ในที่สุดผู้เล่นในตลาด Windows Phone 8 ของประเทศไทยก็เข้าสู่สนามครบทุกรายแล้ว หลังจากที่รายล่าสุดอย่าง ATIV S เพิ่งวางขายได้ไม่นาน ทางซัมซุงประเทศไทยก็ได้ส่งเจ้า ATIV S มาให้รีวิว โดยจับมาเทียบกับคู่แข่งในตลาดเดียวกันอย่าง Lumia 920 จากโนเกียกันเลย
หมายเหตุ: รีวิวนี้จะได้รับการสนับสนุนจากซัมซุง แต่ก็เป็นการเทียบกันตามฟีเจอร์ และการใช้งานจริง ไม่ได้เซนเซอร์แต่อย่างใดครับ
ฮาร์ดแวร์
ด้วยความที่ไมโครซอฟท์กำหนดสเปคของ Windows Phone 8 มาค่อนข้างชัดเจน ดังนั้นสเปคภายในของแต่ละเครื่องจะคล้ายกัน จะต่างกันไปตรงรายละเอียดปลีกย่อยอย่างหน้าจอ ตำแหน่งปุ่ม และวัสดุตัวเครื่องมากกว่าครับ ว่าแล้วก็มาลองจับสองรุ่นนี้เทียบกันดูเลย
กระจกด้านหน้าของทั้งสองรุ่นเป็นกระจกแบบเรียบ ขอบมนบริเวณที่มุมทั้งสี่ด้าน ตำแหน่งวางกล้องหน้าของทั้งสองรุ่นอยู่จุดเดียวกันคือมุมขวาบน จุดต่างเพียงจุดเดียวคือ ATIV S เลือกใช้ปุ่มโฮมเป็นปุ่มจริงตามแนวทางของซัมซุงเสมอมา ส่วน Lumia 920 เป็นปุ่มแบบสัมผัสทุกปุ่ม
มองดูจากด้านหน้าจะเห็นว่าตัวเครื่องขนาดใกล้เคียงกันมาก แม้ว่าตัว Lumia 920 จะหน้าจอเล็กกว่าพอสมควร (4.5”) แต่เป็นหน้าจอสเกล 16:10 จึงกว้างพอๆ กับ ATIV S ที่หน้าจอ 4.8” แต่เป็นสเกล 16:9 นั่นเอง
การวางปุ่ม และพอร์ตของทั้งสองรุ่นต่างกันเล็กน้อย ถ้าไม่นับพอร์ต micro USB และพอร์ตหูฟัง 3.5 มม. ที่ถูกวางไว้ขอบล่าง และบนตามมาตรฐานแล้ว Nokia เลือกวางปุ่มต่างๆ ไว้ที่ด้านขวาทั้งหมด ไล่จากบนมาล่างจะเป็นปุ่มปรับเสียง ปุ่มเปิดเครื่อง และปุ่มชัตเตอร์ตามลำดับ ส่วน ATIV S จะวางปุ่มเปิดเครื่อง และปุ่มชัตเตอร์ไว้ด้านขวา และแยกปุ่มปรับเสียงไปไว้ด้านซ้ายเหมือนกับสมาร์ทโฟนซีรีส์ Galaxy
ความบางของตัวเครื่องต่างกันชัดเจนมาก ATIV S นั้นบางเพียง 8.7 มม. ส่วน Lumia 920 นั้นหนากว่านิดหน่อย ไปอยู่ที่ 10.7 มม. ส่วนความสูงตัวเครื่อง ATIV S จะยาวกว่าเล็กน้อยเนื่องจากสเกลหน้าจอเป็น 16:9 และยังมีหน้าจอใหญ่กว่าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
พลิกมาดูด้านหลังตัวเครื่อง ATIV S ใช้พลาสติกขัดลายอลูมิเนียมเป็นฝาหลัง วัสดุที่ใช้ใกล้เคียงกับที่เคยเจอใน Galaxy S III ที่บาง แต่ก็ยืดหยุ่นมาก ส่วน Lumia 920 สีแดงจะเป็นพลาสติกผิวมัน ตำแหน่งกล้องของทั้งสองรุ่นต่างกันไป ATIV S วางไว้ด้านบน ส่วน Lumia 920 วางไว้ตรงกลาง ซึ่งเราจะมาพูดถึงข้อดีข้อเสียของตำแหน่งวางกล้องอีกทีครับ
ฝาหลังของ ATIV S นั้นถอดออกมาได้ เมื่อเปิดฝาหลังจะพบกับแบตเตอรี่ขนาด 2300 mAh พร้อมสล็อตสำหรับใส่ micro SD เพิ่มหน่วยความจำที่ด้านซ้ายของฝาหลัง (ด้านขวาเป็นถาดใส่ซิม) ส่วน Lumia 920 นั้นถอดฝาหลังไม่ได้ ใส่ micro SD เพิ่มไมได้ และแบตเตอรี่จุน้อยกว่าที่ 2000 mAh
การถือใช้งาน
เปรียบเทียบการใช้งานมือถือด้วยมือถือเดียว และในอิริยาบทต่างๆ ATIV S สามารถใช้งานสะดวกทั้งมือซ้าย และมือขวา เนื่องจากแยกปุ่มไว้คนละฝั่งกัน เวลาถือมือขวาจะวางนิ้วโป้งไว้ที่ปุ่มเปิดเครื่อง และใช้นิ้วชี้/กลางวางไว่ที่ปุ่มปรับเสียง (มือซ้ายก็แค่สลับกัน) เนื่องจากจอใหญ่ ความกว้างของจอทำให้ผู้ใช้มือขวาเอื้อมไปกดปุ่มย้อนกลับที่ใช้ค่อนข้างบ่อยได้ลำบากหน่อย
การถือ ATIV S เพื่อถ่ายรูป ในท่าปกติแนวตั้งการกดชัตเตอร์ผ่านหน้าจอจะสะดวกกว่ากดปุ่มชัตเตอร์แยกมากๆ เพราะตำแหน่งของปุ่มมักจะอยู่บริเวณอุ้งมือ หรือนิ้วก้อย กดค่อนข้างลำบาก การถือถ่ายในแนวนอน (แบบกล้องคอมแพค) จะสะดวกกว่าถ้าใช้มือขวาเพียงอย่างเดียว ถ้าใช้สองมือจะมีโอกาสบังกล้องสูงมาก
