นี่มันไม่ต่างอะไรกับมิจจี้เลยนะ

ตามหลังมิจฉาชีพอยู่เยอะ ต้องอัพเกรดด่วน

โดยภาษีประชาชน

คนที่ทำเรื่องพวกนี้ไม่เอะใจหน่อยหรือว่ากำลังทำเพื่อชาติหรือกำลังทำร้ายชาติ แต่จริงๆก็คงเอะใจแหละเลยส่งข้อมูลให้ฝ่ายค้านไปอภิปราย

โหดมาก เพราะถ้ารหัสผ่านถูก ล็อกอินเข้าไปได้ คนแฮ็กก็ทำอะไรต่างๆกับแอคเคาต์นั้นและชื่อนั้นได้ จะโพสอะไรต่างๆให้เจ้าของแอคเคาต์(ตามชื่อและรูปที่ใช้)ดูเป็นคนเลวก็ได้เช่นเอาแอคเคาต์ที่แฮ็กได้ไปโพสด่า โพสหมิ่นประมาท แชร์สิ่งที่ไม่เหมาะสม
ส่วน deepfake ก็ใช้ใส่ร้ายหรือใช้ทำลายภาพลักษณ์ได้เช่นกัน เช่นเอาคลิปโป๊หรือหนังเอวีมาทำ หรือมีตัวแสดงเอามาแสดงหยาบ เถื่อน ด่า หมิ่นประมาท แล้วใช้ deepfake เปลี่ยนหน้าตาให้เหมือนกับของเป้าหมาย ให้สาธารณชนคิดว่าเป็นคลิปจริงว่าคนคนนั้นถ่ายคลิปโป๊ ถ่ายหนังโป๊ หรือเป็นคนหยาบ เถื่อน ด่า หมิ่นประมาท

อันนี้คือสั่งทำเรื่องชั่วโดยเฉพาะมิใช่หรือ?

แค่เปลี่ยนจาก Physical เป็น Digital

แกงค์สแกมเมอร์ชัดๆ

ถ้าไม่โลกสวย มันก็เรื่องปรกติ การทำสงครามจิตวิทยา มันทำหลายมิติ ทั้งใต้ดิน บนดิน ถ้ามองตัวเองเป็นรัฐ ใครที่มีความขัดแย้งกับรัฐ ก็ต้องมีข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการพิจารณา มันก็แล้วแต่มุมมองคนเอาไปใช้งาน ถ้าเป็นรัฐก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องดีที่มีข้อมูลการข่าว ถ้าเป็นฝ่ายค้านก็ต้องบอกว่ามันละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล บอกไว้ก่อนนะผมไม่ใช่คนดี ดังนั้นวิธีคิดของผมก็ไม่ต่างอะไรกับเรื่องพวกนี้หรอก เพราะโลกความจริงมันโหดร้ายกว่านี้เยอะ comment นี้ผมไม่ตอบกลับนะ บอกไว้ก่อน ผมรู้ว่ามีคนไม่เห็นด้วยเยอะแน่ แต่ผมยืนยันว่าเป็นเรื่องปรกติ ทั้งรัฐ และเอกชน เพียงแต่คุณอาจไม่ได้อยู่ในจุดที่จะต้องใช้มันก็แค่นั้น แต่ผมเองเคยอยู่จุดที่ใกล้เคียงกับจุดนั้น การตัดสินใจของคน คนนึง ถ้าข้อมูลไม่เพียงพอ ความเสียหายมันมหาศาล อาจทำให้ไม่ใช่แค่เรา แต่อาจเป็นทั้งเครือบริษัทจะพากันล้มไปหมด เพราะฝ่ายตรงข้ามเขาก็มีข้อมูลเหมือนกัน เพียงแต่ใครตัดสินใจในการจัดปัญหาเร็วกว่ากัน บางทีผมจำเป็นต้องรู้ระดับที่ว่า ใครเข้าพบใคร เมื่อเวลาเท่าไหร่ หรือแม้แต่ปลอมตัวเพื่อไปหลอกเอาข้อมูลจากฝ่ายตรงข้าม สร้างข่าวปลอมเพื่อหลอกให้ฝ่ายตรงข้ามตายใจ ฝ่ายปฏิบัติการก็ต้องหาให้ หรือจัดการให้สำเร็จ ไม่งั้่นขั้นตอนต่อไปมันทำไม่ได้ รวมถึงเขาเอง หรือแม้แต่ผมเองก็อาจตกงานด้วย

