Meizu ออกมาประกาศยอดขายของปี 2015 ว่าสามารถขายสินค้าได้มากกว่า 20 ล้านเครื่อง ถือว่าเติบโตมากถึง 350% จากปีที่แล้ว
ปี 2015 นี้ Meizu ออกขายมือถือทั้งหมด 6 รุ่น และประสบความสำเร็จอย่างดีทุกรุ่น ฝั่งของซอฟต์แวร์ก็พัฒนาระบบปฏิบัติการ Flyme 5 ที่มีความสามารถมากขึ้น จำนวนศูนย์บริการก็เพิ่มจาก 150 แห่งเป็น 200 แห่งแล้ว
สำหรับยอดขายของปี 2016 บริษัทไม่ได้ตั้งเป้าสูงจากเดิมมากนัก กำหนดไว้ที่ 25 ล้านเครื่องครับ
ที่มา - Meizu (ภาษาจีน), Talk Android
กราฟแสดงยอดขายของ Meizu
Comments
รอม I เมื่อไหร่จะได้ Flyme 5 ง่ะ อยากได้ ;-;
มือถือจีนนี้สุดยอดจริงๆ
ผมอยากรู้จังว่า ทำไมมือถือจีน ทำราคาถูก ออกมาขายได้ บริษัทกลับไม่ขาดทุน (หรือขาดทุนแต่ไม่บอก) ส่วนค่ายใหญ่ อย่าง Sony กับ LG กับทำออกมาแล้วขาดทุน มันเป็นเพราะการบริหารต้นทุนไม่ดี หรือเป็นเพราะ วัสดุที่ใช้เป็นส่วนประกอบหลักหรือเปล่า
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
หลายปัจจัยครับ เช่น
การทำตลาดทั่วโลกย่อมใช้ทุนสูงกว่า มือถือจีนหลายๆเจ้าขายผ่านเน็ต สต็อกของน้อยกว่า
การวิจัย know how ต่างๆ หาจุดเด่นของตัวเอง
กระบวนการผลิต มือถือจีนหลายๆยี้ห้อไม่ได้มีโรงงานเองแต่จ้างผลิต ค่ายใหญ่ตั้งโรงงานเอง ทำ QC อย่างดี(รึเปล่า)
ต้นทุนบุคลากรสูงกว่า R&D ฝ่ายตลาด ศูนย์บริการ บลาๆๆ
แล้วยังมีเรื่องภาษีอีก
ฯลฯ
คงหลายส่วนผสมกันครับ
มือถือค่ายใหญ่ ๆ การรับประกัน จำนวนอะไหล่ การบำรุงรักษาอะไหล่ ที่เก็บของ การกระจายสินค้า และอะไหล่ พวกนี้เป็นทุนมหาศาลอยู่นะครับ
ถ้าใช้งานไป 3 ปี จะหาแบตของรุ่นนั้นที่เป็นของใหม่ ผมว่าอาจจะหาไม่ได้แล้ว (เอาแค่ 2 ปีผมก็ว่าอาจจะหาไม่ได้แล้ว)
หน้าร้านไม่มี ศูนย์มีน้อย อาศัยพันธมิตรเข้ามาจัดการ ตรงนี้ลดได้อีกเยอะ
แต่ถ้าว่าคุ้มไหม สเป็คบางรุ่นมันให้มาจัดเต็มมากนะครับ จะว่าคุ้มก็คุ้มอยู่ เพราะบางคนก็เปลี่ยนมือถือทุกปีอยู่แล้ว
เพจตัวอย่างผลงานถ่ายภาพ / วีดีโอ
พื้นๆเลย เทียบค่าแรงวิดวะจีนกะค่าแรงวิดวะ ญี่ปุ่น เกาหลี ก็ต่างกันมากอยู่
เคยได้ยินเรื่องค่าดำเนินการรึเปล่า โครงสร้างบริษัท
บริษัทจีนหลายบริษัทเกิดใหม่ โครงสร้างบริษัทไม่ซับซ้อน แผนกไม่เยอะ พนักงานไม่เยอะ
ต้นทุนพวกนี้มันเลยต่ำตามไปด้วย
ต้นทุนไม่ได้เกิดจากมูลค่าของวัตถุดิบอย่างเดียวนะครับ
เงินเดือนพนักงานนี่แหละเป็นปัญหาของหลายบริษัทเลย