ส่วน Lumia 920 ด้วยความที่ความกว้างพอกันจะประสบปัญหาเอื้อมไปกดปุ่มตรงข้ามลำบากเช่นเดียวกัน ด้วยการที่วางปุ่มไว้ทางด้านขวาทั้งหมด ถ้าหากใช้งานด้วยมือขวาจะลำบากมาก เพราะปุ่มเปิดเครื่องจะอยู่ตรงอุ้งมือพอดี
การถือถ่ายรูปแบบปกติต้องระวังไม่ให้นิ้วไปบังกล้อง เพราะตำแหน่งกล้องอยู่ตรงกลางตัวเครื่อง ส่วนการถ่ายภาพแบบแนวนอนทำได้สะดวกทั้งมือเดียว และสองมือ โดยไม่ต้องห่วงว่าอีกมือจะไปบังกล้องแต่อย่างใด
การถือใช้งานทั่วไป ATIV S ทำได้ดีกว่า ด้วยฝาหลังที่เป็นพลาสติกขัดลาย ช่วยให้ถือได้มั่นคงขึ้น ส่วน Lumia 920 ที่วัสดุเป็นพลาสติกผิวมันนั้นจะค่อนข้างลื่นมือมาก โดยเฉพาะในที่อากาศแห้งๆ เมื่อรวมกับน้ำหนักของ Lumia 920 ที่หนักกว่ามาตรฐาน (185 กรัม) ใช้งานมือเดียวนานๆ จะรู้สึกเมื่อยได้เลย เมื่อลองเปลี่ยนมาถือ ATIV S จะสัมผัสได้ถึงน้ำหนักที่เบากว่ามากๆ (135 กรัม)
หน้าจอ
เทียบกันตามสเปค หน้าจอของทั้งสองรุ่นนี้ต่างกันมาก ATIV S ใช้หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 4.8” ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ส่วน Lumia 920 ใช้หน้าจอ LCD IPS ขนาด 4.5” ความละเอียด 1280x768 พิกเซล พอลองจับมาเปิดภาพมาตรฐานในตัวเครื่องเทียบกัน เปิดความสว่างสูงสุด จะได้ผลดังนี้
สรุปตามภาพตัวอย่าง หน้าจอของ Lumia 920 จะสีออกอมแดง และจอความสว่างมากกว่า ส่วน ATIV S จะอมฟ้าเล็กน้อย แต่คอนทราสต์ดีกว่า ซึ่งถ้าเปิดโหมดปรับแสงอัตโนมัติ ในสภาพหน้าจอความสว่างไม่สูงสุด Lumia 920 จะสีซีดลงมาก เมื่อเทียบหน้าโฮมสกรีนสีเดียวกันจะพบว่า ATIV S นั้นสีสดกว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน บางโทนสียิ่งแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
แบตเตอรี่
จากการทดสอบการใช้งานทั้งสองเครื่องในรูปแบบคล้ายกัน (ลงแอพเหมือนกัน ต่อ Wi-Fi ทั้งวัน เปิดโหมดปรับแสงอัตโนมัติ และโหมดประหยัดไฟ) ผลปรากฎว่า อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของ ATIV S อึดกว่าพอสมควร เทียบจากการใช้งานสลับกันตลอด 7-8 ชั่วโมงแบบไม่หนักมาก ATIV S แบตลดลงไปประมาณ 40% ส่วน Lumia 920 นั้นลดลงไปต่ำกว่าครึ่งแล้ว และตัวเครื่องยังร้อนไวกว่าด้วย
การจับตำแหน่งด้วย GPS
ความเร็วในการจับสัญญาณดาวเทียมของทั้งสองเครื่องเรียกได้ว่าเร็วพอๆ กัน ดังนั้นความต่างจะตกไปอย่กับการใช้งานจริงร่วมกับแอพแผนที่ ซึ่งจุดนี้ ATIV S ได้เปรียบตรงที่สามารถเรียกแอพขึ้นมาใช้งานได้เร็วกว่า (เปิดปุ๊ปติดปั๊ป จับตำแหน่งทันที) ส่วน Lumia 920 จะต้องรอเวลาเปิดแอพเล็กน้อย จึงใช้เวลาในนานกว่าในการจับตำแหน่ง แต่ก็ได้เปรียบตรงฟีเจอร์ที่มากกว่าเมื่อรวมกับ Nokia Drive ที่แถมมาในตัวด้วย
คุณภาพเสียง และการใช้งานโทรศัพท์
เรื่องเสียงลำโพงในตัวเครื่องจากการเปิดเพลงเทียบกันพบว่าเสียงของ Lumia 920 นั้นดังกว่าพอสมควร ส่วนหนึ่งเป็นเพราะวางลำโพงไว้ตรงด้านล่างของตัวเครื่อง จึงไม่ถูกบังเวลาวางตัวเครื่องไว้กับที่ ต่างกับ ATIV S ที่วางไว้ด้านหลัง บวกกับเสียงที่เบากว่าอยู่ที่แล้วยิ่งทำให้เสียงเบาลงไปอีก ส่วนมิติของทั้งสองเครื่องนั้นคุณภาพกลางๆ ไม่ได้โดดเด่นมากเป็นพิเศษทั้งคู่
การใช้งานโทรศัพท์ ATIV S ทำได้ตามมาตรฐาน แม้ว่าเสียงจากคู่สายจะเบาไปหน่อย แต่สนทนาได้ชัดเจนดี ส่วน Lumia 920 จะมีปัญหาเวลาโทรบางครั้ง อย่างการได้ยินเสียงตัวเองก้องๆ ตอนรอฝั่งตรงข้ามรับสาย บางครั้งถึงกับได้ยินเสียงตัวเองสะท้อนกลับมาระหว่างคุยอยู่ และยังไม่รู้ว่าอาการที่ว่าเกิดจากอะไรครับ - -“
