Kabam บริษัทเกมมือถือรายใหญ่อีกรายหนึ่ง (เกมส่วนใหญ่เป็นเกมที่ได้ไลเซนส์จากหนังดัง เช่น Fast & Furious, Marvel, Lord of the Rings, The Hunger Game แต่ก็มีเกมของตัวเองบ้าง เช่น Dragons of Atlantis) ระบุว่ายกเลิกแผนการทำเกมลงแพลตฟอร์ม Windows Phone แล้ว
ปีที่แล้ว Kabam เพิ่งประกาศว่าจะนำเกมของตัวเองมาพอร์ตลง Windows Phone หลายเกม แต่สุดท้ายกลับออกได้จริงๆ เพียงเกมเดียวคือ Fast and Furious 6 จากนั้นบริษัทก็หายไปจากโลกของ Windows Phone เลย
เว็บไซต์ Windows Central สอบถามไปยังบริษัท และได้คำตอบยืนยันว่าหยุดพัฒนาเกมลง Windows Phone แล้ว หันไปเน้นแค่ Android และ iOS เท่านั้น
ที่มา - Windows Central
Comments
W10 มากู้สถานการณ์ด่วน
ผมไม่เคยเล่นเกมค่ายนี้ (จะว่าไปก็แทบไม่เล่นเกมบนโทรศัพท์อยู่แล้ว) แต่มีคนบอกว่าเกมเดียวที่โผล่มานั่นก็ไม่ได้ดีอะไรเลย ขนาดแฟน Fast and Furious ยังไม่เล่นเลยครับ - -"
คือถ้าแฟน Windows Phone ทุกคนพร้อมใจกันบอกว่า "เราไม่เล่นเกมบนมือถือหรอก ใครจะไม่ทำเราก็ไม่แคร์สักนิด แต่เราจะยังคงใช้ Windows Phone ต่อไปนะ" มันคงจะฟินมากนะครับ
Ps. ผมใช้ iphone แต่ก็แทบไม่เล่น ไม่โหลดเกมเหมือนกันครับ
คือผมจะบอกว่าคนที่เล่นเค้าว่าเกมนี้มันไม่น่าเล่นน่ะครับ
ผมพยายามจะฝืนเล่นแล้ว แต่พบว่ามันโคตรจะไม่หนุกเลย
โอโห วันนี้มีแต่ข่าวเลิกทำแอพ Windows Phone สาวกตะเตือนใตมาก ;A;)
all your base are belong to us
ผมรำคาญข้ออ้าง "คนน้อย" เลยไม่ทำลง / ตัดสินใจหยุดพัฒนาต่อ-ถอดแอพจาก WP มาก เพราะจริงๆ แก้ไขได้ด้วยการทำให้เป็น Windows App (ชื่อใหม่ของ Universal App) เพื่อดึงคนจาก Windows มาได้ แต่ก็ไม่ยอมทำเอง
ถ้าบอกว่า "ไม่ทำเงิน" หรือ "ทำเงินไม่ได้ตามเป้า"/"ขาดทุน" ยังจะพอฟังขึ้นกว่า
Dev ที่ไม่ฉลาด ขี้เกียจ และไม่มีวิสัยทัศน์แบบนี้ ก็ปล่อยเขาไปเถอะครับ
ถ้ามันทำเงินได้ ค่อยกลับมาทำ ทำไปตอนนี้ก็เหมือนตำน้ำพริกละลายน้ำตกไนแองการ่า
ฟังดูมีวิสัยทัศน์ไหมครับ
มันก็ยังยากอยู่ดีแหละครับ เพราะการทำ Windows App หมายถึง
เขียน app ยากขึ้น
ตลาดคือตัวรวมระหว่าง wp ที่ไม่ค่อยมีคนไช้ + pc "เฉพาะ windows 8&10"
ที่จริงมันมีความจริงที่ว่าถ้างบถึงและพร้อมเสี่ยง ขาย "app ปรกติ" ที่ลงใด้ตั้งแต่ windows xp คุ้มกว่า ถ้าไม่อยากเสี่ยง Android + ios ก็มี tools มากมาย
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
คิดกันอย่างนี้เสร็จ พอเจ้าใดเจ้าหนึ่งมีความเบ็ดเสร็จแล้วขูดรีดกับนักพัฒนาแล้วนักพัฒนาจะถามหาคนมาคานก็ไม่ทันแล้วครับ เหมือน CP ตอนนี้
