นักพัฒนา กับ โชห่วย อาจดูไม่เข้ากันเท่าไรนัก แต่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปหลัง TD Tech บริษัทเทคโนโลยีค้าปลีก ที่ขับเคลื่อนธุรกิจด้วย World Class Retail Platform เข้ามายกระดับโชห่วยด้วยนวัตกรรม

ไล่ตั้งแต่ระบบการจัดการภายในร้าน, การบริหารสต๊อกสินค้า, การทำโปรโมชัน และการทำตลาดรูปแบบอื่น ๆ แถมไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในประเทศไทย แต่เตรียมยกระดับโชห่วยในอาเซียนด้วย

เรียกว่าค่อนข้างท้าทาย เพราะโชห่วยในภูมิภาคนี้ล้วนเดินหน้าธุรกิจโดยผู้สูงอายุ หรือคนที่ไม่เข้าใจในเทคโนโลยี ซึ่งน่าสนใจว่า TD Tech จะฝ่าความท้าทายนี้ได้อย่างไร

TD Tech จะทำภารกิจสำเร็จตามเป้าหมายหรือไม่ และความสนุก ความท้าทายในการเอาเทคโนโลยีไปใช้ร้านโชห่วยที่บางรายยังใช้กระดาษทำบัญชีอยู่คืออะไร ติดตามคำตอบได้ในบรรทัดถัดไป

เทคโนโลยี กับ โชห่วย ไปด้วยกันได้

จุดเริ่มต้นของการนำ เทคโนโลยี มายกระดับ โชห่วย มาจากการที่ คุณเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร เดินหน้าธุรกิจเครือข่ายร้านสะดวกซื้อ ถูก ดี มีมาตรฐาน โดยมีจุดเด่นเรื่องการเข้าไปยกระดับร้านโชห่วยเดิมให้มีการบริหารจัดการที่ดีขึ้น แต่ยังมีความเป็นโชห่วยดั้งเดิม โดยเฉพาะบรรยากาศการให้บริการที่เป็นกันเอง

หากเจาะไปที่เทคโนโลยีจะพบว่า การบริหารจัดการทั้งหน้าร้าน และหลังร้าน จะมีเทคโนโลยีติดอาวุธธุรกิจทั้งหมด ไล่ตั้งแต่การบริหารจัดการสต๊อกสินค้า, การซื้อสินค้าที่มีโอกาสขายได้, การนำฐานข้อมูลมาวิเคราะห์ว่าแต่ละพื้นที่สินค้าไหนยอดนิยม จนถึงการทำโปรโมชัน และการทำบัญชี

ปัจจุบัน ถูก ดี มีมาตรฐาน เติบโตในระดับ 10 เท่า ทั้งในแง่ของจำนวนสาขา และยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีการตั้งเป้ามี 20,000 สาขา ภายในปี 2565 นอกจากนี้ยังมีแผนขยายไปให้บริการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หนึ่งในพื้นที่ที่มีร้านโชห่วยแบบเก่าอยู่จำนวนมาก

โอกาส และความท้าทายของนักพัฒนา

เมื่อ TD Tech ต้องการยกระดับการใช้งานเทคโนโลยีของร้านโชห่วย แต่ร้านเหล่านี้ล้วนทำทุกอย่างด้วยมือ จดบัญชี และจดสต๊อก ทั้งยังขับเคลื่อนด้วยคนวัย Baby Boomer หรือ Gen X ที่อาจไม่เชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยีใหม่ ๆ เท่าไรนัก จึงเป็นความท้าทายของนักพัฒนาที่จะทำอย่างไรให้คนเหล่านี้ใช้งานเทคโนโลยีได้ง่าย และดีที่สุด

TD Tech จึงนำ Consumer Insights ประกอบกับการใช้ Tech Stack ที่มีความ World Class และ Top Technology Edge ที่สะดวกต่อการทำงาน เพื่อสร้าง World Class Retail Platform ที่พัฒนา และออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการ และใช้งานของคนไทย

เมื่อผสานกับตัวระบบที่ครอบคลุมตั้งแต่งานหลังบ้านจนถึงปลายน้ำ หรือเครื่อง POS และแอปพลิเคชันเพื่อเชื่อมต่อกับระบบอื่น ๆ เท่ากับว่า TD Tech และ World Class Retail Platform คือความท้าทายใหม่ของนักพัฒนา เพราะนักพัฒนาคือคนที่นำเทคโนโลยีซับซ้อนมาทำให้ง่ายต่อผู้ใช้งาน

ซัพพอร์ตเต็มที่ วัฒนธรรมองค์กรแบบทีม

สำหรับการทำงานของ TD Tech บริษัทจะใช้แนวคิด บริษัทคนไทย จัดการโดยคนไทย แต่เทคโนโลยีไม่แพ้ใคร ผ่านการมีคนเก่ง ๆ จากบริษัทต่างชาติมาช่วยขับเคลื่อน พร้อมใช้หลักการ Agile ในการทำงาน แต่อยู่ในรูปแบบ Scrumban ที่ผสานการทำงานแบบ Scrum กับ Kanban เข้าด้วยกัน

และมองว่าคนสร้าง คือคนซ่อมที่ดีที่สุด เพื่อสร้างความภูมิใจ และความเป็นเจ้าของให้กับคนสร้าง พร้อมกับมีผลตอบรับการใช้งานจากผู้ใช้จริงทันที ดีกว่าการสร้างออกมาแล้วผลิตภัณฑ์ไปใช้งานที่อื่น แถมการฟีดแบ็คอาจมีไม่เยอะ เท่ากับว่า งานของ TD Tech ไม่ได้จบแค่ Sprint Done แต่จะถูกใช้งานตลอดไป

ส่วนวัฒนธรรมองค์กร TD Tech จะเน้นการทำงานแบบทีม แต่เปิดกว้าง และให้อิสระในการทำงานสูง ช่วยให้เกิด Self-Management และ Self-Improvement นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมการพัฒนาตัวในหลายแง่มุม เช่น Online Tutorial อาทิ Coursera, Pluralsight และ Udemy เป็นต้น

ร่วมงานกับ TD Tech ผ่าน Virtual Walk-in Interview

จากปัจจัยข้างต้น ทำให้ TD Tech ถูกพูดถึงในกลุ่มนักพัฒนาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องความสนุก และท้าทายของการทำงาน จนปัจจุบันมีนักพัฒนาอยู่ในองค์กรกว่า 200 คน แต่ด้วยการขยายของธุรกิจทำให้บริษัทต้องการนักพัฒนาเพิ่มอีกเท่าตัว หรือกว่า 200 คน เพื่อฟื้นธุรกิจโชห่วยไทยด้วยเทคโนโลยี

นอกจากนี้ TD Tech ยังเปิด Regional Office เพิ่มเติมในจังหวัด เชียงใหม่ เพื่อสร้างคอมมูนิตี้ของนักพัฒนาในภาคเหนือให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทีม TD Tech ได้อย่างสะดวก และไม่ต้องย้ายที่พักอาศัยมาอยู่ในสำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพมหานคร

ล่าสุด TD Tech จัดงาน TD Tech Virtual Walk-in Interview ในวันเสาร์ที่ 23 เม.ย. 2565 ผู้สนใจสามารถสมัครมาได้ที่ https://www.tdshop.io/virtual-interview ตั้งแต่วันนี้ – 19 เม.ย. 2565 ใครที่อยากสร้าง World Class Retail Platform พลาดไม่ได้