Adam Conover อดีตทีมงาน CollegeHumor ให้สัมภาษณ์กับช่องยูทูบ The Serf Time พูดถึงข่าวซีรีส์ The Legend of Zelda แบบคนแสดง ที่ Nintendo เคยจะร่วมมือสร้างกับ Netflix ซึ่ง Wall Street Journal ลงข่าวไว้เมื่อปี 2015 แต่หลังจากนั้นก็เหมือนจะถูกยกเลิกไปโดยไม่มีสาเหตุ
Conover ให้ข้อมูลว่าเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะช่วงที่เขาอยู่ CollegeHumor บริษัทเขาเกือบได้ทำสต็อปโมชั่นดินน้ำมัน (Claymation) จากเกม Starfox และโปรเจกต์เดินหน้าไปถึงขั้นที่ Shigeru Miyamoto ผู้สร้าง Mario, The Legend of Zelda และ Star Fox ได้มาเยี่ยมสำนักงาน CollegeHumor แล้ว
แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เล่าว่ามีข่าวออกมาว่า Netflix จะไม่ได้ทำ The Legend of Zelda แล้ว และ CollegeHumor ก็จะไม่ได้ทำ Star Fox แล้วเช่นกัน เขาเลยถามหัวหน้าของเขาว่าเกิดอะไรขึ้น และหัวหน้าของเขาก็บอกว่ามีคนที่ Netflix ทำข้อมูลเรื่องนี้หลุด Nintendo เกิดความกังวล จึงสั่งพับโครงการทั้งหมดเกี่ยวกับซีรีส์และรายการโทรทัศน์
Nintendo เป็นอีกบริษัทที่ยึดถือเรื่องการรักษาความลับมาก น่าจะใกล้เคียงกับในระดับ Apple และจะปฏิเสธทุกครั้งหากมีข่าวลืออะไรเกี่ยวกับบริษัทออกมา ทำให้มีความเป็นไปได้ที่เมื่อข่าวการสร้างซีรีส์ครั้งแรกๆ จากแฟรนไชส์เกมสำคัญๆ หลุดออกมา อาจทำให้ Nintendo เกิดความกังวลจนพับโครงการไป เป็นที่น่าเสียดายที่ครั้งหนึ่งเราเกือบจะได้เห็น Zelda แบบคนแสดง และ Star Fox ในรูปแบบสต็อปโมชั่นกันแล้ว
ที่มา - The Serf Time via Kotaku
เรื่อง Zelda เริ่มประมาณ 39.07
Comments
คิดว่าถ้าใส่คำอธิบายว่า shigeru miyamoto เป็นใคร น่าจะอ่านเข้าใจมากกว่านะครับ
ทำไมอ่อนไหวจัง
ถ้าเป็นเรื่องเกมยังพอว่า ว่ากลัวไอเดียหลุด
หรือเรื่อง HW/SW ก็อาจจะกลัวโดนเลียนแบบฟีเจอร์
แต่นี่แค่เรื่องสร้างหนังจากเกม กลัวอะไรกันหนอ
หรือกลัวว่าจะมีคนสร้างหนังจากเกมมาเลียนแบบ แต่เขาก็สร้างกันโครมๆอยู่แล้วนี่นา
เพราะโปรเจคยังไม่แน่นอนว่าจะฉายจริง ถ้าทำแล้วไม่ชอบอาจจะถูกสั่งพับ ณ.จุดนั้นยังไม่มีความแน่นอนอะไรทั้งสิ้นครับ
และถ้ารักษาความลับไม่ได้ ก็แสดงให้เห็นว่าเชื่อถือไม่ได้ ถ้าให้ทำต่อก็มีโอกาสที่จะมีข้อมูลหลุดอีก ดังนั้นยกเลิกไปตั้งแต่ต้นเลยก็จะดีกว่า ในขณะที่ที่มันยังไม่เสียหายมากนัก
อันนี้ปรกติครับ ธุรกิจไหนก็ทำกันแบบนี้ ส่วนคนที่ชอบเอาข่าวหลุดมาเผยแพร่บางคนก็ไม่สำนึกว่าทำให้ใครตกงานมาแล้วบ้าง
ทำตามนโยบายและข้อตกลงไม่ได้ ก็จบกัน
ก็ดูแข็งขันดีนี่ครับ ไม่เห็นจะอ่อนไหวตรงไหน :-)
มีหลายอย่างที่จริง ๆ ของเค้าดี แต่เพราะก่อนออกดันมีข่าวลือมั่ว ๆ สร้างกระแส overhype มาก ๆ พอออกจริงเลยกลายเป็นโดนด่าครับ
ทำไมถึงคิดว่าความสื่อสัตย์เป็นเรื่องเล็กน้อยละครับ?
The Dream hacker..