บริษัทใหญ่ๆเวลามีปัญหาเลยใช้วิธีลดต้นทุนด้วยการปลดพนักงานออก
ซึ่งเห็นผลได้ชัดเจนและเร็วกว่าการลดต้นทุนเรื่องอื่นๆ
ณ ปัจจุบันเมื่อเทียบกับมือถือแบรนด์จีนเจ้าอื่น ส่วนตัวผมชอบ Meizu ที่สุดครับ ทั้งการดีไซน์และฟังค์ชั่น ความเป็นเอกลักษณ์(ในความไม่เป็นเอกลักษณ์ที่ได้รับอิทธิพลจาก Apple) มันทำให้ผมรู้สึกว่ามันน่าจะเข้าไปแข่งในตลาดโลกได้(แต่ก็อยากให้ปรับชื่อแบรนด์ก่อนอ่ะนะ)
ที่ชอบหลักก็คงเป็นการออกแบบที่โดยรวมเรียบง่ายและใช้ง่ายครับ ประทับใจมากสุดก็คงเป็นการดัดแปลงปุ่ม Back-Home-Recent ให้คงฟังค์ชั่นไว้เหมือนเดิมโดยเหลือแค่ปุ่มเดียวนี่แหละ เคยได้ลองจับ M2 Note ของเพื่อนดู mTouch นี่เป็นอะไรที่ประทับใจจริงๆครับ
หวังว่า Meizu จะเจริญเติบโตจนเข้าไปแข่งในตลาดโลกได้ในซักวันครับ
ปล.อันนี้ไม่เกี่ยวกับข่าวครับ แต่ในฐานะคนที่ติดตามข่าวมือถือจีน ปีนี้ช่างเป็นปีที่น่าผิดหวังของ Mi จริงๆครับ ปีหน้ายังไงขอให้กลับเข้าที่เข้าทางด้วยเถิด -/-
ผมโดนไปเหมือนกัน
Meizu M2 Note 32GB ใส่เมมเพิ่มอีก 64 มันจอร์จมาก
โทรศัพท์ ควรเอากล้องไว้ ข้างข้าง ด้านขวา
เผื่อสำหรับ ผู้ใช้ ใส่ เคสฝาปิดแบบพับตั้งได้ ไว้สำหรับถ่ายรูปแบบ ไม่ใช้มือจับ .... นะ
ไว้ตรงกลาง เคสมันบังกล้อง
ผมถนัดมือขวา
คนที่ถนัดมือซ้าย ก็ คงอยากได้อีกแบบ และอยากได้เคส ที่ใส่กลับข้างได้
เปลี่ยนจาก ip5s มาใช้ mx5 ได้ 3 เดือนละมั้ง
มันดีงามมาก ชอบมาก flyme นี่มันดีชริมชริม เหมือนเอาข้อดีของดรอยกับ ios มารวมกัน
แก้ปัญหาเล็กๆน้อยๆ ux มันดีต่อผู้ใช้อย่างมาก
ผมว่า แบรนด์จีน ที่ออกมาสู่ตลาดโลกได้เนี่ย เขาแข็งแกร่งมากมาแล้วทั้งนั้น
เพราะถ้านับแค่ในแผ่นดินจีนเอง ก็มีโลคัลแบรนด์ อีกมากมายก่ายกอง ที่เราไม่รู้จักเพราะเขาไม่ทำตลาดนอกประเทศ
แค่ในประเทศจีนเอง ฐานประชากรระดับ พันล้าน มากกว่า คนอเมริกา+ญี่ปุ่นทั้งประเทศรวมกันแล้ว คูณสองเสียอีก
แบรนด์โลคัลพวกนี้ แค่ขายในประเทศให้ได้ก็รวยเละแล้ว
บวกกับนโยบายจีนที่สนับสนุนของในประเทศไว้ก่อน แค่สู้ในบ้านก็อยู่ได้สบายๆ
นี่พวก XiaoMi Huawei Meizhu พวกนี้ ก็คือระดับท้อปของท้อปที่เหนือกว่าพวกโลคัลแบรนด์ขึ้นไปอีก ประสบการณ์ ความสามารถ และความรู้สูงมากๆ มากพอที่จะรู้ว่าจะสู้กับแบรนด์ยักษ์ของฝรั่ง ญี่ปุ่น เกาหลียังไง
มีรอมอินเตอร์ไม่มีภาษาจีนปนกับแอพขยะติดเครื่องมาเมื่อไรค่อยเจอกัน