ปัญหาที่พบ
หลังจากใช้งานมาได้ราวหนึ่งสัปดาห์ก็พบว่าทั้งสองรุ่นมีปัญหาต่างๆ กันออกไป แบ่งตามรุ่นได้แบบนี้ครับ
ATIV S
Lumia920
เทียบแอพเอ็กคลูซีฟ
แม้ว่าจะเปิดตัวมาได้พักใหญ่แล้ว แต่จนถึงตอนนี้ต้องยอมรับว่า Windows Phone 8 ยังมีแอพไม่เพียงพอต่อการใช้งานของผู้ใช้อยู่ดี ภาระทั้งหลายจึงตกไปอยู่กับผู้ผลิตที่ต้องหาแอพเอ็กคลูซีฟมาเติมเต็มความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งทั้งซัมซุง และโนเกียก็ทำการบ้านตรงนี้มาทั้งคู่ครับ
แอพเอ็กคูลซีฟของแต่ละค่าย สามารถหาได้จากหน้าแรกของ Store โดยของซัมซุงจะเรียกว่า Samsung Zone ส่วนโนเกียจะเรียกว่า Nokia Collection โดยฝั่งซัมซุงจะเน้นหนักไปทางแอพที่พัฒนาขึ้นมาเองอย่าง ChatON แอพแชทบนมือถือ, MiniDiary แอพจนโน้ตฟังก์ชันครบครัน หรือแอพแต่งภาพสไตล์เมโทรอย่าง Photo Editor
ทางฝั่งโนเกียนอกจากแอพพัฒนาเองอย่างพวก Nokia Maps หรือ Nokia Drive แล้วยังมีแอพ และเกมที่เอ็กคลูซีฟไว้เฉพาะ Lumia ด้วยอย่างเช่น Angry Birds จาก Rovio หรือ Word with Friends จาก Zynga เทียบปริมาณแอพในหมวดนี้แล้วโนเกียจัดมาให้เยอะกว่าพอสมควร
นอกจากนี้โนเกียยังแพคแอพ App Highlight สำหรับที่รวบรวมแอพเอ็กคลูซีฟของตัวเอง และแอพสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งาน ที่น่าสนใจคือมีแอพไทยโดยเฉพาะรวมมาให้ไว้ด้วย
ปิดท้ายตอนแรกกันด้วยการเปรียบเทียบจุดเด่นของทั้งสองรุ่นนี้ ว่าแต่ละรุ่นใครเหนือกว่าตรงไหนอย่างไรบ้าง
จุดเด่น ATIV S
จุดด้อย ATIV S
จุดเด่น Lumia 920
จุดด้อย Lumia 920
สำหรับตอนที่ 2 เราจะพาเจาะลึกเรื่องกล้องของทั้งสองรุ่นนี้แบบถึงพริกถึงขิง ว่าเอาเข้าจริงแล้วกล้องรุ่นไหนจะเจ๋งกว่ากันครับ
Comments
ผมว่าซัมซุงการตลาด WP ดูไม่หวือหวา และดูท่าว่าขายได้ยาก
ตลาด WP ในไทย โนเกียลอยลำไปแล้วครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ซัมซุง มีราคาเดียว
โนเกีย มีถูกสุดจนถึงแพงสุด
จริงด้วย nokia มี lumia 5XX แล้วครับ อีกไม่นาน อาจมี lumia 4XX แน่นอนครับ
สินค้าซัมซุงถือว่าใช้ได้ ไม่ได้ดีเด่นมากมาย
แต่.. การตลาดของสิ ซัมซุงไม่ธรรมดา ถ้า WP ติดตลาดเมื่อไร ซัมซุงมาแน่
นอกเรื่องนิดนึงครับ
ผมพึงสังเกตว่า โทรศัพท์ มันสั่นแล้วจึงเป็นเสียง เวลาโทรเข้า (Lumia 920)
ท่านเป็นเหมือนกันไหมครับ
..ใช้มานานไม่เคยสังเกต
ของผมก็เป็นนะ ปกติ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ขอบคุณมากครับ
นึกว่าสั่นพร้อมเสียง มาตั้งนาน เมื่อวานเกินสงสัย นึกว่าตั้งค่าอะไรผิด 555+
เป็นตั้งแต่ WP7 เลยครับ
ผมดูจากรีวิวแล้ว SS ดูดีกว่าทุกอย่าง แต่น่าแปลกใจที่ รู้สึกว่า 920 น่าสนกว่าแฮะ ต้องเข้าใจว่าการตลาดคนละด้านจริงๆ 555
ผมมองว่า 920 ดูดีกว่ามากครับ
ได้อัพเดต FW ของทั้งสองรุ่นเป็นตัวล่าสุดรึยังครับ
บางปัญหาเหมือนเป็นปัญหาใน FW เก่าเลย
review นี้ สนับสนุนโดย samsung จึงอาจวัดกันแบบ fw เก่า-ใหม่ ส่วน fw ใหม่นั้น nokia ไม่มีปัญหา soft brick แล้วครับ
ยังมีปัญหาครับ เครื่องผมยัง ดับอยู่เป็นระยะเลยครับ
ทำไมผมดวงดีมากเลย ไม่ค่อยค้าง แต่ตอนแบตหมดต้อง Soft Reset เป็นระยะ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ถ้าLumiaรุ่นหน้าเบากว่านี้แล้วแบตอึดได้จะดีมาก
920 หนักเพราะ wireless charger
ส่วนควบคุม Wireless Charger ทั้งหมดหนักประมาณเท่าไหร่ครับ?
