Tags:
Node Thumbnail

ทุกๆ ปีที่นิวยอร์กจะมีการจัดงาน Baron Investment Conference โดย Ronald Baron มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทจัดการลงทุน Baron Capital โดยไฮไลท์ของงานเป็นการเชิญซีอีโอดังๆ มาพูดในงาน พร้อมกับมีคอนเสิร์ตจากศิลปินดังๆ มากมาย

งานประชุมปีนี้ได้เชิญ Elon Musk ซีอีโอของบริษัท Tesla Motors เข้าร่วมงานและพูดคุยตอบคำถามกับ Ronald Baron โดยตรง ซึ่ง Musk พูดคุยเกี่ยวกับความรู้สึกของเขาในเรื่องภาวะโลกร้อน และประเด็นสำคัญเกี่ยวกับยุคแรกๆ ของ Tesla ที่ไม่ราบรื่นนัก

แม้ขณะนี้ Musk จะมั่นใจในอนาคตของบริษัทฯ แต่ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่เขาเข้ามารับตำแหน่งซีอีโอในปี 2008 เขาบอกว่าตอนนั้นไม่คิดเลยว่า Tesla จะประสบความสำเร็จ “ตอนนั้นผมคิดว่าเราจะล้มเหลวแน่นอน” เขากล่าว “พวกเราตัดสินใจผิดเกือบทั้งหมด”

อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านมา 7 ปี Musk ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าสามารถพา Tesla ขึ้นมารุ่งได้ บริษัทฯ ได้รับเงินลงทุนจนสามารถซื้อโรงงานขนาด 5.5 ล้านตารางฟุต (ราว 510,000 ตารางเมตร) ณ เมือง Fremont รัฐแคลิฟอร์เนีย ต่อจาก GM และ Toyota ได้ โดยใช้โรงงานนี้เป็นฐานการผลิตรถยนต์และแบตเตอรี่ ต่อมารถยนต์ Tesla Model S ก็ฮิตเป็นพลุแตกและได้รับรางวัลมากมาย

หลังจากนั้นในปี 2014 Tesla ก็ได้ซื้อที่ขนาดมหึมาในรัฐเนวาดา เพื่อสร้างเป็นโรงงานแห่งใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมมาก ชื่อ Gigafactory 1 โดยใช้เงินลงทุนรวมค่าก่อสร้างถึงราว 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.8 แสนล้านบาท) ซึ่ง Musk บอกว่านี่ได้รับดีลพิเศษสุดๆ จากรัฐเนวาดาแล้ว

ที่มา - Fortune

No Descriptionภาพโดย Maurizio Pesce

Get latest news from Blognone

Comments

By: OXYGEN2
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 7 November 2015 - 14:44 #859398
OXYGEN2's picture

รถ Tesla น่าใช้จริงๆ แต่ราคานี่สุดเอื้อม ถ้ามาไทยภาษี 0% ราคาก็พอรับได้หน่อย


oxygen2.me, panithi's blog

Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 7 November 2015 - 16:38 #859418 Reply to:859398
put4558350's picture

model s จริงๆขาย $75,000 ประมาณ 2.7 ล้านบาท (ราคาแบบ us ไม่รวมภาษี) ครับ ดูราคาเริ่มต้นแพงแบบนี้ ค่าไฟถูกกว่าน้ำมัน รับประกันแบตเตอร์รี่ 8 ปี มีที่ชาจบริการฟรีตลอดไป (รุ่นล่างๆ ต้องจ่ายตังเพิ่ม)

แต่ ... เข้าไทยแบบ mass ยังไม่น่าจะใด้เพราะติดกตหมาย (นักการเมืองบ้านเรา ซื้อหุ้น ปตท เยอะ) อีกอย่างรถที่นำเข้าทั้งคันจะเจอภาษีนำเข้า 200% - 300% (กลายเป็น 8.1 - 10.8 ล้านบาท) ว่าง่ายๆ คือต้องเงินเยอะจริงๆครับ

สำหรับคนไทยอาจจะรอปีหน้า model 3 ราคา $35,000 (1.2 ล้านบาท ภาษี 200% ก็ยัง 3.6 ล้าน) ไม่ก็ต้องมองรถไฟฟ้าจีนหรือรอให้กตหมายรองรับรถกลุ่มนี้


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: OrangeJuice
iPhone
on 7 November 2015 - 18:34 #859425 Reply to:859418

ภาษีนำเข้า 200-300% !?

ผมทำงานเกี่ยวกับซัพพลายรถให้กับสถานทูตซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับการยกเว้นภาษีทุกตัวในโลก ยังไม่เคยเห็นภาษีที่ว่านี่เลยครับ

แต่ยอมรับว่ารู้สึกว่าได้ยินคนไทยพูดกันบ่อยมาก

By: Architec
ContributorWindows PhoneAndroidWindows
on 7 November 2015 - 18:37 #859426 Reply to:859425

BMW i8 ราคาสี่ล้าน ขายที่ไทยราคาเกือบ 12 ล้าน

ไปอยู่ถ้ำที่ไหนมาครับ อยากรู้

By: OrangeJuice
iPhone
on 7 November 2015 - 18:39 #859427 Reply to:859426

ผมไม่ได้ว่ามันถูกเท่าเมืองนอก แต่การพูดลอยๆว่าภาษีนำเข้า 2-300 % ผมขอหลักฐานครับ เพราะผมเห็นว่ามันมีค่าอะไรบ้างที่ทำให้รถแพง แต่ไม่ใช่ภาษีที่ว่านี่ทั้งหมดแน่นอนครับ บางทีรัฐบาลก็ไม่ได้บริหารแย่ไปซะทุกอย่างหรอกนะครับ

By: GoblinKing
Windows PhoneWindows
on 7 November 2015 - 18:48 #859430 Reply to:859427
GoblinKing's picture

แล้วที่มันแพงนี่มันบวกค่าอะไรมั่งเหรอครับ

By: Architec
ContributorWindows PhoneAndroidWindows
on 7 November 2015 - 19:10 #859438 Reply to:859427

อ่าน (1 , 2)

