เกิดดราม่าขึ้นที่บริษัทเกม Annapurna Interactive ในเครือบริษัทสื่อและภาพยนตร์ Annapurna Pictures โดยพนักงานทั้งหมดของ Annapurna Interactive ยื่นจดหมายลาออกจากบริษัท จากความขัดแย้งกับเจ้าของบริษัท Megan Ellison (ซึ่งเป็นลูกสาวของ Larry Ellison แห่ง Oracle แต่ตัวบริษัทไม่เกี่ยวข้องกัน)
Annapurna Interactive ก่อตั้งในปี 2016 เริ่มจากเป็นผู้จัดจำหน่ายเกมอินดี้ มีผลงานเกมอินดี้ดังๆ หลายเกม เช่น What Remains of Edith Finch, Journey เวอร์ชันพีซี, Outer Wilds, Kentucky Route Zero, เกมแมวส้ม Stray, Cocoon และล่าสุดเพิ่งประกาศพัฒนาเกมเองครั้งแรกคือ Blade Runner 2033: Labyrinth และมีข้อตกลงร่วมลงทุนใน Control 2 ของ Remedy Entertainment
ปัญหาความขัดแย้งใน Annapurna Interactive เริ่มจากประธานของบริษัท Nathan Gary เจรจากับ Megan Ellison เรื่องการแยก Annapurna Interactive ออกมาเป็นบริษัทอิสระ แต่เมื่อการเจรจาล้มเหลว ทำให้ Gary กับพนักงานทั้งหมดประมาณ 25 คน ยื่นใบลาออก
กลุ่มพนักงานที่นำโดย Nathan Gary ออกแถลงการณ์ว่าเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากที่สุดที่ต้องลาออก ในขณะที่โฆษกของ Annapurna บริษัทแม่ ยืนยันว่ามีการเจรจากันแต่ไม่สำเร็จ พนักงานลาออกจริง โดยตอนนี้ภารกิจเร่งด่วนของ Annapurna คือสนับสนุนนักพัฒนาเกมอิสระและพาร์ทเนอร์ที่มีข้อตกลงเดิม ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน บริษัทยืนยันว่าจะยังทำธุรกิจจัดจำหน่ายเกมต่อไป
Hector Sanchez ประธานคนใหม่ของ Annapurna Interactive (ก่อนหน้านี้ย้ายไปอยู่กับ Epic Games และเพิ่งถูกดึงกลับมาอีกครั้ง) ยืนยันว่าสัญญาข้อตกลงกับนักพัฒนาที่เซ็นไปแล้วจะยังคงอยู่ และจะหาพนักงานใหม่มาทดแทนพนักงานกลุ่มที่ลาออกไป
Comments
แยกเพื่ออะไรเหรอครับ อะไรที่ทำให้ถึงขั้นต้องลาออกเพราะบ.แยกตัวออกมาไม่ได้
มี logic อะไรไหมครับ, ผมมึนๆ ด้วยคน
ก็น่าจะเรื่องอำนาจและขั้นตอนในการตัดสินใจอะไรหลายๆอย่างแหล่ะ พอเป็นบ.ลูกอำนาจการตัดสินใจก็ถูกจำกัดพอสมควร ยิ่งมีบ.แม่ที่ไม่ได้ทำธุรกิจเกี่ยวกันโดนตรงแล้ว มักจะชอบสั่งอะไรแปลกๆลงมา
เคสนี้ไม่มีรายละเอียดบอกครับว่าอยากแยกไปทำไม
แต่ถ้าเป็นเคสทั่วๆ ไปของ spin-off ก็จะมีตั้งแต่อยากได้อำนาจควบคุมบริษัทเพิ่ม, จัดสรรผลประโยชน์ใหม่ให้พนักงานเข้ามาถือหุ้นได้ด้วย, หานักลงทุนภายนอกเพิ่ม ประมาณนี้
ที่ผมสงสัยเพราะโดยทั่วไปที่อยากแยกเพราะได้ผลประโยชน์เพิ่ม แต่ไม่แยกก็ไม่เป็นไร
แต่กรณีนี้เหมือนว่าถ้าไม่แยกแล้วจะเสียผลประโยชน์ก็เลยออกอ่ะครับ
ผมก็เดามั่วๆ นะ เลยอยากรู้ว่าอะไรทำให้อยากแยกขนาดยอมหักไม่ยอมงอ
ถ้า Stray มีภาคต่อ คงต้องเปลี่ยนบริษัทผู้จัดจำหน่ายใหม่
เกรงว่าทางค่ายจะเป็นคนถือ Trademark และ IP เนี่ยแหละครับ ต่อให้อยากทำภาคต่อ ก็ต้องไปซื้อสิทธิ์ขาดทั้งหมดจากค่ายเกมมาทำต่อครับ หรือต้องหาทางเลี่ยงไม่อิง IP เดิม กันการโดนฟ้อง
เหมือน Callisto Protocol ที่สร้างโดยอดีตทีมงาน Dead Space เก่านั่นแหละครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับผลงานตัวเกมด้วยว่าจะดีตามที่คนเล่นคาดหวังด้วยหรือเปล่า ถ้าออกมาแย่ ก็อาจเป็นจุดจบของ Series เกมนั้นๆ ได้เลยนะ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ออกพร้อมกันอย่างนี้ไม่ได้ส่งงานต่อ เริ่มใหม่หมดเลยมั้งเนี่ย