Tags:
Node Thumbnail

NetApp บริษัทด้านสตอเรจที่เปิดให้บริการในประเทศไทย ได้เปิดเผยข้อมูลของตลาดสตอเรจในปีที่แล้ว โดยไตรมาสล่าสุด NetApp เองยังคงมีอัตราการเติบโตแบบปีต่อปีถึง 22% ขณะที่รายได้จากผลิตภัณฑ์สตอเรจสูงถึง 65% ถึงแม้จะมีเทคโนโลยีคลาวด์จะเป็นกระแสและเริ่มถูกใช้งานมากขึ้นก็ตาม

alt="unnamed-3"

คุณวีระ อารีรัตนศักดิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท NetApp ประเทศไทยระบุว่าผลิตภัณฑ์ที่มีการเติบโตมากที่สุดของบริษัทในช่วงปีที่ผ่านมา กลายเป็นแฟลชสตอเรจ ที่มียอดขายเติบโตแบบปีต่อปีถึง 160% ทำให้คุณวีระมองว่าเทรนด์ในปีนี้และในอนาคต เทคโนโลยีแฟลขจะเป็นโซลูชันกระแสหลักในตลาดสตอเรจ รวมถึงซอฟต์แวร์ในกลุ่ม Software Defined Storage ที่จะถูกใช้งานมากขึ้นด้วย

ด้วยกระแสของเทคโนโลยีคลาวด์ที่เริ่มเป็นที่พูดถึงและใช้งานในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ทาง NetApp ยังเชื่อว่าองค์กรยังมีความจำเป็นที่จะใช้งานสตอเรจแบบดั้งเดิมอยู่ ขณะเดียวกันก็ใช้เทคโนโลยีคลาวด์ไปด้วย ไม่ว่า private cloud, public cloud จากผู้ให้บริการคลาวด์ในประเทศ และ hyperscale cloud จากรายใหญ่อย่าง AWS, Google Cloud Platform, Microsoft Azure เกิดเป็นการใช้งานในรูปแบบที่ NetApp เรียกว่า Hybrid Cloud

alt="unnamed-2"

ทำให้ปีนี้ NetApp จะผลักดันโซลูชันที่เรียกว่า Data Fabric ซึ่งช่วยในการโอนถ่ายข้อมูลระหว่างศูนย์ข้อมูลต่างๆ ให้ง่ายและราบรื่นมากขึ้น รวมถึงช่วยให้องค์กรสามารถยกเลิกการใช้บริการคลาวด์ แล้วยังคงมีข้อมูลสำรองอยู่ภายในองค์กร โดยไม่ต้องเสียเงินค่านำข้อมูลออกจากคลาวด์ รวมถึงจะยังคงร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ มากขึ้นในการขายบริการ เป็นแพ็คเกจควบคู่ไปกับการขายผลิตภัณฑ์ของ NetApp

และด้วยการที่ธุรกิจของ NetApp ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในภูมิภาค ทำให้บริษัทปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางในการบริหารงานและจัดการธุรกิจ NetApp ในอาเซียนด้วย ยกเว้นแต่เพียงสิงคโปร์ประเทศเดียวเท่านั้น

Get latest news from Blognone