ใช้เวลาในนานกว่า ?
Advertorial สนับสนุนโดยซัมซุง แถมเอามาเทียบกับโนเกีย
จะต้องเขียนเกรงใจซัมซุงไหมครับ ยังไงเขาก็ให้เงินเรา เห็นรีวิวของผลิตภัณฑ์ซัมซุงในไทยหลายตัวจากหลายเว็บมัน "ไม่มีข้อเสีย" เลยนะ
ผมก็ว่างั้น ข้อเสียไม่รู้หายไปไหนหมด
นโยบายของ Blognone คือ
ส่วนใครจะคิดหรือเชื่อตามความเชื่อหรือ bias ส่วนตัว ก็คงเป็นเรื่องเวรกรรมของแต่ละบุคคลแล้วล่ะครับ โตๆ กันแล้ว
สรุปว่าจัดเต็ม ไม่มีการเกรงใจกันนะครับ ผมจะได้มั่นใจหน่อย เสียความมั่นใจกับเว็บรีวิวเมืองไทยไปเยอะแล้ว ยังมี blognone กับ droidsans นี้แหละที่โอเค
การลง Advertorial จะให้สิทธิกับผู้ลงบางอย่างครับ
อย่างที่บอกว่าคนเขียนเองก็รู้ล่วงหน้าว่าบทความไหนเป็น adver เรื่องความเกรงใจกันเราคงไปสำรวจในใจคนเขียนไม่ได้ครับ ถ้าคิดว่าเขียนแบบได้ผลตอบแทนแล้วอาจจะไม่เป็นกลาง เราประกาศทุกบทความว่าบทความไหนเป็น adver บ้าง
lewcpe.com, @wasonliw
ถ้าทำบทความ หรือ ในที่นี้คือการโฆษณาในเชิงเปรียบเทียบ ก็ควรจะกล่าวถึงทุกความสามารถของแต่ละเครื่อง
ไม่ใช่ยกแค่ความสามารถบางอย่าง โดยเฉพาะความสามารถที่เป็นจุดเด่น ไม่เหมือนใคร ไม่ใช่เพื่อให้คนจ่ายเงินดูดี
จรรยาบรรณสื่อ
http://www.thaimedialaw.org/index.php?option=com_content&view=category&layout=blog&id=8&Itemid=15
ถ้าทราบถึงจรรยาบรรณสื่อแล้ว ก็น่าจะทราบได้ว่า ทำไมคนถึงท้วงติงถึงความเป็นกลางเยอะขนาดนี้
ครับทำตามนโยบายได้ดีมาก จุดดีของโนเกียมากมายไม่พูดถึง เอาแต่พูดจุดดีของซัมซุง แต่ไม่ได้อวยเวอร์ แต่ก็ไม่มีข้อเสีย นี่หรอ รีวิว สรุป มันก็คือโฆษณานั่นแหล่ะ หากไม่เอายี่ห้ออืนมาเทียบผมเฉยๆนะ แต่นี่ 5555+
เค้าก็มีสรุป ดี เด่น แต่ล่ะยี่ห้อข้างล่างนี่ครับ
ทำไมผมรู้สึกว่า Nokia ได้ภาพที่สีสวยกว่าล่ะครับ ?
เพราะ nokia เข้าถึง API ของ MS ได้มากกว่าเจ้าอื่นครับ อนาคตข้างหน้า lumia สีซีดไม่มีแน่นอนครับ เพราะมี color profile มาช่วยเรื่องสีครับ
เข้าถึง API ได้มากกว่าเจ้าอื่นเหรอครับ ???
