ASUS ประกาศวันแถลงข่าวเปิดตัวเครื่องเล่นเกมพกพา ROG Ally รุ่นใหม่ในวันที่ 2 มิถุนายน 2024 โดยใช้สโลแกนว่า Extra, Extend, Expand พร้อมโลโก้ตัว X
ช่อง YouTube ของ ROG บอกว่าเครื่องเล่นเกมรุ่นใหม่เป็นมากกว่าการอัพเดตสเปก แต่ก็ไม่ถึงขั้นเป็นการปรับดีไซน์ใหม่ทั้งหมด หรือนับเป็นเครื่อง Ally เจ็นที่สอง จึงตัดสินใจไม่เรียกมันว่า ROG Ally 2 และใช้ชื่อว่า ROG Ally X แทน
ฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ ROG เป็นการปรับปรุงจากความเห็นของเกมเมอร์ที่เล่นเครื่องรุ่นแรกในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา แบตเตอรี่จะใช้ได้นานขึ้น มีการปรับปรุงเรื่องสตอเรจ แรม พอร์ต และฟีเจอร์ทางกายภาพของตัวเครื่องด้วย
เว็บไซต์ The Verge ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มันจะยังใช้ชิป AMD Z1 Extreme ตัวเดิม, หน้าจอขนาด 7 นิ้วเท่าเดิม, เปลี่ยนตัวเครื่องเป็นสีดำ, แบตเตอรี่จะใช้ได้นานกว่าเดิมมาก อย่างกรณีเล่นเกมหนักๆ เครื่องเก่าได้ 1.5 ชั่วโมง เครื่องรุ่นใหม่จะได้ 3 ชั่วโมง หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยต้องแลกกับน้ำหนักของตัวเครื่องที่เพิ่มขึ้น และราคาที่แพงขึ้นจากรุ่นแรก
ASUS ยังโชว์ซอฟต์แวร์ Armory Crate SE 1.5 รุ่นปรับปรุงให้ UI ทำงานสะดวกกว่าเดิม มีฟีเจอร์ด้าน button mapping มากขึ้น ดูตัวอย่างได้ในคลิปท้ายข่าว
ที่มา - The Verge
The next Ally is coming 👀Catch us live on ROG YouTube and Twitch for a special announcement on June 2! #ROGComputex2024 #HappyBirthdayROGAlly pic.twitter.com/CiYlGS5QE5
— ROG Global (@ASUS_ROG) May 10, 2024
Comments
สีขาวตัวเดิมนี่ ใช้ๆ จะหมองไหมนะ
เคร ไม่ได้แก้ปัญหาเลย กลับไปสู่วังวนปัญหา handheld
จะเล่นเกมสเปกสูง ๆ cpu ต้องแรง
พอ cpu แรง ก็กินแบต
พอกินแบต ก็เพิ่มขนาดแบต ตามมาด้วยน้ำหนัก
ตามมาด้วยสูญสิ้นความสามารถในการพกพา เครื่องเก่ายังหนักเล่นนาน ๆ ปวดข้อมือเลย
Nintendo Switch ใช้วิธีใช้ cpu ไม่แรง เครื่องสเปกไม่สูง เพื่อจะได้ไม่ต้องสูบแบต ไม่ต้องเพิ่มขนาดแบต ไม่ต้องเพิ่มน้ำหนัก เพื่อที่จะพกพาได้ ใครจะว่าเกมปู่นินภาพกาก สเปกกาก แต่มันจำเป็น ถ้าจะยืนตำแหน่ง handheld
สุดท้ายพิสูจน์กันที่ยอดขาย