ถ้ามีคนไช้ app บ้าง app ที่พัทนาไปแล้วก็น่าจะอยู่ใน store เพื่อหารายใด้ต่อไป แต่อันนี้ถอด app ออก แปลว่ารายรับน้อยจน"ทิ้งไปใด้"
... จริงๆไม่อยากจะบอกว่า "คนน้อย" เป็นการบอกอย่างสุภาพว่า "ไม่ทำเงิน, ทำเงินไม่ได้ตามเป้า, ขาดทุน" ถ้าบอกตรงขนาดนั้น จะ ทำให้ dev หน้าใหม่ไม่กล้าร่วมทำ wp เป็นการตบหน้า ms
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เหมือน Windows บน PC ตอนนี้ด้วยเหมือนกันใช่ไหมครับ :P
แต่การทำ Universal App ก็ไม่ได้รับประกันว่ามันจะขายได้นี่ครับ App บาง App เหมาะกับการใช้งานบนมือถือเท่านั้น โดยเฉพาะ Casual Game ที่เป็น Fad การมาทำ Universal App ไม่ได้การันตีว่าถ้าไม่มีคนซื้อจาก Mobile จะมีคนซื้อใน Desktop ใช่มั้ยครับ
แปลว่าอ่านแล้วไม่เข้าใจครับ
point ของผมคือ ถ้าจะอ้างว่า "เลิกทำแล้ว" เพราะ "คนน้อย" ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่ทำเป็น Windows App เพื่อดึงคนมาเพิ่มล่ะ
คือถ้าระบุไปเลยชัดๆ ว่า "ทำเงินไม่ได้ เลยเลิกทำ" จะตรงจุดกว่า เพราะคนเยอะไม่ได้เท่ากับว่าจะได้เงินเยอะตามไปด้วย อันนี้กรณีศึกษาของ iOS กับ Android ก็มีให้เห็นอยู่
เข้าใจครับ แต่ Dev ไม่ได้ถือหุ้น Microsoft นี่ครับ จุดประสงค์หลักคือหาเงินเข้ากระเป๋า ทำไมต้องไปแคร์ให้คนมาใช้งาน Windows App ที่มีผู้ใช้งานน้อยด้วยละครับ ถ้าสามารถทุ่มทรัพยากรไปที่ตลาดที่ใหญ่กว่าได้
อย่างที่บอกครับ การทำ Windows App ไม่ได้การันตีอะไรเลยว่าจะขายได้จริง (ถ้าไม่เข้าใจย้อนไปอ่านข้างบนอีกรอบได้ครับ)
การที่ "ทำเงินไม่ได้ เลยเลิกทำ" เหตุผลหนึ่งก็เพราะคนซื้อ(ใช้)น้อยไม่ใช่หรือครับ
ผมเห็นด้วยว่าการทำ App ให้ iOS หรือ Android ก็อาจจะขาดทุนได้เหมือนกัน แต่ถ้าเทียบกับ Windows Phone ในปัจจุบันความเสี่ยงก็น้อยกว่านะครับ
ปล. ที่เถียงนี่ไม่ใช่ติ่ง Apple นะครับ ผมเองก็ใช้ 920 กับ Surface RT อยู่ เศร้าใจแต่ก็เข้าใจที่ไม่มี Dev มาพัฒนา App ให้ RT เลย
เพิ่งรู้ว่าการไม่ทำแอพลง WP นี่แปลว่า "ไม่ฉลาด ขี้เกียจ และไม่มีวิสัยทัศน์"
ทำไมถึงแน่ใจนักว่าการทำเป็น Windows app จะช่วยดึงคนให้มาใช้แอพได้มากขึ้น คนใช้ Windows 8 เยอะก็จริงแต่ส่วนใหญ่ใช้กันแต่ Desktop app ซะมากกว่านะครับ
ถ้าผมเป็นเจ้าของบริษัทและมีทรัพยากรจำกัด ผมก็คงโฟกัสไปที่การทำแอพลง Android, iOS มากกว่าเหมือนกัน ถ้า WP บูมเมื่อไหร่ ถึงตอนนั้นค่อยมาทำก็ไม่สายไปหรอกครับ
มีตรงไหนที่บอกครับว่าการไม่ทำแอพลง WP เป็นอะไรอย่างที่ว่า?
