อีลอน มัสก์ บอกให้พนักงานหน่วยงาน DOGE ทำงานวันละ 17 ชั่วโมง เจ็ดวันต่อสัปดาห์ หรือทำงาน 24 ชั่วโมงเป็นเวลาห้าวัน พูดง่าย ๆ คือต้องทำงานสัปดาห์ละ 120 ชั่วโมง เพื่อทำให้ DOGE มีความก้าวหน้า และประสบความสำเร็จมากกว่าหน่วยงานราชการแบบเดิม ที่ทำงานน้อยกว่าสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมงเท่านั้น
ขณะที่บางคนสนับสนุนแนวทางของมัสก์ แต่หลายคนก็ตกใจกับแนวคิดการทำงานที่มากขนาดนี้ เพราะมองว่า การทำงานอย่างหนักแทบไม่มีเวลาพักผ่อน อาจส่งผลเสียกับสุขภาพ บางคนยังมองด้วยว่า ชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานขนาดนี้ ไม่ได้การันตีความสำเร็จที่มากขึ้น
มัสก์เป็นที่รู้จักดีในฐานะคนที่ไม่เคยหยุดทำงาน เมื่อเขาเข้าควบคุม Twitter อย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2022 เขาออกคำสั่งให้พนักงานทำงานสัปดาห์ละ 80 ชั่วโมงทันที แต่สำหรับหน่วยงานรัฐบาลที่มีความสงบเงียบกว่าอุตสาหกรรมเทคฯ ยังคงเป็นคำถามสำหรับหลายคนว่าจะทำได้จริงหรือ
ที่มา: Business Insider, Times of India
Comments
ทำงานแบบนี้ไม่ตายคาที่ทำงาน ก็คงได้เข้ารพ.ตลอดชีพ สุขภาพแต่ละคนมันไม่เท่ากัน
ทำงานชั่วโมงเยอะแบบนี้ Performance มันจะออกไหม
เห็นด้วยเรื่องเพิ่มชั่วโมงทำงาน แต่ระดับ 120 ช.ม. นี่เอาจริงๆจะมีประสิทธิภาพไหม รอดู
ไม่ใช่ทุกคนที่มียีนส์นอนน้อยได้ การรีดประสิทธิภาพสูงสุดแบบนักกีฬามืออาชีพ เขานอนวันละกี่ ชม.
เอาเวลาที่ไหนไปใช้ชีวิตไปจับจ่ายอ่ะฮะ เงินฝืดหมด
เจ้าของมีเงินมากมายมันก็ทำได้แหละ ชีวิตมีเลขา ผู้ช่วย คนขับรถอะไรเต็มไปหมด จัดเต็มได้ทุกอย่าง
ลำบากวันนี้ สบายวันข้างหน้า สินะ แบบนี้แหล่ะปัญหาจบไว
อาจจะ ลำบากวันนี้ เจ็บป่วยวันหน้า แทนนะ
ยิ่งได้เงินน้อยด้วย บอกเลยชีวิตจะพังเอา 😓
เหมาะสมกับการทำงานร่วมกับทรัมป์ดี
D.O.G.E
ย่อมาจาก Department of Government Efficiency
(กระทรวง ปฏิรูป การทำงานภาครัฐ ให้มี ประสิทธิภาพ)
แล้วจะให้ มาทำงาน ตอบบัตรเข้า ตอกบัตรออกได้ไงครับ
ไม่ต้อง Fit แบบชัชชาติ ตื่นมาทำงานวิ่งรอบ กทม. ตีสาม
เลิกงานตอนนอนหลับ ก็ได้ แต่ ทำงานให้ Style ตำรวจหน่ะครับ
ออกเวรก็ปฏิบัติงานได้
Power มันไม่ได้มาจากคำสั่ง เพียงอย่างเดียว แต่มาจากการได้รับการยอมรับในตัวบุคคลนั้นด้วย หากบุคคล หรือองค์กรใช้ Power เกินขีดจำกัดของบุคลากร มันก็จะเกิดการล่มสลายจากภายใน เกิดการต่อต้านจากที่ต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ จนทำให้งานแทนที่จะก้าวหน้ากลับช้าลง ตราบใดที่คนยังต้องทำงานในหน้าที่การงาน ยังไม่สามารถใช้เครื่องจักรทำงานแทนที่ทั้งหมด ก็ยังคงต้องสร้างสมดุลในการทำงานให้กับบุคลากร