ผมเห็นเค้ามั่นใจแบบนี้โดยไม่มีหลักฐานชัดเจนมาพักใหญ่แล้วครับ หรือมีหลักฐานมาตอนท้ายที่ผมไม่ได้ตามเข้าไปอ่านผมไม่แน่ใจ
แต่ผมว่าเรื่องสีซีดที่ว่า อาจเกิดจาก AMOLED โดนซัมซุงตั้งใจปรับให้สดเกินจริงก็ได้มั้งครับ วางคู่กันโนเกียเลยซีดได้อีก
+1 กับเรื่องความมั่นใจ เหมือนจะรู้ทุกเรื่องเลยครับ
อันนี้ผมไม่รู้นะ แต่โนเกียมี API ให้ Dev มากกว่าครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ชาร์จไร้สาย ?
เท่าที่ผมเจอกับตัวบน Lumia 920 คือเวลาเปิด Wifi มันไม่ได้ตัด Mobile Data Connection ให้อัตโนมัติเหมือน Android ครับ
ไม่แน่ใจว่า Ativ S เป็นเหมือนกันไหม
แต่ถ้าจะประหยัดแบตด้วยการเปิด Wifi ต้องปิด Mobile Data Connection เองด้วยครับ
ถูกต้องครีบ เมื่อต่อ WiFi mobile data ยังต่อยู่ครับ ทำให้ถ้า WiFi ใช้ไม่ได้
มันจัใช้ mobile data เองอัติโมัติ ทั้งๆที่ WiFi ยังต่ออยู่
ถ้าต่อ WiFi แล้ว การเข้าถึง internet จะใช้ WiFi แทน mobile data ครับ
ผมใช้วิธีปิด mobile data เลยครับถ้าต่อ wifi บางครั้งมันก้อจอง mobile data ตลอด อีกอย่างที่ปิดน่าจะปะหยัดแบตด้วย
ใช้ 920 อยู่ครับ หงุดหงิดเรื่องแอพ นอกนั้นสบายๆ
920 เป็นกระจกโค้งนะครับไม่ใช่กระจกเรียบ และอัตราส่วนหน้าจอ 15:9 ด้วยครับไม่ใช่ 16:10
ปล. ad จริงๆครับ เรื่องกล้องนี่ไม่พูดถึงเลย ชาร์จไร้สายด้วย :P
เรื่องกล้องเขาบอกว่าจะไปพูดกันตอนหน้าไงครับ
อ้อครับ อ่านหมดเลยยกเว้นบรรทัดสุดท้าย
ขอโทษนะครับ
คือผมสงสัยครับว่า Advertorial นี่ใครเขียนหรอครับ แล้วเค้าไม่แก้หรอครับ คือผมแจ้งว่ามันผิดไปหลายวันแล้วยังไม่เห็นอัพเดท เลยสงสัยน่ะครับ
ผมว่าปุ่มเปิดเครื่อง 920 ก็ไม่ได้กดยากนะครับ พอดีนิ้วโป้งขวาผมพอดี
อาจจะจับกันคนละท่ามั้งครับ
ผมถือ Lumia 900 มือขวาเป็นหลักเลย ทำมือเอียง 45 องศาใช้อุ้งมือรับมุมล่างขวาของเครื่องแล้วกำ เครื่องมันจะเลยฝ่ามือด้านบนขึ้นมาหน่อย(กล้องจะโผล่มาพอดีแต่มีบางครั้งจับไม่ดีนิ้วชี้ก็บังเหมือนกัน) แบบนี้นิ้วโป้งจะอยู่ในตำแหน่งระหว่างเปิดปิดเครื่องกับลดเสียง ใช้กดได้เกือบทุกปุ่มปัดหน้าจอได้พอดีๆ ปัดดูคลื่นบนสุดกับปุ่ม Back ตึงหน่อยที่นิ้วโป้งแต่ก็ยังไหว
แต่แน่นอนว่าท่านี้ใช้ปุ่ม Shutter ถ่ายรูปไม่ได้ และตอนเริ่มใช้แรกๆ ยังไม่ชินก็เสียวหล่นอยู่เป็นบางครั้ง = =
Achievement Unlocked: Being a Blognone's Writer
คือส่วนใหญ่ผมใช้เล่นเว็บ กดอะไรๆ มันก็กดข้างล่าง เลยติดนิสัยจับล่างๆหน่อยอะครับ
ส่วนถ่ายรูป ผมมักจะถ่ายแนวนอน :) แนวตั้งก็แน่นอนว่ากดไม่ได้ ต้องแตะ
นึกถึงเครยอน ชินจัง
เสียงก้องไม่ใช่ที่เครือข่ายหรอ ผมเป็นบ่อยจะตาย AIS, HTC Mozart WP7
เทียบสีสดกับ Samsung ยี่ห้อไหนก็แพ้อะนะ - -
AMOLED ก็ส่วนหนึ่ง Samsung ด้วยอีกส่วนหนึ่ง
จะบอกว่าสีสดกว่ามันดีกว่าจริงหรือ หรือว่าควรแสดงถูกต้องดี
แต่พวก Color Space กว้าง, Contrast สูง, Respond Time ต่ำ นี่ไม่เถียงอะ
แต่ว่าทั้งหมดนี้ต้องแสดงได้ถูกต้องด้วย
ผมขอถูกต้องดีกว่าครับ ไม่ใช่เปิดในคอมแบบ ....