เพราะที่ผมระบุ "ไม่ฉลาด" คือเจ้าตัว "อ้าง" ว่าคนน้อยเลยไม่ทำต่อ
แต่ "ขี้เกียจ" ที่จะหาคนเพิ่มโดยการทำเป็น Windows App
ซึ่งจริงๆ เหตุผลเรื่องคนน้อย ผมไม่เห็นด้วยมากๆ เพราะกรณ๊ที่คนน้อยแต่ทำรายได้ดีกว่าอย่าง iOS ที่ทำได้เหนือกว่า Android มันมีให้เห็นกันอยู่ คำถามคือถ้ามันมีปัญหาต้องเลิกทำจริงๆ ทำไมไม่บอกว่ามันมีปัญหาตรงๆ ทำไมถึงบอกว่าคนน้อย หรือทาง dev มองอย่างนั้นจริงๆ คือถ้ามองอย่างนั้นจริงๆ เนี่ย มันเป็นอะไรที่ขาด "วิสัยทัศน์" มากๆ
ซึ่งผมยอมรับนะ เรื่อง Windows Store ทำเงินได้ไม่ดี แต่ทาง dev ก็น่าจะระบุแบบนั้นไป
จำนวนคนเป็นแค่ส่วนหนึ่งในการพิจารณาพัฒนาลงแพลตฟอร์ม แต่ส่วนแรกที่ควรพิจารณาจริงๆ คือแพลตฟอร์มนั้นๆ มีอะไรที่สนับสนุนในการสร้างรายได้ทางการเงินอย่างมั่นคงแก่ตัวเองนอกจากเรื่องจำนวนคน ซึ่งบางทีไม่ได้บอกอะไรนักหรือเปล่า
ผมย้อนไปอ่านข่าว ไม่เห็นมีตรงไหนที่เค้าบอกว่าเลิกทำแอพลง WP เพราะคนใช้น้อย แต่คุณกลับด่าเขาซะยับด้วยประเด็นที่คุณยกมาเอง อีกอย่างจะบอกว่าไม่ทำเงินหรือบอกว่าคนใช้น้อยมันก็ไม่ต่างกันหรอกครับ มันเป็นเหตุเป็นผลกันอยู่แล้ว คุณเอาไปเทียบกับ iOS ก็ไม่ได้ เพราะจำนวนคนใช้ก็ยังต่างกันเยอะ แถมกลุ่มคนใช้ iOS ก็จ่ายเงินซื้อแอพ ซื้อคอนเท้นท์มากกว่า WP ด้วย (อย่าลืมว่าคนใช้ WP ส่วนใหญ่ซื้อรุ่นราคาถูก)
ในนี้ติ่งMSเยอะครับ เม้นอะไรต้องระวัง
นั่นสิ ติ่ง MS ดิ้นกันเป็นแถวๆ
ใช่ครับ หนักกว่าติ่งเกาหลีอีก
คอมเม้นคุณนี่ไม่มีความลำเอียงส่วนตัวเลยนะครับ
มันอยู่ในที่มาครับ
biggest market 2 อันดับแรก หรือ เจ้าที่มีส่วนแบ่งการตลาด 2 อันดับแรก = จำนวนคนใช้เยอะ 2 อันดับแรก คือ Android และ iOS การที่บอกว่าจะขอ concentrate ทรัพยากรทั้งหมดไปกับ biggest market และเลิกทำ WP ก็ = บอกว่า WP คนใช้น้อยนั่นล่ะครับ เลยไม่ทำ เพราะงั้นที่บอกว่า "ด่าเขาซะยับด้วยประเด็นที่คุณยกมาเอง" ก็เป็นอันตกไปนะครับ
มันไม่ได้เป็นเหตุเป็นผลซะขนาดนั้นหรอกครับ แต่เห็นคำพูดแบบนี้ ก็ขอเดาว่าไม่น่าจะเคยทำธุรกิจค้าขายที่ต้องมาออกร้าน หรือลงไปค้าขายภาคสนามอย่างในตลาดหรือตลาดนัด ก็เอาเป็นว่า ก่อนจะเลือกไปขายอะไรที่ไหน แน่นอนเราต้องดูจำนวนคนก่อน ดูทำเลก่อน ดูกำลังซื้อ และดูว่าตลาดที่เราจะไปลงมันเป็นประเภทที่สินค้าของเราตอบโจทย์รึเปล่า อันนี้คร่าวๆ ซึ่งกรณีในข่าวนี้ก็ต้องเรียกว่าสำรวจมาแล้วประมาณนึง ไม่งั้นไม่กล้าประกาศจะลงโน่นลงนี่ขนาดนี้ และทำการลงตลาดแล้ว แต่มันกลับไม่เวิร์ค คำถามคือตกลงก่อนจะลงตลาดเจ้าตัวไม่รู้เลยเหรอว่าคนน้อย หรือไม่ได้ทำการสำรวจตลาดเลยก่อนที่จะมาลง ซึ่งผมมองว่าที่ว่า "คนน้อย" มันเป็น "ข้ออ้าง" ที่ไม่สมเหตุสมผลซะมากกว่า เพื่อเอามากลบความไร้ศักยภาพในการแข่งขันของตัวเอง หรือเหตุผลอื่นๆ ซึ่งในกรณีหลังก็ควรจะระบุให้ชัดเจน โบ้ยไปเรื่องอื่นรังแต่จะเห็นถึงการไม่ยอมรับความจริงของบริษัท
