ย้อนกลับไปสัก 20 ปีที่ผ่านมา หลายคนอาจยังนึกไม่ออกว่าการใช้อินเทอร์เน็ตสร้างรายได้ให้เราอย่างเป็นกอบเป็นกำได้อย่างไร คนที่มีฝีมือ มีความคิดสร้างสรรค์ นอกจากหน้าร้าน นิทรรศการ แกลเลอรี่แล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะเอาผลงานไปตั้งโชว์วางขายได้ที่ไหนอีก หรือใครอาจจะมีเรื่องราวที่อยากบอกต่อ มีข้อมูลเป็นประโยชน์ มีพลอตเรื่องเขียนนิยายสนุกๆ นอกจากสำนักพิมพ์แล้วก็ไม่รู้จะวิ่งไปหาใครได้
แล้วถ้าเป็นตอนนี้ล่ะ ไม่ต้องเสียเวลาคิดให้ปวดหัว เพราะทุกคนสามารถมีหน้าร้าน มีแกลเลอรี่ส่วนตัว มีบล็อกบันทึกเรื่องราวของตัวเองได้ผ่านเว็บไซต์โซเชียลมีเดีย ทุกคนมีพื้นที่โปรโมทผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ไม่ต้องง้อใคร สามารถสร้างรายได้โดยมีต้นทุนน้อยลง
ปัจจุบันร้านค้าออนไลน์ถ้าตีเป็นพื้นที่ล็อกขายของคงเป็นพื้นที่กว้างใหญ่มหาศาล ตลาดอีคอมเมิร์ซประเทศไทยโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด หมดยุคที่คนขายต้องไปเช่าพื้นที่ขายของตามห้างแล้ว เพราะในยุคโซเชียลมีเดีย คนๆ เดียวสามารถเชื่อมต่อกับคนอื่นได้อีกเป็นร้อยเป็นพันคน เรียกได้ว่ามีหน้าร้านทำเลดีอยู่ในมือถือของตัวเองเลยก็ว่าได้
การขายของออนไลน์ในระยะแรกจะถูกมองว่าไม่ปลอดภัย มีมิจฉาชีพแฝงตัวในรูปแบบนี้เยอะ แต่ระบบ Payment ทุกวันนี้การันตีความปลอดภัยทั้งคนซื้อคนขาย ทำให้ใครก็ตามที่คิดจะขายของ ก็ต้องมองออนไลน์เป็นช่องทางแรก
ข้อมูลจาก สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA ระบุว่าไทยจะเป็นศูนย์กลางอีคอมเมิร์ซในอาเซียน และข้อมูลจากบริษัทวิจัย Bain & Company ระบุว่ามีคนไทย 11 ล้านคนซื้อของออนไลน์ จะเห็นได้ว่านับวันตลาดบนออนไลน์ยิ่งใหญ่มากขึ้นทุกที
ที่มาภาพ Stocksnap
พื้นที่ออนไลน์นอกจากตลาดค้าขายขนาดใหญ่ ยังนำมาใช้เป็นแกลเลอรี่ส่วนตัว เก็บและแชร์ผลงานได้อีกด้วย เช่นใน Pinterest โซเชียลออนไลน์สำหรับผู้ชอบของสวยงามโดยเฉพาะ เราสามารถอัพโหลดภาพผลงานเก็บเป็น portfolio ของตัวเอง ไม่เพียงโชว์ผลงาน แต่ยังค้าขายได้อีกด้วย เพราะPinterest ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่เกี่ยวกับการซื้อสินค้าได้ คาดว่าจะเปิดให้ใช้ได้เร็วๆนี้
นักเขียนขายดีหลายราย เริ่มจากบันทึกเรื่องราวลงบล็อก อย่าง Dek-D, Bloggang, Pantip หรือจะสร้างเว็บไซต์ส่วนตัวก็ได้ทั้งนั้น ถ้าเนื้อหาโดนใจ ชวนติดตาม ก็สามารถสร้างชื่อเสียง และรายได้เข้ามา ทั้งค่าโฆษณาที่แบรนด์สนใจมาซื้อถ้ายอดอ่านในบล็อกมากพอ หรืออาจมีสำนักพิมพ์สนใจตีพิมพ์ ส่วนเนื้อหายอดฮิต หนีไม่พ้น ท่องเที่ยว นิยาย สร้างแรงบันดาลใจในชีวิต
ที่มาภาพ Stocksnap