ถ้าเอาไปเล่นเกมโหดๆ เกม AAA ก็แบบนี้แหละครับ
เพราะมันก็คือชุดเกมเดียวกับ x86 PC Desktop/Laptop
เล่นได้ตั้งแต่ กู้ระเบิด ยิงไข่ ยัน Cyberpunk Starfield
(ไหวไหม ปรับเท่าไหร่ ก็อีกเรื่องนึง)
ส่วนตัวอยากได้มาเล่นเกมอินดี้
เกมเก่าๆ VN JRPG หรือ Emulator
อยากได้จอ OLED สัก 1080p 120hz ไว้ดู Streaming
ผมว่าเอา Switch มาเทียบไม่ถูกซะทีเดียวนะ เค้าทำ spec ไม่แรง เลยเล่นเกมที่ต้องการ spec แรงๆไม่ได้อยู่ดีครับ
ถ้าจะเล่นเกมแค่ spec เท่า Switch ตัว Ally เดิม batt เดิมก็สบายครับ
Switch รู้ Position ตัวเองว่าเครื่องไม่แรงรันเกมได้ระดับไหน เลยทำให้อยู่ในสถานะ handheld ได้ คือพกพาไปเล่น 3-4 ชั่วโมงสบาย ๆ เลย ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็เบาเหมาะกับการพกพา
แต่ ROG Ally อะ position ตัวเองไม่แน่นอน ถ้าจะเล่นเกมสเปกต่ำ แต่ก็เพราพตัวเองมี cpu แรง ๆ มาเผื่อจะเล่นเกม AAA ทำให้ต่อให้เล่นเกม spec เท่า Switch ก็อยู่ได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ถึงจะปรับ watt แล้วก็เถอะ
ถ้าจะเอามาเล่นเกม Spec แบบ Switch ผมซื้อเกมนั้นที่ลง Switch ดีกว่าครับ ทั้งเบากว่า เย็นกว่า เล่นได้นานกว่า ยังไม่พูดถึง os ที่ใช้ win11 มันไม่เหมาะกะการเล่นเกมเท่าด้วยนะ เอาแค่ sleep mode ก็คนละเรื่องแล้ว
แล้วการแก้ปัญหาโดยการเพิ่มแบตเนี่ย น้ำหนักส่งผลมากต่อการพกพา เพราะเดิมเครื่องก็ 700g อยู่แล้ว เพิ่มมากกว่านี้ก็แย่แล้ว ผมว่าตำแหน่งเดิมของมันที่เป็นเครื่องเล่นเกมบนเตียงที่ต้องเสียบสายชาร์จไว้ตลอดเวลาเนี่ย ถือว่าดีกว่าละครับ
... แต่ถ้าจะเอาแบบนั้น PS5 + Portal อาจทำได้จะดีกว่า
ซื้อ Handheld PC แล้วต้องเล่นเกม AAA อย่างเดียวเลยเหรอ
เพราะมี Switch อยู่แล้วไงครับ การจะมี ROG Ally คือเอามาเล่นเกม PC ที่ไม่ลง Switch (ซึ่งส่วนใหญ่คือเกม AAA) แบบพกพานอนบนเตียง เพราะสะดวกเล่นแบบนั้นมากกว่านั่งหน้าจอ, โซฟา
เกมที่มีทั้ง PC, Switch ผมซื้อเฉพาะของ Switch อย่างเดียวครับ ด้วยเหตุผลด้านความสามารถในกาพกพาเป็นหลัก
เม้นบนน่าจะหมายถึง บางคนอาจจะซื้อ Handheld PC มาเพื่อใช้ทำงานโดยการต่อจอนอกไรงี้ด้วยก็มีครับ