แปลว่าไม่เก็ต point ที่ต้องการจะบอกว่าจำนวนคนเยอะไม่ได้เกี่ยวกับว่าจะมีรายได้ที่มากเสมอไป แถมไม่ได้บอกว่า WP ทำเงินได้เยอะด้วยซ้ำไป คุณตีความเข้าข้างตัวเองไปเอง คือเข้าใจว่าอยากคอมเม้น อยากถกเถียง แต่ก็อ่านให้ดีสักนิดเพราะมันไม่ใช่เรื่องจะต้องมาเถียงเลยด้วยซ้ำ เท่าที่อ่านของคุณทั้งหมดมาเนี่ย เข้าใจผิดไปเองทั้งดุ้น ปัญหาของ WP นี่ผมกล้าด่ามากกว่าคนใช้หลายคนด้วยซ้ำมั้ง หลังจากใช้มันมาเกือบเดือน รู้เลยว่าระบบปฏิบัติการดีมาก แต่แอพห่วยแตกทั้งคุณภาพและปริมาณเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น (พอใจรึยัง?) แถม MS เองไม่ได้มีโมเดลธุรกิจหรือตัวช่วยที่ทำให้นักพัฒนามั่นใจว่าการกระทำของตนจะไม่เป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำอย่างสูญเปล่า ซึ่งจริงๆ ก็อันหลังนี่ล่ะหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้นักพัฒนาพากันถอยห่าง บางพวกก็รักษาระยะ เหตุผลเรื่องคนเยอะมันเป็นแค่เหตุผลตั้งต้นในการตัดสินใจในการเลือกพัฒนาลงแพลตฟอร์มนั้นๆ หรือไม่ แต่ไม่ใช่ในระยะยาวหลังจากพัฒนาลงแพลตฟอร์มลงไปแล้ว ที่ต้องดูกันที่เม็ดเงินล้วนๆ ที่คุณบอกว่า "กลุ่มคนใช้ iOS จ่ายเงินซื้อแอพ" ก็เป็นตัวยืนยันคำพูดของผมอยู่แล้ว และจะบอกแค่ว่าคนใช้ iOS กระเป๋าหนักเลยยอมจ่ายมากกว่ามันก็จริงส่วนหนึ่งด้วย แต่อีกส่วนก็ต้องยอมรับว่าคนยอมจ่ายเพราะคุณภาพของแอพใน iOS ดีกว่า WP และบางทีก็มีโปรโมชั่นต่างๆ ล่อให้คนซื้อมากกว่า แต่มันไม่ได้เกี่ยวกับจำนวนคนแบบตรงๆ ไม่งั้น Android คงทำเงินได้มากกว่า iOS ไปไกลโขแล้ว
ผมว่ามันก็เรื่องคาดการณ์อนาคตด้วยครับ คือคิดว่าการเติบโตของ WP จะเท่านี้ แต่ผลลัพธ์กลับไม่ใช่ดังที่คาดไว้
นักพัฒนาอุตสาห์เชื่อใจและทำ app ให้ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ WP เติบโตได้นะครับ คุณไปว่าเขาอย่างนี้ MS คงยิ่งปวดใจน่าดู เพราะมันดูเหมือนคนทรยศต่อ MS จะโดนสาบส่ง อย่างนี้คนยิ่งจะไม่ support MS เข้าไปอีก แบบแฟนบอย MS ดุน่าดูไรอย่างนี้อะ
ผมว่าเขาก็พูดมีเหตุมีผลดีนิครับ คือตัวเกมมันก็ไม่ได้ดีเลยนี่นาไอ้ FastFurious6 นั่นนะ ไม่ทำเงินก็ไม่แปลกละผมว่า
ສະບາຍດີ :)
"มีตรงไหนที่บอกครับว่าการไม่ทำแอพลง WP เป็นอะไรอย่างที่ว่า?"