องค์กรนี้อายุไม่ยืนครับเปิดมาเดี๋ยวก็ปิดแล้ว
ข้าราชการไม่ทุ่มเทแล้วประเทศจะพัฒนาได้อย่างไร อีลอน มัสก์ ทำถูกแล้ว ตั้งแต่ทรัมป์เข้ามาอะไรก็ดีขึ้นมาด
พวกซ้ายจัดโลกสวยก็อกแตกตายไปนะ
แค่ในเวลางานทำเต็มที่ก็พอฮะ จะได้มีเวลาไปใช้จ่ายให้เงินหมุนในวงการอื่นๆ บ้าง
ถามว่าพนักงานดีๆที่ไหนเค้าจะยอมมาทำงานแบบนี้กัน สุดท้ายก็ได้แต่จ้างคนที่ไม่มีทางเลือกมาทำงานแบบผีๆ ทำงานเยอะไม่ได้แปลว่าได้งานเยอะ ตัวอย่างที่ออฟฟิชผมก็มีตำแหน่งใหญ่ตำแหน่งนึงที่เข้าๆออกๆอยู่ไม่ได้สักคน(เพราะดูแลงานหลายอย่างมาก)สุดท้ายก็ไปเอาคนแบบจำพวกไม่มีทางเลือกมาทำ(พวกไม่ได้เรื่องแต่มีวัยพอจะแต่งตั้งตำแหน่งสูงได้) เค้าทำรีพอทที่เด็กฝึกงานทำ30นาทีนางทำอยู่ครึ่งวันไม่เสร็จแถมพอเสร็จส่งได้รีพอทมั่วๆมาชิ้นนึงที่ผิดเต็มไปหมดอีก เป็นที่ปวดหัวของเหล่าลูกน้องต้องมานั่งตามแก้งานสอนงานสุดท้ายก็ต้องมานั่งทำงานแทนแทบทุกอย่างอีก
120÷6= วันละ 20 ชั่วโมงค่าแรงเพิ่มไหม
ความคิดสวนทางกับ Gen Z
ถ้าเป็นประเทศแถวนี้มีแต่ชุดประท้วงแน่
ถ้าเงินดีแบบ nvidia ผมไม่คิดว่าจะมีคนบ่นนะ แต่ถ้ามาทำงานในหน่อยงานรัฐค่าแรงมาตรฐานแต่ทำงานเยี่ยงทาสในบริษัทเอกชน มันก็โหดร้ายเกินไปนะ
ผลประโยชน์ทับซ้อนรึป่าวนะ แต่มีแต่คนชื่นชมคงไม่เป็นไร
คนที่เห็นด้วย เพราะตัวเองไม่ได้ต้องทำ 120 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ นั่นแหละ
จริงๆ เอาแค่ ครึ่งเดียว หรือ 60 ชั่วโมงก็ร้องแล้ว หรือนโยบาย 996 (9 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม 6 วันต่อสัปดาห์) หรือ 72 ชั่วโมง ที่ชมบริษัทจีนบางบริษัท แต่พอตัวเองหางานก็ไม่ยักจะเอาบริษัทแบบนั้น
ตั้งสูงมาก่อน จะได้เปิดเจรจาต่อรองไง
ได้เป็นข่าว เป็นประเด็น เกิดการถกเถียง
ถ้าราชการต่อรองมาว่าขอทำวันละ 8 ชั่วโมงเต็มที่ เท่านี้ก็กำไรแล้ว
นึกถึง HxH ภาค เลือกตั้ง ที่ จินใช้ทริคพวกต้มตุ๋น
โดยตั้งเงื่อนไขที่อีกฝ่ายยอมรับไม่ได้เลย ไปก่อน
แล้วค่อยยื่นเงื่อนไขที่จริงๆอีกฝ่ายเสียเปรียบ แต่อีกฝ่ายจะยอมรับง่ายขึ้น
ตัวเลขนี้บ้าไปแล้ว
That is the way things are.
ซ้ำ
That is the way things are.
Fun Fact
สัปดาห์นึงมีแค่ 168 ชม.
คือแค่นอนวันละ 6 ชม. มันก็หมดแล้ว
ไม่ต้องเดินทาง กินข้าว อาบน้ำกันแล้ว
เอาเป็นว่าปกติแค่แตะๆ 80-90 ชม. สัปดาห์นึงก็
แทบจะน็อคแล้ว