กฎพวกนี้มีมานานแล้ว ผมเข้าใจนะว่าคุณอยู่ในโลกปลอดภาษีเพราะองค์กรระหว่างประเทศ ที่ทราบเพราะคนรู้จักเคยทำงานประเภทนี้มาเหมือนกัน

เกือบลืม ผมยังไม่ได้กล่าวพาดพิงอะไรถึงรัฐบาล ที่ผมว่าคุณคงคิดไม่ผิดนะ

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 7 November 2015 - 19:34 #859439 Reply to:859427
put4558350's picture

ย้ำว่า เฉพาะรถนำเข้า "ทั้งคัน" นะครับ รถที่เอามาประกอปเพื่อขายในประเทศจะเสียภาษีอีกราคา และมีข้อยกเว้นบางรายการเช่นนำเข้ามาเพื่อผลิตขายต่าประเทศจะำม่มีภาษีเลย


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: OrangeJuice
iPhone
on 8 November 2015 - 00:37 #859479 Reply to:859439

ผมลืมนึกไปเองครับ เรื่อง"รถนำเข้าทั้งคัน" กับนำเข้าแต่มีชิ้นส่วนบางชิ้นส่วนติดตั้งที่นี่แต่ดีแคลร์ต่อลูกค้าว่าเป็นรถนำเข้าทั้งคัน เพราะเคสที่เจอส่วนมากผู้ผลิตจะทำอย่างหลัง จนกรณี 200%เหลือแค่ 80% ถ้าไม่ใช่ใครนึกอยากสั่งรถประหลาดๆเข้ามาจริงชนิดพวกซุปเปอร์คาร์ ก็น่าจะน้อยแล้วนะครับสำหรับรถที่คิดจะขาย Mass

ไม่ใช่อะไร เดี๋ยวนี้ผมเห็นว่าบ้านเรามียกเว้นภาษีหรือเก็บน้อยลงมากให้กับประเทศที่ทำ FTA ร่วมกับเราหลายประเทศ แล้วยังไหนจะสารพัดวิธีการหลีกเลี่ยงอย่างที่กล่าวไป แต่รถก็ยังราคาไม่ถูกแล้วคนจำนวนนึงก็ยังเข้าใจว่ามันมาจากภาษีล้วนๆ

By: gondolaz
AndroidUbuntuWindows
on 7 November 2015 - 23:24 #859471 Reply to:859427
gondolaz's picture

มันเป็นกำแพงภาษีครับ ถ้าอยากรู้ ทำงานขนาดนี้ก็น่าจะหาข้อมูลได้ไม่ยาก ก็ไปค้นเอานะครับ อีกอย่างสถานฑูตได้รับการยกเว้นจริงครับ (แล้วคุณงง อะไร)

By: menu_dot on 7 November 2015 - 18:53 #859431 Reply to:859426

"ไปอยู่ที่ถ้ำไหนมา" ฟังดูไม่ดีเลยครับ ถ้าตัดประโยคนี้ออก ผมว่าเป็น post ที่ให้ความรู้ที่ดีเลยครับ

ไม่มีใครที่รู้ไปทุกเรื่องหรอกครับ

ถ้าทราบอะไรที่คนอื่นไม่ทราบ ขอบคุณ ที่มา post ให้ความรู้ชุมชนครับ

By: nowingnoid
iPhoneAndroidUbuntu
on 8 November 2015 - 08:45 #859500 Reply to:859431
nowingnoid's picture

เห็นด้วยกับความเห็นนี้ครับ

By: moojack
iPhoneWindows
on 7 November 2015 - 19:31 #859442 Reply to:859425

อันนี้พิกัดนำเข้ารถใหม่ (ผลิตนอกประเทศ)ทั้งวิธีการคำนวนและอัตราทั้งหมด

http://bta.excise.go.th/rate_tax_car.php?rate_id=0002
http://bta.excise.go.th/calculate_tax_car.php?calculate_id=0002

สรุปง่ายๆก็มี
อากรนำเข้า = 80% ของราคานำเข้ารวมค่าขนส่งค่าประกัน(C.I.F)
ภาษีสรรพสามิต ซึ่งคำนวนตามพิกัดของเครื่องยนต์และเชื้อเพลิงที่ใช้ วิธีการคำนวนอยู่ในลิงค์ด้านบนนะครับ 10-50%
ภาษีมหาดไทย 10% ของราคาข้างต้น
สุดท้ายก็ VAT 7% ของราคาที่ลูกค้าซื้อไปนะครับ

อันนี้เวปสนุกคำนวนไว้ก็มีตั้งแต่ 200-300%
http://auto.sanook.com/5654/

By: GiggsWalk
AndroidUbuntu
on 8 November 2015 - 20:35 #859583 Reply to:859425

มันเป็นเรื่องที่เข้าใจกันโดยทั่วไปนะครับ ที่นำเข้าทั้งคันราคาจะ *2 *3 เนี่ย
ส่วนสถานทูตได้ยกเว้น แล้วงงอะไรครับ

By: nzangel
Windows PhoneAndroidUbuntu
on 7 November 2015 - 18:40 #859428 Reply to:859418

ผมล่ะเบื่อ คำพูดลอยๆ พวกนี้จัง (นักการเมืองบ้านเรา ซื้อหุ้น ปตท เยอะ) หลักฐานก็ยังไม่เคยจะหาได้ ถือหุ้นแยะแค่ไหน แต่เกือบ 80% เป็นของกระทรวงการคลัง จบป่าวครับ ผมไม่เชื่อว่าคนในเว็บนี้ค้นหาข้อมูลไม่เป็น แค่มันอยากจะเชื่ออะไรที่ถูกจริตตังเองเท่านั้นแหละ

รัฐยังไม่สนับสนุนรถไฟฟ้าเพราะอะไร รู้ไหม

ทุกวันนี้ไฟฟ้า เราผลิตเองได้แค่กี่% นำเข้ากี่ % รู้หรือยัง

ไฟฟ้ายังไม่พอจจะใช้ ไหนจะรถไฟฟ้า อีก สองสามปี กี่สาย ไฟฟ้าพอไหม โรงไฟฟ้า สร้างเพิ่มไหม ค้านตลอด สิบปีไม่มีโรงไฟฟ้าเพิ่ม พม่าหยุดส่ง ก๊าซที ร้องที ความมั่นคงพลังงานยังไม่มี

สนับสนุนรถไฟฟ้า เคยคิดไหม เอาไฟฟ้าที่ไหนมาชาจ ???

