกมของ sony นะครับ ถ้าเกมของเจ้าอื่น(ซึ่งเยอะกว่า) ไม่ว่าแผ่นหรือ digital แล้ว sony ก็ได้หัก 30% เท่ากันอยู่ดีหนิครับ
อันนี้พูดในภาพรวม ๆ เฉย ๆ ครับ ว่ามันเป็น cost ที่ต้องจ่ายสำหรับการทำแบบ physical
Coder | Designer | Thinker | Blogger
คนวิแคะเค้าไม่รุ้จักสตีมหรือไงนะ
The Last Wizard Of Century.
ฝั่ง PC มันมีปัญหาว่าระบบ DRM สำหรับเกมแผ่นเมื่อ 15 ปีที่แล้วมันจำกัดจำนวนครั้งที่ลงได้ (อย่างของ EA ลงได้ 5 ครั้ง) แต่ digital download มันไม่จำกัดจำนวนครั้งและเครื่องที่ลงได้ แต่จำกัดว่า ณ เวลาใดๆ จะมีแค่เครื่องเดียวที่เล่นได้ มันเลยทำให้ PC เข้าสู่ยุค digital download ได้สมบูรณ์ ส่วน console มันขอแค่เป็นแผ่นแท้ก็เล่นได้ แต่บางเกมมีจำกัดโหมดไว้ ซึ่งส่วนใหญ่ที่จำกัดไวเป็นโหมด multiplayer ครับ
ผมมองต่างเพราะยังไงติดแบบซื้อดิจิตอลไปล่ะคงไม่กลับไปเก็บแผ่นอีกแล้ว
ไม่เห็นชื่อ Michael Pachter มาพักใหญ่เลยนะนี่ เมื่อไหร่ Nintendo จะเจ๊งตามที่แกว่าไปสักทีนะ
เติม plus ปีนึงก็ได้ทุนคืนแล้วมั้ง
ผมซื้อแบบ digital เพราะเบื่อเวลาเปลี่ยนเกมต้องคอยเปลี่ยนแผ่นไปด้วย
แล้วเกมแบบ digital sale บ่อยกว่า ถูกกว่าแบบแผ่น แต่รอนานหน่อยกว่าจะลด
และเกมบน ps4 หลายเกมของผมมีแต่ download หมดแล้ว เลยเลือกแบบ digital
แต่ก็คิดว่าเครื่องแบบใส่แผ่นได้ น่าจะขายได้มากกว่า
เพราะราคาต่างกันแค่ 100 เดียว ซื้อเผื่อไว้ก็ไม่เสียหาย คงมีคนคิดแบบนี้เยอะกว่า กลัวต้องใช้แล้วไม่มี
ตั้ง 100 เหรียญเลยนะครับ.
คนใช้ดิจิตอลยังไงก็ซื้อเกมส์ ซื้อ Plus ผ่าน Store อยู่แล้ว
มันเป็นช่องทางเดียว แล้วจะขาดทุนได้ยังไง เผลอๆ คืนทุนตั้งแต่ซื้อ Plus
แถมไม่เสียต้นทุนในการปั๊มแผ่นขายอีก
PS6 ก็คงต้องขายเครื่องขาดทุนต่อไปอีก ต้องเป็นแบบนี้อีกนานเท่าไหร่
เห็นในกลุ่มเกมบอกว่า นักวิเคราะห์คนนี้
เรียกได้ว่า เป็นคนที่วิเคราะห์ไปทางไหน
ผลจะไปในทิศตรงข้ามเสมอ
ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนถึงให้ราคาคำพูดของคนแบบนี้
ถ้าเป้นแบบนั้น เค้าก็แม่นนะครับ แม่นแบบแทงสวนได้เลย
ที่แท้เป็นราชาชาวสวนหรอกหรือนี่
ใช่เลยครับ
ข้อเสียจริงๆคือเนื้อที่ SSD มันน้อยเกินไปมากกว่า