Jackson Palmer ผู้สร้างเหรียญน้องหมาชิบะ Dogecoin ออกมาทวีตยาวเป็นเธรด ระบายถึงความย่ำแย่ของเงินคริปโต หลังถูกถามบ่อยครั้งว่าจะกลับมาสู่โลกคริปโตหรือไม่ โดยเขาบอกอย่างชัดเจนว่าจะไม่กลับมายุ่งแน่นอน พร้อมพูดถึงข้อเสียยาวเหยียด
Palmer บอกว่าสุดท้ายแล้วเงินคริปโตก็เป็นเทคโนโลยีทุนนิยมเต็มขั้นของฝ่ายขวา ที่จะทำให้คนที่รวยอยู่แล้วรวยยิ่งขึ้นไปอีก เพราะหลบเลี่ยงภาษีได้ง่าย มีการบังคับตรวจสอบที่หละหลวม และมูลค่าก็เกิดจากการตั้งใจทำให้ซัพพลายมีน้อย (enforced scarcity)
เขาบอกว่าถึงระบบจะอ้างความไม่มีตัวกลาง แต่สุดท้ายแล้วก็ถูกควบคุมโดยคนรวยไม่กี่คน ที่สุดท้ายก็เอาสถาบันการเงินต่างๆ เข้ามาเกี่ยว ไม่ต่างจากระบบธนาคาร แถมยังมีการหลอกลวง ซื้อสื่อและอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อมาหลอกเอาเงินจากคนที่ไม่รู้ หรือต้องการเงินมากๆ
นอกจากนี้ยังไม่มีมาตรการต่างๆ ที่ค่อยปกป้องคนทั่วไป เช่นการตรวจสอบบัญชี ข้อบังคับทางการเงินต่างๆ และการเก็บภาษี แถมยังเป็นระบบที่โยนความผิดให้ผู้ใช้เอง เช่นพาสเวิร์ดหาย ก็เป็นความผิดผู้ใช้ โดนหลอก โดนสแกม ก็เป็นความผิดผู้ใช้ ส่วนพวกคนรวยที่ปั่นตลาด ก็ถูกมองเป็นอัจฉริยะ
สุดท้ายเขาบอกว่าเดี๋ยวนี้ใครตั้งข้อสงสัยเรื่องเงินคริปโตก็จะถูกคนมีอำนาจในวงการ และลูกหาบที่คนเหล่านี้ขายฝันว่าวันหนึ่งจะเป็นเศรษฐีได้มารุมโจมตี และบอกว่าเขาไม่มีพลังพอจะมาโต้เถียงประเด็นนี้กับคนที่ไม่ต้องการรับฟัง แต่บอกว่าชื่นชมคนที่ยังตั้งคำถามกับเรื่องนี้ต่อ พร้อมบอกว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้โลกนี้ดีขึ้นได้จริง แต่ต้องคำนึงถึงผลกระทบทางสังคมและการเมืองที่จะตามมาด้วย
ปัจจุบันระบบการเงินไร้ตัวกลาง และเงินคริปโตยังเป็นเรื่องใหม่ที่ยังไม่มีการควบคุมมากนัก และการไม่มีตัวกลางควบคุมที่เคยถูกมองเป็นข้อดี จริงๆ แล้วก็อาจมีข้อเสียในตัวเองได้ เมื่อไม่มีตัวกลาง เท่ากับขาดการควบคุม ที่แม้หลายคนจะมองว่าการควบคุมเป็นอุปสรรค แต่ก็อาจลืมไปว่าเพราะมีการควบคุมนี่แหละ เงินของผู้ลงทุนจึงปลอดภัย
อนาคตของเงินคริปโต และวงการการเงินไร้ตัวกลางจะไปทางไหน และจะมีจุดสมดุลระหว่างการไร้ตัวกลาง การควบคุม และความปลอดภัยหรือไม่ หนทางของเงินคริปโตยังอีกยาวไกล และผู้ที่สนใจคงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อไป
ที่มา - Jackson Palmer
I am often asked if I will “return to cryptocurrency” or begin regularly sharing my thoughts on the topic again. My answer is a wholehearted “no”, but to avoid repeating myself I figure it might be worthwhile briefly explaining why here…
— Jackson Palmer (@ummjackson) July 14, 2021
Comments
เห็นด้วยครับ คนรวยปั่นราคาได้ง่ายมาก
ถ้า mcap มันใหญ่พอก็น่าจะโดนลากได้ยากขึ้น แต่น่าจะต้องใหญ่กว่าทองพอสมควร เพราะทองตอนนี้ก็ยังโดนทุบโดนลาก แถมโดนทุบทีโดนยาว10ปี
ยังคิดไม่ออกว่าจะโตกว่าทองไปได้ยังไง ในเมื่อยังใช้ซื้อขายเป็นตัวกลางจริงๆแทบไม่ได้เลยครับ แถมโดนจีนแบนเพิ่มไปอีกก็ยิ่งหนัก
ที่ว่ามาทองก็เป็นไม่ได้นะครับ
ได้บางอย่างครับ เห็นบ่อยๆ ก็สินสอด ?