ครับ ด้านบนนั่นแมวพิมพ์ ?
คนน้อยมันก็เป็นเหตุผลหนึ่งนั่นละครับ
แถมรูปแบบเกมแบบทัช สำหรับอุปกรณ์พกพา มันจะไปเจาะตลาดคนใช้ Windows ที่ใช้เมาส์คีย์บอร์ด ที่มีเกมที่หรูและมีรายละเอียดมากกว่าสำหรับ Hardcore gamer ที่มีอยู่มากมาย ดูยังไงก็ยากครับ
เป็นผมเปิดคอมมาจะเล่นเกมส์ก็เข้า Steam แล้ว เกมดองมหาศาลเลยซื้อตอนลดราคา
ถอยมาก่อนถ้าเห็นแววว่า W10 เวิร์คค่อยทำก็ยังไม่สาย
ผมเล่น Asphalt 8 กับ Royal Revolt 2 บนคอม ก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไรนะครับ (Royal Revolt นี่คนเยอะพอสมควรเลย) ระบบทัชในนั้นก็เปลี่ยนเป็นกดคีย์แทน แถมได้จอใหญ่ ได้อารมณ์ดีด้วย แต่เจาะขา Steam ก็คงยากนั่นล่ะ
คนใช้น้อยเลยไม่ทำแอพให้ ก็ถูกแล้วนี่ครับ แล้วการทำแอพบนมือถือกับคอมก็ต่างกัน หน้าจอก็ต่างกันสเปกก็ต่างกัน ถ้าทำเกมกินสเปกน้อยก็ขายได้แต่บนมือถือ พวกhardcore gamerบนพีซีก็ไม่สนใจ ถ้าทำเกมภาพสวยๆก็เล่นมือถือทั่วไปไม่ได้ มีกี่เกมกันครับที่ดังทั้งบนมือถือและคอมถ้าไม่ใช่ซีรี่ดังๆ
ก็แบบนั้นละ ที่ Windows app เกิด
มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกครับ ที่ว่าเขียนครั้งเดียวพอร์ตลงได้หลายดีไวด์อะไรพวกนี้ ยังไง ๆ มันก็มีอะไรแตกต่างที่ต้องมาคอยดูแต่ละดีไวด์อยู่ดีครับ
พวกคำพูดที่ว่าพอร์ตลงอุปกรณ์อื่นง่ายเพียงแค่กดคลิ๊กเดียวอะไรอย่างนี้เป็นคำพูดที่สวยหรูเท่านั้นครับ ในความเป็นจริงมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย
ผมว่าถ้า Dev เป็นคนที่อารมติสต์แบบที่คนว่ามาคือตะบี้ตะบันจะเอาให้ได้ ก็คงจะต้องรอวันเจ๊งแหละครับ ในเรื่องนี้ผมว่าเหตุผลมันดูตรงไปตรงมามาก ต้องเข้าใจนะครับว่าทรัพยากรมันมีจำกัด นอกจากแข่งกับตัวเองแล้วยังต้องแข่งกับคู่แข่งคนอื่นๆ ด้วย การจะแบ่งคนมาทำตรงนี้มันก็ต้องใช้ทรัพยากร ถ้ามันไม่ทำเงิน(คนใช้งานน้อย) ก็โยกทรัพยากรไปส่วนที่มันดูมีอนาคตมากกว่า ก็ดูเป็นเหตุผลที่เข้าท่า ไม่เห็นว่าไม่ฉลาด ขี้เกียจ หรือไม่มีวิสัยทัศน์อะไรเลย