คิดให้มันแยะ นี่แหละเหตุผล ทำไมถึงได้แค่ทดลองมาจะสิบปี การไฟฟ้าอยากทำจะตายชัก ปตท อยากทำ จะตายชัก ไอ้สถานีชาจเนี่ย

รับความจริงเหอะ ไฟฟ้าไม่พอใช้ ที่ใช้เนี่ย ยืม ลาว ยืมพม่า หายใจทั้งนั้น

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 7 November 2015 - 19:38 #859440 Reply to:859428
put4558350's picture

หามาให้แล้วครับ คลังถืออยู่ 51.11% เท่านั้น

ณ วันที่ 15 กันยายน 2558

1 กระทรวงการคลัง 1,459,885,575 51.11%
2 กองทุนรวม วายุภักษ์หนึ่ง โดย บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) 212,730,000 7.45%
3 กองทุนรวม วายุภักษ์หนึ่ง โดย บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) 212,730,000 7.45%
4 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 145,843,367 5.11%
5 CHASE NOMINEES LIMITED 94,260,308 3.30%
6 STATE STREET BANK EUROPE LIMITED 31,274,940 1.09%
7 สำนักงานประกันสังคม 26,560,500 0.93%
8 GIC PRIVATE LIMITED 26,273,200 0.92%
9 THE BANK OF NEW YORK MELLON 23,929,500 0.84%
10 STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY 20,335,198 0.71%

http://ptt-th.listedcompany.com/shareholdings.html

ดู 2,3,5 นะครับ กองทุนรวม ไม่ระบุชื่อ ส่วน NOMINEES หมายถึง บ. กลางเพื่อปิดบังตัวตน


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: nzangel
Windows PhoneAndroidUbuntu
on 7 November 2015 - 20:41 #859448 Reply to:859440

ครับ แต่

2 กองทุนรวม วายุภักษ์ หนึ่ง โดย บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)
ในกองทุน อันดับ1 เป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย อันดับ2 บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) อันดับ3 กระทรวงการคลัง และอันดับ4 ธ.ออมสิน
เครดิต http://www.mfcfund.com/mfc/index.php?option=com_content&view=article&id=2&Itemid=8&lang=th

3 กองทุนรวม วายุภักษ์ หนึ่ง โดย บลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน)
ผู้ถือหุ้นของ บมจ.กรุงไทยคือใคร เอ่อออ...แล้ว กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและ พัฒนา ระบบสถาบันการเงิน มันเป็นของใครกันน๊ะ --> ธ.แห่งประเทศไทย

สรุปคือ ปตท มีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และ กระทรวงการคลัง ยังมีหุ้นอยู่ใน FMC อีกทอดนึง
ส่วน บมจ. กรุงไทย ผู้ถือหุ้นใหญ่คือ ธ.แห่งประเทศไทย

4 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จัดตั้งเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2543 มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วทั้งสิ้น 10 ล้านบาท โดยตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถือหุ้นร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียน งง อ่ะดิ

  1. รายการถือหุ้นรายใหญ่ของ CHASE NOMINEES LIMITED 42

ดูดีๆนะครับบางบรรทัด คุ้นๆมะ
BCH 11 38,020,025 1.52 256,635,169
SIRI 11 237,359,866 1.66 410,632,568
LH 5 521,141,725 4.74 4,664,218,439
BEAUTY 9 5,258,000 1.75 27,078,700
KKP 7 31,332,100 3.71 1,112,289,550
ERW 8 62,501,600 2.52 260,006,656
QH 15 68,441,189 0.75 171,102,973
PTT 5 53,971,801 1.89 15,975,653,096
AMATA 14 10,500,900 0.98 153,313,140
DCC 22 23,005,500 0.56 92,022,000
TISCO 2 64,049,457 8 2,465,904,095
PTTEP 4 54,480,165 1.37 4,072,392,334

ถือไขว้ไปมาตามปกติแหละ

หลังจากนั้น พวก % เดียวไม่มีสิทธมีเสียงอะไรเนี่ย ราคาหุ้นปัจจุบันต่ำเตี้ยติดดิน นะ

ไหนๆก็หาแล้ว ผมเชื่อว่าคุณขี้เกียจหาต่อแค่นั้นแหละ พอถึงขนาดนี้แล้วถึงบางอ้อหรือยังครับ

By: ninja741 on 8 November 2015 - 02:49 #859483 Reply to:859448

ปตท.พอดีตอนเอาเข้าตลาดหลักทรัพย์มันเป็นยุคทักษิณ ไปไหนก็เจอคนที่จำขี้ปากเค้ามาพูดเต็มไปหมด

มั่วบ้าง มโนบ้าง อะไรก็ว่ากันไป

อันดับหนึ่งก็ นักการเมืองเป็นเจ้าของปตท.

อีกเรื่องที่ฮิตไม่แพ้กันก็ ปตท.ขายน้ำมันขูดรีดกำไรมหาศาลเอาไปให้นักการเมือง น้ำมันเลยแพง

ข้อมูลก็มีให้อ่านเยอะแยอะ ก็ยังวนกันพูดแต่เรื่องเดิมๆ

By: geumatee
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 7 November 2015 - 20:13 #859445 Reply to:859428

รับความจริงเหอะ ไฟฟ้าไม่พอใช้ ที่ใช้เนี่ย ยืม ลาว ยืมพม่า หายใจทั้งนั้น

น้ำมันก็ไม่ต่างกันครับ แถมมลพิษมากกว่าอีก

By: nzangel
Windows PhoneAndroidUbuntu
on 7 November 2015 - 20:43 #859450 Reply to:859445

แน่ใจ หรือ รถใช้ไฟฟ้า ทุกวันนี้ยังหาคำตอบไม่ได้เลยว่า น้ำมันให้มลพิษมากกว่า หรือแบ๊ตเตอรี่ กระบวรการต่างๆ ทั้งผลิตและทำลายอะไร มลพิษมากกว่า มันก็แค่โยนมลพิษ ไปทางอื่น พูดง่ายๆปัดไปพ้นตัวแค่นั้นแหละ