เกม Indie ต้องลง Switch เท่านั้น? พูดเหมือนว่ามันพอร์ตง่ายในเชิงแพลตฟอร์ม ไม่ใช่ทุกคนนะที่จะมีปัญญาพอร์ตเกมลง Switch ได้ ทั้งเรื่องของต้นทุนผู้พัฒนาเอง และ Content Rating
Switch มันแค่เข้าถึงง่าย แต่ความอิสระเอาไปโยนทิ้ง Hacked Switch ก็แทบจะทำอะไรไม่ได้ เล่นเกมบน Itch.io แทบไม่ได้ด้วยซ้ำ
ง่าย ๆ เลย ถ้า Switch เอา The Smoke Room, Glory Hounds, Tavern of Spear, Lustful Desires, Remember the Flowers, Nekojishi (Uncensored), Beat Beast มาลงได้ค่อยคุย
??? คืออะไร
ถ้าคุณบอกว่า "ผมคาดหวังให้ Handheld PC ต้องเล่น AAA ได้ เพราะเกมเบา ๆ ผมมี Switch อยู่แล้ว" ไม่มีใครมาเถียงกับคุณหรอก แต่คุณกำลัง Imply ว่าทุกคนต้องเล่น AAA บน Handheld PC (ซึ่งมันทำได้อยู่แล้ว) ซึ่งมันไม่ Make Sense เลยแม้แต่นิดเดียว เอาแค่เรื่องความอิสระ Switch เจ๊งตั้งแต่อยู่ในมุ้งแล้ว นอกเสียจากว่าคุณอยู่ในมุ้งของคุณแล้วมีความสุขดีก็ไม่มีใครว่า
เทียบกับ Switch อาจจะเทียบตรงๆ ใช้สถาปัตยกรรมคนละแบบเลย ของ ปู่นิน Switch ใช้ ARM ที่แบบมือถือใช้กัน ประหยัดไฟมากๆ ถ้าเทียบแล้วก็มีเครื่องเล่นเกมพกพาในใช้ ARM ก็ลง Android เล่นได้แต่เกม EMU คอนโซล ที่ไม่ใช่เกมยุคปัจจุบันกับเกม Android ที่ทำมาเฉพาะ
จริงถ้าเอาความแรงแค่เท่า Switch นี่สั่ง nVidia ดัดแปลงในผลิต nm เล็กๆ optimize ใหม่นี่ คงประหยัดกว่านีมากๆๆๆ แต่คงไม่ลงทุนละของมันเก่ามากกกกกกกกกกก
ถ้าผมเป็น Nintendo ผมคงแฮปปี้น่าดู ที่ลูกค้าบางคนแฮปปี้กับการโดนกั๊กเสปคอยู่
เครื่องแรงมันก็กดให้ต่ำลงได้ครับ ซึ่ง x86 ถ้าปรับให้ต่ำสุดจริงๆทั้งเครื่องและเกม มันก็ไปได้ถึง 4-5 ชม.ได้เหมือนกัน และการเปลี่ยนไปใช้ CPU ที่เทคโนโลยีแบบเดียวกันแต่แรงน้อยกว่ามันไม่ช่วยอะไรครับ เพราะต่อให้จำกัดพลังงานที่เท่ากัน ส่วนใหญ่แล้วยังไง CPU ที่แรงกว่าก็ยังคงแรงกว่าอยู่ดี
ในทางตรงกันข้าม เครื่องเบามันเร่งให้แรงมากไม่ได้ครับ เพราะงั้นถ้าใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกัน ยังไงส่วนใหญ่เครื่องที่สเปคแรงกว่าก็ดีกว่าอยู่ดีครับ
ปัญหาเรื่องแบตจริงๆมันไม่ใช่ความแรง แต่เป็นเรื่องสถาปัตยกรรมมากกว่าครับ ในแง่พลังงาน ARM ทำได้ดีกว่า x86 อยู่แล้ว ซึ่งเรื่องนี้ผมมองว่ามันเกินกว่าที่ Asus จะทำอะไรได้ในระยะสั้น
