ในปีนี้ บริษัทเทคโนโลยีน้อยใหญ่ต่างก็หันมาสนใจคอมพิวเตอร์ชนิดสวมใส่ได้ (wearable computer) กันเป็นพิเศษ ทั้งแว่นตาจากกูเกิลอย่าง Google Glass และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือนาฬิกาข้อมือ ส่วนหนึ่งก็เช่นล่าสุดที่ซัมซุงเปิดตัว Galaxy Gear ผลิตภัณฑ์นาฬิกาข้อมือที่มาพร้อมกับจอสัมผัส ไมโครโฟน ลำโพง และกล้อง หรือก่อนหน้านี้ที่การระดมทุนผ่านทาง Kickstarter ทำให้ผลิต Pebble นาฬิกาที่ใช้หน้าจอ e-paper ออกมาสำเร็จ รวมทั้ง smartwatch รุ่นที่สองจากโซนี่ และสัญญาณที่บริษัทยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ กำลังซุ่มเตรียมกระโจนเข้าสู่ตลาดใหม่แห่งนี้ ทั้งกูเกิล แอปเปิล และอื่น ๆ
อันที่จริง ไอเดียของ smartwatch นั้นสามารถย้อนกลับไปได้ถึงราว ค.ศ. 1940 การ์ตูนเรื่อง Dick Tracy ซึ่งมีตัวเอกที่เป็นตำรวจซึ่งใช้เทคโนโลยีล้ำยุคในการสืบหาและจับกุมคนร้าย หนึ่งในนั้นก็มีแนวคิดของ smartwatch อยู่ด้วย หรือถ้าสมัยใหม่ขึ้นมาหน่อยก็คือระบบของไมโครซอฟท์ที่ชื่อ Smart Personal Object Technology (SPOT) สำหรับใช้ใส่นาฬิกาข้อมือและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ในบ้าน โดยอาศัยการถ่ายทอดข้อมูลผ่านคลื่นวิทยุ FM และเก็บค่าบริการรายปีกับผู้ใช้
อย่างไรก็ดี สิ่งหนึ่งที่ smartwatch ยังหาไม่เจอก็คือจุดมุ่งหมาย จุดมุ่งหมายเป็นปัญหาที่ผู้ผลิตจำต้องตีให้แตกว่านาฬิกาในอนาคตควรจะทำอะไรได้บ้าง ในปัจจุบัน สิ่งที่ smartwatch ทำได้นั้นเกือบทั้งหมดเป็นสิ่งที่โทรศัพท์สามารถทำได้เช่นเดียวกัน smartwatch นำเสนอความสามารถในฐานะของแก็ดเจ็ตที่สแตนด์อโลนได้น้อยมาก และในอนาคต กลุ่มผลิตภัณฑ์นี้จะมีความสำคัญขึ้นมาจริง ๆ หรือไม่ยังคงเป็นคำถามที่ตอบได้ยาก แน่นอน ในขณะนี้เรายังไม่รู้สึกถึงความจำเป็นที่เราจะต้องมี smartwatch แต่ในอนาคต เมื่อโฆษณาและการตลาดจากทั้งซัมซุงและแอปเปิลเข้ามา บางทีความคิดของเราอาจเปลี่ยนไปก็ได้
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันก็คือ มันจะดูเก๋และดูดีหรือไม่ ทุกสิ่งที่เราประดับบนร่างกายรวมถึงนาฬิกานั้นล้วนแต่เป็นแฟชั่น ที่ผ่าน ๆ มา ซัมซุงมีเสียงครหาถึงรูปลักษณ์ของอุปกรณ์อยู่ไม่น้อย ซัมซุงจะต้องทำมากกว่าแค่ให้มันใช้งานได้ดี แต่มันจะต้องดูดีด้วย
สำหรับเวลานี้ นาฬิกาโบราณ ๆ ที่อาศัยพลังงานจากแรงดึงดูดและควอตซ์ยังคงเติบโตต่อไปอย่างมั่นคง Swatch ทำยอดขายเพิ่มขึ้น 9 เปอร์เซนต์ และมีส่วนต่างกำไรสูงถึง 19 เปอร์เซนต์ ไม่น้อยหน้าแอปเปิลและเหนือกว่าซัมซุงด้วยซ้ำที่ทำส่วนต่างกำไรได้ 12 เปอร์เซนต์ในปีนี้ ที่สำคัญในธุรกิจนาฬิกาแล้ว บางทีการไม่สร้างสรรค์ใหม่อาจเป็นการดีกว่าก็ได้ หนึ่งในนาฬิการุ่นยอดนิยมอย่าง Omega Speedmaster แทบไม่ได้เปลี่ยนแปลงรูปร่างเลย คุณยังสามารถหาซื้อนาฬิกาที่นักบินอวกาศ Buzz Aldrin ใส่ตอนอยู่บนดวงจันทร์ได้ในราคาประมาณ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น
อนึ่ง นักวิเคราะห์ของบลูมเบิร์กรายงานว่าอุตสาหกรรมนาฬิกามีเม็ดเงินหมุนเวียนถึงหกหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่จะเข้าสู่ภาวะอิ่มตัวภายในปี ค.ศ. 2017 นั่นดูทำให้ตลาด smartwatch ดูน่าสนใจเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือไม่น้อยเลยทีเดียว
Comments
ถ้านาฬิกาอัจฉริยะมาแทนที่อะไรบางอย่างที่สำคัญได้ก็คงจะมีความสำคัญขึ้นไม่ใช่น้อย
แก้แล้วครับ ขอบคุณครับ
สำหรับ ผม SmartWatch ที่ทำให้ไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบ่อยๆ ก็พอใจในระดับนึงแล้วครับ
เวลา ขี่ จยยหรือขับรถไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ว่าใครโทรมา สามารถตัดสินใจรับหรือไม่รับสายได้
เวลาออกกำลังกาย สามารถดูระยะทางที่วิ่งมาหรือปั่นจักรยานมาได้ ดูแคลได้
แค่นี้พื้นๆ ผมก็ซื้อแล้วอ่ะครับ
Link ไป Galaxy Gear เบิ้ลคำว่า http://www.blognone.com/node/ ครับ