Manopulation
exchange นี่แหละตัวคุมตลาด decentralized exchange ก็เหอะไม่ต่างกัน ออกproduct แต่ละตัวนี่ยังกับคาสิโน
แต่ p2p มันก็ไม่พอ ถ้าไม่มีexchangeมันก็ไม่โตขนาดนี้
ผมว่าบทความนี้มันมีความย้อนแย้งในตัวเองแปลกๆ มันไม่น่าแปลกใจอะไรเลย ถ้าส่ิงที่ออกมาจากปากของผู้สร้าง meme coin อย่าง Dogecoin จะออกมาให้ความเห็นทำนองนี้ เพราะตั้งใจสร้างมาล้อเลียน BTC และไม่ได้เชื่อในคริปโตตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ยังไงอย่างน้อยๆ ดีมานด์ที่มีอยู่ผมก็ยังคิดว่ามันคือดีมานด์จริง และความจำกัดของ BTC ก็ยังคงเป็นจริงอยู่ แม้บางครั้งมันตัวมันเองจะถูกท้าทายมีการลากทุบ แต่มันก็พิสูจน์ตัวเองและยังยืนหยัดอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้
ผมเชื่อใน crypto currency & blockchain นะครับ (แม้ว่าแทบไม่มีอยู่เลย) แต่ที่เค้าว่ามานี่ก็ถูกอยู่และไม่ได้ส่งผลต่อความอยู่รอดของระบบนะครับ
ผมยังเชื่อใน demand & supply อยู่ครับและด้วยความที่มันมีจำกัด ซึ่งสุดท้ายถ้ามันไปกระจุกไม่มีการแจกจ่ายหรือเอามาใช้งาน มันก็จะเสื่อมค่าลงไป เมื่อมันเสื่อมค่าไปถึงระดับหนึ่งก็ต้องยอมคายออกมาเพื่อ stop loss ซึ่งกรณีนี้ต้องแยกพิจารณาระหว่าง BTC กับ Dogecoin ออกจากกันนะครับ มุมมองผมอาจจะผิดก็ได้ แต่ ณ ตอนนี้ผมก็ยังเชื่อแบบนี้อยู่
ถ้าจำไม่ผิดคนๆ นี้ช่วงปี 2015 ขายหมาทิ้งหมด ปริมาณน่าจะหลายล้านเหรียญ แต่มูลค่าช่วงนั้นเท่ากับรถ Honda Civic มือสอง แค่นั้นเอง
ทุนนิยมก็ต้องเป็นแบบนี้ไม่ใช่หรอ ทุนหนาก็มีอำนาจมากกว่า
ตราบใดที่ยังแลกเป็นเงินจริง และยังมีความผูกพันธ์กับเงินจริง (เช่นต้องใช้เงินจริงซื้อการ์ดจอมาขุด) คนที่ถือเงินสดยังไงก็ได้เปรียบอยู่แล้วครับ
เพชรมีมูลค่าเพราะกลุ่มคนรวยทำการตลาดต่อเนื่อง แต่เดิมคนมองว่าก็แค่ก้อนคาร์บอน อันนี้คงเหมือนกันล่ะมั้ง
เอ ผมว่าเหมือนกันเลย กลุ่มคนที่ควบคุม supply ก็ค่อยๆปล่อยเพชรออกมาไม่ให้ล้นตลาดเพื่อให้หายาก enforced scarcity ตามข่าว 555
คิดต่าง
Central Bank Digital Currency (CBDC) มาแน่นอน
การที่รัฐบาลจีน กำจัด เงิน ผิดกฏหมายออกไปทั้งหมด เขามีแผนอยู่แล้ว
1. ไล่เหมืองขุดออกนอกประเทศ
2. เอา quantum computer มาขุดเหรียญ ดูสิใครจะมาแข่ง
ดังนั้นหมดยุค การใช้ พลังงานโดยสิ้นเปลืองแล้ว