จริงๆสิ่งที่ชาวเกมมองว่า Nintendo ยังทำได้ดีกว่าในแง่ความเป็นเครื่องเล่นเกมพกพาคือเรื่องความง่ายในการเล่นเกมมากกว่าครับ อยากเล่นก็โหลดแล้วเปิดเข้าเกมได้เลย อยากหยุดเมื่อไหร่ก็หยุดได้ และกลับมาเล่นต่อทันทีเลยก็ง่าย ซึ่งจุดนี้ Windows ทำได้ด้อยกว่าพอสมควร ส่วน Steam Deck ก็ถือว่าทำได้ใกล้เคียงอยู่ มันก็เลยยังเป็นที่นิยมอยู่ แม้บางรุ่นเสปคต่อราคาจะด้อยกว่าแบรนด์อื่นๆก็ตาม
ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าจะพิสูจน์กันที่ยอดขาย ก็ไว้หลังจากที่เอาเกมไปลงทุกเครื่องก่อนนะครับ ผมเชื่อว่ามีหลายคนเลยแหละที่ซื้อ Nintendo Switch ก็เพราะเกมที่จะเล่นอยู่ในนั้นมากกว่าเพราะเครื่องดีกว่ายี่ห้ออื่น
เรื่องพลังงานนี่ยังไง Handheld PC ก็ได้เปรียบมากกว่า แม้ว่า Switch จะใช้ ARM แต่มันติดที่ GPU ในชิปที่ค่อนข้างจะซดไฟเลยทีเดียวแม้จะเทียบกับเทคโนโลยียุคเดียวกัน และชิป Tegra ใน Switch ก็ไม่ได้รันแบบเต็มไฟเหมือนในเครื่อง Tegra ของ Nvidia Shield TV ด้วย จริง ๆ มันทำให้ใช้ไฟเต็มได้ด้วยการ Hack แต่ก็มีสิทธิ์เครื่องไหม้ได้เหมือนกันเพราะระบบระบายความร้อนทำงานไม่ทัน (แหงล่ะมันไม่ได้ออกแบบมาให้ทำงานเต็มไฟ) ในขณะที่ชิป Handheld PC แม้ว่าจะเป็น x86 แต่มันก็ปรับแต่งมาเป็นอย่างดีจนไม่ได้ใช้ไฟเวอร์วัง อย่าง Steam Deck นี่ใช้ไฟสูงสุดเท่าโน้ตบุ๊กรุ่นบางเบาแต่แรงกว่ามาก ปรับไปใช้ไฟเท่า Switch ก็สามารถเล่นได้ลื่นไหลและใช้งานได้ยาวนานเท่า Switch เลย หรือมากกว่านั้นแบบไปไกล (Okami HD เล่นได้ยัน 7 ชั่วโมง ไม่ต้องพูดถึง Light Emulation อย่างพวกเกมจาก GameBoy หรือต่ำกว่าทั้งหลาย) ผมว่าปัญหามันอยู่ที่ AMD ที่ไม่ได้ทำชิปสำหรับ Handheld จริง ๆ ออกมาขาย ชิป Z1, Z1 Extreme เอง AMD ตั้งใจอยากให้เอามาใส่โน้ตบุ๊กเกมมิ่งสายบางเบา แต่สุดท้ายไปอยู่กับ Handheld ซะงั้น ดังนั้นชิปที่ออกแบบมาใช้กับ Handheld จริง ๆ มีแค่ชิปเดียวคือชิปใน Steam Deck นั่นแหละ ดันไฟไม่เกิน 15 W (Z1 Extreme ได้ยัน 35 W) และดันไฟได้ต่ำยัน 5 W
แต่ถึงอย่างนั้นผมว่า Switch 2 น่าจะแก้เกมได้ (มั้ง) ถ้า Nvidia ตั้งใจออกแบบชิปมาให้ Switch โดยเฉพาะ
ขอจอ OLED กับแก้เรื่อง sdcard เพิ่มแบตอีกหน่อยพอ
นาทีนี้ขออยู่ฝั่ง Steam Deck ชอบที่อยากทำงานก็ boot Windows อยากจะซุกซนก็เข้า Steam OS