Jimmy Iovine ผู้บริหาร Apple Music ให้สัมภาษณ์กับ Billboard เปิดเผยว่า Apple Music ตอนนี้มีผู้ใช้บริการแบบเสียเงิน 30 ล้านคนแล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเมื่อเดือนมิถุนายนซึ่งประกาศว่ามี 27 ล้านคน
ตัวเลขนี้ยังห่างจาก Spotify อยู่มาก ซึ่งมีผู้ใช้บริการแบบเสียเงิน 60 ล้านคน ขณะที่ผู้ใช้ทั้งหมดรวมกลุ่มใช้ฟรีติดโฆษณาคือ 140 ล้านคน ส่วน Apple Music ไม่มีโมเดลแบบใช้งานฟรี
Iovine บอกว่าบริการสตรีมมิ่งยังมีอะไรให้ทำได้อีกมากมาย และมันจะไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้แน่
ที่มา: Phone Arena
Comments
ใช้มาตั้งแต่เปิดแรกๆ บนแอนดรอยมันชอบค้างตอนเปลี่ยนเพลงอะ
แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้ Spotify ละ ลื่นกว่าเยอะเลย ^_^
+1 ครับ UI/UX ของ spotify ให้ประสบการณ์ที่ดีกว่ามากๆๆๆ
อัลบัมรูปเล็กๆ ของผมครับ :: www.bank2u.net ::
ผมใช้บน iPhone กลับ ไม่มีปัญหาแฮะ คือ เข้าใจว่า แอพที่มากับตัวเครื่องมันน่าจะดีกว่า
อย่าง Spotify เท่าที่ลอง มันก็มีสะดุด คือ เล่นไปแปปนึง เพลงหยุด แล้วค่อยเล่นต่อก็มี
ตอนนี้ มีทางเดียวถ้าจะย้ายไป Spotify คือ มีเพลงของ RS ด้วยนี่แหละ ซึ่งตอนนี้ คิดว่า เพลงระหว่าง
Apple Music กับ Spotify ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่
เคยเจอแบบ ในที่เดียวกัน สัญญาณมือถือต่ำๆ แอปเปิ้ลมิวสิคโหลดเพลงไม่ขึ้น แต่สปอตติฟายเล่นได้เฉยเลย เพลงใหม่ไม่เคยฟังเหมือนกันด้วยนะไม่น่าจะมี cache ในเครื่อง
เป็นเรื่องของคุณภาพไฟล์รึเปล่าครับ?
คุณภาพไฟล์ผมตั้งออโต้ไว้ทั้งสองแอพครับ Spotify อาจจะฉลาดกว่าในการเลือกความละเอียดให้เหมาะกับเน็ต หรือความละเอียดต่ำสุดของ Spotify อาจจะต่ำกว่า Apple Music ก็เป็นได้ แต่ผมฟังแล้วมันปกติอ่ะ อาจจะฟังไม่ออก
ตอนนี้ใช้ Spotify แต่ส่วนตัวชอบการออกแบบ UI ของ Apple Music มากกว่า
กำลังคิดว่าจะต่อ Spotify ดีไหม 129 บาท ส่วน Apple Music ตอนใช้ iPhone ก็ไม่ได้ชอบอะไร Deezer ยังจะดีกว่า
ตอนนี้ใช้ JOOX ไม่ใช่ว่าดีอะไร แต่หน้ามืดกดไปปีนึงได้แถมอีกสองปีมานี่แหละ
ปกติใช้ Apple Music มาตลอดตอนนี้เปลี่ยนมา Spotify (เพลงฝรั่งครบดี)กับ JOOX (เพลงไทยเยอะ) แทน ทั้งหมดนี้ ฟรี
ใช้ apple music มา 2 ปี ตอนนี้เลิกแล้ว กลับมาซื้อเพลงที่อยากฟังแบบเดิม
เพราะคิดว่าเสียเงินทั้งที มันก็ควรมีอะไรเป็นของเราบ้าง
+1
เลิกแล้วเหมือนกันครับ...เจอประสบการณ์ที่ต่างประเทศ
เปิดเครื่องมา...เพลงหายหมด
คืนนั้นต้องเร่งงานส่งแทบไม่ได้นอน...เพลงที่เปิดฟังทั้งคืนกลายเป็นเพลงที่เราเคยซื้อไว้นานแล้ว
พอกลับมาไทยก็ยกเลิกเลยแล้วซื้อเฉพาะเพลงที่อยากฟัง
ผมใช้อยู่ 2 ปี จ่ายไป 3,120฿ รู้สึกเริ่มไม่คุ้ม เพราะฟังเพลงใหม่จริงๆ น้อยลง แต่จะฟังเพลงเก่าๆ มากกว่า
ถ้ายิ่งใช้ไปเรื่อยๆ พอยกเลิกเพลงที่มีก็หายหมด เลยคิดว่าถ้าเอาเงินส่วนนี้ไปซื้อเป็นเพลงเลยดีกว่า ไม่หายไปไหน
ปล.ส่วนตัวคิดว่า apple music ปีแรก รู้สึกคุ้มมาก เพลงเยอะ อยากฟังอะไรก็เซฟเก็บไว้ฟังได้เพียบ แต่เข้าปีที่ 2 กลับรู้สึกไม่คุ้มซะแล้ว แถมเพลงญี่ปุ่นที่อยากฟังก็ไม่มี มีแต่แบบขายใน iTunes เหมือนผมได้บรรลุแล้ว
ที่เคืองใจที่สุดสำหรับผมตอนใช้ apple music คือเพลงหาย
เช่นเพลงประกอบภาพยนต์ ก่อนหนังเข้าฉายเมืองไทยก็สามารถฟังได้ปกติ
ยังชมและชวนคนอื่นว่ามันดีจ่ายรายเดือนฟังเพลงใหม่ได้เลย
แต่พอหนังเข้าฉายเมืองไทย เพลงที่โหลดไว้หายเฉย...
มีแต่วางขายบน itunes
จะกลับมาฟังใหม่ได้ก็ต้องรอ 2-3 เดือนจนหนังออกจากโรงหรือหมดกระแส
และที่สำคัญ...ต้องเข้าไป add เข้ามาใหม่ (ระบบมองเป็นคนละอัลบัม)
เลยทำให้แนวทาง streaming สำหรับผมมันไม่น่าประทับใจ
ถ้าผมต้องซื้อเพลงที่ฟังคงหมดหลายหมื่น สมัครใช้พวกนี้เลยกลายเป็นคุ้มแบบเห็นๆเลย
ตอนแรกผมมีความคิดจะไปใช้ apple music อยู่ดีๆก็รู้สึกเหมือนคุณเลย สรุปซื้อแต่ที่ชอบเหมือนเดิม
ฮ่า มีคนคิดเหมือนกันเลย แต่ของผมต่างกันนิดหน่อย จะไปๆ กลับๆ ระหว่างเป็นสมัครสมาชิก กับซื้อเพลงมาเก็บไว้
ส่วนมากฟังเพลงเก่าๆ มากกว่า
ถ้าเบื่อๆ ก็จะสมัครสมาชิก Apple music สัก 1 เดือน ให้หายเบื่อ พอหาเพลงใหม่ๆ ที่น่าสนใจได้ก็จะซื้อไว้ พอได้ที่ก็ยกเลิกสมาชิก
กลับมาฟังเพลงที่เก็บไว้เหมือนเดิม
วนลูปอย่างนี้เรื่อยๆ ครับ 55
เดี๋ยวเดือนหน้ากลับไป Spotify ดีกว่า
ผมอยู่กับ joox ครับ ถูกจริตมากกว่า