ซึ่งจริงๆ ในโลกนี้ก็อาจจะมี Dev อารมณ์ติสต์ ที่กำลังทำแบบที่คุณว่ามาอยู่บ้างเหมือนกัน แต่อีกกลุ่มก็คงจะกำลังมองแล้วก็บ่นงึมงำๆ ว่า "Dev ที่ไม่ฉลาด ขี้เกียจ และไม่มีวิสัยทัศน์แบบนี้ ก็ปล่อยเขาไปเถอะครับ" อยู่เช่นกัน
แต่จริงๆ เรื่องนี้มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับ Dev นะ ถ้าเป็นทีมใหญ่ๆ เพราะมันเป็นหน้าที่ของทีมบริหารและ Marketing มากกว่าในการที่จะศึกษา มองอนาคตและแสดงวิศัยทัศน์
รู้ได้ไงว่าการทำให้เป็น Windows App จะดึงคนได้ ได้ขนาดใหน มีหลักฐานอ้างอิงมั้ย แล้วมีข้อมูลเปรียบเทียบมั้ย ว่าโฟกัสเฉพาะเพลตฟอร์มทำเงินน้อยกว่า?
เขาหมายถึงถ้าทำเป็น Universal App ก็จะไม่ต้องมาอ้างเรื่องคนน้อยไงละครับ
ສະບາຍດີ :)
ในขณะที่คุณพยายามเสนอความคิดเห็นส่วนตัว ภาพแผนภูมิด้านล่างนี้ (ไมโครซอฟท์วาดฝัน ผลิตภัณฑ์เชื่อมต่อกันแนบแน่น แบบเดียวกับแอปเปิล-กูเกิล) คือสิ่งที่ไมโครซอฟท์กำลังเข้าใจสถานการณ์ตัวเอง ซึ่งก็น่าจะทำให้หลายๆ คนเอามาใช้เป็นเหตุผลในการวิเคราะห์ในการจะหันหัวเรือไปทางทิศไหนได้ ตอนนี้สิ่งที่คนกำลังจับตาอยู่คือการมาของ Windows 10 ว่ามันจะช่วยให้เส้นที่เชื่อมเข้าก้อน Windows จะมีมากขึ้นอย่างที่หวังไว้หรือเปล่า ซึ่งถ้าวันหนึ่งดูแล้วมันมีความเป็นไปได้สูงเดี๋ยวคนก็แห่เข้าไปเอง
เอาตรงๆ ก็ ถ้าไม่ใช่เกมที่แปะ "XBOX Live" ผมก็ไม่รู้สึกสูญเสียสักเท่าไหร่หรอก
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ให้ความรู้สึกเหมือนไม่อยากทำ WP หรอกแต่เดี๋ยวไม่มีข้ออ้างเลยทำเกมกากๆมาลงแล้วก็ปิดไป=_=
ตราบใดที่ยังไม่มีแรงดึงดูดให้นักพัฒนาหันมาทำแอพบน WP ก็คงยากที่จะเกิดขั้วที่ 3 ได้
ทำไมถึงคิดว่าขั้วที่ 3 ต้องเป็น WP อย่างเดียวละครับ ยังมี Firefox OS กับ Ubuntu phone เป็นตัวเลือกอีกนะครับ
ถ้าเปลี่ยนชื่อเป็นgameloftนะ มีร้องงง
(T_T) I can't hold you back.
Windows App
ปล่อยเขาไปเถอะครับ เล่นของ Gameloft ดีกว่า 555
ສະບາຍດີ :)
ตะเตือนไต
ลาก่อย
ช่างมัน เกมมันก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่อยู่แล้ว
แล้วแต่เลยครับ เกมก็งั้นๆ อยากไปก็ไป