Tags:
Forums: 

AWS เปิดตัวโครงการ Tech for Digital Future ในประเทศไทยเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (มัธยมศึกษาปีที่ 4-6) ด้วยพื้นฐานด้านดิจิทัลและคลาวด์ที่จำเป็นสำหรับอนาคตดิจิทัลของประเทศไทย

โครงการนำร่องนี้เป็นความร่วมมือระหว่างมูลนิธิไอแคร์ประเทศไทยและสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TURAC) และได้ดำเนินการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 ถึงเดือนมีนาคม 2568 โดยมีนักเรียนจาก 17 โรงเรียนในจังหวัดชลบุรีและอ่างทองเข้าร่วม โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนได้รับการฝึกอบรมผ่านหลักสูตรที่เน้นการผสมผสานระหว่างพื้นฐานของการประมวลผลบนคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) กับประสบการณ์จริง นักเรียนสามารถเข้าถึงหลักสูตรออนไลน์ AWS Skill Builder เพื่อเรียนรู้ด้วยตัวเอง และนำความรู้มาปฏิบัติโดยการพัฒนาแอปพลิเคชันที่สามารถใช้งานได้จริงผ่าน PartyRock ซึ่งเป็นโปรแกรมของ AWS เพื่อสร้าง Generative AI แบบไม่ต้องเขียนโค้ด

การเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง

โครงการ Tech for Digital Future นำเสนอประสบการณ์การศึกษาที่ครอบคลุมโดยยึดจากแกนหลักสามส่วน อันดับแรกนักเรียนจะเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้เกี่ยวกับ AWS และพื้นฐานการประมวลผลบนคลาวด์เพื่อสร้างรากฐานทางทฤษฎีที่แข็งแกร่ง จากนั้นจึงสามารถเข้าถึงหลักสูตรเรียนออนไลน์บน AWS Skill Builder เพื่อจัดเตรียมการเรียนรู้เชิงลึกที่มีโครงสร้างชัดเจน สุดท้ายแล้วนักเรียนสามารถนำความรู้ทั้งหมดไปประยุกต์ใช้ผ่านการปฏิบัติจริงด้วย PartyRock หลักสูตรนี้มุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงและพัฒนาโซลูชัน GenAI ที่สร้างสรรค์เพื่อตอบโจทย์ แทนที่จะเน้นรายละเอียดทางเทคนิคที่ซับซ้อน แนวทางเชิงปฏิบัตินี้ทำให้นักเรียนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงได้และส่งเสริมการวิเคราะห์แก้ไขปัญหา ส่งผลให้เกิดโครงการต่าง ๆ ตั้งแต่เครื่องมือทางการศึกษาไปจนถึงแอปพลิเคชันที่ให้บริการสำหรับชุมชน

Emmanuel Pillai, Head of Training and Certification ASEAN ที่ AWS กล่าวว่า “เรามีความมุ่งมั่นในการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตให้กับบุคลากรและนักพัฒนาไทย โครงการ Tech for Digital Future เป็นตัวอย่างของความมุ่งมั่นที่เรามีต่อกลุ่มนักพัฒนา ด้วยการมอบการศึกษาด้านคลาวด์เพื่อเร่งกระบวนการเรียนรู้ซึ่งนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรม สิ่งที่เราชื่นชมที่สุดคือการได้เห็นนักเรียนที่มีพื้นฐานและระดับประสบการณ์ที่หลากหลายกลายเป็นผู้ที่มีความสามารถด้านคลาวด์ และพร้อมแก้ไขปัญหาสังคมและธุรกิจในโลกปัจจุบันได้อย่างมั่นใจ”

การผสานการเรียนการสอนเชิงทฤษฎีกับการประยุกต์ใช้ในทางปฏิบัติ ช่วยให้นักเรียนสามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับทฤษฎีเทคโนโลยีคลาวด์ควบคู่กับการใช้งานจริง แนวทางการเรียนรู้วิธีนี้ทำให้ผู้สำเร็จการศึกษามีความพร้อมในการรับมือกับชีวิตการทำงานในยุคปัจจุบันที่อาศัยความรู้ด้านเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก

ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ผ่านมุมมองนักเรียน

นักเรียนที่ได้เข้าร่วมโครงการต่างมีความกระตือรือร้นอย่างมากและพร้อมนำไปความรู้ใหม่ไปทดลองใช้ นายณัฐดนัย สันรัมย์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนพนัสพิทยาคาร ได้เล่าถึงประสบการณ์ของตนเองว่า "การได้ทดลองใช้งานฟรีบนคลาวด์ของ AWS ได้เปิดโอกาสในการเรียนรู้ที่น่าตื่นเต้น ซึ่งโดยปกติแล้วนักเรียนอย่างผมจะไม่สามารถเข้าถึงได้ ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าการประมวลผลบนคลาวด์และ AI จะเข้าถึงได้ง่ายขนาดนี้ โครงการนี้ทำให้ผมได้เรียนรู้ทักษะมากมายที่จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนและอาชีพในอนาคตของผม ผมได้เรียนรู้วิธีการสร้างแอปพลิเคชันที่สามารถสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริงให้กับชุมชนของเรา"