ไม่เหลือรถไฟ ที่ใช้ไฟฟ้านะ อันนั้นใช้แล้วใช้เลยไม่ได้ชาจ

By: MaxxIE
iPhoneAndroidUbuntuWindows
on 7 November 2015 - 21:30 #859460 Reply to:859450
MaxxIE's picture

พูดถึงแล้วนึกถึงรถบั้มเลย ไช้เพดานจ่ายไฟ ใช้พื้นเป็นกราวน์ น่าจะมีคนเอาแนวคิดนี้ไปประยุกต์ดูหน่อยน่ะ

เรื่องใช้แนวคิดการใช้ไฟฟ้านี่ดีน่ะครับ แต่จะให้ดีอยากให้ทำแบบNonBattery จะได้สะอาดจริงๆ
ไม่ก็คิดค้นแบตเตอรี่ใหม่หน่อยก็ดี ไม่ต้องเน้นชาร์จเร็ว เล็ก หรือความจุเยอะอะไรหรอก เอาแค่มันไม่เสื่อมง่ายๆก็พอ ยิ่งไม่เสื่อมเลยยิ่งดี หรือให้รีไซเคิลง่ายๆก็ได้
ตันที่ LiPoly LiON นานเกินไปแล้ว ถ้ายังหาแบบใหม่ไม่ได้ขยะแบตเตอรรี่ได้ล้นโลกก่อนโลกร้อนตายแน่ๆ ทุกวันนี้มองไปทางไหนก็เจอแต่Battery เจอจนจะบ่อยเท่าพลาสติกแล้ว

By: nrml
ContributorIn Love
on 7 November 2015 - 21:33 #859461 Reply to:859450
nrml's picture

ความเห็นของผมรถไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรรี่มันก็ดีกว่าตรงที่ขั้นตอนการปล่อยมลพิษมันกระจุกไปอยู่ที่โรงไฟฟ้าหรือกระบวนการผลิตไฟฟ้า ซึ่งดูแล้วยังสามารถควบคุมมลพิษได้ง่ายกว่ามลพิษที่ออกมาจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันที่วิ่งกระจายเกลื่อนท้องถนนครับ ส่วนแบตเตอรรี่ที่เสื่อมตรงนี้ก็น่าจะสามารถนำกลับไปเข้ากระบวนการ recycle ได้

By: geumatee
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 7 November 2015 - 22:05 #859464 Reply to:859450

ลองอ่าน ความคิดเห็นนี้ และความคิดเห็นนี้ดูนะครับ อย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสินเทคโนโลยีที่เกิดมาเป็นร้อยปีกับที่เพิ่งเกิดไม่นาน ช่องว่างในการพัฒนามันยังมีอีกมาก แรกๆอาจจะดูไม่คุ้มค่า แต่ถ้าไม่เริ่มก็ไม่ได้ก้าวไปไหนกันพอดี

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 8 November 2015 - 19:27 #859485 Reply to:859464
put4558350's picture

สภาพจริงๆ ที่ทำให้รถไฟฟ้ารุ่นนี้ใด้รับความนิยมใน us คือ

  1. ออกตัวเร็วมาก รุ่น S85D เร่ง 0-60 Mph ใน 4.33 วินาที
  2. ปลอดภัยสุดๆ น้ำหนักของรถส่วนใหญ่เป็นแบตเตอรี่ที่อยู่ตรงท้องรถ ทำให้รถเกาะถนนดี cg ต่ำ และเนื่องจากไม่มีห้องเครื่องขนาดใหญ่ เวลาชนห้องเครื่องจะไม่อัดเข้าหาคนขับ
  3. ไช้มอเตอร์ไฟฟ้าทำให้ เสียงเงียบมาก
  4. ขายใน us เนื่องจากปล่อยอากาศเสียในเมือง น้อย รัฐช่วยสนับสนุนให้ 7,500 usd เป็น tax credit
  5. มี super charger จุดชาจไฟ "ฟรีตลอดไป" ... ในประเทศที่ทำตลาด
  6. รุ่นหลังๆ มีระบบขับตัวเอง ทางด่วน / บริเวณที่รถติด "เฉพาะที่เส้นประบนถนนชัดเจน" จะสดวกมาก

แถม


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: Hoo
AndroidWindows
on 8 November 2015 - 20:27 #859581 Reply to:859485

"น้ำหนักของรถส่วนใหญ่เป็นแบตเตอรี่ที่อยู่ตรงท้องรถ"

มาอยู่เมืองไทย เจอน้ำท่วมขัง ... ลาก่อย ...

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 8 November 2015 - 20:40 #859586 Reply to:859581
put4558350's picture

มีทดสอบเหมือนกัน splash proof ครับ


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: gondolaz
AndroidUbuntuWindows
on 7 November 2015 - 23:25 #859475 Reply to:859428
gondolaz's picture

เอามาโช เลยครับคนอื่น จะได้เคลียร์

By: iDan
ContributorAndroidSUSEUbuntu
on 8 November 2015 - 08:46 #859501 Reply to:859418

ไม่ต้องเถียงกัน!! ราคา Model S ประมาณ 10 ล้าน เปิดตัวปลายปีนี้ - ปีหน้า
- รุ่นแรกเอาเข้ามาขายชิมราง
- เข้าใจว่าบริษัทแม่มาทำตลาดเอง
- ระยะแรกเจาะกลุ่ม High - End คนมีตัง คนรวยครับ
- รุ่นไทย จะยังไม่มี autopilot ครับ เนื่องจาก -จอมปาด (ซ่อมทีแพง ประกันอาจมีขอยกเลิกสัญญาในปีถัดไปได้) -การตีเลนส์ยังไม่ชัดเจนพอที่ตัวรถจะรับรู้ได้ว่าเลนส์อยู่ตรงไหน (ถนนไม่มีมาตรฐาน)

ทำไมขายแพง?
- ราคาภาษีสรรพสามิต 2 เท่าของราคารถใน invoice และภาษีศุลกากร
- บริษัทแม่พยายามขายไม่ให้ขาดทุน เพราะไม่รู้ข้อมูลต่างๆ ของตลาดรถในไทย ต้องทำวิจัยสักพัก
- ปัจจัยด้านการเมืองที่ คุณ คุณ คุณ และ คุณ ก็รู้ดี