ผมเคยทำขนาดขู่ CEO บริษัทฝ่ายตรงข้ามก็แล้วกัน เพื่อทวงหนี้ ทั้งที่ผมก็ไม่ได้อยู่ใน position ที่จะทำได้ เป็นแค่ลูกจ้างบริษัทเล็ก แต่ด้วยข้อมูลการข่าว และการสร้างสถานการณ์ที่แม่นยำกว่ามันทำให้ผมทำได้ บริษัทใหญ่ไม่เคยเจอภาวะกดดัน อยู่ด้วยความสงบมาเป็นเวลานาน เจอสถานการณ์ไม่แน่นอนรุมทุกด้าน ก็ไปไม่เป็นเหมือนกันแหล่ะ 555 น้องผู้ช่วยผม มันถึงกับบอกว่า พี่ทำอะไรวะ ปวดหัว เหมือนสงครามจิตวิทยา ผมก็แค่บอกไปว่า ถ้ามรึงไม่ทำ พี่ก็ไม่มีตังค์จ่ายเงินเดือน เดือนนี้นะมรึง ต้องไปเอาจากมันมาให้ได้ แล้วมันก็ทำ ตอนนี้มันไปเปิดบริษัทของตัวเองไปแล้ว ผมเองก็รับผลกรรมจากภาวะความเครียดสะสมไป

website นี้คือ website เทคหรือ website การเมืองกันแน่?

ไม่เป็นตัวตลกเหมือนสมัยที่กองทัพเคยเอา การ์ดจอ GT200 มาแสดงว่า ไม้ติ้วผีจับระเบิดมันใช้งานด้ายยย แล้วนะครับ ไม่ดูถูก-ผิด แสดงว่าหน่วยงานรัฐ ใช้ ระบบ IT เป็นแล้ว น่าจะเอามาทำประโยชน์กันประชาชมากกว่านะครับ เอาแค่นี้พอ

ถ้าเอาหน่วยงานเหล่านี้ไปใช้กับหน่วยข่าวกรอง เพื่อต่อสู้กับกลุ่มก่อความไม่สงบ หรือกลุ่มมิจฉาชีพ กลุ่มทุนเทา หรือพวกคอรัปชั่น น่าจะมีประโยชน์มากกว่า แต่ก็อย่างว่าที่เขาทำแบบนี้ก็เพื่อรักษาผลประโยชน์ตัวเองกันมากกว่า.

เอามาตรวจสอบผู้นำรบ.ที่เป็นผู้บังคับบัญชาตัวเองโดยที่ไม่ได้มีอำนาจกำหนดในรธน.(เช่นอำนาจตุลาการ/องค์กรอิสระ) แบบนี้ใช้ข้อหากบฎต่อชาติและการปกครองได้ไหม? หรือจะอ้างว่าใช้ต่อเนื่องจากรบ.สมัยลุงฯ?

เท่าที่อ่านบางส่วน ผมว่ามันก็ปกตินะ ฝ่ายตรงข้ามก็ทำเหมือนกัน แต่อาจจะอ้างมาโจมตีได้ว่าเอาภาษี ปชช. มาทำแบบนี้ได้แค่นั้น ส่วนตัว ผมเชื่อว่าถ้าฝ่านค้านได้เป็นรัฐบาลก็ทำครับ ทำด้วยภาษี ปชช. เหมือนกันนี่แหละ

อันนี้คือเอกสารจริงเชื่อถือได้ใช่ไหมครับ

ไม่ใช่แค่ฝ่ายเดียวแน่ที่ทำ แต่หน่วยงานที่มีอำนาจตรวจสอบจะดำเนินการครบทุกฝ่ายไหม

ผมก็ว่าทำไมช่วงนี้ทหารชอบเรียน ป โท Cybersecurity กัน แบบนี้นี่เอง