ด้านของคุณครูเองก็มองเห็นถึงคุณค่าของโครงการนี้ นายกฤษฎา บุญศรี คุณครูจากโรงเรียนพนัสพิทยาคาร กล่าวว่า “โครงการนี้เป็นความคิดริเริ่มที่ยอดเยี่ยมในการส่งเสริมเยาวชนให้มีความรู้และความสามารถ การประมวลผลบนคลาวด์จะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ ขอบคุณ AWS ที่ทำให้เราตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการใช้คลาวด์”

เฉลิมฉลองความสำเร็จของนักเรียน

การแข่งขันแสดงผลงานของนักเรียนเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา โดยผู้เข้ารอบสุดท้าย 10 คนจากผลงานที่ส่งเข้าประกวดกว่า 60 ชิ้น ได้จัดแสดงผลงานอันสร้างสรรค์ของตนที่สร้างบน PartyRock ก่อนถึงรอบชิงชนะเลิศ นักเรียนที่ได้เข้ารอบได้รับการอบรมติวพิเศษจากทีม AWS Startup และสถาปนิกโซลูชันผู้เชี่ยวชาญ (Solution Architect) เพื่อปรับแต่งแนวคิดและกลยุทธ์การนำเสนอผลงาน ผลงานเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายและนวัตกรรมที่สร้างสรรค์โดยนักเรียน ตั้งแต่เครื่องมือสำหรับเตรียมการสัมภาษณ์งาน ระบบที่ให้คำแนะนำด้านอาชีพ ไปจนถึงแอปพลิเคชันด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับการติดตามคาร์บอนฟุตพริ้นท์และการทำฟาร์มอัจฉริยะเป็นต้น

ดร. จตุพันธ์ รุจิรานุกูล รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจังหวัดชลบุรีและระยอง กล่าวว่า “โครงการ Tech for Digital Future เป็นตัวอย่างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการเสริมสร้างศักยภาพด้านดิจิทัลของประเทศ การร่วมกับ AWS ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าบุคลากรจะได้รับทักษะด้านคลาวด์ที่สำคัญอย่างยิ่งในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ โครงการนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลในระดับประเทศ และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาบุคลากรในประเทศให้ขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในยุคดิจิทัล”

คณะกรรมการ 5 ท่านจาก AWS และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นผู้ประเมินผลงานของนักเรียน โดยพิจารณาจากแนวคิด การดำเนินการและผลกระทบเป็นหลัก ผลของการประกวดคือ SwiftNet AI ที่ถูกพัฒนาโดย นายรชต นกประเสริฐ และนายณัฐดนัย สันรัมย์ จากโรงเรียนพนัสพิทยาคารเป็นผู้ชนะ ซึ่งเป็นเครื่องมือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงานวิศวกรรมเครือข่าย ภายในงานมีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงาน รวมถึงนายกเทศมนตรีเมืองพัทยา นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ดร.จตุพันธ์ รุจิรานุกูล รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจังหวัดชลบุรีและระยอง และ นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager ของ AWS Thailand เข้าร่วมด้วย

นายรชต นกประเสริฐ และนายณัฐดนัย สันรัมย์ นักเรียนจากโรงเรียนพนัสพิทยาคารแสดงความเห็นว่า “ก่อนที่จะได้เริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับคลาวด์ พวกผมคิดว่ามันจะยากและซับซ้อนมาก แต่โครงการ Tech for Digital Future กลับทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุกและน่าตื่นเต้น สิ่งที่เราชอบมากที่สุดคือการได้ทดลองใช้ PartyRock เพื่อสร้างแอปพลิเคชันที่ช่วยให้วิศวกรเครือข่ายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะสามารถสร้างสรรค์ผลงานด้วยคลาวด์และ AI ด้วยอายุเพียง 17 ปี และอยากที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ AWS เพื่อที่ในอนาคตเราจะได้สร้างเทคโนโลยีที่ช่วยแก้ปัญหาสำคัญในสังคมเราได้อย่างแท้จริง ขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนช่วยให้เราได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะคลาวด์และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้บนคลาวด์เท่านั้น”

นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager ของ AWS Thailand กล่าวทิ้งท้ายว่า “ประเทศไทยกำลังก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจดิจิทัลแห่งภูมิภาค การมอบประสบการณ์และพื้นฐานเบื้องต้นด้านคลาวด์และ AI ไม่เพียงแต่จะช่วยพัฒนาทักษะทางเทคนิคให้กับบุคลากรเท่านั้น แต่ยังเสริมพลังให้เยาวชนไทยสามารถแก้ไขปัญหาจริงในสังคมด้วยเทคโนโลยีระดับโลกอีกด้วย เรามุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตดิจิทัลของประเทศไทย ด้วยการทำงานร่วมกับสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และชุมชนต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อขยายโอกาสไปยังทั่วประเทศและสร้างความมั่นใจให้กับเยาวชนไทยในการก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างเต็มตัว”

ที่มา: ข่าวประชาสัมพันธ์

alt="AWS"alt="Tech"

Get latest news from Blognone