หลายอันมากเลย ไม่รู้จะตอบใครก่อนดี ตอบอันนี้แล้วกันครับ
ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อน ผมไม่ได้สงสัยว่ายกเลิกทำไม ถ้าในสัญญาบอกว่ามีข้อมูลแพร่งพรายก็ยกเลิก อันนี้ก็ตามนั้น ก็ทำตามสัญญาเพราะผิดสัญญา
แต่ที่สงสัยคือทำไมแค่ข้อมูลหลุดว่าจะมีการสร้างหนัง แค่นี้ก็ยกเลิกแล้ว จริงอยู่มีหนังหลายๆเรื่องที่ปกปิดข้อมูลขณะสร้างงาน อย่างหนังมาร์เวลหรือสตาร์วอร์ ก็ไม่เปิดเผยสถานที่ถ่ายทำ ไม่เปิดเผยบทแม้แต่กับนักแสดง
แต่แค่ขั้นตอนจะมีการสร้าง ไม่ว่าจะโปรเจคยักษ์ โปรเจคเล็กน้อย ข่าวร่ำข่าวลือข่าวหลุดมันก็มีอยู่แล้วมากมายในระดับหนึ่ง บางเรื่องจะสร้างแล้วเลิกจะเลิกแล้วสร้าง ก็มีข่าวลือเยอะแยะ ถ้าไม่ใช่ระดับหลุดเนื้อเรื่องทั้งหมด หลุดฟุตเทจของหนัง หลุดตอนจบ ขนาดนั้น ก็ไม่ได้เป็นปัญหายิ่งใหญ่ขนาดจะยกเลิกเลย ไม่ใช่จะสนับสนุนคนเอาข้อมูลหลุดออกมานะ แต่เรื่องข่าวร่ำข่าวลือข่าวหลุดมันมีอยู่บ้างอยู่แล้วในวงการ และเค้าก็รับมือกับมันไม่ใช่ยกเลิกไปหมดทุกโปรเจค
เลยอยากรู้น่ะครับ ว่าทำไมถึงขั้นยกเลิก
แต่เอาจริงๆ พอกลับไปอ่านเนื้อข่าวอีกที
เขาบอกแค่ว่าข้อมูลหลุด ไม่รู้มากขนาดไหน ผมอาจจะไม่เคลียร์เอง อาจจะหลุดระดับยิ่งใหญ่ก็ได้
ผมว่า ไม่ต้องคิดเผื่อไปเยอะอ่ะครับ บริษัทคู่ค้าทำข้อมูลหลุดก็คือจบ ยิ่งบริษัทญี่ปุ่นยิ่งเข้มเรื่องนี้มาก
อีกอย่าง ไอ้ข่าวหลุดข้อมูลหลุดของหนังสมัยนี้อ่ะ หลายๆ อันมันก็หลุดแบบตั้งใจนะครับ Marketing ชนิดหนึ่งน่ะ
ข่าวบอกแค่ว่ายกเลิกการสร้างกับ Netflix ไม่ใช่ยกเลิกสร้างทุกอย่างไปเลยครับ
ตอนนี้อาจจะมีสตูดิโอไหนที่กำลังสร้างอย่างลับๆอยู่ก็ได้ หรืออาจจะยกเลิกไปแล้วไม่ทำอีกเลยก็เป็นไปได้เหมือนกัน
ถ้าเป็น Warner Bros แบบ Death Note Live Action ผมว่าน่าจะโอเคนะครับ (ถึงแม้จะรวบรัดเนื้อเรื่องไปค่อนข้างเยอะ)
เขาอยากร่วมงานกับมืออาชีพ ไม่ใช่พวกขี้สปอย
บริษัทคู่ค้าทำความลับบริษัทคุณหลุดนะครับ คุณยังอยากทำธุรกิจกับเขาต่ออีกเหรอ?
ความลับทางการค้า (Trade Secret) เป็นเรื่องปกติของธุรกิจครับ ธุรกิจต่าง ๆ มักจะปกปิดโครงการบางอย่างเพื่อไม่ให้คู่แข่งรับรู้ เพื่อความได้เปรียบทางธุรกิจ และยิ่งเฉพาะโครงการบางอย่างที่ทำกันระหว่างสองบริษัท ก็ยิ่งต้องกังวลเป็นพิเศษ เพราะโอกาสที่ข้อมูลความลับทางการค้าหลุดออกไปยิ่งมากขึ้น (เหมือนกรณีของ Apple และ Kia)
Coder | Designer | Thinker | Blogger
มาเริ่มใหม่ตอนนี้ก็ได้นะ รอดู
แล้วเหตุผลที่เลิกทำก็หลุดมาอีก สรุปเก็บอะไรไว้ไม่ได้เลย 555
Starfox > Star Fox
เห็นด้วยไม่ว่าหนังหรือเกมถ้าเล่นเองพบเองมันสนุกกว่ารู้ล่วงหน้าอยู่แล้วในหลายครั้ง ถ้าแค่เริ่มยังหลุดคงไม่กล้าไปต่อก็ปกติ
หรือนี่เป็นสาเหตุที่เรายังไม่เห็น Nintendo switch pro เพราะมีข่าวหลุดนี่เอง เลยยกเลิกไปเลย 555 (อันนี้ขำๆนะครับ)
ถ้าผมไม่อยากให้ปู่นินทำอะไรก็หากุข่าวลือขัดขาสินะ