หลายฝ่ายให้ความเห็นตรงกันว่า Long Term Evolution (LTE) จะเป็นเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายยุค ที่ 4 (หรือ 4G) ซึ่งจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของบรรดาผู้ให้บริการโครงข่ายสื่อสารไร้สายไม่เกินปี 2553 หรืออาจ ช้ากว่านั้นเล็กน้อย และจากการศึกษาของบริษัท ABI Research รายงานว่า จำนวนผู้ใช้ LTE จะสูงกว่า 32 ล้านรายในปี 2556
รายงานระบุเพิ่มเติมด้วยว่าส่วนแบ่งตลาด LTE นั้น จำนวนผู้ใช้ประมาณ 37.5% หรือราว 12 ล้านรายอยู่ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในขณะที่ส่วนแบ่งที่เหลือจะแบ่งกันระหว่างภูมิภาคยุโรปตะวันตกกับภูมิภาคอเมริกาเหนือ โดยขณะนี้มีบรรดาบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของโลกหลายรายประกาศชัดเจนแล้วว่าจะใช้ เทคโนโลยี LTE กับมือถือไร้สาย 4G เช่น บริษัท ไชนา โมบายล์, เอ็นทีที โดโคโม, เคดีดีไอ, โวดาโฟน และ เวอไรซัน วายเลส
ที่มา - c114.net
Comments
เมืองไทยคงได้ใช้ในปี 2566
ประเทศไทยคงได้ใช้ชาติหน้าตอนบ่ายๆ
3G นะ ไม่ใช่ 4G :P
บ่น บ้า บอ ไร้สาระสุดๆ ต้องที่ Suntiwong.net เท่านั้น
iauuu.com
ตอนนี้มี 3G ของ บมจ. กสท โทรคมนาคม อยู่แล้ว (CAT CDMA) ส่วนของ บมจ.ทีโอที อาจต้องรอประมาณกลางปีหน้า
สำหรับภาคเอกชน คงยากที่จะลงทุน 3G ในช่วงนี้ (4G คงไม่ต้องคิดไปถึง) เพราะ
ยังไม่มีใบอนุญาตฯ ประเภทสาม
ระบบและโครงข่าย mobile ที่ลงทุนไปทั้งหมดใน 2G นั้นถูกโอนไปเป็นสมบัติของเจ้าของสัมปทาน ภายใต้ B-T-O
สัญญาสัมปทานจะหมดอายุลงอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ยังไม่มีการให้ใบอนุญาตฯใหม่จากหน่วยงานกำกับดูแล
การพัฒนาจาก 2G ไปสู่ 3G ในปัจจุบันของเอกชนด้วยการนำเทคโนโลยี HSPA มาใช้ จึงเป็นเพียงการรักษาฐานลูกค้า
ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ ยังไม่ทราบ และหรือคุ้นเคยกับ features หรือ services ของ 3G
ลำพังกับการเก็บค่าใช้บริการส่วนเพิ่มที่เรียกว่า บริการเสริม (VAS) ยังทำให้ลูกค้าบางรายหงุดหงิดใจ
การลงทุน 3G นั้นต้องลงทุนใหม่ทุกอย่าง ทั้งชุมสาย สถานีฐาน เสา และอื่นๆ
ปัญหาการย้ายฐานลูกค้า การจัดหาเครื่องลูกข่าย และอื่นๆ ล้วนเป็นสารพัดปัญหาที่ต้องขบคิด
ดูรายชื่อบริษัทที่ได้ใบอนุญาตจาก กทช.
Oakyman.com