AVG ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสรายใหญ่ของโลก ประกาศอัพเดตนโยบายการเก็บข้อมูลส่วนตัวฉบับใหม่ ให้สามารถนำข้อมูลจากผู้ใช้ไปขายให้กับบริการภายนอก เพื่อคงบริการให้ยังฟรีต่อไปได้
โดยขอบเขตการเก็บข้อมูลของ AVG ตามที่ประกาศมา จะเป็นกลุ่มที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนตัว แต่เป็นข้อมูลการท่องเว็บไซต์ ประวัติการค้นหาย้อนหลัง โดยเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบรรดาไวรัส มัลแวร์ ฯลฯ ซึ่งจะมีตัวเลือกเพิ่มขึ้นมาให้ผู้ใช้สามารถเลือกเปิด หรือปิดการเก็บข้อมูลนี้ได้ โดยไม่กระทบกับฟีเจอร์ใดๆ
AVG ระบุว่าตัวบริการแอนตี้ไวรัสจะยังคงฟรีต่อไป โดยอาศัยการเก็บข้อมูลดังกล่าว ร่วมกับโฆษณา และอาจมีระบบสมาชิก (subscription) เพิ่มเข้ามาในอนาคตก็ได้ โดยปัจจุบัน AVG เป็นผู้ให้บริการแอนตี้ไวรัสรายใหญ่อันดับสามของโลก กินส่วนแบ่งอยู่ที่ 8.6% อ้างอิงจากรายงานของ Opswat บริษัทเก็บข้อมูลผู้พัฒนาซอฟต์แวร์
ที่มา - WIRED
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
Avast! ดีกว่านั่นแล
ดีครับ จะได้ไม่ใช้
ถ้าแค่แบบนี้ยังพอไหว อย่าแอบไปขุดบิตคอย แบบ utorrent ละกัน อันนั้นเกินเยียวยา
อันดับ 3 ที่่ 8.6% นะครับ
ผมแปลกใจที่ได้อันดับ 3 ถึงกับเข้าไปดูต้นทาง 55
AVG is the third most popular antivirus product in the world according to market analysis from software firm Opswat. The company has a 8.6 percent share of the global market, behind Microsoft on 19.4 percent and Avast on 21.4 percent
https://www.opswat.com/resources/reports/antivirus-and-compromised-device-january-2015
ิอะไรดลใจให้ผมพิมพ์ผิด 555 ขอบคุณที่มาแจ้งครับ
บายจ้า ซาโยนาระ
ใช้ Avast ตลอด เคยคิดจะไปลอง AVG เหมือนกันนะ อ่านข่าวนี้จบ ก็ไม่ต้องละ 555
WE ARE THE 99%
ใช้ avast ตัวฟรี มาได้3ปีแล้ว และคงใช้ต่อไป เคยลองไปใช้ตัวอื่นแล้วก็ต้องกลับมาใช้อันเดิม ไม่รู้ทำไม บางอันมันดูยุ่งยากไป(Bitdef จ่ายตังแล้วด้วย, AVGตัวเต็มก็เช่นกัน)
เมือก่อนชอบ nod32 นะ แต่ตอนนี้ไม่รู้แฮะ รู้สึกมันแย่ลง
The Dream hacker..
Licence เหลืออีก 190 วันเอาไงดีหว่า...
ในข่าวพูดถึงตัวฟรีครับ
^
^
that's just my two cents.
อ้ออ ใช่ๆๆ...
Avast กับ avg ในแง่กินแรงเครื่องน้อยๆ อันไหนทำได้ดีกว่ากันครับ
เท่าที่ลองตัวฟรี พอๆ กัน แต่ Avast มีภาษาไทย และเมนูเข้าใจง่ายกว่าครับ
ไม่ได้ใช้มานานแล้วเพราะ Bitdefender ชอบแจกคีย์ฟรีทุก 6-8 เดือน ใช้ฟรีๆ
ตามโมเดลของ Google ไปอีกหนึ่งราย ว่าไปแล้วนึกถึง Windows 10 Insider จริงๆ
ไม่ต้อง 10 insider หรอกครับ 10 ตัวจริงก็ด้วย
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ใช้ AVG IIS 2015 อยู่ AVG พยายามมากในการจะติดตั้ง web tune อะไรนี่
ตอนนี้คงต้องเอาออกไปละ
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project