อย่างที่ท่านด้านบนว่า nokia เข้าถึง API ของ MS มี color profile ที่เหนือกว่าเจ้าอื่น แล้วมันจะทำให้เจ้าอื่นๆ รู้สึกว่าตัวเองเป็นแค่แค่ลูกเมียน้อย เป็นไม้ประดับโดยไม่มีทางเหนือไปกว่า nokia ได้หรือเปล่า จนทำให้ไม่กล้าทุ่มลงไปทำ wp แบบเต็มตัว ไม่รู้จะเป็นผลเสียสำหรับ MS มากกว่าผลดีมั๊ย
ต่อจากข้างบนละกันครับ
ออกตัวก่อนว่าผมไม่มีความรู้ด้านโปรแกรมมิ่ง Mobile App ไม่ว่าจะค่ายไหนๆก็ตาม ผลที่ตามมาคือไม่เคยอ่าน API ของ MS ไปด้วย
จะใช้คำว่าถามหาหลักฐานก็แรงเกินไป เอาเป็นว่าอยากเห็นอะไรที่ยืนยันเป็นรูปธรรมหน่อยน่ะครับ ว่า Nokia เข้าถึง API ได้เยอะกว่าเจ้าอื่นจริงๆ
เท่าที่ติดตามมา MS เปิดระบบให้ nokia มากกว่าจริงๆครับ อย่างเช่นเทคโนโลยี OIS ที่ต้องอาศัยการควบคุม hardward ของโมดูลกล้องเพื่อชดเชยการสั่นนี่ก็อย่างนึง ถ้าไม่เปิดระบบกันแบบexclusiveสักหน่อยคงเขียนต่อกับฮาร์ดแวร์ได้ยากพอสมควรครับ
ส่วนเรื่อง color profile ผมไม่เคยได้ยินนะครับ - -"
ปล.โดยส่วนตัวใช้ ATIV S อยู่ เวลาเล่นนานๆก็คิดว่าไม่ได้ร้อนน้อยกว่าโนเกียเท่าไหร่ครับ ส่วนเรื่องสุ่มรีบูทเครื่องผมนี่มีบ้าง นานๆทีครั้งนึง พอรับได้ครับ
1.ตัวเครื่องค่อนข้างหนัก : แมนๆหน่อยก็เฉยๆนะ
2.ใครเคยถือ 920 นานๆจะพบว่า จุดที่ร้อนสุดคือบริเวณเหนือกล้อง เดาว่าน่าจะเป็น CPU อันนี้คิดว่าออกแบบดีนะเพราะมันไม่ร้อนมือ
3.อยาเห็นภาพเปรียบเทียบหน้าจอตอนอยู่กลางแดดเปรี้ยงๆเลย. ดูจอ 920 กลางแดดยังเห็นชัดนะ.
4.920 จอมันเป็น Clear Black...จะไม่เอ่ยถึงหน่อยหรอ?
5.ATIV S ถ้าปล่อยให้แบตหมดจะเป็นยังไง?
6.เรื่องแบตเตอรรี่น่าจะบอกด้วยว่าเปิด/ปิด backgrounก service อะไรบ้าง?
+1 ก็รีวิวนี้สนับสนุนโดยซัมซุงครับ
+100
+920 อันสุดท้ายเนี่ยแหละ อยากดู background task ว่าเปิดอะไรทิ้งไว้ แอพ HERE Drive+ นี่กินเยอะนะครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
รีวิวสนับสนุนโดยซัมซุง อืมมมมมมมมมม เหมือนในพันทิปเนอะ
"MiniDiary แอพจนโน้ตฟังก์ชันครบครัน หรือแอพแต่งภาพสไตล์เมโทรอย่าง Photo Editor"
แอพจน >> แอพจด
That is the way things are.
กำลังแอบคิดอยู่ว่า Samsung แกล้งไม่สนใจ Window Phone แล้วปล่อยให้โนเกียทำตลาดไป สมมุติโนเกียทำ WP ออกมาติดตลาดได้จริง Samsung ค่อยมาทุ่มตลาดนี้แบบที่ถนัด ด้วยเหตุที่เป็น open source + Supply chain ของ Samsung เองจะเข้าตลาดตอนไหนก็ได้ โดยไม่เสียเปรียบมากนัก แล้วก็ไม่เสี่ยงด้วย เพราะถ้า Window Phone ไม่ติดตลาด Samsung ก็ไม่เจ็บตัว เพราะตอนนี้ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไปตัดยอดขายของตัวเอง(SSGS4)
ไม่รู้สินะ ผมรู้สึกว่าถ้าเทียบกันระหว่างสองตัวนี้ผมไม่ค่อยรู้สึกว่าจะเหมือนช้างชนกันเท่าไหร่เลยนะ
Nokia 620 ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร here drive+ beta มีขึ้นว่าให้ update แต่ก็ update ไม่ได้ เลยลบแล้วลอง install ใหม่ปรากฎไม่มีใน App Store ซะงั้น
ไม่ทราบว่ามีท่านไหนพบปัญหาเหมือนกันบ้างไหมครับ