เพื่อการทำงานอย่างไม่ติดขัด บริการ C internet จาก CAT Telecom ผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ของไทย ให้บริการอินเทอร์เน็ตบ้าน และองค์กรมายาวนาน โดยบริการเน็ตไฟเบอร์ C internet เริ่มต้นที่ 690 บาทสำหรับผู้ใช้ตามบ้าน ได้เน็ตฝั่งดาวน์โหลด 15 Mbps และฝั่งอัพโหลด 1
รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้จาก catinternet.com และ Facebook : C internet หรือ Call Center 1322
Comments
ใครลองแล้วเป็นไงมั่ง
รอเพิ่ม Upload อยู่ เพราะยี่ห้ออื่น Upload เกิน 10 Mbps แล้วครับ
ผมใช้อยู่ปีกว่า เสถียรดีครับ ฝนตกยังเล่นได้อยู่เลย
Free React Native template ครับ
แพงกว่าหลายเจ้า
เมื่อพิจารณาจากราคาแล้ว สงสัยว่าทำไมไม่แข่งขันกับเจ้าอื่น
รอเก็บค่าสัมปทานอย่างเดียวก็อยู่ได้ จะไปแข่งทำไม
สปอนเซอร์รายนี้ลง ad ทีไร กระแสตอบรับดีเสมอมา
ผมก็ไม่รู้ ว่า มัน ดีสู้ เจ้าอื่นได้ไหม แต่ใช้ อยู่ทั้งที่ทำงานและบ้าน
เร็วเป็นปรกติ แต่ เพื่อน ผม แถวอยุธยา บอกติด fibre เหมือนกันแต่
หลุดบ่อย ผมก็งง น่ะ แต่ เค้าก็ยังใช้อยู่ถึงทุกวันนี้
ที่ทำงาน 40 /10 ยังไม่ได้แจ้งเพิ่ม แต่ เวลาโหลด วิ่ง ไป 60 กว่า
ที่บ้าน 20 / 3 ตอนนี้อับให้แล้ว เป็น 40 / 10 เร็วใช้ได้
ใช้ 15/1 อยู่บางทีวัด speed ก็เกินไปเยอะครับ ใช้ดีครับ
ไม่ได้เช็คตลอดแต่เท่าที่จำได้ใช้มา 2 ปี ไม่เคยหลุดขณะใช้งานเลย
อาจจะเป็นเพราะลูกค้าน้อยกว่าเจ้าอื่น และขอใช้งานนานกว่าจะได้ใช้
ภาพประกอบ บล็อกส่วนตัว ไม่เปิดคอมจะทำงานได้หรอครับ
ค่ายนี้ถ้าไม่มีปัญหา ออกนอกinter เร็วเป็นอันดับต้นๆเลยครับ
อยากรู้ว่า ความแตกต่างระหว่าง Home IP Pivate ราคา 690 กับ Home(Plus) IP Pubblic ราคา 890 บาท มันต่างกันอย่างไรครับ ??
น่าจะต่างตรงได้ IP range public (ไม่รู้ว่า fix รึเปล่า) กับ IP range private ที่ผ่าน NAT ครับ
สอบถาม เพิ่มเติมครับ แล้วทั้ง 2 แบบนี้ มีผลถึงความเร็วที่แตกต่างกันไหมครับ ?
ใช้งานทั่วๆ ไปความเร็วมักจะแทบไม่ต่างกันครับ แต่งานบางประเภทก็มีผล
เคยลองตอนที่ CAT ทำ ADSL ช่วงแรก ๆ ปัญหาคือตอน download ความเร็วต่ำมาก ไ่ม่ตรงตามที่โฆษณาโดยเฉพาะ load bit เลยให้ช่าง CAT มาดูโดยเปรียบเทียบกับ TOT ADSL และ download file เดียวกันแต่สลับสายไปมา ผลคือ TOT ได้ความเร็วเต็ม แต่ CAT ต่ำมาก
สรุปช่างเลยทำเรื่องยกเลิกให้และไม่ต้องเสียค่าปรับใดๆ ทั้งสิน จากนั้นมาไม่เคยกลับไปใช้ CAT อีกเลย
ส่วน Fiber ถ้ามาราคานี้ แพงครับ 15mb เค้าไม่ใช้กันแล้วครับ
ใช้ Local ก็ไม่แปลกนี่ ครับ เหมาะสมดีแล้ว
ช่วงอาทิตย์ก่อนเพิ่งโดน Cache Poisoning ไปนี่ครับ ติด Malware กันเป็นแถบๆ ย้ายค่ายหนีกันหลายคนเลย
สำหรับท่านที่งง ดูได้ที่กระทู้นี้ครับ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
ทุกคนสามารถสร้างรายได้ ด้วยธุรกิจออนไลน์ แต่ควรชื่อสัตย์ต่อตนเอง สังคม และประเทศชาติ ย่อส่วนความรู้ต่างๆ ในหน้าเดียว แล้วจะทำให้โลกนี้ อยู่ในมือเรา