ทั้งนี้ ข้อมูลที่ทราบมาเป็นข้อมูลที่มาจากในวงธุรกิจดังนั้น จะเชื่อ และหวังความเป็นไปได้จากสิ่งที่ผมเขียนแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการเก็บข้อมูล และการนำไปประมวลผลของคุณนะครับ

By: OXYGEN2
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 7 November 2015 - 23:25 #859474 Reply to:859398
OXYGEN2's picture

ปีหน้าจัดเก็บตามการปล่อย CO2 แล้ว รถแรงแต่เครื่องสะอาด ปลอดมลพิษ ราคาจะถูกลง (แต่ผมเห็นเซลล์แต่ละคนบอกจะขึ้นราคาให้รีบซื้อปีนี้กันทุกคนเลย)


oxygen2.me, panithi's blog

Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6

By: Pinyo
AndroidWindows
on 7 November 2015 - 14:52 #859400
Pinyo's picture

สุดยอดไปเลยครับเจ้านาย เอ้ย Elon Musk

By: FevAn
Windows PhoneAndroidWindows
on 7 November 2015 - 14:56 #859403

ได้ข่าวปลายปีนี้จะมาออกบูธที่ Motor Expo ด้วยนะครับ น่าไปชมมากๆ

By: OXYGEN2
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 7 November 2015 - 15:04 #859408 Reply to:859403
OXYGEN2's picture

อยากให้รัฐบาลสนับสนุนจัง ราคาสัก 5 ล้านบาทกำลังสวยเลย


oxygen2.me, panithi's blog

Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6

By: FevAn
Windows PhoneAndroidWindows
on 7 November 2015 - 19:02 #859436 Reply to:859408

เห็นด้วยเลยครับ ในงานเหมือนจะเปิดให้จองด้วยน่ะครับ น่าจะพอทราบราคาคร่าว ในตอนนั้น งานนี้ บริษัทแม่มาเอง ไม่ได้ผู้นำเข้าอิสระกันเลยทีเดียว

By: nisit
iPhoneUbuntuWindows
on 7 November 2015 - 14:57 #859404

เป็นรถไฟฟ้าที่ดูดีน้ำพวกซดน้ำมันไปหลายขุมเลย

By: GyM
iPhoneWindows PhoneAndroidWindows
on 7 November 2015 - 15:22 #859412

นอกจากจะแรงมากเท่าซุปเปอร์คาร์แล้วยังออกแบบสวยมากด้วย

By: Jigko
Windows Phone
on 7 November 2015 - 15:38 #859414

Model S P85D ขับสี่ล้อตัวท็อป ราคา $105,000
ถ้า P85D ขับสี่ตัวกลาง ราคา $85,000
ถ้าเป็น 70D รุ่นล่างก็ตกที่ $75,000

ราคาเมื่อเป็นเงินไทยต่อให้ยกเว้นภาษีก็ไม่น้อยล่ะครับ แล้วบวกค่าดำเนินการเข้าไปอีก

ไปฮ่องกงมาเมื่อเดือนที่แล้ว เห็นเยอะมาก คงเหมาะกับเมืองที่เป็นเกาะระยะทางไม่มาก ชาร์ททีใช้งานได้ทั้งวัน

http://my.teslamotors.com/models/design?source=homepage

By: BlackMiracle
WriterAndroidUbuntuWindows
on 7 November 2015 - 16:15 #859417 Reply to:859414

Model S วางตัวเป็นรถหรูราคาแพงมาตั้งแต่ต้นแล้วครับ ฉะนั้นไม่ต้องหวังเรื่องราคาที่เป็นมิตรกับคนทั่วไปเลย ส่วนรุ่นที่น่าจะจับต้องได้ก็ต้องรอดู Model 3 ปีหน้าครับ

ส่วนระยะทางที่วิ่งได้ รุ่น P85D ก็โฆษณาไว้ราว 400 กม. นะครับ (อีกสองปีบอกว่าจะวิ่งได้ 1000 กม.) ใช้จริงจังได้อยู่ เสียบไฟบ้านได้เลย


Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ

By: Perl
ContributoriPhoneUbuntu
on 7 November 2015 - 17:25 #859421
Perl's picture

ขนาดผลิตในปะเทศภาษีหน้าโรงงานยังเยอะแยะทับซ้อนกันหลายตัว แถมเป็นรายได้หลักของประเทศด้วย เลิกหวังที่จะขายในประเทศราคาถูกได้เลย

ปล. ว่าจะไปเดินชมใน Mortor Expo เหมือนกัน เห็นจองพื้นที่บู๊ทซะใหญ่โต

By: menu_dot on 7 November 2015 - 18:54 #859432

ผ นับถือเขา สร้างบริษัทยังไงกันนะ เก่งแหะ

By: pepporony
ContributorAndroid
on 7 November 2015 - 19:43 #859443 Reply to:859432

จริงๆ...บริษัทเริ่มมาเป็นของคนอื่นครับ แกเป็นนักลงทุน...

บริหารไปมา ยึดอำนาจซะงั้น 555

By: Tizthammawasi
AndroidIn Love
on 7 November 2015 - 20:41 #859449

เคยขี่แล้ว สนุกดี มีบริษัทนำเข้ามาแล้ว แต่จำชื่อไม่ได้

By: att
iPhoneWindows PhoneAndroidBlackberry
on 7 November 2015 - 21:23 #859459
att's picture

รถไฟฟ้าผมก็เคยขี่แล้วเร็วดีแต่คนเยอะมาก รู้สึกจะชื่อบีหรือเอ็มนี่แหละ นั่งได้หลายคนดี ที่มันไม่ยังไม่นิยมคงเพราะยังใช้ทำงานบางอย่างเช่นรถไถนาไม่ไหว คงต้องใช้เครื่องยนต์สันดาปเชื้อเพลิงไปก่อนในบางงานและไม่คุ้มทุน เชื้อเพลิงยังถูกกว่า ถนนบ้านเราก็ใช่ว่าจะทำความเร็วที่ประหยัดไฟได้ ขับจอดขับจอด แบตหมดก่อน ขรุขระอีก รถพวกนี้คงวัสดุต้องเบา วิ่งข้างรถพ่วงบ้านเรามีหนาว ผมคิดนะ ประสาชาวบ้าน แรกๆคิดว่าปตทเป็นของทักกี้ซะอีก ได้ความรู้นะเนี่ย พีอุสยังปิดโรงงานหนีเรยว่าไปภาษีไรไม่รู้ที่อ่านข่าวเขามา