ปล. มีเรื่องค้างคาใจอย่างหนึ่งก็คือ app ที่เคยซื้อไว้สมัยเป็น wp7.5 ใช้ windows/Microsoft. Account อันเดียวกันกับ wp8. ทำไม app ที่เคยซื้อไว้ไม่ตามมาด้วยครับ ต้องมีการตั้งค่าอะไรพิเศษหรือเปล่า
ตามมานะครับ ผมว่าลองดูพวกการตั้งค่าภูมิภาคสัดนิดนึงง
ตามนะครับ ตอนกดที่แอพมันจะขึ้นว่าซื้อ แต่หน้าจ่ายเงินมันจะบอกว่าเคยซื้อแล้ว
หรือไปกดลงจากหน้า www.windowsphone.com ก็ได้ครับ เลือกไปแอพที่เคยซื้อแล้วแล้วกดสั่งลงจากเว็บเลย
ตอนนี้ here drive+ beta ไม่มีใน store ครับ เดี๋ยวคงกลับมาพร้อม version จริง
ลิงก์ครับ พยายามคุ้ยบนเครื่องมา โหลดได้ไม่ได้บอกด้วยครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ใช้ได้แล้วครับ ขอบคุณมาก ตอบช้าเพราะเพิ่งเห็นวันนี้ครับ
ส่วนเรื่อง. App ที่เคยซื้อก็ใช้ได้แล้วขอบคุณทุกท่านข้างบนด้วยแล้วกัน
คือเข้าใจนะครับว่า Review นี้ Samsung เป็นคนสนับสนุน ผมก็หนักใจแทนคน Review เหมือนกันนะ ที่จะทำยังไงให้ ATIV S มันดูดีกว่า Lumia 920
แต่ก็ ... นะ น่าจะรู้กันหมดแล้วมั้ง ว่าอันไหนที่มันดีกว่ากัน
920 มีอะไรที่ ATIV S ไม่มีอีกหลายอย่าง ไม่เห็นพูดถึงเลย
แฟน Nokia ร้อนทนไม่ไหวอ่านไม่จบหรือยังไง เขาบอกว่าจะมีตอนที่ 2 ทดสอบกล้องไงซึ่งทีเด็ดของ 920 อยู่ตรงนี้แหล่ะ ผมไม่เข้าใจจริงๆนะ ผมรู้ว่าพวกคุณเคยใช้ Nokia กันทั้งนั้น แต่นั้นต้องแยกแยะไม่ใช่เชียร์แต่ยี่ห้อที่ตัวเองปลูกฝั่งมานาน ยอมรับฟังเหตุผลทุกด้านถ้าหากอยากจะเป็นผู้รู้จริงๆไม่ใช่อคติฝ่ายเดียวคุณก็รู้แค่ฝ่ายเดียว งั้นจะเข้ามาดู Review เปรียบเทียบเพื่อ ?
ปล.หากรุนแรงไปกระทบใครขอโทษด้วย เป็นกำลังใจให้ Review ต่อไปครับ
แล้วคุณร้อนจนอ่านให้จบไม่ได้หรือไงครับ? ผมเห็นมีคนท้วงเรื่องกล้องอยู่คนเดียว
ถ้าจะติก็ reply เค้าตรง ๆ ครับ ถ้า reply ไม่ได้ก็ระบุตัว ไม่ใช่เหมารวมแบบนี้ เพราะคนอื่นที่ผมเห็นส่วนมากก็อาจจะท้วงด้วยเหตุผลเค้า แต่ก็ไม่มีอะไรบ่งบอกว่าเค้าอ่านไม่ครบนะครับ
ผมอ่านจบทุกคอมเม้นและผมไม่ได้หมายถึงกล้องอย่างเดียว (อ่านดีๆครับ) แต่รวมถึงคนที่อยากจะเก็บตกความรู้ด้วย ถ้าในใจพวกคุณเชื่อมั่นอยู่แล้วว่าฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ดีกว่าและเข้ามาจับผิดกระทู้นี้ (ซึ่งเกือบทุกคอมเม้นก็เป็นแบบนั้น) จะเข้ามาอ่านเพื่ออะไรละครับ ผมไม่รู้นะว่า Blognone รับเงินไปเท่าไร แต่เว็บ IT ที่ผมเชื่อมั่นและติดตามมานานมีชื่อเสียงก็มีเว็บนี้ ผมว่าถ้าพวกคุณไม่พอใจการ Review เพราะอยากให้เป็นไปดังใจละก็ไปสร้าง Blog เขียนเปรียบเทียบเอาเองเลยครับ
ปล.ผมแนะนำให้คนที่โตๆพอจะเข้าใจนะครับ แต่ใครอยากจะลากยาวก็เชิญ
พอบรรทัดกลางมันโดนหนีบด้วยสองประโยคนั้น มันทำให้ความหมายไม่ชัดเจนเหมือนสื่อถึงเรื่องกล้องเพียงอย่างเดียว มันทำให้คนเข้าใจผิดได้ง่ายนะครับ ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้นไปแล้ว
ขอโทษด้วยที่ไม่เข้าใจความหมายที่คุณจะสื่อ
การตลาดไสตล์ซัมซุงแท้ๆ...
คนรีวิวก็หลับหูหลับตา เอามาเป็นส่วนๆ ได้จริงๆ
เราวิจารณ์ตรงไปตรงมา...โดยมีซัมซุงสนับสนุน...
เราจะเทียบกันทุกด้าน...โดยมีซัมซุงสนับสนุน...
