Amazon Prime Video กำลังทำการเปลี่ยนนโยบายการให้บริการ โดยผู้ใช้ที่สมัครแพ็กเกจแบบมีโฆษณาจะไม่สามารถรับชมภาพยนตร์และรายการทีวีด้วย Dolby Vision และ Atmos ได้อีกต่อไป หากอยากได้คืนให้ผู้ใช้ขยับไปใช้แพ็กเกจที่ราคาสูงกว่าที่จะไม่มีโฆษณา และได้ Dolby Vision และ Atmos กลับคืนมา
ข้อมูลนี้ถูกพบครั้งแรกโดย 4KFilme เว็บไซต์ที่นำเสนอข่าวสารภาพยนตร์ของเยอรมนีที่พบว่าทีวีหลากยี่ห้อที่พวกเขาไม่แสดงภาพแบบ HDR10 และเสียงแบบ Dolby Digital 5.0 บน Prime Video ได้
ภายหลัง Katie Barker โฆษกของ Amazon ออกมายืนยันกับ The Verge ว่าไม่ใช่ข้อผิดพลาดแต่ Prime Video เจตนาจำกัด Dolby Vision และ Dolby Atmos ให้มีเฉพาะบางคอนเทนต์ในแพ็กเกจแบบมีโฆษณา
เดิมที Amazon Prime Video ในสหรัฐอเมริกาเป็นส่วนหนึ่งของการสมัครสมาชิก Amazon Prime โดยจ่าย 15 ดอลลาร์ต่อเดือนหรือ 139 ดอลลาร์ต่อปีเพื่อได้บริการส่งของฟรีไม่มีค่าส่งแบบ 2 วัน, 1 วัน, การจัดส่งภายในวันที่สั่งซื้อ พร้อมกับ Prime Video แบบมีโฆษณา ตอนนี้กลายเป็นว่าผู้สมัครบริการต้องจ่ายเงินเพิ่ม 18% เพื่อดูคอนเทนต์บน Prime Video ที่ได้ประสบการณ์เต็มรูปแบบ
ส่วนแบบบริการ Prime Video แบบแยกต่างหากที่มีโฆษณาราคา 8.99 ดอลลาร์ต่อเดือน และต้องจ่ายเพิ่ม 2.99 ดอลลาร์เพื่อ Dolby Vision, Dolby Atmos และไม่มีโฆษณาเท่ากับว่าผู้ใช้งานต้องจ่ายเพิ่ม 28%
สำหรับในไทย Prime Video ตอนนี้มีแพ็คเกจ 149 บาทต่อเดือน และแพ็คเกจที่ร่วมมือกับ AIS ที่แบ่งเป็น 3 เดือน 149 บาท และ 1 ปี 999 บาท
Comments
Dolby Atmos นี่ต้องใช้เครื่องเสียงเฉพาะด้วยไหมเนี่ย
ใช่ครับ เครื่องเสียงที่ถอดรหัสได้
ลำโพงด้วยไหมครับ เห็นต้องรอบทิศทางบนหัวด้วยด้วย ซึ่งคนทั่วๆ ไปไม่น่าจะกระทบถ้าตัดออกยกเว้นเรื่องภาพ
คือมันก็มีเสียง 5.1 ปกติ กับ 5.1 แบบ Dolby Atmos น่ะครับ
คือเสียงออกรอบทิศทางปกติ แต่ไม่ใช่ระดับ Dolby ฟิลล์ประมาณ Codec เสริมคุณภาพ
จริงๆก็ไม่จำเป็นครับ
Dolby Atmos เข้าใจว่ามันคือไฟล์เสียงรอบทิศทางที่เข้ารหัสไว้ ก็อยู่ที่เครื่องเสียงว่าจะถอดรหัสและเล่นมันออกมายังไง แม้จะเป็น Stereo ก็สามารถคำนวณและจำลองการเล่นเสียงรอบทิศทางได้เพราะยังไงมันก็เข้า 2 หูเราอยู่ดี (เรียกว่าเทคนิค HRTF มั้งนะ?)
แต่จะทำได้ดีแค่ไหนก็แล้วแต่ยี่ห้อน่ะนะ เพราะในแง่ทฤษฎีแล้ว ถ้าจะให้มันเป๊ะๆ ก็ต้องรู้ไปจนถึงสรีระของผู้ใส่เลย (ลักษณะใบหู ระยะห่างระหว่างหู เส้นรอบวงศีรษะ etc.) ผมเคยใช้ Audeze Mobius ตอนตั้งกับไม่ตั้งขนาดหัวนี่ค่อนข้างต่างกันเลย แต่ Apple จะล้ำกว่าหน่อยตรงที่สามารถใช้กล้องแสกนหูเราได้เลย ไม่ต้องเอาสายวัดมาพันหัว 55+
tv หลายๆรุ่นมีรองรับคับ ฝั่ง lg oled มีหมด
รู้สึกPrime Video ในไทยเวลากดดูหนังมันก็ชอบเอา Ads หนังเรื่องอื่นมาโฆษณานะ (หรือhboนิแหละ จำไม่ค่อยได้) ต้องกดข้ามไป 1 stepประจำ