By: somphong.s
AndroidWindows
on 8 November 2015 - 06:40 #859488

ขำดีครับ

พิจารณา ภาษี ตามการปล่อย CO2
รถไฟฟ้า เสียภาษีน้อยมาก
รถไฟฟ้า ทำให้ การปล่อย CO2 เกิดที่โรงไฟฟ้า
แล้ว ชาวบ้านแถวนั้น ต้อง รับ ภาระทางสิ่งแวดล้อมเพิ่ม
เพื่อให้ อีกคน ขับรถ โก้หรู ที่ เสียภาษีน้อยกว่า

ขำครับ

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 8 November 2015 - 14:48 #859494 Reply to:859488
put4558350's picture

ตามสภาพความเป็นจริงคือระหว่างเครื่องยนต์ของรถที่ต้องมีขนาดเล็ก กับ โรงไฟฟ้าที่ไม่มีข้อจำกัดเรื่องขนาด ทำให้โรงไฟฟ้าสามารถไช้เชื้อเพลิงใด้มีประสิทธภาพสูงกว่า ทำให้การปล่อย CO2 และสารเคมีอื่นน้อยกว่า และสามารถมีอุปกรณ์กรองอากาศที่ดีกว่าใด้

นอกจากนี้โรงไฟฟ้ามักจะอยู่ห่างจากชุมชนเพราะหากอยู่ใกล้มักจะโดนต่อต้านจนไม่สามารถสร้างใด้

สุดท้ายไฟฟ้ายังสามารถหาใด้จากอีกหลายรูปแบบที่สะอาดกว่าน้ำมันและถ่านหิน เช่น เขื่อน ลม คลื่น แสง และ พืชพลังงาน (กากอ้อย ซังข้าวโพด มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน)


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: PsFreedom
ContributorAndroidRed HatUbuntu
on 9 November 2015 - 00:11 #859646 Reply to:859494
PsFreedom's picture

+1 ครับ
รวมไปผลิตไฟฟ้าที่โรงงานใหญ่ๆ ที่เดียว แห่งเดียว
มันจัดการได้ง่ายกว่า ต่างคนต่างปล่อย

คุณปล่อยควันที่โรงงานไฟฟ้า
ชาวบ้านแถวนั้นลำบากก็จริง แต่ไม่เยอะ (เพราะโรงงานต้องหลีกเลี่ยงอยู่แล้ว)
แถมบริหารจัดการ กำจัดได้ดีกว่า

หรือคุณจะปล่อยในเมืองมันสดๆ เลย
คนในเมืองก็ลำบากอยู่ดี แถมมีเยอะกว่ามาก แออัด เป็นแสน เป็นล้านด้วยครับ

ผมก็ไม่อยากเห็นแก่ตัวนะ โยนมลพิษออกนอกเมืองนะ
แต่เทียบความลำบากแล้ว มันคุ้มค่ากว่า

By: pepporony
ContributorAndroid
on 8 November 2015 - 08:39 #859497 Reply to:859488

เป็นวิวัฒนาการดี 555

แต่ก่อนคนจะต่อต้านรถไฟฟ้าโดยบอกว่ามันห่วย วิ่งได้น้อย ชาร์จนาน

พอพัฒนาไปจนเทียบเท่า/ดีกว่ารถน้ำมัน ก็บอกว่าเป็นของเล่นคนมีตัง 555555555

By: obnetarena
Windows PhoneWindows
on 8 November 2015 - 09:39 #859506 Reply to:859488

โรงไฟฟ้าอย่างเขื่อนภูมิพลนี่ มลพิษไม่แน่ใจว่ามีมากมั้ย แต่ก็ถือเป็นที่พักผ่อนที่หนีจากมลพิษในเมืองได้ครับ

นักท่องเที่ยวก็ไม่น้อย ชาวบ้านก็ขายของได้

แต่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์นี่จะว่าไปเหมือนจะสะอาดแต่ไม่สะอาดซะทีเดียวนะครับ เพราะแสงอาทิตย์เก็บได้เฉพาะกลางวัน ต้องเก็บในแบตเตอรี่ แล้วเจ้าแบตเตอรี่เนี่ยแหละ มลพิษหนักเลย

แต่ถ้าทำลายถูกวิธี มันก็สามารถทำลายห่างจากชุมชนได้ มลพิษที่ทำลายชีวิตมนุษย์ก็จะไม่มากครับ

ส่วนมลพิษที่ทำลายโลก ผมว่าไม่ว่าจะแบบไหนก็ไม่ต่างกัน แต่เราสามารถเลือกที่ Balance การทำลายได้ว่าจะแค่ไหน รวมถึงจำกัดวงของการทำลายได้ว่าให้อยู่แค่ไหน

By: LazarusSP1
ContributoriPhone
on 8 November 2015 - 09:53 #859508 Reply to:859506

จริงๆ พลังแสงอาทิตย์แบบไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ก็มีครับ เป็น Solar Grid คือสวนกระจกเงาที่แต่ละบานมีองศาเฉพาะที่จะสะท้อนแสงอาทิตย์ไปรวมที่หม้อน้ำที่อยู่ตรงจุดโฟกัส แล้วเอาไปน้ำที่ได้ปั่นไดนาโมครับ ข้อเสียมีสามอย่างคือ ต้องใช้ระบบที่ซับซ้อนควบคุมองศากระจกแต่ละบานให้สะท้อนแสงอาทิตย์ไปที่จุดโฟกัส , อาจรบกวนการบินได้ , นกที่บังเอิญบินผ่านใกล้ๆจุดโฟกัสจะโดนย่างสดที่ 500 องศาครับ