เก่งจริงๆ ที่ตัด ปิด ปะ จน Ativ ดีกว่า 920
ถ้าผมเป็นโนเกีย ผมจะฟ้องนะ เรื่องทำลายภาพลักษณ์สินค้า
จะ โคตร-สะ-นา ก็เขียนไป จะอวยยังไงก็ได้ แต่ไม่ใช่เอามาเทียบกัน...เฉพาะส่วนที่เหมือนจะดีกว่าอย่างงี้
จอ Super-sen ชาร์ตไร้สาย บริก เฟิร์มแวร์...ไม่สน กรูจะอวยว่า...คนจ่ายเงินเหนือกว่า ใครจะทำไม
อย่าเกรียนสิครีบ ผมใข้ 920 อยู่ผมว่าหลายๆอย่าง Ativ S มีนก็น่าสนนะ
แล้วรีวิว ก็รีวิวเป็นหัวจ้อนะครับ พวกความสามารถพิเศษ มันก็มีสิทธิ์ที่จะไม่พูดถึงได้
ไม่เห็นจะแปลกเลยครับ
ซื้อ Samsung Omnia7 จาก ebay ใช้มาสองปีแล้ว ตอนนี้ Super AMOLED ก็ burn เป็นดวงตาม Metro UI แก้ไม่ได้เลย (เป็นตั้งแต่ซื้อมาใช้มาได้แค่ปีเดียว)จอเหลือง แถมสียัง Hue มากไปด้วยดูไม่สมจริง ถึงแม้จะสว่างกว่า contrast มากกว่าก็ตาม เข็ดแล้วกับจอตระกูล AMOLED
ตามจริงเรื่องการถือถ่ายเป็นเรื่องความถนัดของแต่ละคน ผมว่าผู้เขียนน่าจะแสดงให้ดูนะครับว่ามือของผู้เขียนจะบังกล้องได้ยังไง(ถ้าเป็นตามในรูป คิดว่าคงไม่มีใครถ่ายภาพโดยใช้นิ้วก้อยในท่านั้นแน่) เพราะโดยส่วนตัวผมก็ใช้ 920 มาซักพักก็ไม่เคยมีปัญหาดังที่กล่าวทั้งมือซ้ายและขวา ที่สำคัญการมีปุ่มชัตเตอร์ด้านข้างช่วยให้สามารถสแนปรูปได้เร็วกว่าการที่ต้องมากดจากหน้าจอรวมถึงการถ่ายมือเดียวได้ด้วยความรวดเร็วด้วย เนื่องจากผมไม่เคยใช้ATIV จึงคิดว่าผู้เขียนอาจรีวิวเพิ่มเติมถึงการเข้าถึงการถ่ายภาพตั้งแต่เครื่องที่ปิด(sleep)ว่าตัวไหนทำได้ดีกว่ากันเพราะอาจเป็นด้านดีของการมีปุ่มแยกด้านข้างแบบที่โนเกียใช้มาตลอด อีกอย่างคือ กล้องโนเกียสามารถกดชัตเตอร์และเลือกตำแหน่งโฟกัสที่บนหน้าจอได้เลยด้วยนะครับ จึงคิดว่าประเด็นนี้โนเกียน่าจะใช้งานได้สะดวกกว่า ส่วนประเด็นอื่นๆไม่แน่ใจว่าเป็นอย่างไรเพราะไม่เคยใช้ ATIV (จอโนเกียมีอาจมีขนาดเล็กกว่าแต่มีความละเอียดที่มากกว่านะครับน่าจะพูดถึงประเด็นนี้ด้วย เพราะสำหรับผมถือว่าจะมีความคมชัดที่ดีกว่า)
ด้วยความเคารพนะครับ ผมคิดว่าการทำAdvertorial ไม่ควรทำรีวิวเปรียบเทียบสินค้ายี่ห้อหนึ่งกับสินค้าอีกอัน เพราะผลจะออกมาจริงหรือมีการเลือกที่จะพูด ตัวBlognone เองก็จะสูญเสียความน่าเชื่อถือแบบที่ได้รับในคอมเม้นต์ต่างๆข้างบน รวมถึงผมเองด้วย ผมเองตามอ่านมานาน แต่ไม่ได้สมัครเป็นสมาชิก แต่อ่านรีวิวนี้แล้วรู้สึกไม่ตรงกับที่ตัวเองได้ใช้มาอย่างมาก จึงอยากร่วมแชร์ประสบการณ์ส่วนตัว เนื่องจากอาจมีคนอื่นๆที่ไม่เคยใช้โทรศัพท์ทั้งคู่แต่มาอ่านรีวิวนี้ จึงไม่แฟร์กับทางโนเกียครับ
+920 เห็นด้วย การทำAdvertorial ไม่ควรทำรีวิวเปรียบเทียบสินค้ายี่ห้อหนึ่งกับสินค้าอีกอัน
ชอบกล้องของ 920 ที่มีปุ่มชัตเตอร์ให้ กดลงครื่องหนึ่งวัดแสง+ล็อกโฟกัส แล้วก็จัด compose ภาพได้
หน้าตาซัมซุงเหมือนมือถือราคาถูกเลย
ไม่รู้ว่ายังไง ถ้าเกิดจำเป็นต้องซื้อมาใช้เอง ผมก็เลือก Lumia นะ ทั้งแอพที่เป็นของโนเกียเอง แล้วก็การทำการตลาด รวมถึงจุดเด่นหลักๆ ของเครื่องเอง...
ความเห็นผมคือ ปล่อย Samsung รุ่งทาง Android ดีกว่า
Windows Phone เรามาอยู่กับ Nokia กันเต๊อะ :3
Dream high, work hard.
ไม่น่าเอาไปเทียบกะnokia
น่าจะเทียบกะhtcก็พอ จะได้ชนะอย่างไม่ค่อยหมองใจ
เห็นบทความมีความเห็นเยอะ เลยคลิกเข้ามาอ่าน แหม่... อย่างที่คิดไว้ไม่ผิดเลยครับ ฮ่าๆๆ นานาจิตตัง