กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ร่วมกับ กสทช. และ AIS แถลงข่าวการจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกรุงเทพ ที่แอบติดตั้งกล่อง Sim Box ที่หนึ่งกล่องบรรจุซิมการ์ดจำนวนมาก ตามบริเวณอาคารสำนักงานต่างๆ เพื่อใช้เป็นจุดโทรไปหลอกลวงประชาชน
กล่อง Sim Box หรือ GSM Gateways ที่จับกุมได้รองรับการใส่ซิมการ์ด 32 ซิมต่อกล่อง กระจายตัวอยู่ 5 จุดทั่วกรุงเทพ รวมแล้ว 10 กล่อง วิธีการใช้งานคือคนร้ายจะโทรผ่านอินเทอร์เน็ต ส่งทราฟฟิกมายัง Sim Box เพื่อให้ฝั่งผู้รับเห็นเป็นเบอร์โทรศัพท์ปกติ (ไม่ใช่หมายเลข IP Phone ที่มี prefix นำหน้า ซึ่งคนเริ่มเรียนรู้และไม่กล้ารับสายแล้ว)
พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช.ด้านกฎหมายและประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยี แถลงว่าช่วงหลัง กสทช. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กวาดล้างเสาโทรคมนาคมผิดกฎหมายตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ย้ายกลับเข้ามาตั้งฐานในประเทศไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพ และใช้วิธีโทรผ่านกล่อง Sim Box แทน
เดิมที แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้วิธีเช่าบ้าน ตั้งเราเตอร์เพื่อต่อกับกล่อง Sim Box จำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจจับการใช้งานที่มากผิดปกติได้ง่าย แต่ภายหลังเปลี่ยนมาใช้วิธีเช่าอาคารสำนักงาน ใช้เราเตอร์ของอาคาร เพื่อแฝงตัวกับปริมาณการใช้งานของอาคาร แถมดัดแปลงรูปลักษณ์ภายนอกของกล่อง Sim Box ให้เหมือนแอมปลิฟายเออร์ของเครื่องเสียง เพื่อให้ตรวจจับได้ยากขึ้น
Comments
โห เดี๋ยวนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์มันโคตรล้ำไปขนาดนี้แล้วเหรอ
ถึงว่าเดี๋ยวนี้เวลาคอลเซ็นเตอร์มันโทรมา มันไม่ขึ้นเป็นเบอร์ต่างประเทศแล้ว
ไม่เคยรู้เลยว่ามันมีเทคนิคกับอุปกรณ์แบบนี้ด้วย
อันนี้ต้องขอชื่อชมตำรวจไซเบอร์ครับ ทำงานให้เห็นบ้าง
บอกแล้วว่ามันอยู่ในไทยเนี่ยแหละ ไม่ได้อยู่เขมร โทรมาแต่ละครั้งหลังๆ แต่ละครั้งเบอร์มือถือไทยทั้งนั้น ดังนั้นไม่มีข้ออ้างให้ไม่จับ หรือจับไม่ได้เลยนะ ซิมก็บังคับลงทะเบียนไปแล้ว ก็จับคนที่เป็นม้าลงทะเบียนไปด้วย คนจะได้ไม่ไปเปิดมั่วซั่ว
edited อ่อ อ่านไม่หมด จริงๆคนโทรอาจจะอยู่ไหนก็ได้ ขอแค่ต่อ net ได้
แต่เอาจริงๆ มันก็น่าจะสามารถสืบต่อได้ ไม่น่าเป็นไปได้ที่จะใช้ net บ้านต่อโทรผ่าน ip มาหา simbox ได้
มันน่าจะเป็น darkfiber/direct connect อะไรสักอย่าง
หรือต่อให้เป็น net บ้านก็ต้องมีคนติดตั้ง net น่าจะตามไปได้
พบโฆษณาแฝงผ่านเสื้อผ้า 1 อัตรา
มันก็มีเขียนอยู่ตั้งแต่ย่อหน้าแรกแล้วอ่ะครับ
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ร่วมกับ กสทช. และ AIS
ข้าขอทรยศต่อคนทั้งโลก ดีกว่าให้ใครมาทรยศข้า
ตกบรรทัด 2 กราบขออภัย T_T
ถึงว่า ของขาด หาซื้อไม่ค่อยได้
ดูลงทุนมากนะ เครื่องมืออย่างดี เลย
“ แต่ภายหลังเปลี่ยนมาใช้วิธีเช่าอาคารสำนักงาน ใช้เราเตอร์ของอาคาร เพื่อแฝงตัวกับปริมาณการใช้งานของธนาคาร”
สรุปว่าอาคารนั้นเป็นของธนาคาร ใช่มั้ยนะ
Ooh
อันนี้จับได้ถึงต้นตอมั๊ย?
เพราดู sim box มันเป็นตัวกลาง
แก๊งค์คอลฯ -> sim box -> เหยื่อ
เพื่อให้กลบร่องรอยให้ตามได้ถึงแค่ sim box
แต่ตามต่อไปแก๊งค์คอลฯไม่ได้
อย่างมากคงตามได้แค่
คนเอา sim box มาติดตั้ง กับ เจ้าของ sim ม้า
แล้วคอลเซ็นเตอร์ต้นทางลอยนวล 🤔
น่าจะมีการสืบต่อ แต่ไม่เปิดเผยมั้ง
ไม่น่าจะสืบเจอแล้วไปถอดออกเลยหรอก
อยากรู้ว่าคนที่ใช้ชื่อลงทะเบียนซิมพวกนี้จะถูกจับได้หรือเปล่า จะเป็นพวกรับจ้างเปิดซิมเหมือนเปิดบัญชีม้ามั้ย หรือเป็นชื่อปลอมที่ตามรอยไม่ได้
SIM จะเปิดต้องมีบัตรประชาชนด้วย หวังว่าจะตามจับเจ้าของ SIM ทั้งหมดมาด้วยครับ
ในเนื้อข่าวคำนี้น่าจะเขียนผิด
"พื่อแฝงตัวกับปริมาณการใช้งานของธนาคาร" >> "พื่อแฝงตัวกับปริมาณการใช้งานของอาคาร"
That is the way things are.
สำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน บริหารโดยคนจีน
ต้องเข้มงวดในการเปิดเบอร์มากกว่านี้ เหมือนจีนที่พึ่งปรับกฎหมายเบอร์ หรือแบบเกาหลีที่ใช้มายาวนาน 1 คน 1 เบอร์ จะเปิดเพิ่มต้องยื่นเรื่องพิเศษ
ตอนนี้เบอร์มันเปิดง่ายเกิน 1 ค่าย เปิดได้ 5 เบอร์
ข้าขอทรยศต่อคนทั้งโลก ดีกว่าให้ใครมาทรยศข้า
ดูลงทุนมาก คงได้เยอะอยู่