By: ปลงนะเรา
Android
on 8 November 2015 - 09:43 #859507

ถ้าวันนึงรถญี่ปุ่นผลิตโรงงานบ้านเราแพงกว่าปกติสักแสนผมซื้ิอนะ

By: GiggsWalk
AndroidUbuntu
on 8 November 2015 - 20:51 #859588

มองภาพแคบๆ มันก็ดูไฮเทคใช้พลังงานสะอาดและประหยัด
แต่ลองมองภาพใหญ่ เอาความเป็นจริง ไม่เอาอารมณ์รักษ์โลกผสมนะครับ
- ประเด็นที่ 1 - ไม่ใช่พลังงานถูก อย่าลืมนะนี่มันแบตยักษ์
คิดที่ค่าไฟฟ้าไทยทุกวันนี้ Tesla P85D ชาร์จแบตทีเสียค่าไฟ 340 บาท
วิ่งได้ 310 กิโล ตกโลละ 1.1 บาท
ส่วน Ecocar เช่น สวิฟ/มาร์ช 18 โลลิตร น้ำมัน 26.5 บาท
เฉลี่ยตกโลละ 1.3 บาท.....พอเห็นภาพยังครับ?
- ประเด็นที่ 2 - ค่าไฟฟ้ามีแนวโน้วแพงขึ้น
ยิ่งถ้ามีรถไฟฟ้ามากขึ้นๆ เราจะเอาไฟฟ้าที่ไหนครับ?
สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่ได้ ถ่านหินไม่ได้ เขื่อนก็ไม่ให้สร้าง
หรือจะเอาโซล่าเซลล์ที่คนรักษ์โลกนิยมมั้ยครับ? อ้างอิงที่เยอรมันใช้โซล่าเซลล์เป็นหลัก
จากค่าไฟฟ้าเยอรมัน ชาร์จแบตทีเสียเงินราว 1200 บาท!....แพงกว่าน้ำมันเยอะเลยครับ
- ประเด็นที่ 3 -
มลพิษจากแบตตารี่, มลพิษจากโรงไฟฟ้าที่ต้องสร้างเพิ่มขึ้น, มลพิษทางสายตา(เสาชาร์จแบตข้างถนน)
จำกัดปัญหารถน้ำมัน แต่จะมีปัญหาของรถไฟฟ้าอีกหลายๆอย่างตามมา
แล้วยังมีเรื่องส่วนต่างราคาตัวรถ ที่ส่วนต่างใช้น้ำมันได้ยันลูกบวช
เรื่องการบำรุงรักษา เรื่องค่าเปลี่ยนแบต

By: nrml
ContributorIn Love
on 8 November 2015 - 21:06 #859590 Reply to:859588
nrml's picture

ให้โอกาสรถไฟฟ้าได้พัฒนาไปอีกสักพักใหญ่ๆ นะครับ ตอนนี้มันยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น

By: geumatee
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 8 November 2015 - 21:19 #859591 Reply to:859588

- ประเด็นที่ 1 - ไม่ใช่พลังงานถูก อย่าลืมนะนี่มันแบตยักษ์
คิดที่ค่าไฟฟ้าไทยทุกวันนี้ Tesla P85D ชาร์จแบตทีเสียค่าไฟ 340 บาท
วิ่งได้ 310 กิโล ตกโลละ 1.1 บาท
ส่วน Ecocar เช่น สวิฟ/มาร์ช 18 โลลิตร น้ำมัน 26.5 บาท
เฉลี่ยตกโลละ 1.3 บาท.....พอเห็นภาพยังครับ?

เห็นภาพเลยครับ รถหนักกว่า เกิน 1 เท่าตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อ เทียบกับ 2 ล้อ กลับประหยัดกว่า 15%

- ประเด็นที่ 2 - ค่าไฟฟ้ามีแนวโน้วแพงขึ้น
ยิ่งถ้ามีรถไฟฟ้ามากขึ้นๆ เราจะเอาไฟฟ้าที่ไหนครับ?
สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่ได้ ถ่านหินไม่ได้ เขื่อนก็ไม่ให้สร้าง
หรือจะเอาโซล่าเซลล์ที่คนรักษ์โลกนิยมมั้ยครับ? อ้างอิงที่เยอรมันใช้โซล่าเซลล์เป็นหลัก
จากค่าไฟฟ้าเยอรมัน ชาร์จแบตทีเสียเงินราว 1200 บาท!....แพงกว่าน้ำมันเยอะเลยครับ

ค่าไฟฟ้ามีแนวโน้มเพิ่ม แล้วค่าน้ำมันล่ะครับ?

- ประเด็นที่ 3 -
มลพิษจากแบตตารี่, มลพิษจากโรงไฟฟ้าที่ต้องสร้างเพิ่มขึ้น, มลพิษทางสายตา(เสาชาร์จแบตข้างถนน)
จำกัดปัญหารถน้ำมัน แต่จะมีปัญหาของรถไฟฟ้าอีกหลายๆอย่างตามมา
แล้วยังมีเรื่องส่วนต่างราคาตัวรถ ที่ส่วนต่างใช้น้ำมันได้ยันลูกบวช
เรื่องการบำรุงรักษา เรื่องค่าเปลี่ยนแบต

ทำอะไรก็มีมลพิษ ทำอะไรก็มีปัญหาครับ อยู่ที่ว่าเราจะพยายามแก้ หรือหนีมันแล้วอยู่กับปัญหาเดิมๆ

By: PsFreedom
ContributorAndroidRed HatUbuntu
on 9 November 2015 - 00:11 #859647 Reply to:859591
PsFreedom's picture

+1 ครับ
ตอบคำถามได้เห็นภาพเลยครับ

By: GiggsWalk
AndroidUbuntu
on 9 November 2015 - 19:49 #859836 Reply to:859591

ที่ reply
ข้อ 1 พูดถึงเรื่องประหยัดพลังงาน ตอบเรื่องน้ำหนักรถ?
ข้อ 2 น้ำมันก็ลงทุกวันอย่างที่เห็น / ระยะยาว-น้ำมันขึ้นๆลงๆ แต่ไฟฟ้าขึ้นลูกเดียว
ข้อ 3 ใช่ครับเข้าใจถูกแล้ว น้ำมันก็มีมลพิศ รถไฟฟ้าก็มีมลพิษ ฉนั้นเรื่องรถไฟฟ้ารักษ์โลกเลิกพูดได้

By: nrml
ContributorIn Love
on 9 November 2015 - 20:23 #859847 Reply to:859836
nrml's picture

ระยะยาวนี่ยาวแค่ไหนครับผมว่าแสงอาทิตย์ที่ส่องลงมาทุกวันมันยังสามารถเก็บเกี่ยวแล้วเอามาเปลี่ยนเป็นพลังงานได้ยั่งยืนและยาวนานกว่าน้ำมันนะครับ

By: geumatee
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 9 November 2015 - 22:53 #859873 Reply to:859836

ข้อ 1 พูดถึงเรื่องประหยัดพลังงาน ตอบเรื่องน้ำหนักรถ?

เดี๋ยวนะครับ ไม่เข้าใจจริงหรอครับว่าการใช้พลังงานในการนำวัตถุเคลื่อนที่มันคิดยังไง? พลังงาน

ข้อ 2 น้ำมันก็ลงทุกวันอย่างที่เห็น / ระยะยาว-น้ำมันขึ้นๆลงๆ แต่ไฟฟ้าขึ้นลูกเดียว

กดดูนะครับ

ข้อ 3 ใช่ครับเข้าใจถูกแล้ว น้ำมันก็มีมลพิศ รถไฟฟ้าก็มีมลพิษ ฉนั้นเรื่องรถไฟฟ้ารักษ์โลกเลิกพูดได้

ผมไม่ได้บอกเลยสักคำว่าไฟฟ้ารักษ์โลก แต่ในเมื่อเราเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้พลังงาน ทำไมเราถึงจำกัดตัวเองให้อยู่กับพฤติกรรมเดิมๆ ในเมื่อไฟฟ้ามันมีทางเลือก มีหนทางพัฒนาครับ

By: PsFreedom
ContributorAndroidRed HatUbuntu
on 11 November 2015 - 01:04 #859918 Reply to:859836
PsFreedom's picture
  • ที่ต้องเอาน้ำหนักรถมาเทียบ เพราะมันจะได้เท่าเทียมไงครับ คันเท่ากัน บรรทุกได้เท่ากัน ไม่งั้นเอาไปเทียบกับ รถสิบล้อ รถกระบะ มันจะเสียเปรียบไหม แต่มันบรรทุกได้มากกว่ารถเก๋งเยอะ

  • น้ำมันขึ้นๆ ลงๆ นี่ผมคิดว่ามันแค่แกว่งนะ สุดท้ายมันก็ขึ้นทั้งคู่ เพราะมันผลิตมาจากทรัพยากรที่จำกัด

  • มันผลิตมลพิษทั้งคู่ แต่รถไฟฟ้าโดยรวมปล่อยน้อยกว่า ก็ถือว่าดีกว่าแล้วนะครับ

By: put4558350
ContributorAndroidUbuntuWindows
on 10 November 2015 - 09:56 #859978 Reply to:859836
put4558350's picture
  1. Model S เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีครับ 1.1 ก็น้อยกว่า 1.3 ชัดเจน ความเร่ง ความเร็วสูงสุด โดยเฉพาะความจุของรถก็ควรพิจารณาด้วย ซื้อของทีละเยอะๆไม่ใด้ ปลายทางคือการเดินทางหลายเที่ยวนะครับ

  2. บ้านเราน้ำมันขึ้นเร็วลงช้า และกำลังจะโดน monopoly ไม่เคยสังเกตุเหรอครับ

  3. ตามสภาพความเป็นจริงคือระหว่างเครื่องยนต์ของรถที่ต้องมีขนาดเล็ก กับ โรงไฟฟ้าที่ไม่มีข้อจำกัดเรื่องขนาด ทำให้โรงไฟฟ้าสามารถไช้เชื้อเพลิงใด้มีประสิทธภาพสูงกว่า ทำให้การปล่อย CO2 และสารเคมีอื่นน้อยกว่า และสามารถมีอุปกรณ์กรองอากาศที่ดีกว่าใด้

ย้ำว่าไฟฟ้าไม่จำเป็นต้องผลิตจากน้ำมันหรือถ่านหิน เขื่อนที่มีอยู่ ลม คลื่น แสง และ พืชพลังงาน (กากอ้อย ซังข้าวโพด มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน) ถ้ามีการไช้ไฟเยอะ เขื่อน ลม คลื่น แสง และ พืชพลังงาน ก็จะใด้รับการลงทุนเพิ่มเอง


samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo

By: obnetarena
Windows PhoneWindows
on 8 November 2015 - 21:26 #859593 Reply to:859588

ถ้ารถทุกคันใช้ไฟฟ้า ก็จะใช้น้ำมันผลิตไฟฟ้าเนี่ยแหละครับ

ถ้าเทียบน้ำมันระยะเดินทางแล้วรถยนต์ไฟฟ้าน่าจะเดินทางได้มากกว่าครับ

อีกอย่างคือ รุ่นนี้ของ Tesla มันไม่ได้เป็นรถ Eco Car น่ะสิครับ

ส่วน Swift March นี่วิ่งแรง ๆ ผมว่าไม่ถึง 18 โลลิตรแน่ ๆ ครับ

ส่วนรถของ Tesla ยังไม่ได้ทำมาเป็น Eco Car ถ้าทำให้ประหยัดพลังงานคงได้อีกล่ะครับ เหมือนได้ข่าวว่าปีหน้าจะทำให้วิ่งได้ 1000 กิโลต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ก็จะตกกิโลละ 0.6 บาทได้นะครับถ้าทำได้นี่ยังไงก็คุ้มล่ะครับ

ส่วนช่วงนี้เอาจริง ๆ ผมคงซื้อ Honda City ต่อไป เพราะ Eco Car มันขนของได้เยอะกว่า ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าน่ะหรอครับ รอให้ชาร์จ 2 ชั่วโมงเต็ม แล้ววิ่งได้ 1000 กิโลก่อนละกันครับ แล้วขอราคาแค่ Honda Civic (ตัวล่างสุด) ก็ค่อยซื้อล่ะครับ